จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,508



เมื่อการต่อสู้อันดุเดือดจบลง เฮลกาโอทรุดคุกเข่า


แม้ว่าขอบเขตระหว่างสองโลกจะถูกทำลาย และยังได้ครอบครองร่างอสูรระดับใกล้เคียงจอมอสูร แต่เฮลกาโอกลับยังฟื้นฟูพลังที่แท้จริงมาได้เพียงเจ็ดในสิบส่วน


ไม่เพียงพอต่อการรับมือเนเฟลิน่า ซิกเฟรคเตอร์ และไรเดอร์สที่รีบปิดบัญชีเพื่อไม่ให้ความเสียหายลุกลาม


“…ข้าถูกหลอกใช้โดยไอ้ระยำบาเอล…”


เฮลกาโอทิ้งท้ายแฝงความนัยขณะแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเทา


เมื่อเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ ก็พอจะเดาได้ว่าเฮลกาโอเคยชินกับการพ่ายแพ้


ซีบาลที่ฉีกยิ้มด้วยความโล่งใจ รายงานสถานการณ์กับหน่วยข่าวกรอง


มันสมองของกิลด์โอเวอร์เกียร์เริ่มเคลื่อนไหว


ข้อมูลใหม่ถูกรวบรวมอย่างรวดเร็วและแจกจ่ายไปยังสมาชิกระดับสูงของกองกำลังพันธมิตร


<หลังจากเอาชนะเฮลกาโอได้ เนเฟลิน่า แกรนมาสเตอร์ และไรเดอร์สเดินทางขึ้นเหนือ ปลายทางคือห้วงนรก>


<ร่างของหนึ่งในเจ็ดมารที่พบในห้วงนรก ต้องสงสัยว่าจะเป็นของแกรนมาสเตอร์>


<แกรนมาสเตอร์ต้องการผู้คุ้มกัน>


‘ทำไมถึงเป็นไรเดอร์ส ไม่ใช่ซีบาล?’


ซีบาลไม่ค่อยพอใจกับวิธีการส่งข้อมูล แต่ก็มิได้เรื่องมาก


นั่นเพราะมันหยิ่งทระนงในความเป็นวีรบุรุษแห่งอเมริกันชน


ลำพังการได้รับไอเท็มก็ช่วยให้รู้สึกดีมากพอแล้ว


***


วันที่สองของมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร


ผู้คนต่างพากันดื่มด่ำไปกับความอิ่มเอมใจที่เกิดขึ้นจากทุกซอกมุมโลก


มีหลายสิ่งให้เพลิดเพลิน


ไม่ว่าจะเปิดทีวีดูช่องใดก็จะมีสงครามให้ดูเสมอ และนักข่าวก็จะแข่งกันเขียนเรื่องราวที่น่าประทับใจ


แทบไม่มีเวลาให้เบื่อหน่าย


แม้แต่ผู้เล่นที่เสียชีวิตติดต่อกันหลายครั้งจนถูกจำกัดสิทธิ์การเชื่อมต่อ ก็ยังมีเรื่องให้สนุกไปกับสงคราม


พวกมันเพิ่งค้นพบว่า การจิบเบียร์ไปพลางรับชมสงครามอันน่าตื่นตาตื่นใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรนัก


แน่นอนว่าทุกคนอยากกลับไปออนไลน์และต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่การมัวหงุดหงิดกับปัญหาที่ไม่มีทางแก้อื่นนอกจากเวลา รังแต่จะทำให้เสียสุขภาพจิตโดยเปล่าประโยชน์


= ดูนั่นสิ เธอสามารถกวาดล้างกองทัพอสูรไปพร้อมกับยิงกดดันจอมอสูรจนไม่สามารถอาละวาด… เมื่อก่อนจุดแข็งที่สุดของจิสึกะคือการหาตำแหน่งยิง แต่ตอนนี้แม้แต่ระยะยิงก็ยังเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าแทบไร้จุดบอด


= พวกจอมอสูรกำลังเหงื่อแตก! ᄏᄏ!


= พวกมันทำอะไรไม่ได้นอกจากสบถอย่างหัวเสีย เพราะไม่มีทางรู้ว่าลูกธนูถูกยิงมาจากไหน


= เธอทำแบบนั้นได้ยังไง… ฉันเป็นนักธนูอันดับ 9,573 ย่อมรู้ดีว่าการหาตำแหน่งยิงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันไม่มีหลักการตายตัว น่าทึ่งมากที่ศัตรูยังหาเธอไม่เจอจนถึงตอนนี้


└ แรงเกอร์มาทำอะไรในฟอรั่มนี้?


└ จริงด้วย ถ้าเป็นแรงเกอร์ท็อปหนึ่งหมื่นของอาชีพ ชีวิตหลังจากล็อกเอาต์คือการอยู่บนเรือสำราญไม่ใช่หรือ? แล้วมาทำอะไรที่นี่?


└ หา? อะไรของนาย… คิดว่ากริดไปอวกาศทุกครั้งที่ล็อกเอาต์รึไง? หรือเขามีเมียสามพันคน? ก็ไม่ใช่ไหม? อย่าตีกรอบแรงเกอร์ด้วยรสนิยมพิสดารของพวกนายเลย


└ ฉันไม่ได้ตีกรอบแรงเกอร์ แค่จะแขวะว่าหมอนั่นไม่น่าจะเป็นแรงเกอร์ ᄏᄏ


มีสองบุคคลที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากเป็นพิเศษ


จิสึกะแห่งหมู่เกาะเบเฮ็นและบราฮัมแห่งห้วงนรก


กล่าวอีกนัยหนึ่ง เหล่าตัวตนที่โดดเด่นของโลกกำลังถูกจัดอันดับความนิยมโดยผู้ชมทางบ้าน


คนทั้งสองได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเนื่องจากเพียบพร้อมในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ ฝีมือ หรือนิสัย ความแตกต่างมีเพียงสไตล์การต่อสู้


จอมเวทที่หายตัวไปโผล่ต่อหน้าศัตรูและบดขยี้ด้วยพละกำลัง


หรือนักธนูที่ปกปิดตำแหน่งตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบและตรึงศัตรูด้วยทักษะการควบคุมที่เก่งกาจ


คำนิยามอาจจะแปลกไปสักหน่อยสำหรับจอมเวท แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ


กลุ่มที่ชื่นชอบพลังทำลายล้าง ต่างส่งเสียงเชียร์บราฮัมที่เข้าไปถล่มกลางดงศัตรูด้วยมหาเวท


กลุ่มที่ชื่นชอบกลยุทธ์จะให้ความสนใจกับจิสึกะที่อาศัยมันสมองและความแม่นยำ กุมชะตากรรมสนามรบไว้ในมือ


แต่ความสนุกไม่มีทางคงอยู่ตลอดกาล


= ได้ยินว่าจิสึกะใกล้ถึงกำหนดล็อกเอาต์แล้ว


= บราฮัมเองก็ดูเหนื่อย


ขีดจำกัดการออนไลน์และข้อจำกัดด้านสุขภาพ


ผู้เล่นอย่างจิสึกะถูกตีกรอบโดยทั้งสองเงื่อนไข ส่วนบราฮัมก็พ่ายแพ้ให้กับขีดจำกัดด้านร่างกาย


การพักผ่อนคือเรื่องสำคัญ เว้นเสียแต่จะเป็นมอนสเตอร์


เมื่อจิสึกะและบราฮัมออกจากสนามรบ การต่อสู้จึงกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง


กองกำลังฝ่ายพันธมิตรที่รุกคืบใส่กองทัพปีศาจมาสักพักเริ่มสูญเสียกระแส สถานการณ์กลับมาสูสีกันอีกครั้ง


= มีคนตายมากเกินไป


= ผู้เล่นจะตายก็ตายไปเถอะ แต่ฉันเป็นห่วงทหาร ถ้า NPC ตาย นั่นคือจุดจบของพวกเขา


= จักรวรรดิเสียหายหนักมาก ต่อให้ฝ่ายมนุษย์ชนะสงคราม แต่พวกเขาคงใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้


เหล่าผู้เล่นแนวหน้าอย่างสิบวีรชนและเฮสเตอร์ รวมถึง NPC สุดพิเศษอย่างโนลล์ สติกส์ และเทรูชาน


กองทัพเสริมที่ทยอยเดินทางมาถึงแนวรบหมู่เกาะเบเฮ็นและห้วงนรก ล้วนเป็นกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยมและน่าจับตามอง


ทว่า นั่นยังไม่เพียงพอที่จะอุดรอยรั่วของสุดยอดจอมเวทและผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของคลาสธนู


ในมหาสงคราม จะมีสักกี่คนที่โดดเด่นได้เท่าบราฮัมกับจิสึกะ?


นอกจากนั้น ทัพเสริมของศัตรูก็ยังเป็นปัญหา


ทุกครั้งที่บริวารของบาเอลซึ่งดูคล้ายกับคางคกยักษ์อ้าปาก ฝูงแมลงวันพลันพรั่งพรูพร้อมกับสร้างความเสียหายใหญ่หลวง


จนกระทั่งวันที่สามของสงคราม


ผู้ชมเริ่มกระอักกระอ่วน หลายคนยืนทำความเคารพให้กับเหล่าทหารที่จากไปอย่างกล้าหาญ


กลุ่มที่เพิ่งเริ่มเล่นซาทิสฟายได้ไม่นาน ต่างแสดงความต้องการที่จะช่วยเหลือ แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี


ทันใดนั้นเอง


= หือ…? น…นั่น!


= เชี่ย! กำลังรออยู่พอดี!!


เอซกลุ่มใหม่ปรากฏตัว


สมรภูมิหมู่เกาะเบเฮ็นมีปิอาโร่ ซินกูเล็ด และเคนดริก


สมรภูมิห้วงนรกมีเมอร์เซเดส อัสโมเฟล และอเมลด้า


พวกมันเติมเต็มช่องว่างของบราฮัมและจิสึกะ


= บ้าบอสิ้นดี… บราฮัมกับลูกน้องของกริดแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?


= กริดคงกำลังสบายใจ ᄏᄏ


= แค่วันเดียว… ฉันอยากลองเป็นกริดหนึ่งวัน!


ทำไมกริดถึงไม่เข้าร่วมแนวรบ?


เหตุผลที่ไม่ค่อยมีคนตั้งคำถาม นั่นเพราะกองทัพโอเวอร์เกียร์มีขนาดใหญ่โต


กริดเป็นทั้งราชาและเทพ


ย่อมมีบริวารในบังคับบัญชาเป็นจำนวนมาก


ไม่มีเหตุผลให้ต้องออกบู๊ในแนวหน้าเหมือนเมื่อก่อน


หากยังคงต้องนำทัพด้วยตัวเอง แล้วที่ผ่านมาจะเสียเวลารวบรวมพวกพ้องไปทำไม?


ผู้คนต่างเข้าใจจุดยืนของกริดในสงคราม


***


“...!”


บาร์บาทอสซึ่งกลายเป็นคนคุมกองทัพแทนคามิคินที่ถอนตัวไปก่อนบราฮัม กำลังเผยสีหน้าตื่นตระหนก


กระสุนเวทมนตร์ที่มันยิงใส่เมอร์เซเดส ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกกดให้ร่วงหล่นอย่างเป็นปริศนา


อันที่จริง เมอร์เซเดสได้เปรียบในศึกนี้


เนตรมองทะลุของเธอสามารถมองเห็นวิถีกระสุนล่วงหน้า


เมื่อเทียบกับบราฮัมที่ต้องคอยจับตามองกระสุนทุกลมหายใจ จากนั้นค่อยใช้เวทแรงโน้มถ่วง เมอร์เซเดสรับมือบาร์บาทอสได้ง่ายกว่ามาก


เคร้ง! เคร้ง!


เมอร์เซเดสใช้ดาบปัดกระสุนที่พุ่งเข้าหาอย่างเชื่องช้าทิ้ง ตามด้วยการสยายปีกเงินและพุ่งไปด้านหน้า


เมื่อเพิ่มอัตราเร่งเข้าไป เมอร์เซเดสสามารถบินได้ด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ฉากการพุ่งเข้าหากองทัพศัตรูตามลำพังของเธอ ดูราวกับเป็นกระสุนปืนใหญ่ที่เตรียมสร้างความพินาศแก่ข้าศึก


‘อะไรกัน…’


กองทัพฝ่ายพันธมิตรที่อยู่ในสนามรบเริ่มแตกตื่น


พวกมันไม่เข้าใจพฤติกรรมของเมอร์เซเดสที่ส่งตัวเองเข้าไปในจุดอันตรายตามลำพัง


ตัวละครที่โดดเด่นอย่างโนลล์และคริส คาดเดาว่าเธอคงระบุตำแหน่งบาร์บาทอสได้แล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ส่ายหน้า


บาร์บาทอสเป็นจอมอสูรพิเศษที่สามารถซุ่มยิงจากระยะทางนับสิบกิโลเมตร


นอกจากนั้น วิถีการยิงของบาร์บาทอสคือสิ่งที่ไม่มีทางระบุได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ยิงแบบโพรเจกไตล์ แต่กระสุนจะมาในลักษณะพุ่งผ่านมิติหรือไม่ก็พุ่งขึ้นจากพื้น


นี่คือเหตุผลที่บาร์บาทอสประสบความสำเร็จในการฆ่ามากกว่าคามิคิน


กระทั่งในตอนที่บราฮัมยังอยู่ บาร์บาทอสสามารถคร่าชีวิตกองทัพพันธมิตรไปมากมาย


เฉกเช่นที่ฝ่ายอสูรเกลียดชังจิสึกะ ฝ่ายพันธมิตรก็เหม็นหน้าบาร์บาทอสไม่ต่างกัน


“คุ้มกันเมอร์เซเดส!”


คริสมีแผนจะล็อกเอาต์ในอีกห้านาที ตามปรกติแล้วควรเตรียมตัวล่าถอย


ทว่า มันกลับนำกองทัพบุกทะลวงไปข้างหน้า


การปกป้องเมอร์เซเดสที่ดูใจร้อนไปสักนิด คือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้


“อะไรกัน…?”


คริสที่กำลังตามหลังเมอร์เซเดส เผยท่าทีตกตะลึง


นั่นเพราะวิชาดาบของเมอร์เซเดสที่พลิ้วไหวและงดงาม ยามนี้กำลังแสดงพลังทำลายอันน่าทึ่ง


ป่นเกราะและดาบศัตรู แล่เนื้อลึกเข้าไปถึงกระดูก


แผ่นหลังของเมอร์เซเดสที่บุกทะลวงแนวรับของศัตรูเป็นเส้นตรง เลือนหายไปจากการมองเห็นของคริส


มีเพียงเสาลำแสงสีเทาที่สว่างขึ้นฟ้าเท่านั้นที่คอยแจ้งตำแหน่งปัจจุบันของเมอร์เซเดส


‘…ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างผิดหูผิดตาขนาดนี้?’


คริสซึ่งเป็นผู้ใช้ดาบใหญ่ พักหลังเริ่มนิยมชมชอบพลังทำนายมากกว่าเทคนิค


นั่นคือเหตุผลที่มันตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเมอร์เซเดสได้ชัดเจนกว่าใคร


ผ่านไปสักพัก เสียงระเบิดดังก้องเข้ามาในโสตประสาท


ณ จุดห่างไกลออกไป


เสียงระเบิดมีต้นตอจากค่ายปักหลักของกองทัพอสูร


ที่นั่นคือพิกัดของห้วงนรก


***


ครืนนน!!


ปากห้วงนรกที่บาร์บาทอสใช้เป็นจุดซุ่มยิง ปัจจุบันกำลังพังถล่ม


ฝุ่นผงสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ เศษดินหินแหลมคมหมุนวนด้วยอิทธิพลของลมพายุ


‘หล่อนเป็นตัวอันตราย’


บาร์บาทอสสัมผัสได้


อีกฝ่ายสามารถอ่านวิถีกระสุนเวทมนตร์ล่วงหน้า แถมยังทราบตำแหน่งในการซุ่มยิง


ย่อมเป็นเรื่องปรกติที่จะหวาดระแวง


ซู่ว…


ร่างของบาร์บาทอสกลายเป็นโปร่งใส


ไม่ใช่การพรางตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม แต่เป็นการลบตัวตนโดยสมบูรณ์


ทว่า


“…”


อัศวินหญิงกำลังมองทะลุฝุ่นควันมาทางตนอย่างแน่วแน่?


บาร์บาทอสที่ตื่นตระหนกรีบสั่งให้ ‘ครอบครัว’ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วสนามรบ กลับมาคอยคุ้มกันตน


‘จังหวะนี้แหละ’


อาศัยความโกลาหลเป็นกำบัง เฟคเกอร์กระโจนลงไปในห้วงนรก


มันสวนกับกองทัพอสูรที่ทยอยขึ้นมาสมทบผ่านห้วงนรกเป็นระยะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเอะใจ เพราะเฟคเกอร์ยังไม่สูญเสียสถานะอำพราง


ทักษะการพรางตัวของมันยอดเยี่ยมจนแม้แต่อสูรที่แข็งแกร่งบางคนก็สัมผัสไม่ถึง


“คึ่ก…!”


ห้วงนรกกว้างใหญ่ไพศาลเหนือจินตนาการ


ต่อให้ยกวังหลวงมาวาง แต่ก็คงยังถมพื้นที่แห่งนี้ไม่เต็ม แถมระดับความลึกก็ยากที่จะหยั่งถึง


เฟคเกอร์ที่ได้รับอัตราแรงจากแรงโน้มถ่วงโลก คอยใช้เทคนิคเคลื่อนย้ายเงาเป็นระยะเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งบนกำแพง เป็นการพุ่งตัวทิ้งดิ่งลงไปด้านล่างโดยแทบไม่หยุดฝีเท้า


ดวงตาของมันกำลังเผยความกระวนกระวายที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก สายตากวาดมองไปรอบตัว


‘อยู่ที่ไหนกันนะ…’


งานของเฟคเกอร์คือการช่วงชิงร่างของซิกที่ปรากฏในห้วงนรก


และแม้จะชิงกลับไปไม่ได้ แต่ก็สามารถรายงานพิกัดของร่างให้ซิกเฟรคเตอร์ทราบ


บางที นี่อาจเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดในสงคราม


เป็นงานที่ไม่มีใครทำได้นอกจากเฟคเกอร์


เทคนิคการอำพรางที่ทำให้ศัตรูมองผ่าน วิชาเงาที่ทำให้ความซับซ้อนของภูมิประเทศไร้ผล และดวงตาที่มองเห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนท่ามกลางความมืด


เฟคเกอร์เป็นเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามความต้องการของภารกิจ


และนั่นมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง


‘คงต้องลงไปอีกนิด’


พวกอสูรจะได้กลิ่นไหม?


เฟคเกอร์ที่เกาะอยู่ริมหน้าผาพลางกลั้นหายใจสำรวจเบื้องล่าง ส่งตัวเองกลับเข้าไปในเงามืดอีกครั้ง


การต้องลงไปสำรวจในความมืดที่ไม่รู้จัก ต้องอาศัยความกล้าหาญมากกว่าที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้น ภาระที่เฟคเกอร์กำลังแบกไว้บนบ่าทำให้มันไม่มีทางเลือก


“…ฟู่ว”


หลังจากลงมาจนถึงขีดจำกัด เฟคเกอร์โผล่ออกมายังริมหน้าผาพร้อมกับปล่อยลมหายใจที่กลั้นไว้


ส่งผลให้มันต้องสบตากับมอนสเตอร์ที่กำลังปืนขึ้นมา แต่เฟคเกอร์ชิงลงมือในทันที ซัดมีดสั้นเคลือบพิษอัมพาตเพื่อปิดปากอีกฝ่าย


มอนสเตอร์ร่วงหล่นไปด้านล่างโดยไม่มีโอกาสได้กรีดร้อง และอีกไม่นานมันก็จะตาย


‘ถ้าเราฆ่ามันที่นี่ทันที ความสนใจคงพุ่งมาหาจากทุกทิศ’


เฟคเกอร์มองไปรอบตัวอย่างสุขุม


พื้นที่แห่งนี้ถูก ‘ตั้งค่า’ ให้มีความมืดเข้มข้นเกินกว่าจะปรับสภาพการมองเห็น แต่ก็ยังไม่มากพอจะขัดขวางสายตาของลันเทียร์ซึ่งมีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมที่สุดในหมู่ตำนาน


‘ที่นี่ก็ไม่มี…’


เฟคเกอร์ที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด กลับเข้าไปในเงาอีกครั้งและทิ้งดิ่งลงด้านล่าง จนกระทั่งตกลงมาถึงจุดที่ตำแหน่งเมื่อครู่มองไม่เห็น เฟคเกอร์ทำการโผล่ออกมาริมหน้าผาเพื่อสำรวจด้วยตาเปล่า


วนซ้ำเช่นนี้หลายสิบรอบ


มันเริ่มหลงลืมวันเวลา ประสาทสัมผัสเริ่มทื่อลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตั้งใจทำงานอย่างอดทน


เฉกเช่นทุกภารกิจในอดีต


“…!”


ผ่านไปนานแค่ไหนก็มิอาจทราบได้


ในการมองเห็น เฟคเกอร์เพ่งมองไปยังจุดเล็กๆ ที่มีขนาดเท่าฝุ่น


ท่ามกลางห้วงนรกที่ท่วมท้นไปด้วยความมืดเข้มข้น จุดดังกล่าวส่องแสงสีแดงสด


เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกประหลาดใจ


เฟคเกอร์บรรจงย่างกรายลงไปยังตำแหน่งดังกล่าว จุดที่เคยเล็กเท่าเม็ดฝุ่นเริ่มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


ตึกตัก!


ใบหน้าเฟคเกอร์พลันแข็งทื่อ


ตึกตัก!


เฟคเกอร์ขนลุกไปทั้งตัว


ตึกตัก!!


หัวใจเต้นระรัวเสียงดังจนกลบเสียงของการร่อนลง


‘ไม่น่าเชื่อ…’


ยิ่งเข้าใกล้จุดดังกล่าว เฟคเกอร์ก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี


มันพยายามไม่นึกถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ยิ่งหลีกเลี่ยงก็ยิ่งต้องเผชิญ


เฟคเกอร์เริ่มเผยสีหน้าสิ้นหวัง นั่นเพราะมันตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของจุดสีแดงซึ่งกักเก็บปราณอสูรเข้มข้นที่สุดเท่าที่มันเคยเห็น


<ชิ้นส่วนอีโก้ของบาเอล>


นี่คือตัวตนที่แท้จริงของจุดสีแดง


และในทิศทางดังกล่าว ร่างของซิกถูกผนึกอยู่ในรอยแยกหน้าผา


[ไม่สามารถใช้ข้อความเสียงที่นี่]


[ไม่สามารถใช้ข้อความกิลด์ที่นี่]


เฟคเกอร์ดิ่งลงไปด้านล่างด้วยอัตราเร่งที่สูงขึ้น


ร่างกายมิอาจทนต่อแรงลมปะทะปริมาณมหาศาล กระดูกทุกท่อนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ดวงตาแดงก่ำราวกับเตรียมถลนออกมาในทุกเมื่อ แต่ถึงอย่างนั้น สติของเฟคเกอร์ก็ยังคมชัดเช่นเคย


‘ต้องกำจัดร่างทิ้ง…’


การตัดสินใจของมันฉับไวยิ่งกว่าความเร็วในการร่วงหล่น


ร่างกายขยับตามแทบจะในวินาทีเดียวกัน


แต่ถึงกระนั้นก็ยับยั้งไม่ทัน


ยังไม่ทันที่มีดสั้นซึ่งเฟคเกอร์ขว้างออกไปสุดแรงจะปะทะกับจุดสีแดง จุดสีแดงเป็นฝ่ายแทรกซึมเข้าไปในร่างซิกได้ก่อน


ฉึบ!


มีดสั้นที่เฟคเกอร์หวังใช้ทำลายร่างซิก ถูกหยุดก่อนที่มันจะทำหน้าที่สำเร็จ


และมือที่หยุดไว้ก็คือมือของซิก


“อา… คู่ควรให้ข้าใช้งานไหมนะ”


บาเอล


นั่นคือชื่อที่ปรากฏเหนือศีรษะ


หลังจากถูกผนึกไว้เป็นเวลานาน บุรุษคนดังกล่าวดึงร่างตัวเองออกจากรอยแยกหน้าผา จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้น


มันกำลังยิ้มด้วยความปีติประหนึ่งเด็กได้ของเล่นใหม่


[จอมอสูรลำดับ 1 บาเอล ปรากฏกาย]


[ท่านสัมผัสถึงจิตสังหารอันท่วมท้น ท่านจะได้รับอาการผิดปรกติหวาดกลัว อ่อนแอ ติดพิษ เผาไหม้ เลือดออก, ท่านต่อต้าน]


[เงาแห่งนรกเกิดการบิดเบี้ยวท่ามกลางจิตสังหารอันแรงกล้า ค่าต้านทานธาตุมืดถูกกำหนดให้เป็น 0%, ระดับตัวตนของท่านถูกลดทอนอย่างมาก, จุดอ่อนของท่านถูกเปิดเผยตลอดเวลา, สมาธิของท่านลดลง ส่งผลให้สูญเสียค่าความแม่นยำอย่างมาก, ความเร็วในการร่ายทักษะและเวทมนตร์ช้าลงหลายเท่า, เป็นอาการผิดปรกติที่มิอาจต้านทาน]


[เงาแห่งเทพสัมบูรณ์เกิดการบิดเบี้ยวท่ามกลางจิตสังหารอันแรงกล้า ความสำเร็จที่ท่านสั่งสมมาล้วนกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ทักษะและค่าสถานะทุกชนิดที่ได้รับจากสมญานามถูกผนึก, ไม่สามารถต้านทาน]


[จันทร์ขุมนรกอยู่ภายใต้การควบคุมของบาเอล การจ้องมองจากจันทร์ขุมนรกกำลังเพ่งมาทางท่าน]


วาบ!


ลำแสงสีแดงสว่างตกลงใบหน้าที่ขาวซีดของเฟคเกอร์


บนท้องฟ้าซึ่งอยู่ห่างไกลจากห้วงนรกจนแทบมิอาจสัมผัสถึงตัวตน


ลำแสงถูกยิงมาจากที่นั่น


จากจันทร์ขุมนรกซึ่งกำลังลอยเด่นสง่า


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 - จบบริบูรณ์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00