จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 763

    ชายผู้นี้ไม่ได้มาพร้อมชัยชนะอีกแล้ว  ตำนานของเขาเป็นเพียงเรื่องเล่าสมัยอดีต
    ทั้งการแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีที่หนึ่งและสอง  รวมถึงการนำสมาชิกกิลด์ประจัญบานกับกิลด์โอเวอร์เกียร์ที่แพเทรี่ยน
    ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องได้ส่งผลให้บูบัตถูกตราหน้าว่าเป็น ‘สัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้’

    คนที่เคยยกย่องศรัทธา  ภายหลังเริ่มตีตัวออกห่างจนหมด  หลายคนถึงกับเหยียดหยันด้วยถ้อยคำดูแคลน

    ศักดิ์ศรีที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยสร้างชื่อเสียงกับกิลด์ ‘ยัค’ ได้เลือนหายไปกับสายลม
    หนึ่งในเจ็ดกิลด์ใหญ่กลายเป็นสิ่งไร้ค่าในยุคปัจจุบัน  
    ฉายา ‘ตัวเปิด’ อันดับหนึ่งในซาทิสฟายของ ‘จอมบดขยี้’ ไม่หลงเหลือความน่าเกรงขามอีกต่อไป

    ถึงกระนั้น  บูบัตมิได้ถูกสั่นคลอน
    ในฐานะตัวแทงค์  เขาชินชากับการถูกกระทำนานาชนิดเป็นทุนเดิม  จิตใจแข็งแกร่งเกินกว่าจะล้มลงด้วยแรงกระทบกระทั่งเพียงไม่กี่ครั้ง

    “ปีนี้เราทำได้แน่!”

    ก่อนการแข่ง PVP จะเริ่มขึ้น  
    บูบัตเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน

    “เราชนะกริดได้แน่”

    สาเหตุที่บูบัตยึดติดกับกริด  สิ่งนี้มิใช่เพราะความแค้นส่วนตัว  การสู้กับกริดไม่ใช่เรื่องของผลแพ้ชนะ  หากแต่บูบัตกำลังมองว่ากริดคืออุปสรรคใหญ่ที่ควรค่าแก่การข้ามผ่าน

    สิ่งนี้คืออีกหนึ่งบททดสอบใหญ่ของชีวิต  เขาต้องการยกระดับตัวเองไม่ต่างจากแรงเกอร์คนอื่น
    
    ไม่เพียงเท่านั้น
    
    ‘ท่านพ่อ…สู้เค้า!’

    ‘ปีนี้คว้าเหรียญทองให้ได้นะคะ’

    เขาต้องการเป็นบิดาที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของลูกสาวที่น่ารักทั้งสอง  พวกเธออยู่กำลังในวัยน่ารักสดใส

    ‘ฮุฮุ!  พรุ่งนี้จะได้พบเจ้าหญิงที่น่ารักของพ่อแล้ว’

    บูบัตยิ้มหวานอย่างมีความสุขเมื่อหวนนึกถึงวิดีโอคอลกับบุตรสาวเมื่อคืน

    ตัวแทนนักกีฬาชาวจีน ‘จางเฉิน’  
    มันกำลังนอนรอบูบัตอยู่ในแคลปซูล
    จางเฉินเอ่ยปากยั่วยุบูบัตอย่างต่ำทราม
    
    “พวกนักกีฬาตุรกีสมองทึบกันหมดรึไง?  หรือไม่มีความละอายใจหลงเหลืออยู่แล้ว?  ทำไมถึงยังกล้าลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติทุกปีทั้งที่แทบไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลได้เลยสักรายการเดียว?  เสียเวลาคนอื่นชะมัด”

    “…”

    จางเฉินยังอายุน้อย  ไม่แปลกที่จะมีนิสัยโอหังและปากเก่ง  บูบัตส่ายศีรษะพร้อมกับทิ้งตัวนอนลงในแคปซูล
    
    ปัจจุบัน  เขามีอายุ 35 ปี
    หากเป็นสมัยสองปีก่อน  คำยั่วยุเหล่านี้อาจได้ผล  
    แต่ไม่ใช่กับคุณพ่อลูกสองอย่างบูบัต
    
    พิธีกรประกาศเริ่มการแข่งทันที

    “คู่แรกของการแข่ง PVP กำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!  เป็นการพบกันระหว่างจางเฉินจากจีน  และบูบัตจากตุรกี!!”

    “เริ่มแข่งได้!!”

    “เฮ—!!”

    เสียเชียร์จากรอบอัฒจันทร์ได้ปลุกเร้าไฟในการต่อสู้ของบูบัตให้ลุกโชน
    เขาปิดแคปซูพร้อมกับล็อกอินเข้าซาทิสฟาย 

    จากนั้น

    “อา…”

    เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง  บูบัตก็พบว่าตนเองกำลังอยู่ภายในปราสาทไลอ้อน
    ปราสาทแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามแข่ง PVP สามปีติดต่อกัน
    
    เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น  จางเฉินได้ปีนป่ายกำแพงพร้อมกับชักอาวุธเข้าจู่โจม

    “ได้ข่าวว่าแกถึกนักใช่ไหม?”

    ฟุ่บ

    จางเฉินพุ่งตัวเข้าหาบูบัตพร้อมกันถ้อยคำยั่วยุ  ฝ่ามือกำลังกำหนึ่งใน ‘แปดสุดยอดศาสตรา’ ที่ได้รับจากกลุ่มแรงงานทาสส่วนตัว
    
    ดาบกัมปนาท

    ไอเท็มชนิดนี้คือสุดยอดอาวุธสำหรับการดวล  มีออปชั่นเสริมความรุนแรงเมื่อโจมตีใส่สิ่งมีชีวิตประเภทมนุษย์
    สามารถระงับการฟื้นฟูพลังชีวิตทุกรูปแบบ  แถมยังโจมตีได้รุนแรงตามสัดส่วนพลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย

    ฉึก!

    ฉึก ฉึก ฉึก!

    จางเฉิน  
    ดาวดวงใหม่ของชาวจีนที่เพิ่งเฉิดฉายในปีที่ผ่านมา  คลาสลับของมันคือ ‘นักสู้’ ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ
    มันสามารถใช้งานอาวุธได้ทุกชนิด  มีทักษะความชำนาญสรรพาวุธติดตัว
    แถมยังเป็นผู้เล่นที่มีค่าพละกำลังและความว่องไวสูงมาก

    ไม่มีทางที่บูบัตซึ่งเน้นอัพค่าความอดทนเป็นหลัก  จะหลบหลีกวิชาดาบของจางเฉินได้พ้น
    ดาบสีดำเฉือนใส่ร่างกายที่ใหญ่กำยำของบูบัตอย่างจัง  แต่สีหน้าของจางเฉินกลับไม่สู้ดีนัก
    
    พลังชีวิตของบูบัติลงลดในปริมาณที่ต่ำกว่าความคาดหวังมาก

    ‘หมอนี่มีพลังป้องกันสูงขนาดนี้เชียว?’

    แม้แต่กริดยังต้องชะงักกับประสิทธิภาพในการแทงค์ของบูบัตเมื่อปีที่แล้ว  
    และสาเหตุที่บูบัตได้รับฉายา ‘ตัวเปิด’ อันดับหนึ่งของโลก  ด้วยพลังป้องกันมหาศาล  เขาสามารถพุ่งฝ่าเข้าไปกลางดงเท้าศัตรูได้อย่างไม่เกรงกลัวผู้ใด
    
    หมับ!

    บูบัตคว้าข้อมือจางเฉินที่กำลังตกตะลึงไว้ได้  เขาเริ่มแสยะยิ้ม

    “ฉันไม่ได้ฉายา ‘ยัค’ เพราะโชคช่วยหรอกนะ  คิดใช้มีดเล็กมาเชือดวัวงั้นหรือ?”

    “ไอ้หมูป่าบัดซบ!”  

    เมื่อจางเฉินสัมผัสถึงอันตราย  มันพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจาพละกำลังแขนของบูบัต  แต่นั่นเป็นความฝันอันเลือนลาง    

    เมื่อคว้าโอกาสไว้ได้  จอมบดขยี้ย่อมไม่พลาดที่จะลงมือ

    “สู่ขุมนรก!!”

    โครม—!! 

    หนึ่งในท่าเก่งของจอมบดขยี้ที่จะจับศัตรูเหวี่ยงให้ศีรษะกระแทกพื้น  ทักษะชนิดนี้จะสร้างอาการผิดปรกติขึ้นมากมาย

    แถมยังเป็นทักษะที่มีพลังโจมตีสูงมาก
    ความเสียหายมหาศาลที่เกิดขึ้น  มีบ่อเกิดจากการที่ทักษะชนิดนี้คำนวณความรุนแรงตามค่าความอดทนของผู้ใช้
    ในยามใช้ทักษะเฉพาะ  ตัวแทงค์จึงโจมตีได้รุนแรงไม่แพ้คลาสสายดาเมจ

    “…!” 

    ศีรษะจางเฉินถูกฟาดกับพื้นอย่างรุนแรงโดยไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงร้อง
    การมองเห็นพลันพร่ามัวพร้อมกับกลายเป็นสีดำไปชั่วขณะ

    “ย่าห์!”

    บูบัตใช้แขนโอบเอวจางเฉินที่กำลังหน้าทิ่มดิน  สิ่งนี้มิใช่น้ำใจนักกีฬาแต่อย่างใด

    “เจ็บหน่อยนะ…ฮึบ—!”

    บูบัตขบกรามแน่น
    ร่างของจางเฉินลอยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับถูกทุ่มลงไปด้านหลัง  นี่คือท่าทุ่มที่คล้ายคลึงกับเทคนิคนักมวยปล้ำ

    ‘ชิ!’

    ภาพการมองเห็นของจางฉิน  จากพื้นสู่ท้องฟ้า  และกลับลงพื้นอีกครั้งภายในระยะเวลาเสี้ยววินาที  
    ภายในใจของมันเกิดเป็นความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน  เส้นขนทั่วร่างพลันลุกตั้งชันอย่างพร้อมเพรียง

    ‘แกกล้าดียังไง…!’

    จางเฉินขบกรามแน่นอย่างโกรธแค้น
    ในที่สุดมันก็หลุดพ้นอาการผิดปรกติของทักษะ ‘สู่ขุมนรก’

    “กล้าทำกับฉันขนาดนี้เชียว?  ฉันจะฆ่าแกให้ได้!!”

    จางเฉินเก็บดาบกัมปนาทพร้อมกับชักมีดสั้นออกมา  สิ่งนี้คืออาวุธสำหรับสังหารโดยเฉพาะ  ความแม่นยำสูง  และมีโอกาสมองข้ามพลังป้องกันศัตรู
    ความรุนแรงไม่แพ้ดาบกัมปนาทเมื่อครู่เลยสักนิด

    ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!

    “อึก…!”

    ใบหน้าบูบัตเริ่มบิดเบี้ยว
    ท่อนแขนจางเฉินกำลังรัวกวัดแกว่งมีดสั้นใส่สีข้างบูบัตอย่างไม่หยุดพัก
    เอฟเฟคมองข้ามพลังป้องกันนับว่าส่งผลร้ายแรงต่อบูบัตมาก
    คลาสจอมบดขยี้มีทักษะติดตัวที่ช่วยจำกัด ‘ความเสียหายที่ได้รับสูงสุด’ จากการโจมตีหนึ่งครั้ง
    แต่จะไม่เกิดประโยชน์เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่โจมตีได้เบาแต่ถี่ยิบ

    “ย๊ากกก!”

    โครมม—!!

    บูบัตกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด  เขาคว้าตัวจางเฉินฟาดใส่พื้นอีกครั้ง
    
    “ว๊ากกก!  ย๊ากกก!”

    จางเฉินยังคงกระหน่ำแทงใส่บูบัตก่อนที่ร่างของมันจะถูกทุ่มถึงพื้น

    แน่นอน  ฝ่ายที่บาดเจ็บมากกว่าย่อมเป็นจางเฉิน
    ทักษะ ‘ทุ่มมรณะ’ มีความรุนแรงมากกว่า ‘สู่ขุมนรก’ ราวสองเท่า
    หากศีรษะจางเฉินกระแทกพื้น  บางทีมันอาจจบชีวิตลงเพียงเท่านี้  แต่น่าเสียดายที่บูบัตทุ่มพลาดไป

    การต่อสู้ดำเนินไปอย่างเงียบงัน
    
    ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

    บูบัตทำการรัวคอมโบใส่
    จางเฉินตกอยู่ในวังวนของอาการ ‘มึนงง’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ตัวมันมีค่าพลังป้องกันที่ไม่ต่ำสักเท่าไร  เหตุเพราะไอเท็มชั้นเลิศมากมายที่กลุ่มแรงงานทาสจัดหามาให้    

    แต่หลังจากถูกท่าทุ่มมรณะเข้าไป  พลังชีวิตของมันพลันเข้าสู่จุดวิกฤติทันที

    “จบสิ้นแค่นี้แหละ!”

    บูบัตตะโกนเสียงดังฟังชัดด้วยสีหน้าสุดมั่นใจ  ร่างกายพลันห้อมล้อมด้วยแสงสีแดง  
    เป็นสัญลักษณ์ก่อนใช้งานหนึ่งในทักษะไม้ตายที่ชื่อว่า ‘ระเบิดผลแตงโม’

    เปรี้ยง—!! 

    ในวินาทีทีค้อนในมือบูบัตสัมผัสกับช่องท้องจางเฉินที่ไร้การป้องกัน

    บึ้มมม—!! 

    ชุดเกราะของจางเฉินพลันเกิดระเบิด
    สิ่งนี้มิใช่เอฟเฟคของทักษะระเบิดผลแตงโมที่บูบัตใช้  แต่เกิดจากผลชองออปชั่น ‘สะท้อนความเสียหายกลับคืนสามเท่าหากได้รับความเสียหายถึงค่ากำหนด’ 
    เป็นออปชั่นจากชุดเกราะเกรดเลเจนดารีของจางเฉิน

    “อั่ก!”

    บูบัตถูกแรงระเบิดกระแทกร่างกายจนเซถอยหลัง  เมื่อเขาเริ่มเสียหลัก  จางเฉินที่หลุดพ้นจากอาการมึนงงจึงรีบฉวยโอกาส
    มันรัวแทงอย่างแม่นยำใส่ร่างกายอันใหญ่โตกำยำของบูบัตทันที

    ฉึก!

    ฉัวะ! ฉัวะ!

    โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วสนามต่อสู้
    จากเฉินสลับไปมาระหว่างสุดยอดแปดศาสตรา  เพื่อรีดเร้นความเสียหายสูงสุดจากทักษะติดอาวุธแต่ละชนิด

    อาวุธที่แตกต่างกันไปย่อมมีเอฟเฟคที่หลากหลาย  ทั้งลดพลังป้องกัน  สร้างความเสียหายแบบคงที่  ลดความเร็ว  และอีกมาก

    ทุกสิ่งก็เพื่อเปลี่ยนให้รายการที่แข็งดุจดั่งหินผาของบูบัตอ่อนนุ่มลง
    
    “ไอ้วัวบัดซับ!  แกคิดว่าฉันเป็นใครกัน?  ย๊ากกก!”
    
    จางเฉินรัวโจมตีใส่บูบัตที่กำลังเสียท่าอย่างไม่หยุดพัก  ดวงตาของมันกำลังส่องประกายอย่างเลือดเย็น  ดูราวกับเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์ไม่มีผิดเพี้ยน
    แม้ผู้จัดงานพยายามลดความโหดร้ายของสีเลือดลงเพื่อมิให้คนดูรู้สึกคลื่นไส้  แต่ฉากตรงหน้าก็ยังชวนให้อาเจียนอยู่ดี

    จนกระทั่ง

    “บ…บูบัตถูกล็อกเอาต์แล้วครับ!!”

    บูบัตกลายเป็นแสงสีเทา  
    ละอองร่างเนื้อปลิวลอยไปกับสายลม

    แต่จากเฉินกลับยังไม่หยุดมือ  มันกระหน่ำแทงซ้ำในจุดเดิมที่บูบัตเคยนอนเสียชีวิตอยู่

    “ย๊ากกก!  ว๊ากกกก!”

    ไม่มีคำบรรยายกับฉากตรงหน้า
    สิ่งนี้ได้แปรเปลี่ยนให้บรรยากาศของสนามอึมครึมโดยพลัน  แม้กระทั่งชาวจีนที่สนับสนุนจางเฉินเมื่อก่อนหน้า  บัดนี้ไม่มีใครกล้าส่งเสียเชียร์แม้แต่คนเดียว

    ภรรยาของบูบัตที่รับชมเกมการแข่งอยู่ทางบ้าน  เธอรีบพาลูกสาวตัวน้อยทั้งสองกลับเข้าห้องทันที
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความสยดสยองไปทั่วทั้งโลก

    “หึ…”

    กริดพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยันขณะกำลังเตรียมการแข่งของตัวเอง
    สำหรับเขาที่เผชิญหน้ากับชายเสียสติอย่างแอ็กนัสมาแล้วหลายหน   ความบ้าบิ่นของจางเฉินเป็นได้เพียงลูกสุนัขหัดเห่าเท่านั้น

    ***

    “ฉันจะทำให้บรรยากาศดีขึ้นเอง”

    ทาร์ม่ายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
    มันกำลังจะลงแข่งในรอบ 32 คนสุดท้าย

    เป็นข่าวดีสำหรับมันที่จางเฉิน  หนึ่งในสายเลือดใหม่  เอาชนะบูบัตมาได้
    มันอุตส่าห์ได้ดวลกับกริดตั้งแต่รอบแรกทั้งที  ย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยแน่
    ทาร์ม่าจ้องมองกริดพร้อมกับแสยะยิ้ม

    ใช่แล้ว  มันกำลังมั่นใจในชัยชนะของตัวเองเป็นล้นพ้น
    ทักษะ ‘กัดกร่อน’ ของทาร์ม่าสามารถแปรเปลี่ยน ‘วัตถุ’ ทุกชนิดให้กลายเป็นเม็ดทรายชั่วระยะเวลาหนึ่ง

    ไม่เว้นแม้แต่ไอเท็ม  
    
    กริดที่พึงพาพลังไอเท็มไม่มีทางเอาชนะมันได้เลย

    “ฉันจะถอนแค้นในอดีตคืนให้หมด”

    ในแข่งทำลายวัตถุปีที่แล้ว  ทาร์ม่าเสียชื่อเสียงอย่างหนักหลังจากพ่ายแพ้ให้กริดภายในระยะเวลาเพียงสามวินาที
    ตัวตนของทาร์ม่าเล็กลีบลง  ไม่มีใครต้องการจ้างงานกับมันอีก
    ความมั่งคั่งพลันเลือนหายในพริบตา

    ไม่เพียงเท่านั้น
    บลัดคาร์นิวัลยังถูกกริดสั่งยุบ(?)ในภายหลัง  มันต้องอพยพร่อนเร่หนีหัวซุกหัวซุนไปยังทวีปตะวันออก
    และที่นั่น  ชีวิตของมันต้องตรากตรำลำบากในทุกวันไม่ต่างจากขุมนรก

    เรียกว่าชีวิตพังทลายก็ไม่ผิดนัก
    แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้น  ในที่สุดทาร์ม่าก็ได้ครอบครองพลังกัดกร่อน

    “คุคุคุ!  กริดเอ๋ย…!  แกเสร็จฉันแน่!”

    ร่างกายทาร์ม่ากำลังสั่น  
    มันจินตนาการภาพใบหน้าแสนสิ้นหวังของกริดในหัว

    『 หลังจากจบคู่แรกด้วยความพ่ายแพ้ของบูบัต  คู่ต่อไปเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกริดจากเกาหลีใต้  และทาร์ม่าจากกรีซครับ!! 』

    『  นักกีฬาทาร์ม่าเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกบลัดคาร์นิวัลอันโด่งดัง  เขาคือนักลอบสังหารที่ผู้คนประเมิณไว้ว่า  อาจเก่งกาจยิ่งกว่าเทพสังหารอย่างเฟคเกอร์ 』

    แต่ในปีที่แล้ว  ทาร์ม่าพ่ายแพ้กริดอย่างน่าสมเพชภายในเวลาเพียงสามวินาที  
    ภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามดังกล่าวจึงถูกทำลายลงในพริบตา  ไม่มีใครคาดหวังกับทาร์ม่าเหมือนเดิมอีกแล้ว

    จนกระทั่งเมื่อวาน… 

    『 ท่ามกลางข่าวลือที่ว่า  ทาร์ม่าอาจมีชื่อเสียงโด่งดังเกินตัว  แต่ในการแข่ง ‘เส้นทางอาชูร่า’ ของเมื่อวาน  เขาแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมจนคว้าเหรียญทองได้ในที่สุด  ดูเหมือนชื่อเสียงในอดีตของทาร์ม่าจะไม่ได้เป็นเพียงคำร่ำลือนะครับ 』

    ฝีมือที่ทาร์ม่าแสดงให้ทุกคนประจักษ์ในการแข่งเมื่อวาน  สิ่งนี้นับว่าน่าทึ่งอยู่ไม่น้อย
    ดูเหมือนพลังต่อสู้ของทาร์ม่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าขุนพลโอเวอร์เกียร์อย่างคริส  ป็อน  หรือเรกัสเลยสักนิด

    นั่นมิใช่คำกล่าวเกินจริงเลย

    ทันที่การแข่งเส้นทางอาชูร่าจบลง  ทาร์ม่าได้เผยข้อมูลอันน่าทึ่งเพื่อแสดงให้โลกรับรู้ถึงความยอดเยี่ยมของตน

    ‘ฉันคือผู้ที่ยึดเกาะคอร์กจากกิลด์โอเวอร์ได้สำเร็จ  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนบนเกาะล้วนถูกฉันสังหารอย่างโหดเหี้ยม  หากไม่เชื่อลองไปถามพีคซอร์ดดูได้  เขาเองก็ตกเป็นเหยื่อของฉันเช่นกัน  ส่วนสาเหตุที่ฉันพ่ายแพ้กริดในปีที่แล้ว  ก็แค่ประมาทไปหน่อยเท่านั้น’

    นับเป็นคำสัมภาษณ์ที่น่าทึ่งไม่น้อย
    สำนักข่าวหลายช่องต่างส่งคนออกสืบหาข้อมูลดังกล่าวทันที 

    และผลก็คือ  ทาร์ม่าพูดความจริง

    ทาร์ม่าได้ทำให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์บนเกาะคอร์กต้องล้มรสความพ่ายแพ้
    ข่าวนี้ทำให้มีผู้คนไม่น้อยต่างมองว่า  
    ทาร์ม่าอาจมีโอกาสล้มกริดได้ในปีนี้

    ขณะเดียวกัน

    ‘อยากลองใช้จังแฮะ…’
    
    เมื่ออีกฝ่ายเป็นทาร์ม่า  กริดย่อมรู้สึกดีมากเป็นพิเศษ
    
    ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน

    ชายหนุ่มปรารถนาจะสำแดงสุดยอดพลังอำนาจราชาไร้พ่ายให้คนทั้งโลกได้ประจักษ์

    ทำไมน่ะหรือ?  เพราะเขาต้องการลบล้างคำครหาที่กล่าวว่าตนเป็นจูนิเบียว!
    ต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่า  วิดีโอนั่นไม่ใช่อาการกำเริบแต่อย่างใด

    จึงนับเป็นโชคดีมากที่ได้พบทาร์ม่าในรอบแรก  เลเวลของทาร์ม่าไม่น่าจะต่างกริดมากนัก  
    หากไม่สูงกว่า  ก็คงอยู่ในระดับเดียวกัน
    ทาร์ม่าเป็นแรงเกอร์ปกปิดตัวตนมาแสนนาน  เลเวลของมันไม่มีทางต่ำแน่นอน

    ‘และเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเลเวลสูง  ปราณต่อสู้ของเราก็ยิ่งเพิ่มได้เร็ว…เป็นโอกาสดีสำหรับทดสอบดาบพินาศทัพหนึ่งแสน’

    กริดทิ้งตัวลงนอนบนแคปซูล

    เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง  สภาพแวดล้อมรอบข้างได้กลายเป็นปราสาทไลอ้อนโดยสมบูรณ์

    ทาร์ม่าพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับตะโกนกึกก้อง
    
    “ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว! คุฮ่าฮ่าฮ่า!”
    
    ฟุ่บ!

    ทาร์ม่าเคลื่อนไหวอย่างแคล่วคล่อง
    นักลอบสังหารอาจมีพลังป้องกันและพลังชีวิตต่ำก็จริง  แต่ความเร็วย่อมอยู่ระดับเหนือจินตนาการ
    ทาร์ม่าครอบครองความเร็วที่สมกับเป็นสุดยอดนักลอบสังหารของโลก

    มันประชิดตัวกริดพร้อมกับชิงลงมือในพริบตา  แน่นอน  ไม่ใช่การผลีผลามโจมตีเฉกเช่นในอดีต  
    ทาร์ม่าระแวดระวังรอบด้าน  ตรงกันข้ามกับอุปนิสัยที่มันเคยแสดงออก

    ทาร์ม่าหวังจะสำรวจกริดให้ละเอียดทุกซอกทุกมุมเสียก่อน  จากนั้นค่อยเริ่มเอาจริง

    ฟุ่บ!

    การโจมตีหยั่งเชิงเพียงบางเบาที่อาศัยการขยับแขนเล็กน้อย
    
    ฉึก!

    เมื่อมีดสั้นสีเหลืองเฉือนใส่หัวไหล่กริดด้วยความเร็วที่ยากจะมองทัน  จากนั้น  ทาร์ม่ารีบชักมีดกลับพร้อมกับสร้างระยะห่างระหว่างกริดทันที  
    มันกลัวว่ากริดจะโจมตีสวนกลับมา

    ทันใดนั้น

    บึ้มมมมมม—!! 

    ด้วยออปชั่นของ ‘ถุงมือว่องไวอเล็กซ์’ ที่ช่วยเพิ่มความเร็วโจมตี  กริดสามารถฟาดฟันใส่ร่างของทาร์ม่าได้มากถึงสามครั้งในหนึ่งวินาที
    เกิดระเบิดเพลิงสีดำหลายระลอกแผ่กระจายเป็นวงกว้างรอบตัวกริด
    
    ราวกับเพลิงมังกรทมิฬก็มิปาน

    ร่างกายทาร์ม่าได้จมท่วมระเบิดเพลิงปริศนาอยู่หลายระลอก  

    จนกระทั่ง…

[ เป้าหมายเสียชีวิต ] 

    “…?"”

    กริดขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อได้เห็นข้อความระบบ

    『  อ๊ะ!  สมกับเป็นสุดยอดนักลอบสังหารครับ!!  ทาร์ม่าหายตัวไปจากเวทีการแข่งราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่!!』

    『 มองไม่เห็นเลยครับ!!  สุดยอดวิชาพรางตัว!! 』

    ทั้งผู้บรรยายและผู้ชมทั่วโลกต่างไม่มีใครทราบว่าทาร์ม่าได้ดับอนาถไปแล้ว
    เสาแสงสีเทาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความตายได้ถูกเพลิงทมิฬกลบจนมิดชิด
    
    กริดยืนสั่นระริกท่ามกลางลานประลองตามลำพัง  เขาสงบนิ่งอยู่เช่นนั้นนานหลายวินาทีจนกระทั่งพิธีกรเริ่มผิดสังเกตุ
    
    เมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้ว  ชัยชนะของกริดจึงถูกประกาศกึกก้องไปทั่วโลก

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,198

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous