จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 802

    ‘ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่’

    โกลด์ฮิตเฝ้ามองกริดด้วยสีหน้ากระวนกระวายเป็นเวลานาน
    จนกระทั่งเธอตัดสินใจกระทำบางสิ่ง

    ‘คงต้องนำเทพอัสนีออกมาใช้’

    เทพอัสนี—สิ่งมีชีวิตที่อาศัยพลังงานขับเคลื่อนจากศิลาอัสนีขนาดยักษ์ซึ่งถูกค้นพบทางตอนเหนือของไททันเมื่อสิบห้าปีก่อน
    มันคือหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่โกลด์ฮิตใช้เวทมนตร์สร้างขึ้นโดยอาศัยภูมิปัญญากว่าหนึ่งร้อยปีและกำลังคนจำนวนมาก
    
    เฉกเช่นผู้พิทัษก์ตนอื่นภายในหอคอย
    เทพอัสนีเป็นมอนสเตอร์ที่มีค่าต้านทานกายภาพสูงมาก  และเมื่อผสมรวมเข้ากับเวทมนตร์อัสนีที่ทรงพลัง  ค่าพลังทางกายภาพจะมีระดับใกล้เคียงอัศวินหลักเดียว
    
    เนื่องจากอาศัยศิลาอัสนีเป็นพลังขับเคลื่อน  ขอบเขตการทำงานของเทพอัสนีจึงถูกจำกัดภายในระยะของหอแห่งนิรันดร์เท่านั้น
    แต่ในอนาคต  โกลด์ฮิตเตรียมสร้างกองทัพเทพอัสนีจำนวนมากเพื่อเป็นกำลังหลักในแผน ‘ล่าอาณานิคมทวีปตะวันออก’
    จักรพรรดิฮวนเดอร์เองก็ตั้งความหวังกับกองทัพเทพอัสนีไว้มาก
    
    โกลด์ฮิตลงมือเปิดการทำงานเครื่องจักร  พลังเวทมนตร์จากศิลาอัศนีพลันถูกดูดซับเพื่อปลุกให้เทพอัสนีสุดแกร่งตื่นขึ้น
    เธอออกคำสั่งกับเทพอัสนี

    “ห้ามฆ่าเขาโดยเด็ดขาด”

    *** 

    ผู้พิทักษ์มิได้ปรากฏตัวบนหอชั้นที่ 32
    เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นบนหอคอยชั้น 21 มาก่อน

    ณ หอคอยชั้น 32
    ตู้หนังสือวางเรียงรายสุดลูกหูลูตา  
    หนังสือเวทมนตร์เก่าแก่ปริมาณมหาศาลถูกจัดเตรียมไว้ภายในมิติกาลเวลาอันกว้างใหญ่
    จอมเวทจำนวนมากนั่งกระจัดกระจายอ่านหนังสือเพื่อซึมซับความรู้เข้าไปในสมอง
    
    ‘เวทมนตร์ของมนุษย์สามารถสร้างห้วงมิติขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้เชียว?’

    หอแห่งนิรันดร์จะมีมิติแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น  บางชั้นกว้างใหญ่ไพศาล  สุดลูกหูลูกตายังมองไม่เห็นขอบเขตสิ้นสุด  เฉกเช่นชั้น 32 ที่กริดกำลังยืน
    บางชั้นก็แสนคับแคบ  กว้างเพียงไม่ถึงสามร้อยตารางเมตร

    ลักษณะกายภาพภายนอกของหอคอยมิอาจระบุถึงสิ่งที่อยู่ภายในได้เลย
    กริดรู้สึกราวกับอาคารแห่งนี้เป็นมิติที่เชื่อมเข้ากับโลกใบใหม่
    
    “ท่านราชาโอเวอร์เกียร์  ผมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำทาง”

    ขณะกริดกำลังมองหาบันไดขึ้นไปด้านบน  จอมเวทหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินเข้ามาทักทายและอาสานำทาง

    ในที่สุดเขาก็พบประตูขึ้นไปยังหอคอยบททดสอบด่านถัดไป

    ‘หลังจากนี้คงตึงมือกว่าเดิม’

    นับตั้งแต่ชั้น 33  รางวัลผ่านบททดสอบจะเพิ่มขึ้นจากเดิม  ค่าสติปัญญาจะเพิ่มขึ้นชั้นละสามแต้มจากเดิมที่เดิมสองแต้ม
    หากกริดสามารถปีนป่ายไปถึงชั้น 80 สำเร็จ  การเรียนไฟบอลจากบราฮัมจะอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น

    ขณะเขากำลังครุ่นคิด    

    แกร๊ก

    ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไป
    กริดได้พบกับผู้พิทักษ์ที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

    ร่างกายคล้ายมนุษย์  ลำตัวเปล่งแสงสีทองอร่าม
    นัยน์ตาสีแดงสว่าง  คางเรียวยาว  กลางหน้าผากมีเขาแหลมสามข้าง
    สิ่งที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือกระแสไฟฟ้าซึ่งแล่นพาดผ่านรอบตัวตลอดเวลา

    แสงสายฟ้าสีครามระยิบระยับพลางส่งเสียงเปรี้ยะตลอดเวลา  อากาศรอบตัวมันถูกสายฟ้าแผดเผาจนคละคลุ้งด้วยเศษควันและกลิ่นไหม้

    สวบ
    
    เทพอัสนี—ผู้พิทักษ์ร่างมนุษย์ที่รอบตัวสร้างแรงระเบิดขนาดเล็กตลอดเวลา  

    เพียงแค่ได้เห็นก็รู้สึกถูกคุมคามสมกับนามอันยิ่งใหญ่ของมัน

    สวบ

    การขยับเพียงสองก้าวส่งผลให้มันเข้าประชิดกริดในพริบตา  ท่อนแขนและฝ่ามือสีทองที่มีสายฟ้าพันรอบได้คว้าศีรษะกริดจับกดกระแทกใส่พื้น

    โครมมม!

    “อึก…!”

    รวดเร็วยิ่งกว่าผู้พิทักษ์ลิลิธอีกหรือ?
    คราวนี้เป็นความเร็วที่กริดมองตามด้วยตาเปล่าไม่ทัน  
    เขาส่งเสียงโอดครวญขณะร่างกายกระแทกพื้นจนเกิดความเสียหายรวม 4,230 หน่วย

    เกินกว่าครึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากสายฟ้ารอบตัว

    “หัถต์เทวะ!”

    กริดต่อสู้ตามลำพังภายในหอแห่งนิรันดร์มาโดยตลอด  หนนี้เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจพึ่งพาตัวช่วย
    สี่หัตถ์เทวะตอบสนองคำเรียกขานของกริดพลางเหวี่ยงมโยเนียร์ทุบใส่ศัตรู
    
    แต่สันค้อนกลับพุ่งไปไม่ถึงร่างเทพอัสนี
    เหตุเพราะมีบาเรียสายฟ้าหนาแน่นขวางกั้นไว้

    ทันทีที่หนึ่งในสามเขาของเทพอัสนีเปล่งแสงสีฟ้าสว่าง  รอยกายมันเกิดเป็นบาเรียสายฟ้าหนาแน่นห่อหุ้ม  เป็นบาเรียสำหรับป้องกันการโจมตีทางกายภาพโดยเฉพาะ

    ฝ่ามือทุกข้างเกิดอาการชะงักอย่างพร้อมเพรียง  บาเรียสายฟ้ามิได้ทำหน้าที่ป้องกันเพียงอย่างเดียว  แต่มันยังสร้างความเสียหายรุนแรงแก่ผู้โจมตี
    
    โครมมม!

    ใบหน้าของกริดถูกกดทิ่มดินอีกครั้ง  แต่คราวนี้เขาฟันดาบสวนใส่ท่อนแขนของมันอย่างจังจนเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้
    น่าเสียดายที่เป็นเพลิงทมิฬซึ่งคำนวณความรุนแรงจากพลังโจมตีกายภาพ
    
    เทพอัสนียังคงไร้รอยขีดข่วนเช่นเดิม
    สถานการณ์อุตลุดพันพัวอยู่นานจนกระทั่งดาบอัสนีฯ สร้างเพลิงสีแดงที่สร้างความเสียหายคงที่ห้าพันหน่วย  

    ในที่สุดกริดก็หลุดพ้นจากเงื้อมมือของเทพอัสนีในระยะประชิด  เขามีโอกาสพักหายใจหายคอพลางตอบโต้ด้วยทักษะ

    “วิชาดาบแพ็กม่า·ร่ายรำ!”

    ชายหนุ่มเลือกทักษะที่มีจำนวนครั้งโจมตีสูงเพื่อหวังให้เปลวเพลิงสีแดงส้มทำงานเต็มประสิทธิภาพ
    
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 4,100 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 4,100… ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 4,100… ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 4,100… ]
...
...

    ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสมบูรณ์แบบ
    แม้เทพอัสนีอาจเหนือกว่าผู้พิทักษ์ลิลิธเกือบทุกด้าน  ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว  พลังทำลาย  รวมถึงพลังเวทมนตร์  แต่มันกลับมีค่าต้านทานธาตุไฟในระดับธรรมดา

    เพียงแต่

    ‘พลังชีวิตสูงฉิบ’

    หลอดพลังชีวิตของมันแทบไม่ลดลงแม้จะถูกเปลวเพลิงครอกใส่นับสิบครั้ง
    ความยากในการต่อสู้มิได้เกิดจากศัตรูมีค่าต้านทานไฟสูง  แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะออปชั่นเปลวเพลิงจากดาบอัสนีฯ มีความรุนแรงต่ำเกินไป
    
    เทพอัสนีเริ่มกางขาออกเล็กน้อยพลางคำรามเสียงดังกึกก้อง
    ปากที่ปิดสนิทมานานเริ่มอ้ากว้าง  
    ฉากตรงหน้าทำให้กริดหวนนึกถึงเหตุการณ์โกเล็มรุกรานไรนฮาร์ทในอดีต

    เขาทราบถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นถัดไป
    มานาปริมาณมหาศาลกำลังถูกรวบรวมไว้ที่ปากเทพอัสนีจนเกิดเป็นก้อนเวทมนตร์ขนาดเล็ก

    อีกไม่นานมันต้องยิงลำแสงออกมาแน่
    ชายหนุ่มประเมินสถานการณ์พลางรำดาบเตรียมใช้ทักษะ  
    
    ถัดจากนั้น  เทพอัสนีปลดปล่อยลำแสงจากปากพุ่งเป็นเส้นตรงใส่กริดด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

    โกลด์ฮิตที่เห็นเหตุการณ์จากบอลคริสตัลเริ่มแสดงสีหน้ามั่นใจ

    ‘กริดต้องใช้เวทมนตร์แน่’

    ฝีมือของกริดอาจเหนือกว่าข่าวลือมากไปมากก็จริง  แต่ชายคนนี้ไม่มีทางแข็งแกร่งไปกว่าเทพอัสนีที่มีพละกำลังระดับอัศวินหลักเดียว  และมีพลังเวทระดับมหาจอมเวทแน่

    “เลิกลีลาแล้วใช้เวทมนตร์สูตรพัฒนาออกมาสักที!”

    โกลด์ฮิตโพล่งขึ้นด้วยสีหน้าเปี่ยมความคาดหวัง  แต่เมื่อจิตใจหมกมุ่นกับบางสิ่งมากเกินไป  เธอจึงหลงลืมหลักพื้นฐานไปหนึ่งข้อ
    
    เทพอัสนีมีพลังเวทเทียบเท่ามหาจอมเวทก็จริง  แต่สติปัญญาและความหลากหลายของเวทมนตร์นั้นคนละเรื่อง  
    หมายความว่าการใช้เวทมนตร์แต่ละครั้งจะถูกอ่านทางได้ง่ายมาก

    “วังวน”

    ไม่เพียงเท่านั้น  ถึงแม้จะมีค่าพละกำลังและความว่องไวระดับอัศวินหลักเดียว  แต่เทพอัสนีกลับมีเทคนิคการต่อสู้ระยะประชิดที่ไม่เก่งกาจเท่า  

    สำหรับกริดที่เคยเผชิญหน้าตัวตนระดับตำนานมาแล้วมากมาย  รวมถึงราชาไร้พ่าย  เขาย่อมมีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชนกว่า  
    เทพอัสนีเป็นได้เพียงเด็กหัดเดินเมื่ออยู่ต่อหน้าราชาวีรบุรุษเยี่ยงกริด

    วังวนทำการสะท้อนเวทมนตร์ลำแสงคืนสนองใส่เทพอัสนี  
    ถึงจะมีความว่องไวสูงและมีบาเรียป้องกันกายภาพคอยคุ้มกาย
    แต่ทั้งสองสิ่งกลับไร้ความหมายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวทมนตร์ลำแสงของตัวเองที่พุ่งตรงด้วยความเร็วเหนือเสียง

    “โนเอะ!”

    “เมี๊ยว!  ถึงเวลาของโนเอะแล้ว!”

    ยิ่งคู่ต่อสู้ของกริดแข็งแกร่งขึ้น  โอกาสปรากฏตัวของโนเอะก็ยิ่งลดน้อยลง
    ศัตรูที่แข็งแกร่งย่อมไม่ปล่อยให้โนเอะใช้กลืนวิญญาณได้ง่ายนัก  ส่งผลให้โนเอะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้เท่าที่ควร  
    
    “เนี๊ยวฮ่าฮ่า!  จงลิ้มรสความยอดเยี่ยมของสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกซะ!”

    แต่กับเทพอัสนีแล้วต่างออกไป
    มันถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์
    โกลด์ฮิตย่อมไม่เคยป้อนข้อมูลของสิ่งมีชีวิตประเภทเม็มฟิสลงไปในตัวเทพอัสนี
    มันจึงมองเห็นโนเอะเป็นเพียงแมวดำตัวหนึ่งเท่านั้น  ผนวกกับการที่ถูกกริดสะท้อนการโจมตีจนผงะไปชั่วครู่  แมวปริศนาที่พุ่งเข้ามาใกล้จึงไม่ได้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

    มันจดจ้องเพียงกริดด้วยสีหน้าอาฆาต

    และผลก็คือ
    ปากที่อ้ากว้างของโนเอะสามารถเขมือบเทพอัสนีได้ทั้งตัว  เป็นจุดเริ่มต้นของขุมนรก ‘กลืนวัญญาณ’

[ เมมฟิสโนเอะขโมยค่าสถานะสูงสุดของอาวุธเวทมนตร์ ‘เทพอัสนี’ ]    
[ สติปัญญาของท่านเพิ่มขึ้น 3,113 แต้มเป็นเวลา 3 วินาที ]
[ ท่านฉลาดพอจะเรียนรู้เวทมนตร์ที่ซับซ้อนของบราฮัม ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘ไฟบอล (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘ใบมีดทมิฬ (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘สายฟ้าต่อเนื่อง (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘เสริมแกร่งอาวุธ (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘เหยื่อล่อ (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘หอกเหมันต์ (พัฒนา)’ ]
[ เปิดใช้งานเวทมนตร์‘ก่อกวนมานา (พัฒนา)’ ]


    หากไอ้ทึ่มกริดได้รับเวทมนตร์ที่หลากหลายเกินไป  บราฮัมเกรงว่าชายคนนี้อาจตกอยู่ในอาการสับสนและตัดสินใจเลือกใช้เวทมนตร์ไม่ถูก
    เขาจึงเหลือไว้เพียงเวทมนตร์สำคัญที่ประเมินแล้วว่ามีประโยชน์ต่อกริด

    ในวินาทีที่สติปัญญาของชายหนุ่มเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว  ความรู้ปริมาณมหาศาลของบราฮัมได้แล่นเข้ามาในหัวอย่างฉันพลัน
    
    “เหยื่อล่อ!”

    มานาของกริดเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างนก

    พรึบ!
    
    นกเวทมนตร์กระพือปีกพร้อมกับโบยบินขึ้นไปบนเพดาน 
    เทพอัสนีที่เพิ่งถูกโนเอะคายทิ้งรีบไล่ตามนกมานาขึ้นไปด้านบน

    มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแมวปริศนาสร้างความเสียหายใดให้  มันไม่ได้ตระหนักว่าตนกำลังตกอยู่อาการอ่อนแรง

    เป้าหมายเดียวในปัจจุบันคือการไล่ตามนกมานาที่ล่อตาล่อใจเสียเหลือเกิน

    “ก่อกวนมานา!”

    นอกจากมานาของกริด  มานาทุกชนิดภายในรัศมีได้เกิดความปั่นป่วนฉับพลัน
    นกมานาระเบิดกระจายออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย  มานาในร่างเทพอัสนีไหลย้อนกลับจนวงจรเวทมนต์ขัดข้อง

    ขณะมันกำลังร่วงหลนลงมา

    “หอกเหมันต์!”

    หอกน้ำแข็งแหลมคมที่มีความยาวสองเมตรปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าข้างกายกริด  

    ทั้งงดงามและน่าเกรงขาม

[ หอกเหมันต์ (พัฒนา) Lv.1 ]
    สร้างความเสียหายแบบคงที่ 10,000 หน่วยแก่เป้าหมาย  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนค่าสติปัญญาของผู้ร่าย
    มองข้ามพลังป้องกันเวทมนต์ทั้งหมดของเป้าหมาย  เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะตกอยู่ในอาการ ‘ถูกแช่แข็ง’
    เป้าหมายที่อยู่ในอาการ ‘ถูกแช่แข็ง’ จะได้รับความเสียหายจากหอกเหมันต์รุนแรงขึ้นเป็นสองเท่า 
มานาที่ใช้ : 2,500
ระยะหน่วง : 1 นาที

    จุดหมายปลายทางของหอกน้ำแข็งย่อมเป็นสิ่งอื่นไปมิได้

    โครมมม!

    เมื่อร่างเทพอัสนีหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

    ฉึก!

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 23,900 หน่วย ]

    หอกยักษ์พุ่งเสียบแผ่นหลังของมันจนอัมพาตไปชั่วขณะ  บาดแผลรูโหว่ที่เกิดจากการถูกแทงเริ่มแข็งตัวอย่างรวดเร็ว  เกล็ดน้ำแข็งแพร่กระจายออกไปทั่วร่างในระยะเวลาอันสั้น
    
    ทันใดนั้น  หอกน้ำแข็งเล่มใหม่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าข้างกายกริดอีกหน
    
    เขาทำให้อย่างไร?  ในเมื่อระยะหน่วงของหอกน้ำแข็งคือหนึ่งนาที

    ย้อนกลับไปหนึ่งนาทีก่อนในตอนที่กริดเริ่มใช้เวทมนตร์เหยื่อล่อ  
    เขาร่าย ‘ตั้งเวลา+หอกเหมันต์’ ทิ้งไว้ล่วงหน้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ    

    ฉึก!

    หลอดพลังชีวิตของเทพสายฟ้าลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อถูกคอมโบเหมันต์เล่นงาน
    ทิ่มแทง  แช่แข็ง  น้ำแข็งแตก  
    ทิ่มแทง  แช่แข็ง  น้ำแข็งแตก
    สีหน้าโกลด์ฮิตพลันขาวซีดขณะเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้า
    
    ไม่มีทางที่เธอจะไม่หวั่นวิตกเมื่อเทพอัสนีจวนเจียนถูกทำลาย  โกลด์ฮิตใช้เวลานานถึงเก้าปีเต็มในการพัฒนาและสร้างผู้พิทักษ์เทพอัสนี

    แต่ปัจจุบัน  เธอกำลังประสบปัญหาที่ร้ายแร่งยิ่งกว่านั้น… 

    “ท…ทำไมเราถึงไม่เข้าใจ”

    แม้จะได้เห็นเวทมนตร์สูตรพัฒนาเต็มสองตา  แต่โกลด์ฮิตกลับไม่ได้รับคำบอกใบในการบรรลุไปสู่ระดับตำนานแม้แต่เศษเสี้ยว

    เธอเริ่มตระหนักถึงความจริงอันน่าเศร้าที่ตนหวาดกลัวมานานหลายปี
    สาเหตุที่โกลด์ฮิตไม่เข้าใจสูตรเวทมนตร์ของบราฮัมมิใช่เพราะเธอสมองโง่เขลา
    หากแต่เพราะบราฮัมมีมันสมองระดับอัจฉริยะเกินขีดจำกัดมนุษย์ไปไกลมากแล้ว
        
    อีกหนึ่งคำถามจึงผุดขึ้นในหัวตามมา
    กริดต้องฉลาดขนาดไหนกันถึงสามารถเรียนเวทมนตร์บราฮัมสำเร็จ
    
    “กริด…นายไม่มีจุดอ่อนเลยรึไง?”
    
    ขณะที่มหาจอมเวทอันดับหนึ่งของทวีปกำลังชื่นชมในสติปัญญากริด
    
    “งั่มมม!  อร่อยยยย!!”
    
    โนเอะกำลังตื่นเต้นกับรสชาติสุดกลมกล่อมของชิ้นส่วนเทพอัสนีที่แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นหอคอย
    
    ***

    ช่วงเวลาเดียวกันภายในวังหลวง

    “อึก…! อ๊ากกกก!”

    เมอร์เซเดสอยู่ในระหว่างเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเพื่อขอประทานอภัยให้ตนเองได้รับการละเว้นโทษทางวินัย

    อย่างน้อยก็ขอพกอาวุธติดตัว
    
    “อ๊ากกกกก!”

    แต่ภายในท้องพระโรงใหญ่  คิวราทันกำลังคลุ้มคลั่งอย่างไร้เหตุผล

    ทันทีที่เทพอัสนีถูกทำลาย  ศิลาอัสนีก้อนใหญ่บนยอดหอแห่งนิรันดร์ได้ถูกทำลายไปบางส่วน  และนั่นคือสาเหตุที่พลังอสูรของคิวราทันเกิดการปั่นป่วนกระทันหัน
    
    “ฝ่าบาท!”

    เมอร์เซเดสพลันหน้าซีด
    เธอทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของคิวราทันเป็นอย่างดี

    และด้วยเหตุนี้  เมอร์เซเดสจึงเคลื่อนไหวก่อนใครทั้งหมด

    แม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธและสวมเกราะในท้องพระโรง  แต่เธอก็รีบพุ่งตัวไปยืนข้างกายฮวนเดอร์โดยไม่ห่วงชีวิตตนเอง

    “คุคุคุ!  คุฮ่าฮ่าฮ่า!”

    ด้วยพลังอสูรที่เอ่อล้นเกินกว่าจะห้ามอยู่  คิวราทันตัดสินใจไม่ปกปิดตัวตนอีกต่อไป

    เธอและฮวนเดอร์ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า  ไม่มีใครคาดคิดว่าสถานการณ์จะดำเนินมาถึงจุดนี้ได้

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,227
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous