จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 783
“สวัสดีมุโต้ ฉันดีใจที่นายตอบรับคำเชิญ”
“อันดับสองแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เรียกตัวทั้งที ฉันแทบวิ่งมาที่นี้ตั้งแต่เห็นข้อความ”
ผู้เล่นคลาสพ่อค้าอันดับสามของโลก ‘มุโต้’
ฝ่ามือของเขาพลันสั่นระริกเมื่อได้รับข้อความเชิญชวนจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นราชา
มุโต้คิดมาตลอดว่าอนาคตของตนจะรุ่งโรจน์หากมีโอกาสค้าขายกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ซาทิสฟายกำลังเข้าสู่ยุคสมัยของอาณาจักรผู้เล่น
“นายค้าขายกับจักรวรรดิมานานแล้วสินะ”
“สี่ปีเต็ม ผมโชคดีที่ได้พบดยุค ‘การ์เดี้ยน’ โดยบังเอิญระหว่างภารกิจสำคัญ หลังจากนั้นจึงเริ่มค้าขายกับจักรวรรดิผ่านขุนนางผู้นี้”
“ตั้งแต่สี่ปีก่อนงั้นหรือ…? เร็วกว่าเคียร์*อีกนี่”
( *พ่อค้าอันดับหนึ่งของโลก
ขอแก้จาก ‘เคอร์’ เป็น ‘เคียร์’
ตอนแรกแปลตามภาษาอังกฤษที่เขียนว่า ‘Kir’ ซึ่งอ่านได้ทั้งสองแบบ แต่ต้นฉบับภาษาเกาหลีเขียนไว้ชัดเจนว่า ‘เคียร์’ )
“ฮะฮะ…ใช่แล้ว ผมน่าจะเป็นพ่อค้าคนแรกที่ค้าขายในจักรวรรดิ”
พ่อค้าอันดับหนึ่งของโลก ‘เคียร์’ คือบุคคลมั่งคั่งที่มีพ่อค้าแรงเกอร์จำนวนมากในสังกัด
มันครอบครองธุรกิจขนาดใหญ่มากมายไว้ในกำมือ
เคียร์อาศัยความร่ำรวยในการครอบครองกองทัพส่วนตัว และมันเพิ่งใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อเมืองแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
ถือเป็นก้าวแรกในการก่อตั้งอาณาจักรผู้เล่นแห่งที่สาม
ผู้คนทั่วโลกต่างยกเย่องเคียร์ว่า ‘ราชา’
ลอเอลขมวดคิ้ว
“ทำไมนายถึงมีอันดับต่ำกว่าเคียร์ทั้งที่เปิดตลาดจักรวรรดิได้ก่อนใคร?”
แรงกิ้งของพ่อค้ามิได้เรียงตามเลเวลเท่านั้น ยังรวมถึงปริมาณการค้าขายและกำไรที่ทำได้
มุโต้เปิดตลาดใหญ่ได้ก่อนใครเพื่อน แต่สุดท้ายกลับมีอันดับโลกต่ำกว่าเคียร์
ชายคนนี้คงกำลังนึกเสียใจที่ตัวเองไร้ความสามารถ
มุโต้เผยความจริง
“ผมตกเป็นเหยื่อกลโกงของเคียร์จนต้องสูญเสียฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก แถมพลังทางการเมืองของเคียร์ก็อยู่ในระดับสูงจนผมเทียบไม่ติด”
มุโต้คือพ่อค้าที่เถรตรง
เขาหาช่องทางทำกำไรจากการศึกษาแนวโน้มตลาดอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
นั่นคือสาเหตุที่มุโต้ยอมเสี่ยงเดินทางไปยังทวีปตะวันออกเพื่อเปิดตลาดใหม่
กลับกัน เคียร์คือพ่อค้าเจ้าเล่ห์
ความถนัดของมันคือการช่วงชิงธุรกิจผู้อื่นมาเป็นของตน มุโต้เคยหลงกลเคียร์อยู่หลายหน
“ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่สามารถกลายเป็นพ่อค้าอันดับหนึ่งได้ แต่ผมเชื่อว่าอันดับสามก็เพียงพอแล้วสำหรับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ผมมั่นใจว่าตัวเองทำได้แน่”
มุโต้ทราบเป็นอย่างดี
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มิได้ต้องการพ่อค้าที่เก่งกาจที่สุดในโลก
เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ลอเอลคงเลือกติดต่อไปยังเคียร์ มิใช่ตัวเขา
“ได้โปรดบอกถึงสาเหตุที่คุณเรียกผมมาที่นี่ ผมจะทำสิ่งที่คุณคาดหวังให้เป็นจริง”
‘ไม่เลว’
มุโต้คือพ่อค้าที่กระฉับกระเฉงมุ่งมั่นโดยไม่เสียเวลาอวดโอ่พร่ำเพรื่อ
เป็นคนที่พึ่งพาได้
“ได้ยินว่านายช่วยเหลือกษัตริย์กริดบนทวีปตะวันออกอยู่หลายวัน ฝ่าบาทคงชื่นชอบนายเป็นพิเศษด้วยเหตุผลนี้”
ลอเอลแสยะยิ้มชั่วร้าย
“ฉันมีงานให้ทำ นายต้องกลายเป็นนักต้มตุ๋นเพื่อกริด”
“เห...? นักต้มตุ๋น?”
“นายต้องขายของมีตำหนิให้วังหลวงจักรวรรดิ แต่การทำเช่นนั้นจะส่งผลให้นายหมดอนาคตค้าขายกับจักรวรรดิไปตลอดกาล”
“อ…อะไรกัน?”
มุโต้ยังหลงเหลือกิจการในจักรวรรดิอยู่บ้างแม้จะถูกเคียร์แย่งชิงไปเกือบทั้งหมด
ปัจจุบัน รายได้ส่วนใหญ่ของมุโต้มาจากการค้าขายกับจักรวรรดิ
แต่ลอเอลกลับบอกให้เขาหลอกขายสินค้ามีตำหนิแก่จักรวรรดิและเตรียมสละช่องทางทำเงินมหาศาลทิ้ง
ขณะมุโต้กำลังมองว่าเป็นข้อเสนอที่เหลวไหลสิ้นดี
“สิ่งตอบแทนคือสิทธิ์ในการดูแลตลาดการค้าของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จำนวนหนึ่งในสาม”
“ส่วนแบ่งตลาดหนึ่งในสามของอาณาจักร…!”
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ผู้คนมากมายหลั่งไหลรวมตัวที่นี่เพราะสุดยอดไอเท็มจากกริดและความอัจฉริยะของลอเอล
ตลาดการค้าในอนาคตของโอเวอร์เกียร์จะขยายตัวจนเป็นรองเพียงจักรวรรดิเท่านั้น
และเขาจะได้รับสิทธิ์มากถึงหนึ่งในสาม
นับเป็นข้อเสนอที่น่าทึ่งมาก
“พ่อค้าอันดับหนึ่งของโลก…นายอยากเป็นรึเปล่า?”
***
“เฮ่อ…”
มุโต้กำลังเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแมรี่ภายในวังส่วนตัวของเธอ
เขาย้อนนึกถึงบทสนทนากับลอเอลเมื่อสองวันก่อนพลางถอนหายใจเพื่อสงบจิต
‘นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่ท้องฟ้ากริดมอบให้เรา พยายามเข้ามุโต้’
ริอ่านต้มตุ๋นจักรวรรดิ
มุโต้กำลังก้าวข้ามสะพานที่มิบังควร
ฝ่ามือของเขาสั่นระริกจากภาวะตึงเครียดจนต้องจิบน้ำเย็นหลายหน
ทว่า
“วันนี้ดวงตะวันขึ้นผิดทิศงั้นหรือ? เหตุใดเซอร์มุโต้ถึงเลือกมาหาฉันก่อนฝ่าบาท”
หลังจากรอคอยกว่าครึ่งชั่วโมง ฝ่ามือที่สั่นระริกของมุโต้พลันสงบนิ่งเมื่อจักรพรรดินีปรากฏตัว
ต้องขอบคุณทักษะติดตัวของคลาสพ่อค้าที่ชื่อ ‘จิตแข็ง’
มุโต้ไม่เคยแสดงท่าทีประหม่าหรือหวาดหวั่นต่อหน้าคู่ค้ามาก่อน
“ยิ่งกระหม่อมได้พบ พระองค์ก็ยิ่งมีสิริโฉมงดงามขึ้นทุกครั้ง กระหม่อมขอขอบพระทัยที่พระองค์มอบโอกาสให้ตัวตนต่ำต้อยเข้าเฝ้าอัณมณีเม็ดงามแห่งจักรวรรดิ นับเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลยิ่งนัก”
“ความงามฟ้าประทานจะทุเลาลงตามกาลเวลาได้อย่างไร? เอาล่ะ…ฉันอยากเห็นสินค้าที่คุณต้องการนำเสนอในวันนี้แล้ว”
โดยทั่วไป พ่อค้าที่ต้องการค้าขายกับราชวงศ์มักขอเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเป็นลำดับแรก
สิ่งนี้ถือเป็นมารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องให้เกียรติผู้มีตำแหน่งสูงสุดก่อน
แต่วันนี้มุโต้กลับขอเข้าพบองค์จักรพรรดินี มิใช่จักรพรรดิ
แมรี่กำลังรู้สึกดีอย่างน่าประหลาดแม้เจตนาของมุโต้จะยังไม่แน่ชัด
เธอมีความสุขที่ถูกปฏิบัติตนในระดับสูงกว่าองค์จักรพรรดิ
‘บรรยากาศกำลังไปได้ดี’
ตรงข้ามกับรูปลักษณ์ที่งดงามอ่อนโยน แมรี่คือหญิงสาวเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย
มุโต้โล่งใจที่เธอกำลังอยู่ในอารมณ์ด้านบวก เขารีบหันกลับไปส่งสัญญาณให้ลูกน้อง
“หืม…? สร้างจากวัสดุที่แปลกประหลาดมาก น่าสนใจดีนี่”
เมื่อเธอสำรวจสินค้าของมุโต้โดยละเอียด จักรพรรดินีให้ความสนใจเครื่องเรือนสองชิ้น
มันคือโคมเทียนระย้าที่งดงามและโมบายล์แขวนผนังที่สร้างจากโลหะสีดำด้าน
“ฐานเทียนถูกแกะสลักให้เป็นรูปทรงดอกเบญจมาศ และจะเกิดเป็นแสงสีแดงคล้ายดอกทิวลิบเมื่อเทียนถูกจุด แสงไฟของเทียนจะลอดผ่านโครงโลหะสีดำด้านจนสะท้อนผนังเกิดเป็นภาพอันงดงงาม”
“ฉันชื่นชอบความหรูหราของพวกมัน”
“สมกับเป็นจักรพรรดินีผู้มีสายตาเฉียบแหลม”
นี่มิใช่คำยกยอเกินเหตุ
มุโต้รู้สึกเช่นนั้นจากใจจริง
จักรพรรดินีแมรี่เล็งเห็นถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมก่อนมุโต้จะเริ่มอธิบายสิ่งใด
“มันถูกสร้างจากวัสดุใดงั้นหรือ?”
แมรี่คือหนึ่งในบุคคลทรงอำนาจของทวีป ไอเท็มล้ำค่าย่อมผ่านตามากมายทุกวัน
สมบัติจากทั่วทั้งทวีปมักถูกวางกองเรียงรายให้เธอเชยชมเสมอ
แมรี่จึงมีสายตาเฉียมแหลมและความรู้กว้างขวางด้วยเหตุนี้
แต่ปัจจุบันคือหนแรกที่เธอเคยเห็นวัสดุสีดำด้านซึ่งถูกแกะสลักเป็นโครงโคมเทียนระย้าและโมบายล์แขวน
เธอไม่ได้รับความกระจ่างแม้ว่าจะเพ่งพิจารณาหรือสัมผัสมากเพียงใด
ได้เวลาตอกลิ่มแล้ว
มุโต้อมยิ้มที่มุมปากพลางกล่าว
“มันคือโลหะจากรังมังกร”
“อะไรนะ? ร…รังมังกร?”
แมรี่แทบไม่เชื่อหู
มนุษย์หน้าไหนจะกล้าเฉียดใกล้รังมังกรเพียงเพื่อขุดแร่กลับมา?
สามัญสำนึกของแมรี่พยายามปฏิเสธความจริงดังกล่าว
มุโต้กล่าวต่อไปด้วยสีหน้าสุดมั่นใจ
“มันคือโลหะพิเศษจากรังมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน”
“เนอวาร์ธาน…”
ตำนานกล่าวไว้ว่ามังกรเนอวาร์ธานเสียสติอย่างไร้เหตุผลจนทิ้งรังและบินพเนจรไปทั่วโลก รังเนอวาร์ธานจึงกลายเป็นสถานที่ว่างเปล่ามาช้านาน
ย่อมเป็นโชคลาภก้อนโต้สำหรับใครก็ตามที่ได้พบรังเป็นคนแรก
“ลองตรวจสอบดูได้ขอรับ”
แมรี่หันไปออกคำสั่งกับผู้เชี่ยวชาญด้านหลังให้เข้ามาตรวจสอบโคมเทียนระย้าและโมบายล์แขวน
หลังจากพิจารณาราวหนึ่งนาที
พวกเขาได้บทสรุป
“กระหม่อมไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คือโลหะจากรังมังกรหรือไม่ แต่มันเป็นโลหะที่กระหม่อมไม่เคยพบเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน”
“เทคนิคการสร้างอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ต้องเกิดจากช่างเหล็กระดับช่างฝีมือแน่นอน แต่จุดด้อยอยู่ที่ความวิจิตรศิลป์ เครื่องเรือนทั้งสองชิ้นขาดความกลมกล่อมของสีสัน”
“มันมีมูลค่าสูงอย่างไร้ข้อกังขา”
“ตกลง ฉันชอบพวกมัน ฉันจะซื้อเครื่องเรือนสองชิ้นนี้”
“อ๊ะ…”
ขณะแมรี่ตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากได้ฟังคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ
สีหน้าของมุโต้พลันกระอักกระอ่วน
แมรี่ขมวดคิ้ว
“มีอะไรงั้นหรือ?”
“ก…กระหม่อมมิบังอาจ! เพียงแต่กระหม่อมตั้งใจจะแสดงหนึ่งในสองชิ้นนี้ให้ฝ่าบาทได้ทอดพระเนตร กระหม่อมจำต้องมีสินค้าพิเศษเหลือไว้นำเสนอกับฝ่าบาทบ้าง…”
“ฟังนะเซอร์มุโต้”
“ข…ขอรับ”
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว คุณนำพวกมันมาที่นี่เพราะรู้ว่าฉันจะจ่ายให้ในราคางามใช่ไหม? ฉันจะซื้อไว้เอง ไม่ต้องห่วง หนึ่งในสองชิ้นนี้จะถูกมอบเป็นของขวัญให้องค์จักรพรรดิภายหลัง”
“องค์จักรพรรดินีทรงปรีชายิ่งนัก”
“ฮุฮุฮุ”
บนโลกนี้มีวัสดุหายากอยู่เพียงหยิบมือ
องค์จักรพรรดิต้องพึงพอใจมากแน่หากแมรี่มอบมันเป็นของขวัญ
‘บางครั้งก็ต้องใช้เสน่ห์ช่วยลดความเคลือบแคลงในตัวเราลงบ้าง’
จักรวรรดิกำลังแบ่งออกเป็นสองขั้วอำนาจใหญ่
ฝั่งองค์จักรพรรดิฮวนเดอร์และฝั่งจักรพรรดินีแมรี่
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแมรี่กับฮวนเดอร์กลับดีกว่าที่ทุกคนคาด
องค์จักรพรรดิพยายามเชื่อใจแมรี่
เขาไม่คิดว่าแมรี่สร้างขั้วอำนาจขึ้นเอง
แต่ฝักฝ่ายใหม่เกิดจากกลุ่มขุนนางที่ต้องการประจบประแจงและสถานปาองค์ชายลำดับสี่ ‘อีธาน’ ขึ้นเป็นจักรพรรดิรุ่นต่อไป
จักรพรรดินีแมรี่แสร้งทำตัวเป็นหญิงสาวอ่อนแอไร้เดียงสาต่อหน้าองค์จักรพรรดิมานานนับสิบปี
“ราคาเท่านี้คงพอสินะ?”
[ ท่านได้รับเงินจำนวน 580,000 เหรียญทองเป็นราคาสินค้า ‘โคมเทียนระย้าเหล็กมังกร’ ]
[ ท่านได้รับเงินจำนวน 190,000 เหรียญทองเป็นราคาสินค้า ‘โมบายล์แขวนเหล็กมังกร’ ]
ต้องขอบคุณทักษะติดตัวพ่อค้า ‘การค้าขายระดับสูง’ และ ‘การต่อรองระดับสูง’
รวมถึงสินค้าที่สร้างจากเหล็กมังกรคลั่งสุดหายาก
มุโต้จึงทำกำไรก้อนโตเพียงพริบตา
มันถือเป็นมูลค่ามหาศาลแม้จะต้องคืนกำไรครึ่งหนึ่งกลับสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ตามที่ตกลงไว้
มุโต้ยิ้มพลางโค้งศีรษะให้จักรพรรดินีอย่างนอบน้อม
“ขอบพระทัยที่ทรงเมตตาทำการค้ากับพ่อค้าไร้ฝีมือเช่นกระหม่อม”
โคมเทียนระย้าและโมบายล์แขวนลวดลายพฤษาที่ส่วน ‘ใบไม้’ ถูกสร้างจากโลหะแหลมและคมกริบ
สองสิ่งนี้จะถูกแขวนไว้บนเพดานห้องทำงานและห้องนอนขององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี
เมื่อมันรับน้ำหนักไม่ไหวและร่วงหลงลงมาด้านล่างในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง
ถึงครานั้น จักรวรรดิจะเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่
พ่อค้ามุโต้ทำงานของตนได้อย่างไร้ที่ติ
***
“ใหญ่ชะมัด”
ขบวนลำเลียงพืชผลหนึ่งร้อยตันจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เดินทางมาถึงไททัน
กริดเฝ้ามองกำแพงเมืองขนาดยักษ์ด้วยสีหน้าหดหู่
ขนาดอันกว้างใหญ่ของไททันทำให้ไรน์ฮาร์ทดูเล็กลงถนัดตา
เขาเกิดความคิดเลือนลางที่จะเลี่ยงเผชิญหน้ากับจักรวรรดิไปตลอดกาล
แต่เพียงไม่นาน
กริดสลัดความคิดไร้สาระทิ้งจนหมดสิ้น
‘หากทำตัวอ่อนแอ เราจะถูกกลืนกิน’
ความเร็วในการพัฒนาของจักรวรรดิย่อมสูงกว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์หลายเท่า
กริดมีทางเลือกเดียวคือการประจัญบานเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ฝ่ายที่จะเสียเปรียบคืออาณาจักรโอเวอร์เกียร์หากปล่อยให้เหตุการณ์สงบสุขดำเนินต่อไปอย่างยาวนาน
‘เราต้องฮุบกลืนพวกมันก่อนจะถูกฮุบกลืนเสียเอง’
ซู่ว—
ขณะกริดและขบวนเคลื่อนผ่านกำแพงเมืองใหญ่ของไททัน
กองทัพเงาของคาซิมเริ่มปฏิบัติการสอดแทรก ‘หัวเข็ม’ เข้าไปในช่องว่างกำแพงเมือง
ไม่มีทหารยามคนใดสังเกตุความผิดปรกตินี้
‘โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น’
กริดคำนวณให้เหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในจักรวรรดิอีกหนึ่งเดือนนับจากนี้
โคมเทียนระย้าจะร่วงหล่นลงมาคุกคามชีวิตจักรพรรดิและจักรพรรดินี
ส่วนกำแพงเมืองยักษ์ของไททันที่ตั้งเด่นตระหง่านมานานหลายร้อยปีจะพังทลายจากการขยายตัวของหัวเข็ม
จักรวรรดิจะปั่นป่วนถึงขีดสุด
และนั่นคือโอกาสแสนล้ำค่า
กริดและสมาชิกขุนพลโอเวอร์เกียร์จะลอบเข้าเมืองหลวงและสังหารพวกสวะอิมมอทัลให้สิ้นซาก
เขาจะสั่งสอนพวกมันให้ตระหนักว่าไม่มีสถานที่ใดบนโลกปลอดภัยสำหรับผู้ที่บังอาจกระตุกหนวดโอเวอร์เกียร์
นี่คือแผนที่ใช้เวลาเตรียมการนานหนึ่งเดือนเต็ม
‘พวกมันจะต้องหวาดกลัวและสำนึกผิดไปชั่วชีวิต’
ดวงตาของกริดพลันเปี่ยมด้วยรังสีอาฆาตเมื่อนึกถึงความแค้นที่มีต่อเวอราดินและแอ็กนัส
ขณะเดียวกัน
ขบวนของกริดเคลื่อนผ่านประตูใหญ่เรียบร้อย
“ราชาโอเวอร์เกียร์เสด็จเยือนไททัน!”
“เฮ—!!”
“กษัตริย์กริด! ยินดีต้อนรับ!”
“ยินดีต้อนรับสู่จักรวรรดิซาฮารัน”
ปังปัง! ปังปังปัง!
ทหารของจักรวรรดิและชาวเมืองต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
พลุปะทัดถูกจุด กลีบดอกไม้ถูกโปรยไปทั่วทางเดิน ดนตรีรื่นเริงถูกบรรเลงแต่งเติมบรรยากาศ
บรรดานักข่าวจากทั่วโลกที่รอคอยการมาถึงต่างเริ่มนำเสนอข่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
『 จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของจักรวรรดิ ครั้งเดียวที่พวกเขาต้อนรับแขกเมืองอย่างยิ่งใหญ่คือการมาเยือนขององค์ชายราจันดราแห่งอาณาจักรลูบาน่า 』
『 จักรวรรดิจะใช้พลังอำนาจข่มขู่แทนที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกับฝ่ายใด ในสายตาจักรวรรดิ พวกเขาคือผู้ปกครองทวีปที่ไม่ต้องการมิตรสหายใดทั้งสิ้น 』
『 ผมขอชื่นชมกริดจากใจจริงที่ทำให้จักรวรรดิยอมต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ 』
กริดคือแขกพิเศษคนแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์องค์ชายราจันดรานำศีรษะของราชาไร้พ่ายมอบให้องค์จักรพรรดิ
ผู้ชมทั่วโลกต่างทึ่งและตระหนักได้ว่ากริดคือบุคคลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคาดคิด
แม้แต่ตัวกริดเองก็คิดแบบเดียวกัน
‘พิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเรา…’
เป็นดังที่ลอเอลกล่าวไว้ กริดคงอับอายไปชั่วชีวิตหากเขาเยือนไททันมือเปล่า
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมโบกมือให้ชาวเมืองด้วยท่าทีสง่างาม
ไม่เพียงเพราะค่าความน่าเกรงขามระดับมหาศาลที่ช่วยส่งเสริม
แต่กริดยังคุ้นเคยกับการตกเป็นเป้าสนใจจากคนหมู่มาก
นี่คือพลังแห่งประสบการณ์
‘ฝ่าบาท…กระหม่อมสังเกตุจากการเคลื่อนไหวของเงาภายในวังหลวง ฝ่าบาทต้องระวังตัวให้มาก’
คาซิมส่งเสียงกระซิบข้างหูกริด
‘ขุนพลเกือบทั้งหมดของจักรวรรดิกำลังรวมตัวที่ไททัน กระหม่อมสัมผัสถึงบุคคลที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองได้เกินกว่าสิบ’
“หากตามฉันเข้าไปในวังหลวง พวกจะมันสัมผัสถึงนายได้รึเปล่า?”
‘มีความเป็นไปได้มาก’
คาซิมเคยถูกสัมผัสตัวตนได้โดยอัศวินลาเด็นในอดีต
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ระดับการพรางตัวของคาซิมจะไม่รอดพ้นสายตาเหล่าอัจฉริยะของทวีป
“นายรออยู่ด้านนอกก็แล้วกัน”
เหตุการณ์คงเลวร้ายหากกริดถูกจับได้ว่าพกพานักลอบสังหารเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ
โดยเฉพาะเมื่อตัวตนคาซิมถูกเปิดเผย
คาซิมคือชนเผ่านีโรที่ถูกจักรวรรดิกวาดล้างเมื่อหลายปีก่อน เขามีรูปลักษณ์พิเศษกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์ใด
‘แต่ว่า…’
กริดอมยิ้มเมื่อเห็นคาซิมเป็นกังวล
“ไม่ต้อห่วง ฉันยังมีอัญเชิญอัศวิน”
เขาสามารถอัญเชิญขุนพลโอเวอร์เกียร์รวมถึงคาซิม ปิอาโร่ และอัสโมเฟลได้ทุกเมื่อ
กริดสั่งทุกคนทำตัวให้ว่างล่วงหน้าเผื่อถูกอัญเชิญในกรณีฉุกเฉิน
“เฮ่อ…ได้เวลาแล้วสินะ”
ผู้ปกครองสูงสุดของทวีปและขุนพลข้างกายจะยอดเยี่ยมขนาดไหนกัน?
กริดนำดาบแห่งราชาพร้อมฝักออกมาเหน็บไว้ตรงเอว
ทันใดนั้น
[ ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย ]
เอฟเฟคของสมญานามราชาวีรบุรุษแสดงผลแบบเดียวกับเมื่อครั้งที่ครอเกลเริ่มปลดปล่อยพลังอริยดาบ
ออร่าปราณต่อสู้สีม่วงเข้มรอบกายกริดพลันก่อตัวเป็นหมอกหนา
ต้นตนของข้อความระบบมิใช่ใครอื่น
เป็นเมอร์เซเดส อัศวินลำดับหนึ่งที่กำลังยืนเฝ้าประตูทางเข้าวังหลวง
เมื่อได้เห็นกริด เธอผงกศีรษะเล็กน้อยตามมารยาทที่พึงปฏิบัติต่อกษัตริย์อาณาจักร
[ สายตาอันคมกริบของเมอร์เซเดสกำลังเพ่งพิจารณาท่าน ]
[ ทักษะและค่าสถานะบางส่วนของท่านจะถูกเผยให้เมอร์เซเดสรับรู้ ]
[ ท่านมิอาจต้านทาน ]
[ ปราณดาบอันคมกริบของเมอร์เซเดสกำลังคุกคามท่าน
แรงกดดันมหาศาลจะทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านสั่นกลัว
ความเร็วทั้งหมดลดลง 30% และระยะเวลาร่ายทักษะเพิ่มขึ้น 20% ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ท่านสะท้อนกลับอาการผิดปรกติไม่สำเร็จ ]
กริดเคยลิ้มรสสิ่งเหล่านี้มาแล้วหนหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน ฝ่ายที่รู้สึกทึ่งอย่างหนักกลับมิใช่กริด
เมอร์เซเดสกำลังแสดงตื่นตระหนก
“นี่นาย…?”
“ฉันไม่สนว่าเธอจะเห็นอะไร”
หมับ
กริดวางมือลงบนไหล่เมอร์เซเดสพร้อมกับออกแรงบีบ
“แต่คราวหน้าช่วยก้มศีรษะให้มากกว่านี้ เป็นแค่อัศวินไม่ควรสบตาเทียบชั้นราชา”
“อึก…!”
ชายคนนี้ใช่บุคคลที่เคยคุกเข่าต่อหน้าเธอเมื่อไม่กี่เดือนก่อนจริงหรือ?
ใบหน้าอันงดงามของเมอร์เซเดสพลันกระตุกเมื่อกริดย่างกรายผ่านไป
ขณะเดียวกัน
[ ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย ]
[ ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย ]
[ ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย ]
[ ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่ง… ]
[ ท่านได้พบ… ]
…
...
ข้อความระบบรัวขึ้นไม่หยุดที่มุมสายตากริด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,214
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
👍👍👍👍🙏ขอบคุณ
ReplyDeleteกำลังสนุกเลย
ReplyDeleteค้างงงง 😁
น้องเมอร์เห็นวิชาดาบไร้พ่ายสินะ
ReplyDeleteน้องจะได้คู่ปิอาโร่มั้ยเนี่ย
Deleteได้คู่กับพระเอกครับไม่ใช่ปิอาโร่อายุห่างกันเรียกได้ว่าลุงกับหลานเลย
Deleteอีเมอร์ ไม่เจียม
ReplyDelete