จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,316
เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ?
บ้านสีขาวภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ชวนให้นึกถึงทะเลปุยเมฆอันขาวโพลน
ชายหนุ่มหันหน้าไปทางทะเลและพบว่า เป็นการยากที่จำแนกเห็นเส้นขอบฟ้าได้ชัดเจน เนื่องจากน้ำทะเลกำลังสะท้อนสีครามของท้องฟ้าจนแทบจะกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว
“งดงามมาก”
น้ำเสียงเมอร์เซเดสเผยความตื่นเต้นขณะยืนชมทัศนียภาพของเกาะคอร์ก
ต้นปาล์มที่เรียงรายสองข้างทางไปตามแนวถนนเส้นเล็ก กำลังโยกเอนคล้ายกับโบกมือต้อนรับการมาเยือนของหญิงสาว
“ฉันเองก็ชอบที่นี่เหมือนกัน”
กริดหลงใหลทัศนียภาพและบรรยากาศอันเงียบสงบของเกาะคอร์ก
ทุกครั้งที่สายลมพัดผ่านแก้ม ความรู้สึกเย็นสบายจะเกิดขึ้นเสมอ
‘ทำถูกแล้วที่กำหนดให้เป็นเขตปลอดนักท่องเที่ยว’
เดิมที เกาะคอร์กเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แต่เนื่องด้วยปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งใหญ่และเล็ก เกาะแห่งนี้จึงถูกกำหนดให้เป็นเขตปลอดนักท่องเที่ยว
แน่นอน อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ย่อมขาดรายได้เป็นจำนวนมหาศาล แต่นั่นก็ช่วยไม่ได้
นักท่องเที่ยวจำนวนมากจ้องแต่จะทำลายธรรมชาติ บางคนลักลอบเข้าไปในเหมืองเพื่อขโมยทรัพยากรอันมีค่า และบางคนพยายามคืนชีพให้จอมอสูรเฮลกาโอ กริดจึงต้องประกาศเป็นเขตหวงห้ามเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมืองของเกาะ
เกาะคอร์กอยู่ห่างจากแผ่นดินเกินไป จึงเป็นเรื่องยากที่อาณาจักรจะควบคุมปัญหาด้านความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์หากเปิดเสรี
‘เหนือสิ่งอื่นใด ความสุขของประชาชนต้องมาก่อน’
ชาวเกาะคอร์กเคยตกอยู่ในภาวะความเครียดเนื่องจากมลพิษทางเสียงที่นักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคนต่อวันก่อขึ้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กริดรู้สึกขอบคุณในความอดทนของชาวเมืองเหล่านี้ เพราะพวกเขาได้เสียสละตัวเองเพื่อให้เศรษฐกิจของบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า
‘ไม่ได้แวะมานานแล้ว มอบของขวัญสักหน่อยดีกว่า… เราจะถักกางเกงในให้’
ทุกคนต้องพึงพอใจแน่
เพราะของขวัญคือกางเกงในที่มีค่าพลังป้องกันมากถึง 20 หน่วยและค่าสถานะอีกสามแต้ม!
ขณะยิ้มกรุ้มกริ่ม ความเร็วในการเย็บปักของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แน่นอน ภาพที่ใครบางคนกำลังเย็บกางเกงในขณะเดินเลียบชายหาด ย่อมดูไม่ปรกติ หากคนแปลกหน้ามาเห็นเข้าคงต้องขยี้ตามองซ้ำ
แต่สำหรับเมอร์เซเดส เธอไม่สนว่ากริดจะทำสิ่งใด ขอเพียงได้เดินไปด้วยกันสองต่อสองก็พอ
ขณะผมที่ยาวถึงเอวกำลังปลิวไสวด้วยลมทะเล หญิงสาวพลันขมวดคิ้วเมื่อกริดยื่นของขวัญให้ตน
“รับไว้สิ… ฉันคิดว่ามันจำเป็นกับเธอ”
ยางรัดผมสีขาว
มองผิวเผินอาจดูเรียบง่าย แต่หางยืดออกจะพบรูเล็ก ๆ นับพันที่เข็มสามารถลอดผ่าน
‘ด้ายโฮรัน’ คือวัสดุที่ฉีกขาดง่ายมาก ต้องนำด้ายชนิดเดียวกันจำนวนเก้าเส้นมาถักเป็นเกลียวใหญ่หนึ่งเส้น จากนั้นค่อยใช้เข็มโครเชต์ถักเป็นรางรัดผม
ยางรัดผมเส้นนี้มิได้ถักง่าย กระทั่งกริดที่มีทักษะการเย็บปักขั้นสูง Lv.4 ก็เผชิญปัญหา
แม้จะทุ่มเวลาให้ไอเทมชิ้นนี้ถึงสองชั่วโมงต่อวัน แต่ก็ต้องใช้เวลานานถึงสองเดือนกว่าผลผลิตสุดท้ายจะออกมาสมบูรณ์
ยางรัดผมสีขาวเส้นนี้มีรายละเอียดซับซ้อน ประณีต และงดงาม
แน่นอน มันจะยิ่งทรงคุณค่าเมื่อพิจารณารายละเอียดในเชิงลึก โดยเฉพาะกับเมอร์เซเดสที่มีสายตาดีกว่าใครในโลก
ดวงตาหญิงสาวพลันสั่นเทาเมื่อได้เห็นความพยายามและทุ่มเทของกริด
“ดิฉันจะทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี…”
“ไม่ต้องทะนุถนอม ฉันสร้างมาเพื่อให้เธอใช้ในยามต่อสู้”
ด้ายโฮรันอันโด่งดัง
เปราะบางมากเสียจนฉีกขาดได้ง่าย หลายคนกล่าวว่าบางยิ่งกว่าใยแมงมุม
เพื่อจะเพิ่มความทนทาน ผู้สร้างจำเป็นต้องนำด้ายโฮรันมาถักเป็นเกลียวใหญ่ ซึ่งงานแบบนี้ถือเป็นเรื่องเสียเวลาและต้องใช้ฝีมือ
แต่ถึงอย่างนั้น กระทั่งคนที่มีเลเวลตัดเย็บและค่าความชำนาญมือสูง ก็ยังเคยพลาดพลั้งจนด้ายขาดขณะพยายามถักเกลียว
หากปรารถนาให้ด้ายทนทานเพียงพอสำหรับการสร้างไอเท็ม จะต้องนำด้ายสี่เส้นเป็นอย่างน้อยมาถักเป็นเกลียวใหญ่ และหากใช้แปดเส้นขึ้นไป ด้ายจะมีความทนทานมากพอสำหรับสร้างชุดเกราะ
กริดในปัจจุบันสามารถถักด้ายโฮรันได้มากถึงเก้าเส้นในหนึ่งเกลียว
ยางรัดผมที่ชายหนุ่มมอบให้เมอร์เซเดสมีความทนทานสูงกว่าปรกติมาก แถมยังมีบัฟเพิ่มความเร็วจากวัสดุประเภทด้ายโฮรัน
“ถ้าอย่างนั้น… ดิฉันจะมัดผมทุกวัน”
เมอร์เซเดสยิ้มพลางรวบผม
เส้นผมสีฟ้าครามตัดกับยางรัดผมสีขาว ภาพตรงหน้างดงามตามที่กริดคาดหวัง
‘คิดถูกที่ย้อมสีขาว’
เดิมที ยางรัดผมจะมีสีดำล้วน แต่กริดตระหนักได้ว่าผมของเมอร์เซเดสกลับคืนสีปรกติ จึงตัดสินใจย้อมให้กลายเป็นสีขาว
“เธอดูดีมาก”
“…”
ผิวหน้าอันขาวผ่องของเมอร์เซเดส พลันกลายเป็นแดงระเรื่อ
วันนี้คือวันพิเศษสำหรับหญิงสาวอย่างแท้จริง
เพราะนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งอัศวิน นี่หนครั้งแรกที่เธอได้รับของขวัญซึ่งไม่ใช่ดาบหรือโล่
***
“ฟาร์มทั้งหมดถูกเตรียมเสร็จแล้ว?”
เกาะคอร์กมีสัดส่วนที่ดินสำหรับเกษตรกรรมน้อยมาก เนื่องจากเป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งถูกปกคลุมด้วยภูเขาเป็นส่วนใหญ่
กำลังการผลิตอาหารบนเกาะคอร์กไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงพลเมือง ชาวเกาะจึงต้องใช้เงินที่ได้จากการขายแร่ให้พ่อค้า ซื้ออาหารประทังชีวิต
ในปัจจุบัน ที่ดินเกษตรกรรมอันน้อยนิดได้ถูกอาณาจักรสงวนไว้สำหรับปลูกป่า หมายความว่าชาวเกาะคอร์กต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้ออาหาร
‘ต้องกำชับให้แรบบิทช่วยสนับสนุนเกาะคอร์ก…’
ปิอาโร่ ผู้กำลังก้มหน้าปลูกต้นกล้าซึ่งได้มาจากอาณาจักรชิงอย่างตั้งใจ เริ่มสัมผัสถึงกริดที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเมอร์เซเดส
“ยินดีต้อนรับ ฝ่าบาท”
ถึงร่างกายจะชุ่มเหงื่อเหนียวเหนอะจากการทำงานหนัก แต่ปิอาโร่กลับกำลังเจิดจ้ายิ่งกว่าใคร
ใบหน้าของมันยิ้มแย้มโดยปราศจากความกังวล
กริดเดินเข้าไปปัดเศษฝุ่นออกจากเสื้อปิอาโร่ พลางซักถามอย่างกังวล
“ทำงานคนเดียวลำบากไหม?”
ปิอาโร่มิได้พาชาวนามาช่วยภารกิจนี้แม้แต่คนเดียว
งานทั้งหมดถูกทำด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเคลียร์หน้าดินหรือปลูกต้นกล้า เพราะต้นวอลนัทสีทองอ่อนไหวและเปราะบางกว่าพืชชนิดอื่นมาก
ด้วยเหตุผลข้างต้น ปิอาโร่ตัดสินใจลงมือตามลำพังบนเกาะห่างไกลแผ่นดินใหญ่ แถมยังต้องใช้เวลานานหลายเดือน
เช่นนั้นแล้ว เขาจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวได้อย่างไร?
ขณะกริดกำลังกังวล
“ที่รัก~ พักกินข้าวก่อน!!”
ใครบางคนปรากฏตัวขึ้นและโบกมือในจุดห่างไกล
เมื่อมองตรงไป กริดได้พบกับเบเนียลู
“…ขอถอนคำพูด”
อยู่กับภรรยานี่เอง…
ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างมีความสุข
***
“หยุดล่าเฮลกาโอชั่วคราว?”
ในกิลด์โอเวอร์เกียร์จะมีทีมล่าบอสทั้งหมดห้าหน่วย ทุกคนถูกคัดเลือกจากสมาชิกกิลด์รุ่นบุกเบิก
หน้าที่หลักคือล่ามอนสเตอร์ระดับบอสที่ปรากฏตัวทั่วทุกมุมทวีป เพื่อมิให้ความมั่งคั่งและทรัพยากรรั่วไหลออกไปยังกิลด์อื่น
“ใช่ กษัตริย์กริดตรัสว่า เขาจะล่าด้วยตัวเองขณะแวะไปเยือนเกาะคอร์ก”
“มีใครไปบ้าง?”
“เซอร์เมอร์เซเดส”
“แค่เมอร์เซเดส?”
“ใช่”
“ไม่น้อยไปหน่อยหรือ…”
ป็อน หัวหน้าทีมล่าบอสที่หนึ่ง เผยสีหน้าเป็นกังวล
เฮลกาโอ บอสใหญ่แห่งเกาะคอร์ก
อาจเคยถูกกริดล่าเมื่อในอดีต แต่จอมอสูรที่คืนชีพหนแล้วหนเล่าตนนี้ แข็งแกร่งขึ้นมากเสียจนเมื่อก่อนเทียบไม่ติด
ตำนานอาจกล่าวไว้ว่า เฮลกาโอสูญเสียร่างเนื้อเพราะถูกอริยดาบมุลเลอร์ผนึก แต่จอมอสูรลำดับ 9 ก็ยังคงเป็นลำดับ 9 วันยังค่ำ
นี่เป็นการตั้งค่าของระบบ เฮลกาโอจะค่อย ๆ ฟื้นพลังกลับคืนมาทีละนิด
ในอดีตจะมีศิลาอัคคีปรากฏขึ้นเพียงสี่ก้อน แต่ปัจจุบันมีมากถึงหกก้อนแล้ว
ทุกครั้งที่จำนวนศิลาอัคคีเพิ่มขึ้น เลเวลของเฮลกาโอจะเพิ่มจากเดิม 150 ระดับ
สำหรับปัจจุบัน การล่าเฮลกาโอไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ทีมล่าบอสที่หนึ่งซึ่งแข็งแกร่งที่สุด ก็ยังต้องสังเวยสมาชิกในทีมเป็นจำนวนมาก
“หรือเขาอยากขุดศิลาอัคคี?”
ศิลาอัคคีที่ปรากฏตัวพร้อมเฮลกาโอ คือหนึ่งในแหล่งพลังงานและจุดอ่อนของมัน
ทุกครั้งที่ศิลาอัคคีถูกขุด เฮลกาโอจะอ่อนแอลงอย่างมาก
สาเหตุที่กริดและพีคซอร์ดเคยล่าเฮลกาโอสำเร็จตามลำพัง เพราะพวกเขาสามารถขุดศิลาอัคคีได้มากถึงสองก้อน
แต่จากการค้นพบของทีมล่าบอสที่หนึ่ง การขุดศิลาอัคคีไม่เพียงจะทำให้เฮลกาโออ่อนแอลง แต่ยังจะทำให้อัตราดรอปไอเท็มลดลงด้วย หรือกล่าวได้ว่า ถ้ายังต้องการความมั่งคั่ง การล่าเฮลกาโอด้วยวิธีขุดศิลาอัคคีไม่ใช่คำตอบ
“ฉันจะไปช่วยพวกเขา”
ป็อนลุกจากเก้าอี้
ไม่ใช่เพราะมันไม่เชื่อมือกริดและเมอร์เซเดส
แน่นอน ป็อนเคยเห็นกริดกระทืบครึ่งเทพด้วยตาตัวเอง ขณะเดียวกันก็ทราบว่าเมอร์เซเดสเป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกับกริด หรืออาจจะสูงกว่า
แต่ต้องไม่ลืมว่า เฮลกาโอเป็น ‘มอนสเตอร์บอส’ ชนิดพิเศษ
แตกต่างจาก NPC ยังบันที่มีพลังชีวิตต่ำ มอนสเตอร์ระดับบอสจะมีจุดเด่นด้านค่าพลังชีวิตและพลังป้องกันที่มหาศาล นั่นคือความแตกต่างทางธรรมชาติ
ในทางทฤษฎี ปาร์ตี้ที่มีเพียงผู้เล่นหนึ่งคนและ NPC หนึ่งคน แทบไม่มีโอกาสล้มเฮลกาโอสำเร็จ
ขณะป็อนเตรียมเดินออกจากห้อง ลอเอลเอ่ยปากถาม
“ป็อน นายทราบข่าวหรือยัง”
“ข่าวอะไร?”
“เซอร์เมอร์เซเดสตั้งปณิธานอัศวินข้อใหม่”
“อันนี้รู้อยู่แล้ว เป็นข่าวดีที่มาก”
ปณิธานอัศวินคือเอกลักษณ์ของอัศวินในตำนาน
เรียกได้ว่าเป็นทักษะที่เข้าขั้นโกง สามารถเพิ่มค่าสถานะหรือยกระดับทักษะได้ตามใจชอบ พลังต่อสู้ของเมอร์เซเดสจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทุกครั้งที่สร้างปณิธานอัศวินข้อใหม่
“แต่แค่นั้นยังไม่พอ…”
เฮลกาโอแข็งแกร่งขึ้นมาก แถมยังมีทักษะใหม่ที่จะ ‘สร้างความเสียหายรุนแรงแก่ห้าเป้าหมาย’
การโจมตีดังกล่าวมองข้ามพลังป้องกันโดยสมบูรณ์ และเมื่อคอมโบกับทักษะอันหนักหน่วงที่รับประกันคริติคอลอย่างไม่มีเงื่อนไข กระทั่งโทบันก็ยังโดนชุดเดียวตายถ้าบังเอิญดวงซวย
ถึงเป้าหมายของทักษะจะเป็นแบบสุ่ม แต่ก็ต้องมีเหยื่อรับเคราะห์ให้ครบจำนวน
หรือกล่าวได้ว่า กริดและเมอร์เซเดสจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงทักษะดังกล่าว หากตัดสินใจล่าเฮลกาโอเพียงสองคน
“ฉันต้องไปเพิ่มจำนวนคน ไม่อย่างนั้นคงล่าสำเร็จได้ยาก… แถมตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาพิเศษ”
สีหน้าของป็อนพลันดำมืด
หน่วยวิเคราะห์ของทีมล่าบอสได้คาดเดาไว้ว่า ผนึกของเฮลกาโอจะค่อย ๆ คลายออกทุกครั้งที่มันปรากฏตัวบนโลกมนุษย์ และนั่นหมายถึงปริมาณพลังเวทที่เพิ่มขึ้น
เมื่อพลังเวทเพิ่มขึ้นถึงกำหนด จำนวนศิลาอัคคีภายในห้องบอสจะเพิ่มขึ้นหนึ่งก้อน และปัจจุบันคือช่วงเวลาที่ก้อนถัดไปใกล้ปรากฏตัว
“รอบนี้อาจมีศิลาอัคคีถึงเจ็ดก้อน… พร้อมกับเลเวลที่เพิ่มขึ้น 150 ระดับ”
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ค่าสถานะ แต่เลเวลที่เพิ่มขึ้นจะหมายถึงการมีทักษะใหม่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบคอมโบ
‘ถ้าเป็นแบบนั้น… โอกาสสำเร็จก็ยิ่งต่ำลง ต่อให้มีทีมล่าบอสที่หนึ่งคอยสนับสนุน’
จริงอยู่ กริดและเมอร์เซเดสสามารถทำให้เฮลกาโออ่อนแอลงได้ด้วยการขุดศิลาอัคคี
แต่การขุดแร่ต่อหน้าจอมอสูรที่แข็งแกร่ง เป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้นเชียว?
ลอเอลตะโกนเรียกป็อนที่เตรียมระดมผล
“รอฟังผลลัพธ์ดีกว่า”
ป็อนขมวดคิ้ว
“ให้จะฉันนิ่งดูดาย… ทั้งที่รู้ว่ากริดกำลังเผชิญอันตรายเนี่ยนะ?”
“ฝ่าบาทได้อ่านรายงานจากทีมล่าบอสที่หนึ่งแล้ว เขาทราบว่าเฮลกาโอแตกต่างจากอดีต แต่ถึงอย่างนั้นก็กำชับด้วยความมั่นใจ”
“กริดคงไม่คิดว่าศิลาอัคคีก้อนที่เจ็ดจะปรากฏขึ้น เพราะในรายงานเป็นเพียงการคาดเดา”
“แต่เซอร์เมอร์เซเดสเพิ่งสร้างปณิธานอัศวิน”
“นั่นยังไม่พอ”
“และเธอยังบอกด้วยว่า ตัวเธอในปัจจุบันจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบหากดวลกับฝ่าบาท”
“…อะไรนะ?”
“ป็อน ฝ่าบาทในปัจจุบันเป็นคนละคนกับในความทรงจำของนาย… เขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอีกครั้งภายในช่วงเวลาสั้น ๆ … จงเชื่อมั่นใจการตัดสินใจของเขา”
***
ในเวลาเดียวกัน ณ เกาะคอร์ก
“นี่มัน…”
หลังจากที่เดินชมป่าวอลนัทสีทองเสร็จ กริดพลันชะงักเมื่อเข้าไปในดันเจี้ยนพร้อมกับเมอร์เซเดสเพื่อหวังสัมผัสความแข็งแกร่งของเฮลกาโอ
หินไฟเจ็ดก้อนกำลังส่องแสงระยิบระยับ
แรงกดดันที่แผ่จากร่างเฮลกาโอ มีปริมาณมหาศาลจนชวนให้นึกถึงจอมอสูรลำดับ 13 บีเลธ
‘เราเคยได้ยินมาว่า เฮลกาโอไม่มีร่างเนื้อของจอมอสูร จึงต้องขโมยร่างอสูรที่เร่ร่อนในขุมนรกเพื่อขึ้นมายังโลกมนุษย์’
ทั้งที่ยืมร่างของอสูรทั่วไป แต่กลับแผ่จิตสังหารได้หนักหน่วงถึงเพียงนี้?
ถ้าคืนร่างจริงจะขนาดไหนกัน?
ดูเหมือนว่าจอมอสูรหลักเดียวจะเป็นสิ่งมีชีวิตคนละมิติโดยสิ้นเชิง…
ชายหนุ่มประเมินว่า ปัญญานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป
‘หากมีศิลาอัคคีแปดก้อนเมื่อไร เห็นทีต้องเรียกเซฮีมาช่วย’
กริดคิดจะขจัดดวงวิญญาณของเฮลกาโอให้สิ้นซาก จอมอสูรลำดับ 9 ในร่างสมบูรณ์ มิใช่สิ่งที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ควรเผชิญ
ขณะชายหนุ่มชักอาวุธ ภายในใจพลันนึกถึงอริยดาบมุลเลอร์ และนึกต่อไปถึงครอเกล
‘อริยดาบคนปัจจุบันกำลังทำอะไรอยู่?’
กริดไม่ได้เจออีกฝ่ายมาสักพักแล้ว
คงเหมือนทุกครั้งกระมัง… กำลังฝึกอย่างหนักในจุดที่เราไปไม่ถึง…
เขาลดช่องว่างระหว่างอริยดาบคนก่อนได้ถึงไหนแล้ว?
กริดที่กำลังคาดหวัง คงนึกไม่ถึงว่าครอเกลจะถูกยังบันคนหนึ่งอัดจนหมดสภาพโดยที่เธอยังไม่ถอดหมวกด้วยซ้ำ
Comments
Post a Comment