จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 797
“เหลวไหลสิ้นดี!”
แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ขุนพลอิมมอทัลได้ย้อนชมวิดีโอต่อสู้ในการแข่งนานาชาติครั้งที่ผ่านมาซ้ำหลายหน
นับตั้งแต่พิธีเปิดไปจนถึงพิธีปิด พวกมันพิจารณาวิดีโอการแข่งโดยไม่พลาดแม้แต่รายการเดียว
ทุกคนย่อมรู้จักทักษะที่คร่าชีวิตทาร์ม่าภายใน 1.2 วินาทีเป็นช่างดี
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าทักษะดังกล่าวจะบดขยี้เวอราดินให้ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
ทำไมน่ะหรือ?
เพราะเวอราดินคือผู้เล่นคลาสหมอผีที่มีความถึกทนในระดับเหนือจินตนาการ
หลักฐานพิสูจน์คือเมื่อครั้งเหตุการณ์รุกรานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
เวอราดินกำราบเฟคเกอร์อย่างอยู่หมัด
มันรอดชีวิตจากทักษะที่ทรงพลังของนักลอบสังหาร จึงเป็นการยากที่เวอราดินจะเสียชีวิตในพริบตาไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ใด
ยิ่งไปกว่านั้น…
‘เป็นทักษะโจมตีวงกว้างด้วยรึไง?’
ในวินาทีที่เพลิงทมิฬกระจายตัว ผู้เล่นคลาสหมอผีนับสิบคนรอบตัวเวอราดินต่างเสียชีวิตไปพร้อมกัน
เหล่าสมาชิกอิมมอทัลแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น เหตุใดทักษะสุดโกงที่รุนแรงและไม่ต้องเสียเวลาร่ายถึงมีระยะโจมตีกว้างมากขนาดนี้?
‘เป็นเพราะทักษะเกรดตำงานงั้นหรือ?’
เสียงกลืนน้ำลายอย่างหวาดผวากำลังดังระงมไปทั่วบริเวณ
จนกระทั่งใครบางคนตัดสินใจทำลายความเงียบงัน
ผู้คลาสหมอผีลำดับสอง บุลเล็ต
“ก…กระจายตัว! ล้อมมันไว้ทุกทิศ!”
หมอผีลำดับเจ็ด ‘เดอลู’ เสริมขึ้น
“อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!”
“อ…อึ๋ย!”
ความหวาดกลัวคือธรรมชาติของมนุษย์เพื่อให้เผ่าพันธุ์ดำรงอยู่ต่อไป
กลุ่มหมอผีที่กำลังทึ่งกับพลังทำลายเริ่มได้สติคืนกลับมาเมื่อได้ยินเสียงตะโกนปลุกใจ
พวกมันอัญเชิญอันเดดและโครงกระดูกจำนวนมากออกมาขวางทางกริด โดยที่ตัวผู้ร่ายกำลังรักษะระยะห่างให้ไกลที่สุด
แต่ก็มีอีกหลายส่วนที่ตัดสินใจวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต คนกลุ่มนี้คือเหยื่อลำดับแรก
“พวกแกคิดจะหนีไปไหน?”
ไม่มีการละเว้นชีวิตเกิดขึ้น ภาพตรงหน้าคือฉากสังหารหมู่อันแสนโหดเหี้ยม
กริดหมายสลักความหวาดกลัวลงในจิตใจผู้เล่นสวะที่บังอาจทำให้ข่านเจ็บปวด
เขากระทำเช่นนี้เพราะเคยพบเจอมนุษย์มาแล้วหลายประเภท
“มายา”
ซู่วว—
กริดเริ่มรำดาบท่ามกลางกลุ่มผู้เล่นหมอผีและโครงกระดูก
เส้นผมที่เรียบตรงเริ่มลุกโชนขึ้นจากแรงโน้มถ่วงที่พลิกผัน
เศษละอองหินบนพื้นซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของเพลิงทมิฬเริ่มถูกดูดลอยขึ้นไปในอากาศ
เป็นสัญญาณว่ากริดเปลี่ยนได้เป็นโหมดโจมตีระยะไกลโดยสมบูรณ์
บึ้ม!
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ—
เขาครอบครองความเร็วโจมตีสูงสุดด้วยบัฟร่างมืด
หกครั้งในหนึ่งวินาที
หมายความว่าจะเกิดรัศมีดาบสีดำจำนวนหกเส้นทุกหนึ่งวิ
กริดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาคือเครื่องจักรสังหารหมู่ที่ไร้ความปราณี
“ว๊ากกก!”
“อั่ก! แค่ก…!”
กลุ่มหมอผีซึ่งคิดจะเอาตัวรอดตามลำพังล้วนถูกรัศมีดาบสีดำปะทะใส่แผ่นหลังจนล้มลงอย่างหมดสภาพ
ธรรมชาติของหมอผีมักมีพลังป้องกันและพลังชีวิตไม่มากนัก เกือบทั้งหมดจึงเสียชีวิตคาที่เมื่อเกิดระเบิดเพลิงทมิฬหนึ่งระลอก
ใครที่ถึกทนหน่อยจะรอดมาได้อย่างฉิวเฉียด แต่ก็ต้องถูกอาการมึนงงครอบงำเพราะได้รับความเสียหายปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น
“ลูบาอัน!”
เสียงตะโกนของบุลเล็ตที่ฟังดูคล้ายเสียงหวีดร้องได้กังวาลไปทั่วสนามรบ
อัศวินความตายลูบาอันพุ่งโจมตีตามเจตจำนงผู้เป็นนาย
โฮกกกกก!
ลูบาอันเป็นนักรบเผ่าออร์คที่แข็งแกร่งสมัยยังมีชีวิต อาวุธคู่กายของมันคือง้าวใหญ่ที่ยาวกว่าสองเมตร
ช่องว่างของกริดถูกเผยขณะเขากำลังไล่ฆ่าหมอผีที่พยายามหลบหนี
ลูบาอันไม่รีรอ มันควงง้าวสะบัดใส่กริดอย่างเต็มแรง
‘สมบูรณ์แบบ!’
บุลเล็ตกำลังเกิดความหวัง
พลังโจมตีของลูบาอันเหนือกว่าอัศวินความตายระดับเดียวกันค่อนข้างมาก
เหนือกว่าไคโรที่เวอราดินแสนภาคภูมิใจด้วยซ้ำ
บุลเล็ตเชื่อว่ากริดต้องถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่
ทว่า…
เคร้งงงง!
เมื่อคมง้าวในมือลูบาอันสัมผัสกับไหล่ขวาของกริด ข้อความระบบที่แสดงตรงหน้าได้ทำให้บุลเล็ตจิตใจหลุดลอย
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,430 หน่วย ]
[ หมอกพิษหนาทึบปรากฏ ]
[ อัศวินความตายลูบาอันถูกพิษครอบงำ ]
“…บ้าบอสิ้นดี”
ชุดเกราะที่มีพลังป้องกันเยี่ยงสัตว์ประหลาดสามารถสร้างหมอกพิษได้ยังไง?
‘กริดโกงขนาดไหนกันแน่…?’
บุลเล็ตย่อมเคยเห็นฉากที่กริดสร้างความเสียหายชนิดฟ้าถล่มแผ่นดินทลายใส่มังกรบันเฮเลียร์
แต่ท้ายที่สุด กริดก็ถูกมังกรสังหารจนเสียชีวิตในพริบตาเฉกเช่นครอเกล
ยิ่งไปกว่านั้น
ถึงกริดจะชนะในการดวลกับครอเกล แต่สภาพของเขาก็ดูไม่จืดเช่นกัน
ใช่แล้ว…กริดมีพลังโจมตีระดับสัตว์ประหลาดก็จริง แต่ชายคนนั้นมีพลังป้องกันระดับเดียวกับมนุษย์ปรกติทั่วไป
บุลเล็ตรั้งอันดับสองจากบรรดาผู้เล่นหมอผีหลายแสนคนทั่วโลก
มันเชื่อว่าตนมีพลังโจมตีไม่ด้อยไปกว่าแรงเกอร์อย่างครอเกล
ใช่แล้ว…มันเคยมั่นใจว่าตัวเองสามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กริดได้
แต่นั่นเป็นความโอหังที่ผิดถนัด
ช่างไม่รู้จักประมาณตนเอาเสียเลย…
บุลเล็ตรู้สึกอับอายและเจ็บแค้น
‘เราเป็นแค่คางคกในบ่อน้ำ…’
ตัวมันกับกริดอาศัยอยู่คนละภพมิติ
ขณะบุลเล็ตกำลังตกตะลึงในข้อความระบบที่ไม่คาดคิด
[ อัศวินความตายลูบาอันกลับสู่ธุลีดิน ]
เมื่อได้เห็นอัศวินความตายสุดแกร่งของตนสิ้นชีพในพริบตา บุลเล็ตรีบตะโกนขึ้นอย่างสุดเสียง
“ระเบิดศพเร็วเข้า! ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว!”
กลุ่มหมอผีที่กำลังสิ้นหวังเมื่อถูกผู้เล่นเพียงคนเดียวไล่ฆ่า พวกมันเริ่มพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ระเบิดศพ—เวทมนตร์สุดโกงที่จะสร้างความเสียหายตามเปอร์เซนต์พลังชีวิตศัตรูโดยการทำลายอันเดดที่ตัวเองอัญเชิญ
ข้อเสียเดียวคือการต้องยอมสละอันเดดที่อัญเชิญออกมาอย่างยากลำบาก แต่พลังทำลายนับว่ายอดเยี่ยมสมกับสิ่งที่แลกมา
พวกมันประเมินว่าการต่อสู้ยืดเยื้อกับกริดไม่ใช่สิ่งฉลาดนัก และระเบิดศพคือทางออกที่ดีที่สุดของสถานการณ์ปัจจุบัน
บึ้มมมม—
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,900 หน่วย ]
พวกมันต่างสงเสียร์เชียร์อย่างดีใจในวินาทีที่อันเดดรอบตัวกริดเริ่มระเบิดอย่างพร้อมเพรียง
“เจ๋งเป้ง!”
เป็นครั้งแรกที่เหล่าหมอผีได้เห็นกริดกระอักเลือดนับตั้งแต่เริ่มต่อสู้
อันเดดอีกหลายร้อยตัวต่างรีบกรูเข้าหากริดประหนึ่งมือระเบิดพลีชีพ เป็นภาพที่พบเห็นได้บ่อยในหนังสยองขวัญ
“โทษฐานที่แกโอหังเกิดตัวยังไงล่ะกริด!”
ผู้เล่นเพียงคนเดียวไม่มีทางกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
สมาชิกอิมมอทัลต่างพากันเย้ยหยันในความโง่เขลาของกริดที่คิดจัดการพวกมันตามลำพัง
ผีดิบจำนวนมากเข้าประชิดตัวกริดอย่างรวดเร็วพร้อมกับระเบิดทำลายตัวเอง
ตู้มมม!
ตู้มมม! ตู้มมมม!
ระเบิดกัมปนาทที่มีกริดเป็นศูนย์กลางได้ทำให้วังหลังเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง
ทว่า…
“อ…เอ่อ…”
กริดยังสบายดี…และเหตุผลงั้นง่ายมาก
เขารอดจากแรงระเบิดได้ด้วยพลังของ ‘เศษผ้าลึกลับครูเกอร์’
กริดปรากฏกายอีกครั้งท่ามกลางฝุ่นควันคละคลุ้งอย่างไร้รอยขีดข่วน
ฉึก!
“แค่ก!”
ฉัวะ!
“อ๊ากกกก!”
กริดในโหมดร่างมืดย่อมเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่หมอผีมีอาจหนีพ้น
พวกมันเสียชีวิตไปทีละคนสองคนขณะกริดหายตัวไปโผล่จุดแล้วจุดเล่าของสนามรบราวกับวิญญาณหลอน
“ท…ทำไมแกถึงไม่เป็นอะไรเลย? ฮ…เฮ้ย!”
บุลเล็ตแสดงสีหน้าตกตะลึงขณะพยายามอัญเชิญอันเดดออกมาสนับสนุน
มันกำลังตกใจโครงกระดูกที่แสนเปราะบางจำนวนสองตน โครงกระดูกที่บุลเล็ตเคยคิดว่าเป็นของพวกพ้องได้แทงใส่แผ่นหลังของมันอย่างโหดเหี้ยม
โครงกระดูกสองตนนี้มีหนึ่งสิ่งที่แตกต่างจากโครงกระดูกปรกติอย่างใหญ่หลวง
พวกมันรู้จัก ‘แสดงอารมณ์บนใบหน้า’
บุลเล็ตออกอาการฉงนเมื่อได้เห็นโครงกระดูกทำตาทรงสระอิ ( ิ ิ ) ประหนึ่งกำลังเย้ยหยันมัน
“ค…โครงกระดูกพวกนี้คืออะไรกันแน่?”
รูปลักษณ์ภายนอกดูเปราะบางและอ่อนแอ บุลเล็ตได้รับความเสียหายเพียง 100 หน่วยเท่านั้นจากการถูกแทง
แต่มันกลับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล บุลเล็ตไม่เคยรู้จักอันเดดที่สามารถแสดงอารมณ์บนใบหน้าได้
ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตบนจุดสูงสุดของอันเดดอย่างลิชก็มิอาจกระทำเช่นนั้น
‘หรือว่าโครงกระดูกพวกนี้…’
จะเป็นโครงกระดูกสุดหายาก?
‘ใครเป็นเจ้าของกันนะ ฮ…เฮ้ย!!’
สายตาของบุลเล็ตพลันเหลือบไปเห็นชื่อเหนือศีรษะพวกมัน
ตัวอักษรถูกเขียนไว้ชัดเจนว่า ‘โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หนึ่ง’ และ ‘โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สอง’
เจ้านายที่ตั้งชื่อสุดเห่ยแบบนี้คงมีเพียงคนเดียวในโลก
“ก…กริดเป็นนักอัญเชิญรึไง?”
ช่างตีเหล็ก นักดาบ จอมเวท
แล้วยังหมอผี…?
เป็นไปไม่ได้!
ขณะบุลเล็ตกำลังเหม่อลอย
ฉึก!
“อั่ก…!”
มันสำลักโลหิตคำโตจากปาก
กริดลอบเข้าประชิดตัวบุลเล็ตในช่วงที่มันเอาแต่สนใจโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์
จากนั้นก็เสียบดาบทะลวงเข้าไปในร่างอย่างไร้ความปราณี
“ด…เดี๋ยวก่อน…!”
การแทงเพียงดาบเดียวส่งผลให้พลังชีวิตบุลเล็ตเหลือเพียง 10% เท่านั้น
ขณะตกอยู่ในอาการมึนงง บุลเล็ตรีบแผดเสียงร้องขอชีวิตอย่างลนลาน
“ว…ไว้ชีวิตฉันด้วย! ได้โปรด! ฉันไม่เคยรุกรานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์! เวอราดินลงมือพร้อมกับคนสนิทของมัน! ฉันไม่เกี่ยวข้อง!”
บุลเล็ตเชื่อว่าจิตใจของมนุษย์นั้นแสนเปราะบาง บางทีกริดอาจไว้ชีวิตและสงสารมันหากโกหกออกไปเช่นนี้
แต่น่าเสียดายที่ท่าทีของกริดตรงข้ามกับสิ่งที่บุลเล็ตคิดคาดหวัง
“แกสามารถหยุดมันได้…แต่แกก็ไม่ได้ทำ”
กริดตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ ชายหนุ่มแทงดาบซ้ำสองส่งให้ร่างบุลเล็ตเลือนลางกลายเป็นแสงเทา
ตัวตนที่เปรียบดั่งเทพแห่งความตายได้ทำให้หมอผีที่เหลือต่างพากันหวาดผวา
พวกมันทุกคนล้วนบรรลุสัจธรรมอย่างพร้อมเพรียงในวินาทีนี้—ขุนนรกบัดซบจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปตลอดกาลจนกว่าพวกมันจะออกจากอิมมอทัล
ไม่สิ…บางที
หนทางเดียวที่สามารถหนีจากกริดคือการเลิกเล่นซาทิสฟาย
ขณะเดียวกัน กริดที่สลักความหวาดกลัวลงในจิตใจทุกคนได้รีบนำเสื้อคลุมสีขาวออกมาสวม
กลุ่มทหารและอัศวินจำนวนมากกำลังตรงมาที่นี่หลังจากได้ยินเสียงระเบิด เขาจะมัวพัวพันให้เสียการใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด
‘น่าเสียดายที่ไม่เจอตัวแอ็กนัส’
แต่การหลบหนีคงฉลาดกว่าปล่อยให้ทหารจักรวรรดิพบตัวราชาโอเวอร์เกียร์
จักรวรรดิต้องไม่อยู่เฉยแน่หากทราบว่าความวุ่นวายทั้งหมดเกิดจากฝีมือกริด
‘ต้องรีบหนี’
ชายหนุ่มมุ่งตรงไปยังประตูทิศเหนือซึ่งตรงข้ามกับทิศที่กำแพงไททันถล่มลง
ระบบรักษาความปล่อยภัยทางทิศเหนือย่อมต่ำกว่าจุดอื่นทั้งหมด
***
โซนเหนือของไททันคือเขตบ้านพักและคฤหาสน์ของขุนนางระดับสูง
รวมถึงบ้านพักของอัศวินลำดับหนึ่งอย่างเมอร์เซเดส
“ใครมันบังอาจก่อความวุ่นวายในจักรวรรดิ…!”
เมอร์เซเดสรีบคว้าดาบคู่กายเมื่อได้รับแจ้งเหตุวุ่นวายที่กำแพงทิศใต้ของไททัน
ขณะกำลังจะสวมเกราะสีชาด เธอชะงักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากบ้านพักด้วยชุดลำลอง
ทันใดนั้น
เมอร์เซเดสได้พบอัศวินสีชาดกลุ่มหนึ่ง
เธอจ้องมองพวกมันด้วยสีหน้าตื่นหวั่นวิตก
อัศวินสีชาดกลุ่มนี้ประกอบด้วยอัศวินลำดับสี่ ‘คิวราทัน’ และผู้ติดตามของมัน
คิวราทันยักไหล่ทันที
“คิดจะฝ่าฝืนโองการฝ่าบาทอีกแล้วหรือ? ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริงสินะ”
“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
“ข่าวลือที่คุณไม่จงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและพยายามก่อกบฏ”
“ข้อกล่าวหาที่ไร้มูลเหตุพวกนี้มาจากไหนกัน?”
“ทุกคนล้วนคิดแบบเดียวกับผมทั้งนั้น กำแพงไททันพังลงทันทีเมื่อฝ่าบาทออกคำสั่งปลดคุณ นี่ไม่ใช่สิ่งที่กองกำลังฝ่ายคุณลอบลงมือเพื่อพยายามต่อต้านหรอกหรือ?”
“ไม่มีใครเชื่อคำโกหกของนายแน่”
“ไม่เลย…ทุกคนต้องเชื่อผมแน่ คุณกำลังสร้างความวุ่นวายเพื่อหาโอกาสหลบหนีจากบ้านพักใช่ไหมล่ะ? ผมคิดว่าโทษคราวนี้ต้องร้ายแรงมากแน่”
“…เถียงกับนายไปก็ไร้ประโยชน์”
เมอร์เซเดสกล่าวด้วยเสียงห้วน
ทันใดนั้นกลับฉุกคิดถึงบางสิ่ง
“นายกำลังปรักปรำฉันเหมือนที่เคยทำกับปิอาโร่เมื่อสิบสองปีก่อนสินะ…”
“โฮ่? กล้าเอ่ยชื่อคนทรยศที่ฝ่าบาทไม่อยากได้ยินเชียวหรือ? เธอคงไม่จงรักภักดีต่อฝ่าบาทแล้วสินะ”
คิวราทันแสยะยิ้มมุมปาก
ริมฝีปากของมันกว้างมากเป็นพิเศษ รอยยิ้มจึงดูคล้ายกับตัวตลกที่น่าขนลุก
“อัศวินลำดับหนึ่งเมอร์เซเดส ผมขอตัดสินโทษประหารแก่คุณ!”
การลงทัณฑ์จากอัศวินลำดับสี่เริ่มขึ้น
ห้าอัศวินสีชาดพุ่งโจมตีเมอร์เซเดสทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่ง
ฉัวะ!
เมอร์เซเดสหมุนควงสว่านรอบตัวด้วยชุดลำลองสีขาวบริสุทธิ์
ดาบคู่ในมือฟันเฉือนทุกสรรพสิ่งในรัศมีรอบตัวไม่เว้นแม้แต่ช่อดอกไม้อันงดงามในสวน
โลหิตสาดกระเซ็นจากหน้าอกอัศวินสีชาดจนเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้น
คิวราทันส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง
“อัศวินหลักยี่สิบคงไม่พอสินะ”
พวกอ่อนแอเหล่านี้ไม่เคยเป็นประโยชน์ได้เลยสักครั้ง
“ไม่ต่างจากพวกกระจอกที่ฉันฆ่าเมื่อสิบสองปีก่อนเลยสักนิด”
ขณะคิวราทันกำลังพ่นถ้อยคำอันน่าตกตะลึงจากปาก เมอร์เซเดสกระโจนเข้าใส่มันอย่างชดช้อยงดงามประหนึ่งผีเสื้อร่ายรำ
แม้จะเห็นขาอ่อนอันขาวเนียนเต็มสองตา แต่คิวราทันกลับมิได้เผยตัณหาแม้แต่น้อย
ความใคร่คืออารมณ์ที่มีเฉพาะมนุษย์และสัตว์ชั้นต่ำเท่านั้น
ซู่ววว—
ก่อนที่ดาบคู่ของเมอร์เซเดสจะได้สัมผัสร่างคิวราทัน…
“อึก!”
มนตร์ดำถูกปลดปล่อยกระแทกใส่ร่างเมอร์เซเดสอย่างจัง
การโจมตีที่ไม่คาดฝันส่งผลให้เธอรีบไขว้ดาบป้องกันด้านหน้าอย่างลนลาน
เปรี้ยง!!
แต่ไม่มีทางที่ดาบเพียงสองเล่มจะสลายเวทมนตร์ได้ทั้งหมด แถมการปราศจากชุดเกราะสีชาดถือเป็นความเสียหายร้ายแรง
ร่างเมอร์เซเดสกระเด็นกระแทกกำแพงบ้านพักพลางกระอักเลือกจากปาก
คิวราทันแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับย่างกรายเข้าหาอย่างผู้มีชัย
ลำตัวของมันกำลังห่อหุ้มด้วยพลังอสูรสีดำสนิทอันน่าขนลุก ผิวหนังขาวซีด ดวงตาดำมืดไร้จุดขาว
“เมื่อสิบสองปีก่อน…ฉันรังเกียจดวงตาอันแสนโอหังของเธอมาก เป็นดวงตาที่ราวกับมองทะลุความลับได้ทุกสิ่ง ฉันอยากจะควักมันออกมาและบีบให้แหลกคามือ!”
“แฮ่ก…แฮ่ก แกนะแก!”
“แต่ลิมิตเชื่อใจแกมาก ฉันหาโอกาสเชือดแกไม่ได้สักทีเพราะเจ้านั่นคอยจับตามองทุกฝีก้าว คุคุคุ! แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่แกเริ่มสงสัยและขุดคุ้ยเกี่ยวกับมัน”
คิวราทันเหยียดท่อนแขนที่เหี่ยวย่นไปด้านหน้า เล็บที่ยาวและน่าขยะแขยงกำลังคืบคลานเข้าใกล้ดวงตาเมอร์เซเดส
“ขอบใจมากที่ขุดหลุมฝังศพตัวเอง จงเฝ้ามองทุกการกระทำของฉันให้ดีขณะอยู่ในโลกหลังความตาย จงกรีดร้องอย่างโหยหวนเมื่อฉันเริ่มกัดกร่อนทำลายจักรวรรดิที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิต”
“อึก…!”
ร่างกายเมอร์เซเดสไม่ยอมฟังคำสั่ง
พลังอสูรที่เป็นพิษร้ายสำหรับมนุษย์กำลังแล่นเข้าสู่หัวใจของเธอ
ขณะที่เมอร์เซเดสกำลังรอความตายโดยมิอาจขัดขืน…
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นของฉัน”
เสียงของชายคนหนึ่งดังจากด้านนอก
ฉึก!
หอกสีทองที่อัดแน่นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ได้เสียบทะลุร่างคิวราทันจากด้านหลัง
“ราชาโอเวอร์เกียร์...?”
คิวราทันส่งเสียงถามหลังจากหลุดพ้นคำสาปรีเบคก้าภายในระยะเวลาอันสั้น
สีหน้าของมันกำลังบิดเบี้ยวสุดขีด
ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดสพลันหวนนึกถึงเรื่องราวในนิทานสมัยเด็กที่เธอเคยอ่าน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,223
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมาก ขอบคุณครับ
ReplyDeleteพระเอกขี่ม้าขาวสีดำ
ReplyDeleteห๊ะ
Deleteผมพนัน10000ล้านเบรียังไงก็ต้องปักธงแล้วแบบนี้
ReplyDelete