จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,511



“โนลล์!!”


สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เริ่มแตกตื่น รีบตามไปช่วยเหลือโนลล์


หลังจากสาดบัฟใส่กันเพื่อบรรเทาดีบัฟ ทุกคนเร่งฝีเท้าและบุกเข้าไปในดงอสูร


แวนเนอร์นำหน้าสุดด้วยความแข็งแกร่งดุจดังรถถังตามฉายาของคลาส


เป็นการแสดงฝีมือที่น่าทึ่ง


แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจจากบาเอล


บาเอลที่กวาดสายตาไปทั่วสนามรบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เปิดปากพูดอีกครั้ง


“วุ่นวายซะจริง… เห็นทีคงต้องรีบเก็บกวาดพวกมดปลวก”


ชิ้ง—


จันทร์ขุมนรกตอบรับเจตจำนงของบาเอล


พวกมันกลอกตาไปยังทุกทิศทาง เล็งใส่กองทัพมนุษย์บนสนามรบ


สีหน้าของทหารฝ่ายพันธมิตรที่เดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลันบิดเบี้ยวด้วยความขาวซีด


ซ่า—


‘ฝน’ โปรยปรายลงมานับหมื่นเส้น


สายฝนแห่งหายนะที่พรั่งพรูใส่กองทัพนับแสนของฝ่ายพันธมิตร


“อ…อี๋ย!”


เหล่าทหารที่รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อ รีบทิ้งดาบโล่และวิ่งหนีไป แต่ก็มีหลายคนที่ล้มลงไปแล้วไม่ได้ลุกขึ้นมาอีก


ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ที่แยกเขี้ยวด้านหน้า พวกพ้องที่ยืนด้านหลัง หรือพวกพ้องที่ยืนใกล้ชิด ทุกคนกำลังแหกปากกรีดร้อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทหารจะตกอยู่ในอาการแตกตื่น


ทหารที่ยังไม่โดนลำแสงยิงใส่ กำลังเผชิญความทุกข์ระทมแสนสาหัส


พวกมันหวาดกลัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะเกิดกับตัวเอง


ฉึบ


จันทร์ขุมนรกที่หลับตาลงหลังจากยิงสายฝนระลอกแรก ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีดำก่ำเบิกโพลงพร้อมกับเล็งลงมายังพื้นดิน


ในเวลาเดียวกัน


“ถอย! ทหารทั้งหมดถอนทัพ!”


อัศวินสาวผมยาวสีฟ้าสลวยร่อนลงมายังกึ่งกลางสนามรบ


ชุดเกราะและโล่กลายเป็นสีหม่นเนื่องจากชุ่มฉ่ำไปด้วยเลือดอสูร แต่ดาบสีขาวที่โชกเลือดไม่ต่างกัน กำลังส่องสว่างอย่างสดใส


“โฮ่”


บาเอลยิ้มออกอีกครั้ง


ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!!


สายฝนแห่งการทำลายล้าง โปรยปรายลงมาอีกครั้ง


ชิ้ง!


สนามแรงโน้มถ่วงวงใหญ่ของเมอร์เซเดสสามารถสกัดสายฝนได้นับหมื่นเส้น


“เร็ว… เข้า!”


เมอร์เซเดสขบกรามขณะตะโกน


เพื่อที่จะกางสนามแรงโน้มถ่วงซึ่งกว้างเท่ากับสนามรบ เมอร์เซเดสเดินไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว ร่างกายอันผอมเพรียวต้องแบกรับน้ำหนักทั้งหมดไว้ตามลำพัง


กลายเป็นเหยื่ออันโอชะสำหรับพวกอสูร


เหล่าอสูรลงมือเข่นฆ่าบรรดาสัตว์อสูรที่กำลังแตกตื่นเพราะการปรากฏตัวของบาเอล เนื่องจากพวกมันกำลังขวางแทง


เมื่อคิดว่ากำลังจะได้เชือดตำนาน ทุกตนกรูเข้าใส่เมอร์เซเดสอย่างบ้าคลั่ง


“กล้าดียังไง”


“ไสหัวไป! ไอ้พวกน่ารังเกียจ!”


อัสโมเฟลและอเมลด้าออกโรงปกป้องเมอร์เซเดส


พวกมันเข่นฆ่าอสูรอย่างห้าวหาญประหนึ่งกองทัพหนึ่งรบพัน


จากนั้นก็ตะโกนบอกทหารที่กำลังแตกตื่น


“ล่าถอย!”


“นี่คือคำสั่ง!”


“ต…แต่ว่า…”


บรรดาทหารต่างตื่นจากภวังค์หลังจากได้ยินเสียงเรียกขานของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่


แต่เมื่อได้รับสติกลับคืนมาและเอาชนะความกลัวได้ในระดับหนึ่ง ฉากที่อยู่รอบตัวพวกมันมีเพียงความสิ้นหวัง


ดวงจันทร์ย่อม ‘มองเห็น’ ทุกที่บนโลก


แล้วจะให้หนีไปไหน?


“…พวกเราก็จะสู้!”


ยอมตายอย่างมีเกียรติเสียยังดีกว่า


ทหารก้มหยิบอาวุธที่ทิ้งลงพื้นพลางตะโกนอย่างฮึกเหิม


เช่นเดียวกับทหารที่บาดเจ็บสาหัสจากการระดมยิงลำแสงระลอกแรก


ทหารนับแสนนายเค้นความฮึกเหิมและพร้อมสู้แลกชีวิต


หลังจากช่วยเหลือโนลล์สำเร็จ กลุ่มของแวนเนอร์ที่กลับมาทันเวลาพอดี กล่าวปลุกใจทุกคน


“พูดได้ดี! วันนี้พวกเรามาเชือดบาเอลกัน!! คึฮ่าฮ่าฮ่า!!”


การที่แวนเนอร์ตะโกนอย่างอารมณ์ดีเจือความมั่นใจ เพราะมันศรัทธาในบางสิ่งอย่างแรงกล้า


บราฮัมและไคล์กลับมารวมทีมกันอีกครั้งหลังจากถอนตัวจากแนวหน้าไปพักผ่อน


นอกจากนั้น บาเอลที่เห็นก็ยังไม่ใช่ร่างจริง


แปลว่าโอกาสชนะยังมี


ขณะแวนเนอร์กำลังมองเห็นแสงแห่งความหวัง


ปัง!


กระสุนของบาร์บาทอสพุ่งปะทะกับสนามแรงโน้มของเมอร์เซเดสจนสั่นสะเทือน


“…คึ่ก!”


เมอร์เซเดสร่วงหล่นจากกลางอากาศ สนามแรงโน้มถ่วงถูกยกเลิกทันที


ลำแสงที่เคยชะงักไป บัดนี้กลับมาทำงานต่อ


‘ถ้าจะหนีก็ต้องเป็นตอนนี้…’


ไคล์ที่กำลังหวาดกลัวสุดขีด สร้างบาเรียสายฟ้าขึ้นมาลดทอนความเสียหายให้กับกองทัพบางส่วน


มันทำดีที่สุดแล้ว เนื่องจากขอบเขตการระดมยิงของลำแสงกว้างเกินไป ไม่มีทางที่มันจะกางสายฟ้าคลุมไว้ได้หมด


“ย๊ากกก!!”


“ป้องกันไว้! สู้ตาย!!”


เหล่าทหารส่งเสียงอย่างฮึกเหิม


อาศัยการตั้งโล่ซ้อนกันและการกวัดแกว่งอาวุธ พวกมันเตรียมใจปะทะกับลำแสงระลอกถัดไป


“ชิ”


บราฮัมหงุดหงิดเนื่องจากยังพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกโรง


ขณะกางบาเรียขนาดมหึมา บราฮัมร่ายเวทเคลื่อนย้ายมิติแบบกลุ่ม


มันช่วยชีวิตไว้หลายพัน และช่วยพาอีกหลายพันชีวิตหนีออกจากระยะยิง


นี่คือขีดจำกัด


บึ้ม! บึ้ม! บึ้มบึ้มบึ้ม!!


ท่ามกลางสายฝนลำแสง ทหารกว่าหมื่นนายต่างพากันล้มตาย


บางส่วนยังคงกัดฟันสู้เพื่อปกป้องตัวเองหรือพวกพ้อง แต่ก็มีบางส่วนบาดเจ็บสาหัสและทรุดลงไป


จันทร์ขุมนรกเตรียมกระหน่ำยิงระลอกถัดไป


“ให้ตายสิ…”


ขวัญกำลังใจที่เพิ่มขึ้นอย่างยากลำบาก ถูกทำลายลงในพริบตา


ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เหล่าทหาร แม้แต่ผู้เล่นก็ยังสิ้นหวัง


เหล่าผู้บังคับบัญชาต่างพากันหมดคำปลุกระดม และขุนพลของโอเวอร์เกียร์ก็ยังมีน้อยเกินไป


วาบ!


จันทร์ขุมนรกส่องแสงอีกครั้ง


ชิ้ง!


ทันใดนั้น หัตถ์เทวะสามสิบข้างปรากฏกายในลักษณะเรียงตัวห่างกันห้าเมตร


สิ่งนี้คือสัญลักษณ์แห่งกริด เทพโอเวอร์เกียร์ที่ทุกคนรอให้ปรากฏตัวมานาน


แต่ในความเป็นจริง นั่นยังไม่เพียงพอ


หัตถ์เทวะยังมีขนาดจำนวนที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณลำแสงจากฟากฟ้า


พวกมันเรียงรายราวกับเตรียมจะเป็นบาเรียให้กองทัพพันธมิตร แต่ขอบเขตที่สามารถปกป้องได้ช่างดูน้อยนิดเหลือเกิน


= หัตถ์เทวะแค่สามสิบเนี่ยนะ…


= ใช่ น่าทึ่งฉิบ ㅋㅋ น่าจะช่วยปกป้องได้สักร้อยเส้นกระมัง ฮะฮะฮะ!


= บ้าบอสิ้นดี… ดวงจันทร์นั่นกำลังจะบอกให้พวกเราเลิกเล่นเกมนี้? ทำไมถึงยิงลำแสงได้เป็นหมื่น?


= พวก SA กรุปคงไม่ได้วางแผนเปิดตัวเกมใหม่หรอกใช่ไหม? แบบว่าบังคับให้ผู้เล่นเลิกซาทิสฟายเพื่อหันไปสนับสนุนโปรเจกต์ใหม่


= เว้นแต่ลิมชอลโฮจะเลอะเลือน ไม่อย่างนั้นก็ไม่สมเหตุสมผล


= หุ้น SA กำลังจะดิ่งใช่ไหม?


└จะดิ่งได้ยังไง พวกเขาเป็นผู้กุมเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงไว้แต่เพียงผู้เดียว


= ถ้าอย่างนั้นลิมชอลโฮก็คงเลอะเลือนแล้ว


มีเพียงความสิ้นหวัง


ผู้เล่นในสนามรบและผู้ชมทางบ้านต่างพากันตั้งคำถามกับสถานการณ์ปัจจุบัน


การปรากฏตัวของกริดซึ่งเป็นความหวังสูงสุดของมนุษยชาติ ดูต่ำต้อยจนไม่น่าจะทำอะไรจอมอสูรลำดับหนึ่งได้เลย


ขณะห่าฝนลำแสงเข้าใกล้พื้นดินและผู้บรรยายทางทีวีเริ่มแหกปากอย่างไม่เป็นภาษา


[มีการอัปเดตใหม่]


ข้อความโลกปรากฏขึ้นบนจอภาพทุกคน


เนื้อหาเป็นประกาศ ‘อัปเดต’ ที่ไม่มีใครเคยพบเจอมาก่อนนับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว


เมื่อสตรีมเมอร์และนักข่าวอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ชมทางบ้านต่างพากันโล่งใจ


อย่างน้อย SA กรุปก็ยังแก้ไขปัญหา แม้จะสายไปบ้างก็ตาม


บรรดาผู้ถือหุ้นคงใช้อิทธิพลนำพาซาทิสฟายให้กลับมาอยู่ในลู่ทางอีกครั้ง


『มีความเป็นไปได้ว่า ระบบของมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรจะถูกนำออกไปครับ…』


สตรีมเมอร์และผู้เชี่ยวชาญเริ่มวิเคราะห์ในประเด็นที่สุดโต่ง แต่นั่นทำให้ทุกคนมีความหวัง


เสียงตอบรับจากผู้คนเป็นไปในเชิงบวก


โลกได้ตระหนักว่า มหาสงครามครั้งนี้มีระดับความยากที่ไม่สมเหตุสมผลเกินไป


หลายฝ่ายปรารถนาให้มันหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น


ข้อความประกาศ ‘อัปเดต’ ครั้งแรกนับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนคิดไปในแนวทางเดียวกัน


มาในจังหวะเหมาะเจาะแบบนี้ ยังจะเป็นอะไรไปได้อีก?


ขณะสถานการณ์เริ่มบานปลายจนยากจะควบคุม


ผ่านไปสักพัก เมื่อความคาดหวังของผู้คนเริ่มมากขึ้น ข้อความระบบทยอยแสดงเพิ่มเติม


[เป็นการอัปเดตที่ไม่ต้องผ่านระบบความปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันที]


[ทำการอัปเดตเนื้อหา]


[เพิ่มเพลงธีมของผู้เล่น ‘กริด’]


“…?”


『…? 』


= ...?


<พวกเรากำลังเตรียมเพลงธีมไว้สำหรับกริดโดยเฉพาะ เกิดจากการรวมตัวของปรมาจารย์ด้านเพลงทั่วโลกเพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุด ในอนาคต เราวางแผนที่จะอัปเดตเพลงธีมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกย่องความสำเร็จของผู้เล่น…>


เนื้อหาของบทความที่ทาง SA กรุปเคยตีพิมพ์ แล่นเข้ามาในใจผู้คนที่กำลังรับชมและออนไลน์


แต่ว่า


ทำทำไมตอนนี้?


เครื่องหมายคำถามลอยเหนือศีรษะของผู้คน


หลายคนเริ่มขอไซเดอร์หลังจากได้ยินกินหวานไปประมาณหนึ่งล้านหัว


ยากจะมีใครเข้าใจสถานการณ์


แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไง เวลายังคงดำเนินไป


สงครามก็ยังดำเนินต่อ


[เทพโอเวอร์เกียร์ กริด ปรากฏกาย]


ท่วงทำนองไวโอลินถูกบรรเลงท่ามกลางสนามรบ


มอบบรรยากาศการแตกสลายของน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก


บรรยากาศที่เย็นชาและโดดเดี่ยว


เหมาะสำหรับการเป็นบทนำของสงครามที่แทบมองไม่เห็นชัยชนะ


ใครต่อใครเริ่มจินตนาการถึงฉากฤดูหนาวอันโหดร้ายและไร้ความปรานี


แต่เมื่อเสียงแหลมเล็กของเปียโนถูกบรรเลงชุดใหญ่ บรรยากาศพลันย้อนกลับ


เพลงเปิดตัวของกริดที่ชื่อ ‘ปรากฏกาย’ คือสัญลักษณ์แทนช่วงเวลาสิ้นสุดฤดูหนาว มิใช่ย่างเข้า


เสียงบรรเลงจากเครื่องสายวงออร์เคสตราระดับโลกกำลังปลุกเร้าสนามรบสีหม่น ช่วยกระตุ้นหัวใจที่เย็นชาของผู้คนให้กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ศรเวทหลายร้อยนัดถูกยิงจากหัตถ์เทวะสามสิบข้างด้วยผลของเวท ‘สเปรย์’ และปะทะเข้ากับลำแสงจากฟากฟ้าอย่างดุเดือด


เอฟเฟกต์อาจไม่อลังการ แต่ผลลัพธ์นั้นยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยาย


มากพอจะทำให้ทหารฝ่ายพันธมิตรเอาชนะความกลัวและสิ้นหวังที่กำลังกัดกินหัวใจ


แต่ของจริงมันเริ่มจากนี้ต่างหาก


วาบ!


ขณะลำแสงที่ยังหลงเหลืออีกหลายหมื่นใกล้พุ่งชนทหารฝ่ายพันธมิตร


หัตถ์เทวะสามสิบข้างแปลงโฉมกลายเป็นไรเดอร์สในพริบตา


พวกมันใช้ร่างกายขนาดมหึมาเป็นกำบังรับลำแสง


ลำแสงที่เล็ดลอดผ่านช่องว่างถูกหอกยักษ์ซึ่งใหญ่เท่าต้นเสาปัดกวาด


“หึหึ! คึฮะฮะฮะ!”


บาเอลหัวเราะ


จันทร์ขุมนรกที่ปิดตาสนิท เปิดกลับมาอีกครั้งด้วยสีแดงก่ำกว่าปรกติ พวกมันเค้นลำแสงระลอกใหม่ออกมาด้วยดวงตาที่นองเลือด


แต่ก็เปล่าประโยชน์


การโจมตีด้วยปริมาณ ไม่มีวันเอาชนะกริดได้


“ดาบสลายทัพสองแสน”


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


เส้นดาบทรงจันทร์เสี้ยวที่ยาวเท่ากับรัศมีของกลุ่มลำแสง พุ่งขึ้นไปด้านบนราวกับจะแยกท้องฟ้าออกจากกัน


การฟันเพียงหนเดียวไม่มากพอจะขจัดลำแสงทุกเส้นได้สิ้นซาก แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือบาเอลที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า


“ไม่เลว! ยอดเยี่ยม!!”


บาเอลที่เอนตัวไปด้านหลังเพื่อหลบ ระเบิดเสียงหัวเราะดังกว่าเดิม


กริดสูญเสียพลังชีวิตไปกว่าห้าในสิบเพื่อแลกกับความเสียหายของลำแสงนับหมื่นเส้น แต่ชายหนุ่มยังไม่เปลี่ยนสีหน้า


เขตแดนพายุเพลิงเทพถูกปลดปล่อยเพื่อเรียกใช้คุณสมบัติฟื้นฟู รวมถึงการดื่มโพชันเพื่อชดเชยทรัพยากร


ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!!


จันทร์ขุมนรกยังคงกระหน่ำยิงลำแสง


รอบนี้ถูกยิงใหม่ด้วยความเร็วมากกว่าปรกติ ราวกับกำลังท้าทายให้กริดฟันมันอีกครั้ง


ชายหนุ่มตอบสนองในทันที


[หัวใจดวงที่เก้าของฟีนิกซ์แดงกำลังกู่ร้องร่วมกับฟีนิกซ์แดงแห่งตะวันออก]


[เจตจำนงแห่งฟีนิกซ์แดงปรากฏกาย]


กรี๊!


สายฝนเพลิง


เป็นฝนวิเศษที่ฟื้นฟูบาดแผลและความอ่อนล้าของพันธมิตรในปริมาณมาก แต่จะคอยแผดเผาลำแสงและสัตว์อสูรบนพื้นดินราวกับภัยพิบัติ


ปึด! ปึด!!


เลือดสีแดงเข้มภายในดวงตานับหมื่นของจันทร์ขุมนรก กำลังเดือดพล่านประหนึ่งลาวา


“คึฮ่าฮ่าฮ่า!”


บาเอลกุมท้องหัวเราะ


จันทร์ขุมนรกที่พยายามระงับอาการสั่นระริกของดวงตา จากนั้นก็ยิงลำแสงอย่างเกรี้ยวกราด


แต่จำนวนลดลงอย่างมาก


ไม่ใช่หลักหมื่น แต่เป็นหลักพัน


ไม่จำเป็นต้องถึงมือกริด


เวทมนตร์ของบราฮัมและเหล่าจอมเวท วิชาดาบของอัสโมเฟลและอัศวิน รวมถึงทักษะของผู้เล่นแถวหน้าอีกหลายพัน พุ่งเข้าปะทะกับลำแสง


“…”


สนามรบถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัด


เป็นความเงียบอันเกิดจากความพินาศของกองทัพอสูรและดวงตาที่ปิดสนิทของจันทร์ขุมนรก


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


มีเพียงเขตแดนพายุเพลิงเทพที่ยังปกคลุมสนามรบอย่างเด่นสง่า


ทหารฝั่งพันธมิตรที่บาดแผลถูกฟื้นฟูกลับเป็นปรกติ ต่างได้รับพลังใจอันเข้มแข็งกริด


พวกมันที่กำลังสับสนและยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก ทยอยโห่ร้องด้วยความยินดีหลังจากผ่านไปได้สักพัก


“เฮ—!!”


[การสรรเสริญจากผู้คนช่วยเพิ่มค่าบารมีเทพ 1 หน่วย]


แค่คนเดียว


คนหนึ่งคนสามารถพลิกผันกระแสสงคราม


นี่คืออำนาจของทวยเทพ


ทันใดนั้น เพลงธีมที่สอง ‘อำนาจ’ ถูกเปิดเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชม


ท่วงทำนองของเครื่องดนตรีที่ถูกบรรเลง ช่วยแผดเผาเลือดในกายทุกคนจนเดือดพล่าน


เริ่มตั้งแต่ศึกนองเลือดกับจอมอสูรบีเลียล การดวลกับครอเกลในยุคสมัยครองบัลลังก์ฟ้าเหนือฟ้า การแข่งขันตะลุมบอนราชาอสูรซึ่งแรงเกอร์หลายร้อยคนถูกกำราบ เหตุการณ์สังหารและทำลายดวงวิญญาณเทวทูตที่วาติกัน


ฉากทั้งหมดแล่นเข้ามาในใจทุกคนที่ได้ยินเพลง


“…”


กริดซึ่งลอยเด่นสง่าบนท้องฟ้าท่ามกลางดวงจันทร์ที่ปิดตาสนิท ตัดสินใจไม่ร่อนลงไปด้านล่าง


เพราะมันไม่อยากให้ใครเห็นว่าตนกำลังหน้าแดง


‘เพลงพวกนี้มันอะไร?’


แน่นอนว่ากริดมีความสุข ร่างกายกำลังสั่นเทิ้มอย่างมิอาจหักห้าม


เพลงธีมส่วนตัว


มันรู้สึกราวกับความพยายามที่ผ่านมาได้รับผลตอบแทน


แต่ขณะเดียวกัน นั่นมาพร้อมความกังวล


ในอนาคต ถ้าเราสร้างความสำเร็จมากขึ้นและมีเพลงธีมถูกแต่งประกอบเพิ่มเติม…


ไม่ใช่ว่าตนต้องคอยระวังเรื่องการวางตัวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยหรือ?

______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00