จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,268

 



การสร้างไอเท็มอีโก้นั้นมีทั้งหมดสามวิธี


วิธีแรก ใช้ทักษะบรรจุอีโก้


มีเพียงแพ็กม่าและกริดที่ใช้วิธีนี้ได้


เมื่อคำนึงถึงผลลัพธ์ของไอเท็มและความสะดวกสบาย ทักษะดังกล่าวนับว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมาก


แต่เนื่องด้วยปัญหาทางด้านศีลธรรม กริดจึงตัดสินใจผนึกมันเป็นการถาวร อีกทั้ง วิธีนี้มียังข้อเสียที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นั่นคือจำนวนครั้งการใช้งานที่จำกัด


วิธีที่สอง ทำให้ไอเท็มเกิดอารมณ์รุนแรงด้วยพฤติกรรมบางอย่าง


ยกตัวอย่างเช่น การกระตุ้นความรู้สึกเชิงลบอย่างรุนแรงแก่ไอเท็มที่กำลังผลิต แต่โอกาสสำเร็จก็มีไม่มากสักเท่าไร


สำหรับปัจจุบัน ไอเท็มอีโก้ที่หมุนเวียนในหมู่ผู้เล่นส่วนใหญ่ มักถูกผลิตด้วยวิธีการข้างต้นด้วยความบังเอิญ โดยราคาขายตามท้องตลาดจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากระดับของอีโก้ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน


ธรรมชาติของอีโก้ชนิดนี้จะมีความสามารถในเชิงสมรรถนะ กระบวนการคิด และการสื่อสารกับเจ้านายต่ำมาก เนื่องจากถูกอารมณ์อันรุนแรงบดบังประสิทธิภาพทุกด้านจนมิด


ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ <หนามแห่งความเคียดแค้น> ในมือไอเบลลิน


มันเป็นได้เพียงแฟลมเบิร์จที่ปรารถนาจะทำร้ายผู้สร้าง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง


อันที่จริง ไอเท็มประเภทนี้ไม่ควรถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่อีโก้ไอเท็มด้วยซ้ำ


[ท่านผลิต <หัตถ์เทวะ> สำเร็จ!]


หลังจากก้มมองผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ในมือ กริดเกิดความมั่นใจทันที


วิธีที่สาม วิธีสุดท้ายในการสร้างอีโก้


<เทคนิคการผลิตไอเท็มอีโก้>


ชายหนุ่มไม่เคลือบแคลงอีกต่อไปว่า เทคโนโลยีของคนแคระคือหนทางที่ดีที่สุดในการสร้างไอเท็มอีโก้


<หัตถ์เทวะ>

เกรด : เลเจนดารี (เติบโต)

ความคงทน : อนันต์

ของวิเศษที่เกิดจากฝีมือกริด ชายผู้กำลังจะกลายเป็นเทวตำนาน โดยการใช้โลหะสุดวิเศษนามว่า <ละโมบ> เป็นวัสดุหลัก

เนื่องจากเลียนแบบฝ่ามือของกริด สิ่งนี้จึงสามารถสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิดโดยไม่สนใจเงื่อนไข อีกทั้งยังสามารถตีเหล็กได้ด้วย

แม้แต่เทพตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย ก็ยังแสดงความชื่นชมในประสิทธิภาพอันน่าทึ่งของมัน

* สืบทอด 40% ของค่าพละกำลังและความชำนาญมือจากเจ้านาย

* สามารถสืบทอด ‘ทักษะพิเศษ’ จากเจ้านาย แต่ประสิทธิภาพของทักษะจะแสดงผลได้เพียง 25% และเจ้านายจะสูญเสียมานาตามปรกติ

(ทักษะติดตัวจากไอเท็มที่ <หัตถ์เทวะ> ใช้งานยังคงแสดงผลได้ตามปรกติ อีกทั้ง การใช้งานทักษะประเภทบัฟจะส่งผลถึงเจ้านายด้วย)

* ครอบครองทักษะ <เทคนิคการตีเหล็กขั้นสูง>

* ครอบครองทักษะ <ความชำนาญดาบและโล่ขั้นสูง>


และอีกมากมาย


เนื่องจากระดับของไอเท็มยังอยู่ในเกรดเดียวกับหัตถ์เทวะรุ่นเก่า ความแตกต่างเชิงตัวเลขจึงมีเพียงเล็กน้อย ไม่หนีกันมากนัก


แต่ในส่วนคำอธิบายเกี่ยวกับอีโก้ ตรงนี้มีหลายจุดที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง


หัตถ์เทวะรุ่นเก่าจะเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับอีโก้ไว้เพียงผิวเผิน นั่นก็คือ ‘สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง’


★ อีโก้ไอเท็ม

อีโก้ถือกำเนิดจากความแน่วแน่ของผู้สร้างซึ่งไม่ยอมถอดใจจนวินาทีสุดท้าย โดยมันสาบานว่า จะขอจงรักภักดีต่อผู้สร้างโดยไม่มีเงื่อนไข อีโก้ชนิดนี้คือตัวตนที่สะท้อนจิตใจของท่าน—ผู้ยิ่งเผชิญบททดสอบที่ยากลำบากมากเท่าไร ก็ยิ่งสำแดงพลังแฝงออกมาได้มากเท่านั้น

* เมื่อพลังชีวิตเจ้านายลดถึงขีดอันตราย ความเร็วในการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

* ขณะปกป้องเจ้านาย หัตถ์เทวะจะเข้าสู่ภาวะ <กล้าหาญ> ชั่วคราว โดยจะเพิ่มค่าพละกำลังขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

* หากหัตถ์เทวะใช้งานทักษะประเภทบัฟ เจ้านายจะได้รับผลของบัฟเพิ่มขึ้นจากปรกติ 20%


“…!!”


นอกจากจะเป็นไอเท็มอีโก้ที่มีสมรรถนะสูง หัตถ์เทวะชิ้นนี้ยังมีสติปัญญาสูงส่งในระดับสามารถคิดคำนวณได้เอง และสื่อสารกับเจ้าของได้อย่างอิสระ


ยิ่งกริดเห็นว่ามีทักษะช่วยสนับสนุนการคุ้มครองเจ้านาย ร่างกายชายหนุ่มซึ่งกำลังยืนเผชิญหน้ากับผลงานชิ้นใหม่ของตน พลันสั่นระริกอย่างมิอาจควบคุม


มันกำลังตื่นเต้น


ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก เมื่อคำนึงว่ามันเพิ่งสร้างสุดยอดไอเท็มอีโก้ ที่ผู้เล่นทั่วโลกทำได้เพียงฝันหวานโดยไม่มีวันเอื้อมถึง


แปะ. แปะ. แปะ.


กริดซึ่งกำลังอิ่มเอมหัวใจ ถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์หลังจากได้ยินเสียงปรบมือของใครบางคน


เมื่อหันไปมอง ชายหนุ่มได้พบอันทริโน่ผู้กำลังมีสีหน้าเบิกบาน


“วิเศษมาก… นอกจากจะงดงามจนมิอาจหาจุดตำหนิ ดวงวิญญาณภายในยังเข้มข้นมากเป็นพิเศษ คงไม่มีความสำเร็จใดน่าประทับใจไปกว่านี้อีกแล้ว สมกับที่เป็นแบบอย่างของช่างตีเหล็กทั่วโลก และยังเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาวคนแคระ”


สุดยอดผลงานซึ่งถือกำเนิดจากสุดยอดช่างตีเหล็กในตำนาน ผู้แม้แต่เทพตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย ก็ยังให้การยอมรับ


เหตุผลสำคัญที่กริดสร้างสุดยอดหัตถ์เทวะชิ้นนี้สำเร็จ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคนิคการผลิตไอเท็มอีโก้ของคนแคระ


ดังนั้น ความสำเร็จของกริดย่อมต้องเป็นความภาคภูมิใจของทาลิม่าด้วยเช่นกัน


“สุดยอด…”


“เฮ—!!”


ใช่แล้ว


ช่างตีเหล็กของทาลิม่าล้วนยินดีปรีดาไปพร้อมกริด


คนแคระหลายพันต่างส่งเสียงอึกทึกครึกโครมจนร้านตีเหล็กเริ่มสั่น บ้างผิวปากและปรบมือเสียงดังเกรียวกราว


ชายหนุ่มเริ่มสังหรณ์ใจว่า บางที ความสัมพันธ์ระหว่างโอเวอร์เกียร์และทาลิม่าอาจแน่นแฟ้นยิ่งกว่าที่ตนจินตนาการไว้


แต่แน่นอน นั่นต้องอยู่ในเงื่อนไงที่ว่า มังกรเพลิง ‘ทราวก้า’ ไม่มีตัวตนอยู่บนโลก


***


“หืม… โฮ่…”


แผนกวิศวกรรม


ที่นี่คือศูนย์วิจัยขนาดใหญ่ของทาลิม่า งานหลักเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของโกเล็มและภูตเทียม


กริด ผู้เดินทางมาเยือนแผนกวิจัยของทาลิม่าด้วยความรู้สึกทึ่งเมื่อทราบว่า เผ่าคนแคระถึงขั้นลงทุนสร้างสถานที่สำหรับทดสอบประสิทธิภาพของภูตเทียมและโกเล็มโดยเฉพาะ


หลังจากทดสอบจบลง คะแนนอันยอดเยี่ยมของหัตถ์เทวะกำลังทำให้ชายหนุ่มยืนสั่นเทาพร้อมกับอ้าปากค้าง


หัตถ์เทวะเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วผ่านโครงสร้างอันซับซ้อนของด่านทดสอบ การฝ่าฟันอุปสรรคและสิ่งกีดขวางเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้จุดบกพร่อง มีระยะหยั่งรู้รอบตัวกว้างมาก อีกทั้งยังเลือกใช้วิธีขจัดภัยคุกคามได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว แม้แต่ด่านกลไกที่ต้องใช้สติปัญญาระดับสูงเพื่อไขปริศนาก็ยังผ่านไปได้อย่างราบรื่น สามารถเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ


หัตถ์เทวะฉลาดพอที่จะเลือกทำลายฝนดาบซึ่งตกลงมาจากด้านบนแทนการหลบหนี เพราะมันประเมินว่าการหลบและต้องตกลงไปในบ่อสไลม์จะส่งผลให้ตนทำเวลาช้าลงกว่าปรกติ จึงตัดสินใจชกทำลายฝนดาบด้วยค่าความคงทนที่เหนือกว่า แม้ต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่ก็เร็วกว่าการตกลงไปในบ่อสไลม์แน่นอน


ลงเอยด้วย หัตถ์เทวะใช้เวลาในการฝ่าด่านทั้งหมดรวม 5 นาที 47 วินาที


“ทั้งสมรรถนะและสติปัญญาต่างอยู่ในระดับสุดยอดทั้งคู่”


เวลเว็ต หัวหน้าแผนกวิจัย กล่าวประเมิน


“หรือถ้าเป็นคน เจ้านี่จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะ ไม่ว่าจะได้รับคำสั่งแบบใด มันจะทำตามได้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือต่อให้ไม่มีคำสั่ง มันก็จะตัดสินใจด้วยตัวเองได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์”


ด้วยความสัตย์จริง กริดสามารถทราบข้อมูลข้างต้นได้โดยไม่ต้องให้ใครบอก


มันเพิ่งได้ประจักษ์ด้วยตาตัวเองว่า หัตถ์เทวะรุ่นใหม่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นเก่าชนิดทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น


‘เราเลือกทางเดินไม่ผิด!’


ไม่มีเหตุผลให้ต้องยึดติดกับดวงวิญญาณของอดีตราชินีมาริเบลอีกต่อไป


จริงอยู่ หัตถ์เทวะรุ่นก่อนอาจมีประโยชน์อย่างมากในเชิงป้องกัน แต่สติปัญญาด้านอื่นค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยเฉพาะขณะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พฤติกรรมแสนตื้นเขินของหัตถ์เทวะมักแทบไม่เกิดประโยชน์อันใด กริดต้องคอยป้อนคำสั่งอย่างละเอียดทุกวินาที และนั่นส่งผลให้ชายหนุ่มเสียสมาธิมากเกินจำเป็น


นี่คือเหตุผลที่หัตถ์เทวะแทบไม่ถูกนำออกมาใช้ในการต่อสู้ระดับสูง และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมค่าประสบการณ์ของมันถึงพัฒนาได้ช้ามาก


แต่รุ่นใหม่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว


ระดับสติปัญญาของมันนับว่าสูงลิบ สามารถตัดสินใจทำสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ตรงหน้าได้โดยไม่ต้องคอยป้อนคำสั่ง


ในอนาคต ชายหนุ่มมีแผนจะผลิตหัตถ์เทวะแฝงอีโก้ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาจหลายสิบหรือหลายร้อยชิ้น โดยจะคัดเลือกเฉพาะชิ้นที่เป็นหัวกะทิมาใช้งาน


แน่นอน เป้าหมายดังกล่าวอาจกินเวลานาน คงไม่สำเร็จภายในระยะเวลาแค่หนึ่งหรือสองปีแน่นอน


เพราะไม่เพียงอีโก้จะสร้างได้ยาก แต่ถึงจะผลิตออกมาเป็นไอเท็มอีโก้สำเร็จ อีโก้ส่วนมากก็มักมีสติปัญญาต่ำ


‘เราคงได้สบถอีกหลายครั้งในอนาคต…’


แต่ถึงอย่างนั้น ตบจะไม่ถอดใจแน่นอน


ละโมบคือวัสดุที่งอกเงยได้ไม่สิ้นสุด และกริดคือผู้ที่ไม่มีวันท้อแท้กลางคัน


ถือเป็นส่วนผสมที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง


กริดมั่นใจมาก มันต้องบรรลุเป้าหมายที่ตนวางไว้ได้แน่ ไม่วันใดก็วันหนึ่งในอนาคต


‘…แต่ถ้าทำแบบนั้น โปรเจกต์ป้อมปราการลอยฟ้าก็จะถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด’


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโปรเจกต์ที่แทบจะใหญ่เกินตัว กริดจึงไม่เคยมีกำหนดการไว้ตั้งแต่ต้น การเลื่อนออกไปย่อมมิได้สร้างภาระทางใจสักเท่าไร


“นี่มัน… ระดับราชาภูตเลยไม่ใช่หรือ”


อันทริโน่ ผู้นำทางกริดมายังแผนกวิจัย


หลังจากยืนกอดอกพลางรับชมประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของหัตถ์เทวะจนจบ อันทริโน่หันไปถามเวลเว็ตด้านข้าง


เวลเว็ตพยักหน้า


“ถูกต้อง”


“วิเศษมาก…”


กริดตัดสินใจแทรกบทสนทนา


“…ราชาภูต? หมายความว่ายังไง”


“มิใช่ราชาภูตตัวจริง แต่เป็นชื่อเล่นของภูตเทียมทั้งห้าตนซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าภูตเทียมในแต่ละสาย แตกต่างจากจิตใจอันชั่วร้ายของความอัปยศแห่งทาลิม่าซึ่งต้องถูกผนึกไว้ในหอหมื่นมาร เหล่าราชาภูตคือผู้พิทักษ์ประจำเมืองทาลิม่าแห่งนี้ และเจ้าก็ได้สร้างอีโก้ในระดับเดียวกันขึ้นมา”


“ผมขอไปพบพวกเขาได้ไหม”


กริดยังคงใช้คำสุภาพกับอันทริโน่


ไม่เพียงตระหนักว่าคนแคระทั่วทาลิม่าต่างเคารพยำเกรงในตัวอันทริโน่ แม้แต่เวลเว็ตซึ่งกล่าวกันว่ามีนิสัยพิสดาร ก็ยังต้อนรับอันทริโน่อย่างมีมารยาท อีกทั้ง ชายหนุ่มยังชื่นชอบในท่าทีเป็นมิตรของอีกฝ่าย


“…ราชาภูตมิได้อยู่ในทาลิม่าอีกแล้ว”


“ทำไม?”


ในเมื่อมีชื่อเล่นว่าราชาภูต ก็ควรเป็นสุดยอดภูตเทียมที่ทำงานอยู่ในทาลิม่าไม่ใช่หรือ?


เมื่อเห็นกริดเผยสีหน้าห่อเหี่ยวเนื่องจากเกิดความผิดหวัง อันทริโน่เผยรอยยิ้มเจือความเศร้า


“ราชาภูตถูกส่งให้มังกรเพลิงทราวก้าในฐานะเครื่องบรรณาการ ตอนนี้คงกำลังทำความสะอาดรังของทราวก้าอยู่กระมัง”


“…”


เหตุใดทาลิม่าจึงปลอดภัยจากทราวก้า?


ในวินาทีนี้ กริดได้ทราบคำตอบอย่างแจ่มชัด


จากนั้น ชายหนุ่มตัดสินใจซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ตนค้างคาใจมานาน


“แล้วทำไมทราวก้าถึงมาสร้างรังที่นี่?”


คนแคระไม่ได้โง่


พวกมันไม่มีทางสร้างเมืองหลวงข้างรังมังกร


หรือก็คือ คนแคระเป็นฝ่ายสร้างเมืองข้างภูเขาไฟก่อน และแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็คือทราวก้า


อันทริโน่ยักไหล่


“ดูเหมือนว่ารังเดิมของมันจะถูกทำลายหลังจากต่อสู้กับมังกรคลั่ง ด้วยสาเหตุดังกล่าว มังกรเพลิงจึงย้ายรังมายังจุดซึ่งมีลาวาร้อนที่สุดของโลกไหลเวียนอยู่ เหตุการณ์หลังจากนั้นก็เดาได้ไม่ยาก พวกเราต้องยอมจำนนต่อพลังอย่างไม่มีทางเลือก”


เวลเว็ตถอนหายใจยาว


“ลาวาร้อนที่สุดในโลก… เคยเป็นต่างหาก”


“เคยเป็น?”


“ถูกต้อง ความร้อนของลาวาลดลงอย่างมากหลังจากถูกทราวก้าดูดซับไปจนหมด ส่งผลให้เตาหลอมหลวงของปราสาทอ่อนกำลังลง และนั่นสร้างความเดือดร้อนให้พวกเราไม่น้อย”


‘เตาหลอมหลวงของปราสาท… อ๊ะ!’


เคย์เคยเล่าให้ฟัง


ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ทาลิม่าเคยมีสุดยอดเตาหลอมที่สามารถถลุงโลหะได้ทุกชนิดบนโลก แต่ปัจจุบันเหลืองเพียงชื่อ


“ถ้าอย่างนั้น… ใช้เจ้านี่แทนได้ไหม?”


กริดหยิบฟืนส่วนตัวออกจากคลังสัมภาระพร้อมกับยื่นไปทางเวลเว็ต


ท่อนไม้สีขาว


ถูกต้อง ไม้ฟอสฟอรัสขาว


ในเมื่อความร้อนของลาวาลดลง ย่อมไม่มีสิ่งใดทำหน้าที่ฟืนได้ยอดเยี่ยมไปกว่าไม้ฟอสฟอรัสขาวอีกแล้ว


หลังจากยืนพิจารณาท่อนไม้สีขาวสักพัก เวลเว็ตพลันเผยสีหน้าตกตะลึง


“นี่มัน…! ไม้ชนิดนี้พบได้เฉพาะบนทวีปตะวันออกไม่ใช่หรือ เจ้าไปหามาจากไหน?!”


“จากทวีปตะวันออก”


“หือ… โลกภายนอกเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียวหรือ ทั้งสองทวีปสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าข้ามทะเลแดงได้แล้วสินะ... ความฝันของชาวคนแคระเป็นจริงสักที!”


ขณะเวลเว็ตผมขาวกำลังตื่นเต้น อันทริโน่ตัดสินใจราดน้ำเย็นรดหัว


“คงไม่ใช่แบบนั้นแน่… ถ้าให้ข้าเดา กริดคงเดินทางไปยังทวีปตะวันออกด้วยตัวเอง”


“ถูกต้อง”


“หึหึ… ข้าเคยได้ยินว่าพวกยังบันแข็งแกร่งพอตัวทีเดียว แต่ในเมื่อเจ้าขโมยฟืนกลับมาได้ ฝีมือของทางนั้นก็คงไม่เท่าไรสินะ”


“มีทั้งพวกที่อ่อนแอกว่าและแข็งแกร่งว่าผม แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม้ฟอสฟอรัสขาวหาได้ทั่วไปในทวีปตะวันออก ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก”


กริดเริ่มร่ายยาวเกี่ยวกับการเดินทางในอดีต


เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนการแข่งสร้างคันศรฟินิกซ์แดง ชายหนุ่มเล่าถึงเรื่องที่ตนต้องลงทุนผลิตขวานเพื่อตัดไม้ฟอสฟอรัสขาวโดยเฉพาะ


“…ในตอนนั้น ผมรวบรวมมาได้พอสมควร”


กริดพยายามตัดจบให้กระชับ


แต่อันทริโน่กับเวลเว็ตดันไม่หยุดความสงสัย


“แล้วผลการแข็งสร้างคันศรฟินิกซ์แดงเป็นอย่างไร?”


“ผมชนะ”


“โฮ่…! สมกับเป็นช่างตีเหล็กที่ท่านเฮ็กเซเทียให้การยอมรับ!”


“แล้วต่อจากนั้นล่ะ พวกยังบันยอมรับว่าคันศรฟินิกซ์แดงที่เจ้าสร้างเป็นของจริงหรือไม่”


“น่าจะไม่…”


“น่าจะ? ทำไมถึงไม่แน่ใจ หลังจบงานแข่งไม่มียังบันคอยประเมินคุณภาพหรอกหรือ”


“ไม่มีแม้แต่คนเดียว และนอกจากนั้น ผมยังต้องพัวพันกับนักพรตมารอยู่อีกพักใหญ่”


“นักพรตมาร? หน้าตาเป็นเช่นไร?”


เผ่าคนแคระซึ่งถูกขนานนามว่าบ้าการทำงานจนแทบไม่มีเวลาว่างในชีวิต


แล้วเหตุไฉนอันทริโน่กับเวลเว็ตถึงเอาแต่ซักไซ้เรื่องราวของตนอย่างไม่จบไม่สิ้นเช่นนี้…


“…พวกคุณไม่ต้องทำงานหรือ”


“ก็กำลังทำอยู่นี่ไง งานของข้าคือการพาเจ้าเที่ยวชมรอบทาลิม่า”


“งานของข้าคือการต้อนรับแขกพิเศษของแผนกวิจัย และข้าก็กำลังทำอยู่”


“…”


นับด้วยรึไง…


ได้ยินเช่นนั้น กริดตัดสินใจพรั่งพรูประสบการณ์บนทวีปตะวันออกของตนอย่างละเอียด เพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลสำคัญของแผนกวิจัยภูตเทียมและโกเล็มที่แสนล้ำสมัย


หลังจากเสร็จการทำสัญญาซึ่งมีเนื้อความว่า ‘ทาลิม่าจะส่งภูตเทียมให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างสม่ำเสมอ โดยแลกเปลี่ยนกับฟืนฟอสฟอรัสขาวในอัตราที่เท่าเทียม’ กริดและอันทริโน่เตรียมเดินทางไปยังเหมืองเอลีตต่อทันที


ทันใดนั้น เวลเว็ตกล่าวคำอำลาและทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่น่าสนใจ


“เผื่อเจ้ายังไม่ทราบ… จนถึงตอนนี้ พวกเราชาวคนแคระก็ยังมิอาจประเมินระดับที่แท้จริงของอีโก้ภายใน ‘ความอัปยศของทาลิม่า’ ได้”


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,670
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00