จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,264



หลายคนอาจได้ทราบไปแล้วว่า เอกลักษณ์สำคัญของเผ่าคนแคระมิใช่พละกำลังหรือค่าความชำนาญมืออันสูงลิบ


แต่เป็นการเอาชนะความตายด้วยจิตใจจดจ่อเกิดขีดกำจัดของธรรมชาติ


อีกทั้ง ความทุ่มเทและหลงใหลยังเป็นปัจจัยที่สอดคล้องกับคุณภาพของผลงาน


ความปรารถนาที่จะทำให้ผลงานชิ้นเอกของตนยอดเยี่ยมที่สุดและคงอยู่ไปตลอดกาล ได้กระตุ้นให้อีโก้ภายในไอเท็มลืมตาตื่นขึ้น


เป็นเหตุผลว่าทำไม ยุทธภัณฑ์แฝงอีโก้ถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก


คุณภาพของอีโก้จะแปรผันตามความจริงใจและความซื่อตรงของผู้สร้าง จนถึงขั้นที่ผลงานชิ้นบางชิ้นสามารถนำพาผู้ใช้งานเดินไปบนเส้นทางอันยิ่งใหญ่บนโลกมนุษย์


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยุทธภัณฑ์อีโก้และผู้ครอบครองเคยสร้างชื่อเสียงจนโลกกึ่งกลางทั้งใบต้องยอมศิโรราบ


อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา โลกได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของอีกหนึ่งสิ่งที่คล้ายคลึงกัน


ยุทธภัณฑ์ชั่วร้ายบางชิ้น เช่น <ดาบมาร> ถือเป็นสิ่งที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับอีโก้ชั่วร้าย


โฮกกกกกก!


“…!”


กริดผงะเล็กน้อย


ขณะยืนอยู่หน้าทางเข้าหอหมื่นมาร มันได้ยินเสียงโหยหวนดังจากทางเดินอันมืดมิดด้านใน เป็นสุ้มเสียงแฝงความชั่วร้ายอย่างเต็มเปี่ยม มากพอจะทำให้เส้นทั่วร่างลุกตั้งชัน ทำเอาเสียงคำรามของจอมอสูรฟังดูไพเราะไปในทันที


‘เป็นเสียง… ลม?’


ฟ้าว. ฟ้าว.


กริดยืนฟังเสียงสะท้อนที่เหลือจนมั่นใจว่าเมื่อครู่เป็นเพียงเสียงลม


“อีโก้ก็เหมือนกับมนุษย์ แต่ละดวงย่อมมีนิสัยแตกต่างกันออกไป”


หลังจากเพ่งมองกริดอย่างสนอกสนใจสักพัก อันทริโน่เริ่มเปิดปากอธิบาย


มือของมันกำลังลูบคลำเคราซึ่งถูกถักทออย่างประณีตและซับซ้อน ลักษณะของเคราไม่ต่างจากแคระช่างฝีมือรายอื่นสักเท่าไร


บางที ในมุมมองของเผ่าคนแคระ เครายาวทรงข้าวโพดคงเป็นสัญลักษณ์ของชายรูปงาม


“ผู้สร้างมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไรขณะหลอมเนื้อโลหะ ต้องการให้เกิดผลงานประเภทใด ทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นอีโก้ในลักษณะดังกล่าว หากผลลัพธ์เกิดเป็นอีโก้ที่ดี ผลงานชิ้นเอกก็จะถือกำเนิดขึ้นพร้อมกัน แต่ถ้าเป็นอีโก้ชั่วร้ายและแฝงความพยาบาท พวกเราจะเรียกมันว่ายุทธภัณฑ์มาร และนำไปผนึกไว้ในหอหมื่นมารหลังจากนั้น”


“…”


กริดหวนนึกถึง <หนามแห่งความเคียดแค้น>


เดิมที มันควรจะเป็น ‘แฟลมเบิร์จ’ ธรรมดา


แต่ก้อนแร่ที่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในมุมหนึ่งของร้านตีเหล็ก เริ่มทวีความเกลียดชังต่อกริดมากขึ้นทีละนิดเมื่อเวลาผ่านไป จนกระทั่งอีโก้ถือกำเนิดขึ้นโดยมีเลือดของไอเบลลินเป็นสื่อกลาง


น่าเสียดาย ผลงานการสร้างอีโก้โดยไม่ตั้งใจของกริด กลับออกมาเป็นไอเท็มแฝงความเคียดแค้นและชิงชัง


ความแค้นที่มีต่อกริดรุนแรงจนส่งผลออกมาในเชิงรูปธรรมจับต้องได้


< หนามแห่งความเคียดแค้น >


เกรด: เลเจนดารี



* ได้รับทักษะ 'สายเลือดต้องสาป'


...


แฟลมเบิร์จที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือทักษะเยี่ยม เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่ยังต้องสั่งสมประสบการณ์และชื่อเสียงอีกสักหน่อย


ระหว่างขั้นตอนการผลิต โลหะถูกผู้สร้างทอดทิ้งเนื่องจากปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอม ส่งผลให้มันเกิดความรู้สึกเคียดแค้นอย่างมากต่อผู้สร้าง แต่จะรู้สึกผูกพันกับเจ้าของเลือดที่เป็นส่วนผสม


...


เงื่อนไขการสวมใส่ :



- เจ้าของเลือดที่เป็นส่วนผสม


* หากมีใครพยายามสวมใส่มัน คนผู้นั้นจะถูกสาปแช่งในอัตราความสำเร็จ 100%


‘ปีศาจตนอื่นในหอหมื่นมารก็คงมีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป…’


กึก. กึก.


นักรบคนแคระเริ่มเดินเข้ามาล้อมกริด


สีหน้าพวกมันเปี่ยมไปด้วยความลังเล เนื่องจากหอหมื่นมารซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ถูกเปิดออกอย่างง่ายดายโดยบุคคลภายนอก สิ่งนี้ถือเป็นการทำให้เกียรติยศของราชวงศ์ต้องมัวหมอง


แต่ผิดไปจากความคาดหมาย กษัตริย์ชาร์ลส์ตะโกนห้ามปรามเหล่านักรบเสียงดังฟังชัด


“พวกเจ้าถอยไป!”


ดวงตาของชาร์ลส์กำลังแดงก่ำดุจดังเปลวเพลิงโชติช่วง ประหนึ่งกำลังแผดเผาหนวดเคราสีขาวหิมะทีละนิด


“ข้าตรัสแล้วไม่คืนคำ! ชายคนนี้สามารถเปิดประตูหอหมื่นมารได้ด้วยตัวเอง!”


ชาร์ลส์มิได้ทำไปเพราะเริ่มชื่นชอบกริด


แต่มันพยายามพลิกสถานการณ์


“อย่างไรก็ตาม ผู้สืบทอดแพ็กม่าเอ๋ย”


“ว่าไง?”


“ข้าอนุญาตให้เข้าไปในหอหมื่นมารเพราะเจ้าสัญญาว่าจะปลดปล่อยดวงวิญญาณของอดีตราชินีให้เป็นอิสระ หากเล่นตุกติกและไม่รักษาคำพูด เจ้าจะถูกลงโทษตามกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ของทาลิม่าทันที! ข้าไม่สนใจว่า ผลลัพธ์ของพิธีกรรมปลดปล่อยดวงวิญญาณจะออกมาเป็นเช่นไร สำเร็จหรือล้มเหลว แต่วันนี้ข้าต้องได้ดวงวิญญาณของพระมารดาคืน!”


หรือก็คือ ในเมื่อข้ารักษาสัญญาแล้ว เจ้าก็ต้องทำด้วยเช่นกัน


กริดตีความจากคำพูดดังกล่าว


หากตนปลดปล่อยดวงวิญญาณของอดีตราชินีไม่สำเร็จ นอกจากชีวิตจะเป็นอันตราย ความสัมพันธ์กับเหล่าคนแคระอื่น ๆ ในทาลิม่าก็คงจบลงด้วยเช่นกัน


‘ฉลาดไม่เลว…’


เฉกเช่นคนแคระทั่วไป แม้จะมีจิตใจคับแคบและไม่แยแสผู้อื่นสักเท่าไร แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น สติปัญญาของชาร์ลส์ได้ถูกใช้ออกมาอย่างแยบยล


หากต้องเป็นศัตรูกับคนเช่นนี้ ชีวิตตนคงต้องเผชิญความยากลำบากไม่น้อย


‘แต่ถ้าอยู่ฝ่ายเดียวกัน… เขาจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง’


กริดเผยรอยยิ้ม


ย้อนกลับไปในตอนแรก สถานการณ์ของกริดคล้ายกับแก้วน้ำที่ถูกใครบางคนทำหก


ในวินาทีที่ทราบว่าอีโก้ภายในพาเฟรเนี่ยมคืออีโก้ของคนแคระ สถานการณ์ก็เริ่มยุ่งเหยิงทันที


แต่สำหรับตอนนี้ มันได้โอกาสรินน้ำกลับเข้าไปในแก้วจนเต็มอีกครั้ง


ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น ตนไม่ควรนำพาเหตุการณ์ไปในเชิงลบ


“ตกลง แต่คุณต้องสัญญากับผมหนึ่งเรื่อง”


“เรื่อง?”


“หากดวงวิญญาณของอดีตราชินีถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ คุณต้องขอโทษทุกเรื่องที่เคยเสียมารยาทกับผม”


“…ไม่มีปัญหา”


กษัตริย์ชาร์ลส์ตอบโดยไม่ลังเล


มันเองก็ทราบถึงตัวตนของกริด


ช่างตีเหล็กที่แม้แต่เทพตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย ก็ยังให้การยอมรับในฝีมือ


แม้จะถูกกีดกันโดยอิทธิพลของมังกรเพลิงทราวก้า แต่กษัตริย์ชาร์ลส์ก็ยังได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกริดมากมาย


หากชายหนุ่มพิสูจน์ตัวเองได้โดยการปลดปล่อยดวงวิญญาณราชินีให้เป็นอิสระ ชาร์ลส์ย่อมต้องปฏิบัติต่อกริดในฐานะแขกคนสำคัญของทาลิม่า รวมไปถึงการมอบความเคารพในฐานะช่างตีเหล็กในตำนาน


‘แต่เจ้าจะฝ่าด่านบรรดานักล่าภายในหอหมื่นมารได้จริงหรือ…’


สุดปลายทางเดินของหอหมื่นมารมีสัตว์ประหลาดแสนน่าสะพรึงกลัวรออยู่


ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างทางยังเต็มไปด้วยอีโก้ของเหล่านักล่า ที่หวังกลืนกินอีโก้อื่น ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่ง


อีโก้เหล่านี้ฉลาดพอที่จะไม่แตะต้องดวงวิญญาณของราชินี เพราะพวกมันทราบดีว่า ราชวงศ์คนแคระสามารถสกัดดวงวิญญาณของมาริเบลออกจากอีโก้อื่น ๆ ได้ไม่ยากเย็น


‘น่าเสียดาย… เจ้าต้องแบกรับบาปทั้งหมดแทนแพ็กม่า การเสียสละของเจ้าจะช่วยให้พวกเราทุกคนบรรเทาความเคียดแค้นลง’


ฉึบ.


เมื่อเห็นกษัตริย์ชาร์ลส์ชำเลืองให้สัญญาณ เพลล็อตหัวสิงโตเริ่มอธิบายกับกริด


“การเดินเข้าไปในหอหมื่นมารจะต้องผ่านห้องทั้งสิบ ทุกห้องล้วนมียุทธภัณฑ์มารหลายพันชิ้นถูกผนึกอยู่ พวกมันจะพยายามโน้มน้าวเจ้าต่าง ๆ นานาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่าได้หันไปสนใจโดยเด็ดขาด เพียงมองตรงและก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ส่วนลึกสุดของหอหมื่นมารคือสถานที่ปลดปล่อยดวงวิญญาณของอดีตราชินี”


ฟังดูเหมือนง่าย


แต่ปัญหาคือ มนุษย์ส่วนใหญ่มักทำไม่สำเร็จ


คนแคระอาจมีธรรมชาติเย่อหยิ่งและไม่แยแสผู้อื่นสักเท่าไร แต่ไม่ใช่กับมนุษย์หัวอ่อน จนมีคำกล่าวที่ว่า แม้แต่มนุษย์ผู้ใจแข็งที่สุด ก็ยากจะต้านทานการเย้ายวนของวิญญาณมารนับหมื่นดวงด้านใน


‘…ขอให้เจอตัวที่ชั่วร้ายน้อยหน่อยก็แล้วกัน’


เพลล็อต ผู้มีค่าความสัมพันธ์กับกริดในปริมาณมาก ย่อมเชื่อใจว่าชายหนุ่มจะปลดปล่อยดวงวิญญาณของอดีตราชินีให้เป็นอิสระโดยไม่เล่นตุกติก แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มิได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะทำสำเร็จ


เมื่อได้เห็นสีหน้าห่อเหี่ยวของเพลล็อต กริดเดาได้ทันว่า ด้านในหอหมื่นมารเป็นสถานที่อันน่าสิ้นหวังมากเพียงใด


ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาวเข้าปอด ตามด้วยการย่างกรายเข้าไปด้านในอย่างองอาจ ต่อหน้าสายตาจำนวนมากของคนแคระทั่วทั้งเมืองที่กำลังจ้องมอง


***


[ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่มาเยือน ‘หอหมื่นมาร’]


[รางวัลตอบแทนของผู้สำรวจคนแรก : ได้รับค่าต้านทานธาตุไฟ 50% ขณะอยู่ภายในหอหมื่นมาร]


[รางวัลตอบแทนของผู้สำรวจคนแรก : ได้รับค่าต้านทานพลังจิต 50% ขณะอยู่ภายในหอหมื่นมาร]


[รางวัลตอบแทนของผู้สำรวจคนแรก : ได้รับไอเท็ม <บัตรลบน้ำหนักไอเท็ม (1 ชั่วโมง) >]


รางวัลค่อนข้างพิสดารทีเดียว


และนับว่าห่วยเมื่อเทียบกับการสำรวจที่อื่น


อย่างไรก็ตาม กริดมิได้หัวเสีย


‘ต้องมีเหตุผลแน่’


จากนั้น


[ความร้อนของลาวาเดือดใต้ดินเริ่มแผดเผาผิวหนังของท่าน]


หลังจากเดินเข้าไปประมาณครึ่งชั่วโมง


กริดสัมผัสถึงความร้อนกะทันหันทั้งที่ไม่มีสายลมพัดผ่าน


แต่สำหรับช่างตีเหล็กในตำนาน ความร้อนปริมาณเท่านี้ไม่ต่างอะไรกับซาวน่ามือใหม่


ทันใดนั้น


> เฮ้! เจ้าตรงนั้น! สนใจลายแทงขุมสมบัติของโจรสลัดบนเกาะแรมส์ไหม?


“ฉันรวยอยู่แล้ว”


> ถ่ายพลังเวทมาทางนี้! ข้าจะสอนสุดยอดเวทมนตร์ที่ดีที่สุดให้เจ้า!


“คิดว่าเวทมนตร์ของแกเจ๋งกว่าบราฮัมรึไง”


> เพียงสวมข้าไว้รอบคอ เพศตรงข้ามก็จะหลงรักเจ้าหัวปักหัวปำ!


“ฉันแต่งงานแล้ว”


กริดมิได้แยแสสิ่งยั่วยุจากอีโก้นับพันจากภายในแต่ละห้อง สำหรับชายหนุ่ม ระดับการชักจูงเพียงเท่านี้นับว่ายังค่อนข้างต่ำ


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น กริดแทบไม่มีสิ่งใดบกพร่องหรือต้องการเป็นพิเศษ หรือถ้ามี ก็ไม่ใช่สิ่งที่อีโก้ภายในยุทธภัณฑ์มารจะมอบให้ได้


‘บัฟเพิ่มค่าต้านทานการโจมตีทางจิตไม่จำเป็นเลยสักนิด’


ว่ากันตามตรง ก่อนจะเข้ามา มันค่อนข้างประหม่าและกังวล แต่พอเอาเข้าจริง ภัยคุกคามจากหอหมื่นมารกลับน้อยจนผิดคาด


ชายหนุ่มย่างกรายอย่างสุขุมตลอดทาง จนกระทั่งผ่านหน้าห้องที่สิบ


และที่นี่ ปัญหาได้เริ่มต้นขึ้น


จากบรรดาหลายพันสุ้มเสียง มีหนึ่งเสียงทำให้กริดชะงักร่างกายโดยสมบูรณ์


> @$) )*&#!~@!


เป็นภาษาที่มิอาจถอดความ


แต่ฟังแล้วเกิดความคุ้นเคยขึ้นมาจับใจ


‘แปลว่าอะไร…’


กริดเพ่งสมาธิ


มันมองข้ามเสียงโน้มน้าวไม่สำคัญทั้งหมด และพยายามเน้นเสียงประหลาดที่ฟังไม่ออกให้ดังชัดเจนภายในหัว


จนกระทั่งเริ่มจำได้ว่า ตนเคยได้ยินภาษาพิสดารดังกล่าวมาจากที่ใด


ชายหนุ่มลืมตาขึ้น


มันไม่มีวันลืม


ไดอารีของใครบางคนที่กลายเป็นบ้าเพราะถูกกักขังตามลำพังนานนับร้อยปี


ไดอารีของราชาไร้พ่าย


ถูกต้อง


ภาษาที่ฟังดูไม่ได้ศัพท์ภายในห้องสุดท้ายของหอหมื่นมาร คล้ายคลึงกับสิ่งที่มาดราพ่นออกมาหลังจากเริ่มสูญเสียความสามารถในการพูดภาษามนุษย์


‘หรือเราจะเข้าใจผิดมาตลอด…?’


ครั้งหนึ่ง กริดเคยคิดว่าเสียงที่ไม่ได้ศัพท์นั่น คือคำพูดมั่ว ๆ อันเกิดจากความคับแค้นและสับสนของมาดราในร่างอัศวินความตาย


แต่เมื่อมีใครบางคนกล่าวในสิ่งที่คล้ายคลึงกัน นั่นย่อมหมายความว่า ชุดประโยคดังกล่าวคือภาษาซึ่งมีกฎและหลักเกณฑ์ของมันอยู่


เป็นภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษามนุษย์


กึก.


บานประตูเหล็ก สนิมเกาะหนา


กริดพยายามเปิดมันออกด้วยความตื่นเต้น


เรื่องนี้เข้าใจได้ เพราะไดอารีของมาดราที่มันเคยคิดว่าคงไม่มีวันถอดความหมายได้ กลับมีเบาะแสปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างไม่คาดฝัน


อย่างไรก็ตาม บานประตูถูกลงกลอนแน่นหนาจนชายหนุ่มมิอาจใช้พละกำลังฝืนเปิดออก


เสียงถากถางดังแว่วตามมา


> ไม่ใช่คนเดียวกับที่เปิดประตูด้านหน้าสุดเข้ามาหรอกหรือ?


> เห็นไหม ข้าบอกแล้ว คนแคระมีหลายประเภท


> คนที่เข้ามาคราวนี้กลับเป็นพวกไม่ได้เรื่อง


การเหยียดหยันยังคงดังอย่างต่อเนื่อง


ฉึบ.


ชายหนุ่มควักกุญแจ


มาสเตอร์คีย์


กริ๊ก.


รูกุญแจที่เก่าและขึ้นสนิม


แม้จะมีสภาพทรุดโทรม แต่กลับส่งเสียงกลไกออกมาอย่างร่าเริงและไพเราะ


> เฮ้! ทางนี้!


> เคี๊ยก~ มนุษย์! รีบปล่อยข้าเป็นอิสระเร็วเข้า! ข้าจะมอบพลังที่สามารถหนีออกจากที่นี่ให้!


เหล่าอีโก้นับพันซึ่งถูกกักขังภายในห้องหมายเลขสิบ พวกมันต่างส่งเสียงตื่นเต้นยินดีอย่างพร้อมเพรียง


ทุกตนล้วนดีใจกับการมาเยือนของบุคคลปริศนา โดยต่างกำลังวาดฝันว่าตนจะได้สิงร่างของเหยื่อและหลบหนีออกจากหอหมื่นมารได้อย่างราบรื่น


“…”


กริดยังคงเพ่งสมาธิอยู่กับการฟัง


เพียงไม่นานหลังจากเข้ามาในห้อง มันเริ่มพบต้นตอของเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์


ลูกแก้วเวทมนตร์ สีขาวบริสุทธิ์


> (%!#$@~!


“…”


ยิ่งเข้าไปฟังในระยะใกล้ เสียงก็ยิ่งชัดเจน


เสียงของลูกแก้ว คล้ายคลึงกับเสียงโหยหวนของราชาในพ่ายที่ปรากฏในไดอารีอย่างมาก


คงเป็นภาษาบางชนิด…


กริดเหยียดแขนออกไปคว้าลูกแก้วโดยปราศจากความลังเล


[ท่านเลือก <ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส>]


> @$#@$!!


[<ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส> ส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับเหยียดหยันว่า มีเพียงกัลกุนอสเท่านั้นที่มีสิทธิ์ควบคุมตน]


[<ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส> พยายามสาปท่าน]


[ท่านต้านทาน]


[ท่านสามารถสวมใส่ <ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส> ได้ด้วยเอฟเฟคพิเศษของคลาส <ผู้สืบทอดแพ็กม่า>]


[ท่านกลายเป็นเจ้าของ <ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส>]


> @#$$?!


[<ตราประทับของคนแคระ> ซึ่งถูกสลักลงบน <ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส> ส่งผลให้น้ำหนักของไอเท็มกลายเป็นค่าสูงสุด พร้อมกับลดความเร็วทุกชนิดลงหลายระดับ]


[ท่านไม่สามารถพกพาสิ่งนี้ได้อีกต่อไป]


“มีไว้เพื่อแบบนี้เองหรือ”


จากทั้งสิบห้องที่เดินผ่านมา กริดมิได้สะดุดตากับสมบัติชิ้นใดเป็นพิเศษนอกจากลูกแก้วใบนี้


ชายหนุ่มจึงใช้งาน <บัตรลบน้ำหนักไอเท็ม> กับลูกแก้วกระดูกกัลกุนอสทันทีโดยปราศจากความลังเล


‘ต้องเอากลับไปให้สติกส์ตรวจสอบ’


สติกส์คือจอมปราชญ์ คงมีทางถอดรหัสและวิเคราะห์ความหมายของภาษาพิสดารจากเจ้านี่


กริดเดินตัวเบาจนผิดธรรมชาติออกจากห้องที่ 10 โดยหลังจากผ่านทางเดินซึ่งค่อนข้างยาวมาสักระยะ ในที่สุดก็ถึงจุดลึกสุดของหอหมื่นมาร


ตรงหน้าคือผาซึ่งมีน้ำตกลาวาร้อนไหลผ่าน


ใต้หน้าผามีหมวกเหล็กหนึ่งใบ ถูกโซ่จำนวนมากตรึงไว้อย่างแน่นหนาทุกทิศทาง


เป็นหมวกเหล็กใบใหญ่ ปกคลุมทั้งศีรษะรวมไปถึงใบหน้า เชื่อมติดกับหน้ากากที่บริเวณมุมปากโค้งขึ้นคล้ายกับกำลังยิ้ม


แม้จะถูกแช่อยู่ในลาวาโดยสมบูรณ์ แต่หมวกกลับไม่ละลายหรือเผยร่องรอยผุกร่อน


> ฮะฮะ! คึฮ่าฮ่าฮ่า! มนุษย์มาหาข้าพร้อมกับดวงวิญญาณอดีตราชินีเนี่ยนะ? พวกเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกัน!!


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,664
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณครับ สำหรับงานแปลนะครับ
    สนุกมากกก

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00