จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,320



[เฮลกาโอ เจ้าแห่งเพลิงโลกันตร์ ถูกกำจัดสำเร็จ!]


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘เขาของอสูรที่ถูกเลือก’ ]


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘สร้อยคอลำดับขั้น’ ]


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘แหวนลำดับขั้น’ ]


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘หินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพร’ 39 ก้อน]


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘หินเสริมแกร่งเครื่องป้องกันที่ถูกอวยพร’ 68 ก้อน]


[ค่าชื่อเสียงในนรกเพิ่มขึ้น 2,000 แต้ม]


[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ]


[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ]


<เขาของอสูรที่ถูกเลือก>

เกรด : เลเจนดารี

ความคงทน : 890/890 พลังโจมตี 2,599

* ความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 20%

* อัตราคริติคอลเพิ่มขึ้น 50%

* ความแรงคริติคอลเพิ่มขึ้น 120%

* ค่าต้านทานธาตุไฟเพิ่มขึ้น 50%

* หากถูกโจมตีด้วยธาตุไฟ มีโอกาส 30% ที่จะโจมตีตอบโต้

เขาที่หลุดจากศีรษะของสัตว์อสูรซึ่งเฮลกาโอเลือกใช้ร่าง

ทั้งแข็งและคมมาก เหมาะสำหรับใช้เป็นอาวุธ

เงื่อนไขการใช้งาน :

- เลเวล 600 หรือสูงกว่า

- ความชำนาญดาบขั้นสูง Lv. 5

น้ำหนัก : 830


‘หืม…’


ในฐานะไอเท็มเกรดเลเจนดารี ประสิทธิภาพของมันย่อมยอดเยี่ยม แต่ก็ยังไม่มากพอจะทำให้กริดเกิดความพึงพอใจ


‘คุณภาพอาจดี แต่เงื่อนไขการใช้งานสูงเกินไปจนไม่มีประโยชน์’


หากขีดจำกัดถูกลดลงมาเหลือเลเวล 400 ชายหนุ่มคงประเมินมูลค่าไว้สูงกว่านี้


แต่นี่ต้องมีเลเวลขั้นต่ำมากถึง 600 ระดับ


กริดคือผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก แต่ยังมีเลเวลเพียง 417 หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เงื่อนไขการสวมใส่ที่เลเวล 600 นั้นฟังดูเหลวไหลสิ้นดี


‘แต่ขณะเดียวกันก็แปลว่า เลเวลของเฮลกาโอสูงมาก’


เลเวลของเฮลกาโอจะแปรผันตามจำนวนศิลาอัคคี


นับตั้งแต่อัญเชิญศิลาอัคคีออกมาเจ็ดก้อนขณะปรากฏตัว เลเวลของเฮลกาโอได้เพิ่มขึ้นจนร่างในสมัยอดีตเทียบไม่ติด


กริดเชื่อว่า การล่าของตนจะไม่ประสบความสำเร็จ หากไม่มีพลังเฟนเรียร์คอย ‘มองข้าม’ ความแตกต่างทางเลเวล


‘…คงไม่มีทางสู้ได้เลย’


เป็นอีกครั้งที่กริดตระหนักถึงความยอดเยี่ยมของพลังอักขระ


เมื่อไม่นานมานี้ เริ่มมีบทวิเคราะห์ออกมาว่า ระบบอักขระถือเป็น ‘ระบบเอนด์เกม’ เนื่องจากเป็นพลังที่ไร้ขีดจำกัด


เฉกเช่นกริดที่สามารถสลักอักขระทุกครั้งเมื่อปราบจอมอสูร อสูรพิเศษ และสัตว์อสูรพิเศษ อักขระชนิดอื่นเองก็มีการเติบโตตาม ‘เงื่อนไข’ อย่างไร้ขีดจำกัดเช่นกัน


แต่แน่นอน เงื่อนไขของอักขระล้วนยากที่จะบรรลุ แค่ดูกริดเป็นตัวอย่างก็เห็นภาพชัดเจน


การล้มจอมอสูร สัตว์อสูรพิเศษ และเผ่าอสูรพิเศษ ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้


จากบรรดาแวมไพร์ทายาทและจอมอสูรที่กริดเคยล่า ไม่มีตนใดสามารถโค่นลงได้โดยง่าย


<อักขระแห่งความตะกละ>

<พลังเฮลกาโอร่างไม่สมบูรณ์*>

<ปกครอง>

มีโอกาสปานกลางที่จะควบคุมสัตว์อสูรซึ่งมีเลเวลต่ำกว่าท่าน

ท่านสามารถปกครองสัตว์อสูรได้สูงสุดพร้อมกันสองตัว

ทรัพยากร :

- อาหารของสัตว์อสูรที่เป็นเป้าหมาย

- มานา 10,000

ระยะเวลาปกครอง : 24 ชั่วโมง

ระยะหน่วง : 30 นาที


“หืม…”


นับเป็นความสามารถที่เกินความคาดหมาย


กริดเคยคิดว่า เฮลกาโอจะมอบพลังที่เกี่ยวข้องกับไฟให้ตน แต่ดูเหมือนจะคิดตื้นเกินไป


‘ก็สมเหตุสมผล… พลังในการปกครองอสูรไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร เพราะเฮลกาโอจะหยิบยืมร่างอสูรทุกครั้งที่ขึ้นมายังโลกมนุษย์’


ด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ กริดพึงพอใจหรือไม่?


ยังสรุปไม่ได้…


สัตว์อสูรคือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนรก และกริดมิได้รู้จักนรกดีขนาดนั้น


‘หืม…’


แต่ชายหนุ่มมองว่าค่อนข้างแย่


บางที หากตนฆ่าเฮลกาโอในร่างสมบูรณ์ คงได้รับพลังหลายชนิดพร้อมกันเหมือนกับในกรณีของจอมอสูรบีเลียล และนั่นคงไม่ทำให้เกิดความรู้สึกคลุมเครือเช่นนี้


ขณะเม้มปากแน่น กริดพลันฉุกคิดบางสิ่งได้


‘ถ้าเราล่าเฮลกาโอซ้ำ… จะได้รับพลังใหม่เพิ่มไหม?’


ด้วยความสัตย์จริง ในตอนแรก กริดไม่คิดว่าพลังของเฮลกาโอจะถูกสลักลงในอักขระ


จอมอสูรลำดับเก้าแตกต่างจากจอมอสูรตนอื่นโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มไม่คิดว่าเฮลกาโอที่มีวัฏจักรการคืนชีพใหม่อย่างต่อเนื่องเฉกเช่นมอนสเตอร์บอส จะมอบพลังพิเศษหลังจากกำจัดสำเร็จ


แต่ในความเป็นจริง พลังของเฮลกาโอถูกสลักลงในอักขระ ทั้งที่มันมีกำหนดการคืนชีพอีกครั้งในเดือนหน้า?


ไม่สิ เนื่องจากจำนวนศิลาอัคคีเพิ่มขึ้น เฮลกาโออาจเกิดใหม่ในอีก 40 วันแทน


กริดยืนครุ่นคิดสักพักก่อนจะสรุปว่า ตนควรจัดการกับเฮลกาโอรอบถัดไปด้วยตัวเอง


‘มีโอกาสที่เฮลกาโอจะมอบพลังใหม่ลงในอักขระ… และเจ้านั่นคงมิอาจถูกโค่น หากเราไม่ลงมือจัดการด้วยตัวเอง’


ชายหนุ่มมิได้มองว่าทีมล่าบอสของโอเวอร์เกียร์อ่อนแอ เพียงแต่เฮลกาโอแข็งแกร่งเกินไป


ประการแรก เลเวลของมันเหนือกว่าผู้เล่นค่อนข้างมาก กริดอาจมองข้ามได้ด้วยพลังของเฟนเรียร์ แต่กับผู้เล่นคนอื่นแล้วไม่ใช่


“หือ…?”


ขณะใช้นิ้วโป้งถู ‘เขาอสูร’ พลางครุ่นคิด กริดเกิดความรู้สึกขัดใจจนฉุกคิดได้ว่า เขาอสูรกิ่งนี้ไม่สะดวกแก่การใช้ฝ่ามือจับ ราวกับไม่ใช่อาวุธที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เนื้อแท้ของมันเป็นเพียงอวัยวะหนึ่งบนร่างกายอสูร


‘หรือว่า…’


ไอเท็มชนิดนี้สามารถดัดแปลงให้เป็นอาวุธที่ดีขึ้นได้ หากตนขัดเกลารูปทรงของมันเสียใหม่?


และเหนือสิ่งอื่นใด มีโอกาสสูงมากที่จะลด ‘เงื่อนไขการสวมใส่’ อันเหลวไหลลงจากเดิม


‘ก่อนอื่น… ต้องรีบเพิ่มค่าความเข้าใจของไอเท็มให้เต็ม’


หากค่าความเข้าใจเต็ม 100% เมื่อใด กริดจะสามารถดัดแปลงโครงสร้างไอเท็มใหม่ได้ และเขาอสูรกิ่งนี้จะกลายเป็นยอดศาสตราอีกหนึ่งชิ้น


อาจไม่ถึงขั้นดาบอัสนีฯ หรือดาบมังกรเพลิง แต่ก็ยังเป็นอาวุธระดับท็อป


และต้องไม่ลืมว่า ทั้งดาบอัสนีฯ และดาบมังกรเพลิงคืออาวุธที่กริดใช้งานได้เพียงคนเดียว แต่เขาอสูรยังสามารถนำไปให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นใช้งาน ในกรณีที่เงื่อนไขการสวมใส่ของมันลดลง


ไอเท็มชิ้นนี้จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งภาพรวมของกิลด์ได้มาก


ขณะเปิดใช้งานเนตรแพ็กม่าเพื่อเพิ่มค่าความเข้าใจ กริดชำเลืองไปทางสร้อยคอและแหวน


<แหวนลำดับขั้น>

เกรด : เลเจนดารี

* สติปัญญา +300

* ระยะเวลาของทักษะประเภท ‘ปกครอง’ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

* สติปัญญา +100 หากสวมใส่ร่วมกับ ‘สร้อยคอลำดับขั้น’

★ หากเป้าหมายของการปกครองเป็นมอนสเตอร์ในนรก ระยะเวลาการปกครองจะเปลี่ยนไป

แหวนที่เป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจและบารมีของเฮลกาโอ

เผ่าพันธุ์อสูรในนรกจะยอมศิโรราบตามสัญชาตญาณ

เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 500 หรือสูงกว่า

น้ำหนัก : 11


<สร้อยคอลำดับขั้น>

เกรด : เลเจนดารี

* สติปัญญา +300

* ความน่าเกรงขาม +300

* จำนวนสัตว์อสูรในการปกครอง +2

* สติปัญญา +100 หากสวมใส่ร่วมกับ ‘แหวนลำดับขั้น’

สร้อยคอที่เป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจและบารมีของเฮลกาโอ

สีแดงอันสง่างามของมัน ช่วยเพิ่มความน่าเกรงขามให้ผู้สวม

เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 550

น้ำหนัก : 35


“…คราวนี้อยากให้เราเป็นนักฝึกสัตว์รึไง?”


เงื่อนไขการสวมใส่คือเลเวล 550


หมายความว่า เซต ‘ลำดับขั้น’ จะเป็นไอเท็มสำหรับกริดเพียงผู้เดียวไปอีกราวสองสามปี


ไม่สิ ต่อให้เงื่อนไขการสวมใส่ต่ำลง ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะยกให้ใคร


เพราะนี่คือไอเท็มเซตที่ช่วยเพิ่มค่าสติปัญญาถึงแปดร้อยหน่วย!


กริดรู้สึกประหนึ่งตนได้รับคลาสรองเพิ่ม


คลาสที่สามารถปกครองสัตว์อสูรเลเวลสี่ร้อยได้ประมาณสี่ตัว


> ยูร่า ช่วยแนะนำสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งให้ฉันหน่อย…


หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กริดต้องลงไปลุยในนรกสักพักหลังจากนี้


ชายหนุ่มต้องตรวจสอบทุกซอกมุมของนรก ค้นหาว่าสัตว์อสูรตนใดแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาตัวที่มีเลเวลต่ำกว่า 417 หรือมอนสเตอร์ประเภทใดควรครอบครองเพื่อประโยชน์บางอย่าง


และกระบวนการทั้งหมดต้องมีนักล่าอสูรคอยนำทาง


[เป้าหมายอยู่ในจุดที่มิอาจรับข้อความเสียง]


‘ยังเก็บเลเวลอยู่สินะ’


ไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า ยูร่าหมกตัวอยู่ในนรกราวยี่สิบสามชั่วโมงต่อวัน การติดต่อหาเธอในเกมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากจะเป็นเวลาที่กลับมาเติมเสบียงจำพวกโพชั่นและไอเท็มบริโภค


ยูร่าตรากตรำอย่างหนักจนเลเวลพุ่งพรวดในระยะหลัง


เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่ก้าวขึ้นมาแตะระดับสี่ร้อยได้สำเร็จ


ปัจจุบัน ยูร่าและคริสมีเลเวลเกินกว่าสี่ร้อย กริดแต่ได้นึกสงสัยว่าครอเกลจะมาถึงแล้วหรือยัง


‘บางที เราควรเข้าร่วมงานแข่งปีนี้ด้วย’


ชายหนุ่มปรารถนาที่จะได้ดวลกับครอเกล


ผ่านมาแล้วสองปี กริดอยากเห็นว่า คู่แข่งตลอดกาลของตนพัฒนาฝีมือไปถึงไหนแล้ว


“กลับกันเถอะ”


ขณะกริดหยิบม้วนคาถาพากลับพลางยืนอมยิ้มข้างเมอร์เซเดส


“กริด!”


เสียงตะโกนดังขึ้น


ถัดมาไม่นาน สมาชิกของทีมล่าบอสที่หนึ่งเริ่มปรากฏตัว


นำโดยป็อนและโทบัน


“ฟู่ว… ขอบคุณสวรรค์ พวกนายปลอดภัย!”


“รู้ตัวรึเปล่าว่าพวกเราเป็นห่วงมากแค่ไหน!”


สีหน้าทุกคนราวกับแก่ลงไปนับสิบปี


ความตายของกริดอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเมอร์เซเดส อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คงเผชิญความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง


ป็อนและโทบันกวาดสายตาไปรอบถ้ำ สำรวจร่องรอยการทำลายล้าง


“นับว่าโชคดีมาก… หากเฮลกาโออัญเชิญศิลาอัคคีออกมาเจ็ดก้อน พวกนายคงแย่แน่”


“ถูกของโทบัน… กริด หลังจากนี้นายต้องระวังให้มาก เฮลกาโออาจแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมหลายเท่าในการคืนชีพครั้งถัดไป ห้ามลงมือตามลำพังอีกเด็ดขาด… จากที่ฉันประเมิน พวกเราอาจต้องระดมพลสมาชิกสายต่อสู้ทุกคนของกิลด์เพื่อปราบมัน”


“อา… ตกลง”


ไว้ค่อยหาโอกาสบอกพวกเขาทีหลัง ว่าศิลาอัคคีก้อนที่เจ็ดปรากฏขึ้นแล้ว…


กริดเชื่อว่า ถ้าตนโต้แย้งกลับไปในทันที บรรดาลูกกิลด์อาจพากันแตกตื่น


ขณะชายหนุ่มพยักหน้ารับ เมอร์เซเดสเปิดปาก


“เฮลกาโออัญเชิญศิลาอัคคีก้อนที่เจ็ดออกมาแล้ว… จากที่ลองหยั่งเชิงฝีมือ ฉันคิดว่านับแต่นี้ไป ฝ่าบาทควรเป็นผู้จัดการเฮลกาโอด้วยตัวเอง”


“เข้าใจแล้— ท…เธอว่ายังไงนะ?”


ทีมล่าบอสที่หนึ่งพลันผงะ


หลังจากพิจารณาคำพูดเมอร์เซเดสอย่างถี่ถ้วน ดวงตาทุกคนเริ่มเบิกโพลง ปากอ้ากว้างไม่หุบ


***


ในเวลาเดียวกัน ณ อาณาจักรคายา ทวีปตะวันออก


[ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด เสร็จสิ้นการเขียนมหากาพย์หน้าที่แปด]


[มหากาพย์ส่งผลให้ค่าสถานะของตำนานทุกคนในยุคสมัยปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย]


เล็กน้อยจริง ๆ


ค่าสถานะที่เกี่ยวกับการต่อสู้ทั้งสี่ชนิด ประกอบด้วยพละกำลัง ความว่องไว สติปัญญา และความอดทน ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างละสิบแต้ม


ผู้เล่นทั่วไปอาจคิดว่า ค่าสถานะทุกแต้มล้วนมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเล็กน้อยสักเพียงใด


แต่หลักการดังกล่าวใช้ไม่ได้กับตำนาน


คนกลุ่มนี้เป็นสุดยอดในศาสตร์ที่ตนถนัด ย่อมมีวิธีเพิ่มค่าสถานะมากมายผ่านภารกิจประจำคลาสและสมญานาม จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ค่าสถานะเพียงสี่สิบแต้มมิได้ส่งผลอะไรมากนักในการต่อสู้


ครอเกลกำลังดิ้นรนเนื่องจากเสียเปรียบหนัก ส่วนยังบันเยอึมเผยท่าทีผ่อนคลาย


แต่เมื่อได้เห็นมหากาพย์ของกริด กระบวนการทางความคิดของครอเกลพลันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง


‘กริด…’


ความแตกต่างระหว่างรุ่นก่อนและรุ่นปัจจุบันถูกลบล้าง?


หรือระบบกำลังจะบอกว่า กริดในปัจจุบัน แข็งแกร่งทัดเทียมตำนานในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน?


แตกต่างจากตนซึ่งกำลังย่ำอยู่กับที่โดยสิ้นเชิง


มันไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบกริดอีก


“เจ้าจะไม่ยอมแพ้จริงหรือ”


เยอึมขมวดคิ้วเมื่อครอเกลกระหน่ำโจมตีอย่างเกรี้ยวกราด


ความอดทนของเธอมีจำกัด


ขณะเดียวกันก็คาดไม่ถึงว่า มนุษย์ที่ตกอยู่ในสภาพยับเยิน จะทนทายาดได้ถึงเพียงนี้


หลังจากการต่อสู้ผ่านไปหลายสิบนาที เยอึมเองก็ได้รับบาดแผลไม่น้อย สิ่งนี้สร้างความระคายเคืองต่อศักดิ์ศรีของยังบันที่ก้มหน้าฝึกฝนตัวเองอย่างหนักมาตลอดหลายร้อยปี


เยอึมมองว่าโลกช่างไม่ยุติธรรม


เธอไม่เคยสนใจการสอบซือโหยว ช่วงเวลาอันยาวนานหมดไปกับการศึกษาและฝึกฝนร่วมกับมีร์


แต่ผลลัพธ์กลับเป็นการถูกมนุษย์หนึ่งคนทำร้ายหลายแผล


ขณะหญิงสาวกำลังหงุดหงิด ครอเกลชี้ปลายดาบไปหาเธอและกล่าว


“ฉันมีสหายอยู่หนึ่งคน… เขาคอยเป็นแรงกระตุ้นในช่วงเวลาสำคัญเสมอ”


“?”


“สร้างวิชาดาบ… ดาบอสนีบาต”


พลังชีวิตของเยอึมลดลงจนต่ำกว่า 50%


นี่คือมาตรฐานและเป้าหมายที่ครอเกลตั้งไว้ในตอนแรก


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,769
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. กริดสร้างโลกเป็นของตัวเองตอนไหนนะ จะได้เข้ากลุ่มถูกจำได้ว่าอ่านถึงราวๆนี้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00