จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,475



ซาทิสฟายมิได้ใจดีกับผู้เล่น ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะถูกอธิบาย


หลักฐานยืนยันมีอยู่มากมาย เช่นการที่หลายคนเปลี่ยนเป็นคลาสลับล้มเหลวเพราะคำอธิบายภารกิจเขียนบอกไม่ละเอียด และการที่ช่างตีเหล็กในตำนานไม่รู้ว่าเกมนี้มีระบบ ‘ผลิตไอเท็มอัตโนมัติ’ อันแสนสะดวกสบาย


‘สิ่งนี้ก็เป็นคุณสมบัติของคลาสเกรดมิธ?’


กริดสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในวินาทีที่ฟันมิคาเอลด้วยท่ารำดาบ ‘นภา’


สมดุลร่างกายของมันไม่พังทลายในตอนที่โจมตี


องค์ประกอบจำพวก รอยต่อระหว่างท่า การถือดาบด้วยมือทั้งสองข้าง และการถ่ายพลังไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเพื่อรับมือกับจุดศูนย์ถ่วงที่เปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งล้วนถูกตัดออกจากการคำนวณ


‘เราสามารถต้านทานอาการผิดปรกติทางกายภาพ’


กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราสามารถฝ่าฝืนกฎทางฟิสิกส์ในระดับหนึ่ง?


ต้องขอบคุณสิ่งเหล่านี้ กริดสามารถรำดาบได้อย่างอิสระมากกว่าเดิม


ชายหนุ่มสามารถกวัดแกว่งดาบด้วยมือข้างเดียว โดยปล่อยมืออีกข้างให้ว่างเพื่อรอป้องกันการตอบโต้ของมิคาเอล หรือไม่ก็ใช้จับปีกเทวทูต


กริดยังสามารถถอยไปพร้อมกับใช้ ‘สังหาร’ และหันหมุนตัวกลับหลังขณะใช้ ‘ร่ายรำ’


ขีดกำจัดหลายๆ ข้อของทักษะรำดาบถูกปลดออก


รอยต่อระหว่างท่ารำดาบแทบไม่หลงเหลือ แถมยังไหลลื่นและมีความเป็นธรรมชาติ


ข้อเสียที่ยังคงตกทอดมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกริดจะพัฒนาท่ารำดาบสักกี่ครั้ง ปัจจุบันเลือนหายไปโดยสมบูรณ์


ท่ารำดาบของกริดยังคงสง่างามเช่นเคย แต่สามารถใช้ได้เรียบง่ายขึ้นเหมือนกับวิชาดาบทั่วไป


เมื่อผนวกกับแสงไฟสีส้ม ทุกท่วงท่ากลายเป็นการโจมตีที่น่าหลงใหลและแฝงกลิ่นอายแห่งเทพไว้อย่างเจือจาง


ในแต่ละวันของกริดผ่านไปไม่เหมือนกับคนอื่น


ย้อนกลับไปในช่วงหลายสิบวันก่อน ต่างจากพวกพ้องคนอื่น ชายหนุ่มเอาแต่หมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กตามลำพังและ ‘ปรับแต่ง’ ดาบศักดิ์สิทธิ์จนเสร็จ


ในช่วงนี้ไม่สามารถออกไปเก็บเลเวล กริดใช้เวลาที่มีค่ายิ่งกว่าทองได้อย่างคุ้มค่า


เมื่อคุณสมบัติการ ‘ตัดขาด’ ถูกเพิ่มเข้าไปจากการปรับแต่ง ดาบศักดิ์สิทธิ์ของกริดจึงมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิมหลายเท่าโดยปริยาย


คุณสมบัติการตัดที่เคยเครื่องหมายการค้าของดาบ ‘ความผิดพลาด’ บัดนี้ถูกย้ายมายังเหล่าดาบศักดิ์สิทธิ์ของกริดทั้งหมดแล้ว


แน่นอน อัตราการตัดสำเร็จก็เพิ่มขึ้นด้วย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมร่างกายของมิคาเอลถึงถูกกริดฟันขาดได้ง่ายนัก


“อึก…”


เหล่าสาวกของโบสถ์ต่างพากันครวญครางและสะอื้น


พวกมันรู้สึกราวกับมิคาเอลเป็นสัตว์ประหลาดเมื่อเห็นอีกฝ่ายสามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ต่อเส้นประสาท และเชื่อมกระดูกได้ในพริบตา


สันตะปาปามิคาเอลผู้สยายปีกสามคู่และถือดาบศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครสงสัยอีกแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของมันคือเทวทูต


ทว่า ภาพลักษณ์ของมิคาเอลห่างไกลจากความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่เหล่าสาวกจินตนาการไว้


โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบกับกริด อีกฝ่ายสง่าผ่าเผยและเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขามอย่างชัดเจน


ราวกับว่า ความดีและความชั่วกำลังกลับด้าน


เสียงเชียร์และให้กำลังใจมิคาเอลจากสาวกของโบสถ์เริ่มหยุดลง


กระแสเวทฮีลที่เคยหลั่งไหลถาโถมเองก็เริ่มซา


อันที่จริง มิคาเอลไม่ต้องการเวทฮีลเหล่านี้


‘ทั้งที่ข้าได้รับการอำนวยพรจากเทพทั้งสาม—’


ความคิดของมิคาเอลถูกขัดจังหวะกลางคันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากสมองถูกฟันขาดและฟื้นฟูกลับมาใหม่ในพริบตา


‘พรของเทพทั้งสามยังคงยิ่งใหญ่เช่นเคย เพียงแต่เจ้านี่แข็งแกร่งเกินไป?’


มิคาเอลเริ่มหัวเสีย เพราะมันกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเต็มประตู


แม้มันจะมิอาจใช้ตรีเอกานุภาพ และพลังจำนวนมากได้ถูกผนึกหลังจาก ‘เสด็จเยือน’ โลกมนุษย์ แต่ฝีมือดาบของมันยังไม่ขึ้นสนิม


กระนั้น มันกลับถูกรุกหนักอยู่ฝ่ายเดียว


ดาบประกาศิตของมันเคยปลิดชีพพวกนอกรีตมากมายในอดีต แต่กลับมิอาจลงทัณฑ์กริด


ไม่ใช่แค่นั้น กริดกลับไม่ตายในทันทีหลังจากรับท่านั้นเข้าไป แม้กระทั่งแขนก็ยังไม่ขาด


แต่ในทางกลับกัน ทุกครั้งที่มิคาเอลได้รับความเสียหาย กระดูกของมันจะแตกหัก หรือไม่ก็มีบางสิ่งถูกตัดขาดเสมอ


‘หรือเทพธิดาจะยอมรับว่าเจ้านี่เป็นเทพ…?’


หากอยู่นอกแอสการ์ด เทวทูตจะมีอาจสร้างบาดแผลให้เทพได้ด้วยประการทั้งปวง


เป็นกฎเหล็กที่ไม่สามารถฝ่าฝืน เว้นเสียแต่จะถูกกัดกร่อนจนบิดเบี้ยวเหมือนกับซาลิเอล


มิคาเอลอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ากริดกลายเป็นเทพแห่งแอสการ์ดไปแล้ว


แน่นอน มันกำลังเข้าใจผิด


สาเหตุที่มิคาเอลไม่สามารถตัดอวัยวะกริด เป็นเพราะมันมีพลังโจมตีไม่มากพอ


ชุดเกราะทั้งหมดที่กริดสวม ล้วนเป็นชุดที่เพิ่งถูกปรับแต่งใหม่ แถมยังเพิ่มปริมาณของพวกมันด้วยละโมบ


ในบางครั้ง ชุดเกราะเหล่านี้อาจเสียหายจากแรงกระแทกที่สะสม แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดให้ขาด


สถานการณ์จะไม่เปลี่ยนไปต่อให้มีเทวทูตสามตนร่วมมือกันใช้ตรีเอกานุภาพ


หลังจากละโมบพัฒนาตัวเองเป็นเกรดมิธตามเจ้านาย มันสามารถแบกรับความเสียหายได้ในปริมาณมหาศาลก่อนจะถูกตัดขาด


ต้องเป็นพลังโจมตีในระดับที่สามารถทำอันตรายแก่เทพ หรือทัดเทียมพลังโจมตีของเทพ


‘ไม่มีทางแน่… พระองค์ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้โดยพลการ… ชายคนนี้ยังไม่ถูกยอมรับจากเทพธิดา’


ตามหลักพฤติกรรมของเทวทูต อารมณ์ความรู้สึกไม่มีผลต่อการตัดสินใจ


พวกมันขยับเขยื้อนร่างกายด้วยศรัทธาเพียงอย่างเดียว


ต่อให้มิคาเอลสับสนและเต็มไปด้วยนับพันคำถาม แต่ความเร็วของดาบก็ไม่ช้าลงแม้แต่เสี้ยววินาที


เหตุผลที่มันยังคงหวั่นเกรงกริด เป็นเพราะกริดมีสมญานาม ‘นักล่าเทวทูต’


เมื่อท่ารำดาบ ‘นภา’ จบลง มิคาเอลฟื้นฟูแขนที่เพิ่งถูกตัดขาดด้วยท่ารำดาบผสานสองชนิด จากนั้นก็ลงมือตอบโต้


ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ท่วมท้นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ปริมาณมหาศาล กระแทกใส่หน้าอกกริดอย่างจัง


แสงสีขาวสว่างจ้าพวยพุ่งขึ้นฟ้าราวกับพยายามจะผ่าดวงอาทิตย์ออกเป็นสองซีก


กริดกัดฟันทนต่อแรงปะทะพร้อมกับลดดาบไร้รูปในมือลง


เหตุผลก็คือ มิคาเอลตัดสินใจเปลี่ยนมาสู้ในระยะประชิด และด้วยเหตุนี้ ดาบไร้รูปจึงไม่เหมาะแก่กับสถานการณ์ปัจจุบัน


หัตถ์เทวะหมายเลขหนึ่งบินผ่านพร้อมกับรับดาบไร้รูปไปถือ


ขณะเดียวกัน กริดนำเครื่องยิงพลังเวทออกมา


พลังเวทที่ผสานกับด้ายสีเงินพุ่งออกไปพันธนาการข้อมือมิคาเอล


กริดกระชากอุปกรณ์เพื่อเปลี่ยนวิถีการฟันของดาบศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็เสยเข่าใส่หน้าอกของมิคาเอล


ด้วยเหตุนี้ ดาบศักดิ์สิทธิ์จึงฟันไม่โดนกริด แต่อนุภาคแสงสว่างที่ปล่อยออกจากดาบศักดิ์สิทธิ์ได้แปรเปลี่ยนเป็นคมมีดและกระหน่ำแทงกริด


ชายหนุ่มไม่ขยับตัว ยังคงใช้การโจมตีผสมผสานระหว่างเครื่องยิงพลังเวทกับดาบอัสนีฯ เพิ่มทะลวงท้องของมิคาเอล


ในเวลาเดียวกัน มิคาเอลหักข้อมือตัวเองเพื่อเปลี่ยนวิถีดาบศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลให้ปลายดาบแทงเข้าที่ลำคอชายหนุ่มอย่างจัง


ทว่า หัตถ์เทวะที่ถือดาบไร้รูปได้เข้ามาป้องกันไว้


ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือป้องกัน ต่างฝ่ายต่างเร่งความเร็วขึ้นเมื่อการต่อสู้ยิ่งดำเนิน


กริดและมิคาเอลมิได้เค้นสมองขบคิดวางแผน เพราะสมาธิมัวแต่จดจ่ออยู่กับท่วงท่าการโจมตีที่ถูกดัดแปลงและพัฒนาขึ้นเพื่อการต่อสู้นี้โดยเฉพาะ


กริดมีหัตถ์เทวะและไอเทมอีโก้ ส่วนมิคาเอลมีพลังศักดิ์สิทธิ์ ต่างฝ่ายต่างปะทะกันไม่ต่ำกว่าสิบครั้งภายในหนึ่งวินาที


มองจากภายนอก จะดูเหมือนกับกริดกำลังได้รับบาดเจ็บและสั่งสมบาดแผลอยู่ฝ่ายเดียว


ทว่า มิคาเอลมิได้ไร้เทียมทานขนาดนั้น แม้ปีกและแขนขาของมันจะฟื้นฟูทันทีหลังจากถูกตัดก็ตาม


ทุกครั้งที่เกิดการฟื้นฟู ค่าพลังชีวิตจะลดลง


ทว่า


‘แสงพวกนั้นนำมาใช้โจมตีได้หลากหลายเกินไป’


เกล็ดแสงที่ฟุ้งกระจายออกจากดาบศักดิ์สิทธิ์ พวกมันสามารถยืดออกเป็นหอกแหลม หรือไม่ก็ควบแน่นเป็นระเบิดที่ทรงพลัง


และไม่เพียงจะเข่นฆ่าศัตรู หากเกล็ดแสงเหล่านั้นสัมผัสกับตัวมิคาเอล พลังชีวิตของมิคาเอลจะเพิ่มขึ้น


เรียกได้ว่า เป็นพลังในการฟื้นฟูที่ยากจะหาใครมาทัดเทียม


ยอดเยี่ยมจนเข้าขั้นขี้โกง


มิคาเอลเก่งกาจเสียจน กริดรู้สึกขนลุกขนพองเมื่อจินตนาการภาพมิคาเอลตกอยู่ในวงล้อมของพวกพ้องตน


นอกจากเทวทูตรายนี้จะไม่ตาย มันยังสามารถปลิดชีพทุกคนได้ในพริบตา


‘ถ้าฝ่ายเรามีนักรบแบบนี้ มหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรคงง่ายขึ้นมาก’


กริดไม่เคยพบจอมอสูรลำดับสามมาก่อน จึงไม่มีทางเลือกนอกจากนำมิคาเอลไปเทียบกับบาเอลหรือแมรีโรสแทนจอมอสูรลำดับสาม


เมื่อเทียบกันอย่างไม่อคติ มิคาเอลยังอ่อนแอกว่าสองรายนั้นด้วยเหตุผลด้านสภาพร่างกาย


ทว่า กริดไม่สามารถประมาทมิคาเอล


ด้วยคุณสมบัติที่ถูกปรับแห่งมาให้ทำสงครามสังหารหมู่ แถมยังมีพลังฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยม กริดจึงหวาดกลัวอาวุธที่ชื่อ ‘มิคาเอล’ มากที่สุดในบรรดาเทวทูต


‘เราต้องฆ่ามันที่นี่’


ในวินาทีนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามิคาเอลคือศัตรูของศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์


หากมันไม่ตาย เกรงว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาใหญ่กับอาณาจักร


และในยามที่ขึ้นไปช่วยเฮ็กเซเทียบนแอสการ์ด กริดก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับมิคาเอลสักเท่าไร


นอกจากนั้น หากอัครเทวทูตลำดับหนึ่งถึงสามร่วมมือกันสร้างตรีเอกานุภาพ…


โอกาสชนะช่างริบหรี่เหลือเกิน


ดังนั้น


[ท่านเปิดใช้งาน <เขตแดนพายุเพลิงเทพ>]


กริดที่กำลังพัวพันกับมิคาเอลในระยะประชิด ตัดสินใจกางเขตแดน


ในตอนนี้ ไม่ใช่แค่บริเวณรอบตัวกริด แต่ท้องฟ้าทั้งหมดพลันถูกย้อมด้วยสีของกริด


หัวใจดวงที่เก้าของฟินิกซ์แดงและพลังจิตไร้รูปร่างของดยุคแห่งไฟ ทั้งสองสิ่งกำลังสอดประสานกับบารมีเทพของเทพโอเวอร์เกียร์


เขตแดนพายุเพลิงเทพที่เคยไม่สมบูรณ์ในตอนแรก กลายเป็นพลังที่ไร้ข้อบกพร่องนับตั้งแต่กริดกลายเป็นเทพเต็มตัว


[เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะขยายออกไปตามประสาทสัมผัสของท่าน]


[พันธมิตรทั้งหมดยกเว้นอันเดดและเนตรมาร จะได้รับผลการรักษาเพิ่มขึ้น 30% และลดผลการรักษาของศัตรูทั้งหมด 60%, เมื่อเป้าหมายที่ถูกลดทอนผลการรักษาพยายามที่จะรักษา ‘โทสะแห่งเทพอัคคี’ จะสร้างความเสียหายตายตัวเท่ากับ 5% ของค่าพลังชีวิตปัจจุบันของเป้าหมาย และมีโอกาสสูงที่จะย้อนกลับผลการรักษา]


[หากเป็นเผ่าพันธุ์อันเดดหรือเผ่าอสูร พวกมันจะได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องภายในขอบเขตของพายุ, ผลชนิดนี้จะคงอยู่ตลอดเวลาที่ใช้งานเขตแดนพายุเพลิงเทพ]


[พลังจิตอัคคีถูกเพิ่มเข้าไปในเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ศัตรูทั้งหมดในขอบเขตพายุจะได้รับความเสียหายธาตุ ‘จิต’ ความรุนแรงจะแปรผันตามค่าพละกำลังและพลังจิต, เพิ่มความเสียหายธาตุ ความรุนแรงจะแปรผันตามค่าสติปัญญาและพลังจิต, พลังธาตุทั้งสองชนิดจะมองข้ามพลังป้องกันและค่าต้านทานของเป้าหมาย แต่ไม่สามารถทำอันตรายกับเป้าหมายที่มีค่าพลังจิตสูงกว่า, เป้าหมายจะติดสถานะถูกเผาโดยไม่มีเงื่อนไข และมีโอกาสสูงที่ค่าพลังจิตของเป้าหมายจะลดลง, ความสามารถเหล่านี้จะแสดงผลตลอดเวลาที่เขตแดนพายุเพลิงเทพทำงาน]


[เพลิงศักดิ์สิทธิ์และพลังจิตอัคคีกำลังท่วมท้น รัศมีของเปลวไฟจะขยายออกไปตามสัดส่วนระยะเวลาที่เปิดใช้งานเขตแดน ความสามารถนี้จะแสดงผลตลอดเวลาที่เขตแดนพายุเพลิงเทพทำงาน]


[หัวใจฟินิกซ์แดงดวงที่เก้ากำลังกู่ร้องกังวานร่วมกับฟินิกซ์แดงจากทวีปตะวันออก, ท่านสามารถสร้างสายฝนอัคคีที่จะนำพาเจตจำนงของเทพฟินิกซ์แดง, ปริมาณความเสียหายและอัตราการฟื้นตัวจากสายฝนอัคคีจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะของเทพฟินิกซ์แดง, ทุกการเสด็จเยือนจะใช้มานา 20,000 หน่วย, ระยะหน่วงสิบนาที]


[หัวใจดวงที่เก้าของฟีนิกซ์แดงได้พัฒนาไปเป็นร่างสมบูรณ์หลังจากฟินิกซ์แดงเติบโตและยกระดับพลังจิต, หากท่านต้องการ สามารถเรียกฟินิกซ์แดงร่างหลักออกมาได้ แต่ถ้าฟินิกซ์แดงที่อัญเชิญเกิดเสียชีวิต ทั้งท่านและฟินิกซ์แดงจะได้รับบทลงโทษรุนแรง, ใช้มานา 100,000 หน่วยเพื่ออัญเชิญ, ระยะหน่วงสิบสองชั่วโมง]


[พลังจิตที่เข้มแข็งของท่านจะส่งอิทธิพลกับพวกพ้อง, พันธมิตรทั้งหมดในขอบเขตพายุจะได้รับอาการผิดปรกติยากขึ้นมาก, ผลคงอยู่นานสามนาที ใช้มานา 5,000 หน่วยต่อวินาที, ระยะหน่วงสามชั่วโมง]


[ทุกครั้งที่พันธมิตรของท่านต้านทานอาการผิดปรกติ ท่านและพันธมิตรของคุณจะได้รับบัฟ และจะไม่ใช่บัฟที่ซ้อนทับกับของเดิมที่มีอยู่แล้ว, ระยะเวลาของบัฟจะขึ้นอยู่กับประเภทบัฟที่ได้รับ]


[โลกจินตภาพของเทพโอเวอร์เกียร์จะถูกอัญเชิญออกมายังโลกความจริงเป็นระยะเวลาหนึ่ง, สามารถกำหนดเป้าหมายเป็นไอเท็มได้สี่ชิ้นภายในขอบเขตของพายุ, สามารถทำได้ทั้งเสริมแกร่งไอเท็มและลดระดับการเสริมแกร่ง, ค่าของการเสริมแกร่งจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะของไอเท็มที่ดีที่สุดที่ท่านเคยสร้าง, ค่าของการลดระดับเสริมแกร่งจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะของไอเท็มที่ดีที่สุดที่ท่านเคยสร้าง, คุณสมบัตินี้จะคงอยู่นานสิบวินาทีและใช้มานาเพิ่มเติม 20,000 หน่วยต่อวินาทีที่เปิดใช้]


“หือ…?”


มิคาเอลเอียงคอโดยไม่รู้ตัว


นั่นเพราะแสงของดาบศักดิ์สิทธิ์เจือจางลงมากจนแทบไม่หลงเหลือ


ราวกับเปลวไฟสุดท้ายของเทียนไขก่อนจะดับสนิท


ในทางกลับกัน บรรยากาศคุกคามรอบตัวกริดกลับยิ่งทวีความรุนแรง


มิคาเอลเกือบสะดุ้งหลังจากถูกจ้องมองด้วยดวงตาสงบนิ่ง


นี่คือความรู้สึกที่หาได้ยากสำหรับเทวทูต


บนแอสการ์ด มีเพียงเทพสองตนที่ทำได้มิคาเอลผงะถอยหลังได้


“นี่มัน… น่าทึ่งมาก… รู้สึกเหมือนกับตอนที่ได้ลงทัณฑ์พวกเจ็ดนักบุญภัยพิบัติเมื่อสมัยอดีต… ข้าพอจะทราบแล้วว่าทำไมเทพธิดาถึงชอบหมกมุ่นกับมนุษย์นัก…”


ดวงตามิคาเอลอาจกำลังส่องประกาย แต่น้ำเสียงแฝงความตื่นต้นของมันกลับขาดห้วงกะทันหัน


แสงจันทร์เย็นเยียบกำลังอาบร่างกายมัน


“อะ…”


การมองเห็นของมิคาเอลพลันมืดมน


ฉากตรงหน้าเป็นภาพของบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว เชื่องช้าในตอนแรก และเร็วในตอนหลัง


มิคาเอลเพิ่งตระหนักได้เมื่อสาย ตนถูกฟันขาดครึ่งตัวจนท่อนบนร่วงหล่น


การร่วงหล่นของเทวทูตเป็นสัญลักษณ์ของการถูกกัดกร่อน


ต่อให้เป็นแค่สัญลักษณ์ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่มันไม่อยากเผชิญ


เป็นครั้งแรกที่ใบหน้ากว่าครึ่งของมิคาเอล กำลังอัดแน่นไปด้วยท่าทีรังเกียจ


ทว่า แม้ความสุขุมของมันจะถูกสั่นคลอน แต่การตัดสินใจและร่างกายยังคงว่องไว


เทวทูตในหมู่เทวทูต


อารมณ์ทำอะไรมันไม่ได้


เส้นประสาทและกล้ามเนื้อจำนวนมากยังคงถูกสร้างอย่างต่อเนื่องบนผิวทั่วร่างกาย


กระดูกที่แตกหักกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง


ภายในเขตแดนพายุเพลิงเทพ เกล็ดแสงพยายามดิ้นรนอย่างยากลำบากเพื่อรักษารูปทรงและมอบการรักษาให้แก่มิคาเอล


แต่ทันใดนั้น ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา


ผลลัพธ์แบบย้อนกลับ


“…?!”


ใบหน้ามิคาเอลพลันบิดเบี้ยว


นอกจากพลังในการสรรค์สร้าง พลังฟื้นฟูก็เป็นอีกหนึ่งพลังดั้งเดิมของเทพธิดา


และจากบรรดาพลังฟื้นฟูที่เธอมอบให้เทวทูตทั้งหมด พลังของมิคาเอลใกล้เคียงของเดิมอย่างมาก


กระนั้นพวกมันกลับถูกปฏิเสธ?


“อย่า. บอก. นะ. ว่า…”


มิคาเอลจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด


นอกจากซือโหยว เคยมีเทพนอกแอสการ์ดตนใดสมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้ทั้งที่ไม่ถูกยอมรับจากแอสการ์ดหรือไม่?


แม้มิคาเอลจะใช้พลังฟื้นฟูล้มเหลว แต่มันก็ไม่ยอมแพ้


ไม่สิ สำหรับทวยเทพ การฟื้นฟูไม่เกี่ยวกับยอมแพ้หรือไม่


มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ


ในตอนนี้ อวัยวะต่างๆ ที่ถูกฟันจนขาด ยังคงสมานกลับเข้าที่เดิมหรือไม่ก็ถูกสร้างใหม่ และแม้แต่บาดแผลก็ยังฟื้นฟู


เพียงแต่กระบวนการทั้งหมดช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งช้าลงเรื่อยๆ เมื่อยิ่งเกิดขึ้นซ้ำ


ท่ามกลางกระแสความคิด มิคาเอลเริ่มมองเห็นจุดจบของตน


ความตาย


ร่างกายในปัจจุบันยังสามารถคงสภาพไว้ได้อย่างยากลำบาก


ส่วนกริดก็ยังรำดาบโจมตีอย่างต่อเนื่องและงดงาม


ถูกตัด สร้างใหม่ ถูกตัด และสร้างใหม่


ในจังหวะที่เขตแดนพายุเพลิงเทพกำลังสำแดงประสิทธิภาพสูงสุด ชายหนุ่มใช้ ‘ผสานไอเท็ม’ และกระหน่ำท่ารำดาบผสานเข้าใส่


ในทางกลับกัน ดาบของมิคาเอลไม่สามารถแตะตัวกริดได้เลย


“อ…เอ๋?”


“น…นี่มัน?”


ทันใดนั้น ฝ่ามือโลหะจำนวนสามสิบข้างต่างเล็งมาทางมิคาเอลและเริ่มหมุน


พวกมันกำลังรำดาบตามประสาหัตถ์เทวะ


และผลลัพธ์ก็คือ เลือดเนื้อของมิคาเอลถูกบดขยี้


ปัจจุบัน ความเร็วในการสะบั้น ได้แซงหน้าความเร็วในการฟื้นฟูไปแล้ว


เกิดเป็นภาพอันชวนให้สยดสยอง


ผู้ชมทางบ้านและเหล่าสาวกต่างพากันตื่นตระหนกตกใจและตั้งคำถามกับตัวเอง


เทวทูตอ่อนแออย่างนั้นหรือ?


ไม่เลย มันแข็งแกร่งมาก ทรงพลังกว่าจอมอสูรหลายตนที่พวกมันเคยเห็น


เพียงแต่ว่า


หากไม่บันทึกเหตุการณ์ในวันนี้ให้ดี ในอนาคตพวกตนจะจดจำว่ามิคาเอลอ่อนแอ


นั่นเพราะความอ่อนแอเป็นขั้วตรงข้ามกับความแข็งแกร่ง


เมื่อเทียบกับคู่ต่อสู้ในปัจจุบัน มิคาเอลดูกระจอกอย่างไร้ข้อกังขา


ทั่วโลกปกคลุมด้วยความเงียบ


‘เราเตรียมตัวมาไม่ดีพอ แถมยังประมาท’


ท้ายที่สุด ร่างของมิคาเอลก็ถึงขีดจำกัด


เศษเนื้อที่ขาดกระจัดกระจาย ไม่ฟื้นฟูหรืองอกออกมาใหม่


แต่ถึงอย่างนั้น มิคาเอลยังเยือกเย็นจนน่าตกใจ


แน่นอน สำหรับเทวทูต ความตายไม่ใช่จุดจบ


หากจะให้เปรียบเปรย ก็คงเหมือนกับการทิ้งชุดเก่าไปสวมชุดใหม่


‘ตอนนี้เราได้ทราบระดับฝีมือของคู่ต่อสู้แล้ว คราวหน้าต้องทุ่มเทด้วยทุกสิ่งที่มี’


มิคาเอลรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ในร่างกายที่ใกล้เคียงกับซากศพ


มันตั้งใจที่จะระเบิดตัวเองเพื่อสร้างภัยคุกคามต่อชีวิตกริด


แน่นอน สาวกจำนวนมากที่นี่ก็จะได้รับลูกหลงและเสียชีวิตไปพร้อมกัน


สำหรับมิคาเอล การตายโดยที่มีพยานรู้เห็นน้อยที่สุด จะช่วยให้ศักดิ์ศรีของมันลดทอนน้อยที่สุด


แรงระเบิดเกิดขึ้นในพริบตาและมาพร้อมพลังทำลายล้าง


กระแสพลังอันหนักหน่วงปะทะใส่ร่างกริด รวมถึงทุกอาคารรอบวาติกัน เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นเถ้าถ่านและตอตะโก


ไม่สิ มันควรจะเป็นเช่นนั้น


‘…?’


ทันใดนั้น วิญญาณมิคาเอลที่กำลังหลุดออกจากร่าง พลันชะงักความคิด


ดวงตาของ ‘ร่างวิญญาณ’ พลันสั่นเทาเมื่อแหงนหน้ามองแอสการ์ดอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าสีส้ม


นั่นเพราะสิ่งที่กำลังรอคอยมันไม่ใช่แสงสว่าง หากแต่เป็นความมืด


สถานที่ซึ่งมันเรียกว่าบ้าน กลับรู้สึกห่างไกลอย่างน่าประหลาด


ก่อนจะเดินทางมายังวาติกัน กริดได้เรียกนักบุญหญิงรูบี้มาเตรียมความพร้อม


เธอปลีกตัวออกจากนรกชั่วคราวเพื่อมาช่วยพี่ชาย


พลังศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างจากของเทพธิดารีเบคก้า ปัจจุบันกำลังก่อตัวเป็นม่านคุ้มกันซึ่งช่วยปกป้องกริดและสาวกของศาสนจักรเบื้องล่าง


นอกจากนั้น พลังดังกล่าวยังช่วยส่งดวงวิญญาณของมิคาเอลกลับคืนร่างเดิมที่หายไปแล้วของมัน


พลังที่ตนมิอาจขัดขืน ย่อมทำให้มิคาเอลแตกตื่นสุดขีด


สัญชาตญาณของมันกำลังร้องบอกว่า ‘อภิสิทธิ์’ ที่มันดื่มด่ำมานาน บัดนี้ได้หายไปพร้อมกับความสิ้นหวังที่เริ่มก่อตัวภายในใจ


มันทั้งฉงนและคับแค้นใจ ว่าเหตุใดหน่วยเท็มพล่าถึงไม่ยอมปรากฏตัว


ไร้ประโยชน์สิ้นดี


ขนนกสีขาวปลิวไสวไปรอบๆ เสาลำแสงสีเทาที่พุ่งสูงกว่าปรกติ


[มิคาเอล อัครเทวทูตลำดับสามถูกทำลาย]


ข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้นไปทั่วโลก


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,004
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00