จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,507



“ทำไมจู่ๆ ถึงกลับ?”


ถูกใครบางคนไล่ล่าอยู่รึไง?


เฮ่าไล่ทันบันส์เดลที่หันหลังกลับอย่างกะทันหัน


อีกฝ่ายมีตัวตนสูงส่ง แต่พูดจาไม่เก่ง


ในตอนที่พวกมันกำลังจะถึงไรน์ฮาร์ท บันส์เดลรีบหันหลังกลับและบินหนี


เฮ่าพลันกระอักกระอ่วน เนื่องจากมันเพิ่งแจ้งกับลอเอลว่ากำลังจะไปถึงพร้อมกับผู้นำเผ่าดราโกเนียน


บันส์เดลซึ่งใช้ชุนโปหลายหนจนผิวพรรณซีขาว หันมาพูดกับเฮ่า


“อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะถูกทำลายภายในวันนี้… ไม่สิ พิจารณาจากคลื่นพลังระลอกเมื่อครู่ ตอนนี้อาจพังพินาศไปแล้วก็ได้”


“หือ…?”


เฮ่าส่งเสียงด้วยสีหน้าฉงน


มันสงสัยว่าบันส์เดลอาจเลอะเลือนกะทันหัน


แต่ก็เพียงครู่เดียว


เมื่อเห็นร่างกายที่สั่นเทาราวกับต้นหลิวของบันส์เดล มันเริ่มตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์


“…เกิดอะไรขึ้นกันแน่”


“ในไรน์ฮาร์ท… ข้าสัมผัสถึงจิตสังหารของเทพสงคราม”


เทพสงคราม เซราทุล


ไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตระดับสูงจะไม่รู้จัก


และมิใช่แค่เคยได้ยิน มันเคยสัมผัสด้วยตัวเอง


บันส์เดลเคยถูกเทพสงครามล่อลวงหลายหน


การได้เห็นอีกฝ่ายปรากฏกายในความฝันพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่ยากปฏิเสธ นับเป็นความรู้สึกแสนอัศจรรย์สำหรับมัน แต่บันส์เดลก็ตอบปฏิเสธทุกเครื่องเนื่องจากสัมผัสถึงลางร้าย


ความผิดหวัง ขุ่นเคือง และจิตสังหารที่เทพสงครามแผ่ออกมาในเวลาดังกล่าว ยังคงมอบความกลัวให้บันส์เดลจวบจนปัจจุบัน


แต่เมื่อครู่


บริเวณรอบนอกกรุงไรน์ฮาร์ท มันสัมผัสถึงจิตสังหารอันท่วมท้นที่รุนแรงยิ่งกว่าในความฝัน


“ถึงจะไม่ทราบรายละเอียด แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าราชาโอเวอร์เกียร์ไปกระตุกหนวดเทพสงครามไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง… ให้ตายสิ… คิดอะไรอยู่ถึงได้ยั่วยุเทพสงครามขณะกำลังถูกกองทัพอสูรรุกราน? คิดน้อยเกิดไปแล้ว”


บันส์เดลมีอคติต่อกริดมาตั้งแต่ต้น


พฤติกรรมของชายคนนั้นหลุดกรอบสามัญสำนึกไปไกล เป็นพวกที่ยากจะคาดเดา


อย่างไรก็ดี มันยอมเชื่อคำพูดเฮ่าและตัดสินใจมาพบกริดสักครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้พบกัน บันส์เดลรู้สึกราวกับเดินเหยียบขี้


เฮ่าซึ่งเงียบงันไปสักพัก เปิดปากพูดหน้าขรึม


“ไรน์ฮาร์ทยังปลอดภัยดี”


มันส่งข้อความเสียงไปถามลอเอล


บันส์เดลพ่นลมหายใจ


“ข้าไม่รู้ว่าเจ้านำข่าวมาจากไหน แต่ขอเตือนไว้ว่า แหล่งข่าวดังกล่าวเชื่อถือไม่ได้ อีกฝ่ายกำลังปั่นหัวเจ้า”


“ผู้บริหารสูงสุดของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์…”


“เจ้านั่นคงคิดจะล่อให้ข้าเข้าไปพัวพันเพื่อยืดเวลาการถูกทำลายออกไป… ลูกไม้เด็กน้อย… สติปัญญาชั้นต่ำ”


“เขายืนกรานว่าที่นั่นปลอดภัย… เทพสงครามเซราทุลพ่ายแพ้กลับไปแล้ว”


“อะไรนะ? อุฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าเชื่อด้วยหรือ? หัวทึบแบบนี้เดี๋ยวก็สิ้นเนื้อประดาตัวเข้าสักวัน”


เทพสงครามคือตัวตนไร้เทียมทาน


ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่กุเรื่องเท็จ หรือเฮ่าที่หลงเชื่อสนิทใจ


สำหรับบันส์เดล พวกมันไม่ต่างอะไรกับคนโง่


“เฮ้อ… กลับไปดื่มพักผ่อนกันเถอะ”


“ดื่มขณะที่อสูรกำลังอาละวาดไปทั่วทวีป? ย้อนกลับไปไรน์ฮาร์ทกันดีกว่า”


“สงครามจบลงแล้ว… นับตั้งแต่ที่เทพสงครามลงมาทำลายอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ไม่ใช่กองทัพอสูร… ชะตากรรมของมนุษย์ถูกไว้แล้วว่าต้องพ่ายแพ้… ภาวนาให้ไม่ส่งผลต่อพวกเรามากนักก็แล้วกัน”


“พวกเขายังสบายดี…”


“คึฮ่าฮ่าฮ่า!”


บันส์เดลทนไม่ไหว มันใช้มือกุมท้องพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ


ถัดมาไม่นาน มันลั่นวาจา


“เจ้าบอกว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องการร่วมมือกับดราโกเนียนใช่ไหม? ตกลง ถ้าพรุ่งนี้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังปลอดภัย เหล่านักรบดราโกเนียนจะยิ่งกว่าสนับสนุนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์… พวกเราจะกลายเป็นสุนัขรับใช้ให้พวกเขา”


“…”


“คงกำลังอึ้งอยู่กับความจริงใช่ไหม? ดีล่ะ ไปดื่มกัน”


“…”


หัวทึบแบบนี้เดี๋ยวก็สิ้นเนื้อประดาตัวเข้าสักวัน…


เฮ่าตั้งตารอวันพรุ่งนี้ด้วยใจจดจ่อ


***


“จ…จริงหรือ? อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะยอมฟังคำขอของเราจริงหรือ?”


“แน่นอนอยู่แล้ว!”


“ย…เยี่ยมไปเลย!”


สองพี่น้องแบล็กไวท์ต่างเป็นไฮแรงเกอร์ชื่อดัง


ฝีมือเก่งกาจจนไฮแรงเกอร์หลายคนไม่กล้าโอ้อวดฝีมือเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกหล่อน


ไม่สิ ระบุให้ชัดเจนก็คือ พวกมันไม่อยากจะมองหน้าด้วยซ้ำ


หากเดินสวนกันโดยบังเอิญในจุดเก็บเลเวลหรือตามถนน พวกมันจะพยายามหลบสายตา


ฝีมือของสองพี่น้องนั้นยอดเยี่ยม แต่ความชั่วร้ายก็ไม่แพ้กัน


พวกเธอมักปล้นผู้เล่นโดยใช้ภารกิจหรือชีวิตเป็นเครื่องข่มขู่ หากไม่ยอมทำตามก็จะฆ่าทิ้งอย่างไม่แยแส เป็นพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต


หากสองพี่น้องตัดสินใจก่อตั้งกลุ่ม นั่นจะเป็นกลุ่มโจรป่าอย่างไม่ต้องสงสัย


ผู้คนต่างพากันเกลียดชังสองพี่น้องแบล็กไวท์ หลายฝ่ายจงใจหลบหน้าอย่างเปิดเผย


เมื่อจากพวกเธอเคยก่อกรรมทำชั่วไว้มาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสว่าง


เกือบทุกอาณาจักรบนทวีปตั้งค่าหัวและออกหมายจับสองพี่น้อง


โดยเฉพาะจักรวรรดิซาฮารันที่ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ทันทีที่พวกเธอข้ามพรมแดน ทีมไล่ล่ามือฉมังจะถูกส่งมาตามจับกุมอย่างไม่ลดละ นอกจากนั้น ระบบรักษาความปลอดภัยของจักรวรรดิยังน่าทึ่งมาก พิกัดของพวกเธอจะถูกเปิดโปงตลอดเวลา


แต่สองพี่น้องก็มิได้แยแส พวกเธอแค่ไม่ไปเหยียบจักรวรรดิ


ทว่า เมื่อมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรอุบัติขึ้น สถานการณ์ก็แปรเปลี่ยน


นั่นเพราะอาหารจานใหญ่ที่สุดซึ่งมีชื่อว่าห้วงนรก ตั้งอยู่ใจกลางจักรวรรดิ


จริงอยู่ที่ข้างนอกก็มีมอนสเตอร์ให้กำจัด แต่เลเวลของศัตรูก็ไม่มากพอจะตอบสนองความต้องการของพวกเธอ


ช่างน่าขัน ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ระบบไล่ล่าของจักรวรรดิกลับยังทำงานได้ดีเยี่ยม


สองพี่น้องจึงคิดหาทางออก และคำตอบก็พุ่งเป้าไปยังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


อิทธิพลของจักรวรรดิแผ่ไปไม่ถึงโอเวอร์เกียร์


ระบุให้ชัดเจนก็คือ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีสถานะสูงกว่าจักรวรรดิ


หากสองพี่น้องร่วมมือกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์สำเร็จ จักรวรรดิก็คงไม่มีอำนาจที่จะจัดการ


พวกเธออาศัยข้อเท็จจริงที่ว่า สถานการณ์ฝั่งมนุษย์กำลังตกเป็นรองอย่างมาก จึงส่งเรื่องไปเจรจากับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


พวกเราจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ได้โปรดใช้งานพวกเราด้วย… แบล็กกับไวท์ไม่ลังเลเลยที่จะยอมลดตัวขอร้อง พวกเธอยอมทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้เข้าไปอาละวาดในห้วงนรก


แต่ปัญหาคือสันดานและอุปนิสัย


ไวท์หลงลืมจุดยืนที่จะขอร้อง เธอเขียนจดหมายถึงอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในเชิงโอ้อวดและข่มขู่


[พวกเรายินดีที่จะต่อสู้เคียงข้างพวกนาย คงไม่ต้องอธิบายใช่ไหมว่าเราสองคนแข็งแกร่งขนาดไหน? ฉันรู้ว่าโอเวอร์เกียร์ต้องการพลังของเรา ดังนั้น จงขายไอเท็มเกรดเลเจนดารีที่กริดสร้างให้เรา และเราจะคอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่จนกว่าสงครามจะจบลง]


“พ…พี่ ทำไมถึงพิมพ์แบบนี้? พวกเราต้องเป็นฝ่ายขอร้องไม่ใช่หรือ?”


แบล็กพยายามห้ามจากด้านข้าง แต่ไวท์กดปุ่มส่งข้อความเรียบร้อยแล้ว


“ฮะฮะ… จบสิ้นแล้ว”


ความโอหัง


ไวท์ซึ่งหัวเราะแห้งหลังจากได้สติ เผยรอยยิ้มขื่นขม


นักพิราบสีขาวบริสุทธิ์กำลังบินขึ้นไปบนฟ้า


แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว


เมื่อเห็นสัญลักษณ์นกพิราบสีขาว นั่นแปลว่าข้อความถูกส่งไปหาอีกฝ่ายเรียบร้อย


มิอาจย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงข้อความ นี่คือขีดจำกัดของระบบ


…ป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี


ไม่มีทางที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะตอบรับจดหมายโอหังเช่นนี้


หลังจากหลั่งน้ำตาและยอมถอดใจ พวกเธอได้รับคำตอบกลับไปว่า ‘ตกลง’


สองพี่น้องโผกอดอย่างยินดีก่อนจะรีบมุ่งหน้ามายังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ในอาณาจักรไม่มีหมายจับของพวกเธอ


นั่นเพราะแบล็กกับไวท์ไม่เคยก่อเรื่องในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ความเป็นอริระหว่างสองพี่น้องกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เป็นเพียงอดีตที่ล่วงเลยมานานแล้ว


หลังจากยอมรับชะตากรรมและจำนนต่อกริด พวกเธอก็ไม่กล้าหาเรื่องกริดอีกเลย


“ลอเอล! ฉลาดมากที่ยอมรับพวกเรา! เจ๋งเป้ง! สติปัญญาของนายยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ!”


“อยากลุยสมรภูมิห้วงนรกใช่ไหม? เราคาดหวังกับพวกเธอไว้มากนะ… ไม่ต้องกังวลเรื่องหมายจับ เราจะสะสางให้ อาละวาดได้ตามใจชอบ”


“ล…แล้ว… ไอเท็ม?”


“แน่นอน พวกเธอต้องแสดงผลงานก่อน หลังจากนั้นค่อยมาค้าขายกัน”


“พวกเราไม่มีทางโกหกโอเวอร์เกียร์อยู่แล้ว ไม่มีใครคิดสั้นขนาดนั้น! เราต้องการไอเท็มเพื่อที่จะแสดงฝีมือได้ดีขึ้น…”


“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเธอถึงพยายามเปลี่ยนแปลงลำดับขั้นตอน… ไม่ฟังดูน่าสงสัยไปหน่อยหรือ”


“เปลี่ยนแปลงลำดับขั้นตอน… ม…ไม่ใช่! นายพูดถูก! พวกเราต้องแสดงฝีมือให้ประจักษ์ก่อน! เข้าใจแล้ว พวกเราจะไปที่สนามรบเดี๋ยวนี้!!”


“พ…พี่! รอฉันด้วย!”


ผู้เล่นด้านมืดนับหมื่นคนมีสองพี่น้องเป็นแบบอย่าง


เพื่อบรรลุผลประโยชน์ส่วนตัว พวกมันทยอยเข้าร่วมขบวนรถไฟ


ส่วนใหญ่พยายามยื่นข้อเสนอกับโอเวอร์เกียร์ แต่ก็ถูกลอเอลบอกให้ ‘พิสูจน์ฝีมือ’ เสียก่อน


พวกมันกลายมาเป็นหัวหอกแนวหน้าที่ยอดเยี่ยมของกองกำลังมนุษย์


***


“ซิกเฟรคเตอร์! เจ้ากำลังทำอะไร? ลงมือเร็วเข้า!!”


เกาะคอร์ก


เนเฟลิน่าที่กำลังต่อสู้กับเฮลกาโอซึ่งพังดันเจี้ยนและหนีออกมาข้างนอก ตวาดด้วยน้ำเสียงร้อนรน


นั่นเพราะอักขระเวทมนตร์ของซิกเฟรคเตอร์ที่คอยสนับสนุนเธอหยุดทำงาน


เมื่อมองตามไปยังต้นตอ ฉากตรงหน้าสุดจะพรรณนา


ซิกเฟรคเตอร์กำลังยืนหลับ


“ซิก! ให้ตายสิ! คนอื่นมีแต่ตายทั้งยืน เจ้ากลับหลับทั้งยืน!”


ทำไมคำสาปเกียจคร้านถึงต้องเล่นงานในเวลาแบบนี้


เฮลกาโอที่ยืมร่างอสูรซึ่งมีคุณภาพใกล้เคียงจอมอสูร ไม่ใช่ศัตรูที่เนเฟลิน่าสามารถรับมือได้ตามลำพัง เธอจึงร้อนรนเป็นพิเศษ


“ผมจัดการแกรนมาสเตอร์ให้เอง คุณตั้งใจต่อสู้ไปก่อน!”


ซีบาลรีบตอบสนอง


มันออกจากไรเดอร์สโดยวางหุ่นรบเป็นกำบัง จากนั้นก็เขย่าไหล่ซิกเฟรคเตอร์


“แกรนมาสเตอร์!!”


เดิมที หากรู้สึกง่วง ซิกเฟรคเตอร์จะหาทางล่าถอยอย่างปลอดภัย


แต่คราวนี้กลับหลับไปกะทันหัน?


เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…


“…เอ๋?”


ขณะกำลังตึงเครียด ซีบาลขมวดคิ้วฉงน


“ม…หมายความว่ายังไง?”


ซิกเฟรคเตอร์ที่มันเข้าใจว่าหลับ ลืมตาขึ้นทั้งสองข้าง


“มองหามดอยู่รึไง?”


เขากำลังทำอะไร?


ขณะซีบาลไม่เข้าใจว่าทำไมซิกเฟรคเตอร์ถึงเอาแต่ก้มมองพื้น มันฉุกคิดถึงข้อความโลกที่เคยแสดงขึ้น


[มีข่าวว่า <ร่างที่ถูกผนึกของหนึ่งในเจ็ดมาร> ถูกค้นพบในห้วงนรก โทสะจึงพรั่งพรูออกมาผสมผสานกับ ‘โลกผสม’ ส่งผลให้ความเข้มข้นของปราณอสูรเพิ่มขึ้น อสูรทุกตนจะได้รับผลข้างเคียงบนโลกลดลง 20%]


…แบบนี้นี่เอง


ซีบาลเอาแต่เพ่งสมาธิอยู่กับเฮลกาโอจนหลงลืมประเด็นสำคัญในจุดอื่น


“ร่างของคุณ?”


ร่างที่ถูกผนึกของหนึ่งในเจ็ดมาร


หากเจ็ดมารหมายถึงเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ แปลว่าร่างดังกล่าวมีโอกาสเป็นของมารลำดับหก ซิก


“ข้าไม่ทราบ”


สีหน้าของซิกเฟรคเตอร์กำลังหม่นหมอง


“การเชื่อมต่อเลือนรางจนข้าแยกแยะไม่ออกว่าเป็นร่างของตัวข้าหรือพวกพ้อง… ถ้าไม่มีการเชื่อมต่อเลย ข้าคงมั่นใจว่าเป็นของพวกพ้อง แต่นี่กลับสัมผัสได้อย่างเลือนราง… คลุมเครือมาก… ข้ามีลางสังหรณ์… หรือข้าอาจไม่ใช่ซิก?”


“…”


กำลังจะบอกว่า ที่นายหยุดต่อสู้ก็เพราะเอาแต่ขบคิดคำถามเชิงปรัชญาพวกนี้อยู่?


ซีบาลมองเป็นเรื่องไร้สาระในตอนต้น ก่อนจะเริ่มฉุกคิดถึงตัวตนที่แท้จริงของซิกเฟรคเตอร์


มันคือ ‘ร่างกลับชาติมาเกิด’ ของมารลำดับหก ซิก


หลังจากวนเวียนคืนชีพหลายครั้งด้วยความทรงจำก่อนหน้า มันกลายมาเป็นซิกเฟรคเตอร์คนปัจจุบัน


ระยะเวลาดังกล่าวอาจนานมากเสียจนเกิดคำถามว่า ตนกับมารลำดับหก ซิก ใช่คนเดียวกันจริงไหม


“หากร่างที่พบในห้วงนรกเป็นของข้าจริง… นั่นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่… เพราะการที่ข้ามิอาจเชื่อมต่อกับร่างกายตัวเอง คือเครื่องพิสูจน์ว่าตัวข้าในปัจจุบันและอดีต เป็นสองสิ่งที่แยกจากกัน…”


ขณะสีหน้าของซิกเริ่มซับซ้อนและดำมืด


“นี่! ไอ้งั่ง!!”


เนเฟลิน่าแผดเสียง


“เจ้านอนมากจนสมองละลายไปหมดแล้วรึไง? พลังเวทของเฮลกาโอกำลังปกคลุมเกาะหนาแน่นขนาดนี้ การที่เจ้ายังรับรู้ได้อย่างเลือนรางนั่นก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว! ต้องเป็นร่างของเจ้าไม่ผิดแน่… ดังนั้น เร็วเข้า! รีบมาช่วยข้าก่อน!!”


ยิ่งสถานการณ์เข้าใกล้วิกฤติ เนเฟลิน่าก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า


แม้จะเป็นแฮชลิ่งแรกเกิด แต่ศักดิ์ศรีของหล่อนย่อมต้องไม่ธรรมดา


ซีบาลรู้สึกว่าตนบังเอิญเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเข้า


“อา… ข้าตื่นเต้นไปหน่อย”


ดวงตาของซิกเฟรคเตอร์ที่เคยอับแสง กลับมาสดใสตามเดิม


ร่างกายซึ่งเคยถูกผนึกไว้หลายพันปี ยามนี้ปรากฏออกมาอีกครั้ง


ถ้าจะให้ใจเย็นอยู่ได้ นั่นคงไม่ปรกติสักเท่าไร


ฉึบ


ซิกเฟรคเตอร์ชักปฐมดาบซาฮารัน


มันเอาแต่รับบทบาทสนับสนุนด้วยอักขระเวทมนตร์มาตลอด เนื่องจากกังวลว่าหากใช้พลังมากไป คำสาปเกียจคร้านจะยิ่งทวีความรุนแรง


แต่ต้องไม่ลืมว่า ซิกเฟรคเตอร์ถูกยกย่องให้เป็นแกรนมาสเตอร์เนื่องจากถือครองพลังอันยิ่งใหญ่


ในวินาทีนี้ มันทำการเค้นพลังออกจากดาบ เป็นปริมาณที่มหาศาลยิ่งกว่าสมัยช่วยซาฮารันก่อตั้งจักรวรรดิ


เป็นการระเบิดพลังโดยไม่คำนึงถึงผลข้างเคียง


จุดประสงค์เพื่อรีบยุติสถานการณ์ตรงหน้า จากนั้นก็กลับไปทวงคืนร่างกาย


ชิ้ง!


ปราณสีชาดพรั่งพรูออกจากดาบสีแดงอย่างท่วมท้น ขณะเดียวกัน พลังเวท พลังจิต และปราณดาบของซิกเฟรคเตอร์ผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นลวดลายสัญลักษณ์


ลวดลายมีลักษณะเป็นอักขระเจ็ดตัวที่ต่างสีสัน


ทุกครั้งที่อักขระเรียงต่อกัน คำใหม่จะถูกสร้างขึ้น และเมื่อชุดคำเรียงรายเป็นทางยาว พลังงานรอบตัวซิกเฟรคเตอร์จะทวีความเข้มข้นพร้อมกับแผ่ขยายเป็นวงกว้าง พลังเวทธาตุต่างๆ ซ้อนทับกันจนกลายเป็นออร่าที่เอ่อล้น


ครืนนนนน!!


ลำพังคลื่นพลังงานเพียงอย่างเดียว มากพอจะทำให้เกาะทั้งเกาะสั่นสะเทือน


ภูเขาไฟเกิดระเบิด ทะเลกำลังสร้างสึนามิ


จากบรรดาเจ็ดมารที่ก่อกบฏ ต่อแอสการ์ด ซิกแข็งแกร่งที่สุด และถูกสาปด้วยคำสาปที่ทรงพลังที่สุด


เมื่ออดีตมนุษย์ที่เคยแข็งแกร่งที่สุดในโลกตัดสินใจแสดงอิทธิฤทธิ์ บรรยากาศสนามรบพลันถูกฉาบไปด้วยความมหัศจรรย์


ซีบาลหมดคำจะกล่าวทันที


‘ทั้งที่มีพลังมากขนาดนี้ แล้วทำไมถึงเอาแต่หนีมาตลอด…’


ระบุให้ชัดเจนก็คือ ทำไมถึงต้องให้ตนคอย ‘แบกคนหลับหนี’ อย่างหัวซุกหัวซุนโดยแทบไม่ได้หยุดพัก


วันวานอันแสนทุกข์ทรมาน ซีบาลกำลังจะได้บอกลาพวกมัน


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,056
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00