จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,269



ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญามากเพียงใด ก็ยิ่งไม่พอใจกรงเหล็กที่กักขังอิสระมากเท่านั้น


กริดพอจะเดาได้ว่า เหตุใด ‘ขาดน้ำ’ ถึงตัดสินใจสถาปนาตัวเองเป็น ‘ราชาแห่งมาร’ ของหอหมื่นมาร


‘มันคงปรารถนาอิสระ…’


ชุดเกราะทำลายล้าง เกาะกางเกงผู้เย่อหยิ่ง ถุงมือควอโทร รองเท้ายมทูต แหวนโพรงเนตร สร้อยคอจันทรา ต่างหูซีเปีย ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส และความอัปยศแห่งทาลิม่า


กริดนำไอเท็มติดตัวออกมมาจากหอหมื่นมารทั้งสิ้น 9 ชิ้น


นอกเหนือจาก ‘ขาดน้ำ’ ที่มีเกรดมิธ ไอเท็มชิ้นอื่นล้วนอยู่ในเกรดเลเจนดารี (ประเภทเติบโตที่มีเกรดเริ่มต้นต่ำ แต่ถูกพัฒนาจนกลายเป็นเลเจนดารี)  หรือไม่ก็เกรด ‘ลับ’  แต่ทุกชิ้นล้วนมาพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังเสมอ


ชุดเกราะทำลายล้างจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นโลงศพของผู้สวม ด้วยการก็ค่อย ๆ ทำลายร่างกายไปทีละนิดโดยมิอาจถอดออก


ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ผลงานชิ้นนี้เกิดจากความเคียดแค้นของคนแคระช่างฝีมือซึ่งบุตรสาวของเขาถูกองค์ชายแห่งจักรวรรดิซาฮารันพาตัวไปทำเป็นของเล่น  ผู้เป็นบิดาจึงวางแผนส่งชุดเกราะตัวนี้ไปเป็นของขวัญ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความฉิบหายแก่องค์ชาย แต่น่าเสียดายที่แผนการต้องล้มเหลวกลางคัน


ชุดเกราะอันเกิดจากความเคียดแค้นเข้มข้นและจิตสังหารอันแรงกล้าที่ต้องการฆ่าให้ตาย


คิดว่าจักรวรรดิซาฮารันโง่พอจะรับของแบบนี้เป็นบรรณาการให้องค์ชายจริงหรือ? 


เมื่อคนแคระช่างฝีมือมิอาจส่งชุดเกราะไปยังจักรวรรดิได้ตามความตั้งใจ จึงทำได้เพียงผนึกมันไว้ในหอหมื่นมารทั้งน้ำตา


สร้อยคอจันทรา ไอเท็มที่จะดูดซับแสงจันทร์จนผู้สวมเย็นยะเยือกไปถึงเลือดและกระดูก


เป็นผลงานของช่างฝีมือคนแคระสตรีผู้สูญเสียสามีและต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยวนานนับร้อยปี  เนื่องจากเป็นโรคนอนไม่หลับเพราะความโหยหา เธอมักตื่นขึ้นกลางดึกเพื่อสร้างสร้อยคอเส้นนี้ แต่ขณะเดียวกัน ส่วนลึกของจิตใจกลับแอบปรารถนาให้ผู้สวมใส่ต้องโดดเดี่ยวเหมือนกับตน ส่งผลให้อีโก้มารถือกำเนิดโดยไม่ได้ตั้งใจ 


สร้อยคอจันทรามีรูปลักษณ์ภายนอกงดงามเหนือคำบรรยาย งามเลิศจนใครต่อใครหลงใหลอย่างมิอาจหักห้าม


ย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่มังกรเพลิงทราวก้าจะย้ายมาทำรังข้างทาลิม่า


ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อพ่อค้าชื่อดังคนหนึ่งเดินทางมาทำธรุกิจตามปรกติ  มันหลงใหลสร้อยคอเส้นนี้ตั้งแต่แรกพบ จึงซื้อไปให้ภรรยาสวม แต่กลับต้องได้เห็นคนรักของตนแข็งตายไปต่อหน้าต่อตา


ความน่ากลัวของสร้อยคอจันทราก็คือ มันมิได้ทำให้ผิวกายรู้สึกหนาว แต่จะแช่แข็งไปถึงเลือดและกระดูก


ช่างฝีมือสตรีคนดังกล่าวทำเพียงยืนจ้องพ่อค้าที่สูญเสียคนรักด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น  


เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของเมือง หญิงสาวถูกทางการทาลิม่านำไปประหารชีวิตหลังจากนั้นทันที ส่วนสร้อยคอก็ถูกนำไปผนึกในหอหมื่นมาร


นอกจากนี้ยังมี เกราะกางเกงผู้เย่อหยิ่งที่พันธนาการผู้สวมในสถานการณ์คับขัน ส่งผลให้ต้องเสียชีวิตอย่างน่าสมเพช  ถุงมือควอโทรที่ตัดนิ้วทั้งสิบของผู้สวมออกเป็นสี่ท่อนอย่างสยดสยอง  รองเท้ายมทูตที่จะนำพาผู้สวมไปยังสถานที่แห่งความตายโดยมิอาจสิทธิ์ขัดขืน  แหวนโพรงเนตรที่เหมือนกับเป็นช่องเก็บของลับ (ในมุมมองของกริด)  ต่างหูซีเปียที่เอาแต่กระซิบซาบเล่าถึงโศกนาฎกรรมอันหดหู่


ทุกชิ้นล้วนอธิบายอย่างไว้ชัดเจนว่า อีโก้ภายในไอเท็มเกิดความชั่วร้ายได้อย่างไร


อย่างไรก็ตาม ในกรณีของลูกแก้วกระดูกกัลกุนอสค่อนข้างแปลกประหลาดกว่าชิ้นอื่น คำอธิบายเขียนไว้เพียง ‘ไม่ปรากฏข้อมูล’  มันถูกสันนิษฐานว่าสิ่งนี้อาจมิได้สร้างขึ้นในทาลิม่า แต่เป็นไอเท็มที่บุคคลภายนอกนำเข้ามา 


ถึงตรงนี้จะพบว่า ไอเท็มทั้งหมดข้างต้นจะมีจุดหนึ่งที่แตกต่างจากความอัปยศแห่งทาลิม่าโดยสิ้นเชิง


นั่นก็คือ คำอธิบายของ ‘ขาดน้ำ’ ทั้งเรียบง่ายและปราศจากความชั่วร้าย ไม่มีการเขียนถึงสาเหตุที่มันกลายเป็นอีโก้มาร


จากคำบอกเล่าของคนแคระ อยู่มาวันหนึ่ง ความอัปยศแห่งทาลิม่าได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่งและไร้เหตุผล จากอีโก้ปรกติกลายเป็นอีโก้มาร จนต้องถูกผนึกในหอหมื่นมารและกลายเป็นราชาแห่งมารเฉกเช่นปัจจุบัน


<ความอัปยศแห่งทาลิม่า>

เกรด : มิธ

ความคงทน : 3,600/3,600 (ซ่อมแซมตัวเองได้)

* ความอัปยศแห่งทาลิม่าปฏิเสธการสัมผัสทุกรูปแบบจากมนุษย์ ระบบซ่อมแซมจึงไม่เปิดใช้งาน

พลังป้องกัน : 1 ~ 2,750

* ความอัปยศแห่งทาลิม่าสามารถปรับเปลี่ยนค่าพลังป้องกันได้ตามใจชอบ กรุณาใช้งานอย่างระมัดระวัง

★ ต้านทานธาตุไฟโดยสมบูรณ์

* ความอัปยศแห่งทาลิม่าถูกแช่ในลาวาร้อนที่สุดของโลกโดยไม่เป็นสึกกร่อนมานานหลายร้อยปี ความร้อนทุกชนิดมิอาจทำลายผิวของมันได้ แต่นั่นจะมีผลกับไอเท็มเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับผู้สวมใส่ กรุณาอย่างได้เข้าใจผิด

★ อีโก้ไอเท็ม

มันมิได้เคลือบแคลงเลยว่า ตนคือราชาแห่งยุทธภัณฑ์ ดำรงอยู่เหนือไอเท็มทุกชนิดบนโลก


* ได้รับทักษะ <ราชาลบล้าง> Lv.1

สามารถสะกดไอเท็มทุกชนิดที่ปราศจากอีโก้

อุปกรณ์สวมใส่ทุกชิ้นที่ปราศจากอีโก้ภายในรัศมี 10 เมตรจะถูกบังคับปลดออก สามารถปลดอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 30 ชิ้น

ทรัพยากร : ไม่มี

ระยะเวลาแสดงผล : 3 วินาที

ระยะหน่วง : 7 นาที


* ได้รับทักษะ <ประกาศิตแห่งราชา> Lv.1

ใช้เพื่อควบคุมไอเท็มอีโก้

ค้นหาอีโก้ภายในระยะ 100 เมตรและออกคำสั่งที่ต้องทำตามโดยมิอาจขัดขืน แต่ผู้ออกคำสั่งคือความผิดพลาดแห่งทาลิม่า มิใช่ผู้สวม

ทรัพยากร : ไม่มี

ระยะเวลาแสดงผล : ขึ้นอยู่กับเกรดและอุปนิสัยของอีโก้เป้าหมาย

ระยะหน่วง : ไม่มี


* ได้รับทักษะ <ราชาปกครอง> LV. MAX

ครอบงำจิตใจผู้สวมและยึดครองร่าง

ขณะอยู่ในผลของบัฟ ‘ราชาปกครอง’ พลังโจมตีและความเร็วทุกชนิดของผู้สวมจะเพิ่มขึ้น 20%  ต้านทานการโจมตีประเภทคริติคอลและจุดอ่อนทุกรูปแบบ แต่ผู้สวมจะต้องตายเมื่อผลของบัฟหมดลง

ทรัพยากร : ไม่มี

ผลของทักษะ : จนกว่าผู้สวมจะตาย

ระยะหน่วง : 24 ชั่วโมง

เป็นหมวกเหล็กที่ถือกำเนิดจากการสั่งสมประสบการณ์และเทคนิคของราชวงศ์คนแคระตลอด 5 ชั่วอายุคน ไม่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า มันคือสิ่งที่รวบรวมสุดยอดเทคนิคของช่างตีเหล็กทาลิม่าไว้อย่างเต็มเปี่ยม

เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งนี้จะมีเกรดเลเจนดารีนับตั้งแต่ถือกำเนิด และพัฒนากลายเป็นเกรดมิธหลังจากเข้าไปอยู่ในหอหมื่นมาร

บุคคลชั่วร้ายบางกลุ่มเทิดทูนความอัปยศแห่งทาลิม่าดุจดังทวยเทพ

เงื่อนไขการสวมใส่ : ไม่มี

น้ำหนัก : 230


‘คงอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองสินะ’


อีโก้ซึ่งมีสติปัญญาสูงอย่าง ‘ขาดน้ำ’ ย่อมไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติใคร และสาเหตุที่ถูกผนึกในหอหมื่นมารก็คงเพราะพยายามอาละวาดเพื่อให้ตัวเองได้รับอิสระ


อย่างไรก็ตาม กริดผู้กำลังคาดเดาสาเหตุ มิได้แสดงความเห็นอกเห็นใจ ‘ขาดน้ำ’ สักเท่าไร


เพราะ ‘สิ่งของ’ เกิดมาเพื่อ ‘ถูกใช้งาน’


กริดหมายมั่นจะทำให้ ‘ขาดน้ำ’ ได้ตระหนักอย่างถ่องแท้ว่า การที่สิ่งของถูกนำไปใช้งาน คือเกียรติยศสูงสุดเท่าที่ไอเท็มชิ้นหนึ่งจะได้รับแล้ว


‘ฉันจะสั่งสอนแกเอง’


ขณะชายหนุ่มกำลังมีสมาธิอยู่กับความอัปยศแห่งทาลิม่าในช่องสัมภาระ อันทริโน่ยังคงอธิบายต่อไปตลอดทาง


“ถนนตรงหน้าเกิดจากฝีมือภูติเทียม”


ถนนสำหรับเดินทางขึ้นไปยังภูเขาไฟซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 5,000 เมตร


พื้นถนนราบเรียบ มีกำแพงหินรายล้อมสองฝั่งซ้ายขวา โดยแนวถนนจะค่อย ๆ ลาดขึ้นไปยังด้านบนทีละนิดในลักษณะวนเป็นเกลียวรอบฐานภูเขาไฟ 


ปลายถนนทอดยาวไปถึงจุดสูงสุดของภูเขาไฟซึ่งสูงถึง 5 กิโลเมตร


สิ่งนี้ถูกเรียกว่าถนนได้อย่างเต็มปาก เพราะรถม้าสามารถแล่นผ่านไปได้โดยปราศจากอุปสรรค


“ภูติเทียม… สินะ”


งานทางด้านวิศวกรรมโยธาต้องใช้แรงงานที่มีเทคนิคและฝีมือสูงมาก โดยเฉพาะจุดที่ภูมิประเทศซับซ้อน  กริดตระหนักถึงความยากในการก่อสร้างถนนหนทางเป็นอย่างดี


หลังจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก่อตั้งมาหลายปี ลอเอลได้วางโปรเจกต์สร้างถนนหลายเส้น และเป็นหน้าที่กริดต้องคอยอนุมัติโครงการด้วยตัวเองทุกครั้ง ส่งผลให้มันค่อย ๆ ซึบซับความรู้มาทีละนิด


“ถ้าคุณไม่บอก ผมคงคิดว่าทาลิม่าใช้แรงงานทาสจำนวนมากในการก่อสร้าง” 


ด้วยเป้าหมายสูงสุดเป็นการสร้างถนนหลวงเชื่อมติดกับหัวเมืองใหญ่ทุกแห่ง โปรเจกต์ของลอเอลจึงมีการใช้แรงงานชาวบ้านอย่างหนัก แม้จะจ่ายค่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อทุกครั้ง แต่ก็หลีกเลี่ยงเสียงวิพากวิจารณ์จากคนงานไม่ได้


หรือก็คือ การสร้างถนนเรียบวนเป็นเกลียวรอบภูเขาไฟโดยมีกำแพงหินล้อมรอบ ไม่มีทางสำเร็จได้ด้วยแรงงานฝีมือดาษดื่นแน่นอน


หากไม่ทราบมาก่อน กริดคงเชื่อว่ามีแรงงานเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องจากต้องขึ้นไปเสี่ยงชีวิตในพื้นที่สูง


แต่ปัญหาทั้งหมดกลับถูกแก้ไขอย่างง่ายดายด้วยภูติเทียม… 


ชายหนุ่มเริ่มตื่นเต้นกับความยอดเยี่ยมของภูติเทียม พลางคิดคำนวณบางสิ่งในหัว


‘แผนกวิจัยทาลิม่าสามารถผลิตภูติเทียมได้ปีละ 50 ตน รวมกับภูติเทียมอีก 52 ตนที่เราแลกมาด้วยหัตถ์เทวะ 10 ข้าง… แค่ตีเหล็กอีกสักสองสามเดือนก็น่าจะได้ปริมาณที่ต้องการแล้ว’


ด้วยองค์ประกอบหลายด้าน ชาวทาลิม่าจึงให้ความสำคัญกับหัตถ์เทวะมากกว่าฟืนฟอสฟอรัสขาวเล็กน้อย


นอกจากเหตุผลที่ว่า หัตถ์เทวะสร้างเลียนแบบฝ่ามือของช่างตีเหล็กที่เทพเฮ็กเซเทียให้การยอมรับแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งสำคัญก็ที่ทำให้ชาวทาลิม่าปรารถนาหัตถ์เทวะก็คือ มันถูกสร้างจากสุดยอดโลหะนามว่าละโมบ


ถูกต้อง


ละโมบคือโลหะที่แม้แต่เฮ็กเซเทียก็ยังชื่นชม ถือเป็นพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจากโลหะพาเฟรเนี่ยม


ยอดเยี่ยมจนถูกประเมินว่าเป็นโลหะที่ดีที่สุดของโลกในปัจจุบัน


ถึงจะมีเพียงกริดที่ถลุงมันได้ แต่คนแคระก็หาได้แยแส เพราะจุดประสงค์ของทุกคนคือการซื้อไปเก็บเป็นสมบัติ 


กริด ผู้กำลังพิจารณาว่าตนควรหมกตัวอยู่ในทาลิม่าสักพักเพื่อผลิตหัตถ์เทวะจนได้อีโก้ครบตามจำนวนต้องการดีหรือไม่ หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด มันส่ายหน้าพลางสลัดความคิดดังกล่าวทิ้ง เนื่องจากตระหนักว่าลำพังหัตถ์เทวะอีโก้หนึ่งข้างก็เพียงพอแล้วในปัจจุบัน


‘ไม่ดีกว่า… คนแคระมิได้ร่ำรวยขนาดนั้น’


การสร้างภูติเทียมมิใช่เรื่องง่าย


ตลอดอายุขัยของคนแคระหนึ่งคน พวกเขาสามารถสร้าภูติเทียมได้ราว 4 ถึง 6 ตน ดังนั้น ถึงจะต้องการซื้อหัตถ์เทวะสักเทียงใด แต่ก็คงมีภูติเทียมมาแลกในจำนวนจำกัด


ความสัมพันธ์กับคนแคระควรเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่รีบร้อน 


‘อีกทั้ง ไม่ว่าจะเคยมีมูลค่าสูงแค่ไหน แต่ถ้าปล่อยลงตลาดรวดเดียวจำนวนมาก คุณค่าของสินค้าก็จะลดลงทันที’


เราไม่ควรรีบกอบโกยด้วยวิธีขาดศีลธรรมอย่างการผลิตฝ่ามือไร้ประโยชน์ขาย… 


ขณะกริดกำลังถอดใจ โดยยอมแลกเปลี่ยนภูติเทียมกับแผนกวิจัยทาลิม่าเพียงช่องทางเดียว 


มันชะงักฝีเท้ากะทันหัน


ณ ถนนกึ่งกลางภูเขา


ทางเข้าเหมืองแร่ที่ปกคลุมด้วยความมืดสนิท กำลังรอให้ชายหนุ่มเข้าไปสำรวจ


“พวกเรามาถึงแล้ว นี่คือเหมืองเอลีต”


เพชรอีเธอร์


แร่ที่สามารถดูดซับแสงและเวทมนตร์


แว่นตาที่สร้างจากเพชรอีเธอร์มีสรรพคุณกักกันพลังเนตรมาร ช่วยให้ราชาเนตรมารไม่ต้องตาบอดไปตลอดชีวิต


อย่างไรก็ตาม ความทนทานของแว่นมิได้อนันต์ ย่อมต้องมีวันหมด


พลังเนตรของราชาเนตรมารรุนแรงจนค่าความคงทนลดลงเร็วกว่าที่กริดคาดไว้


ชายหนุ่มต้องการเพชรอีเธอร์เพื่อผลิตแว่นตาให้ราชาเนตรมารอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องการเพื่อผลิตชุดเกราะเซ็ตใหม่ให้ตัวเอง เป็นเซ็ตสำหรับต่อต้านเวทมนตร์โดยเฉพาะ


แผนดังกล่าวเคยถูกนำมาพิจารณาเมื่อราวสองปีก่อน


แต่ก็ต้องพับเก็บไปเนื่องจากติดปัญหาด้านมังกรเพลิงทราวก้าและฝ่ามือของจอมอสูรลำดับ 12 


“ก้าวระวังด้วย ข้างในมืดมาก”


กริดมิได้ถามโง่ ๆ ออกไปว่า เหตุใดเหมืองแห่งนี้ถึงไม่มีการติดตั้งโคมไฟด้านใน


เพชรอีเธอร์คือแร่ที่ดูดซับแสง


การติดตั้งโคมไฟย่อมไร้ความหมาย


และเป็นเหตุผลว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงถูกความมืดมิดปกคลุมจนมีเพียงสีดำสนิท


‘ไม่เลว… สภาพดีกว่าที่คิดไว้’


มุมปากของกริด ผู้กำลังเดินตามหลังอันทริโน่พลางใช้มือข้างหนึ่งจับกำแพง ค่อย ๆ ยกขึ้นทีละนิดอย่างพึงพอใจ


เหมืองเพชรอีเธอร์แห่งเดียวในโลก


มันเคยคิดว่า คนแคระคงขุดเพชรอีเธอร์ไปใช้งานจนร่อยหรอเกือบหมดแล้ว แต่กลับต้องผิดคาดเมื่อพบว่ายังมีเพชรอีเธอร์เหลืออยู่อีกมาก


คล้ายกับอ่านความคิดกริดออก อันทริโน่เริ่มอธิบายสถานการณ์


“เจ้าคงทราบดีอยู่แล้ว การถลุงเพชรอีเธอร์ถือเป็นงานที่ยุ่งยาก หลังจากเตาหลอมหลวงสูญเสียความร้อน พวกเราตัดสินใจยกเลิกการนำเพชรอีเธอร์มาใช้ประโยชน์”


“อย่างนี้นี่เอง”


แม้แต่กริดก็มิอาจถลุงได้หากปราศจากฟืนฟอสฟอรัสขาวช่วยเร่งอุณหภูมิ


ตรงตามที่อันทริโน่พูด เพชรอีเธอร์คือแร่ที่จัดการได้ยุ่งยากมาก


“แต่ในไม่ช้าก็เร็ว เตาหลอมจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเพราะฟืนของผม และเหมืองแห่งนี้ก็จะกลับมาเปิดเช่นกัน”


“ก็จริงอยู่ที่เจ้าสัญญาว่าจะส่งมอบฟืนฟอสฟอรัสขาวให้อย่างต่อเนื่อง แต่พูดตามตรง ข้าไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าการแลกเปลี่ยนจะราบรื่น มังกรทราวก้าอาจกลับมาที่รังในวันพรุ่งนี้ และเหนือสิ่งอื่นใด กำลังการผลิตเพชรอีเธอร์ของพวกเราก็ไม่สูงนัก”


“ไม่ต้องกังวลเรื่องการแลกเปลี่ยน ขอเพียงทาลิม่าปลดข่ายเวทมนตร์ห้ามเทเลพอร์ต ทางเราสามารถเคลื่อนย้ายมิติมาหาได้ทันที”


“เจ้าคิดว่าทราวก้าโง่เขลานักหรือ ทันทีที่พวกเจ้าพยายามเทเลพอร์ต มังกรเพลิงจะกางข่ายเวทมนตร์ดักและจับทุกคนกินเป็นอาหาร”


‘ไม่ใช่ว่าบราฮัมใช้เทเลพอร์ตหนีออกมาสำเร็จหรอกหรือ… อึ่ก!’


คงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความต่างชั้นระหว่างอดีตตำนานสุดแกร่งกับมังกรที่บาดเจ็บ


กริด ผู้กำลังครุ่นคิดในหัว พลันทรุดลงกับพื้นเหมืองโดยมิอาจควบคุมร่างกาย


ณ สุดปลายทางของเหมือง


ท่ามกลางความมืดสนิท ดวงตาสีแดงสดกำลังจ้องมองชายหนุ่มผ่านรอยแยก


ขนาดของดวงตาใหญ่โตราวกับกระทิง


กริดเกิดความหวาดผวาจากก้นบึ้ง มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากอาการผิดปรกติของระบบ


______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,674

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ขอบคุณครับ มันส์มากๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00