จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 785
“อันนี้ก็อร่อย”
จักรพรรดิฮวนเดอร์แสดงสีหน้าพึงพอใจกับอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟ
เหล่าขุนพลที่เหลือก็เช่นกัน
ตำหรับอาหารหลวงจักรวรรดิถูกขนานนามให้มีรสชาติโดดเด่นที่สุดในทวีปมาช้านาน
แต่อาหารในวันนี้กลับมีรสชาติกลมกล่อมมากเป็นพิเศษ
ดูเหมือนหัวหน้าพ่อครัวจะแสดงฝีมือได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองเยี่ยมเยียน
‘ฮุฮุฮุ! ไอ้บ้านนอกนี่คงกำลังทึ่งกับรสชาติอยู่สินะ’
ราชาท้องฟ้า ‘รีกัล’ กำลังเฝ้ามองท่าทีของกริด มันได้ยินว่าอาหารขึ้นชื่อของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือมันฝรั่ง
รีกัลต้องการเห็นว่ากษัตริย์อาณาจักรเล็กที่ชื่นชอบอาหารสุกรจะมีท่าทีเช่นไรต่อตำหรับอาหารหลวงจักรวรรดิที่แสนเลอค่า
และเป็นไปตามที่มันคาด
“อาหารที่นี่อร่อยมาก โดยเฉพาะอาหารที่ทำจากแป้ง”
ท่าทีของกริดตรงตามที่รีกัลคาดหมาย
ชายคนนี้ชื่นชมอาหารตำหรับวังหลวงไม่ขาดปาก
จักรวรรดิซาฮารันยอดเยี่ยมในศาสตร์ทุกแขนงไม่เว้นแม้แต่การปรุงอาหาร
ถ้อยคำชื่นชมของกริดยิ่งทำให้จักรพรรดิพึ่งพอใจ
รีกัลปรบมือเสียงดังเมื่อเห็นรอยยิ้มของจักรพรรดิ หัวหน้าพ่อครัวรีบวิ่งเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ร…เรียกกระหม่อมงั้นหรือ”
การถูกเรียกตัวขณะจักรพรรดิกำลังลิ้มรสอาหารไม่ใช่เรื่องดีนัก
สีหน้าของหัวหน้าพ่อครัวกำลังหวาดผวา เขากังวลว่าตนกระทำสิ่งใดผิดพลาดจนองค์จักรพรรดิทรงกริ้ว
รีกัลกล่าวกับหัวหน้าพ่อครัวที่ยืนเหงื่อไหลเป็นสายน้ำ
“ช่วยอธิบายรายละเอียดอาหารในวันนี้ให้แขกพิเศษของเราฟังสักหน่อย ฉันมั่นใจว่าเขาไม่คุ้นเคยกับตำหรับอาหารหลวงจักรวรรดิอันยอดเยี่ยมสักเท่าไร ฝากนายจัดการด้วย”
อาหารทุกจานมีปูมหลังและประวัติศาสตร์ การได้เรียนรู้ระหว่างทานจะช่วยเพิ่มอรรถรสได้อีกมาก
แม้รีกัลจะอ้างหลักการข้อนี้ แต่ความจริงแล้วมันเพียงต้องการเย้ยหยันกริด
สายตาของมันเปี่ยมด้วยความสมเพชในยามเหลือบมองราชาโอเวอร์เกียร์
แต่กริดมิได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เขาแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางดื่มด่ำไปกับสถานการณ์ตรงหน้า
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใย เซอร์รีกัล”
“เรื่องเล็กน้อย…”
รีกัลทึ่งกับท่าทีเฉยเมยที่กริดแสดงออก
‘หรือว่ามันจะไม่เข้าใจสถานการณ์?’
กริดไม่รู้ตัวเองงั้นหรือว่ากำลังถูกทำให้เป็นตัวตลก? ทั้งที่ออกจะเด่นชัดขนาดนี้
เรเชลส่ายศีรษะให้กับรีกัลพลางกล่าวตำหนิ
“นิสัยเด็กชะมัด ทำไมนายถึงชอบกลั่นแกล้งคนอ่อนแอนัก?”
“อย่างเธอกล้าพูดคำนี้ด้วยหรือ? ฉันยังจำสมัยที่เธอแกล้งฉันจนเกือบตายได้ไม่มีวันลืม ทำเอาฝันร้ายไปหลายปี”
คนทั้งสองสนิทกันตั้งแต่เด็ก
และวงศ์ตระกูลของทั้งคู่ใกล้ชิดกันมาก
แต่บรรยากาศความทรงจำวัยเด็กกลับคงอยู่ได้ไม่นาน
“ท…ท่านราชาโอเวอร์เกียร์คงทราบดีอยู่แล้ว อาหารทุกจานในวันนี้ถูกปรุงจากแป้งสาลีของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์”
“…!”
“…?”
ถ้อยคำที่คาดไม่ถึงของหัวหน้าพ่อครัวทำให้ทุกคนในงานพากันทึ่ง
จักรพรรดิฮวนเดอร์เริ่มขมวดคิ้ว
แน่นอนว่ากริดกำลังอมยิ้ม
“นั่นสินะ ถึงว่าทำไมอาหารจากแป้งถึงมีรสชาติคุ้นเคยนัก ที่แท้เพราะใช้แป้งจากโอเวอร์เกียร์นี่เอง”
“เป็นเช่นนั้นขอรับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ราชาโอเวอร์เกียร์ทรงใจกว้างถวายแป้งสาลีอันดับหนึ่งของทวีปให้ผู้คนจักรวรรดิลิ้มลอง”
หัวหน้าพ่อครัว
เขาเป็นเพียงพ่อครัวไร้เดียวสาคนหนึ่ง
มิใช่นักการเมืองที่ต้องประจบสอพลอ
เขาตระหนักได้ตั้งแต่แรกเห็นถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของแป้งสาลีจากโอเวอร์เกียร์
หัวหน้าพ่อครัวกล่าวเทินทูนให้แป้งชนิดนี้คืออันดับหนึ่งของทวีปโดยไม่เคอะเขิน
น่าเสียดายที่เขาคงสูญเสียตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวไปในวันนี้
กริดชำเลืองมองสีหน้าที่กำลังบิดเบี้ยวของรีกัลและพยายามกลั้นขำไว้อย่างสุดความสามารถ
‘เราจะเผลอตัวไม่ได้เด็ดขาด’
การเป็นบุคคลใจกว้างย่อมดีกว่าการเป็นบุคคลจิตใจคับแคบ
กริดวางตนอย่างเฉลียวฉลาดโดยคำนึงถึงหน้าตาอาณาจักร
“สมกับเป็นหัวหน้าพ่อครัวแห่งตระกูลซาฮารัน สามารถตระหนักถึงคุณค่าของแป้งได้ตั้งแต่แรกเห็น กระหม่อมอิจฉานักที่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิมีพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้คอยปรุงอาหารให้ทานทุกวัน”
“ท…ท่านราชาโอเวอร์เกียร์กล่าวชมเกินไปแล้ว”
หัวหน้าพ่อครับพลันสั่นสะท้านไปกับคำเยินยอจากกริด เขารีบก้มศีรษะปฏิเสธอย่างนอบน้อมหลายครั้ง
ขณะเดียวกัน
จักรพรรดิที่เคยมีสีหน้าบูดบึ้งเมื่อครู่ บัดนี้เริ่มกลับมาอมยิ้มอีกครั้ง
เขารู้สึกชื่นชมการวางตัวของกริด
กริดช่วยพูดเพื่อมิให้หัวหน้าพ่อครัวต้องตกงาน
“ราชาโอเวอร์เกียร์กล่าวถูกต้องแล้ว เรามีความสุขเพราะพ่อครัวประจำตระกูลคนเก่งสามารถดึงประสิทธิภาพของวัตถุดิบชั้นเยี่ยมออกมาได้ถึงขีดสุด”
ฮวนเดอร์ปรบมือหนึ่งครั้ง
“เอาล่ะ! ตอนนี้ได้เวลาลิ้มรสไวน์พันปีแสนหายากแล้ว ทุกคนเชิญดื่ม!”
“แด่องค์ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ!”
กริดทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงรับรองเป็นไปอย่างผ่อนคลาย
ทั้งจักรพรรดิ กริด และเหล่าขุนพลต่างมองข้ามความบาดหมางพลางดื่มด่ำไปกับไวน์รสเลิศ
ฮวนเดอร์รู้สึกขอบคุณทุกคนที่เก็บงำอารมณ์ส่วนตัวไว้ในใจเพื่อรักษาบรรยากาศส่วนรวม
‘ชิ!’
ณ มุมหนึ่งของงานเลี้ยง ลิมิตที่กำลังเคี้ยวอาหารด้วยสีหน้าบูดบึ้งพลันลุกพรวด
มันสะบัดก้นเดินออกจากงานตรงไปยังวังจักรพรรดินี
***
“หมอนั่นคงผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากมาไม่น้อย”
ลิมิตเริ่มประเมินกริดให้แมรี่ฟัง
“ชายคนนั้นสามารถอ่านสถานการณ์ได้ยอดเยี่ยม มีไหวพริบเฉียบแหลมและสะกดอารมณ์ตัวเองได้อยู่หมัด มันสามารถทนทานต่อคำยั่วยุและสวนกลับได้อย่างคมคาย”
ขณะนั่งจ้องเล็บตัวเอง
แมรี่เริ่มแสดงความสนใจ
“น่าแปลกจัง ฉันเคยคิดว่าเขาใช้พลังอำนาจก่อตั้งอาณาจักรอย่างป่าเถื่อนเสียอีก”
“กระหม่อมก็เคยคิดเช่นนั้น แต่เมื่อลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วน บางทีเนื้อแท้ของกริดอาจเป็นนักการเมืองโดยกำเนิด”
คำว่า ‘โดยกำเนิด’ ช่างตรงกันข้ามกับความเป็นจริงเสียเหลือเกิน
กริดคือบุคคลที่เคยบกพร่องในทุกด้าน
แต่ลิมิตย่อมไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน
ดังที่มันกล่าวไว้ กริดคนปัจจุบันถูกหล่อหลอมจากสถานการณ์ยากลำบากมากมายนับไม่ถ้วน
เป็นกริดร่างที่พัฒนาและถูกขัดเกลาจนแวววาว ถึงขั้นที่ตัวตนอย่างลิมิตต้องออกปากชื่นชม
“มันคือศัตรูที่รับมือได้ยากดังที่เวอราดินกล่าวไว้”
เวอราดิน
ชายปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและได้รับความชื่นชอบจากจักรพรรดินีอย่างล้นหลาม
ลิมิตเคยเคลือบแคลงเวอราดินอยู่หลายส่วน แต่ความเฉียบแหลมของเวอราดินทำให้มันสลัดความคิดทิ้งไป
“ถูกต้อง พวกเราต้องลอบโจมตีกริดระหว่างเดินทางกลับตามแผนของเวอราดิน หากแผนการสำเร็จ กริดต้องฉีกสัญญาสงบศึกที่เคยทำกับองค์จักรพรรดิแน่ กระหม่อมจะนำเรื่องนี้ไปกำชับอัศวินสีชาดให้เรียบร้อย”
“ตกลง ฉันจะบอกอิมมอทัลให้เตรียมตัวไว้ อย่าทำให้ฉันผิดหวังเด็ดขาด”
แมรี่แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางผงกศีรษะเล็กน้อย
ตัวเธอที่มีปูมเป็นหลังเพียงบุตรสาวตระกูลขุนนางแสนธรรมดา กลับสามารถชี้นิ้วออกคำสั่งหนึ่งในเจ็ดดยุคแห่งจักรวรรดิได้
ความจริงข้อนี้กำลังทำให้แมรี่มีความสุขล้นปรี่
จะเกิดอะไรขึ้นหากบุตรชายของตนขึ้นครองบัลลังก์สำเร็จ?
เธอจะได้ครอบครองอำนาจล้นพ้น
แมรี่พลันขุนลุกเพียงแค่ได้จินตนาการ
***
>> จักรพรรดิเป็นคนเช่นไร?
รอบนอกอาณาเขตมหานครไททัน
ขณะกริดกำลังเดินทางกลับผ่านสองสองข้างถนนที่เปี่ยมด้วยชาวเมืองยืนโบกมืออำลา
สุ้มเสียงของคาซิมดังมาจากเงามืด
‘แม้จะมีข่าวลือมากมายว่าชายคนนั้นเป็นทรราชย์บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้วฮวนเดอร์เป็นคนดีกว่าที่คิดไว้ เขาอาจเป็นผู้ปกครองที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว’
กริดทำได้เพียงคิด
เขาไม่กล้าตอบคาซิมไปเช่นนี้
สำหรับคาซิม จักรพรรดิฮวนเดอร์คือบุคคลที่สมควรตายมากที่สุดในโลก
กริดตัดสินใจตอบอย่างระมัดระวังโดยคำนึงถึงความรู้สึกอีกฝ่าย
“จักรพรรดิก็ยังเป็นจักรพรรดิวันยังค่ำ เจ้านั่นโอหังสมคำร่ำลือ”
>> …ฝ่าบาทเปลี่ยนไปมาก
“…หือ?”
>> แตกต่างจากสมัยอดีต ฝ่าบาทไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนพูดทุกครั้ง
คาซิมเฝ้ามองกริดจากเงามืดนับตั้งแต่ลอร์ดถือกำเนิด
หมายความว่าเขารู้จักตัวตนของกริดสมัยที่ยังเต็มไปด้วยความคิดด้านลบ
คาซิมเฝ้ามองพัฒนาการของกริดทุกวันจนตระหนักได้ว่าชายคนนี้พัฒนามาจนถึงระดับที่น่าทึ่ง
>> ฝ่าบาทมิต้องเกรงใจ กระหม่อมเพียงอยากได้ยินความเห็นที่ตรงไปตรงมา จักรพรรดิฮวนเดอร์เป็นคนเช่นไรกันแน่?
คาซิมทวนซ้ำคำถามเดิม
กริดตอบโดยไม่หลีกเลี่ยง
“เขาไม่ได้เห็นแก่ตัวอย่างที่ฉันคิดไว้”
ผู้ปกครองสูงสุดของทวีป
กริดจะไม่แปลกใจเลยหากชายคนนี้เปี่ยมด้วยความบ้าอำนาจ ป่าเถื่อน และเห็นแก่ตัว
แต่จักรพรรดิที่กริดได้รู้จักกลับเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้างและให้เกียรติผู้อื่นมาก
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่าฮวนเดอร์คือบุคคลที่มีจิตใจงดงามกว่ากริดสมัยเพิ่งได้รับพลังตำนานของแพ็กม่า
“เขามีพวกพ้องที่พึ่งพาได้จำนวนมาก”
>> …
“แต่ชายที่ชื่อฮวนเดอร์คนนั้น…”
กริดทราบดี
“สิ่งที่ฉันสัมผัสได้อาจเป็นเพียงฉากหน้าบดบังความชั่ว ในฐานะจักรพรรดิผู้บงการทุกสิ่ง ความโหดร้ายป่าเถื่อนของจักรวรรดิซาฮารันที่พวกเรารับรู้คือความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้”
ประวัติศาสตร์อันยาวนานได้บันทึกทุกสิ่งไว้อย่างละเอียด
ราชวงศ์ซาฮารันต้องสังหารผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนก่อนจะได้ตำแหน่งจักรพรรดิมาครอบครอง
“พวกเราหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับชายคนนั้นไม่ได้ เขาคือบุคคลที่เราต้องจัดการให้สิ้นซากในอนาคต ดังนั้นนายคิดถึงการแก้แค้นไว้ก็พอ”
แรงขับเคลื่อนของคาซิมคือความแค้นที่มีต่อจักรวรรดิ
คาซิมจะยิ่งพัฒนาตนเองเมื่อถูกความแค้นเข้าครอบงำ
กริดต้องการให้คาซิมแข็งแกร่งขึ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
“วันนี้ฉันไม่เห็นห้าเสาหลักแม้แต่คนเดียว มีเพียงเจ็ดดยุคและอัศวินสีชาด ฉันเข้าใจผิดคิดว่าพวกมันคือห้าเสาหลักในตอนแรก”
หมายความว่าทุกคนล้วนแข็งแกร่งระดับสัตว์ประหลาด
กริดไม่อยากนึกภาพตาม
ห้าเสาหลักที่ได้รับความไว้วางใจจากฮวนเดอร์จะแข็งแกร่งมากเพียงใด
เขารอดชีวิตจากไคล์อย่างหวุดหวิดเพราะภารกิจบราฮัมมูมัดช่วยประสานการโจมตีหน้าหลัง
กริดและกองทัพอาเรสอาจถึงคราวพังพินาศหากไม่มีบราฮัมในตอนนั้น
“คาซิม นายต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป็นแขนขาให้ฉัน”
>> ขอรับ
กริดบรรลุความใฝ่ฝันไปแล้วหนึ่งข้อ
เขากลายเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งต่อหน้าคนทั่วโลก
กริดในปัจจุบันจะไม่ถูกใครดูแคลนอีกแล้ว
ตรงกันข้าม เขาคือเป้าหมายที่ผู้เล่นซาทิสฟายทั่วโลกล้วนยึดถือเป็นเยี่ยงอย่าง
แต่นั่นหมายถึงโลกความจริง
หากเป็นโลกใบใหญ่ที่ชื่อว่าซาทิสฟาย ตัวตนของกริดยังคงลีบเล็กและอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องคนสำคัญจากศัตรูในอนาคต
พลัง…เข้าต้องการพลังมากกว่านี้
กลุก กลุก กลุก
รถม้าของกริดเคลื่อนผ่านป่ามืดทึบสองข้างทางอย่างเชื่องช้า
เป็นความเร็วที่ทหารเดินเท้าและขบวนเสบียงสามารถตามทันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย
นี่คือสิ่งที่กริดกำชับต่อพลขับ
ราชาโอเวอร์เกียร์เติบโตกลายเป็นราชาผู้มีไหวพริบและห่วงใยผู้อื่น
“ช่างน่าขัน”
ใจกลางป่าลึกอันมืดมิด
เวอราดินเอ่ยปากเมื่อได้เห็นรถม้าของกริดวิ่งด้วยความเร็วแสนเชื่องช้า
“การกระทำของมนุษย์มีขึ้นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ มนุษย์จะกระทำในบางสิ่งเพื่อหวังผลตอบแทนจากการกระทำนั้น”
เวอราดินกล่าวต่อไป
“ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือความใคร่ มนุษย์เกิดความใคร่เพราะธรรมชาติต้องการให้สืบพันธ์ แสดงให้เห็นว่าทุกการกระทำของมนุษย์ล้วนหลังผลตอนแทนล่วงหน้า”
ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยของมันเริ่มแสยะยิ้มชั่วร้าย
“กริดมีความปรารถอย่างแรงกล้าที่จะให้ผู้คนยอมรับ บุคคลที่ถูกดูแคลนมาทั้งชีวิตย่อมต้องการถ้อยคำชื่นชมจากคนรอบข้าง กริดหวังให้คนทั่วโลกยอมรับนับถือในตัวมัน”
“…”
“กริดสั่งให้รถม้าเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าเพราะมันต้องการให้ทหารยอมรับนับถือ มิใช่เพราะความห่วงใย”
กริดเป็นมนุษย์ที่ชอบสร้างภาพ
ด้วยเหตุนี้ ความแค้นในใจกริดจึงรุนแรงเป็นพิเศษ
เขากังวลว่าตนจะถูกคนทั่วโลกดูแคลนอีกครั้งหากปล่อยให้ศัตรูหยามเกียรติโดยไม่แก้แค้นให้สาแก่ใจ
แต่แผนการแก้แค้นของกริดกลับเลยเถิดกว่าที่เวอราดินจินตนาการไว้มาก
“แกก็แค่มนุษย์แสนธรรมดา”
ใบหน้าเวอราดินกลับมาเรียบเฉยอีกครั้งขณะพวกมันลอบคืบคลานเข้าใกล้รถม้า
มนุษย์เฉกเช่นกริดมีมากมายดาษดื่นบนโลก มิใช่ตัวอย่างทดลองแปลกใหม่ที่เวอราดินสนใจ
เทียบกับกรณีของแอ็กนัส
ชายคนนั้นมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะ ‘ลืมอดีต’ มันจึงกระทำทุกสิ่งเพื่อให้ตัวเองสนุกและหลงลืมความทรงจำไปชั่วครู่
กรณีของแอ็กนัสพิเศษกว่าใครทั้งหมด
เวอราดินต้องการเฝ้ามองแอ็กนัสให้นานกว่านี้
ในการจะใกล้ชิดแอ็กนัส มันจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ให้อีกฝ่ายซมซานกลับมาหาอย่างไม่มีทางเลือก
“ถึงเวลาแล้ว…”
เวอราดินกำสร้อยคอวิญญาณในมือพลางถ่ายพลังเวทเข้าไป
“กริด…แกกำลังฝืนตัวเองอยู่ จงตายไปพร้อมกับความอาฆาตที่รุนแรงยิ่งขึ้น”
จงมุ่งเป้าความเคียดแค้นไปที่แอ็กนัส
จงกระตุ้นความคลุ้มคลั่งของแอ็กนัสให้มากกว่านี้
แอ็กนัสจะซมซานกลับมาหาเวอราดินอีกครั้งเมื่อมันถูกกริดบีบเค้นจนถึงขีดสุด
“อัญเชิญอัศวินความตาย”
ซู่วว—
ไคโรที่เกือบสังหารข่านสำเร็จกำลังปรากฏกายจากพื้นดินตามคำสั่งเวอราดิน
อัศวินโครงกระดูกและจอมเวทโครงกระดูกนับร้อยกำลังรายล้อมรถม้าของกริดไว้ทุกทิศทาง
‘แบบนี้ดีแล้วจริงหรือ…’
ดวงตาของอัศวินลำดับหนึ่ง ‘เมอร์เซเดส’ กำลังเศร้าหมองเมื่อได้เห็นสถานการณ์เบื้องหน้า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,216
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอบคุณมากครับ 😁
ReplyDeleteจับไอ้เวอราดินมันไปทรมานเลยกริด อย่าฆ่ามันให้ตาย ทรมานมันให้สาสม มันจะได้จำและไม่กล้าอีก
ReplyDeleteฮิวรอยคือทรมารสุด แต่พวกอาเรสคือ เลิกตามครอเกลแล้วใช่มั้ย
Deleteลุ้นครับขลุ้นครับขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ
ReplyDeleteก่อนที่มึงจะมาเป็นนักจิตวิทยานะเวอราดิน มึงควรไปรักษาอาการทางจิตก่อน น่าจะหนักพอตัว
ReplyDeleteถ้ากริดอัญเชิญ ปิอาโร่ แล้วได้เจอกับ เมอร์เซเดส จะเกิดอะไรขึ้น🤨🤔🤔
ReplyDelete