จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 799
ประตูเมืองไททันอยู่ห่างแค่เอื้อม
“หยุดก่อน!”
เมอร์เซเดสที่ถูกกริดจูงลากมาไกลพยายามบอกกล่าวให้เขาหยุด
เธอรีบสลัดมือให้หลุดจากกริดเมื่อเหลือบไปเห็นทหารยามเฝ้าประตู
บนใบหน้ายังหลงเหลือความเขินอายสีชมพูระเรื่อเจือจาง
บนฝ่ามือยังหลงเหลือสัมผัสแสนพิสดารจากปลายนิ้วกริด
“มีอะไร?”
“นายจะพาฉันไปไหน?”
“ออกจากจักรวรรดิให้ไกลที่สุด”
“ไม่ได้! ฉันยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
“ทำไม?”
กริดขมวดคิ้ว
“แล้วคิวราทันเป็นใคร? ท่าทีของมันราวกับเป็นบุคคลแสนสำคัญของจักรวรรดิ”
กริดเริ่มตระหนักว่าจักรวรรดิไม่ทราบถึงตัวตนด้านมืดของคิวราทัน
เผ่าอสูรคือศัตรูอันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์มาช้านาน
หากจักรวรรดิทราบว่าคิวราทันเป็นจอมอสูร พวกมันไม่มีทางปล่อยให้ครองตำแหน่งใหญ่โตแน่
และสาเหตุที่เมอร์เซเดสตกที่นั่งลำบากเพราะเธอก็ไม่เคยรับรู้ตัวจริงคิวราทันมาก่อน
“หมอนั่นกล่าวหาว่าเธอเป็นกบฏ โทษฐานกบฏร้ายแรงมากในสายตาราชาอย่างฉัน ไม่ใช่ว่าเธอกำลังถูกปรักปรำเช่นเดียวกับปิอาโร่เมื่อสิบสองปีก่อนหรอกหรือ?”
“แต่ฉันมีหน้าที่ต้องบอกให้ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของคิวราทัน!”
“แล้วใครจะเชื่อเธอ?”
เมอร์เซเดสฝืนยิ้มขมขื่น
“คงไม่มีใครเชื่อฉัน…แม้แต่ฉันยังไม่เชื่อตัวเอง”
คิวราทันดำรงตำแหน่งอัศวินลำดับสี่มายาวนานถึงสิบห้าปี มันสามารถเล่นละครตบตาได้แนบเนียนถึงเพียงนั้น
ต่อให้บุคคลตาแหลมอย่างเมอร์เซเดส หรือแม้กระทั่งนักบวชและจอมเวทชื่อดังของทวีป ก็ไม่มีใครเลยที่ทราบว่าคิวราทันเป็นจอมอสูรตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา
ทักษะเก็บซ่อนพลังอสูรของมันอยู่ในระดับน่าทึ่ง สมกับเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามอย่างจอมอสูร
แม้จะอ่อนแอลงจากการถูกมุลเลอร์ผนึกร่างเนื้อ แต่พลังก็ยังมากพอที่จะปั่นหัวมนุษย์ให้หลงกล
“ถ้าหากฉันรอคอยอย่างใจเย็น ต้องมีสักวันที่คิวราทันเผยจุดอ่อนออกมาแน่ ฉันจะรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้จนกว่าจะถึงตอนนั้น ไม่มีใครนอกจากฉันที่ทำได้”
จอมอสูรตนหนึ่งกำลังวางแผนชั่วเพื่อให้จักรวรรดิปั่นป่วน อัศวินลำดับหนึ่งอย่างเธอมีหน้าที่ต้องหยุดมัน
นี่คือภาระอันทรงเกียรติที่เธอต้อบแบกรับตามลำพัง การหลบหนีและละทิ้งทุกสิ่งมิใช่หนทางที่ถูกต้องของอัศวิน
กริดพยายามหาเหตุเพื่อไม่ให้เมอร์เซเดสหวนกลับไป
“ถ้าคิวราทันกราบทูลกับองค์จักรพรรดิว่าฉันช่วยเธอในวันนี้…”
เมอร์เซเดสจะถูกลบตัวตนไปจากโลกก่อนโอกาสดังกล่าวจะมาถึง
ทว่า สิ่งที่เมอร์เซเดสตอบกลับคือรอยยิ้มแสนอบอุ่น
‘เธอยิ้มแบบนี้ได้ด้วยหรือ?’
ไม่สมกับอัศวินลำดับหนึ่งผู้เลือดเย็นเลยสักนิด กริดชื่นชมในความงามที่ไม่เป็นสองรองใคร ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำ
เมอร์เซเดสเองก็หน้าแดงไม่ต่างกัน
เธอหันสายตาไปทางอื่นพลางอธิบายต่อไปอย่างเคอะเขิน
“ฉันจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เฉกเช่นที่ฉันมิอาจกล่าวหาคิวราทันว่าเป็นจอมอสูร คิวราทันก็ไม่สามารถกล่าวหาฉันอย่างไร้หลักฐาน แต่ถ้าฉันหนีไปพร้อมกับนาย ข้อเท็จจริงทั้งเรื่องของปิอาโร่และคิวราทันก็จะถูกเก็บงำไปตลอดกาล ดังนั้นฉันต้องอยู่ที่นี่”
“จะทำอย่างไรหากคิวราทันลอบโจมตีเธออีก? เหมือนกับวันนี้…ฉันอยู่ช่วยเธอตลอดไปไม่ได้”
“นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน?”
เมอร์เซเดสหันกลับมามองด้วยสายตาแสนสุขุม เป็นดวงตาที่อัดแน่นด้วยความองอาจและเกียรติยศของอัศวินลำดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิ
อัศวินผู้สามารถสยบราชาโอเวอร์เกียร์ให้ต้องคุกเข่าในการพบกันหนแรก
“วันนี้ฉันประมาทเกินไป แต่หากต้องสู้กับมันคราวหน้า ฉันมั่นใจว่าตัวเองไม่แพ้แน่”
เมอร์เซเดสมิได้สวมเกราะสีชาดเพราะเธอถูกลงโทษทางวินัย แถมยังนึกไม่ถึงว่าคิวราทันสามารถใช้มนตร์ดำของอสูรร้ายได้
มันแฝงตัวในคราบนักดาบมายาวนานถึงสิบห้าปีเต็มโดยที่ไม่มีใครระแคะระคาย
และสิ่งสำคัญที่สุด
เธอต่อสู้กับมันขณะจิตใจกำลังสับสนว้าวุ่น
ด้วยสถานการณ์ซึ่งถูกลงโทษทางวินัยและกักบริเวณในบ้านพัก เมอร์เซเดสเผชิญหน้ากับความตึงเครียดที่ไม่ทราบว่าตัวเองสามารถเชื่อใจใครได้บ้าง
แต่ปัจจุบัน
สิ่งเหล่านั้นได้สลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง
ภาพในใจของเธอชัดเจนแล้วว่าคิวราทันคือศัตรูตัวฉกาจ และเมอร์เซเดสก็ได้ทราบว่าเธอยังมีคนที่สามารถพึ่งพาได้
หมอกแห่งความสับสนภายในใจสลายไปโดยสมบูรณ์
“ราชาโอเวอร์เกียร์”
“หืม?”
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะขจัดมลทินให้ปิอาโร่ที่นายเป็นห่วง”
“…ขอบใจมาก”
กริดทราบดีว่าปิอาโร่เกิดบาดแผลในใจมากมายกับเหตุการณ์ในอดีต เขาหวังจะลบคำครหาให้ปิอาโร่และปลดปล่อยชายคนนั้นให้เป็นอิสระจากอดีตอันดำมืด
ยิ่งไปกว่านั้น…
“เธอห้ามตายเด็ดขาด”
กริดอยากได้เมอร์เซเดสมาอยู่ข้างกาย
เขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ด้วยบุคคลที่มีพรสวรรค์เพียบพร้อม
ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเมอร์เซเดสอีกแล้วหากชำเลืองสายตาทั่วทั้งทวีปตะวันตก
เธอยืนเงียบงันเป็นเวลานานก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าใคร่รู้
“…นายชอบฉันรึเปล่า?”
แม่จะเป็นเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก
แต่กริดกลับพยักหน้าโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว
“ไม่ใช่แค่ชอบ…แต่ฉันปรารถนาในตัวเธอเหนือสิ่งอื่นใด ถึงขั้นหมกมุ่นอยู่กับความคิดนี้ทุกคืน”
จะมีใครบ้างที่ไม่ต้องการตัวยอดอัศวินแห่งทวีปอย่างเมอร์เซเดส?
แต่ในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด กริดคือผู้ที่ตระหนักถึงความสุดยอดของเธอได้ดีกว่าใคร
กริดกล่าวออกไปโดยมีเจตนาตามด้านบน แต่เมอร์เซเดสกลับเข้าใจผิดคิดไปอีกแบบหนึ่ง
ใบหน้าของเธอพลันแดงก่ำไปถึงหู
เมอร์เซเดสรีบเบือนหน้าหนี
“ร…รุกหนักจังนะ…นายพูดแบบนี้กับทุกคนเลยรึเปล่า?”
ความหมายของเธอคือต้องการทราบว่ากริดใช่เสือผู้หญิงรึไม่
แต่ไอ้ทึ่มกริดกลับยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์
“ไม่เลย…ฉันไม่เคยพูดแบบนี้กับใครมาก่อน ไม่รู้ว่าควรอธิบายความรู้สึกออกไปอย่างไรดี แต่เธอคือคนพิเศษสำหรับฉัน”
แม้จะทราบว่าเมอร์เซเดสเป็นอัศวินของจักรวรรดิ แต่เขาก็ยังอยากได้ตัวเธอมาก
กริดกำลังประหม่าและตื่นเต้นจนอธิบายความรู้สึกออกไปมากเกินพอดี
“ง…งั้นหรือ”
เมอร์เซเดสเริ่มหวาดระแวงในความเจ้าชู้ของกริด
‘ชายคนนี้ไม่ธรรมดา’
กริดอาจเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจ
เขาป้อนคำหวานอย่างไม่เคอะเขินประหนึ่งเสือผู้หญิงที่คุ้นชินกับมัน
ถึงกระนั้นเมอร์เซเดสก็มิได้รังเกียจหรือคิดในแง่ลบ กริดคือผู้มีพระคุณของปิอาโร่และอัสโมเฟล แถมยังเป็นบุคคลสำคัญในการผลักดันให้เมอร์เซเดสสืบหาความจริงของคดีสมัยอดีต
และส่วนสำคัญที่สุด
กริดเพิ่งช่วยชีวิตเธอไว้เมื่อครู่
เขาจ้องไม่ใช่คนเลวร้ายแน่
“ฉันจะไม่ถามว่าทำไมคุณถึงอยู่ที่ไททัน ฉันจะไม่เคลือบแคลงสงสัยผู้มีพระคุณ แต่ได้โปรดอย่าพยายามทำให้หัวใจของฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้ มันจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นแน่นอน”
ในฐานะอัศวินของจักรวรรดิ เธอมิอาจสมรสกับราชาจากอาณาจักรอื่นได้
นั่นจะถือเป็นความผิดร้ายแรง
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย
ขณะเมอร์เซเดสกำลังฝืนยิ้มอย่างขื่นขม กริดรีบคว้าข้อมือเธอไว้พร้อมกับอธิบายความรู้สึกที่อัดแน่นในใจ
“ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด…เธอเคยสัญญาไว้แล้วไม่ใช่หรือ? ว่าจะตอบแทนฉันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี คิดจะไม่รักษาสัญญากันรึไง!”
“…นายไม่ได้ต้องการฉันเพื่อเป็นคนรักหรือภรรยา แต่ต้องการเพื่อไปเป็นทาสสินะ”
“หือ?”
“หยาบคายที่สุด”
“…??”
ท่าทีแบบนี้มันอะไรกัน?
ไอ้ทึ่มกริดพลันหน้าแดงก่ำเมื่อเริ่มรู้ตัว
เขาหลงลืมพลังนิ้วมือมารเสียสนิท
ก่อนหน้านี้ได้สัมผัสร่างกายเมอร์เซเดสไปเป็นเวลานาน
“สายตาแทะโลมของนายหมายความว่ายังไงกัน? นายต้องการสิ่งนั้นเพื่อแลกกับบุญคุณที่ช่วยชีวิตงั้นหรือ?”
“…”
นี่ตนเคลียร์ภารกิจแสนสำคัญเพื่อให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกโรคจิตรึไง?
กริดทั้งอับอายและผิดหวัง
“…ถ้านายต้องการเช่นนั้น ฉันคงไม่มีทางเลือกอื่น”
เมื่อเซอร์เดสกล่าวด้วยสีหน้าขึงขังจริงจังพลางเลื่อนมือขึ้นไปยังลำคอขาวนวล
สายตาของกริดจดจ้องผิวพรรณบริสุทธิ์ผุดผ่องพร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่
แต่เหตุการณ์กลับมิได้ดำเนินไปตามครรลองที่กริดต้องการ
เมอร์เซเดสปลดจี้ห้อยคอที่สวมอยู่มอบให้กริด จี้สีเงินแสนล้ำค่าซึ่งสลักไว้ด้วยลวดลายกุหลาบงดงาม
“นี่คือ...?”
“สัญลักษณ์ประจำตระกูลของฉัน จงใช้มันหากนายต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากภายในจักรวรรดิ”
ชิ้ง—
[ ภารกิจลับเสร็จสิ้น ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเมอร์เซเดสเพิ่มขึ้น 50 หน่วย ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘จี้ห้อยคอตระกูลเวนซ์’ ]
[ จี้ห้อยคอตระกูลเวนซ์ ]
ความคงทน : 31/33
* ความน่าหลงไหล +100
* ความสง่างาม +100
จี้ห้อยคอที่สืบทอดต่อกันมายาวนานภายในตระกูลเวนซ์อันโด่งดังแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
สิ่งนี้สามารถใช้พิสูจน์ตัวตนของท่านได้ทุกหนแห่งภายในจักวรรดิ
หากสวมใส่จะได้รับความเคารพจากคนรอบข้างอย่างมาก
น้ำหนัก : 5
เงื่อนไขสวมใส่ : ทายาทตระกูลเวนซ์หรือคนที่พวกเขายอมรับ
“เป็นของสำคัญไม่ใช่รึไง?”
มันคือสัญลักษณ์ในการพิสูจน์ตัวตนของเมอร์เซเดสผู้เป็นทายาทตระกูล
เธอส่ายศีรษะเมื่อเห็นกริดแสดงสีหน้ากังวล
“มันมิได้สลักสำคัญต่อฉันแม้แต่น้อย”
‘เจ๋ง!’
ไอเท็มชิ้นนี้สามารถใช้ยืนยัน ‘สถานะทางสังคม’ ของผู้สวมใส่ได้ทั่วจักรวรรดิ
หากกริดพกไว้กับตัว เขาจะท่องไปได้ทุกที่ในจักรวรรดิได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด
ทุกสิ่งจะง่ายขึ้นทันตาเห็น
“แบบนี้ดีแล้วจริงหรือ? เธอจะทำอย่างไรถ้าฉันใช้มันในทางมิชอบจนทำให้ตระกูลของเธอเสื่อมเสีย?”
“ทั้งปิอาโร่และอัสโมเฟลเลือกที่จะเชื่อใจและจงรักภักดีต่อนาย ฉันไม่คิดว่าบุคคลเช่นนั้นจะกระทำสิ่งเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลของฉัน หรือต่อให้นายใช้มันในทางมิชอบ แต่นั่นคงเพราะเหตุจำเป็น ฉันทำได้เพียงยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น”
“…เข้าใจแล้ว”
กริดแสยะยิ้ม
นิสัยตรงไปตรงมาของเมอร์เซเดสคือสิ่งที่กริดชื่นชอบอย่างมาก
ยิ่งได้รู้จัก เขาก็ยิ่งหลงไหลสตรีผู้นี้
“ขอบใจมาก”
กริดกล่าวคำอำลา
เมอร์เซเดสคุกเข่าลงหนึ่งข้างพลางเปล่งเสียงด้วยท่าทีนอบน้อม
“ขอให้โชคดี ราชาโอเวอร์เกียร์”
“เช่นกัน”
“ฉันต้องทำภารกิจให้สำเร็จ เพื่อจักรวรรดิและปิอาโร่”
ในภายหลัง
กริดจะได้พบเมอร์เซเดสอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน
***
“โฮ่? ไม่ยอมหนีไปพร้อมราชาโอเวอร์เกียร์…นี่เธอไม่รักชีวิตตัวเองแล้วหรือ?”
เมอร์เซเดสกลับบ้านพักของเธอที่มีคิวราทันรออยู่
ทั้งวาจาและท่าทางของมันยังคงต่ำทรามไม่แปรเปลี่ยนไปจากหลายชั่วโมงก่อน
เมื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้
เมอร์เซเดสหรี่ตาลงพลางเย้ยหยัน
“แกไม่อยากให้ฉันกลับมารึไง?”
“ไม่เลยสักนิด”
หากเมอร์เซเดสหนีไปพร้อมกับราชาโอเวอร์เกียร์ คิวราทันสามารถกราบทูลเรื่องเท็จแก่องค์จักรพรรดิได้ตามใจชอบ
ตระกูลเวนซ์ของเธอจะกลายเป็นกบฏแผ่นดินทันที
จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เมอร์เซเดสย้อนกลับมา
ทว่า นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด
แค่ฆ่าเธอทิ้งก็สิ้นเรื่อง
“เธอรู้อะไรไหม? การป้ายสีความผิดให้ตระกูลขุนนางนั้นง่ายมาก ฉันแค่ฆ่าปิดปากพวกมันให้เรียบ จากนั้นก็กราบทูลเรื่องเท็จต่อฝ่าบาท เหมือนที่เคยทำกับตระกูลปิอาโร่ยังไงล่ะ คุคุคุ!”
คิวราทันแสยะยิ้มชั่วร้าย
สีหน้าท่าทีน่าขยะแขยงคล้ายคลึงกับจอมอสูรไม่ผิดเพี้ยน
เหตุใดมันถึงเอ่ยชื่อปิอาโร่ต่อหน้าเมอร์เซเดสในเวลาเช่นนี้?
คำตอบนั้นง่ายมาก
มันพยายามยั่วยุเธอ
แต่ไม่มีทางที่คนตาแหลมอย่างเมอร์เซเดสจะมองไม่ออก
“ยั่วยุได้ตื้นเขินสิ้นดี ทำตัวไม่สมกับจอมอสูรผู้น่าเกรงขามเลยนะ”
“…”
“ก่อนหน้านี้ฉันแค่กำลังสับสน แต่หากต้องสู้กับแกเต็มฝีมือ ขอรับประกันว่าจะไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนแน่ และเมื่อยิ่งแกเอาจริง ตัวตนจอมอสูรก็จะยิ่งถูกเปิดเผยชัดเจนจนคนภายนอกเริ่มผิดสังเกต”
อัศวินลำดับหนึ่งฉีกยิ้ม
“ไหนลองตอบมา แกคิดจะทำยังไงกับฉัน?”
คิวราทันเริ่มตระหนักได้ถึงบางสิ่งเมื่อเห็นท่าทีแสนมั่นใจของเมอร์เซเดส
“พวกเราทำข้อตกลงกันไหม?”
เดิมที จอมอสูรมักโด่งดังในด้านการทำพันธสัญญาและข้อตกลงกับมนุษย์
มีมนุษย์เพียงน้อยคนที่สามารถหักห้ามใจตัวเองมิให้หลงระเริงไปกับสิ่งที่จอมอสูรมอบให้
เมอร์เซเดสเองก็ทราบข้อเท็จจริงนี้
คิวราทันกล่าวต่อไป
“ฉันไม่ต้องการให้พวกเราก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ตัวตนจอมอสูรของฉันยังมิอาจถูกเปิดเผยได้ในตอนนี้ แต่สำหรับเธอนั้นเป็นกรณีพิเศษ จะยอมบอกให้ก็ได้…ฉันคือจอมอสูรอัสทารอธ จนกว่าความปรารถนาของมนุษย์ผู้อัญเชิญจะบรรลุผล ฉันจำเป็นต้องสวมหน้ากากอัศวินสีชาดต่อไป ฉันจะใช้พลังที่มีเพื่อสนับสนุนให้ผู้อัญเชิญได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ”
“ผู้อัญเชิญ…?”
เมอร์เซเดสหลงลืมเรื่องหนึ่งไปเสียสนิท
‘ผู้อัญเชิญคือใครกัน?’
ใครกันที่บังอาจอัญเชิญจอมอสูรและปล่อยให้แทรกซึมอยู่ภายในวังหลวง?
นัยน์ตาเมอร์เซเดสพลันสั่นระริกเมื่อรับรู้ในสิ่งที่ไม่คาดฝัน
คิวราทันแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
“คุคุคุ! เป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี”
“ใครกัน?”
“ฉันคงบอกไม่ได้ พันธสัญญาของจอมอสูรประกอบด้วยเงื่อนไขมากมาย หากฝ่าฝืนจะได้รับโทษรุนแรงชนิดที่แม้แต่จอมอสูรก็มิอาจทนไหว แต่ฉันจะใบ้ให้ ผู้อัญเชิญมิใช่หญิงสาวที่เธอคิด”
‘ไม่ใช่แมรี่?’
“เทียบกับหล่อนแล้ว คนผู้นั้นใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิมากกว่า”
คิวราทันกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้างถึงใบหู
ส่วนเมอร์เซเดสกำลังครุ่นคิดด้วยสีหน้าตึงเครียด ดูเหมือนคำว่า ‘ใกล้ชิด’ อาจไม่ใช่ทางด้านกายภาพ น่าจะเป็นความใกล้ชิดทางสายเลือดมากกว่า
“หนึ่งในองค์ชาย?”
“คำบอกใบ้จบลงเพียงเท่านี้ คนที่อยู่เบื้องหลังฉันไม่ธรรมดา แต่กลับกัน เธอยังเหลือใครบ้างเมอร์เซเดส? จักรพรรดิเสื่อมคลายความเชื่อใจในตัวเธอไปมาก เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับจักรพรรดินีแมรี่ เธอทำลายความสำพันธ์กับดยุคแห่งดาบลิมิต ชายเพียงคนเดียวที่เคยเชื่อใจในตัวเธอ แล้วแบบนี้เธอยังจะเหลือใครอีก? เหล่าอัศวินสีชาดที่ศรัทธาในตัวเธองั้นหรือ? คุคุคุ! พวกมันก็แค่ลูกแกะน้อย ไม่มีพลังมากพอจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดได้ เธอสิ้นหวังแล้วเมอร์เซเดส คนอย่างเธอไม่มีทางเป็นภัยคุกคามต่อฉันได้”
เสียงกระซิบกระซาบอันแหบพร่าของมันจะทำให้บุคคลจิตใจไม่มั่นคงต้องพบความสิ้นหวัง
“น่าเสียดายที่ฉันยังทำอะไรเธอไม่ได้ในตอนนี้ คงมีแต่ต้องยอมปล่อยไปก่อน”
ไพ่ตายที่เป็นมนตร์ดำของมันมิอาจใช้ได้กับเมอร์เซเดสซ้ำสอง
ตำแหน่งอัศวินอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิมิได้มาเพราะโชคช่วย
แม้แต่จอมอสูรยังหวั่นเกรงต่อดวงตาที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าขณะต่อสู้
ทว่า นั่นจะเป็นอีกเรื่องหากอัสทารอธอยู่ในร่างสมบูรณ์
“ฉันสัญญาว่าพวกเราจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ฟังดูไม่เลวกับเธอเลยใช่ไหม? เธอจะได้มีเวลารวบรวมพลังต่อต้านฉันยังไงล่ะ คุคุคุ!”
ข้อตกลงระหว่างมนุษย์และจอมอสูรมิได้หอมหวานอย่างที่เมอร์เซเดสเคยได้ยินเลยสักนิด
‘เราต้องรีบทำให้ฝ่าบาทเชื่อใจ’
เมอร์เซเดสพยักหน้าเล็กน้อยพลางครุ่นคิด ส่วนฝ่ายคิวราทันกำลังแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,225
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมาก
ReplyDeleteขอบคุณครับ 😊
ขอบคุณครับ สนุกๆ
ReplyDelete