จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,477
การคาดคะเนของกริดผิดพลาด
ชื่อของศาสนาใหม่คือ โบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์ มิใช่โบสถ์เทพธิดารูบี้
ดูเหมือนว่าระบบเกมยังต้องการรักษาภาพลักษณ์ของนักบุญหญิงเอาไว้
‘ห่วยกว่าที่คิดไว้’
กริดค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้เห็นข้อความโลก เพราะเป้าหมายของการกราบไหว้บูชานั้นไม่ชัดเจน
โบสถ์ของสามเทพหลักและวิหารยาธานต่างถูกตั้งชื่อจากเทพที่สาวกนับถือ หรือแม้กระทั่งโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ของกริดก็ยังมาจากชื่อกริดเอง เช่นนั้นแล้ว เหตุใดโบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์ถึงตั้งชื่อในเชิงสัญลักษณ์?
มันรู้สึกเสียใจแทนน้องสาว ราวกับชื่อของรูบี้ถูกด้อยคุณค่าลง
‘โบสถ์เทพธิดารูบี้เข้าท่ากว่าตั้งเยอะ’
กริดส่ายหน้าด้วยความเสียดายและเจ็บใจ แต่อากัปกิริยาของคนทั่วไปนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง
『ศาสนาใหม่ถือกำเนิดขึ้นแล้วครับ! ผู้ที่ถูกกราบไหว้บูชาคือนักบุญหญิงรูบี้ น้องสาวคนดังของกริด… แถมยังเป็นในฐานะเทพธิดา…』
『โบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์และโบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์ได้ฮุบกลืนสาวกรีเบคก้าไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้โครงสร้างของศาสนากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่…』
> เจ๋ง! ชื่อของโบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์ฟังดูเท่ชะมัด
> เมื่อเทียบกับโบสถ์โอเวอร์เกียร์ โบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์ฟังดูเหมือนกับอยู่ในเทพนิยาย
> ใช่! สองพี่น้องล้วนเป็นเทพทั้งคู่!
> พี่น้องเทพ! ᄃᄃ แม้แต่นามสกุลก็ยังมีคำว่าชิน* ᄃᄃᄃ
(ชิน = เทพ)
> สุดยอด! ครอบครัวชินช่างมองการณ์ไกล;; แม่ของกริดฉลาดมากที่เลือกแต่งงานกับตระกูลชิน;;
> ออกไป! ไอ้พวกเกาหลีก็ไปคุยกันในที่ของเกาหลีสิวะ
> ฉันจะหยุดดูไลฟ์และกลับไปออนไลน์เกมเดี๋ยวนี้ ฉันต้องรีบสร้างความสำเร็จ เผื่อจะได้มีศาสนาเป็นของตัวเองบ้าง
> ฉันด้วยᄏᄏᄏ ถ้าได้กลายเป็นเทพเมื่อไร ฉันจะมีออร่าเท่ๆ รอบตัว
> รสนิยมของฉันต้องสีขาว ออร่าเทพของฉันต้องสีขาวเท่านั้น…
> พวกนายกินอาหารผิดเข้าไปพร้อมกันรึเปล่า? ᄏᄏᄏก่อนอื่นก็ช่วยเป็นตำนานให้ได้ก่อน
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน ผู้คนจำนวนมากยังร้องเรียนเกี่ยวกับความสมดุลของคลาสทุกครั้งที่กริดสร้างความสำเร็จครั้งใหญ่
แต่วันเวลาเหล่านั้นได้ผ่านไปแล้ว ผู้เล่นบางกลุ่มได้เข้าถึงในสิ่งที่กริดเคยเข้าถึง และบางคนตัดสินใจฝากความหวังไว้ในตัวกริด
ขณะเดียวกัน บางกลุ่มเริ่มมองว่าซาทิสฟายเป็นโลกในอุดมคติที่พวกตนฝันถึง เพราะความพยายามจะถูกตอบแทนเสมอหลังจากทำงานหนัก ทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตราบใดที่ไม่เกียจคร้าน คนจำนวนมากจึงเริ่มสนใจการพัฒนาตัวเองมากกว่าเรียกร้องที่จะกดคนอื่นให้ต่ำลง
> ทุกคน… มาเร่งเก็บเลเวลอย่างป่าเถื่อนกันเถอะ!
> ดรอปไอเท็ม!
หลังจากประจักษ์ความยิ่งใหญ่ของกริด กลุ่มคนที่มองเห็นอนาคตอันสดใสของตัวเองเริ่มบรรเทาความกังวลลง และทวีความฮึกเหิมเพื่อเตรียมรับมือกับมหาสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ในทางกลับกัน ผู้เล่นจากวิหารยาธานและสามโบสถ์หลักกำลังประสบภาวะตึงเครียด
***
กริดเกลียดงานที่ซับซ้อน บทสรุปจึงเหมือนกับทุกครั้ง มันโยนหน้าที่คอยเก็บกวาดปัญหาให้ลอเอล
ลอเอลปรากฏตัวพร้อมกับกลุ่มอัศวินคุ้มกัน จากนั้นก็งานบริหารที่ช่ำชองก็เริ่มขึ้นภายในวาติกัน
มันโน้มน้าวให้สาวกที่ยังลังเลเปลี่ยนศาสนา พร้อมกับขับไล่สาวกรีเบคก้าที่ยังคงหัวแข็ง ขณะเดียวกัน บรรดานักบวชระดับสูงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง มีฝีมือ และเป็นศูนย์กลางของโบสถ์รีเบคก้าต่างถูกจับกุม
ลานศักดิ์สิทธิ์และทรัพย์สินของวาติกันถูกยึดเป็นสมบัติของอาณาจักร โดยกริดมีแผนจะรวบรวมเหล่าสถาปนิกเพื่อเปลี่ยนให้ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ของโบสถ์นักบุญศักดิ์สิทธิ์หลังจบมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร แน่นอน รวมทั้งวิหารรีเบคก้าแห่งอื่นภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ด้วย
ลอเอลเริ่มเคลื่อนทัพไปยังวิหารรีเบคก้าทุกหนแห่งภายในอาณาจักรและทำการเข้ายึดด้วยกำลัง และหากวิหารอยู่ไกลเกินไป มันจะขอความร่วมมือจากพันธมิตรเพื่อกีดกันทางการเมือง
ต้องไม่ลืมว่า ลอเอลขึ้นชื่อในด้านความไร้หัวใจอยู่แล้ว
ชายผู้ยิ้มแย้มตลอดเวลาเมื่ออยู่ต่อหน้ากริด แต่ลับหลัง หากเพื่อผลประโยชน์ของกริด มันไม่ลังเลเลยที่จะฆ่านักโทษกว่าหมื่นคน
ในวินาทีที่ลอเอลตัดสินใจจะสลายการมีตัวตนของโบสถ์รีเบคก้า ทุกสิ่งถูกดำเนินการอย่างฉับไว
โชคดีที่ผู้เล่นเดิมของโบสถ์รีเบคก้าให้ความร่วมมือเป็นส่วนใหญ่ และเนื่องจากคลาสฮีลเลอร์มิใช่เอกสิทธิ์เฉพาะตัวของสามโบสถ์หลักอีกต่อไป แต่ละคนจึงไม่มีเหตุผลให้ต้องขัดขืน แถมยังมองว่าเป็นโอสถสำคัญในการตีสนิทกิลด์โอเวอร์เกียร์
[เป้าหมายอยู่ในสถานที่ที่ไม่สามารถรับข้อความเสียง]
‘เธอกลับนรกไปแล้ว?’
กริดกลับมายังไรน์ฮาร์ท
ในวินาทีที่เห็นข้อความโลกประกาศการถือกำเนิดของศาสนานักบุญศักดิ์สิทธิ์ มันรีบส่งข้อความเสียงไปหารูบี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ถึงปลายทาง
กริดอยากจะปลอบใจในเรื่องที่ชื่อของศาสนากลายเป็นนักบุญศักดิ์สิทธิ์สุดเห่ย (?)
‘นั่นสินะ… ทีมสำรวจนรกคงตกที่นั่งลำบากถ้าเซฮีหายตัวไปเป็นเวลานาน’
ทีมสำรวจคงไม่มีทางอื่นนอกจากสร้างค่ายรอให้นักบุญหญิงกลับไป ปาร์ตี้ที่มีฮีลเลอร์กับไม่มีนั้นแตกต่างราวท้องฟ้ากับหุบเหว
‘พวกเขาจะแช่อยู่ในนรกไปเรื่อยๆ เลยหรือ?’
มันได้ยินมาจากยูร่า ทีมสำรวจที่มียูร่าและเซฮีเป็นแกนหลัก ตัดสินใจจะหมกตัวอยู่ในนรกจนกว่ามหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรจะเริ่มต้นขึ้น
สองคนในนั้นคือจิสึกะและครอเกล
กริดเริ่มกระสับกระส่าย
‘ในกรณีของจิสึกะนั้นเข้าใจได้ เธอยังมีพลังทำลายสูงจากศรปราบมาร… แต่ครอเกลอยู่ต่อทำไม?’
ไปซุ่มเก็บเลเวลคนเดียวบนทวีปตะวันออกไม่ดีกว่าหรือ?
ถ้าครอเกลหมกตัวอยู่ในนรกนานเกินไป… นรกอาจถูกทำลายเข้าสักวัน…
กริดค่อนข้างเป็นกังวลเกี่ยวกับวิชาดาบผ่ามิติขณะเดินไปยังปลายทางของตน – วิหารเทพโอเวอร์เกียร์
“เหตุใดท่านถึงถ่อมาที่นี่? หากต้องการพบข้า ท่านก็แค่เรียกหา…”
ซาลิเอลจำเป็นต้องอยู่ให้ห่างจากการเฝ้ามองของแอสการ์ด จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องหมกตัวอยู่ในไรน์ฮาร์ท
ไม่สิ ระบุให้ชัดก็คือ วิหารเทพโอเวอร์เกียร์ในกรุงไรน์ฮาร์ท
นอกจากนั้น การคอยบัฟให้กับผู้มาเยือนวิหาร ยังช่วยให้สาวกเกิดความศรัทธาและสวดมนต์เพื่อสร้างแหล่งพลังงานศักดิ์สิทธิ์
ศรัทธาของสาวกจะกลายเป็นพลังความศรัทธาของกริด ดังนั้น ยิ่งซาลิเอลอยู่ในวิหารเป็นเวลานานและคอยน้อมรับการสวดมนต์ กริดก็ยิ่งได้รับประโยชน์
‘ไปเอารัดเกล้ามาจากไหน…’
สร้อยคอ ต่างหู และแหวน
ซาลิเอลกำลังสวมเครื่องประดับระยิบระยับเต็มตัว เพียงมองผิวเผินก็ทราบได้ทันทีว่ามีราคาสูงมาก ดูเหมือนว่าจะได้รับบริจาคโดยสาวกที่มีศรัทธาแรงกล้า
เพศของเทวทูตจะถูกจำแนกให้เป็น ‘เป็นกลาง’ แต่ด้วยรูปลักษณ์ คำพูด และกิริยาท่าทาง ซาลิเอลดูเหมือนหญิงสาวในทุกมุมมอง แถมยังเป็นสตรีที่งดงามทัดเทียมเมอร์เซเดสและแมรีโรส กริดจึงเข้าใจความเอ็นดูของสาวกและผู้มาเยือน นอกจากนั้น ซาลิเอลยังเป็นมิตรกับทุกคน ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคน
“มีรายได้เสริมอีกทางก็ไม่เลว”
หลังจากกริดเดินทางมาถึงวิหาร เหล่าสาวกต่างรีบกันช่วยเปิดประตูทางเข้าและออกไป
เนื่องจากปัจจุบันกริดถูกยกย่องให้เป็น ‘เทพยุทธภัณฑ์’ ภายในห้องโถงอันกว้างขวางที่มีเพียงกริดและซาลิเอลจึงถูกประดับประดาไปด้วยยุทธภัณฑ์มากมาย
กริดชำเลืองไปทางกล่องอัญมณีและเสื้อผ้าที่กองพะเนินด้านหลังซาลิเอล ก่อนจะเดินเข้าไปหาและยื่นของขวัญให้อีกฝ่าย
“รับนี้ไป”
“สิ่งนี้… ของมิคาเอล… เขาถูกทำลายแล้ว…”
ราวกับเธอกำลังหวนนึกถึงความทรงจำเก่า สีหน้าซาลิเอลเผยความเสียใจเล็กๆ ก่อนจะรับวงแหวนและขนนกของมิคาเอลไปถือ
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเธอยังคงไม่สั่นคลอน
“ท่านเทพ… ท่านเพิ่งประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่”
ซาลิเอลเคยกล่าวว่า มิคาเอลคือหนึ่งในเทวทูตที่โดดเด่นในด้านพลังทำลายล้างและการฆ่าฟัน และยังเคยกล่าวว่า ในสงครามกับแอสการ์ด มิคาเอลจะแข็งแกร่งเทียบเท่าอัครเทวทูตลำดับสอง ประโยคเมื่อครู่จึงหมายความว่า เป็นโชคดีของกริดแล้วที่สามารถทำลายมิคาเอลได้ล่วงหน้า
ชายหนุ่มถามด้วยความฉงน
“ทำไมรีเบคก้าถึงปล่อยให้คนสำคัญเช่นนี้ต่อสู้ตามลำพังแทนที่จะช่วย?”
กริดอาจไม่แสดงออกมาให้เห็น แต่ขณะดวลกับมิคาเอล ภายในใจชายหนุ่มหวั่นเกรงการแทรกแซงของแอสการ์ดตลอดเวลา
แต่กลับกลายเป็นว่า ไม่เพียงจะไม่แทรกแซง แต่แอสการ์ดทำเพียงเฝ้ามองอย่างเงียบงัน ไม่แยแสความตายของมิคาเอล ไม่แยแสการพังทลายของโบสถ์รีเบคก้า และยังไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของหน่วยเท็มพล่าที่นำโดยร่างโคลนของเทวทูตรุ่นแล้วรุ่นเล่า
“การที่พวกเขาไม่ช่วย เป็นเพราะช่วยไม่ได้ หรือไม่อยากช่วยกันแน่?”
“ต้องขอประทานอภัย แต่ข้าเองก็ตอบไม่ได้ ในตอนที่ถูกขับไล่ ความทรงจำเกี่ยวกับเทพของข้าช่างเลือนราง จึงไม่ทราบเจตนาของอีกฝ่าย”
ย้อนกลับไปในตอนแรกที่ซาลิเอลเริ่มเข้าร่วมกับกริด บราฮัมกับลอเอลเคยพยายามเค้นความลับของแอสการ์ด แต่เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำส่วนใหญ่บนสวรรค์ไป แถมส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทพยังพร่ามัวอย่างมากจนจำไม่ได้แม้กระทั่งใบหน้า
บราฮัมสงสัยว่าในตัวซาลิเอลคงมีข้อจำกัดบางประการ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เทพคงไม่โง่ขับไล่เทวทูตโดยไม่ขจัดความลับของตัวเอง โดยเฉพาะกับเทวทูตที่พยายามเปิดโปงบาปของทวยเทพ
บางที พวกมันอาจต้องการฆ่าเธอด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่การขับไล่
‘เหตุผลที่เธอยังไม่ถูกฆ่า… น่าจะเป็นเพราะพวกมันต้องการลงโทษ หรือไม่ก็เพราะยังต้องการใช้อะไหล่ที่โคลนมาจากตัวเธอ’
จากความทรงจำอันเลือนรางของซาลิเอล ร่างอะไหล่ของเทวทูตจะถูกเก็บไว้บนแอสการ์ดจนกว่าดวงวิญญาณจะถูกทำลาย กล่าวอีกนัยหนึ่ง ร่างโคลนเหล่านั้นสามารถนำไปใช้นำอย่างอื่นได้ ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือผู้นำหน่วยเท็มพล่า
ช่างเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของ <วงแหวนแห่งการล้างบาง>]
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของ <ขนนกจากปีกแห่งการล้างบาง>]
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ ได้รับค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 10%]
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ ได้รับทักษะและเวทมนตร์ใหม่]
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ ได้รับอิทธิพลจากปราณอสูรน้อยลง ช่วยลดโอกาสในการคลุ้มคลั่ง]
ซาลิเอลดูดซับพลังของมิคาเอลไปเป็นของตน
ฉากตรงหน้ากริดช่างงดงามและศักดิ์สิทธิ์เหนือพรรณนา ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนอันเจิดจ้าที่มีแหล่งกำเนิดแสงสองจุด รวมถึงปีกจำนวนแปดคู่ที่กำลังสยายออกจากแผ่นหลัง
“…หืม”
หลังจากโล่งใจเมื่อได้พบเบาะแสการขจัดอิทธิพลของปราณอสูร กริดมีอันต้องเอียงคอสงสัยกับสิ่งที่กำลังเห็นตรงหน้า
ปลายปีกทั้งหมดของซาลิเอลถูกย้อมด้วยการไล่เฉดสีส้มอ่อน
ไม่ใช่ว่าปีกของเทวทูตต้องเป็นสีขาวโพลนหรอกหรือ?
“ฮิฮิ… ผู้ส่งสารจะได้รับอิทธิพลจากเทพของตน ตัวข้าที่เป็นเทวทูตของท่านย่อมต้องมีสีของท่าน”
ซาลิเอลเองก็ยินดีกับการเปลี่ยนแปลง รอยยิ้มของเธอสดใสยิ่งกว่าเก่า
กริดยิ้มพร้อมกับส่งวงแหวนและขนนกของเทวทูตธรรมดาให้ ในสายตาผู้เล่น สิ่งนี้เป็นเหมือนกับหินเสริมแกร่ง แต่ใช้กับเฉพาะวงแหวนและขนนกของเทวทูตเท่านั้น
“ใช้พวกมันเพื่อเสริมพลังให้ของเดิม”
“ค่ะ”
ซาลิเอลเชื่อใจเจ้านายโดยไม่เคลือบแคลง
แม้ในอดีตจะเคยเปิดโปงบางของเหล่าเทพ แต่ตราบใดที่กริดไม่ได้สั่งให้ทำในสิ่งเลวร้ายซึ่งขัดต่อหลักศีลธรรมในใจเธอ ซาลิเอลจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เฉกเช่นเมอร์เซเดสที่ไม่เคยลังเลในคำสั่ง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ซาลิเอลทำการเสริมแกร่งวงแหวนทันที
และผลลัพธ์ออกมาล้มเหลว
“…?”
“ตายจริง… ดันล้มเหลวเสียได้”
“…”
วงแหวนเทวทูตแหลกละเอียดเป็นผุยผง
ด้วยสายตาเหม่อลอย กริดยืนจ้องซาลิเอลที่กำลังยิ้มอย่างไร้เดียงสา
เดี๋ยวสิ… เธอเป็นถึงเทวทูตเชียวนะ เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี แต่กลับล้มเหลวตั้งแต่ครั้งแรก?
“ในส่วนของปีก ฉันจะลองเสริมแกร่งให้…”
ซาลิเอลเพิ่งล้มเหลวไปเพียงหนึ่ง จะให้เรียกว่าเป็นคน ‘มือซวย’ ก็คงยังไม่เหมาะสมนัก
ทว่ากริดไม่ชื่นชอบใบหน้าไร้เดียงสาของเธอ ไม่ชอบท่าทางอันยิ้มแย้มหลังจากเสริมแกร่งวงแหวนล้มเหลว เพราะหากเป็นเช่นนี้ ต่อให้เสริมแกร่งปีกล้มเหลวไปด้วย เธอก็คงยังยิ้มแย้มให้เห็นเช่นเคย
แต่กับกริดนั้นตรงกันข้าม มันหดหู่ทุกครั้งที่การเสริมแกร่งล้มเหลว และยิ่งหดหู่กว่าเดิมเมื่อเห็นใครบางคนยิ้มให้กับเรื่องที่น่าเจ็บปวดเช่นนี้ หากหวังสีหน้าเศร้าสลดจากอีกฝ่ายไม่ได้ กริดก็อยากจะเสริมแกร่งด้วยตัวเอง เพราะนั่นจะทำให้มันหดหู่น้อยลง
[<ปีกแห่งคุณธรรม> ถูกเสริมแกร่งสำเร็จ!]
[ปีกของผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ ได้พัฒนากลายเป็น <ปีกแห่งการล้างบางที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม>]
แต่เดิม ทั้งปีกและวงแหวนของซาลิเอลจะมีคำต่อท้ายว่า ‘คุณธรรม’ เสมอ
หลังจากได้เห็นข้อความระบบ กริดเริ่มเข้าใจบางสิ่งและรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เพราะมันได้ตระหนักว่าแก่นแท้ของซาลิเอลเป็นเช่นไร
แต่ในอีกแง่หนึ่ง ชายหนุ่มรู้สึกผิดเล็กๆ เมื่อคำขยายต่อท้ายชื่อซาลิเอลต้องปนเปื้อนด้วยคำที่โหดร้ายอย่าง ‘ล้างบาง’
[ผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ ได้รับค่าความว่องไวเพิ่มขึ้น 5%, นอกจากนั้น พลังที่อยู่ในปีกถูกยกระดับ]
การเสริมแกร่งของกริดประสบความสำเร็จ อาจเป็นเพราะว่า เมื่อ ‘เทคนิคของเทพโอเวอร์เกียร์’ พัฒนาไปเป็นเกรดมิธ คุณสมบัติ ‘เพิ่มโอกาสการเสริมแกร่ง’ ก็คงเพิ่มขึ้นด้วย
‘ถ้ามีโอกาส… ต้องยืนยันเรื่องนี้ให้แน่ใจ’
อันที่จริง แผนเดิมของกริดคือการหมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กจนกว่ามหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรจะเริ่มต้นขึ้น การแวะไปเยือนวาติกันในคราวนี้เป็นเพราะมันมิอาจอดทนต่อคำยั่วยุและปลุกปั่นของโบสถ์รีเบคก้าได้
หลังจากยื่นดาบของมิคาเอลให้ซาลิเอล – เทวทูตผู้ยินดีจะพัฒนาตัวเองเพื่อกริดมากกว่าตัวเอง กริดเดินออกจากวิหาร
***
ในทุกตัวเลือก เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็ต้องสูญเสียสิ่งหนึ่งเสมอ ในวินาทีที่กริดตัดสินใจฮุบกลืนโบสถ์รีเบคก้า ขั้วอำนาจอื่นย่อมต้องคอยจับตาการลงมืออันรุนแรงครั้งนี้
“เริ่มกางข่ายเวทสกัดกั้น”
กองทัพดาร์คเอลฟ์ที่มารวมตัวกันหน้าทางเข้าป่าต้นไม้โลก พวกมันกำลังดักรอทัพเสริมของจักรวรรดิซึ่งจะถูกส่งมาสมทบหลังจากแนวคุ้มกันในป่าถูกโจมตี
ฝ่ายดาร์คเอลฟ์รอบคอบอย่างมาก พวกมันหวังขจัดความเป็นไปได้อื่นๆ ที่อาจรบกวนแผนให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงค่อยเดินทางเข้าไปกวาดล้างเอลฟ์ภายในป่าต้นไม้โลก
วาบ!
รูปทรงเรขาคณิตสว่างขึ้นทั่วผืนป่าก่อนที่จะหายไป นั่นคือวินาทีที่เวทมนตร์ถูกขัดขวาง
ตึง! ตึง! ตึง!
เมื่อฝ่ายดาร์คเอลฟ์ซึ่งมีประสาทสัมผัสเฉียบคมเริ่มตระหนักถึงการสั่นของพื้นดินจางๆ ราชาดาร์คเอลฟ์ทำการเปิดตาทิพย์และมองเห็นกองทัพจักรวรรดิกำลังเคลื่อนทัพมาจากจุดห่างไกล
ฝ่ายทัพจักรวรรดิเองก็เริ่มสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล จึงเริ่มลดความเร็วลง แต่ก็สายเกินไปแล้ว เมื่อเข้ามาอยู่ในระยะสังหาร เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างพากันยืมพลังจากภูตธาตุมืดพร้อมกับง้างคันธนูอย่างพร้อมเพรียง
“ถึงเวลาจัดระเบียบป่าใหม่แล้ว”
หลังจากจัดการตัวปัญหาเหล่านี้เสร็จ พวกมันจะสำเร็จโทษสตรีที่เคยขับไล่ดาร์คเอลฟ์ออกจากป่า
ดวงตาสีแดงของเหล่าดาร์คเอลฟ์กำลังเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหาร ส่วนบรรดาภูตธาตุมืดที่มีผิวกายสีดำเหมือนกับผิวพรรณของดาร์คเอลฟ์ ต่างกำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,008
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
Comments
Post a Comment