จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 723
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้ม... ]
...
...
ล้มเหลว ล้มเหลว ล้มเหลว ล้มเหลว!
ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง กริดเสริมแกร่งไม่สำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพรจะมีราคาก้อนละ 1,200 เหรียญทอง
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันหน้าซีดเผือดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"...กริดมีทักษะติดตัวที่ช่วยให้เสริมแกร่งง่ายขึ้นไม่ใช่หรือ?"
"ใช่...ฉันเลยไหว้วานกริดให้เสริมแกร่งอยู่เสมอ"
ไอเบลลินตอบกลับแวนเนอร์
ไม่เพียงแค่ไอเบลลิน แต่สมาชิกโอเวอร์เกียร์เกือบทุกคนล้วนฝากกริดเสริมแกร่งไอเท็มของตน
"แต่ถ้าลองคิดดูให้ดี..."
"...อัตราความสำเร็จของกริดก็ไม่ต่างจากผู้เล่นปรกติสักเท่าไร"
"..."
มันคือความจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธลง
แม้กริดจะมีทักษะติดตัว 'เพิ่มโอกาสเสริมแกร่งเล็กน้อย' และยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้ครอบครองไอเท็ม +10
แต่หากพิจารณาให้ดี อัตราความสำเร็จของกริดก็ไม่ได้สูงนัก
ไม่ต่างจากผู้เล่นทั่วไปสักเท่าไร
เหตุผลล่ะ?
กริดเดาว่า ทักษะ 'เพิ่มโอกาสเสริมแกร่งสำเร็จเล็กน้อย' คงจะเป็นตัวเลขปริมาณน้อยกว่าที่คิด
ไม่อย่างนั้น คงไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว ถึงสาเหตุที่เขาเสริมแกร่งได้ในอัตราความสำเร็จเทียบเท่าผู้เล่นปรกติ
แต่ปัจจุบัน สมาชิกโอเวอร์เกียร์เริ่มมองเห็นในบางสิ่ง
สาเหตุสำคัญที่กริดเสริมแกร่งไม่สำเร็จก็คือ...
'...ดวงบัดซบ'
ทุกคนคิดเช่นนี้เมื่อได้เห็นหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรก้อนแล้วก้อนเล่าละลายไปกับสายลม
หงึกหงึก!
ดวงตากริดพลันแดงก่ำ ร่างกายสั่นระริก
เขาพร้อมปล่อยโฮทุกเมื่อ
หินเสริมแกร่งมูลค่ามหาศาลต้องสิ้นเปลืองอย่างสูญเปล่าโดยไม่ได้รับสิ่งใดกลับคืน
สมเหตุสมผลแล้วที่กริดจะมีท่าทีเช่นนี้ เขามิได้รวยล้นฟ้าเหมือนแค็ทซ์
"ก—กริด…พักก่อนไหม?"
"ทำตามที่โทบันบอกเถอะ ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาสำหรับการตีบวก"
ดังที่เคยกล่าวมาแล้วหลายครั้ง
ความเชื่อในการเสริมแกร่งถือเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนและอ่อนไหล
คนบางกลุ่มเชื่อว่า สถานที่และเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้เสริมแกร่งติดง่ายขึ้น
ผู้เล่นทั่วไปจะเลิกเสริมแกร่งทันทีหากล้มเหลวสักสองถึงสามครั้ง
แต่ไม่ใช่กับผู้เล่นหัวร้อนอย่างกริด
ในอดีต กริดใช้ความไม่ย่อท้อเอาชนะอุปสรรคได้เสมอ และครั้งนี้กำลังนำมันมาใช้กับการเสริมแกร่ง
สติของกริดกำลังหลุดลอย ขาดความยับยั้งชั่งใจโดยสิ้นเชิง
เกรงว่า ไม่หมดตัวคงไม่เลิกแน่
"ว๊ากกก! แกกับฉันต้องตายกันไปข้าง! มาดูกันว่าใครจะชนะ!"
กริดแหกปากเมื่อหินเสริมแกร่งอาวุธถูกทำลายก้อนแล้วก้อนเล่า
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว ]
ไม่มีชัยชนะเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว
เป็นอีกหนที่กริดถูกโชคชะตาเล่นตลก
เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เห็นภาพดังกล่าวต่างพากันแสดงสีหน้าหดหู่
'กริดไม่มีดวงเลยแฮะ...พวกเรารีบออกจากดันเจี้ยนกันเถอะ'
'โอกาสเสริมแกร่งไอเท็มเกรดมิธอาจต่ำกว่าที่คิดไว้'
ไอเท็มทั่วไปจะเริ่มล้มเหลวตั้งแต่ +6
แต่ไอเท็มเกรดมิธจะล้มเหลวตั้งแต่ +0
และมีความเป็นไปได้สูงว่า หากเสริมแกร่งล้มเหลว ค่าเสริมแกร่งจะลดระดับลงทันที
นี่คือข้อมูลของไอเท็มเกรดมิธเพียงน้อยนิดที่กิลด์โอเวอร์เกียร์ทราบ
ไม่มีใครทราบอัตราความสำเร็จที่แน่ชัด
พวกเขาเคยคาดเดาว่า ไอเท็มเกรดมิธจะ +1 ได้ยากเทียบเท่าไอเท็มทั่วไป +7
แต่ปัจจุบัน สมมุติฐานดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้องนัก
มันยากเย็นไม่ต่างจาก +8 ไอเท็มทั่วไป
"จิสึกะ...เธอเองก็เคยเสริมแกร่งคันศรฟินิกซ์แดงแล้วใช่ไหม?"
เมื่อเห็นความพินาศย่อยยับของกริด พีคซอร์ดจึงหันไปถามจิสึกะ
เธอมีท่าทีเขินอายเล็กน้อย ผลที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่าจดจำนัก
จิสึกส่ายศีรษะ
"ลองไปแค่ไม่กี่ครั้ง"
"ทำไมกัน?"
ไอเท็มเกรดมิธเชียวนะ
ประสิทธิภาพของมันจะปะทุอย่างมหาศาลหากถูกเสริมแกร่งแม้เพียง +1
เหตุใดเธอถึงไม่ลองเสริมแกร่งคันศรฟินิกซ์แดงทั้งที่รู้เช่นนี้เต็มอก?
"ฉันจะมีเงินเสริมแกร่งได้ยังไง? ในเมื่อฉันยังต้องใช้นหนี้กริดอยู่"
"อา..."
ไม่มีใครในโลกที่ใช้ชีวิตโดยไม่ลำบาก
แม้แต่สาวงามอันดับหนึ่งก็ยังตกอับได้ถึงเพียงนี้
พีคซอร์ดตระหนักได้ถึงความโหดร้ายของโลกที่ทุกคนอยู่อาศัย
***
* หากกำไลข้อมือพัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารี สู้สวมใส่สามารถอัญเชิญแวมไพร์เอิร์ลเครย์
* หากดาบใหญ่พัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารี ผู้สวมใส่สามารถอัญเชิญแวมไพร์เอิร์ลเยติม่า
ขณะกริดกำลังซดความผิดหวังแก้วใหญ่ ยูเฟอมิน่าและคริสกำลังเชยชมไอเท็มที่พวกตนได้ครอบครองอย่างมีความสุข
ไอเท็มอัญเชิญแวมไพร์ทายาท!
ต่อให้ไม่นับคุณสมบัติไอเท็ม เพียงทักษะอัญเชิญก็มากพอจะทำให้มันมีมูลค่ามหาศาล
และนั่นคือสาเหตุที่คริสและยูเฟอมิน่ามีความสุขมากเมื่อกริดมอบไอเท็มเหล่านี้ให้พวกตน
ทุกคนร่วมแรงร่วมใจจนเอาชนะบอสสุดหินมาได้
พวกเขาทุกคนมีสิทธิ์ครองครอบไอเท็มล้ำค่าอย่างเท่าเทียมมิใช่หรือ?
แล้วเหตุใดต้องขอบคุณกริดกันมากมาย?
คำตอบนั้นง่ายมาก
แม้กริดจะถ่อมตน แต่ในการล่าบอสสองตัวที่ผ่านมา บุคคลที่ปาร์ตี้จะขาดไม่ได้เลยคือกริด
ไอเท็มดรอปทุกชิ้น กริดมีสิทธิ์ครอบครองอย่างชอบธรรม ทั้งในฐานะผู้นำและฐานะผู้แสดงฝีมือสูงสุด
หากกริดคิดนำไอเท็มเป็นของตน ทุกคนในปาร์ตี้คงไม่มีใครโต้แย้ง
แต่เขาก็ไม่ทำ
กริดแบ่งไอเท็มให้พวกพ้องอย่างยุติธรรมเท่าเทียม
แม้จะเป็นสุดยอดไอเท็มที่สามารถอัญเชิญแวมไพร์ทายาทได้ก็ตาม
'อย่างที่คิด...ไม่ใช่ใครก็เป็นราชาได้'
สมัยคริสยังเป็นหัวหน้ากิลด์ไจแอนต์และเจ้าเมืองเปรโด เขาจะครอบครองไอเท็มดรอปคุณภาพสูงและโอสถทุกชนิดเป็นของตน
อันที่จริง คริสมองว่ารูปแบบองค์กรลักษณะนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว
การส่งเสริมให้หัวหน้าแข็งแกร่ง ย่อมทำให้ภาพลักษณ์องค์กรแข็งแกร่งขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่กริดต่างออกไป
ในฐานะผู้นำ กริดใส่ใจพวกพ้องเป็นลำดับแรกเสมอ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เขามักสร้างไอเท็ม คอยเสริมแกร่งไอเท็ม และคอยซ่อมแซมไอเท็มให้พวกพ้องตลอดเวลา
'ฉันนับถือใจนาย…'
'ขอบคุณมากนะ'
ยูเฟอนิมิน่าและคริสต่างทวีความศรัทธาในตัวกริดเป็นล้นพ้น
เฉกเช่นสมาชิกปาร์ตี้คนอื่น ทุกคนในที่นี้ล้วนทราบว่า กริดครอบครองสมญานาม 'ผู้มีสิทธิ์กลายเป็นราชาโลหิต'
(แต่ยังไม่รู้ว่ามันถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นแล้ว)
ลอเอลเคยวิเคราะห์ไว้ กริดสามารถเป็นผู้ปกครองเหล่าแวมไพร์ทายาทได้ในสักวัน
ในมุมมองกริด ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจหากเขาคิดครอบครองไอเท็มอัญเชิญแวมไพร์ทายาททุกชิ้นไว้เป็นของตัวเอง
แต่กริดในปัจจุบันกลับละทิ้งกิเลสนั้นและเห็นแก่พวกพ้องมาก่อน
ทำให้ทั้งคริสและยูเฟอมิน่ารู้สึกทึ่ง
พวกเขาลั่นสัตย์สาบานภายในใจ
'เราจะพัฒนาไอเท็มให้เป็นเกรดเลเจนดารี'
'จากนั้นก็มอบกลับคืนสู่มือฝ่าบาท...'
พวกเขาไม่ได้คิดทำเพื่อกริดเพียงอย่างเดียว
ตามธรรมชาติของเกมออนไลน์ทั่วไป เมื่อเลเวลตัวละครสูงขึ้น ไอเท็มก็ต้องถูกยกระดับให้ตามทัน
หากเวลาล่วงเลยถึงวันที่ไอเท็มสองชิ้นนี้กลายเป็นเกรดเลเจนดารี
ทั้งยูเฟอมิน่าและคริสคงมีเลเวลที่สูงมาก และคงมีไอเท็มที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ให้ใช้งานทดแทน
'หรือต่อให้หาไอเท็มที่ดีกว่าไม่ได้ แต่กริดก็ต้องสร้างไอเท็มใหม่ตอบแทนให้เราแน่...ใช่ไหมล่ะ?'
พวกเขามีศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อช่างตีเหล็กในตำนาน
คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์...ทั้งคริสและยูเฟอนิม่าต่างมองเช่นนี้
พวกเขาฉีกยิ้มกว้าง
***
"กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาทควรพอก่อน"
ลอเอลกล่าวพร้อมกับเดินมาหากริดที่กำลังหมกมุ่นเสริมแกร่ง
กริดพ่นลมหายใจอย่างฉุนเฉียว
"ถ้าดึงหัวไชเท้าขึ้นจากดินแล้ว มีแต่ต้องปอกเปลือกหั่นให้หมดเท่านั้น ฉันจะไม่หยุดจนกว่าหินเสริมแกร่งจะหายไปทุกก้อน"
"แล้วถ้าเกิดมีดบาดระหว่างหั่นล่ะ?"
ลอเอลคล่องแคล่วภาษาเกาหลียิ่งกว่าเจ้าของภาษาเสียอีก
เขากล่าวตักเตือนกริดด้วยความคล่องแคล่วชำนาญ
"แวมไพร์ทายาทอีกสองตนยังอยู่ในเมืองนี้ พวกมันสามารถเป็นปัญหาได้ทุกเมื่อ"
"อา..."
กริดถูกดึงสติกลับสู่โลกความจริง
แวมไพร์ทายาทอีกสองตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หากหนึ่งในนั้นย้อนกลับมา เกรงว่าปาร์ตี้จะถึงคราวล่มสลายอย่างแท้จริง
ไม่มีทางที่ปาร์ตี้ของผู้เล่นหมดสภาพ จะสามารถสร้างรอยขีดข่วนให้แวมไพร์ทายาทได้
'โชคดีที่ประตูทางออกถูกเปิดแล้ว'
กริดรีบนำหินเสริมแกร่งอาวุธหกก้อนที่เหลือเก็บใส่ช่องสัมภาระ
จากนั้นก็หันไปกล่าวกับทุกคน
"รีบออกจากเมืองนี้ก่อน พวกเราจะพักผ่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาลุย—"
ยังไม่ทันที่กริดจะพูดจบ
บึ้มมมม—
เวทมนตร์โลหิตถูกยิงใส่ใบหน้ากริดอย่างแม่นยำ
"กริด...!"
แต่สีหน้าของทุกคนก็มิได้วิตกมากนัก
สี่หัตถ์เทวะทำหน้าที่ปกป้องผู้เป็นนายได้ไม่ขาดตก
เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์รีบหันไปมองต้นทางของเวทมนตร์
พวกเขาก็ได้พบแวมไพร์เอิร์ลสองตนกำลังลอยเคียงข้างกันอยู่ด้านบน
'ชิ...ไม่ทันหรือนี่'
สาเหตุที่แวมไพร์ทายาททั้งสามรีบกลับไปก่อน
เพราะพวกมันง่วงนอน
ลอเอลย่อมทราบดี สิ่งนี้ถูกระบุไว้ในข้อมูลมหาศาลที่เขาค้นคว้า
โอกาสที่แวมไพร์ทายาทจะย้อนกลับมาอีกครั้งจึงแทบไม่เกิดขึ้น
พวกมันล้วนถูกคำสาปเกียจคร้านอันรุนแรงครอบงำ ต้องนอนหลับไหลพักผ่อนเป็นเวลาหลายปี
แล้วเหตุใดเยติม่าถึงย้อนกลับมา?
ลอเอลมั่นใจ สาเหตุต้องเป็นเพราะเยติม่าคือผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด มันจึงถูกปลุกให้ตื่นในยามที่ศัตรูบุกรุกเมือง
แต่ดูเหมือนสมมติฐานดังกล่าวจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป
"หลังจากเครย์...พวกแกจัดการเยติม่าไปด้วยงั้นหรือ?"
"ไอ้พวกระยำ...!”
แวมไพร์ตรหนึ่งแสยะยิ้มชั่ว
“เราสองคนไม่ควรแยกกัน…เอาแบบนี้เป็นไง ฉันกับนายแบ่งคนละครึ่ง"
"ความคิดไม่เลว"
"...!"
ในวินาทีที่แวมไพร์ด้านบนพูดถึงความร่วมมือ สีหน้าของสมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันขาวซีด
ต่อให้อ่อนแอระดับเดียวกับเยติม่า แต่หากร่วมมือกัน สมาชิกโอเวอร์เกียร์จะไม่หลงเหลือโอกาสชนะได้เลย
แถมยังเป็นในสภาพสุดอิดโรยเช่นนี้
"ฉันจะยื้อเวลาให้พวกนายหนี!"
สวบ
กริดก้าวเท้าออกมาด้านหน้า
เขาเตรียมใจที่จะตาย
ชายหนุ่มมีแผนจะถ่วงเวลาเพื่อให้พวกพ้องหลบหนีสำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่แผนของกริดไม่เกิดขึ้น
"ไม่จำเป็น ทางหนีถูกเตรียมไว้แล้ว"
ลอเอลได้ตระเตรียมทางหนีทีไล่ในขณะที่กริดกระหน่ำเสริมแกร่งอย่างบ้าคลั่งต่อหน้าทุกคน
กริดแสดงสีหน้าฉงน
"จ—จริงหรือ...?"
เขาเกาศีรษะเล็กน้อย
ลอเอลกล่าวยืนยันหนักแน่น
"กระหม่อมไม่มีทางทำผิดพลาดซ้ำสอง...รีบหนีกันเถอะ"
"ฉันไม่ปล่อยให้พวกแกหนีได้แน่!!"
เมื่อกลุ่มสมาชิกโอเวอร์เกียร์เริ่มถอยหนีตามเส้นทางที่ลอเอลเตรียมไว้ แวมไพร์ทายาททั้งสองตนจึงบินไล่หลังตามติด
ด้วยความเดือดดาล พวกมันเร่งความเร็วการบินให้เป็นระดับสูงสุด
หากเป็นยามปรกติ การไล่จับมนุษย์ที่วิ่งหนีย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ปัจจุบัน มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล
'เกิดอะไรขึ้น?'
'ทำไมถึงตามไม่ทันสักที?'
แม้พวกมันจะบินไล่หลังเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์อยู่นาน แต่กลับทำได้เพียงรักษาระยะห่างให้เท่าเดิม
เส้นทางการบินนับว่าแปลกประหลาดจากปรกติ เปี่ยมด้วยอุปสรรคกีดขวางซับซ้อนมากมาย พวกมันมิอาจบินด้วยความเร็วเต็มที่ได้
เป็นไปตามแผนของลอเอล
ลอเอลจดจำโครงสร้างเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดได้ทั้งหมด ระหว่างรอกริดเสริมแกร่ง เขาได้แอบปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสภาพภูมิประเทศ
ด้วยเหตุนี้ สมาชิกโอเวอร์เกียร์จึงรอดพ้นหายนะโดยไร้รอยขีดข่วน
"เจ๋งมากลอเอล!"
"ขอบใจนายมาก! พวกเราทุกคนปลอดภัยเพราะนาย!"
ท่ามกลางทะเลทรายที่แสงแดดแผดเผา
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนรอดชีวิตมาได้เพราะความอัจฉริยะของลอเอล
พวกเขากล่าวคำสรรเสริญไม่ขาดปาก
ทันใดนั้น ลอเอลใช้มือปิดครึ่งหน้าพร้อมกับหัวเราะไหล่สั่น
"คุคุ...คุคุคุ! พวกค้างคาวกระจอกเป็นเพียงพลเมืองของนครรัตติกาล ไม่มีทางต่อกรกับจ้าวรัตติกาลอย่างฉันผู้นี้ได้แน่ พวกมันเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น คุฮ่าฮ่าฮ่า!"
"..."
ลอเอลหัวเราะพร่ำเพ้ออีกพักใหญ่
"อะแฮ่ม! ไว้พรุ่งนี้ค่อยมารวมตัวกันใหม่ เจอกันที่เดิมนะ"
กริดกล่าวตัดบทพร้อมกับล็อกเอาต์ทันที
คนอื่นก็ไม่ต่างกัน
"เอ๋...? อ้าว?"
ลอเอลที่ยืนหัวเราะไหล่สั่นอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อลืมตามองอีกครั้งก็พบว่าถูกทิ้งไว้ตามลำพัง
เขาคิดถึงดาเมี่ยนกับเผ่าเนตรมารเหลือเกิน...
ยังเหลือเวลาอีกราวสองเดือนก่อนที่งานแข่งนานาชาติจะเริ่มขึ้น
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,166
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ผมว่าลอเอล อาการหนักละ
ReplyDeleteอาการขึ้นทุกวัน
ReplyDeleteอัฉริยะมาพร้อมกับความบ้า 🙏 เป็นเอามากนะลอเอล
ReplyDelete