จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 788
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 788
สิบสองปีก่อน
อัสโมเฟลประกาศให้ปิอาโร่และคนสนิทกลายเป็นกบฏ
เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัยสองวีรบุรุษแห่งจักรวรรดิ
หลังจากการทรยศของปิอาโร่
อัสโมเฟลก็มิใช่วีรบุรุษอีกต่อไป
เขาทำลายอนาคตของสหายรักปิอาโร่ รวมถึงคนสนิทและครอบครัวของคนเหล่านั้นจนหมดสิ้น
จากนั้นก็เอาแต่เก็บตัวในบ้านพักโดยไม่ออกมาเผชิญโลกภายนอกเป็นหนที่สอง
อัสโมเฟลกลายเป็นคนติดสุราเรื้อรัง
บรรยากาศรอบบ้านพักอัสโมเฟลจะหม่นมองและดำมืดตลอดเวลาราวกับเขากำลังประกอบพิธีกรรมบางชนิด
พิธีกรรมที่นำพาตนเองไปสู่ความตาย
“…จนกระทั่งคุณหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”
แม้ฝีมือจะถดถอยลง
แต่นักดาบอัจฉริยะอย่างอัสโมเฟลจะถูกลักพาตัวได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?
เมอร์เซเดสได้แต่ตั้งคำถาม
เธอทราบถึงความแข็งแกร่งของอัสโมเฟลยิ่งกว่าใคร จึงไม่เชื่อว่าจะมีใครที่สามารถลอบลักพาตัวชายคนนี้ได้ด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว
เมอร์เซเดสตัดความเป็นไปได้ที่เหลือทิ้ง
เธอตั้งสมมติฐานขึ้นมาเองหนึ่งข้อ
“คุณตัดสินใจหลบหนีด้วยตัวเอง”
“…”
อดีตวีรบุรุษอัสโมเฟลผู้ปรากฏกายจากคำอัญเชิญของราชาโอเวอร์เกียร์ เขาส่งรอยยิ้มที่สง่างามและองอาจมาทางเมอร์เซเดสเฉกเช่นสมัยอดีต
“ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในขุมนรกอีกต่อไป จึงตัดสินใจหลบหนีจากจักรวรรดิและความคุ้มครองของอัศวินสีชาด”
เธอเศร้าใจมาก
หากอัศวินคนใดเลือกจบเส้นทางเดินด้วยตัวเอง มิใช่คำสั่งจากผู้เป็นนาย
บุคคลผู้นั้นจะมิใช่อัศวินอีกต่อไป
เมอร์เซเดสเจ็บปวดที่บุคคลต้นแบบของอัศวินหนุ่มสาวในอดีตกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไร้เกียรติ
“ฉันคิดว่าคุณตายไปแล้ว”
ทว่า
“คุณกลับยังมีชีวิตอยู่ แถมยังเป็นพวกเดียวกับคนทรยศปิอาโร่”
เมอร์เซเดสออกแรงกำดาบคู่ในมือ
โลหิตสีแดงฉานไหลซึมจากซอกนิ้วที่กำลังสั่นระริก
“คุณเคยเป็นวีรบุรุษ แต่กลับเลือกทรยศต่อองค์จักรพรรดิและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกับเพื่อนสนิท…”
“…”
กุญแจสำคัญที่กริดหวังให้ช่วยขจัดมลทิลของปิอาโร่กลับทำให้สถานการณ์แย่ลง
แต่กริดมิได้กังวล
ขอเพียงอัสโมเฟลเปิดปาก ข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิดทั้งหมดก็จะกระจ่างชัด
“เมอร์เซเดส มีหลายสิ่งที่เธอเข้าใจผิด”
อัสโมเฟลกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตอบรับคำอัญเชิญจากกริด
“ประการแรก อัศวินสีชาดมิได้ปกป้องฉัน พวกมันคุมขังและจับตามองฉันต่างหาก เธอรู้จักอัศวินลำดับสี่ใช่ไหม?”
อัศวินลำดับสี่จะแตกต่างจากอัศวินสีชาดที่เหลือ
ตำแหน่งนี้มิได้ถูกแต่งตั้งโดยองค์จักรพรรดิ หากแต่เป็นตำแหน่งที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน
“อัศวินลำดับสี่ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบวินัยอัศวินสีชาด กลับกลายเป็นบุคคลชั่วร้ายเสียเอง”
“…”
“ตามความเห็นของฉัน อัศวินลำดับสี่มีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับวิหารยาธาน”
“…”
“คนสนิทของแมรี่ที่ชื่อไดฟ์ มันคือจอมเวทมืด…แถมยังเป็นุถึงข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด ไดฟ์คือสมุนของอัศวินลำดับสี่”
“…”
“อัศวินทุกคนที่ประจำบ้านพักของฉันด้วยเหตุผลอารักขาความปลอดภัย แท้จริงแล้วเป็นคนที่อัศวินลำดับสี่ส่งมาจับตามอง”
“…?”
เรื่องราวจากปากอัสโมเฟลผิดแผกพิสดารเกินกว่าจะทำใจเชื่อลง
โดยเฉพาะจุดที่อัสโมเฟลอ้างว่าคนสนิทของแมรี่เป็นข้ารับใช้ยาธาน
หากเป็นเช่นนั้นจริง
หมายความว่าจักรพรรดินีแมรี่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดวิหารยาธานงั้นหรือ?
นั้นเป็นไปไม่ได้แน่
เมอร์เซเดสและเหล่าอัศวินต่างปฏิเสธสิ่งที่อัสโมเฟลเล่า
“ตำแหน่งจักรพรรดินีมิใช่ใครก็เป็นได้ ราชวงศ์ซาฮารันจะทำการสืบประวัติและคัดเลือกเฉพาะหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้น ไม่มีทางที่องค์จักรพรรดินีจะมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดวิหารยาธานได้”
“เธอเคยเป็นสตรีไร้เดียงสาในช่วงแรก แต่เมื่อถึงจุดที่ความโลภเข้าครอบงำ เธอหลงระเริงในพลังอำนาจและต้องการให้บุตรชายขึ้นครองบัลลังก์ แมรี่จึงหลงผิดเข้าร่วมกับฝ่ายชั่วร้ายที่รับใช้จอมอสูร…มนุษย์ทุกคนล้วนมีธรรมชาติที่มิอาจต่อต้านสิ่งยั่วยุ”
อัสโมเฟลกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“…?”
“ฉันตกหลุมพรางความงามของแมรี่จนถลำลึก”
“อ…อะไรนะ?”
อัสโมเฟลมิได้เล่าความจริงทั้งหมด
ความจริงที่เขาถูกเวทมนตร์และแก่นพลังยาธานล้างสมองก่อนจะหลงเสน่ห์แมรี่
อัสโมเฟลไม่ต้องการใช้ข้ออ้างนี้เพื่อปกปิดความต่ำทรามที่ตนเคยกระทำกับปิอาโร่และคนสนิท
ทุกสิ่งเป็นความผิดของเขาตั้งแต่ต้น
“ใช่แล้ว…ฉันคือเศษเดนมนุษย์ที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งอัศวิน เป็นฉันเองที่ทรยศต่อองค์จักพรรดิ ปิอาโร่ไม่ผิด…เขาคือผู้บริสุทธิ์และเหยื่อที่เจ็บปวดยิ่งกว่าใครในเหตุการณ์ครั้งนั้น”
อัสโมเฟลจะเจ็บแปลบที่หน้าอกทุกครั้งเมื่อย้อนนึกถึงบาปในสมัยอดีตของตน
ความรู้สึกผิดบาปที่มีต่อปิอาโร่นั้นสลักลึกลงในจิตใจจนยากจะนำออก ลึกเทียบเท่าระยะห่างจากสวรรค์ถึงขุมนรุกชั้นสุดท้าย
“ใช่แล้ว…ต้นตอความชั่วร้ายทั้งหมดคือฉัน มิใช่ปิอาโร่และอัศวินสีชาดในอดีต”
อัสโมเฟลไม่มีสิทธิ์ร่ำไห้ขอความเห็นใจ
ดวงตาของเขาพลันแดงกำด้วยโทสะที่เจ็บแค้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวสมัยเก่า
“ฉันพยายามปกปิดความชั่วที่ตัวเองได้กระทำ…เพื่อให้ตัวเองรอด ฉันป้ายความผิดให้เพื่อนสนิทและอัศวินที่ยิ่งใหญ่มากมาย จากนั้นก็สังหารครอบครัวและคนรักของพวกเขาจนหมดสิ้น”
มันคือบาปร้ายแรงที่กระทำลงไปโดยอ้างหลักความถูกต้องบังหน้า
ร่างกายอัสโมเฟลเริ่มสั่นระริกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เขาเคียดแค้นตัวเองจากก้นบึ้งจิตใจ
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่หยุดเล่า
นั่นเพื่อขจัดมลทินทั้งหมดให้ปิอาโร่
ปิอาโร่คือเหยื่อผู้โชคร้ายที่ไม่สมควรถูกปฏิบัติเยี่ยงคนทรยศ
เป็นเหตุผลเดียวที่อัสโมเฟลยังรักษาชีวิตตัวเองให้ยืนยาวถึงทุกวันนี้
เขาหวังประกาศข้อเท็จจริงให้คนทั่วโลกได้ทราบ
“พอแค่นี้เถอะ”
ปิอาโร่พยายามห้ามปราม
เขาให้อภัยเรื่องราวทั้งหมดโดยไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกแล้ว
แต่อัสโมเฟลไม่ยอมหยุด
เขาเล่าเรื่องราวที่เหลือให้เมอร์เซเดสและอัศวินสีชาดได้รับฟังด้วยถ้อยคำสั่นระริก
“ปิอาโร่ที่พวกนายทุกคนชื่นชมและเคารพรัก เขาไม่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนแม้แต่น้อย ได้โปรดขจัดความเข้าใจผิดในตัวปิอาโร่และนำความโกรธแค้นทั้งหมดมุ่งมาที่ฉันเพียงคนเดียว”
“…”
ชายคนนี้กำลังพูดเรื่องอะไร?
เหล่าอัศวินสีชาดรุ่นใหม่ต่างพากันฉงน
แต่เมอร์เซเดสตระหนักได้ทันทีว่าอัสโมเฟสมิได้โกหก
อัศวินลำดับหนึ่งพรั่งพรูน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม
หากอัสโมเฟลเป็นคนชั่วโดยธรรมชาติจริง ปิอาโร่คงไม่มีวันให้อภัยเขาแน่
“พวกคุณ…”
ผ่านมาแล้วสิบสองปีเต็ม
วีรบุรุษหนึ่งคนต้องถูกป้ายสีในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ เขาต้องมีชะตาชีวิตที่เจ็บปวดจากการถูกหักหลัง
ส่วนวีรบุรุษอีกคนต้องใช้ชีวิตอย่างอมทุกข์โดยถูกความสำนึกผิดภายในใจกัดกินทุกวินาที
ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดจากแมรี่และวิหารยาธาน
ขณะที่เมอร์เซเดสกำลังตาสว่าง
‘…ใช่แล้ว ฉันคือผู้มีพระคุณของบุคคลที่เธอชื่นชมยังไงล่ะ! ฉันเอง!’
กริดจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเมอร์เซเดสด้วยสีหน้าโล่งใจ
ในเมื่อเธอทราบข้อเท็จจริงแล้ว
การต่อสู้ที่ไม่จำเป็นสมควรจบลงสักที
หลังจากนี้ เมอร์เซเดสต้องพิสูจน์คำพูดของอัสโมเฟลให้อัศวินสีชาดที่เหลือได้ประจักษ์
และการจะทำเช่นนั้นได้…
“ฉันต้องมีหลักฐานที่แน่ชัดกว่านี้ พวกเราจะกลับไททันและตรวจสอบคดีสิบสองปีก่อนอีกครั้งเพื่อพิสูจน์คำพูดของพวกคุณ และหากทั้งหมดคือเรื่องจริง…”
เมอร์เซเดสชะงักคำพูดพลางหันกลับไปมองเหล่าอัศวินสีชาดด้านหลัง
พวกเขาทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงด้วยสายตามุ่งมั่น ทั้งหมดยินดีติดตามเมอร์เซเดสในทุกคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง
“พวกเราจะช่วยคุณขจัดมลทินและนำตัวจักรพรรดินีแมรี่มาลงโทษ”
หากสองวีรบุรุษถูกป้ายสีดังคำกล่าวอ้าง จักรพรรดินีมีหน้าที่ต้องชดใช้อย่างสาสม
‘ก่อนอื่นต้องเริ่มสืบสวนกัปตันลิมิต’
ชายคนนั้นอยู่ฝ่ายจักรพรรดินีแมรี่มาตั้งแต่ต้น หรือ่าถูกอัศวินลำดับสี่ล้างสมองเฉกเช่นอัสโมเฟลกันแน่?
มีงานมากมายกำลังรอเมอร์เซเดสอยู่
เธอรีบหันหลังกลับไททันพลางกล่าวขึ้น
“วันนี้ฉันจะทำเป็นไม่เห็นพวกคุณ หากมีโอกาสเผชิญหน้ากันในอนาคต ได้แต่หวังว่าคมดาบของฉันจะไม่ต้องหันเข้าหาพวกคุณอีก”
ภายในใจเมอร์เซเดสต้องการคุกเข่าลงต่อหน้าคนทั้งสอง เธออยากตำหนิพวกเขาที่ไม่ยอมบอกกล่าวความจริงให้เร็วกว่านี้
แต่นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้
เมอร์เซเดสต้องรักษาภาพพจ์อันสง่างามของผู้นำกองอัศวินสีชาดจนกว่าความจริงจะกระจ่าง
เธอหันมาก้มศีรษะให้กริดอย่างนอบน้อมจากก้นบึ้งหัวใจ
“ราชาโอเวอร์เกียร์ ฉันขออภัยที่ทำตัวเสียมารยาทเมื่อครู่ หวังว่าคุณจะเข้าใจและยอมยกโทษให้”
“…”
“เหตุการณ์ในวันนี้สำคัญต่อฉันมาก แล้วฉันจะหาโอกาสตอบแทนบุญคุณที่ช่วยดูแลผู้มีพระคุณทั้งสอง แม้อาจต้องแลกด้วยทุกสิ่งที่ฉันมี”
“แลกด้วยทุกสิ่ง…?”
กริดแสยะยิ้ม
“ตกลง…แล้วฉันจะรอ"
หัวใจของเขากำลังเต้นโครมคราม
[ ค่าความสัมพันธ์กับอัศวินสีชาดลำดับหนึ่ง ‘เมอร์เซเดส’ เพิ่มขึ้น 20 หน่วย ]
ข้อความระบบทำให้กริดเริ่มตระหนักได้
การเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC พิเศษไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด
‘เธอยกย่องเทิดทูนปิอาโร่และอัสโมเฟลมาก หากความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยในภายหลัง เธอจะตอบแทนเราอย่างมหาศาลแน่’
แต่เมอร์เซเดสอาจตกที่นั่งลำบากระหว่างการสืบสวนเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิ
มีโอกาสสูงที่เมอร์เซเดสจะถูกขัดขวางการทำงานและถูกป้ายสีให้เป็นผู้ทรยศเฉกเช่นปิอาโร่
กริดต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
นั่นจะเป็นโอกาสทองในการชิงตัวเมอร์เซเดสมาจากอ้อมอกจักรวรรดิ
“ทุกคนถอยทัพ”
เมอร์เซเดสออกคำสั่งอัศวินสีชาดพลางเดินไปหาคนสนิทที่ยืนเฝ้าม้าอยู่ไม่ห่าง
ชื่อของมันคือ ‘สกาย’
เป็นผู้เล่น
สกายกำลังสวมหมวกเหล็กปิดบังใบหน้ามิดชิด กริดจึงไม่มีทางทราบว่ามันคือผู้เล่น
‘คุคุคุ…เจ๋งเป้ง!’
สกายกำลังตื่นเต้นที่มันบังเอิญได้รับรู้เศษเสี้ยวความลับของอัศวินสีชาด
สกายเข้าใกล้ความฝันที่จะเปลี่ยนเมอร์เซเดสให้กลายเป็นทาสไปอีกก้าว
‘ฉันจะรีบไปแจ้งข่าวกับจักรพรรดินี! ขอบใจมากกริด! คุคุคุ!’
ซาทิสฟายมิได้เป็นเพียงโลกเสมือนจริง
แต่มันคือโลกใบใหม่ที่ผู้คนกล้าทำชั่วมากกว่าโลกปรกติ ประหนึ่งเป็นสถานที่ไว้สำหรับปลดปล่อยด้านมืดของมนุษย์
ผู้คนกว่าสองพันล้านกำลังแก่งแย่งชิงดีและไขว่คว้าเป้าหมายของตนในทุกวินาที
ไม่มีทางที่ผู้เล่นคนใดจะประสบความสำเร็จดั่งใจไปตลอดรอดฝั่ง
“คาซิม”
>> ขอรับ
“ปิดปากคนที่แอบฟังบทสนทนาระหว่างเมอร์เซเดสและอัสโมเฟล”
>> ฝ่าบาทหมายถึงคนสนิทของอัศวินลำดับหนึ่ง...? กระหม่อมอาจถูกเธอพบตัวก่อนลงมือสำเร็จ
“ไม่เป็นไร เมอร์เซเดสต้องเข้าใจแน่ ในกรณีเลวร้ายที่สุด เธออาจขัดขวางการลอบสังหารของนาย แต่หลังจากนั้นจะลดขั้นตำแหน่งของคนสนิทแน่นอน”
กริดหรี่ตาลง
“เธอทราบดีว่ามีอุปสรรคและภัยอันตรายมากมายกำลังรออยู่ คนฉลาดอย่างเมอร์เซเดสไม่มีทางมองข้ามปัจจัยที่อาจก่อปัญญาตามมาแน่”
>> เข้าใจแล้ว
กริดในปัจจุบันสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทางความคิดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
การเดินทางของชายหนุ่มที่จะกลายเป็นยิ่งกว่ามหาตำนานในอนาคต…
ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลนัก
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,218
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สิบสองปีก่อน
อัสโมเฟลประกาศให้ปิอาโร่และคนสนิทกลายเป็นกบฏ
เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัยสองวีรบุรุษแห่งจักรวรรดิ
หลังจากการทรยศของปิอาโร่
อัสโมเฟลก็มิใช่วีรบุรุษอีกต่อไป
เขาทำลายอนาคตของสหายรักปิอาโร่ รวมถึงคนสนิทและครอบครัวของคนเหล่านั้นจนหมดสิ้น
จากนั้นก็เอาแต่เก็บตัวในบ้านพักโดยไม่ออกมาเผชิญโลกภายนอกเป็นหนที่สอง
อัสโมเฟลกลายเป็นคนติดสุราเรื้อรัง
บรรยากาศรอบบ้านพักอัสโมเฟลจะหม่นมองและดำมืดตลอดเวลาราวกับเขากำลังประกอบพิธีกรรมบางชนิด
พิธีกรรมที่นำพาตนเองไปสู่ความตาย
“…จนกระทั่งคุณหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”
แม้ฝีมือจะถดถอยลง
แต่นักดาบอัจฉริยะอย่างอัสโมเฟลจะถูกลักพาตัวได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?
เมอร์เซเดสได้แต่ตั้งคำถาม
เธอทราบถึงความแข็งแกร่งของอัสโมเฟลยิ่งกว่าใคร จึงไม่เชื่อว่าจะมีใครที่สามารถลอบลักพาตัวชายคนนี้ได้ด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว
เมอร์เซเดสตัดความเป็นไปได้ที่เหลือทิ้ง
เธอตั้งสมมติฐานขึ้นมาเองหนึ่งข้อ
“คุณตัดสินใจหลบหนีด้วยตัวเอง”
“…”
อดีตวีรบุรุษอัสโมเฟลผู้ปรากฏกายจากคำอัญเชิญของราชาโอเวอร์เกียร์ เขาส่งรอยยิ้มที่สง่างามและองอาจมาทางเมอร์เซเดสเฉกเช่นสมัยอดีต
“ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในขุมนรกอีกต่อไป จึงตัดสินใจหลบหนีจากจักรวรรดิและความคุ้มครองของอัศวินสีชาด”
เธอเศร้าใจมาก
หากอัศวินคนใดเลือกจบเส้นทางเดินด้วยตัวเอง มิใช่คำสั่งจากผู้เป็นนาย
บุคคลผู้นั้นจะมิใช่อัศวินอีกต่อไป
เมอร์เซเดสเจ็บปวดที่บุคคลต้นแบบของอัศวินหนุ่มสาวในอดีตกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไร้เกียรติ
“ฉันคิดว่าคุณตายไปแล้ว”
ทว่า
“คุณกลับยังมีชีวิตอยู่ แถมยังเป็นพวกเดียวกับคนทรยศปิอาโร่”
เมอร์เซเดสออกแรงกำดาบคู่ในมือ
โลหิตสีแดงฉานไหลซึมจากซอกนิ้วที่กำลังสั่นระริก
“คุณเคยเป็นวีรบุรุษ แต่กลับเลือกทรยศต่อองค์จักรพรรดิและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกับเพื่อนสนิท…”
“…”
กุญแจสำคัญที่กริดหวังให้ช่วยขจัดมลทิลของปิอาโร่กลับทำให้สถานการณ์แย่ลง
แต่กริดมิได้กังวล
ขอเพียงอัสโมเฟลเปิดปาก ข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิดทั้งหมดก็จะกระจ่างชัด
“เมอร์เซเดส มีหลายสิ่งที่เธอเข้าใจผิด”
อัสโมเฟลกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตอบรับคำอัญเชิญจากกริด
“ประการแรก อัศวินสีชาดมิได้ปกป้องฉัน พวกมันคุมขังและจับตามองฉันต่างหาก เธอรู้จักอัศวินลำดับสี่ใช่ไหม?”
อัศวินลำดับสี่จะแตกต่างจากอัศวินสีชาดที่เหลือ
ตำแหน่งนี้มิได้ถูกแต่งตั้งโดยองค์จักรพรรดิ หากแต่เป็นตำแหน่งที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน
“อัศวินลำดับสี่ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบวินัยอัศวินสีชาด กลับกลายเป็นบุคคลชั่วร้ายเสียเอง”
“…”
“ตามความเห็นของฉัน อัศวินลำดับสี่มีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับวิหารยาธาน”
“…”
“คนสนิทของแมรี่ที่ชื่อไดฟ์ มันคือจอมเวทมืด…แถมยังเป็นุถึงข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด ไดฟ์คือสมุนของอัศวินลำดับสี่”
“…”
“อัศวินทุกคนที่ประจำบ้านพักของฉันด้วยเหตุผลอารักขาความปลอดภัย แท้จริงแล้วเป็นคนที่อัศวินลำดับสี่ส่งมาจับตามอง”
“…?”
เรื่องราวจากปากอัสโมเฟลผิดแผกพิสดารเกินกว่าจะทำใจเชื่อลง
โดยเฉพาะจุดที่อัสโมเฟลอ้างว่าคนสนิทของแมรี่เป็นข้ารับใช้ยาธาน
หากเป็นเช่นนั้นจริง
หมายความว่าจักรพรรดินีแมรี่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดวิหารยาธานงั้นหรือ?
นั้นเป็นไปไม่ได้แน่
เมอร์เซเดสและเหล่าอัศวินต่างปฏิเสธสิ่งที่อัสโมเฟลเล่า
“ตำแหน่งจักรพรรดินีมิใช่ใครก็เป็นได้ ราชวงศ์ซาฮารันจะทำการสืบประวัติและคัดเลือกเฉพาะหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้น ไม่มีทางที่องค์จักรพรรดินีจะมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดวิหารยาธานได้”
“เธอเคยเป็นสตรีไร้เดียงสาในช่วงแรก แต่เมื่อถึงจุดที่ความโลภเข้าครอบงำ เธอหลงระเริงในพลังอำนาจและต้องการให้บุตรชายขึ้นครองบัลลังก์ แมรี่จึงหลงผิดเข้าร่วมกับฝ่ายชั่วร้ายที่รับใช้จอมอสูร…มนุษย์ทุกคนล้วนมีธรรมชาติที่มิอาจต่อต้านสิ่งยั่วยุ”
อัสโมเฟลกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“…?”
“ฉันตกหลุมพรางความงามของแมรี่จนถลำลึก”
“อ…อะไรนะ?”
อัสโมเฟลมิได้เล่าความจริงทั้งหมด
ความจริงที่เขาถูกเวทมนตร์และแก่นพลังยาธานล้างสมองก่อนจะหลงเสน่ห์แมรี่
อัสโมเฟลไม่ต้องการใช้ข้ออ้างนี้เพื่อปกปิดความต่ำทรามที่ตนเคยกระทำกับปิอาโร่และคนสนิท
ทุกสิ่งเป็นความผิดของเขาตั้งแต่ต้น
“ใช่แล้ว…ฉันคือเศษเดนมนุษย์ที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งอัศวิน เป็นฉันเองที่ทรยศต่อองค์จักพรรดิ ปิอาโร่ไม่ผิด…เขาคือผู้บริสุทธิ์และเหยื่อที่เจ็บปวดยิ่งกว่าใครในเหตุการณ์ครั้งนั้น”
อัสโมเฟลจะเจ็บแปลบที่หน้าอกทุกครั้งเมื่อย้อนนึกถึงบาปในสมัยอดีตของตน
ความรู้สึกผิดบาปที่มีต่อปิอาโร่นั้นสลักลึกลงในจิตใจจนยากจะนำออก ลึกเทียบเท่าระยะห่างจากสวรรค์ถึงขุมนรุกชั้นสุดท้าย
“ใช่แล้ว…ต้นตอความชั่วร้ายทั้งหมดคือฉัน มิใช่ปิอาโร่และอัศวินสีชาดในอดีต”
อัสโมเฟลไม่มีสิทธิ์ร่ำไห้ขอความเห็นใจ
ดวงตาของเขาพลันแดงกำด้วยโทสะที่เจ็บแค้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวสมัยเก่า
“ฉันพยายามปกปิดความชั่วที่ตัวเองได้กระทำ…เพื่อให้ตัวเองรอด ฉันป้ายความผิดให้เพื่อนสนิทและอัศวินที่ยิ่งใหญ่มากมาย จากนั้นก็สังหารครอบครัวและคนรักของพวกเขาจนหมดสิ้น”
มันคือบาปร้ายแรงที่กระทำลงไปโดยอ้างหลักความถูกต้องบังหน้า
ร่างกายอัสโมเฟลเริ่มสั่นระริกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เขาเคียดแค้นตัวเองจากก้นบึ้งจิตใจ
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่หยุดเล่า
นั่นเพื่อขจัดมลทินทั้งหมดให้ปิอาโร่
ปิอาโร่คือเหยื่อผู้โชคร้ายที่ไม่สมควรถูกปฏิบัติเยี่ยงคนทรยศ
เป็นเหตุผลเดียวที่อัสโมเฟลยังรักษาชีวิตตัวเองให้ยืนยาวถึงทุกวันนี้
เขาหวังประกาศข้อเท็จจริงให้คนทั่วโลกได้ทราบ
“พอแค่นี้เถอะ”
ปิอาโร่พยายามห้ามปราม
เขาให้อภัยเรื่องราวทั้งหมดโดยไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกแล้ว
แต่อัสโมเฟลไม่ยอมหยุด
เขาเล่าเรื่องราวที่เหลือให้เมอร์เซเดสและอัศวินสีชาดได้รับฟังด้วยถ้อยคำสั่นระริก
“ปิอาโร่ที่พวกนายทุกคนชื่นชมและเคารพรัก เขาไม่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนแม้แต่น้อย ได้โปรดขจัดความเข้าใจผิดในตัวปิอาโร่และนำความโกรธแค้นทั้งหมดมุ่งมาที่ฉันเพียงคนเดียว”
“…”
ชายคนนี้กำลังพูดเรื่องอะไร?
เหล่าอัศวินสีชาดรุ่นใหม่ต่างพากันฉงน
แต่เมอร์เซเดสตระหนักได้ทันทีว่าอัสโมเฟสมิได้โกหก
อัศวินลำดับหนึ่งพรั่งพรูน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม
หากอัสโมเฟลเป็นคนชั่วโดยธรรมชาติจริง ปิอาโร่คงไม่มีวันให้อภัยเขาแน่
“พวกคุณ…”
ผ่านมาแล้วสิบสองปีเต็ม
วีรบุรุษหนึ่งคนต้องถูกป้ายสีในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ เขาต้องมีชะตาชีวิตที่เจ็บปวดจากการถูกหักหลัง
ส่วนวีรบุรุษอีกคนต้องใช้ชีวิตอย่างอมทุกข์โดยถูกความสำนึกผิดภายในใจกัดกินทุกวินาที
ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดจากแมรี่และวิหารยาธาน
ขณะที่เมอร์เซเดสกำลังตาสว่าง
‘…ใช่แล้ว ฉันคือผู้มีพระคุณของบุคคลที่เธอชื่นชมยังไงล่ะ! ฉันเอง!’
กริดจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเมอร์เซเดสด้วยสีหน้าโล่งใจ
ในเมื่อเธอทราบข้อเท็จจริงแล้ว
การต่อสู้ที่ไม่จำเป็นสมควรจบลงสักที
หลังจากนี้ เมอร์เซเดสต้องพิสูจน์คำพูดของอัสโมเฟลให้อัศวินสีชาดที่เหลือได้ประจักษ์
และการจะทำเช่นนั้นได้…
“ฉันต้องมีหลักฐานที่แน่ชัดกว่านี้ พวกเราจะกลับไททันและตรวจสอบคดีสิบสองปีก่อนอีกครั้งเพื่อพิสูจน์คำพูดของพวกคุณ และหากทั้งหมดคือเรื่องจริง…”
เมอร์เซเดสชะงักคำพูดพลางหันกลับไปมองเหล่าอัศวินสีชาดด้านหลัง
พวกเขาทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงด้วยสายตามุ่งมั่น ทั้งหมดยินดีติดตามเมอร์เซเดสในทุกคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง
“พวกเราจะช่วยคุณขจัดมลทินและนำตัวจักรพรรดินีแมรี่มาลงโทษ”
หากสองวีรบุรุษถูกป้ายสีดังคำกล่าวอ้าง จักรพรรดินีมีหน้าที่ต้องชดใช้อย่างสาสม
‘ก่อนอื่นต้องเริ่มสืบสวนกัปตันลิมิต’
ชายคนนั้นอยู่ฝ่ายจักรพรรดินีแมรี่มาตั้งแต่ต้น หรือ่าถูกอัศวินลำดับสี่ล้างสมองเฉกเช่นอัสโมเฟลกันแน่?
มีงานมากมายกำลังรอเมอร์เซเดสอยู่
เธอรีบหันหลังกลับไททันพลางกล่าวขึ้น
“วันนี้ฉันจะทำเป็นไม่เห็นพวกคุณ หากมีโอกาสเผชิญหน้ากันในอนาคต ได้แต่หวังว่าคมดาบของฉันจะไม่ต้องหันเข้าหาพวกคุณอีก”
ภายในใจเมอร์เซเดสต้องการคุกเข่าลงต่อหน้าคนทั้งสอง เธออยากตำหนิพวกเขาที่ไม่ยอมบอกกล่าวความจริงให้เร็วกว่านี้
แต่นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้
เมอร์เซเดสต้องรักษาภาพพจ์อันสง่างามของผู้นำกองอัศวินสีชาดจนกว่าความจริงจะกระจ่าง
เธอหันมาก้มศีรษะให้กริดอย่างนอบน้อมจากก้นบึ้งหัวใจ
“ราชาโอเวอร์เกียร์ ฉันขออภัยที่ทำตัวเสียมารยาทเมื่อครู่ หวังว่าคุณจะเข้าใจและยอมยกโทษให้”
“…”
“เหตุการณ์ในวันนี้สำคัญต่อฉันมาก แล้วฉันจะหาโอกาสตอบแทนบุญคุณที่ช่วยดูแลผู้มีพระคุณทั้งสอง แม้อาจต้องแลกด้วยทุกสิ่งที่ฉันมี”
“แลกด้วยทุกสิ่ง…?”
กริดแสยะยิ้ม
“ตกลง…แล้วฉันจะรอ"
หัวใจของเขากำลังเต้นโครมคราม
[ ค่าความสัมพันธ์กับอัศวินสีชาดลำดับหนึ่ง ‘เมอร์เซเดส’ เพิ่มขึ้น 20 หน่วย ]
ข้อความระบบทำให้กริดเริ่มตระหนักได้
การเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC พิเศษไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด
‘เธอยกย่องเทิดทูนปิอาโร่และอัสโมเฟลมาก หากความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยในภายหลัง เธอจะตอบแทนเราอย่างมหาศาลแน่’
แต่เมอร์เซเดสอาจตกที่นั่งลำบากระหว่างการสืบสวนเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิ
มีโอกาสสูงที่เมอร์เซเดสจะถูกขัดขวางการทำงานและถูกป้ายสีให้เป็นผู้ทรยศเฉกเช่นปิอาโร่
กริดต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
นั่นจะเป็นโอกาสทองในการชิงตัวเมอร์เซเดสมาจากอ้อมอกจักรวรรดิ
“ทุกคนถอยทัพ”
เมอร์เซเดสออกคำสั่งอัศวินสีชาดพลางเดินไปหาคนสนิทที่ยืนเฝ้าม้าอยู่ไม่ห่าง
ชื่อของมันคือ ‘สกาย’
เป็นผู้เล่น
สกายกำลังสวมหมวกเหล็กปิดบังใบหน้ามิดชิด กริดจึงไม่มีทางทราบว่ามันคือผู้เล่น
‘คุคุคุ…เจ๋งเป้ง!’
สกายกำลังตื่นเต้นที่มันบังเอิญได้รับรู้เศษเสี้ยวความลับของอัศวินสีชาด
สกายเข้าใกล้ความฝันที่จะเปลี่ยนเมอร์เซเดสให้กลายเป็นทาสไปอีกก้าว
‘ฉันจะรีบไปแจ้งข่าวกับจักรพรรดินี! ขอบใจมากกริด! คุคุคุ!’
ซาทิสฟายมิได้เป็นเพียงโลกเสมือนจริง
แต่มันคือโลกใบใหม่ที่ผู้คนกล้าทำชั่วมากกว่าโลกปรกติ ประหนึ่งเป็นสถานที่ไว้สำหรับปลดปล่อยด้านมืดของมนุษย์
ผู้คนกว่าสองพันล้านกำลังแก่งแย่งชิงดีและไขว่คว้าเป้าหมายของตนในทุกวินาที
ไม่มีทางที่ผู้เล่นคนใดจะประสบความสำเร็จดั่งใจไปตลอดรอดฝั่ง
“คาซิม”
>> ขอรับ
“ปิดปากคนที่แอบฟังบทสนทนาระหว่างเมอร์เซเดสและอัสโมเฟล”
>> ฝ่าบาทหมายถึงคนสนิทของอัศวินลำดับหนึ่ง...? กระหม่อมอาจถูกเธอพบตัวก่อนลงมือสำเร็จ
“ไม่เป็นไร เมอร์เซเดสต้องเข้าใจแน่ ในกรณีเลวร้ายที่สุด เธออาจขัดขวางการลอบสังหารของนาย แต่หลังจากนั้นจะลดขั้นตำแหน่งของคนสนิทแน่นอน”
กริดหรี่ตาลง
“เธอทราบดีว่ามีอุปสรรคและภัยอันตรายมากมายกำลังรออยู่ คนฉลาดอย่างเมอร์เซเดสไม่มีทางมองข้ามปัจจัยที่อาจก่อปัญญาตามมาแน่”
>> เข้าใจแล้ว
กริดในปัจจุบันสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทางความคิดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
การเดินทางของชายหนุ่มที่จะกลายเป็นยิ่งกว่ามหาตำนานในอนาคต…
ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลนัก
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,218
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ว่าแล้ว ต้องสนุกมาก จะได้เมอร์เซเดสมาเป็นเบ้อีกคนแล้ว กว่าจะถึงตอนนั้นก็คงอีกนานเลย รอต่อไป คนอ่าน 😂🙏ขอบคุณที่แปลครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากค้าบบ 🙏
ReplyDeleteตอนต่อไปรอยุนะ
ReplyDeleteเมอร์เซเดส จะเป็นหนึ่งในฮาเร็มของกริด ส่วนปิอาโร่จะได้กับเอลฟ์
ReplyDelete