จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,516



[ผู้บัญชาการกองทัพนรกทุกตนบนหมู่เกาะเบเฮ็นทำการล่าถอย]


[หมู่เกาะเบเฮ็นเข้าสู่ภาวะสงบนิ่งชั่วคราว]


สงครามยังไม่จบ ไม่มีใครทราบว่าจะปะทุอีกครั้งตอนไหน


ผู้คนต่างยังคงหวาดกลัวในทุกลมหายใจ


หากช่วงเวลาในการพักมีน้อยกว่าที่คิด มนุษย์จะต้านรับการโจมตีระลอกสองไหวไหม?


สงครามครั้งถัดไปจะสร้างความสูญเสียอีกกี่ชีวิต?


“เอ็ดดี้ตายแล้ว… หน่วยที่สิบสองถูกทำลายแล้ว เหลือแค่นายกับฉัน…”


“เฮ้อ… นี่คือเหตุผลที่ฉันบอกนายว่าอย่าไปสนิทกับพวกทหาร”


“จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง… พวกเราข้ามผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ช่วยเหลือกัน หัวเราะและร้องไห้ด้วยกันเสมอ…”


“ก็เคยเตือนแล้วว่าอย่าไปคลุกคลี อย่าไปหัวเราะและร้องไห้กับพวกเขา”


“จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง! ฉันติดหนี้พวกเขามากมาย ทุกคนเคยเล่าความฝันของตัวเองด้วยดวงตาเปล่งประกาย… ฉ…ฉันไม่มีทาง… ลืมความทรงจำที่เคยมีกับพวกเขา”


“…ฉันก็เสียใจไม่แพ้นาย”


กองทัพของตนเป็นฝ่ายชนะจริงหรือ?


บรรยากาศภายในค่ายกองทัพพันธมิตรกำลังหม่นหมองสุดขีด


ส่วนใหญ่เกิดจากผู้เล่น


แตกต่างจาก NPC ที่เตรียมใจเผชิญจุดจบ (ความตาย) ตั้งแต่เริ่มสงคราม ฝั่งผู้เล่นยังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้น


หลังจากได้ลิ้มรสน้ำหนักของความตาย NPC อย่างถ่องแท้ จิตใจของแต่ละคนกำลังเผชิญความโศกเศร้า


“เข้มแข็งเข้าไว้ หากต้องการช่วยชีวิตผู้คนได้เพิ่มอีกสักหนึ่ง เรามีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น”


“อา… นั่นสินะ”


บรรยากาศอันหม่นหมองกำลังแผ่ปกคลุมท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด


***


มารลำดับหก


ไม่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าอัครสาวกแห่งเทพโอเวอร์เกียร์


ซิกผู้โค่นบีเลธด้วยพลังอันท่วมท้นถูกแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ของสมรภูมิหมู่เกาะเบเฮ็น


และซิกไม่ทำให้ผิดหวัง


สถานการณ์ภาพรวมถูกคำนวณอย่างละเอียดก่อนจะมีการวางผังกองทัพใหม่ ค่ายทหารใหม่ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยประโยชน์จากภูมิประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ ความคืบหน้าดำเนินไปอย่างรวดเร็วและไร้ข้อบกพร่อง


แม้แต่ปิอาโร่ผู้เคยบัญชาการสงครามมานับไม่ถ้วนก็ยังมองไม่เห็นจุดตำหนิ


‘สมแล้วที่เป็นเซอร์ซิก’


ชายผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังจักรวรรดิตั้งแต่ยังไม่ได้ร่างเดิมกลับคืน


มีคุณสมบัติเพียบพร้อมควรค่าแก่การถูกรับเลือกให้เป็นอัครสาวกของฝ่าบาท


‘เขายอดเยี่ยมกว่าเราร้อยเท่า’


ปิอาโร่ภาคภูมิใจในฝีมือของตนเสมอ


และไม่เคลือบแคลงเลยว่า หลังจากตนได้บีบันคอยชี้แนะจนพลังธรรมชาติถูกยกระดับ ความแข็งแกร่งของตนได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด


แต่มันตระหนักอย่างชัดเจนว่าตัวเองยังมิอาจเทียบเคียงอัครสาวกคนอื่น


สิ่งนี้คือสัจธรรม มิใช่การถ่อมตน


อัครสาวกหลายคนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เกิด


เนเฟลิน่าเป็นมังกร ส่วนซิกเป็นครึ่งเทพ


บราฮัมเป็นทายาทตรงของเบริอาเช่ และซาลิเอลเป็นเทวทูต


ในกรณีของเมอร์เซเดส ถึงจะเป็นมนุษย์ แต่เธอคือผู้ครอบครองเนตรมองทะลุ


ศักยภาพในการเติบโตแตกต่างจากปิอาโร่โดยสิ้นเชิง


‘อีกแล้ว… ในเวลาแบบนี้…’


อย่าได้สั่นไหว


หากมัวแต่จมอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านและกังวล อาจหลงทางจนกู่ไม่กลับ


แค่เดินตรงไปข้างหน้าก็พอ แม้อาจจะเชื่องช้าไปบ้างก็ตาม


ขณะปิอาโร่เดินออกจากค่ายทหารพลางสูดลมหายใจเพื่อสงบสติ


“ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนัก”


ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาทักทายปิอาโร่อย่างสุภาพ


อีกฝ่ายเป็นเจ้าของส่วนสูง 2.23 เมตร


มันอาศัยแขนขาที่ยาวกว่าคนทั่วไปในการกวัดแกว่งหอกเข่นฆ่าเหล่าสัตว์ประหลาด


ชายคนนี้มีนามว่า


“นายชื่อคุจารักสินะ… ฉันประทับใจในฝีมือมาก”


“นั่นเป็นเพราะคุณช่วยตรึงบริวารของบาเอลและเหล่าอสูรที่แข็งแกร่งไว้ตามลำพัง นอกจากนั้นยังใช้พลังเปลี่ยนให้สนามรบกลายเป็นทุ่งเกษตรกรรมเพื่อกีดขวางหูตาของกองทัพอสูรได้อย่างน่าทึ่ง หากไม่มีคุณ กองทัพเราคงเสียหายมากกว่านี้สองเท่า”


เสือดาวแอฟริกัน คุจารัก


มันไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาส่งเดชเพื่อเอาอกเอาใจใคร เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีข่าวลือด้านลบเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์


ถ้อยคำยกย่องปิอาโร่ล้วนมาจากก้นบึ้งจิตใจ


มันเฝ้ามองปิอาโร่มาตลอดจนกระทั่งซิกปรากฏตัวและขับไล่บีเลธกลับไป


กองหนุนที่ยอดเยี่ยมซึ่งมาถึงหมู่เกาะเบเฮ็นก่อนซิกสักพัก


คุจารักกังวลว่าวีรบุรุษผู้ช่วยกอบกู้สถานการณ์ฝ่ายพันธมิตรไว้ จะเกิดความหดหู่หลังจากนำผลงานของตัวเองไปเปรียบกับซิก


“เมื่อนานมาแล้ว ผมชื่นชมคุณมากเมื่อได้เห็นคุณระเบิดแขนของจอมอสูรบีเลียลไปหนึ่งข้าง… ได้โปรดรับรู้ว่ายังมีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากพยายามเดินตามรอยเท้าคุณเหมือนกับผม”


“ฮะฮะ… นายก็อยากเป็นชาวนาเหมือนกันหรือ?”


“เปล่า… ผมขอตัวก่อน”


“…แล้วเจอกัน ขอให้โชคดี”


เป็นประเภทที่ไม่ชอบพูดพร่ำเพรื่อสินะ?


ปิอาโร่ที่มีสีหน้าผิดหวังในตอนต้น กลับมายิ้มได้อีกครั้ง


ภาระทางใจบรรเทาลงหลายส่วนหลังจากได้รับคำชื่นชมอย่างจริงใจของวีรบุรุษหนุ่ม


***


ซาทิสฟายแทบไม่มอบอิสระให้ผู้เล่นปรับแต่งรูปลักษณ์ตัวละคร


รายละเอียดส่วนใหญ่ถูกกำหนดให้ตรงตามลักษณะทางกายภาพของตัวจริง


แม้ผิวหนัง ดวงตา ทรงผม รอยสัก แผลเป็น และน้ำหนักจะสามารถปรับแต่งได้ค่อนข้างอิสระ แต่โครงสร้างพื้นฐานของร่างกายอย่างส่วนสูงและโครงกระดูกจะอ้างอิงจากค่าความจริง


แน่นอนว่าคนแขนขาขาดในโลกความจริงจะไม่ต้องเผชิญความพิการในเกม


ซาทิสฟายค่อนข้างเป็นมิตรและอ่อนโยนกับความทุพพลภาพ


พวกเขาจะได้รับการผ่อนปรนเป็นกรณีพิเศษในแง่โครงสร้างกระดูก


และเนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพของร่างกายมีส่วนสำคัญมากในการต่อสู้


กฎของโลกความจริงที่ว่า ‘คนแขนขายาวจะได้เปรียบในการต่อสู้’ จึงถูกนำมาใช้กับซาทิสฟายด้วย


ซาทิสฟายมองว่าโครงสร้างพื้นฐานของร่างกายเป็นพรสวรรค์ประเภทหนึ่ง


เช่นเดียวกันกับโลกความจริง


แต่แน่นอนว่ามิได้สำคัญและเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งเหมือนกับในโลกความจริง


ซาทิสฟายมีคลาสและทักษะที่หลากหลาย


และอาวุธแต่ละชนิดก็จะพึ่งพาโครงสร้างร่างกายที่แตกต่างกัน ผู้เล่นจึงมักเลือกคลาสให้เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง


อย่างไรก็ดี สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะส่งผลต่อเกมเมอร์เดนตายเท่านั้น


มีเพียงกลุ่มคนที่ต้องการเป็นแรงเกอร์จึงจะคอยใส่ใจกับโครงสร้างร่างกาย แต่คนธรรมดานั้นแทบไม่แยแส


ปัจจัยทางร่างกายคือสิ่งจะเห็นผลแค่ในการต่อสู้ระดับสูง ไม่ใช่ขอบเขตที่คนธรรมดาต้องมาปวดหัวกังวล


และด้วยเหตุผลดังกล่าว


“คุจารัก”


คุจารักผู้มีโครงสร้างร่างกายได้เปรียบ สามารถครองตำแหน่งท็อปแรงเกอร์ได้อย่างยาวนานจนใครต่อใครต่างยกย่องให้เป็นกายาฟ้าประทาน


“จะกลับแล้วหรือ”


แค็ทซ์


ชายผู้โดดเด่นอย่างมาในระยะหลังและกลายมาเป็นคนดังของกิลด์โอเวอร์เกียร์ อาศัยรูปแบบการเก็บเลเวลที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ เลเวลของแค็ทซ์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนมาอยู่ในแถวหน้าของกระดานแรงเกอร์ หลายฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่าแค็ทซ์ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นเผ่าพันธุ์แวมไพร์มากที่สุด


มันยืนขวางคุจารักที่กำลังจะออกจากค่าย


คุจารักจ้องแค็ทซ์ด้วยดวงตากลมโตและกระจ่างใสเหมือนลูกวัว จากนั้นก็เอียงคอพูด


“นี่ไม่ใช่แค็ทซ์ที่ฉันรู้จัก”


ในอดีตเคยมีช่วงเวลาที่คุจารักกับแค็ทซ์เผชิญหน้ากันในจุดเก็บเลเวล


พวกมันพบกันค่อนข้างผ่อน แต่ทุกครั้งจะลงเอยด้วยการที่แค็ทซ์โจมตีใส่คุจารักและอ้างว่า ‘ตรงนี้จองแล้ว’


หากพูดแบบถนอมน้ำใจคือความ ‘ก้าวร้าว’ แต่ถ้าพูดให้ตรงไปตรงมากว่านั้นคือความ ‘มารยาททราม’


แต่ปัจจุบัน แค็ทซ์แตกต่างจากสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง ดวงตาสุขุมเยือกเย็นอย่างอธิบายไม่ได้


แค็ทซ์ยักไหล่


“ก็ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว”


“ฉันที่ใจที่นายโตขึ้นแม้ว่าจะสายไปสักนิด… ขอให้สงครามในอนาคตผ่านไปด้วยดี”


“จะกลับจริงๆ หรือ”


“หากเป็นไปได้ ฉันอยากสู้ในสนามรบที่ต้องการพลังของฉันอย่างแท้จริง”


“เข้าใจแล้ว…”


ความแข็งแกร่งของซิกผู้ได้ร่างต้นกลับคืน อยู่เหนือจินตนาการของใครหลายคนไปไกลมาก แค็ทซ์เชื่อว่าซิกในปัจจุบันน่าจะแข็งแกร่งทัดเทียมกริดหรือไม่ก็เหนือกว่าเล็กน้อย ตราบใดที่มีซิกคอยบัญชาการ หมู่เกาะเบเฮ็นก็จะอยู่รอดปลอดภัย


“ลาก่อน”


คุจารักชำเลืองไปทางแค็ทซ์กำลังยิ้มและยื่นมือมาขอจับ


“ถ้านายอยากให้ฉันจับตอบ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการขอโทษ”


“นายยังโกรธเรื่องเก่าอยู่อีกหรือ? นั่นมันนานแล้วนะ… แถมคนที่ตายฝ่ายเดียวคือฉัน”


“เพียงเพราะโจรถูกเหยื่อจัดการ ไม่ได้แปลว่าโจรคนนั้นไม่มีความผิด… ความโกรธก็เช่นกัน มันไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา”


“บัดซบ… ฉันขอโทษ”


“ไม่เอาคำสบถ”


“…ฉันขอโทษ”


คุจารักเป็นพวกมนุษยสัมพันธ์แย่มาแต่ไหนแต่ไร แค็ทซ์เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงไม่ค่อยมีใครคบ


‘เป็นพวกจริงใจแต่ไม่รู้จักประนีประนอม’


แค็ทซ์คิดเช่นนี้ขณะขอโทษจากก้นบึ้ง


มันยังไม่คิดจะผูกมิตรกับคุจารัก


เพียงแต่ต้องการแสดงความเคารพ


ผลงานของคุจารักในสงครามที่ผ่านมาควรค่าแก่การถูกยกย่อง


“หัวใจของนายยิ่งใหญ่ขึ้นมาก… ขอให้โชคดี”


ในที่สุดคุจารักก็ยิ้มและจับมือตอบแค็ทซ์


ฝ่ามือขนาดมหึมาทำให้แค็ทซ์รู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก


‘ทุกคนกำลังเติบโต’


ชาวโอเวอร์เกียร์เป็นเพียงส่วนน้อยของผู้เล่น 2.2 พันล้านคนทั่วโลก


เรียกได้ว่ามีจำนวนเพียงหยิบมือเดียวหากเทียบกับเหล่ากลุ่มคนที่พยายามขัดเกลาตัวเองในความมืดทั่วโลก


เป็นครั้งแรกที่แค็ทซ์ผู้คิดแต่จะแข่งขันกับคนอื่น ตัดสินใจเปิดมุมมองและหัวใจเสียใหม่ ต้นเหตุมาจากมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร


‘มาก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน…’


ขอให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นและช่วยแบ่งเบาภาระที่กริดกำลังแบกรับตามลำพัง


นี่คือความปรารถนาจากก้นบึ้งของแค็ทซ์ เป็นความรู้สึกหลังจากได้เห็นวิดีโอที่กริดพยายามปกปิดบาดแผล


***


ห้วงนรกมีบราฮัม เมอร์เซเดส อัสโมเฟล พีคซอร์ด และคริส


หมู่เกาะเบเฮ็นมีซิก ปิอาโร่ จิสึกะ และเรกัส


ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดระเบียบค่ายทหารและเตรียมรับมือการรุกรานระลอกถัดไปของกองทัพอสูร


นอกจากนั้นยังมีบันส์เดลและดราโกเนี่ยนอีกกว่าห้าร้อยตัวคอยลาดตระเวนน่านฟ้าเพื่อกำจัดอสูรที่ออกจากประตูมิติ


ผู้เล่นที่มีความสามารถเป็นเอกลักษณ์อย่างสวาปามจกบัลเผ็ดและฮูเร็นก็คอยกระจายตัวไปตามฐานที่มั่นสำคัญ


เมื่อเทียบกับช่วงต้นสงคราม แนวป้องกันในปัจจุบันดูแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า


‘นอกจากนั้น บาซาร่ายังแจ้งมาว่าเธอพร้อมแล้ว’


ในระยะหลัง บาซาร่าเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องใต้ดินของวังหลวง


เธอพยายามสร้างวงแหวนเวทอัญเชิญที่หลับใหลในหอสมุดหลวงขึ้นมาใหม่


วงแหวนเวทดังกล่าวจะตอบสนองต่อปราณสีชาดเท่านั้น ยิ่งเป็นปราณสีชาดที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ยิ่งมีประสิทธิภาพสูง เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากลงมือทำด้วยตัวเอง


‘ชนะแน่… พวกเราทำได้’


ในกรณีเลวร้ายที่สุด แม้ร่างจริงของบาเอลจะรุกรานด้วยตัวเอง แต่ฝ่ายมนุษย์ก็สามารถเอาชนะได้หากร่วมแรงร่วมใจกัน


จริงอยู่ที่ความเสียหายคงลุกลามเป็นวงกว้าง… แต่มนุษยชาติก็ยังมีหวัง…


ด้วยเหตุนี้ กริดจึงสามารถทุ่มสมาธิ


ชายหนุ่มกัดฟันทนความร้อนที่แผ่ออกจาก ‘เตาหลอมแห่งเทพ’ ซึ่งเด่นตระหง่านราวกับป้อมปราการ พลางก้มหน้าปรับแต่งเขี้ยวของกูเซล


ในตอนที่เห็นเขี้ยวมังกรกลายเป็นสีดำ กริดตื่นตระหนกเพราะคิดว่าตนอาจทำพลาดไป แต่หลังจากนั้นก็พบว่านี่คือกระบวนการตามปรกติ


เขี้ยวของกูเซลไม่ใช่โลหะ จึงไม่ละลายกลายเป็นโลหะเหลว


ความแข็งของเขี้ยวจะเพิ่มขึ้นเมื่อพื้นผิวได้รับความร้อนจนปริมาตรลดลง เรียกว่าเป็นการ ‘ทำให้หด’ คงจะเหมาะกว่า


‘มันกำลังแข็งขึ้น…’


กริดประหลาดใจจนเกินกว่าคำว่าทึ่ง


เป็นอีกครั้งที่มันตระหนักว่าเหตุใดยุทธภัณฑ์มังกรที่สร้างโดยสภาหอคอยถึงมีคุณภาพค่อนข้างต่ำ


ชายหนุ่มไม่เกิดความลังเลขณะถลุงเขี้ยวมังกรที่ไม่มีวันละลาย


สัญชาตญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตนกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทักษะของเทพโอเวอร์เกียร์ช่วยได้มากในจุดนี้


เปรี้ยะ!


ยิ่งผิวเขี้ยวมังกรดำเกรียม ไฟจากเตาหลอมก็ยิ่งร้อนแรง


ความร้อนมหาศาลที่ปะทุขึ้นในพริบตาส่งผลให้หินคุณภาพสูงสุดที่นำมาสร้างเป็นเตาหลอมกลายเป็นสีดำสนิท ต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียงเหี่ยวเฉาในพริบตา


หน้าต่างของโรงหลอมซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไปเริ่มละลาย ผนังด้านนอกเริ่มแตกร้าว โครงเหล็กที่รองรับตัวอาคารเริ่มบิดเบี้ยว


“อึก…”


เหล่าช่างตีเหล็กที่ยืนมองจากจุดห่างออกไปพลันครวญครางด้วยสีหน้าเจ็บปวด ผิวหนังของพวกมันแดงระเรื่อราวกับกำลังสุก


ขณะกริดรีบอัญเชิญโนเอะและแรนดี้ออกมาอพยพช่างฝีมือเหล่านั้นออกจากสถานที่


โครม!!


ในที่สุดโรงตีเหล็กก็ถล่มลงเนื่องจากทนความร้อนไม่ไหว


ชุดทำงานของกริดไหม้เกรียมและสลายไปจนชายหนุ่มต้องเปลือยเปล่า ไม่สิ ระบุให้ชัดคือยังเหลือซับในของเบริอาเช่


‘บ้าบอสิ้นดี’


หากปล่อยไว้เช่นนี้ เตาหลอมก็จะพังถล่มในอีกไม่ช้า


ความร้อนซึ่งปะทุขึ้นจากผลพวงการเผาเขี้ยวมังกร มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่มันจินตนาการ


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ความกังวลกลายเป็นความจริง


รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนผิวเตาหลอมเกรดมิธ


แต่กริดยังคงไม่หยุดเป่าลมด้วยเครื่อง


ชายหนุ่มจ้องไปยังเขี้ยวกูเซลสีดำที่ดูคล้ายกับจะลอกคราบอีกชั้น จากนั้นก็ตัดสินใจเป่าลมเข้าไปเพิ่ม


‘คิดว่าฉันจะยอมแพ้รึไง…!’


กริดสัมผัสได้อย่างคลุมเครือ


ยิ่งเปลวไฟร้อนแรง เจตจำนงที่ยังหลงเหลือในเขี้ยวมังกรก็ยิ่งแรงกล้า


บางทีอาจเป็นจิตตกค้างของกูเซลที่ตายไปแล้ว


เป็นความหยิ่งทระนงที่จะไม่ยอมจำนนต่อผู้ใด


บึ้มมมมม—!!


เสียงระเบิดดังกังวานไปทุกสารทิศ


ผิวเตาหลอมบางส่วนแตกกระจัดกระจายจนเปลวไฟด้านในปะทุออกมา


กำแพงวังชั้นในพังทลาย วังทั้งหลังสั่นสะเทือนประหนึ่งพายุเข้า


ในน้ำบ่อระเหยเกลี้ยง พืชพรรณติดไฟลุกไหม้ ท้องฟ้าถูกย้อมกลายเป็นสีแดงฉาน


“ว๊ากกกก…!”


อาศัยโสตประสาทอันยอดเยี่ยม กริดได้ยินเสียงตะโกนของแร็บบิทดังมาจากที่ใดสักแห่ง


แต่กริดกลับมิได้ลดความเร็วในการเป่าลม ตรงกันข้าม มันกำลังเร่ง


ชายหนุ่มพาตัวเองมาถึงจุดที่ถอยกลับไม่ได้อีกแล้ว ต้องเลือกระหว่างความสำเร็จหรือมือเปล่า


มันเชื่อว่าลอเอลคงสั่งอพยพคนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงไอรีน


ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?


ปัจจุบัน แม้แต่ซับในของเบริอาเช่ก็เริ่มชำรุด


ชิ้ง—!


เขี้ยวกูเซลซึ่งหดตัวจนเหลือขนาดเล็กเปล่งแสงที่สว่างสดใส


แสงดังกล่าวเปลี่ยนด้านในเตาหลอมที่กลายเป็นสีดำเกรียมให้มีวิวทิวทัศน์คล้ายกับอวกาศ เปลวเพลิงที่เดือดพล่านจนถึงเมื่อครู่อันตรธานหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก


กริดเหยียดแหนบออกไป


ชายหนุ่มวางเขี้ยวกูเซลที่ขจัดจิตตกค้างออกจนหมดไว้บนทั่งและทุบด้วยค้อน


เคร้ง!


เสียงที่ใสกังวานช่วยมอบความสดชื่นเหนือพรรณนาให้กริด กระแสความรู้สึกอันท่วมท้นพรั่งพรูจากต้นคอเข้าสู่ก้านสมอง


[ท่านประสบความสำเร็จในการหลอมเขี้ยวของกูเซล]


[พลังจิตและโลกจินตภาพของท่านแข็งแกร่งขึ้น]

______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

  1. ติดตามตลอดครับ สนุกมากๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00