จ้าวแห่งยุทธภัณธ์ 726
[ บัฟอมตะหมดเวลา ]
"แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก!"
หน้าจอการมองเห็นของกริดกำลังกระพริบวูบวาบด้วยแสงสีแดง
ชายหนุ่มพลางกระอั่กโลหิตสีเข้มคำโต
หลอดพลังชีวิตกำลังอยู่ในระดับวิกฤติ
หากตายไปก็คงไม่มีอะไรให้แปลกใจ
ทันใดนั้น เสียงของโนลล์ได้แผดตวาดกึกก้อง เปี่ยมด้วยจิตสังหารรุนแรง
"แกนะแก…ไอ้มนุษย์โสโครก!! "
[ แวมไพร์เอิร์ล 'โนลล์' ใช้ทักษะ 'พลังสะกดข่มของทายาท' ]
ฟ้าววว—
สายลมกำลังหมุนวนอย่างเกรี้ยวกราด
ปะปนกับโลหิตปริมาณมหาศาลราวกับสายน้ำที่ลูซอนกระอักออกมา
พลังสะกดข่มของทายาทจะสร้างความหวาดกลัวแก่สิ่งมีชีวิตระดับต่ำกว่าทุกชนิด
มันคือพลังที่เป็นขวากหนามสำคัญในการล่าบอสวันนี้
แต่ในปัจจุบัน
[ ท่านต้านทาน ]
กริดคือสมาชิกปาร์ตี้คนเดียวที่ยังเหลืออยู่ในเมืองแวมไพร์
พลังสะกดข่มของทายาทกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
สมาชิกโอเวอร์เกียร์หนีรอดหมดแล้วหรือ?
ไม่เลย…พวกเขาล้วนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมไปก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ก็แลกมากับชีวิตของลูซอน
กริดจ้องขเม็งมองโนลล์ที่กำลังตาแดงก่ำ
"ฝ่ายที่ต้องโมโหคือฉันต่างหาก!!"
ชายหนุ่มทราบดีตั้งแต่ต้น การรับมือแวมไพร์ทายาทของตนต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
ดังนั้น ทุกคนจึงระดมสมองเพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุด
เตรียมการอย่างรัดกุมที่สุด...
ทั้งภูมิประเทศของเมือง นิสัยของลูซอนและโนลล์ รวมถึงจุดแข็งจุดอ่อน
รีดไถโพชั่นทุกชนิดจากโรงแปรธาตุเรย์ดัน และยอมลงทุนแม้กระทั่งใช้งานโพชั่นบัฟแสนล้ำค่า
พวกเขาทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้แล้ว...
แต่การล่ากลับไม่เป็นไปตามแผนเลยสักนิด
ทั้งหมดมีสาเหตุจากพลังอันน่ารังเกียจของโนลล์
โนลล์ไม่เพียงเป็นตัวแทงค์ที่มีพลังป้องกันและค่าต้านทานสูง
แต่มันยังเป็นสายสนับสนุนที่น่ารำคาญอย่างมาก
ความถนัดของโนลล์คือการฟื้นฟูและสร้างอาการผิดปรกติ
ผลกระทบจากสึนามิโลหิตได้ทำให้ค่ายกลของชาวโอเวอร์เกียร์ต้องพังทลาย
และที่แสบสันต์คือทักษะ 'โอนถ่ายโลหิต'
โนลล์สามารถโอนถ่ายโลหิตให้ลูซอนเพื่อเพิ่มพลังชีวิตและพลังป้องกัน
ด้วยเหตุนี้ สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต้องสร้างความเสียหายกับลูซอนมากกว่าที่คำนวณไว้ตอนแรก
การฆ่าลูซอนเป็นไปอย่างยากลำบาก…
จนกระทั่งเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์จบชีวิตลงทั้งหมด
กริดได้แต่ยืนตัวสั่น...
จะเกิดอะไรขึ้นหากโนลล์คอยช่วยสนับสนุนเครย์ในการต่อสู้เมื่อไม่กี่วันก่อน์?
คำตอบคือ พวกตนจะหมดสิทธิ์ยึดครองเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดโดยสิ้นเชิง
หรือต่อให้ยืมพลังปิอาโร่และอัสโมเฟล โอกาสชนะก็ยังไม่เป็นที่แน่นอน
'คำสาปเกียจคร้าน…'
โชคดีมากที่มีคำสาปเกียจคร้านช่วยไว้ จึงไม่มีแวมไพร์ทายาทตนใดคอยสนับสนุนเครย์
และหากมองย้อนกลับไป สาเหตุที่กริดสามารถสังหารเอลฟิน·สโตนได้ในอดีต ส่วนหนึ่งก็เพราะคำสาปเกียจคร้านเช่นกัน
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้กริดเกลียดชังสมญานาม 'ว่าที่ราชาโลหิต' อย่างมาก
การมีตัวตนของเขาจะทำให้เหล่าแวมไพร์ทายาทเป็นอิสระจากคำสาปเกียจคร้านชั่วคราว
ไม่เว้นแม้แต่มาร์ควิสเฟนเรียร์หรือดัชเชสแมรี่·โรส
หากปราศจากคำสาปเกียจคร้าน ไม่ทีทางที่กริดเอาชนะปีศาจสองตนนั้นได้เลย
พวกมันแข็งแกร่งกว่าแวมไพร์เอิร์ลนับสิบเท่า
ทว่า…
"กับแกแล้วไม่ใช่…"
รอยยิ้มกริดแฝงไว้ด้วยความอาฆาต
"แกจะต้องชดใช้ในความผิดที่บังอาจสังหารพวกพ้องของฉัน"
"หุบปากซะ!"
โนลล์รีบปรี่เข้าหากริด
มันเป็นอิสระจากคำสาปเกียจคร้านชั่วคราว
สีหน้าเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ปราศจากอาการง่วงนอนโดยสิ้นเชิง
ฉึก!
อีกเพียงไม่กี่วินาที โพชั่นพลังชีวิตของกริดก็วนกลับมาถึง
ภาพการมองเห็นของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทันใด
หัวใจถูกเสียบทะลุจนเกินเยียวยา
[ ท่านเสียชีวิต ]
[ ท่านสูญเสียค่าประสบการณ์ 36.2% ]
[ ท่านสูญเสียไอเท็ม 'รองเท้ากริด' ]
***
"รายงานความเสียหายมา"
ด้านนอกเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
กริดรีบเอ่ยปากถามถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น
ลอเอลที่เตรียมข้อมูลไว้แล้วได้กล่าวตอบทันที
"ทุกคนสูญเสียค่าประสบการณ์ มีผู้เล่น 14 คนดรอปไอเท็มสวมใส่"
"อะไรนะ…14?"
ความตายในซาทิสฟายถือเป็นบทลงโทษแสนสาหัสเสมอ
ต้องสูญเสียค่าประสบการณ์เทียบเท่า 10% ของเลเวล
แถมยังมีโอกาสสูงที่จะดรอปไอเท็มสำคัญ
และจะเป็นฝันร้ายหากไอเท็มที่ดรอปคืออุปกรณ์ที่กำลังสวมใส่
โดยพื้นฐานแล้ว อุปกรณ์สวมใส่ของแรงเกอร์แถวหน้าของโลกแต่ละชิ้น มีมูลค่าสูงจนสามารถซื้อบ้านในชีวิตได้หลายหลัง
ไอเท็มสวมใส่ถือเป็นรากฐานความแข็งแกร่งตัวละคร
หากสูญเสียไป พลังต่อสู้โดยรวมก็จะลดลงหลายระดับ
ทว่า...
"โอกาสดรอปไอเท็มสวมใส่ของผู้เล่นที่ไม่หัวแดง (PK) จะอยู่ที่ราว 1% ไม่ใช่รึไง?"
ใช่แล้ว
โอกาสดรอปไอเท็มสวมใส่ของผู้เล่นทั่วไปนั้นต่ำมาก
แต่กริดกลับรู้สึกว่ามันมากถึง 50% เลยทีเดียว
'ความดวงซวยของเรา…ส่งผลไปถึงพวกพ้องด้วยหรือ?'
กริดพลันฉุนเฉียวเมื่อสมาชิกปาร์ตี้กว่าครึ่งต้องดรอปไอเท็มสวมใส่
ขณะเขากำลังกล่าวโทษตัวเองอย่างหนัก
ลอเอลได้แจ้งข่าวที่ฟังแล้วสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม
"ในบรรดาพวกเขา ป็อนดรอปหอกบีเลียล และแวนเนอร์ดรอปโล่หลัก"
"…"
กริดเจ็บปวดเจียนตายจากการที่ต้องดรอป 'รองเท้ากริด' ซึ่งเขาสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ปัจจุบัน รองเท้ากริดจะถูกสวมใส่ในเวลาที่กริดต้องการใช้ดาบใหญ่
มูลค่าของมันไม่ได้มากมายขนาดนั้น
แต่สำหรับป็อนและแวนเนอร์ พวกเขาสูญเสียขุมพลังสำคัญที่สุด
หอกและโล่ที่ต้องใช้งานตลอดเวลาโดยไม่มีสิ่งสับเปลี่ยน
ในมุมมองกริด มันไม่ต่างจากการดรอป 'ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม' เลยสักนิด
ชายหนุ่มเป็นกังวลว่าคนทั้งสองกำลังรู้สึกแย่ขนาดไหน
เขาชำเลืองสายตามองป็อนและแวนเนอร์
พวกเขาก็กำลังมองมาทางกริดเช่นกัน
"หอกของฉัน…"
"โล่…"
"…"
กริดอยากสร้างหอกกับโล่ใหม่ใจแทบขาด
บุคคลทั้งสอง มิตรสหายร่วมทุกร่วมสุขที่เปรียบดั่งพี่น้องในสายเลือด
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือป็อนนั้นหล่อเหลา ส่วนแวนเนอร์นั้นหัวล้าน
ทั้งป็อนและแวนเนอร์ต่างเกรงใจไม่กล้าเอ่ยปากร้องขอไอเท็มใหม่จากกริด
แต่ชายหนุ่มสามารถอ่านความผิดผ่านแววตาได้
"ฉันจะสร้างไอเท็มใหม่ให้พวกนาย เพราะถึงยังไงปาร์ตี้ของพวกเราก็ไม่พร้อมที่จะสู้กับโนลล์ต่อทันที คงต้องรอให้ระยะหน่วงทักษะของทุกคนพร้อมรบอีกครั้ง ฉันจะใช้เวลาระหว่างนั้นสร้างไอเท็มชดเชยให้"
หนึ่งในพลังของกริดคือการสร้างไอเท็มได้ทุกที่ทุกเวลา
แถมเขายังได้แต้มสถานะจากการสร้างไอเท็มเป็นโบนัส
ป็อนและแวนเนอร์ค่อนข้างมั่งคั่ง พวกเขายินยอมจ่ายเงินค่าไอเท็มให้กริดอย่างเหมาะสม
ด้วยเวลาที่เหลือ การลงมือสร้างไอเท็มจะเกิดประโยชน์ต่อปาร์ตี้มากที่สุด
แต่ปัญหาคือ…
"ฉันไม่มีวัสดุ…"
"…"
"…"
หอกมังกรทมิฬของป็อนและโล่อัคคีโลกันตร์ของแวนเนอร์ต่างใช้วัสดุจากบีเลียลในการสร้าง มันคือสุดยอดในเท็มในหมู่ไอเท็ม
ไม่มีทางที่กริดจะสร้างใหม่ได้โดยปราศจากวัสดุ
ชายหนุ่มได้แต่ยืนสั่นระริก
'ถ้าเราแข็งแกร่งกว่านี้'
การล้มลูซอนก็จะไม่กินเวลานานเหมือนเมื่อครู่
ขณะกริดกำลังแสดงสีหน้าเจ็บแค้น จิสึกะได้เดินเข้ามาปลอบใจ
"นายไม่ได้ไร้พลัง…พวกเราต่างหากที่ไร้พลัง อย่าโทษตัวเองเลยนะ"
ป็อนและแวนเนอร์พยักหน้าพร้อมกัน
"ใช่แล้ว…ผลเป็นเช่นนี้เพราะพวกเราอ่อนแอ ไม่ใช่เพราะกริดมีพลังไม่มากพอ"
"…"
บรรยากาศกำลังอึมครึมตึงเครียด
นอกจากแวนเนอร์และป็อนที่สูญเสียหนักที่สุด สมาชิกอีกหลายคนก็สูญเสียไอเท็มสวมใส่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าผู้ใดทั้งสิ้น
และอีกสาเหตุหนึ่งของความหดหู่…
งานแข่งนานาชาติปีที่สามกำลังใกล้เข้ามาเต็มที
การสูญเสียไอเท็มสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีนัก
ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเจ็บใจที่ต้องเข้าแข่งในสภาพไม่สมบูรณ์
ขณะเดียวกัน สีหน้าลอเอลยังคงสดใส
"อันที่จริง…เรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด ไอเท็มดรอปของทุกคนยังอยู่ที่เดิม พวกเราสามารถนำมันกลับมาได้"
ไอเท็มที่สูญหายไม่ได้ถูกทำลาย
มันจะตกอยู่ในจุดที่พวกเขาเสียชีวิต
เฉกเช่นเมื่อครั้งกริดดรอปแหวนได้จากแบล็ค
แล้วทำไมการดรอปไอเท็มถึงเป็นปัญหาใหญ่ในซาทิสฟาย?
คำตอบคือ 'ผู้เล่น' ด้วยกันเอง
การดรอปไอเท็มในจุดเก็บเลเวลที่มีผู้เล่นรวมตัวกันมาก แทบไม่มีโอกาสเลยที่จะกลับมาเก็บไอเท็มเดิมได้ เพราะไอเท็มดรอปเหล่านั้นจะถูกผู้เล่นด้วยกันเองแย่งชิงไป
เมื่อคนที่ตายกลับมาถึงจุดเดิม ไอเท็มดรอปของตัวเองก็หายไปเรียบร้อยแล้ว
แต่เมืองแวมไพร์ใต้ดินมิใช่จุดเก็บเลเวลปรกติ
ทางเข้าดันเจี้ยนแวมไพร์จะแอบซ่อนอยู่บนทะเลทรายอันแห้งแล้งรอบเรย์ดัน
ไม่ใช่สถานที่ซึ่งผู้เล่นทั่วไปจะย่างกรายมาถึง
ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่กริดกลายเป็นเจ้าเมืองเรย์ดันและค้นพบดันเจี้ยนแวมไพร์ ลอเอลได้ส่งกองกำลังคอยผูกขาดทางเข้าออกของเมืองแวมไพร์ใต้ดินทุกแห่ง
เขาไม่ต้องการให้ทรัพยากรอันมีค่าต้องถูกผู้เล่นคนอื่นแย่งชิง
นี่มิใช่การกระทำที่ต่ำทราม
การผูกขาดจุดเก็บเลเวลในเมืองที่ตนปกครอง ถือเป็นสิ่งพื้นฐานในซาทิสฟายที่ทุกกิลด์ล้วนกระทำ
"ไอเท็มดรอปของพวกนายยังอยู่ที่นั่น เราทุกคนจะลุยดันเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ก่อนสู้กับโนลล์ พวกเราจะไล่เก็บไอเท็มดรอปของแต่ละคนคืนมา"
"นายพูดถูก…ไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถเข้าไปเก็บไอเท็มดรอปได้แน่"
"พวกเราจะแบ่งเวรยามคอยเฝ้าทางเข้าเมืองลำดับเจ็ดไว้"
"ตกลง…แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปทวงคืน"
"ไม่มีปัญหา!"
บรรยากาศที่เคยตึงเครียดเริ่มคลี่คลาย
ทุกคนเฝ้ารอวันรุ่นขึ้นด้วยใจจดจ่อ
ลอเอลเอ่ยปากเตือน
"อย่าชะล่าใจไป แม้โนลล์จะเป็นสายสนับสนุน แต่มันก็เป็นถึงแวมไพร์เอิร์ล ค่าพลังต่อสู้โดยรวมย่อมเทียบเท่าแวมไพร์เอิร์ลตนอื่น หรือก็คือ จัดเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง หากประมาทแม้เพียงวินาทีเดียว พวกเราอาจหมดสิทธิ์นำไอเท็มกลับคืน"
แล้วก็
"ในเมื่อโนลล์เป็นสายสนับสนุน มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะอาศัยกองทัพแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์จำนวนมากเป็นเบี้ยในการต่อสู้"
ลอเอลหันมามองกริด
"ปัจจุบัน ด้วยพลังของกริด โนลล์จึงหลุดพ้นจากคำสาปเกียจคร้านชั่วคราว มันจะไม่กลับไปหลับไหลเหมือนทุกครั้ง แต่จะอยู่ในสภาพพร้อมรบตลอดเวลา"
"…"
กริดพลันเจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อลอเอลกล่าวเน้นย้ำพลังสมญานามตน
ถึงกระนั้น ลอเอลไม่ได้มีเจตนาจะซ้ำเติม
"แผนหลักของพรุ่งนี้คือ พวกเราจะรวบรวมไอเท็มดรอปให้มากที่สุดก่อนถูกโนลล์พบตัว เพราะไม่อย่างนั้น โอกาสเอาชนะของพวกเราจะริบหรี่ลงมาก"
คริสเห็นด้วย
"ถูกต้อง แม้โนลล์จะมีพลังโจมตีต่ำกว่าเอิร์ลทุกตน แต่มันมี CC สูงและยังถึกทนมาก พวกเราไม่มีทางเอาชนะโนลล์พร้อมกองทัพแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ได้เลย หากปราศจากอุปกรณ์สวมใส่ที่ดีที่สุด ทุกคนห้ามลืมเด็ดขาดว่าเคยตายในจุดใด"
ลอเอลกล่าวเสริมเป็นคำเตือนสุดท้าย
"โนลล์ต้องถูกจัดการโดยเร็วที่สุด เพราะหากมันยังไม่ตายและผนึกกำลังกับเฟนเรียร์หรือแมรี่·โรสล่ะก็…"
อึก!
เสียงกลืนน้ำลายในหนนี้ดังเป็นพิเศษ ทุกคนต่างมีอากัปกริยาเดียวกัน
พวกเขากำลังจินตนาการถึงฝันร้ายอันน่าหดหู่
หากทักษะสนับสนุนของโนลล์ถูกนำไปใช้กับมาร์ควิสเฟนเรียร์หรือดัชเชสแมรี่·โรสล่ะก็…
"พวกเราจะไม่มีวันล่าแวมไพร์ทายาทได้อีกเลย…"
***
"ทุกคนจำขึ้นใจแล้วใช่ไหม?"
หลังจากพักผ่อนอย่างเพียงพอตลอดหนึ่งวันเต็ม
กริดตรวจสอบความพร้อมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลุยเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
เป็นสีหน้าที่ขึงขังจริงจัง
สมาชิกทุกคนตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง
"แน่นอน! กริด…นายจำจุดที่ดรอปไอเท็มได้รึเปล่า?"
"จำได้"
กริดพยักหน้ายืนยัน
"ดีล่ะ! เคลื่อนไหวให้เงียบที่สุดจนกระทั่งไปถึงจุดดรอปไอเท็ม พวกเราซวยแน่ถ้าถูกโนลล์พบเข้าก่อนที่จะเก็บไอเท็มดรอปกลับคืน"
"เข้าใจแล้ว"
เมืองลำดับเจ็ด
ทุกคนล้วนเคยเข้าออกครั้งแล้วครั้งเล่า ผังเมืองย่อมจำได้ขึ้นใจ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งใดที่บอสเมืองปรากฏตัวในทันที
ยิ่งการต่อสู้ผ่านไปและส่งเสียงเอะอะมากเพียงใด ผู้ปกครองเมืองก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงผู้ตัวตนของบุกรุก จนกระทั่งมันปรากฏตัวต่อหน้าสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน
นี่คือเอกลักษณ์ของเมืองแวมไพร์ใต้ดิน
แน่นอน สมาชิกทุกคนล้วนคาดหวังว่าวันนี้จะเหมือนเดิม
แต่น่าเสียดายที่ความเชื่อมั่นต้องถูกทำลายลงในพริบตา
"ฮุฮุฮุ ฉันกำลังรออยู่เลย"
"..."
ทันทีที่ทุกคนถูกส่งตัวเข้าไปยังเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับโนลล์ตั้งแต่ทางเข้า
โนลล์ย่อมทราบว่ากริดจะกลับมาอีกครั้ง มันจึงเตรียมการและยกทัพดักรอที่ทางเข้า
รอบกายโนลล์ประกอบด้วยแวมไพร์และสัตว์บริหารกว่า 500 ตน
นี่คือสติปัญญาอันน่าทึ่งของ NPC พิเศษในซาทิสฟาย
"ฉ—ฉันกลับก็ได้…ฮะฮะ!"
กริดหัวเราะอย่างเคอะเขินก่อนจะเผ่นป่าราบพร้อมเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์
มาทางไหนก็กลับออกไปทางนั้น
***
"ควย! ยกทัพหลวงมาที่นี่โดยด่วน!! ฉันจะทำสงครามเต็มอัตราศึก!!"
ณ ทางเข้าเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
กริดตวาดคำสั่งต่อหน้าเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่กำลังขวัญเสีย
นี่คือโองการกษัตริย์…
ราชาผู้สามารถเคลื่อนทัพนับหมื่นนับแสนได้ตามใจชอบ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,168
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
บอกเลยเละ
ReplyDeleteดาวนๆ
ReplyDeleteขำมาก 555555
ReplyDelete5555
ReplyDeleteสปอยได้ไกม
ReplyDeleteเชิญเลยอยากรู้เหมือนกัน
Deleteตั่งหลักเเปบ
ReplyDeleteเอ็งเรียกพวกก่อนเองนะ
ReplyDeleteงานนี้มีได้เสียกันไปข้าง
ควยกูกลับไปแปบ
ReplyDelete