จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,542



ตลอดหนึ่งพันปีที่ผ่านมา


มีตำนานและเทวตำนานมากมายถูกฝังไว้ในมหาขุนเขา เกรเนียร์


ร่องรอยของเหตุการณ์เหล่านั้นหาพบได้ง่ายจนน่าประหลาดใจ เช่นรอยดาบหลายแสนเส้นที่สลักไว้บนกำแพงหิน


ราชาขุนเขาแห่งเกรเนียร์จะศึกษาร่องรอยของผู้บุกรุกเสมอ


ทุกวันจะคอยทำความเข้าใจร่องรอยบนก้อนหิน เลียนแบบขึ้นมาใหม่และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น


ทิวทัศน์ขุนเขาและลำธาร


ทักษะเกรดมิธที่กริดได้รับ


อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปี เจตจำนงของราชาขุนเขาที่พยายามปกป้องเกรเนียร์ และตำนานกับเทวตำนานอีกมากที่ถูกกลืนหายไปตามเจตจำนงของราชาขุนเขา


อาจเรียกได้ว่าเป็นบันทึกการต่อสู้ดิ้นรนของสิ่งมีชีวิต หรือบางทีควรเรียกว่าเป็นการนำหลักการของทุกทักษะบนโลกมาผสานเข้าด้วยกัน


<ทิวทัศน์ขุนเขาและลำธาร>

ทักษะติดตัว

วิชาดาบที่สะท้อนตัวตนของสายธารบนขุนเขาแห่งหนึ่ง

ไล่จากยอดเขาสูงตระหง่านไปจนถึงหน้าผาสูงชัน ลำธารที่ไหลไปตามแนวสันเขา รวมถึงโขดหินที่ผุดกร่อนจากน้ำตกและต้นสนที่ปักหลักอย่างมั่นคงตามลำพัง

ใครบางคนได้ใช้ดาบวาดทิวทัศน์ที่ตนปกป้องมาตลอดชีวิต

★ เมื่อสวมใส่อาวุธประเภทดาบ ค่าพลังจิตเพิ่มขึ้นสองเท่า

★ คุณสมบัติเพิ่มเติมจะถูกเสริมเข้ามาตามประเภทของวิชาดาบ

★ ขจัดผลข้างเคียงจากการสวมใส่อาวุธคู่

★ เมื่อใช้อาวุธคู่ ท่านสามารถใช้วิชาดาบสองชนิดพร้อมกันได้ แต่ระยะหน่วงจะเพิ่มขึ้นจากปรกติเล็กน้อย

★ ทำการเพิ่มประสิทธิภาพทักษะติดตัวในกรณีที่วิชาดาบไม่พร้อมใช้งาน, คุณสมบัติเพิ่มเติมจะถูกเสริมเข้ามาตามประเภทของวิชาดาบหรือประเภทการโจมตีธรรมดา โดยคุณสมบัตินี้จะแสดงผลต่อเมื่อสวมใส่อาวุธประเภทดาบเท่านั้น


ทักษะติดตัว


เงื่อนไขคือการสวมใส่อาวุธประเภทดาบ หรือไม่ก็ใช้ทักษะที่เกี่ยวกับวิชาดาบ


สำหรับกริด มันคือทักษะที่ได้ใช้ประโยชน์แทบจะตลอดเวลา


แถมประสิทธิภาพยังน่าทึ่ง


‘ประการแรก ทักษะที่คำนวณประสิทธิภาพจากค่าพลังจิต จำพวกเขตแดนพายุเพลิงเทพ จะถูกยกระดับอย่างมาก’


กึก


กริดเปิดใช้งานเขตแดนพายุเพลิงเทพเพื่อทดสอบพลางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เป็นเพียงการเคลื่อนไหวแผ่วเบา แต่สามารถปลดปล่อยคลื่นดาบที่ดูคล้ายลำแสงให้พุ่งไปข้างหน้า


มันคือ ‘สังหาร’


ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!


“…!”


ดวงตากริดพลันเบิกกว้าง


เนื่องจากคลื่นกระแทกที่แผ่พุ่ง กลายเป็นสามระลอกแทนที่จะเป็นหนึ่ง


นี่คือน้ำตกที่กัดเซาะหินจนผุกร่อน?


คุณสมบัติที่ถูกเสริมเข้ามาขณะโจมตีด้วยท่า ‘แทง’ คือการโจมตีหลายครั้ง


‘บ้าไปแล้ว’


กริดที่เย็นสันหลังวาบทำการอัญเชิญโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์


มันจำเป็นต้องทดสอบอย่างละเอียด


แน่นอนว่ากริดไม่ได้อยากทำ


ต่อให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ใครจะอยากฟันสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเอง?


น่าเสียดาย นั่นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้


เพราะไม่มีหุ่นฝึกตัวไหนที่สามารถทนความเสียหายจากการโจมตีของกริดได้เลย ถ้าทำแบบนั้นแรบบิตคงได้คลั่งอีกแน่


ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถใช้หัตถ์เทวะที่ ‘ไม่ได้รับความเสียหาย’ เป็นเครื่องมือทดสอบความแรง


ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!!


การแทงดาบเพียงครั้งเดียวสร้างแรงปะทะใส่ร่างโครงกระดูกหนึ่งถึงสามครั้ง


สมมติให้ความเสียหายของ ‘สังหาร’ คือหนึ่งร้อยหน่วย ไม่ใช่ว่าทั้งสามการโจมตีจะเป็นหนึ่งร้อยหน่วยทั้งหมด ความเสียหายครั้งที่สองและสามจะถูกลดทอนลง 50% และ 80% ตามลำดับ


แต่ต้องไม่ลืมว่า นี่คือทักษะติดตัวที่แสดงผลตลอดเวลา ไม่ใช่ทักษะกดใช้งาน


อย่างน้อยก็สร้างความเสียหายได้แรงขึ้น 10% แน่นอนแล้ว


แถมยังแสดงผลออกมาในรูปแบบการโจมตีหลาย ‘ฮิต’


การโจมตีหลายฮิตจะมีประโยชน์มากในการ ‘ผลาญ’ ทักษะป้องกันตัวของศัตรู ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เผชิญ แต่โดยส่วนมากแล้วการโจมตีแบบหลายฮิตจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าการเพิ่มความรุนแรงเข้าไปตรงๆ


‘นั่นคือเหตุผลที่เราไม่พึงพอใจในเคล็ดวิชาลับของเซราทุล’


อันที่จริง ทักษะอาวุธคู่ของเซราทุลก็ไม่เลวนัก


ต่อหน้าเวนิช กริดอาจเย้ยหยันว่าเป็นของปลอม แต่ภายในใจนึกชื่นชมว่าสมแล้วที่เป็นเทพสงคราม


พลังโจมตีและความเร็วโจมตีจะเพิ่มขึ้นอย่างมากขณะสวมใส่อาวุธคู่ หากวัดเฉพาะในแง่พลังทำลายเพียงอย่างเดียว ทักษะอาวุธคู่ของเซราทุลจะเหนือกว่าทิวทัศน์ขุนเขาและสายธาร


เป็นทักษะเกรดมิธอย่างไม่ต้องสงสัย


ด้วยความสัตย์จริง กริดหวาดหวั่นในตัวเซราทุลที่สามารถเขียนหนังสือทักษะระดับนี้ได้ภายในไม่กี่วัน


หากวันใดเซราทุลคิดจะผลิตคัมภีร์เคล็ดวิชาลับเป็นจำนวนมาก กริดเกิดคำถามว่าตนจะเอาชนะกองทัพเทวทูตที่ถูกยกระดับได้จริงหรือ


แต่อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุด ชายหนุ่มเลือกทักษะจากราชาขุนเขา


ไม่ใช่ด้วยเหตุผลด้านความรู้สึกส่วนตัว แต่เป็นเพราะข้อบกพร่องของทักษะเซราทุล


ประการแรก มันยากที่จะใช้งานได้ต่อเนื่อง


ระหว่างที่มีพลังโจมตีและความเร็วเพิ่มขึ้นขณะใช้อาวุธคู่ ร่างกายอาจได้รับอาการผิดปรกติ


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดอาการผิดปรกติทางกายภาพจำพวกกระดูกร้าว ในกรณีที่ร้ายแรงอาจถือดาบต่อไปไม่ไหวแม้แต่ข้างเดียว ลืมเรื่องการถืออาวุธคู่ไปได้เลย


ทักษะดังกล่าวสะท้อนนิสัยของเซราทุลได้เป็นอย่างดี


ดูได้จากสภาพร่างกายของสาวกเทพสงคราม เซราทุลมักไม่ใส่ใจสุขภาพคนที่เรียนวิชาสักเท่าไร


ไม่สนว่าเหล่าสาวกจะได้รับผลข้างเคียงอย่างไร แต่หน้าที่ของพวกมันคือการพิสูจน์ให้เห็นว่าวิชาต่อสู้ของเซราทุลยอดเยี่ยมที่สุดในโลก แม้ต้องแลกมาด้วยความตายก็ตาม


‘และข้อเสียไม่ได้มีแค่นั้น’


เฉกเช่นทักษะประเภทความชำนาญชนิดอื่น ทิวทัศน์ขุนเขาและสายธารสามารถใช้งานร่วมกับวิชาดาบกริดได้ ในขณะที่เคล็ดวิชาลับของเซราทุลนั้นไม่


จริงอยู่ที่เคล็ดวิชาลับอาวุธคู่ของเซราทุลจะยังคงแสดงประสิทธิภาพได้ยอดเยี่ยมที่สุดต่อให้ทักษะติดตัวของวิชาดาบกริดไม่แสดงผล แต่จากมุมมองของชายหนุ่ม สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี


นั่นเพราะถ้าคุณสมบัติจากทักษะติดตัวของท่ารำดาบหายไปทุกครั้งที่ถืออาวุธคู่ การฝืนใช้อาวุธคู่ก็คงไม่มีความหมาย


‘ถ้าเป็นคนทั่วไปคงยอมรับผลเสียนี้ได้’


อาจเรียกได้ว่าเคล็ดวิชาลับอาวุธคู่ของเซราทุลทรงพลังที่สุดในบรรดาทักษะประเภทความชำนาญทั้งหมด


คนทั่วไปคงไม่เสียใจที่ต้องละทิ้งทักษะความชำนาญเดิมของตน


แต่กับกริดแล้วไม่ใช่


การต้องสูญเสียคุณสมบัติของทักษะติดตัวท่ารำดาบไป สำหรับกริดแล้วเป็นความเสียหายใหญ่หลวง


อธิบายมาถึงจุดนี้ อาจฟังดูเหมือนกับว่า ‘ทิวทัศน์ขุนเขาและสายธาร’ จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเคล็ดวิชาของเซราทุล แต่นั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป


ค่าพลังจิตเพิ่มขึ้น ได้รับคุณสมบัติพิเศษขณะใช้ทักษะที่แตกต่างกัน สามารถใช้งานทักษะสองชนิดได้พร้อมกัน และคุณสมบัติที่จะช่วยยกระดับทักษะติดตัวในยามที่ทักษะอยู่ในระยะหน่วง


ทิวทัศน์ขุนเขาและสายธารมีสิ่งที่เคล็ดวิชาลับของเซราทุลไม่มี


เรียกได้ว่าเป็นทักษะสำหรับ ‘ยกระดับ’ ทักษะความชำนาญเดิมที่มีอยู่


‘ถึงตรงนี้ เรามั่นใจแล้ว’


ราชาขุนเขามองเห็นจุดอ่อนของเรา…


และเลือกมอบทักษะที่ช่วยปกปิดข้อบกพร่อง


ไม่ใช่เรื่องยากที่ราชาขุนเขาจะมองเห็นจุดอ่อนกริด โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าอีกฝ่ายเคยช่วงชิงเทวตำนานและตำนานมาแล้วมากมาย ระดับค่าวิสัยทัศน์ย่อมต้องไม่ธรรมดา


‘เหนือสิ่งอื่นใด เราเข้าไปในถิ่นของราชาขุนเขา’


ระดับความแข็งแกร่งคงทัดเทียมกับมังกรระดับสูงที่ต่อสู้ในถิ่นของตัวเอง


ลอเอลอาจไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ยิ่งคิดกริดก็ยิ่งมั่นใจ


กริดประเมินพลัง ‘ลดความเสียหายที่ได้รับ’ ของราชาขุนเขาไว้สูงมาก


แตกต่างจาก ‘การป้องกันสัมบูรณ์’ ของมังกรที่จะสร้างความเสียหายได้ตามปรกติเมื่อถูกทะลวงผ่าน แนวคิดในการลดความเสียหายของราชาขุนเขานั้นเป็นทักษะติดตัวประเภทที่ไม่ถูกทะลุทะลวง


‘…ไม่สิ ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเขาแข็งแกร่งเท่ามังกรระดับสูง’


แน่ใจแล้วหรือว่าจะสร้างความเสียหายได้ในปริมาณมากหากทะลวงผ่าน ‘การป้องกันสัมบูรณ์’ ของมังกรสำเร็จ?


ไม่มีทาง


กริดเคยเผชิญหน้ามังกรมารและมังกรจอมเขมือบมาก่อนก็จริง


แต่การคาดเดาพลังต่อสู้ของมังกรจอมเขมือบนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ตระเวนเที่ยวเล่น และในทางกลับกัน มังกรมารที่กริดได้เผชิญก็เก่งกาจราวกับอยู่คนละมิติ แถมกริดยังมีค่าวิสัยทัศน์ค่อนข้างต่ำ


ลำพังค่าสถานะพื้นฐานก็มากพอจะทำให้ตกตะลึงและสลักลงในความทรงจำ และกริดก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสทักษะหรือคุณสมบัติพิเศษของมัน


เหนือสิ่งอื่นใด เลเวลของกริดยังต่ำมากในตอนนั้น


‘การขาดข้อมูลทำให้เราเกิดความสับสน’


กริดที่เคยต่อสู้กับมังกรมารเป็นคนละคนกับกริดในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง


ไม่เกินจริงไปนักหากจะบอกว่า กริดในสมัยนั้นเปรียบดังทารกแรกเกิดที่พยายามสู้กับมังกรมาร


หากได้เผชิญหน้ากับมังกรมารอีกครั้งตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะรู้สึกแตกต่างออกไป


‘กล่าวกันว่า พวกมังกรชราแข็งแกร่งเทียบเท่าเทพสงคราม’


แน่นอนว่าเทพสงครามในที่นี้คือเซราทุล ไม่ใช่ซือโหยว


ถ้าอย่างนั้น พูดได้เต็มปากหรือไม่ว่าเกรเนียร์แข็งแกร่งทัดเทียมเซราทุล?


‘บอกยากเหมือนกัน เซราทุลที่เราเห็นเป็นเพียงร่างเสด็จเยือนโลกกึ่งกลาง’


สภาพแวดล้อมพันธนาการพลังของมันไว้หลายส่วน


เฉกเช่นที่จอมอสูรอ่อนแอลงบนโลกกึ่งกลาง เทวทูตและเทพต่างก็อ่อนแอลงบนโลกกึ่งกลางเช่นกัน และนั่นทำให้กริดยากที่จะกะเกณฑ์พลังที่แท้จริงขณะอีกฝ่ายต่อสู้ในถิ่นของตัวเอง


แม้แต่ราชาขุนเขาเอง หากกริดเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายในสถานที่อื่นนอกจากเกรเนียร์ ก็คงยากที่จะประเมินความแข็งแกร่งที่แท้จริง


‘มีแต่ต้องลิ้มรสด้วยตัวเองเท่านั้น’


เมื่อถึงเวลานั้น ทางเลือกเดียวคือการข่มใจไม่ให้ท้อแท้หรือหดหู่


“…มาเริ่มกันใหม่”


แกร่ก แกร่ก! แกร่ก แกร่กแกร่ก!


ราวกับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หลงลืมวิธีพูดไปหนึ่งวัน


แม้พวกมันจะพูดภาษามนุษย์ได้คล่องแคล่วแล้ว แต่ตอนนี้กลับทำเพียงกระแทกกราม นั่นก็เพื่อกลั้นมิให้เสียงความเจ็บปวดเล็ดลอดออกมา


ต้องขอบคุณการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพวกมัน กริดจึงมีโอกาสได้ทดสอบคุณสมบัติทั้งหมดของทิวทัศน์ขุนเขาและสายธารอย่างละเอียด


เฉกเช่นทักษะเกรดเลเจนดารีอีกสามชนิด


<สงบก่อนมรสุม>

เมื่อเปิดใช้งานจะได้รับคุณสมบัติลดความเสียหาย 50%

เข้าสู่สถานะ ‘ห้ามเคลื่อนไหว’ เป็นเวลา 3 ถึง 10 วินาที, สะสม ‘โทสะ’ 10 หน่วยในทุกวินาที

ศัตรูทั้งหมดภายในรัศมี 5 เมตรจะเคลื่อนไหวได้ช้าลงเมื่อระดับ ‘โทสะ’ สูงกว่า 20 หน่วย

ยิ่งระดับโทสะสูงขึ้น ขอบเขตการแสดงผลจะกว้างขึ้นและอิทธิพลจะยิ่งรุนแรง และเมื่อทำการยกเลิกทักษะ ‘ความเสียหายทั้งหมดที่ถูกลดทอน’ จะสะท้อนกลับไปหาทุกเป้าหมายในขอบเขตของทักษะ นอกจากนั้นยังมีโอกาสสร้างอาการผิดปรกติ ‘สตัน’ อีก 2 วินาที

โอกาสในการ ‘สตัน’ แปรผันตามค่า ‘โทสะ’ หาก ‘โทสะ’ ถูกสะสมถึง 100 หน่วย ทุกเป้าหมายก็จะได้รับอาการ ‘สตัน’ , มองข้ามค่าต้านทานอาการ ‘สตัน’ ของเป้าหมายโดยสมบูรณ์

ระยะหน่วง: 30 นาที

มานา: 25,300


ชนิดแรก ทักษะเขตแดนแบบใหม่


แม้ว่าข้อจำกัดจะสูงและมีเงื่อนไขการใช้งานยุ่งยาก แต่ก็เหมาะแก่การพลิกสถานการณ์ในคราวเดียว


เป็นทักษะที่ช่วยให้ฝ่ายถูกกระทำกลายเป็นฝ่ายกระทำ ขึ้นอยู่กับฝีมือในการคำนวณ


แต่มันมาพร้อมผลข้างเสียร้ายแรงหนึ่งเรื่อง:


“พวกเจ้าคู่ควรกับโทสะของข้าแน่หรือ”


นี่คือคำพูดที่ต้องประกาศออกไปก่อนจะใช้งานทักษะ


“จงสำนึก”


นี่คือคำพูดขณะโทสะถูก ‘ชาร์จ’


“จงร่ำไห้”


ยังไม่หมด


“จงสิ้นหวัง”


ตรงข้ามกับความตั้งใจ ปากของกริดขยับไปเอง


เป็นการบีบบังคับโดยระบบ


ดูเหมือนจะมีเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ ‘สยบ’ ศัตรูด้วยความโกรธ


‘พวกเนตรมารเคยขึ้นมาปีนเกรเนียร์ด้วยรึไงกัน…’


กริดอดไม่ได้ที่จะสงสัยต้นกำเนิดของทักษะ


ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย จากนั้นก็รวบรวมสติกลับมา


สืบเนื่องจากเผ่าเนตรมารมีบทบาทสำคัญในสมรภูมิห้วงนรก อคติของผู้คนที่มีต่อ ‘ความเบียว’ จึงเริ่มลดลง


‘…ไม่ได้ช่วยให้สบายใจขึ้นเลยสักนิด’


ช่างเถอะ ยังเหลืออีกสองทักษะ


<ดาบแห่งความมืด>

เมื่อเปิดใช้งานทักษะ การโจมตีแต่ละครั้งมีโอกาส 30% ที่จะสร้างการโจมตีเพิ่มเติมซึ่งรุนแรงเป็น 60% ของพลังโจมตีเวทมนตร์

การโจมตีเพิ่มเติมจะพุ่งขึ้นจากใต้เท้าเป้าหมายและไม่สามารถป้องกันได้ด้วยพลังทางกายภาพ

ระยะหน่วง: ไม่มี

มานาเมื่อเปิดใช้งาน: 10,000

มานาเพื่อคงสภาพ: 500 ต่อวินาที

*ใช้มานาเพิ่มเติม 2,500 หน่วยทุกครั้งที่ทักษะแสดงผล


เป็นทักษะที่สามารถป้องกันได้ด้วยการหลบหลีกหรือใช้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับมานาเท่านั้น


โอกาสแสดงผลไม่อาจสูง อยู่ที่ 30% เท่านั้น แต่ถ้าคำนึงถึงความเร็วในการโจมตีของกริด มันก็ถือว่าใช้ได้


ในตอนที่กริดใช้ ‘ร่ายรำ’ กับโครงกระดูกหนึ่ง มีใบมีดสีดำพุ่งขึ้นจากใต้เท้ามากกว่าสิบเล่ม


‘อัตราการสิ้นเปลืองมานาโหดร้ายมาก’


แต่ไหนแต่ไร กริดมักเพลิดเพลินไปกับคุณสมบัติของแหวนแห่งความไร้เหตุผลและไอเท็มชิ้นอื่น


ทุกทักษะจะใช้มานาต่ำกว่าที่ระบุไว้เกินครึ่งเสมอ


แต่ถึงอย่างนั้น มานากริดก็ถูกสูบในพริบตา


นั่นเป็นผลมาจากการมีความเร็วโจมตีสูงเกินไป


แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยม


ไม่ว่าใครก็ย่อมต้องอยากได้พลังทำลายเพิ่มเติมอยู่แล้ว


แถมยังเท่


เมื่อมีใบมีดสีดำมากกว่าสิบเล่มโผล่ขึ้นจากพื้นพร้อมกัน จะเกิดเป็นภาพลวงตาคล้ายกับตำแหน่งดังกล่าวถูกความมืดกลืนกิน


‘ก็ไม่เลว…’


ปัญหาอยู่ที่ทักษะสุดท้าย


<ราชาแห่งขุนเขา>

ทักษะติดตัว

เมื่อพลังชีวิตของท่านลดต่ำกว่า 30% ท่านจะได้รับการคุ้มครองจากราชาขุนเขา

ความเร็วทุกชนิดเพิ่มขึ้นอย่างมากและสถานะร่างกายเปลี่ยนเป็นของเหลว, สามารถทะลวงผ่านสสารได้

ทุกครั้งที่เป้าหมายถูกทะลวงผ่าน เป้าหมายดังกล่าวจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นสองเท่า สะสมได้สูงสุด 20 ครั้ง แต่ความเสียหายจากทักษะจะไม่สูงไปกว่า 4 เท่า

★ อัตราการหลบหลีกเพิ่มขึ้น 51% ขณะอยู่ในสถานะราชาแห่งขุนเขา

* ทักษะจะยังคงอยู่จนกว่าพลังชีวิตจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 30%, สูงสุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

ระยะหน่วง: 1 ชั่วโมง 5 นาที

มานา: ไม่มี


การซ้อนทับของบัฟไม่ใช่ปัญหาสำหรับกริดที่มีชุนโป


ทันทีที่กำหนดเป้าหมายและใช้ชุนโป นั่นจะเท่ากับการสะสมบัฟ 1 ครั้ง


กริดเชื่อว่าทักษะนี้จะใช้ร่วมกับ ‘ร่างเทพสายฟ้า’ ได้ดี


แต่ปัญหาคือการรักษาระดับพลังชีวิตให้ต่ำกว่า 30%


หากกริดโจมตีเป้าหมายขณะสวมใส่ไอเท็มดูดเลือด พลังชีวิตจะเด้งเกินกว่า 30% ในพริบตา หรือต่อให้ถอดไอเท็มดูดเลือดออก พลังชีวิตก็จะยังเพิ่มเกินกว่า 30% ด้วยผลจากอัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติ


และกริดก็จะยิ่งอ่อนแอหากต้องลงทุนปิดการใช้งานเขตแดนพายุเพลิงเทพเพื่อลดอัตราการฟื้นฟู


‘คงเหมาะในสถานการณ์ที่ถูกจอมอสูรใช้ ‘ดูม’ ใส่’


กริดสลัดแนวคิดสุดประหลาดและไร้สาระออกจากใจ


รอยยิ้มบรรจงฉาบลงบนใบหน้าชายหนุ่ม


ต้องขอบคุณบรรดาทักษะใหม่ มันกำลังมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00