จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,325



ชื่อ : ไม่มี

สายพันธุ์ : ซัคคิวบัสนรก

เลเวล : 415

พลังชีวิต : 30,000,000

มานา : 20,000,000

พละกำลัง : 230 ความอดทน : 890

ความว่องไว : 710 สติปัญญา : 3,150

เสน่ห์ : 5,000

สัตว์อสูรที่จอมอสูรบีเลียล โปรดปราน

ยั่วยวนเป้าหมายด้วยรูปโฉมอันงดงามและเสน่ห์ของอสูร

มนุษย์ธรรมดาและมอนสเตอร์จะตกเป็นทาสความงามและเสน่ห์ของซัคคิวบิอย่างเลี่ยงไม่ได้

- รายการทักษะ -

บลิ้ง (B) , บิน (B) , สูบเลือด (A) , ยั่วยวน (A) , เสกหลับ (A) , พลังหยิน, ค้นหารสนิยม (S) , บุกรุกฝัน (S) , สูบพลังชีวิต (S)

★ ในฐานะสัตว์อสูรแห่งนรก ซัคคิวบิตนนี้ไม่มีความปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากพลัง ‘ปกครอง’ ของเฮลกาโอ ค่าความจงรักภักดีจะค้างอยู่ที่ 100%


<ยั่วยวน>

ยั่วยวนเป้าหมายและเปลี่ยนให้เป็นพวก สูงสุดไม่เกินแปดเป้าหมาย

เป้าหมายที่ถูกยั่วยวนจะตกเป็นทาสและต้องทำตามคำสั่งของซัคคิวบิอย่างน้อยสิบวินาที สูงสุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ไม่สามารถสั่งให้ทำร้ายตัวเองได้

ระยะหน่วง : 3 นาที


<เสกหลับ>

เสกเป้าหมายให้หลับ ขั้นต่ำห้าวินาที และสูงสุดยี่สิบวินาที เป้าหมายที่หลับจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย

ยิ่งเป้าหมายมีค่าเรี่ยวแรงเหลือน้อย โอกาสสำเร็จก็ยิ่งมาก

ระยะหน่วง : 5 นาที

<พลังหยิน>

ทักษะติดตัว

ลดค่าต้านทานของเป้าหมายอย่างมาก มีโอกาสต่ำที่จะสร้างอาการ ‘สับสน’


<ค้นหารสนิยม>

ติดตัว

ซัคคิวบิสามารถค้นหารสนิยมของเป้าหมายและจำแลงกายเลียนแบบ

เมื่ออยู่ในร่างจำแลงกายตามรสนิยม มีโอกาส 90% ที่จะยั่วยวนสำเร็จ


<บุกรุกฝัน>

ซัคคิวบิสามารถบุกรุกความฝันของเป้าหมายที่หลับอยู่

ภายในความฝัน ความปรารถนาและจุดอ่อนของเป้าหมายจะถูกตรวจพบ

ซัคคิวบิสามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ หรือจะทำให้เกิดฝันร้ายจากจุดอ่อนก็ได้เช่นกัน

เป้าหมายที่ถูกเติมเต็มความปรารถนา จะตกอยู่ในอาการ ‘เหม่อลอย’ จนกว่าจะถูกโจมตี

เป้าหมายที่ถูกทำให้ฝันร้ายจะตื่นจากความฝันพร้อมกับค่าสถานะที่ลดลงอย่างมาก นานยี่สิบวินาที

ระยะหน่วง : 10 นาที


<สูบพลังชีวิต>

หากสูบพลังชีวิตของเป้าหมายที่ไม่ใช่ทาส ทรัพยากรทุกชนิดของเป้าหมายจะลดลงเล็กน้อย กระเพาะที่ว่างเปล่าของซัคคิวบิจะถูกระงับความหิวโหย

หากสูบพลังชีวิตของเป้าหมายที่เป็นทาส ทรัพยากรทุกชนิดของเป้าหมายจะลดลงอย่างมาก กระเพาะที่ว่างเปล่าของซัคคิวบิจะถูกเติมเต็ม

ซัคคิวบิที่อิ่มท้องจะมีพลังเวทมนตร์เพิ่มขึ้นหลายเท่า ในทางกลับกัน เป้าหมายที่ถูกสูบพลังชีวิตจนเกลี้ยง จะตกอยู่ในอาการเป็นลมชั่วคราว มีโอกาสต่ำที่จะเสียชีวิต

ระยะหน่วง : 3 ชั่วโมง


บลิ้งคล้ายกับเทเลพอร์ต บินมีไว้สำหรับบินไปบนฟ้า สูบเลือดมีไว้สำหรับดูด HP ของเป้าหมายมาเป็นของตัวเอง นอกจากนั้นยังมียั่วยวน เสกหลับ พลังหยิน บุกรุกฝัน และสูบพลังชีวิต…


ประเมินจากทักษะ ซัคคิวบิจะโดดเด่นในด้านการสร้าง CC ใส่เป้าหมายอย่างมาก แม้แต่กริดก็ยังคาดไม่ถึงว่าจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้


ความลังเลที่เคยมี ถูกขจัดออกไปโดยสมบูรณ์


นอกจากนั้น


‘พลังชีวิตสามสิบล้าน’


สูงจนน่าตกใจ มากกว่าเม็มฟิสโตเต็มวัยถึงหกเท่า


นี่คือวินาทีที่กริดตระหนักถึงความพิเศษของทักษะประเภทปกครอง


แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่สามารถอัญเชิญใหม่ได้เรื่อย ๆ หลังจากเสียชีวิต เป้าหมายที่ถูก ‘ปกครอง’ นั้นมีชีวิตจำกัด และโดยส่วนมากจะมีระยะเวลากำหนด


บางที การมีระดับพลังชีวิตที่สูง ก็เพื่อชดเชยข้อจำกัดในด้านระยะเวลาและความตาย…


สรุปโดยสั้น หากซัคคิวบิถูกจำแนกให้เป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อัญเชิญ พลังชีวิตของพวกหล่อนจะต่ำกว่านี้ราวสิบเท่า โดยการอัญเชิญจะถูกยกเลิกทันทีหลังจากเสียชีวิต แต่สามารถอัญเชิญได้ใหม่เรื่อย ๆ หากระยะหน่วงของทักษะมาถึง แต่สัตว์อัญเชิญประเภทนี้จะอ่อนแอกว่าปรกติ


แต่กับสัตว์ที่ถูก ‘ปกครอง’ นั้นต่างออกไป เป้าหมายจะยังคงมีพลังชีวิตและค่าสถานะเท่ากับก่อนถูกปกครอง


‘ค่าความอดทนไม่สูงนัก พลังป้องกันจึงค่อนข้างต่ำ… แต่การมีระดับพลังชีวิตที่สูงมาก หมายความว่าพวกหล่อนจะไม่ตายง่ายนัก’


สาเหตุที่กริดฆ่าซัคคิวบิได้ไม่ยากเย็น เพราะอีกฝ่ายมีพลังป้องกันต่ำเกินไป


แม้ค่าสถานะทุกชนิดจะลดลง 20% ในนรก แต่การโจมตียังคงอยู่ในระดับหนักหน่วง


“นายท่านจะให้พวกเรารับใช้อะไรหรือคะ? อยากหลับฝันดี? หรือว่า…”


โดยทั่วไปแล้ว เป้าหมายที่ถูก ‘ปกครอง’ จะถูกมองว่ามีมูลค่าต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงด้วยเหตุผลหลายประการ ข้อแรก พวกมันมีเพียงชีวิตเดียว ความตายหมายถึงจุดจบ ข้อสอง ระยะเวลาการปกครองมีจำกัด และข้อสาม โดยมากมักมีสติปัญญาต่ำ


อย่างไรก็ตาม พลังปกครองของกริดถือเป็นทักษะพิเศษ มีระยะการปกครองถาวร ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวคือการเลือกเป้าหมายได้เฉพาะสิ่งมีชีวิตในนรก


นอกจากนั้น ซัคคิวบัสนรกนับว่ามีสติปัญญาสูงมาก สิ่งมีชีวิตที่สามารถค้นหาจุดอ่อนของเป้าหมายได้เองย่อมไม่โง่เขลาอยู่แล้ว


กริดที่กำลังพึงพอใจกับซัคคิวบิอย่างมาก ส่ายศีรษะพลางมอบคำตอบ


“ยังก่อน”


“ค่ะ นายท่าน”


ซัคคิวบิคุกเข่าลงอย่างเงียบงัน


ท่าทียั่วยวนในตอนแรกไม่หลงเหลือ เพียงทำตัวสงบเสงี่ยมราวกับว่าที่เจ้าสาวกำลังรอส่งตัวเข้าเรือนหอ ไม่มีซัคคิวบิตนใดกล้าสูบพลังชีวิตของเจ้านาย


“ทำตัวตามสบาย”


ขณะกริดกล่าวกับซัคคิวบิที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แกลนท์เดินมาหยุดยืนด้านข้าง


“ซัคคิวบิมีเวทสูบเลือด หากเจ้ากังวลเกี่ยวกับบาดแผลของหล่อน สามารถใช้เวทดังกล่าวเพื่อฟื้นฟูร่างกายได้”


“อา…”


กริดมองไปรอบตัว


ผืนป่าอันว่างเปล่า


ต้นไม้ทุกต้นปราศจากใบ บนพื้นแห้งไม่มีหญ้าแม้แต่กอเดียว สิ่งมีชีวิตเพียงสองชนิดภายในผืนป่าคือกริดและซัคคิวบิ


“ไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่เลยหรือ?”


“ถึงจะเป็นเผ่าอสูรก็ต้องกินเพื่อให้มีชีวิตรอด”


ซัคคิวบิ ฮาลฟัส และอีกมากมาย


จากบรรดามอนสเตอร์ทั้งหมด มีบางเผ่าที่ใช้พลังชีวิตหรือพลังเวทของเหยื่อเป็นอาหาร


เผ่าอสูรเองก็ต้องดำรงชีวิตด้วยอาหารเหมือนกับมนุษย์และสัตว์ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมป่าเฮลิเทร่าถึงได้รกร้างว่างเปล่า


“หากเผ่าอสูรตนใดหลงมาที่นี่ แปลว่าพวกมันถูกล่อลวงโดยพลังหยินของซัคคิวบิ”


“อา…”


กริดนั่งฟังคำอธิบายของแกลนท์พลางตรวจสอบพลังชีวิตของซัคคิวบิตนที่บาดเจ็บ


หล่อนเหลือพลังชีวิตเพียง 12,000 หน่วย แถมยังมีอาการ ‘เลือดออก’ จากบาดแผลหลายแห่งตามร่างกาย และอัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติก็มิอาจชดเชยเลือดที่เสียไปได้ทัน หากปล่อยไว้โดยไม่ช่วยเหลือ อีกไม่นานคงต้องตายเป็นแน่


อันที่จริง กริดก็แค่หาซัคคิวบิตัวใหม่มาปกครอง เพียงแต่


‘การปล่อยให้ใครบางคนตายทั้งที่เราสามารถช่วยได้… คงไม่ใช่เรื่องดีนัก…’


ไม่ใช่พวกโรคจิตสักหน่อย


“สูบเลือดของฉันไป”


“ด…ด…ดิฉันมิกล้าสูบเลือดนายท่านหรอกค่ะ!”


“แต่เธอจะตายไม่ได้”


“ข…เข้าใจแล้วค่ะ! ขอบคุณค่ะนายท่าน!”


ซัคคิวบิที่สั่นเทาด้วยความกลัว ไม่ฝืนสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด รีบพุ่งตัวมาทางกริด


หล่อนกอดไหล่ชายหนุ่มไว้หนึ่งข้างด้วยลมหายใจสั่นกระเส่า แสงออร่าสีแดงสว่างขึ้นบนผิวหนังบริเวณท้องน้อยและไหปลาร้า ก่อนจะแผ่ออกมาพันธนาการร่างกริดประหนึ่งงูเหลือม


เหตุใดสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดถึงได้ซาบซ่านเพียงนี้?


ใบหน้าซัคคิวบิกำลังแดงก่ำ ลมหายใจลามกและเย้ายวน


ซัคคิวบิตนอื่นทำได้เพียงเฝ้ามองอย่างอิจฉา


ขณะเดียวกัน แกลนท์กำลังสับสน


‘ทำไมเขาถึงทำเรื่องที่ยุ่งยากอย่างการรักษาชีวิตหล่อน…?’


ยูร่าอาจรักษาชีวิตมันไว้ แต่นั่นเพราะมันจะมีประโยชน์ในอนาคต


แกลนท์คืออสูร และเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งจอมอสูร แต่ในทางกลับกัน ซัคคิวบิเป็นเพียงสัตว์อสูรดาษดื่นที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน ถึงหล่อนจะตาย แต่ก็สามารถเดินหาตัวใหม่และปกครองได้ไม่ยาก


เช่นนั้นแล้ว เหตุใดถึงต้องลงทุนรักษาชีวิตหล่อน?


‘หรือสิ่งนี้คือ ‘ศีลธรรม’ ที่เราเคยฟังมา?’


ขณะแกลนท์ยืนฉงน ซัคคิวบิพลันสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว


หล่อนทำหน้ามึนงงสุดขีดหลังจากพยายามสูบพลังชีวิตจากกริด


นั่นเพราะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย

[ท่านต้านทาน]


“…”


เฉกเช่นเวทมนตร์ทั่วไป สูบเลือดมิได้มีอัตราความสำเร็จ 100%


ยิ่งเลเวลและค่าต้านทานเวทมนตร์ของเป้าหมายสูง โอกาสสำเร็จก็ยิ่งต่ำ หรือต่อให้ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ปริมาณเลือดที่สูบออกไปก็จะน้อยมาก เวทสูบเลือดของซัคคิวบิจึงไม่มีทางทะลวงผ่านค่าต้านทานเวทมนตร์อันสูงส่งของกริด


“ฮึก… ฮือ”


ซัคคิวบิที่สูบเลือดกริดล้มเหลว ค่อย ๆ ถอยกลับอย่างเชื่องช้า


สีหน้าของหล่อนและซัคคิวบิที่เหลือต่างขาวซีด ดวงตาเปี่ยมด้วยความตกตะลึงขณะจ้องกริด


แปะ แปะ แปะ


ชายหนุ่มได้ยินเสียงปรบมืออีกครั้ง


และไม่ผิดคาด เสียงดังมาจากแกลนท์


“หลอกให้ความหวังแก่ผู้ที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด จากนั้นก็ทำลายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย… ข้าได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากเจ้าอีกแล้ว”


“…เธอช่วยบอกให้หมอนี่ไสหัวไปได้ไหม?”


ถัดมาไม่นาน แกลนท์ถูกส่งกลับปราสาท ส่วนกริดและยูร่าเริ่มสำรวจลึกเข้าไปในนรก


แต่ก็ไม่ได้ลึกมากนัก ไปไกลเพียงนรกขุมที่ 29


ผ่านไปสิบวัน กริดเริ่มเชี่ยวชาญการใช้ซัคคิวบิเพื่อเพิ่มลูกเล่นในการต่อสู้ให้ตัวเอง


อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงของนรกนั้นรุนแรงจนแม้แต่ชายหนุ่มก็ยากจะฝืน


“แฮ่ก… แฮ่ก… ทำไมพวกมันถึงมีพลังชีวิตเยอะขนาดนี้”


พลังชีวิตและพลังป้องกันของมอนสเตอร์พิเศษที่ปรากฏตัวในนรกหลักยี่สิบ ห่างไกลจากนรกหลักสามสิบอย่างเทียบไม่ติด ถ้ากริดไม่ใช้วิชาดาบผสานเลย กว่าจะฆ่าได้สักตัวต้องเสียเวลาไปไม่ต่ำกว่าสามนาที


นอกจากนั้น อัตราการเกิดใหม่ของพวกมันยังถี่มาก ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็คืนชีพ ส่งผลให้แทบไม่มีเวลาพักหายใจ


ค่าเรี่ยวแรงของกริดที่ได้รับผลข้างเคียงจากสภาพแวดล้อม หมดลงอย่างรวดเร็ว


ขณะปล่อยให้โอเวอร์เกียร์คอร์นเลียหน้า ชายหนุ่มฟังยูร่าอธิบาย


“เป็นเพราะอิทธิพลของมาร์บาส”


“มาร์บาส?”


กริดรู้สึกคล้ายกับเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน


“เป็นข้ารับใช้ของจอมอสูร… แข็งแกร่งเทียบเท่าจอมอสูรระดับสูงบางตน แต่พลังของมันค่อนข้างพิสดาร… มาร์บาสจะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เผ่าอสูรที่อาศัยในละแวกเดียวกับมัน รวมถึงเร่งอัตราการคืนชีพให้เร็วขึ้นหลายเท่า ทั้งหมดเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้ตัวเอง”


“เป็นแค่ข้ารับใช้ของจอมอสูร แล้วทำไมถึงมีพลังทัดเทียมจอมอสูรระดับสูง?”


“เรื่องนั้น… ฉันเองก็ไม่ทราบรายละเอียด ภารกิจยังไม่ถึงเนื้อหาของมาร์บาส”


ปัง! ปังปัง!


ยูร่ากระหน่ำยิงกระสุนเวทมนตร์ จนอสูรพิเศษจำนวนมากร่วงกราวราวกับใบไม้


หลังจากแตะเลเวลสี่ร้อย ยูร่าได้รับค่าสถานะเพิ่ม 30% ภายในนรก นอกจากนั้นยังได้รับโบนัสพลังโจมตี 500% ต่อเป้าหมายประเภทสัตว์อสูร เผ่าอสูร และอสูร


หมายความว่า ในบางโอกาส พลังโจมตีของยูร่าจะหนักหน่วงยิ่งกว่ากริด


โดยเฉพาะเมื่อแสงชำระล้างพุ่งออกจากปลายกระบอก แม้แต่อสูรพิเศษที่เกรี้ยวกราดก็ยังต้องหน้าถอดสีพร้อมกับรีบกางบาเรียป้องกัน


แน่นอน บาเรียของพวกมันไร้ค่า


“ยูร่า… เลเวลเท่าไรแล้ว”


“สี่ร้อยแปด”


“…”


เป็นเลเวลที่สูง แต่ไม่เหนือความคาดหมายนัก


หญิงสาวสามารถปลิดชีพมอนสเตอร์ที่มอบค่าประสบการณ์มหาศาลได้ในพริบตา


ออกจะเป็นเลเวลที่น้อยเกินไปด้วยซ้ำ หากคำนึงว่าเธอหมกตัวอยู่ในนรกนานหลายปี


ยูร่าหันไปยิ้มให้กริดที่กล่าวชมเชย


“เป็นเพราะยองวูช่วยฉันไว้มากบนเทือกเขาเคอัส ก่อนจะถึงเลเวลสี่ร้อย ความเร็วในการฆ่ามอนสเตอร์มิได้สูงขนาดนี้ ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด จึงไม่กล้าย่างกรายเข้ามาในเขตของมาร์บาส”


แต่ปัจจุบัน เขตมาร์บาสกลายเป็นเหมืองแร่แสนอุดมสมบูรณ์ในสายตายูร่า


กริดครุ่นคิดสักพัก พลางเฝ้ามองยูร่าสังหารมอนสเตอร์อย่างหิวกระหายโดยมีโนเอะ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ และซัคคิวบิคอยสนับสนุน


‘ยูร่าทำได้ดีมาก… แต่เราเองก็เอื่อยเฉื่อยเกินไป’


กริดเชื่อมาตลอดว่าตนสามารถอัปเลเวลตอนไหนก็ได้ จึงรู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่เห็นพวกพ้องคนสำคัญต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อดิ้นรนให้เลเวลขยับเข้าใกล้ตน


‘…ถึงเวลาต้องเอาจริงบ้างแล้ว’


อันดับหนึ่งของโลกมิได้จีรังยั่งยืน


ในตอนแรก จะมีสักกี่คนที่เชื่อว่าครอเกลจะถูกกระชากลงจากบัลลังก์?


ไฟการต่อสู้ในตัวกริดเริ่มลุกโชน เป็นความกระตือรือร้นเหมือนกับเมื่อครั้งได้เรียนวิชาดาบแพ็กม่าเป็นหนแรก


หลังจากค่าเรี่ยวแรงฟื้นฟูกลับมา ชายหนุ่มปรี่เข้าไปร่วมวงจัดการมอนสเตอร์


“คลื่นทำลายล้าง”


กริดเปิดฉากด้วยวิชาดาบที่โจมตีเป็นวงกว้าง


หลังจากเก็บกวาดมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ ชายหนุ่มหันไปบอกยูร่า


“ฉันไม่ยกตำแหน่งให้ง่าย ๆ หรอกนะ”


“ฉันจะแย่งมาให้ได้”


และต่อให้โชคดีแย่งมาได้จริง นั่นจะหมายความว่า ฉันแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถเป็นพลังให้นาย…


ยูร่ากลืนประโยคสุดท้ายลงคอ


แต่ขณะกำลังบรรจุกระสุนเตรียมยิงชุดใหม่ ร่างกายหญิงสาวพลันแข็งทื่อ


““ดูเหมือนว่า… กำลังเล่นสนุกอยู่สินะ””


เสียงอันแหบพร่าดังมาจากด้านบน


““นักล่าอสูรยูร่า เจ้าคิดจริงหรือ ว่าจะหลบเลี่ยงสายตาของข้าไปได้””


“มันเป็นใคร?”


“ทำไมถึงมาปรากฏตัวที่นี่…!”


ตัวตนที่กำลังสยายปีกเหล็กบนฟ้า ค่อย ๆ ร่อนลงมายังสนามรบเบื้องล่าง


ชื่อของมันคือ ‘อันดราส’ หนึ่งในสมุนใกล้ชิดของบาเอล


อันดราสคอยสอดส่องยูร่านับตั้งแต่เธอลอบเข้าไปในนรกขุมที่หนึ่ง


“พวกเราเอาชนะเจ้านั่นไม่ได้ หนีกันเถอะ…!”


เสียงของยูร่าผู้พยายามเปิด ‘เกต’ กลับไปยังโลกมนุษย์ พลันชะงักกลางคัน


สืบเนื่องจากสายฝน ‘โซ่’ ที่โปรยปรายลงมาจากด้านบน มีบางส่วนกำลังพันรอบลำคอของเธอ


กระสุนเวทมนตร์ที่หญิงสาวพยายามยิงตอบโต้ ถูกทำลายจนกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง


““เจ้าบังอาจบุกรุกดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของมหาบาเอลจนสถานที่แห่งนั้นต้องมัวหมอง ข้าจะไม่อภัยให้เด็ดขาด! ข้าจะฝังตราบาปที่ไม่มีวันจางหายลงในร่างกายและวิญญาณของเจ้า!””


เมื่อกล่าวจบ โซ่ที่พันธนาการยูร่าเริ่มกลายเป็นสีแดงส้ม


ขณะเกราะเงินและผิวพรรณขาวผ่องของสตรีเริ่มถูกเผาจนไหม้เกรียม


“มายา ชุนโป”


“…?!”


ประสาทสัมผัสและการตอบสนองของอันดราสนับว่าไม่เลว


เมื่อเห็นกริดหายตัวมาโผล่ด้านหลัง มันเตรียมกางปีกเหล็กเป็นกำบังให้ร่างกาย


แต่ก็ยังช้าเกินไป การโจมตีของชายหนุ่มลอดผ่านช่องว่างก่อนที่ปีกจะถูกกางอย่างสมบูรณ์


“ร่ายรำ…”


ทันใดนั้น บรรยากาศความดุดันและน่าเกรงขามของตัวตนซึ่งเข้าใกล้ร่างสมบูรณ์ พลันปกคลุมนรกขุมที่ 29 ในปริมาณเข้มข้น


“…สังหาร”


ท่า ‘สังหาร’ ถูกปลดปล่อยตามติด ‘ร่ายรำ’ จนกลายเป็นวิชาดาบผสาน


นี่คือการลงทัณฑ์แก่อสูรสกปรกที่ริอ่านแตะต้องคนสำคัญของตน


““แค่ก!””


ดวงตาซึ่งลุกโชนด้วยโทสะของกริด จดจ้องอันดราสผู้กำลังอาเจียนเป็นเลือดสีปรอท


“เลิกพล่ามไร้สาระสักที”


““ข้าจะ… ฆ่าเจ้า!””


บางส่วนของโซ่แปรสภาพกลายเป็นดาบที่มีเปลวเพลิงห่อหุ้ม


ด้ามดาบเชื่อมติดกับโซ่และเคลื่อนไหวในทิศทางที่ยากคาดเดาตรงเข้าหากริด


““ตาย!””


ทันใดนั้น เพลิงศักดิ์สิทธิ์พลันพรั่งพรูออกจากร่างกายชายหนุ่มราวกับพายุเกรี้ยวกราด บรรยากาศสุดคุกคามทำให้อันดราสพลันสั่นกลัวจากก้นบึ้ง


““เทพ…?””


“ไสหัวไปซะ”


ท่ามกลางเขตแดนพายุเพลิงเทพ กริดที่ได้รับปราณดาบอนันต์ ปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าชนิดใส่อันดราสอย่างไม่หวงแหน


ได้เห็นเช่นนั้น เลือดในกายของพวกพ้องอันดราสที่เฝ้ามองจากระยะไกล เริ่มเดือดพล่าน


“นี่แก… แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วสินะ…”


ผมสีเขียว ดวงตาสีทอง


ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล


แอ็กนัสรีบหันหลังกลับโดยปราศจากความลังเล


มันทราบเป็นอย่างดีว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออันดราสในสภาพนี้


“…”


และเหนือสิ่งอื่นใด มันไม่ต้องการโจมตีใส่บุรุษที่กำลังต่อสู้เพื่อปกป้องหญิงสาวคนรัก


แอ็กนัสในปัจจุบัน มีสติมากพอจะแยกแยะว่าตอนไหนควรสู้ และตอนไหนไม่ควร


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,779
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00