จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,543
ไฮแรงเกอร์
เป็นสถานะระดับโลกที่คนธรรมดาแทบไม่มีโอกาสเอื้อมถึงไปชั่วชีวิต
บนโลกอินเทอร์เน็ต หลายคนมักเยาะเย้ยไฮแรงเกอร์โดยการนำไปเทียบกับกริด แต่กับโลกความจริงแล้วแตกต่าง มีคนจำนวนไม่น้อยที่เคารพนับถือไฮแรงเกอร์และใช้พวกมันเป็นเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง
หลายคนทำสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้
ส่งผลให้จำนวนของไฮแรงเกอร์ในระยะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในอดีต ตามแต่สื่อท้องถิ่นหรือภูมิภาคจะเรียกขาน แต่ส่วนมากมักเรียกท็อปหนึ่งร้อยว่าไฮแรงเกอร์ และท็อปหนึ่งหมื่นว่าแรงเกอร์ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข้อถกเถียงให้เรียกผู้เล่นท็อปหนึ่งหมื่นว่าไฮแรงเกอร์ และเรียกท็อปหนึ่งแสนว่าแรงเกอร์
พวกมันไม่ได้มีเจตนาที่จะด้อยค่าไฮแรงเกอร์แต่อย่างใด
เมื่อเลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นเพิ่มขึ้น ผู้เล่นระดับท็อปหนึ่งแสนได้แสดงให้เห็นว่า ฝีมือของตนก้าวข้ามนิยามของ ‘แรงเกอร์’ ในอดีตไปแล้ว
ต้องไม่ลืมว่าซาทิสฟายมีผู้เล่นทั่วโลกกว่า 2.2 พันล้านคน
ตัวเลขหนึ่งแสนไม่ได้มากมายอะไรเลย
เป็นกลุ่มสุดยอดหัวกะทิซึ่งมีจำนวนเพียง 0.0045 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด
และบุรุษสองคนที่เป็นหนึ่งในสุดยอดหัวกะทิต่างก็อยู่ที่นี่
ฉึบ!
อริยดาบครอเกลผู้สร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ด้วยดาบเพียงหนึ่งเล่ม
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ลันเทียร์เฟคเกอร์ผู้ใช้เงาเพื่อสร้างกองทัพเงาทุกรูปแบบ
ขณะที่คาซิม แกลนท์ และซัคคิวบัสพาเลอราเฆ่หนีไป ครอเกลกับเฟคเกอร์ช่วยกันรับมือเซพาเดียอย่างดุเดือด
เป้าหมายคือการถ่วงเวลา
จนกว่าเลอราเฆ่จะหนีไปถึงชั้นใต้ดินของปราสาท
ไม่มีใครในพวกมันที่คิดจะโค่นเซพาเดีย
เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด
เซพาเดียเป็นถึงบริวารของบาเอล
ถูกประเมินไว้ว่ามีระดับความแข็งแกร่งเป็นรองเพียงจอมอสูรหลักเดียว
“อ๊บ”
ฟ้าว—!
ลิ้นของเซพาเดียหมุนเป็นเกลียว
มันมองข้ามเฟคเกอร์ที่ซ่อนตัวในเงามือและเล็งโจมตีครอเกลก่อน โดยทุกครั้งลิ้นของเซพาเดียปะทะกับดาบของครอเกล แม้จะถูกฟันจนขาด แต่ลิ้นก็จะยืดยาวกว่าเดิมได้เสมอ
ไม่ว่าจะหั่นไปสักกี่ครั้งก็ไม่เปลี่ยน คล้ายสิ่งนี้ไม่มีจุดสิ้นสุด
นอกจากนั้น ลิ้นของเซพาเดียยังถูกคลุมด้วยเมือกลื่น
กระทั่งอริยดาบก็ยังตัดให้ขาดได้ไม่ง่าย
เว้นเสียแต่จะใช้พลังไฟแผดเผาได้เหมือนกับอสูรเพลิง การต้องเพ่งสมาธิฟันลิ้นเซพาเดียนับว่าสิ้นเปลืองพลังใจอย่างมาก
ฟ้าว—
ลิ้นของเซพาเดียซึ่งไล่ตามครอเกลอย่างไม่ลดละ ในที่สุดก็ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในปราสาท
ลิ้นพุ่งผ่านห้องนอนซึ่งค่อนข้างคับแคบ แผ่ออกไปราวกับใยแมงมุมจนถึงโถงทางเดินด้านนอก คอยกีดขวางความเคลื่อนไหวของศัตรู
“…”
ปาร์ตี้ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกคนดัง ไม่จำเป็นว่าจะต้องล่าบอสสำเร็จเสมอไป
เพราะกุญแจสำคัญคือความสามัคคีและรู้ใจ
อย่างไรก็ตาม ครอเกลกับเฟคเกอร์มิได้สนิทสนมกันขนาดนั้น
ไม่มีใครรู้จักใครในเชิงลึก
สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือความสามารถอันยอดเยี่ยม
หากการต่อสู้นี้ถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผู้บรรยายคงพากันถอนหายใจ
แม้โอกาสชนะจะน้อย แต่ปัญหาคือพวกมันไม่สอดประสานกัน
กล่าวกันว่ากริดคงเอาแต่สบถถ้าได้รับชมการถ่ายทอดนี้
“…!”
ดวงตาเซพาเดียเบิกกว้างขณะเฝ้ามองเป้าหมายอย่างเงียบเชียบ
แน่นอน มันคาดการณ์ไว้ว่าครอเกลจะตอบสนองด้วยการ ‘ฟัน’
และเดาว่าคงเป็นการฟันลิ้นส่วนอื่นซึ่งคอยกีดขวางเส้นทางหลบหนีไปพร้อมกัน
เพราะนี่คือตัวตนระดับอริยดาบที่เซพาเดียได้ยืนคำร่ำลือมานาน
แต่ครอเกลแตกต่าง
มันวิ่งข้ามไปโดยที่ไม่ได้ฟันลิ้น
ดูไม่เหมือนอริยดาบเลยสักนิด คล้ายลิงค่างเสียมากกว่า
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรเย้ยหยัน
เพราะครอเกลสังเกตเห็นว่าภายในลิ้นมีพิษแฝงมาด้วย
‘ไม่สิ เจ้านั่นไม่มีทางรู้ คงเป็นเรื่องของฝีมือมากกว่า’
ครอเกลเลี่ยงการฟันเพราะตระหนักว่าตัวเองไม่ควรสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาลเพียงเพื่อฟันลิ้นที่ซ้อนทับหลายชั้นจนหนา
นับว่าโชคดีทีเดียว
เซพาเดียเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของครอเกลสักพัก เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงในแนวนอน มันยืนยันบางสิ่งได้ทันที
‘เจ้านี่วิ่งเหมือนหนู ทำตัวรอบคอบจนน่าเบื่อ’
รูปแบบการโจมตีชนิดเดียวที่เซพาเดียแสดงให้เห็นตลอดมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรคือ ‘ลิ้น’
การใช้ลิ้นพุ่งไปตามพื้น ผนัง และเพดานวนหลายสิบรอบทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คล้ายใยแมงมุม
หากมองจากอีกมุมจะเห็นเหมือนกับโครงสร้างที่เป็นแนวป้องกันอย่างมีระเบียบ
สามารถตีความได้ว่า เซพาเดียให้น้ำหนักไปที่การป้องกันตัวเองค่อนข้างมาก
แต่ครอเกลมิได้ยินดีกับเรื่องนั้น
มันยังคงหวาดระแวงเซพาเดียและเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีดีแค่ลิ้น
‘ถ้าเป็นมุลเลอร์ เขาคงฟันลิ้นทิ้งในดาบเดียวจนเผลอไปจุดระเบิดเข้า!’
ตามปรกติแล้ว กบจะล่าแมลงวันได้ง่าย
แต่เมื่อการไล่จับครอเกลไม่ใช่เรื่องง่าย ปลายลิ้นของมันก็เริ่มส่ายไปมาราวกับเผยความรำคาญ
เป็นการส่ายที่รุนแรงจนก่อกวนสมดุลของครอเกลซึ่งกำลังวิ่งไปตามแนวลิ้น
ทันใดนั้นเอง เซพาเดียฉกฉวยโอกาสอย่างแม่นยำ
ปึด!
ลิ้นของเซพาเดียพองออก
พื้นที่ว่างภายในห้องถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็วประหนึ่งหวังจะบดขยี้ร่างครอเกลให้แหลก
ต่อมรับรสนับหมื่นเปิดขึ้นพร้อมกันและพ่นควันออกมา
ควันสีน้ำตาลอ่อน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
เป็นสัญญาณของการระเบิดพิษ
บึ้มมมมมมม!!
เป็นการระเบิดที่รุนแรงมาก
รุนแรงจนควรกังวลว่าปราสาทจะพังถล่มหรือไม่
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าปราสาทผลึกไม่มีวันพัง
เป็นหายนะร้ายแรงที่เกิดจากการลงมือเพียงครั้งเดียวของเซพาเดีย
สมแล้วที่เป็นบริวารใกล้ชิดของบาเอล
“จบเสียที อ๊บ”
ไม่ใช่แค่วอลล์เปเปอร์และพรมหลากสีสัน กระทั่งเครื่องนอนและเครื่องเรือนอีกหลายชิ้นก็ถูกทำลาย
เซพาเดียเป็นเพียงคนเดียวที่ยังปลอดภัยภายในห้องนอนสภาพไหม้เกรียม
อริยดาบและลันเทียร์คงถูกทำลายไปพร้อมกับเงามืดเรียบร้อยแล้ว
เซพาเดียที่มิได้คลางแคลงใจเดินไปยังทางเข้าห้องโถง
จุดประสงค์เพื่อไล่ตามเลอราเฆ่ซึ่งหลบหนีไปก่อน แม้อสูรกระจกจะไล่ตามไปแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องทำให้แน่ใจ
แอ็กนัสอยู่ห่างออกไปจากที่นี่ เซพาเดียจึงไม่มีทางเลือกนอกจากลงมือเอง
“…?”
เซพาเดียผงะ
นั่นเพราะขี้เถ้าสีดำที่เคยแต่งแต้มห้องนอน กลายสภาพเป็นเชือกมารัดข้อเท้ามันไว้
เมื่อหันหน้าไปมอง จุดที่เคยอับสายตาได้ฉายเข้ามาในการมองเห็น
ไม่มีร่องรอยการระเบิด
เครื่องนอนและเครื่องเรือนที่น่าจะหายไปแล้วกลับยังคงอยู่
เซพาเดียตระหนักได้เมื่อสาย
เงามืดที่หายไปจากผลของแรงระเบิด
ตัวตนที่แท้จริงของขี้เถ้าและรอยไหม้ซึ่งปกคลุมห้องคือเงาดำ
‘ตัวปัญหาไม่ได้มีแค่เทพโอเวอร์เกียร์สินะ อ๊บ’
เซพาเดียนึกทบทวนวีรกรรมของลันเทียร์ในยุคสมัยปัจจุบัน
อีกฝ่ายคือตัวตนที่คอยไล่ฆ่าแอ็กนัสตั้งแต่มหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรยังไม่เริ่ม
นับตั้งแต่นั้น แอ็กนัสก็เริ่มดำดิ่งในขุมนรก
มนุษย์คนนี้คือตัวปัญญาอย่างไม่ต้องสงสัย
ทักษะการลอบสังหารและวิชาเงาของลันเทียร์นั้นโด่งดังเป็นทุนเดิม
และรุ่นปัจจุบันก็มีฝีมือไม่เลว
แต่ถึงอย่างนั้น ความแข็งแกร่งก็ไม่ได้น่าประทับใจสักเท่าไร
อาจเป็นเพราะเพิ่งสืบทอดชื่อลันเทียร์ได้ไม่นาน การควบคุมเงาจึงไม่ราบรื่นนัก
เป็นได้เพียงมดปลวกเมื่อนำไปเทียบกับเทพโอเวอร์เกียร์
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน
ฝีมือในการควบคุมเงากลับพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
จนถึงระดับที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์
และบางทีอาจก้าวข้ามลันเทียร์ในอดีตไปแล้ว
ข้อสงสัยของเซพาเดียมิได้เลื่อนลอย
ในจังหวะเมื่อครู่ เฟคเกอร์ทำการดูดกลืนระเบิดโดยใช้ทักษะ ‘ละโมบ’ ที่เรียนรู้จากคาซิมพร้อมกับกางม่านเงาในเวลาเดียวกัน อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีอดีตลันเทียร์คนใดทำได้
แต่แน่นอน เฟคเกอร์ทำสำเร็จได้เพราะมีความช่วยเหลือจากครอเกล
ผลลัพธ์เกิดจากการร่วมมือกันในจังหวะที่สมบูรณ์แบบ เป็นการอาศัยช่องว่างขณะครอเกลช่วยฟันระเบิดออกไปบางส่วน
ครอเกลและเฟคเกอร์เชื่อใจซึ่งกันและกัน เป็นความไว้ใจที่เกิดจากความเคารพนับถือ มิใช่มิตรภาพ
ไม่มีใครตั้งคำถามถึงทางเลือกและการตัดสินใจของอีกฝ่าย
พวกมันเพียงไว้ใจกันโดยไม่คลางแคลง และคอยสนับสนุนเท่าที่ตัวเองจะทำได้
และนั่นค่อยๆ ก่อตัวเป็นความเข้าใจ
“กว่าจะเสร็จ”
กึก
ครอเกลพึมพำขณะเดินออกจากเงา
เซพาเดียที่กำลังเอียงคอฉงนเพราะคำพูดอีกฝ่าย สีหน้าพลันแข็งทื่อ
นั่นเพราะมันสังเกตเห็นว่าดาบโปร่งใสของครอเกลที่เคยส่งเสียงดังเอะอะตลอดการต่อสู้ ปัจจุบันสงบลงอย่างน่าประหลาด
เซพาเดียสัมผัสถึงลางร้าย
“ช่วงเวลาปรับความเข้าใจจบลงเสียที”
ครอเกลไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับไอเท็มเกรดมิธมาก่อน
เป็นเหตุให้มันตื่นตระหนกกับการต่อต้านของดาบเสือขาวที่พัฒนากลายเป็นเกรดมิธ
นับตั้งแต่อดีตกาล อริยดาบคือตัวตนที่สามารถรับมือกับดาบได้ทุกประเภท แต่ดาบเสือขาวกลับหยิ่งผยองเหมือนกับคนที่สร้างมันขึ้นมา และปฏิเสธการสัมผัสทุกชนิดจากครอเกล
ถือเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงไม่น้อย
ครอเกลเสียใจมาก แต่ไม่ใช่ในมุมมองของอริยดาบ หากแต่เป็นมุมของคนที่ชุบเลี้ยงดาบเสือขาวให้เติบโต
กริดสร้างมันขึ้นมาพร้อมกับศักยภาพที่จะกลายเป็นเกรดมิธ และเมื่อครอเกลชุบเลี้ยงจนกลายเป็นเทวตำนาน ดาบเสือขาวกลับถูกจำแนกให้เป็นเทวภัณฑ์ของเทพโอเวอร์เกียร์
ทั้งที่เจ้าของดาบคือครอเกลมาโดยตลอด
ไม่คิดว่ามันจะต่อต้านเรา…
แต่ตอนนี้หมดห่วง ปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
“มาเริ่มของจริงกันดีกว่า”
ฉึบ!
ครอเกลฟันลิ้นที่พุ่งเข้ามาหาหัวใจทิ้งโดยปราศจากความลังเล
คราวนี้ไม่หลบหรือกระโดดข้าม
ไม่จำเป็นอีกต่อไป
ปัจจุบัน ต่อให้ไม่ต้องใช้ทักษะใด ครอเกลก็สามารถตัดผ่านลิ้นหนาๆ ที่มีเมือกคลุมได้เหมือนกับหัวไชเท้า
ฟุ่บ!
ครอเกลปรี่เข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยระยะทางสั้นที่สุด
พุ่งตัวเป็นเส้นตรงโดยไม่มีการบ่ายเบี่ยง
นี่คือคุณลักษณะดั้งเดิมของอริยดาบ
ต้องตัดผ่าทุกสิ่งที่ขวางทางและทะลุทะลวงเข้าไป
ลิ้นหนาๆ ของเซพาเดียที่ปกคลุมไปด้วยเมือกเลื่อน ซึ่งตามปรกติแล้วจะต้องละลายด้วยเวทไฟของอสูรเพลิงเท่านั้น ถูกอริยดาบกรีดทิ้งอย่างง่ายดายด้วยดาบเพียงหนึ่งเล่ม
ทุกครั้งที่ลิ้นโดนฟันจะเกิดระเบิดพิษกระจัดกระจาย
แต่ดาบเสือขาวในมืออริยดาบก็สำแดงอิทธิฤทธิ์ของมันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เซพาเดียเริ่มสังเกตเห็น
“เทพโอเวอร์เกียร์…!”
ชายผู้มาก่อนกาล
กริดเร่งพัฒนาการของมวลมนุษย์ซึ่งตามปรกติมักจะเชื่องช้า ให้เร็วพอที่จะเป็นภัยคุกคามของนรก
หลังจากอ่านสายตาที่เปี่ยมด้วยความเคียดแค้นของเซพาเดีย ครอเกลตอบกลับเสียงแผ่ว
“กริดไม่เคยมองพวกแกอยู่ในสายตา”
เซพาเดียอยากโต้แย้ง แต่ก็ทำไม่ได้
นั่นเพราะศีรษะของมันถูกฟันหลุดจากบ่าและตกลงไปบนพื้นเรียบร้อยแล้ว
เงาดำกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามารับจับศีรษะกลมโตของอีกฝ่ายโยนออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรวดเร็ว
ผัวะ!
เมื่อหัวหาย ลำตัวก็เริ่มโงนเงนทันที และเป็นครอเกลที่เดินเข้าไปถีบ
นี่คือหนึ่งในกิมมิคที่มักถูกใช้จัดการกับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก
นั่นคือการบุกเข้าไปตรงๆ และจัดการกับ ‘ศูนย์ถ่วง’ ในพริบตา
“พวกเจ้า…! ไอ้พวกขี้ขลาด!! อ๊บบบบบ!”
เสียงแหกปากของเซพาเดียที่กำลังร่วงหล่นอยู่นอกปราสาทค่อยๆ เบาลง
หลังจากถูกขับไล่ออกจากปราสาท ตอนนี้มันทำได้เพียงอย่างเดียว
นั่นคือการรอคอยความช่วยเหลือจากอสูรกระจกที่ยังหลงเหลืออยู่ในภายในปราสาท
***
หากจะพูดให้เห็นภาพ นักสู้นั้นไม่ต่างจากอันธพาลมากนัก
เป็นพวกที่ใช้ทุกสิ่งในมือให้เป็นอาวุธ
หมายความว่าต้องมี ‘ความชำนาญอาวุธทุกชนิด’ ติดตัว และมีโอกาสมากที่จะใช้ทักษะได้โดยไม่ถูกจำกัดประเภทของอาวุธ
แต่ถึงอย่างนั้น กริดยังคงไม่เปลี่ยนใจ
มันคิดจะยกหนังสือเปลี่ยนคลาสของซีดานให้คริสตามความตั้งใจเดิม
‘เพราะอาวุธหลักของซีดานคือดาบใหญ่’
ทักษะที่ถูกปลดล็อกหลังจากเลเวลถึงกำหนด หรือทักษะที่ได้จากภารกิจประจำคลาส จะต้องทรงพลังอย่างมากเมื่อถูกใช้โดยดาบใหญ่
สำหรับตอนนี้ กริดไม่อยากนึกเสียใจภายหลังที่เลือกคนอื่นแทนคริส
และแน่นอน ตัวเลือกที่กริดจะเรียนเองไม่มีอยู่ในหัว
เพราะเหตุใด?
เพราะกริดเรียนไม่ได้
หากเรียนได้ กริดคงเรียนทันทีเหมือนที่ทำกับหนังสือทักษะของราชาขุนเขา
‘คริสมีคุณสมบัติครบถ้วน ครบจนล้น’
สำหรับกริด คำถามในตอนนี้คือ จะขายเท่าไร?
กริดมิได้ปรารถนาที่จะมีทรัพย์สินหลัก ‘ร้อยล้านล้านวอน’ เหมือนกับพวกกลุ่มทุนแชโบล แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากขายในราคาที่เหมาะสม
มันยังอยากเป็นเพื่อนกับคริสไปจนวันแก่เฒ่า
มันกลัวว่าคริสจะรู้สึกห่างเหินเมื่อต้องติดหนี้ก้อนโตจากการรับสิ่งนี้ไปโดยไม่คิดค่าตอบแทน
‘หืม… สักหมื่นล้านวอน? ถูกไปไหม’
มูลค่าของหนังสือเปลี่ยนคลาสเกรดเลเจนดารีเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก
เนื่องจากผู้เล่นได้รับการยืนยันแล้วว่า จำนวนคลาสเกรดเลเจนดารีมีจำกัด และขั้นตอนการได้มาก็ยากเย็นจนเหนือจินตนาการ
การที่หนังสือเปลี่ยนคลาสเลเจนดารีมีราคาสูงขึ้นมาก เพราะมหาเศรษฐีในตะวันออกกลางซึ่งมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่าสองพันล้านล้านวอน ต่างเสนอซื้อในราคาที่สูงถึงหลักแสนล้านวอน
คนธรรมดาอาจคาดไม่ถึง แต่โลกนี้เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีซึ่งอยากเป็นกริดคนที่สองโดยการทุ่มเงินจำนวนมหาศาล
‘…อย่างน้อยก็คงต้องแสนล้านวอนสินะ’
คริสดำรงตำแหน่งท็อปแรงเกอร์มาเป็นเวลานาน แถมยังปกครองเมืองใหญ่
นอกจากนั้นยังเป็นกัปตันทีมชาติอเมริกา เคยแสดงโฆษณาและถ่ายรายการมากมาย
และยังเข้าร่วมกิจกรรมหรือการแข่งชิงเงินรางวัลต่างๆ เพื่อกวาดรางวัลอย่างต่อเนื่อง
กริดมั่นใจว่าคริสมีเงินไม่ต่ำกว่าแสนล้านวอน
ความรู้เชิงเศรษฐศาสตร์ของกริดจัดว่าอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา
รอบตัวชายหนุ่มเต็มไปด้วยคนรวย และพร้อมที่จะเป็นแชโบลได้ตลอดเวลาหากต้องการ
‘รีบให้เขาเปลี่ยนคลาสดีกว่า’
มีโอกาสสูงที่เลเวลจะถูกรีเซตเหลือหนึ่ง
เวลาทุกนาทีเป็นเงินเป็นทอง
เพื่อที่กริดจะได้มีลูกหนี้คนที่สอง
ไม่สิ เพื่อให้มีพวกพ้องแสนมีค่าเพิ่มอีกหนึ่งคน
เป้าหมายการเดินทางคือห้วงนรก
เป็นสมรภูมิที่วิกฤติใหม่เพิ่งถือกำเนิด
Comments
Post a Comment