จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 720
สาเหตุที่กริดต่อกรได้สูสีกับเอิร์ลเครย์
มิใช่เพราะเขาแข็งแกร่งเทียบเท่ามัน
แต่เป็นเพราะมีพวกพ้องชาวโอเวอร์เกียร์คอยล้อมโจมตีจากทุกทิศทาง
‘โล่นกยูง!’
วาบ!
แวนเนอร์เก็บขวานพร้อมกับแผ่ออร่าเจิดจ้าจากโล่ใหญ่ในมือ
นี่คือทักษะที่ดึงความสนใจของบอสมาอยู่ที่ตน
“คำรามศักดิ์สิทธิ์!”
โทบันตะโกนเพื่อใช้ทักษะสร้างอาการอัมพาตแก่สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ชั่วร้าย
“แม่ของแก…!”
ฮิวรอยเอาแต่ล่วงเกินชิโซ·เบริอาเช่ มาดราผู้ล่วงลับของเครย์ไม่หยุดปาก
เป็นคำตะโกนที่แฝงด้วยผลยั่วยุและสร้างอาการผิดปรกติไปพร้อมกัน
...แต่คำอธิบายทักษะไม่ได้เขียนไว้ว่าสามารถใช้ยั่วยุได้
ทั้งสามต่างรัวทักษะมากมายอย่างไม่หยุดพักเพื่อหวังดึงความสนใจออกจากกริด
แต่เครย์มีค่าท้านทางสูงมาก การยั่วยุและดีบัฟส่งผลต่อมันไม่รุนแรงเท่าที่ควร
ไม่ว่าจะถูกยั่วยุและดีบัฟมากเท่าไร ผลของอาการจะคงอยู่ไม่ถึงหนึ่งวินาที แต่ช่องว่างเพียงเท่านี้ก็มากพอสำหรับกริดแล้ว
“หอกบุปผา!”
เมื่อป็อนเห็นเอิร์ลเครย์ชะงักเพราะคำยั่วยุจากฮิวรอย เขารีบขวางหอกใส่มันจากระยะไกลทันที
เป็นมุมอับด้านหลังที่ปราศจากการป้องกันโดยสิ้นเชิง
ฉึก!
แผ่นหลังเอิร์ลเครย์ถูกหอกเสียบอย่างจัง
ซู่วว—
บุปผาเริ่มงอกเงยบานสะพรั่ง
นี่คือทักษะที่ระงับผลการรักษาของเป้าหมาย มันจะสร้างบาดแผลที่มันไม่มีวันสมาน เลือดของเป้าหมายจะไหลไม่หยุดจนกว่าจะหมดผลของทักษะ
ป็อนมั่นใจ นี่คืออีกหนึ่งวิธีสำหรับต่อกรกับเวทมนตร์ดูดเลือดที่ทรงพลังของเอิร์ลเครย์
แต่ยิ่งทักษะแฝงเอฟเฟคร้ายแรง โอกาสแสดงผลสำเร็จก็ยิ่งมีอัตราต่ำ
[ เป้าหมายต้านทาน ]
“ควย!”
ป็อนพัฒนาตัวเองกลายเป็นนักสบถมือฉมัง การใช้ชีวิตร่วมกริดได้ทำลายภาพพจน์ของหนุ่มรูปงามคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
หากแฟนคลับสาวทั่วโลกของป็อนได้ยินเข้า พวกเธอคงทำหน้าไม่ถูกแน่นอน
คงไม่มีใครคิดว่าอัศวินสุดหล่อที่มาพร้อมอาชาสีขาวจะสบถถ้อยคำสุดหยาบคายเช่นนี้
“ไอ้ผีตะวันตกขี้ขลาด! เก่งจริงก็ลงมาสู้ข้างล่างสิฟะ! ชักดาบ·สังหารหมู่!”
“ดาบผงาด!”
“ขว้างมีด”
“ฉ...ฉันคงต้องขว้างก้อนหินสินะ”
คนเหล่านี้คือกลุ่มคลาสโจมตีระยะประชิด ประกอบด้วยคริส พีคซอร์ด เฟคเกอร์ และไอเบลลิน
สมาชิกโอเวอร์เกียร์หลายคนมิอาจโจมตีได้ตามที่ตนต้องการ เพราะเครย์ได้บินหนีขึ้นด้านบนเป็นความสูง 15 เมตรจากพื้น
ต้องเป็นทักษะโจมตีระยะกลางถึงไกลเท่านั้นจึงจะสัมผัสร่างเครย์ได้
ทักษะระยะกลางของทุกคนจะถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องเมื่อระยะหน่วงวนกลับมาถึง
ในขณะที่ทักษะยังไม่พร้อม คนเหล่านี้ก็จะมองหาก้อนหินบนพื้นเพื่อขว้างขึ้นไป
แม้ความเสียหายจะไม่มาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำสิ่งใดเลย
“ไอ้พวกมดปลวก!”
เครย์มิเคยแยแสเศษก้อนหินที่ถูกขว้างขึ้นมาด ความเสียหายไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด
ฉึก!
ฉึกฉึก!
“อึก…!”
ท่าทีไม่ยี่หระของเครย์เริ่มจางหาย
สาเหตุคือลูกธนูที่พุ่งจากคัรศรฟินิกซ์แดงเกรดมิธในมือจิสึกะ ความเสียหายสะสมเริ่มทำให้มันเปลี่ยนสีหน้า
อีกหนึ่งภัยคุกคามใหญ่หลวงคือเวทมนตร์ของเซ็ดนอสและลาเอลล่า
แต่ว่า…
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
เครย์ยังคงเล็งโจมตีแต่เพียงกริด
ถึงกริดจะสู้กับเครย์ได้อย่างสูสีเพราะมีความช่วยเหลือจากพวกพ้อง
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย สำหรับเครย์แล้ว ผู้ที่เป็นภัยคุกคามสูงสุดยังคงเป็นกริด
“ตายซะ!”
หลังจากกริดโจมตีด้วย ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’ และ ‘ทำลายล้างสังหาร’
เอิร์ลเครย์รอดชีวิตจากการกระหน่ำโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด ด้วยสภาพร่อแร่ มันทำการเสกหางโลหิตขึ้นมากถึงหกเส้น
สถานการณ์พลิกผันทันที
กริดต้องสูญเสียประกันชีวิตอมตะและตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
แม้ตาข่ายโลหิตจะพลาดเป้า แต่ตาข่ายทั้งหมดได้แปรเปลี่ยนเป็นแส้โลหิตและฟาดใส่กริดจากทุกทิศทาง
“ชิ…!”
“กริดด!!”
“ไม่นะ!”
กริดถูกล้อมโจมตีจากหกจุดอย่างพร้อมเพรียงในวินาทีที่บัฟอมตะหมดลง
ชายหนุ่มสัมผัสถึงความตายที่กำลังย่างกรายมาเยือน สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันหน้าถอดสีและยอมรับชะตากรรม
เอิร์ลเครย์
ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ด้อยกว่าเอลฟิน·สโตน แต่ทักษะโลหิตของมันนับว่ามีประสิทธิภาพมหาศาล โดยเฉพาะหางโลหิต
หางโลหิตมีประโยชน์หลายด้าน สามารถใช้ได้ทั้งโจมตีและพันธนาการศัตรูเป็นวงกว้าง มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าบ่อโลหิตของเอลฟิน·สโตน
หากไม่มีแค็ทซ์และรูบี้ การรับมือเครย์คงยากลำบากยิ่งกว่านี้หลายเท่า
เอิร์ลยังเป็นเอิร์ลวันยังค่ำ
เคร้งงง!
ปัจจุบัน กริดเรียกหัตถ์เทวะกลับมาช่วยปกป้องหลังจากประกันชีวิตถูกใช้งาน
แต่หางโลหิตของเครย์กลับปัดเหล่าหัตถ์เทวะจนกระจดักระจายไปคนละทิศทาง
หางโลหิตทั้งหกกำลังพุ่งเข้าหากริดด้วยความเร็วสูง
“พี่!!”
เสียงตะโกนเรียกขานของรูบี้ได้ดังกังวาลไปทั่วเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
ซู่วว—
นัยน์ตาดำกริดพลันส่องแสงสีม่วง
[ ท่านเข้าสู่ภาวะ ‘ภวังค์ปรารถนาอันแรงกล้า’ ]
วืด—
วืดวืดวืด—
“…!!”
“อะไรกัน?”
ดวงตาของเครย์และสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างเบิกโพลงพร้อมกัน
ไม่มีใครอยากเชื่อในภาพที่เห็น
กริดสามารถหมุนตัวหลบการโจมตีของแส้โลหิตจากทุกทิศทางได้อย่างน่าทึ่ง
ยอมเยี่ยมยิ่งกว่าครอเกลเสียอีก…
ทุกครั้งที่กริดเคลื่อนไหวร่างกาย จุดแสงสีม่วงคู่หนึ่งกำลังส่องสว่างระยิบระยับท่ามกลางความมืด
“หมายความว่ายังไงกัน?”
ในชีวิตจริงจะมีไอเท็มที่เรียกว่า ‘เลนส์บิ๊กอาย’ ไว้สำหรับเปลี่ยนสีและเพิ่มขนาดนัยน์ตาดำ
หญิงสาวส่วนใหญ่ชื่นชอบมันมาก
การทำให้นัยน์ตาดำมีขนาดใหญ่ขึ้นเพียง 1 มิลลิเมตร จะส่งผลให้ดวงตาของพวกเธอดูกลมโตน่ารัก
ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดูดีในสายตาหญิงสาว แถมยังช่วยเปลี่ยนสีนัยน์ตาให้เป็นสีที่พวกตนชื่นชอบ
“กริดไปทำอะไรมา?”
ใช่แล้ว ทุกคนเริ่มสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวกริด
ท่ามกลางเมืองแวมไพร์อันมืดมิดไร้ความสว่าง แสงสีม่วงระยิบระยับที่เปล่งจากดวงตากริดย่อมเป็นที่เตะตาของทุกคน
หากใครมองไม่เห็น เกรงว่าคงได้เป็นโรคตาบอดสีเข้าแล้ว
เอิร์ลเครย์พลันเดือดดาล
“ไอ้มนุษย์โสโครก! กล้าดียังไงทำให้ฉันผู้นี้อับอายครั้งแล้วครั้งเล่า!”
การต่อสู้ในวันนี้เปี่ยมด้วยน่าสมเพชเกินทนรับไหว มันต้องการปิดฉากให้เร็วที่สุด
การโจมตีด้วยแส้โลหิตจากทุกทิศทางจะดับลมหายใจกริดได้แน่นอน เอิร์ลเครย์ไม่เคยเคลือบแคลงสงสัย
แต่เป็นอีกครั้งที่กริดสามารถรอดมาได้อย่างน่าประหลาด
ในอดีต เคยมีคำหนึ่งที่แวมไพร์ใช้เรียกมนุษย์มาช้านาน…
‘แมลงสาปโสโครก’
และนั่นย่อมมีที่มา
“ทำไมแกถึงไม่รีบตายไปซักที!!”
ซู่ววว!
ทันทีที่เอิร์ลเครย์คำรามสุดเสียง ทุกคนบนพื้นต่างได้รับอาการผิดปรกติกันถ้วนหน้า
ระยะหน่วงของ ‘พลังกดดันของแวมไพร์ทายาท’ วกกลับมาอีกครั้ง
แต่กริดเป็นตำนาน
อาการผิดปรกติจากจิตใจย่อมไม่ส่งผล
ฉัวะ—
อาวุธสุดแสนทรงพลังเชือดเฉือนใส่แผ่นอกเอิร์ลเครย์อย่างแม่นยำ
บึ้มมมม—
เพลิงทมิฬแสดงผล
ร่างเครย์ลุกท่วมด้วยเปลวเพลิงชนิดพิเศษ มันส่งเสียงร้องด้วยใบหน้าเจ็บปวด
ปัจจุบัน กริดมีปราณต่อสู้ 100 เต็ม
แถมยังอยู่ในโหมด ‘ภวังค์ปรารถนาอันแรงกล้า’ ซึ่งเพิ่มพลังโจมตีขึ้น 3 เท่า
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า
กริดในปัจจุบัน แข็งแกร่งกว่ายามปรกติมากถึงสามเท่า
ฉัวะ—
บึ้มมมมม—
ชายหนุ่มฟันอีกครั้ง
เพลิงทมิฬแสดงผลอีกครั้ง
เครย์เปลี่ยนหางโลหิตสองเส้นให้เป็นตาข่ายม่านโลหิตเพื่อหวังพันธนาการกริด
ส่วนอีกสี่เส้นล้อมโจมตีจากทั้งสี่ทิศด้วยความเร็วสูง
ซ้ำซากจำเจเฉกเช่นทุกครั้ง
นัยน์ตาสีม่วงเรืองแสงพลันส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าเก่า
“แกนี่น่าเบื่อชะมัด...”
นับเป็นถ้อยคำดูแคลนสถานหนัก
มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกมนุษย์โสโครกเหยียดหยันมากเพียงนี้
“…!”
ขณะเอิร์ลเครย์กำลังเดือดดาลสุดขีด
วืด—
วืดวืดวืดวืดวืด—
กริดขยับร่างกายโดยไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า เพียงหมุนตัวครั้งเดียวก็สามารถหลบหลีกการโจมตีจากหางทั้งหกได้อย่างน่าทึ่ง
‘ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญรึไง…?’
เครย์จดจ้องการหลบหลีกของกริดอย่างไม่กระพริบตา
เต้นรำ...
กริดกำลังเต้นรำอยู่...
ขณะชายหนุ่มหลบหลีกหางทั้งหกเส้นที่พุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทาง
“วิชาดาบแพ็กม่า·ร่ายรำ!”
ฟุ่บ
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—
การโจมตี 20 ครั้งต่อวินาทีที่มาพร้อมบัฟปราณต่อสู้ 100 หน่วย และบัฟโจมตีรุนแรงขึ้น 3 เท่าจาก ‘ภวังปรารถนาอันแรงกล้า’
มันคือหายนะที่รุนแรงยิ่งกว่า ‘ทำลายล้างสังหาร’ เมื่อครั้งก่อนหน้า
“อั่ก…! แบบนี้นี่เอง…!”
เอิร์ลเครยโพล่งขึ้นราวกับเข้าใจบางสิ่ง
ดาบสีดำที่ระอุเปลวเพลิงสีแดงฉานอยู่ตลอดเวลา แถมยังมีพลังไฟฟ้าสถิตย์สีขาวแล่นผ่านเป็นระยะ
ดาบซึ่งมีพลังโจมตีอันน่าทึ่ง ชนิดที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อน
“ดาบมังกร!”
มังกร
สิ่งมีชีวิตทรงพลังอันดับหนึ่งของซาทิสฟาย ตัวตนที่สามารภเป็นภัยร้ายแรงได้แม้กระทั่งเทพ
ช่างย้อนแย้งนัก สิ่งมีชีวิตระดับมังกรกลับให้ความสนใจในตัวมนุษย์อันต่ำต้อยมากเป็นพิเศษ
มีอยู่หลายหนที่มังกรแอบจำแลงกายเป็นมนุษย์และท่องเที่ยวไปทั่วทวีป ระหว่างทางได้มอบศาสตราวุธและยุทธภัณฑ์มังกรให้มนุษย์ใช้งาน
สิ่งเหล่านั้นคือมรกดกตกทอดอันล้ำค่าที่มนุษย์ได้รับ
ใช่แล้ว เอิร์ลเครย์พยายามหาคำตอบให้กับสถานการณ์เบื้องหน้า
มันพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง
แวมไพร์เอิร์ลอย่างมันไม่มีทางถูกมนุษย์โสโครกเล่นงานได้แน่ นอกเสียจากมนุษย์จะพึ่งพาพลังยุทธภัณฑ์มังกร
แต่คำตอบจากปากกริดได้ทำลายมโนภาพของเครย์จนหมดสิ้น
“อาวุธมังกร? ไม่เลย...มันคืออาวุธที่ฉันสร้างขึ้นด้วยมือคู่นี้!”
“เหลวไหลว! ฉันไม่เชื่อแกเด็ดขาด!”
เฉกเช่นทุกครั้ง มนุษย์เอาแต่โปปดหลอกหลวง
เมื่อตระหนักว่าการสนทนาคือสิ่งสูญเปล่า เครย์จึงเพ่งสมาธิทั้งหมดอยู่กับการต่อสู้
มันตัดสินใจสร้างพายุโลหิตขนาดใหญ่ขึ้นจากหางทั้งหกเส้น
ในเมื่อเครย์โจมตีไม่โดนกริด มันจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีมนุษย์ที่อ่อนแอด้านล่างแทน
“จบแล้วล่ะ”
“ฉันง่วงแล้ว...ไปนอนก่อนนะ”
“ฉันด้วย”
แวมไพร์ทายาททั้งสามเฝ้ามองการต่อสู้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
พวกมันกำลังจะกลับไปนอน
ชัยชนะคงตกเป็นของเครย์อย่างแน่แท้
พายุโลหิตขนาดมหึมาจำนวนหกลูกพลันกระจายตัวออกไปพังพินาศทุกสรรพสิ่งโดยรอบ
ฟ้าววว—
ครืนนนน—
ซากปรักหักพังของอาคารถูกพายุบดขยี้จนไม่เหลือซาก รวมถึงบรรดาต้นไม้ใหญ่และผาหินสูงชัน
“แย่ล่ะสิ…!”
“หลบเร็วเข้า!”
พายุโลหิตผสานตัวกันจนมีขนาดและความรุนแรงมากขึ้น เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่ยืนอยู่ด้านล่างกำลังตกเป็นเหยื่อของภัยพิบัติที่กำลังคลืบคลานเข้าใกล้
ตรงหน้าคือพายุขนาดมหึมาที่สามารถกลืนกินได้ทั้งเมือง
เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์มิอาจตอบโต้การโจมตีระดับภัยพิบัติได้เลย
ลาเอลล่ากำลังขวัญเสียสุดขีด สีหน้าของเธอขาวซีดราวกับกำลังจะหมดสติ
ผู้ทำหน้าที่เพิ่มขวัญกำลังใจปาร์ตี้มิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นจิสึกะ อดีตหัวหน้ากิลด์เซดากาห์
“เอิร์ลเครย์กำลังอยู่ในสภาพปางตายไม่แพ้กัน หากกริดมีชีวิตรอดผ่านหายนะนี้ได้ เขาก็จะฆ่ามันได้...เข้าใจรึเปล่า? พวกเราทุกคนต้องสงบสติอารมณ์และหาทางช่วยกริด”
ทางรอดเดียวในสถานการณ์ปัจจุบันคือต้องสังหารเอิร์ลเครย์
ต้องฆ่ามันให้เร็วที่สุด
ถึงทุกคนจะถูกสามแวมไพร์ทายาทที่เหลือฆ่าจนหมด แต่หากเครย์ตาย การเคลียร์ดันเจี้ยนรอบหน้าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“ปกป้องกริดด้วยทั้งหมดที่มี!!”
“ลุย!!”
ฟุ่บ!
ซู่วว!
ทักษะบัฟป้องกันนานาชนิดถูกใช้งานเพื่อยื้อชีวิตกริดให้นานออกไป
ยังรวมไปถึงทักษะโจมตีประเภทระเบิดหรือทักษะจำพวกกีดขวางที่ถูกใช้เพื่อลดความเร็วของพายุลง กริดจะได้ไม่บาดเจ็บถึงตาย
แล้วพายุโลหิตส่วนที่กำลังกลืนกินชีวิตของพวกเขาด้านล่างล่ะ?
ไม่มีใครคิดแยแส
ทุกคนเตรียมใจสละชีวิตตนเองเพื่อแลกให้กริดอยู่รอดนานขึ้น
“กริด!! ฆ่าไอ้ระยำเอิร์ลเครย์ให้ได้!!”
กำลังใจจากพวกพ้องทุกคนถูกส่งไปหากริดอย่างล้นหลาม ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัยแม้แต่คนเดียว
ถ้าเป็นกริดล่ะก็...เขาต้องทำได้แน่
ทันใดนั้น...
ฉัวะ—
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 12,430 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 11,650... ]
…
…
พายุโลหิตเริ่มกลืนกินร่างสมาชิกโอเวอร์เกียร์ด้านล่าง
ความตายกำลังมาเยือนพวกเขา
ฟ้าวววววว—
เสียงสายลมอันเกรี้ยวกราดจากพายุโลหิตขนาดมหึมากำลังดังก้องภายในโสตประสาททุกคน
พวกเขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเป็นพลังให้กริดได้มากกว่านี้
ทุกคนเจ็บใจ…
ทำไมตนถึงอ่อนแอ
ทำไมถึงเอาแต่พึ่งพากริด
ทำไมถึงเป็นพลังให้กริดไม่ได้เลย...
เหล่าแรงเกอร์แถวหน้าของโลกทำได้เพียงอ้าแขนรอรับความตาย
ทันใดนั้น…
—!!
สายลมอันเกรี้ยวกราดที่คอยฉีกเฉือนเนื้อหนังทุกคนเมื่อครู่ บัดนี้สลายหายไปราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา
ฉึก…
ซ่าาาา—
ละอองฝนโปรยปรายจากฟากฟ้า
ไม่สิ...นี่คือเลือด
เลือดที่พุ่งกระฉูดออกจากร่างใครบางคนจนแตกฝอยเป็นละอองเหมือนน้ำฝน
“…?”
ทุกคนต่างพากันฉงน
ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์
แต่เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมอง…
ร่างเอิร์ลเครย์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นละอองหมอกแสงเทา เศษเสี้ยวตะกอนปลิวลอยในอากาศเหนือเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด
กริดกำลังอยู่ในท่ากำดาบยาวสีดำที่เสียบทะลวงหัวใจเครย์
เส้นผมของกริดกำลังตั้งชันจากผลของ ‘มายา’
“พายุงั้นหรือ? ของแบบนั้นไม่มีทางทำอะไรฉันได้แน่...”
ชายหนุ่มไม่ต้องการให้พวกพ้องกังวลเรื่องของตน
กริดในสภาพร่อแร่พยายามฝืนยิ้มโดยเก็บซ่อนความเจ็บปวดเจียนตายไว้ด้านใน
นัยน์ตาของเขาคืนกลับเป็นสีดำอีกครั้ง
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,164
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
มายานี่คืออะไรนะผมลืม
ReplyDeleteมายาคือเพิ่มบัฟตีใกลครับ
ReplyDeleteอ่านไปเอามันอย่าเดียว จำไม่ได้สักอย่าง ว่าทักษะกริดมีอะไรบ้าง เพราะมีเยอะเกินไป 🙏😅
ReplyDeleteลอเอลถูกใจตาสีนี้
ReplyDelete