จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,328



ณ เมืองหลวงของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ กรุงไรนฮาร์ท


“…”


กริดได้สติอีกครั้งที่จุดคืนชีพ ภายในใจผุดคำถามใหม่


โดยทั่วไปแล้ว ผู้เล่นหนึ่งคนจะเสียชีวิตเฉลี่ยปีละกี่ครั้ง?


คงไม่น้อยกว่าตนใช่ไหม?


แต่ดูเหมือนเราจะตายบ่อยมากเมื่อเทียบกับฝีมือ…


‘ช่วยไม่ได้… โลกนี้ยังมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเราอีกมาก’


“ยองวู!”


ขณะชายหนุ่มกำลังตรวจสอบไอเท็มดรอปและปริมาณค่าประสบการณ์ที่สูญเสีย ยูร่าเดินตรงมาทางกริดพร้อมกับโผเข้ากอด


เธอคือแรงเกอร์ที่พยายามไล่ตามกริดอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงเข้าใจว่าการเสียสละของกริดนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด


“นายต้องตาย… เพราะฉัน…”


‘อีเวนต์’ การปรากฏตัวของบาเอลเริ่มขึ้นจากเธอ


หญิงสาวเชื่อว่า หากตนไม่ละเลยการไล่ล่าของอันดราส อีเวนต์การปรากฏตัวของบาเอลก็จะไม่เกิดขึ้น และกริดก็ไม่ต้องตาย


ชายหนุ่มยืนมองยูร่าที่กำลังสั่นเทาเพราะถูกความรู้สึกผิดกัดกินจิตใจ


“ไม่ใช่เพราะเธอสักหน่อย”


ในสายตากริด ยูร่าไม่ผิดเลยสักนิด ไม่มีเหตุผลให้ต้องแบบรับความรู้สึกนั้น


เธอถูกอันดราสไล่ล่าเพราะแอบเข้านรกขุมที่หนึ่งเพื่อทำลายพิธีกรรมของบาเอล และนั่นเป็นการทำเพื่อช่วยกริด


ไม่เพียงเท่านั้น เงื่อนไขที่ทำให้บาเอลปรากฏตัวก็คือ อันดราสต้องพลาดท่าพ่ายแพ้


และกริดก็ดันล้มอันดราสลงได้อย่างเหนือความคาดหมาย


เหนือสิ่งอื่นใด


“ฉันถูกบาเอลฆ่าเพราะยังแข็งแกร่งไม่มากพอ”


มันไม่มีสิทธิ์ไปโทษว่าเป็นความผิดของยูร่า


หญิงสาวเริ่มคล้อยตาม


“นั่นสินะ… สาเหตุที่ฉันปกป้องนายไม่ได้… ก็เพราะยังอ่อนแอเกินไปเหมือนกัน”


“…เราสองคนต้องแข็งแกร่งขึ้น”


“อื้อ”


อย่าได้ดูแคลนความกระหายของไฮแรงเกอร์ที่มีเลเวลสูงถึง 408


หลังจากเปิดหน้าต่างอันดับโลกที่ไม่ได้ตรวจสอบมานาน เมื่อเห็นยูร่าขึ้นมาเป็นอันดับสาม กริดทำการส่งข้อความเสียงไปหาคริสทันที


ชายหนุ่มสนใจมาก ว่าเหตุใดคริสถึงยังรั้งตำแหน่งอันดับสองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งที่ยูร่าเอาแต่หมกตัวอยู่ในนรกนับตั้งแต่เลเวลสี่ร้อยเป็นต้นมา


> นายเลเวลเท่าไร


> 410


> ไม่เร็วไปหน่อยหรือ?


> ฉันพบจุดล่าเดี่ยวดี ๆ บนเทือกเขาเคอัส… แต่ว่านะ ฉันจะไปเร็วกว่านายได้ยังไง? ตอนนี้นายน่าจะใกล้ 430 แล้วไม่ใช่หรือ?


> …


ฉันเคยเลเวล 417… แต่ตอนนี้เหลือ 416…


กริดปิดปากเงียบและปลุกตัวเองให้อยู่กับความเป็นจริง


‘คนที่ผ่านช่วงเวลานรกมาได้ ตอนนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด’


ตัวอย่างที่ชัดเจนคือยูร่าและคริส ดูเหมือนว่าพันธนาการบางอย่างในตัวพวกเขาจะถูกทำลาย


ผู้เล่นทุกคนต้องการแข็งแกร่งขึ้น และโลกนี้ยังเต็มไปด้วยศัตรูมากมาย


‘แต่ในทางกลับกัน เราหยุดเพิ่มเลเวลมาสักพัก โดยเอาแต่หลอกตัวเองว่าคนอื่นคงตามไม่ทัน’


กริดไม่มีเวลาทุ่มเทให้กับการเก็บเลเวลมากนัก


ทั้งการสร้างไอเท็ม ทรงงานในฐานะราชา และการปลุกปั้นโนเอะกับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ล้วนเป็นเพียงเหตุผลรองที่ทำให้มันละเลยการเก็บเลเวล


ปัญหาหลักก็คือ ชายหนุ่มมักถูกพัดพาเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ใหญ่โดยบังเอิญเสมอ


ไม่ต้องมองที่ไหนไกล จากเหตุการณ์ล่าสุด กริดซึ่งเดินทางไปยังทวีปตะวันออกเพียงเพราะต้องการรวบรวมฟืนฟอสฟอรัสขาวและศึกษาวิธีปลูกต้นวอลนัท กลับต้องไปเยือนอาณาจักรฮวานพร้อมกับแกรนมาสเตอร์โดยบังเอิญ ได้พบมหาเทพฮานึลและเข้าร่วมสอบซือโหยว


‘…เหลวไหลสิ้นดี’


ช่วงเวลาในนรกก็ไม่ต่างกัน


กริดลงมายังนรกเพียงเพราะต้องการจับซัคคิวบิ แต่สุดท้ายก็กลับต้องหนีตายจากเงื้อมมือของจอมอสูรลำดับหนึ่ง บาเอล และจบลงด้วยความตาย


“…”


ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเป็นกังวล


ความบังเอิญอันน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับโลกนี้ไม่ต้องการปล่อยให้ตนได้พักหายใจอย่างสงบสุข


กริดเคยคิดว่านั่นเป็นเพียงความบังเอิญ แต่เมื่อลองนึกดูให้ดี ทั้งหมดอาจเป็นผลมาจากการกระทำของตัวเอง เป็นเพราะตนตัดสินใจจะทำแบบหนึ่ง จึงได้ผลลัพธ์ในแบบหนึ่งออกมา


‘พูดถึงวิชาดาบมังกร…’

<มังกร>

ท่ารำดาบที่จำลองจิตวิญญาณของมังกร

เอฟเฟค :???

★ ท่านยังเข้าไม่ถึงระบบบรรลุที่สมบูรณ์ ทักษะนี้จึงถูกในสถานะถูกปิดใช้งาน


อันที่จริง กริดมีวิชาดาบ ‘มังกร’ อยู่ก่อนแล้ว


ไม่สิ ระบุให้ชัดก็คือ ชายหนุ่มมีแนวโน้มที่จะได้ครอบครองวิชาดาบมังกร เนื่องจากปราณมังกรที่เฮเลน่า – เจ้าหญิงแห่งเผ่าดราโกเนี่ยน – สลักลงบนปราณอนันต์ของกริด ทำให้กริดมีโอกาสได้รับวิชาดาบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับมังกร


‘แต่กลายเป็นว่า… วิชาดาบแพ็กม่าเองก็มีท่ารำดาบมังกรเหมือนกัน’

<มังกร> Lv.1

ท่ารำดาบซึ่งจำลองการโจมตีเฮือกสุดท้ายของมังกรคราม

ในวาระสุดท้าย มังกรครามพุ่งทะลวงหน้าอกมหาเทพ ฮานึล จนเกิดรูโหว่

* พุ่งโจมตีเป้าหมายที่อยู่ในระยะสิบเมตร สร้างความเสียหาย 3,000% ของพลังโจมตีกายภาพและมีโอกาสเกิดผล ‘ทะลวง’ ในอัตราสูง ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากทะลวงสำเร็จ และเป้าหมายจะมิอาจฟื้นฟูพลังชีวิตได้นานห้าวินาที

ปราณดาบ : 500

ระยะหน่วง : 10 นาที


เป็นวิชาดาบที่ทรงพลังจนน่าสะพรึง


ประการแรก ทักษะประเภทพุ่งชนทุกชนิดล้วนเป็นที่ต้องการเสมอ ต้องไม่ลืมว่า ผู้เล่นที่ชำนาญหลายคนสามารถใช้ประโยชน์จากผล ‘ย่นระยะในพริบตา’ ได้อย่างน่าทึ่ง


แต่วิชาดาบกริดและวิชาดาบแพ็กม่ากลับไม่มีท่าพุ่งชนแม้แต่หนึ่งท่า ชายหนุ่มต้องคอยอาศัยทักษะ ‘เคลื่อนที่อิสระ’ ซึ่งได้รับมาจากสมญานามแทน


‘จริงอยู่ว่ายังมีชุนโป แต่นั่นก็กินค่าเรี่ยวแรงมากเกินไป… การใช้บ่อยไม่ใช่เรื่องดี’


การเคลื่อนที่ด้วยปราณดาบ ย่อมดีกว่าการเคลื่อนที่ด้วยค่าเรี่ยวแรง… หืม… ถ้าจำไม่ผิด แพ็กม่าเคยได้รับวิชาดาบในทำนองนี้มาก่อน… เฉกเช่นที่เขาเคยปลุก ‘ทำลายล้าง’ ด้วยการเลียนแบบท่าฟันของซือโหยว มาคราวนี้ก็ปลุก ‘มังกร’ ด้วยการเลียนแบบท่าโจมตีของเทพผู้พิทักษ์…


กริดประทับใจมากที่ความรุนแรงของทักษะค่อนข้างสูงแม้จะเป็นท่าพุ่งชน คงเป็นเพราะวิชาดาบมังกรเกิดจากการจำลองสุดยอดท่วงท่าของมังกรคราม ซึ่งสามารถสร้างบาดแผลให้แก่มหาเทพฮานึลสำเร็จ


‘อาจไม่แรงเท่าร่ายรำ… แต่ร่ายรำก็มีขีดจำกัดชัดเจน’


ดังที่เห็นในการโจมตีกับบาเอล ร่ายรำจะโจมตีใส่เป้าหมายอย่างต่อเนื่องด้วยความรุนแรงต่ำแต่จำนวนครั้งที่มาก ฉะนั้น ยิ่งเป้าหมายแข็งแกร่ง ประสิทธิภาพของร่ายรำก็ยิ่งลดลง


การโจมตีจะไม่เกิดประโยชน์หากถูกบล็อกกลางคันจนมิอาจสร้างความเสียหายได้เต็มที่


แม้จะมีความรุนแรงมากเพียงใดก็ไร้ค่า


ในอนาคต ทักษะที่โจมตีทีเดียวได้หนักหน่วงจำพวก ‘สังหาร’ ‘ทำลายล้าง’ และ ‘มังกร’ จะต้องมีประโยชน์มากขึ้นแน่…


‘สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือผลการทะลวง’


การทะลวงทางกายภาพ อาจตีความได้ว่าเป็นการ ‘เปลี่ยนตำแหน่ง’


กริดซึ่งทะลวงหน้าอกของบาเอลด้วยมังกร จากที่เคยยืนอยู่ด้านหน้า ถูกย้ายไปยืนด้านหลังแทน นั่นทำให้ยูร่ามีเวลาเปิดเกตหนีได้ทัน และหากไม่เพราะตัวกริดค่าเรี่ยวแรงหมดลง ก็คงจะหนีรอดไปพร้อมกันแล้ว


แม้จะไม่ได้ท่าที่ดีอย่าง ‘สะบั้น’ หรือ ‘เจิดจรัส’ เราก็ไม่จำเป็นต้องผิดหวัง…


เหนือสิ่งอื่นใด กริดยังมีท่ามังกรซึ่งยังไม่พร้อมใช้งาน นั่นก็เป็นทักษะที่จำลองจิตวิญญาณมังกร


พิจารณาจากคำอธิบาย คงเป็นทักษะประเภทบัฟ…


กริดฉีกยิ้มกว้างเมื่อจินตนาการภาพขณะใช้งาน ‘มังกร’ ของแพ็กม่าและของตนร่วมกัน


จากนั้นก็พึมพำ


“มังกรสองตัว… มังกรคู่”


คงมีสปอนเซอร์รายใหม่เข้าในเร็ว ๆ นี้แน่…


“ยองวู…?”


“อ…อะแฮ่ม! เธอช่วยส่งฉันกลับนรกอีกรอบได้ไหม?”


“เอาจริงหรือ?”


อยากกลับไปในนรกอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเผชิญเรื่องแบบนั้นมา?


กริดอธิบายกับยูร่าที่กำลังทำหน้าฉงน


“ในเมื่อบาเอลปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางนรกและสร้างความปั่นป่วนไปทั่ว ไม่ใช่ว่าบรรดาสัตว์อสูร เผ่าอสูร และอสูรทุกตนล้วนกำลังหวาดผวาอยู่หรือ? นี่คือโอกาสอันดีในการสำรวจนรกและทำตัวให้คุ้นเคย”


“นั่นก็จริง… แต่ถ้าบาเอลคอยจับตามองล่ะ?”


“ไม่หรอก เจ้านั่นคงไม่คิดว่าฉันจะย้อนกลับไปในนรกทันที… มันต้องคาดไม่ถึงแน่”


หรือต่อให้บาเอลตระหนักได้ว่าเรากลับไป แต่ก็มีโอกาสค่อนข้างมากที่มันจะไม่แยแส…


สิ่งมีชีวิตสัมบูรณ์เกือบทุกตนที่กริดเคยพบล้วนมีนิสัยหยิ่งผยอง โดยเฉพาะบาเอล นั่นเป็นจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้


กริดจงใจฉวยโอกาสจากอุปนิสัยดังกล่าว


“…เข้าใจแล้ว”


ยูร่าผงกศีรษะรับเนื่องจากคำพูดของกริดสมเหตุสมผล


“นายแค่จะลงไปเก็บเลเวลใช่ไหม?”


“ใช่ ฉันอยากเก็บเลเวลสักพัก”


แน่นอนว่า เทือกเขาเคอัสก็เก็บเลเวลได้ดีไม่แพ้กัน คริสพิสูจน์ให้เห็นแล้ว


แต่ตรงข้ามกับคริสที่โจมตีได้หนักหน่วงหนึ่งเป้าหมาย กริดมีทักษะโจมตีเป็นวงกว้างมากกว่า ส่งผลให้นรกที่มีลักษณะมอนสเตอร์เป็นกลุ่มใหญ่ เหมาะแก่การเก็บเลเวลมากกว่าเทือกเขาเคอัส


“มาร์บาสยังเฝ้านรกหลักยี่สิบอยู่… ฉันจะส่งนายไปที่นรกหลักสามสิบก็แล้วกัน”


หากประเมินจากฝีมือของกริด จุดเก็บเลเวลที่เหมาะสมคงเป็นนรกขุมที่ 23 ถึง 25 แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มได้รับผลข้างเคียงในนรก ผนวกกับการมีอยู่ของมาร์บาสซึ่งทำให้มอนสเตอร์ของนรกหลักยี่สิบทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น การเก็บเลเวลจึงเป็นไปได้ยาก สถานที่เหมาะสมจึงควรเป็นนรกหลักสามสิบ


ขณะยูร่าสร้างเกตสำหรับเข้าสู่นรกและเตรียมระบุปลายทาง กริดตะโกนขึ้น


“ส่งฉันไปนรกขุมที่ 29”


“จะไม่ช้าแน่หรือ?”


กริดคงเผชิญวังวนการ ‘เก็บเลเวลสามนาที พักสิบห้านาที’ อย่างไม่รู้จบ จริงอยู่ที่ยูร่าสามารถช่วยอุดช่องว่างดังกล่าวหากเก็บเลเวลร่วมกันแบบปาร์ตี้ แต่เธอรู้นิสัยกริดดีกว่าใคร ชายคนนี้รักการเก็บเลเวลแบบโซโล่ไปพร้อมกับเหล่าสรรพสัตว์


“ไม่หรอก”


“…”


เขาลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปแล้ว?


หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ไม่ใช่ยูร่า คงเคลือบแคลงในใจสักพักใหญ่


แต่หญิงสาวเลือกจะยิ้มและเชื่อใจ


“ตกลง”


ท้ายที่สุด ยูร่ามิอาจขัดขวางการดื้อรั้นของชายหนุ่มและส่งไปยังนรกขุมที่ 29


ถัดมาไม่นาน


“มังกร”


ในวินาทีที่เข้าสู่นรกขุม 29 ยูร่าเห็นกริดพุ่งเข้าไปในดงมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่


จากความกังวลกลายเป็นเชื่อใจ จากเชื่อใจกลายเป็นผ่อนคลาย


กริดเริ่มสังหารหมู่มอนสเตอร์อย่างโหดเหี้ยมและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากไม่ได้รับผลข้างเคียงของนรกเหมือนแต่ก่อน


แน่นอน ถึงจะไม่ได้ถูกบัฟค่าสถานะเพิ่มขึ้นเหมือนนักล่าอสูร แต่ลำพังแค่ไม่ลดลง ก็มากพอจะทำให้ค่าสถานะโดยรวมของกริดสูงกว่ายูร่า


“…ฉันน่าจะลงไปลึกกว่านี้ได้อีกนะ”


“…”


แม้มอนสเตอร์จะถูกบัฟโดยมาร์บาส แต่ทุกตัวกลับตายเรียบในพริบตา


ยูร่ายืนมองภาพอันน่าเหลือเชื่อสักพักก่อนจะตื่นจากภวังค์


หญิงสาวพยักหน้ารับ


“…น่าจะไปได้อีกไกล”


นรกหลักสิบ


กระทั่งนักล่าอสูรยูร่าก็ยังมิอาจเปลี่ยนพวกมันให้เป็นจุดเก็บเลเวล แต่กริดกลับนึกอยากทดสอบมอนสเตอร์ในจุดที่หญิงสาวทำได้เพียงแวะไปเคลียร์ภารกิจบางครั้งบางคราว


“ก็อย่างที่นายทราบ ในนรกใช้ม้วนคาถาพากลับไม่ได้ หากเริ่มรู้สึกถึงอันตรายให้รีบโทรหาฉันทันที… เข้าใจไหม?”


“ตกลง… ขอบคุณมาก”


เธอเป็นที่พึ่งให้เราได้เสมอ…


กริดยิ้มพลางโบกมือให้ยูร่าขณะเดินผ่านเกตไปยังนรกขุมที่ 19


เพียงไม่นาน ยูร่าก็ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง


หญิงสาวหายใจเข้าพร้อมกับหันหลังกลับ


ทันใดนั้น ในจุดที่มีซากเลือดสีแดงสดของมอนสเตอร์ชุ่มชโลม แผ่นดินพลันสั่นสะเทือนรุนแรง


มือสีดำข้างหนึ่งโผล่ออกจากรอยแยก


“นักล่าอสูร เจ้าล้ำเส้นเกินไป”


มาโชซิอัส จอมอสูรลำดับ 29 – เจ้าของดินแดนที่ยูร่ากำลังยืน


ในด้านความแข็งแกร่ง มาโชซิอัสทรงพลังยิ่งกว่าจอมอสูรลำดับ 13 บีเลธ ในร่างบนโลกมนุษย์


“ไม่เพียงจะพาบาเอลมาในดินแดนของข้า เจ้ายังกลับมาอีกครั้งด้วยท่าทีโอหัง… หากจุดประสงค์คือการเรียกร้องความสนใจ ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าทำสำเร็จแล้ว”


‘ไม่คิดว่ามาโชซิอัสจะโผล่มาเร็วแบบนี้…’


นับตั้งแต่กริดที่บอกว่าอยากกลับมายังนรกขุม 29 ยูร่าได้พิจารณาถึงโอกาสเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไว้ล่วงหน้า เธอมองว่าโอกาสที่มาโชซิอัสจะปรากฏตัวนั้นมีต่ำมาก เนื่องจากจอมอสูรลำดับ 29 ขึ้นชื่อในด้านความรอบคอบจนเกินพอดี ถึงขั้นถูกเรียกว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดในหมู่จอมอสูร


แต่กลับกลายเป็นว่า การกระทำของเธอได้ยั่วยุให้อีกฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหว


ในวินาทีที่ทั้งสองเผชิญหน้ากันในนรก โอกาสหนีรอดของยูร่าก็แทบเป็นศูนย์


‘คงต้องสู้สถานเดียว…’


ในเมื่อน้ำหกออกจากแก้วไปแล้ว เธอยังจะทำอะไรได้อีก?


‘มันเป็นศัตรูที่เราต้องโค่นในสักวัน ถือเป็นโอกาสมองหาจุดอ่อนไปในตัว’


แม้จะต้องแลกมาด้วยความตายก็ตาม


ขณะยูร่ากำลังมุ่งมั่นและเตรียมใจ เสียงที่ไม่คาดคิดดังขึ้นข้างหู


“ยูร่า เธอรู้ตัวไหม… ทุกครั้งที่เธอพยายามเก็บซ่อนความกังวล ดวงตาและคิ้วจะโก่งกว่าปรกติขณะกำลังยิ้ม”


“….!”


ยูร่าที่กำลังประหลาดใจ เริ่มสัมผัสถึงบรรยากาศร้อนระอุ


ดาบที่มีเปลวเพลิงสีส้มลุกโชนค่อย ๆ โผล่ออกจากเกตซึ่งยังปิดไม่สนิท


แต่เพียงพริบตา ทุกสิ่งได้อันตรธานหายไป ทั้งเกตและดาบ


ขณะความร้อนยังไม่จางหาย หญิงสาวได้ยินเสียง ‘การฟัน’ ในจุดที่มาโชซิอัสกำลังยืน


เมื่อหันไปมอง ยูร่าได้เห็นเต็มสองตา


ดาบของกริดที่ก่อนหน้านี้มิอาจสร้างบาดแผลให้แก่บีเลธบนโลกมนุษย์ กำลังกรีดเฉือนลึกเข้าไปในลำคอของมาโชซิอัสอย่างโหดเหี้ยม


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,784
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00