จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,265



โดยทั่วไปแล้ว หน้ากากเหล็กของอัศวินถือเป็นตัวแทนของความน่าเกรงขาม ส่วนเขาแพะคือตัวแทนของปีศาจชั่วร้าย นับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


แต่หมวกเหล็กใจกลางน้ำตกลาวากลับมีเขาแพะปีศาจขนาดใหญ่เชื่อมติดอยู่ด้านบน


‘เหม็นแฮะ…’


ใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา


ขณะกริดยืนสำรวจสถานการณ์ ทางฝั่งหมวกเหล็กก็กำลังทำแบบเดียวกัน


> ผู้สืบทอดแพ็กม่าสินะ… ต้องการให้ข้าปลดปล่อยดวงวิญญาณอดีตราชินีให้เป็นอิสระใช่ไหม


“ถูกต้อง”


กริดไม่เข้าใจว่าทำไมหมวกเหล็กถึงยอมให้ความร่วมมือ แต่นั่นก็นับเป็นเรื่องดีแล้ว


ชายหนุ่มแจ้งความประสงค์อย่างเปิดเผย


“ช่วยปลดปล่อยดวงวิญญาณอดีตราชินีให้เป็นอิสระด้วย”


กึก.


หัตถ์เทวะซึ่งเคยหมุนรอบตัวกริด เริ่มลอยไปทางน้ำตกลาวาอย่างเชื่องช้า


ขณะเดียวกัน กริดเริ่มมองเห็นชื่อของหมวกเหล็กที่ถูกแช่อยู่ในน้ำตกลาวา


<ความอัปยศของทาลิม่า>


> เข้าใจแล้ว เจ้ามิได้เล่นตลกกับข้า แต่นี่คือโศกนาฏกรรมอันเลวร้าย… เฮ่อ… สายไปแล้ว เจ้าแบ่งมันมากเกินไป เป็นถึงผู้สืบทอดแพ็กม่า แต่กลับไม่รู้เรื่องพื้นฐานเช่นนี้ได้ยังไง?


“แบ่งมากเกินไป?”


> วิญญาณของอดีตราชินี


ทันใดนั้น แสงสีแดงอันน่าขนลุกบริเวณดวงตาหมวกเหล็ก ‘ความอัปยศของทาลิม่า’ เริ่มสำรวจหัตถ์เทวะทั้งสี่ข้าง ก่อนจะหันมาจ้องอุปกรณ์สวมใส่บนตัวกริด


ทุกไอเท็มที่มันเพ่งมองจะมีหนึ่งสิ่งร่วมกัน


ทั้งหมดสร้างจากพาเฟรเนี่ยม


หรือในชื่อใหม่คือ ละโมบ


“อะ…!”


กริดเข้าใจได้ทันที


ในตอนแรก ดวงวิญญาณอดีตราชินีเคยอาศัยอยู่ภายในโลหะ ‘ก้อนเดียว’ ที่ชื่อ ‘พาเฟรเนี่ยม’


แต่พาเฟรเนี่ยมได้ถูกกริดแบ่งออกเป็นหลายก้อนเล็กเพื่อนำไปสร้างเป็นไอเท็มในรูปทรงแปลกใหม่


ระหว่างขั้นตอนการแบ่งโลหะออกเป็นหลายส่วนเล็ก ดวงวิญญาณของอดีตราชินีจะไม่เป็นอะไรเลยหรือ?


ไม่มีทาง


แม้แต่บราฮัมผู้ทรงพลัง ก็ยังประสบความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียเศษเสี้ยวดวงวิญญาณของตน


‘แต่วิญญาณของอดีตราชินีก็มิได้สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่แรก…’


ย้อนกลับไปสมัยกริดเริ่มสะสมพาเฟรเนี่ยม


โลหะชนิดดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็นหลายสิบส่วนและกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป


หมายความว่า ดวงวิญญาณอดีตจักรพรรดินีเสียหายตั้งแต่ก่อนได้พบกริด


เป็นเหตุผลว่าทำไม กริดถึงไม่เคยสื่อสารกับพาเฟรเนี่ยมได้เหมือนกับไอเท็มอีโก้ตามปรกติ


“…แล้วตอนนี้ ดวงวิญญาณของราชินีกำลังอยู่ในสภาพใด”


> สภาพไหนน่ะหรือ? คงต้องเรียกว่า วิญญาณที่เหลือเพียงสัญชาตญาณ…


“…”


ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมจิตใจกริด


แต่ด้วยความสัตย์จริง มันไม่เคยทราบว่านั่นคือดวงวิญญาณของใครบางคนมาก่อน การกระทำในอดีตจึงมิได้เกิดจากเจตนาร้าย


กริด ผู้พยายามขจัดความรู้สึกผิด เริ่มตั้งคำถามใหม่


“มีวิธีฟื้นฟูดวงวิญญาณไหม?”


> ฟื้นฟูไปเพื่ออะไร… ในเมื่อวิญญาณทุกดวงที่ถูกปลดปล่อยจะได้ไปสู่สุคติเหมือนกัน


“สู่สุขคติ?”


> วิญญาณที่สูญเสียร่างกายจะไปเกิดใหม่ในสวรรค์หรือไม่ก็นรก เฉกเช่นอีโก้ของพวกเราที่มีร่างกายเป็นยุทธภัณฑ์


“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิญญาณปฏิเสธการไปสู่สุคติด้วยความตั้งใจของตัวเอง?”


> ไม่มีทาง นอกจากปีศาจและดวงวิญญาณชนิดพิเศษ ไม่มีใครสามารถขัดขืนการไปสู่สุคติได้


ขอบคุณสวรรค์


ไม่ว่าเธอจะมีความต้องการอย่างไร แต่ถ้าถูกปลดปล่อยออกจากพาเฟรเนี่ยม ปลายทางเดียวของมาริเบลคือบนสวรรค์


กริดเผยสีหน้าโล่งใจ ตามด้วยคำขอร้อง


“ถ้าอย่างนั้น ช่วยปลดปล่อยเธอด้วย”


> คิดดีแล้วหรือ หากดวงวิญญาณของเธอกลายเป็นอิสระ อุปกรณ์สวมใส่ของเจ้าเกือบทุกชิ้นจะกลายเป็นเพียงเศษโลหะไร้ค่า


ไม่ใช่ว่าไอเท็มจะเสื่อมคุณภาพลง เพียงแต่พวกมันจะกลายเป็นไอเท็มธรรมดาที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง


แน่นอน กริดทราบเป็นอย่างดี


“ฉันก็แค่บรรจุอีโก้ใหม่ลงไป”


หากภารกิจในคราวนี้ราบรื่น มันจะได้เรียนเทคนิคสำหรับสร้างไอเท็มอีโก้ด้วยตัวเอง


หลังจากนั้น อีโก้ใหม่ที่น่าสนใจจะถูกสกัดออกจากโลหะ และบรรจุลงในละโมบแทนดวงวิญญาณเดิม


กริดวางแผนใช้อีโก้ที่ก้าวร้าวดุดันสำหรับอาวุธ และอีโก้ที่รอบคอบสำหรับชุดเกราะ


โดยเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีสถานการณ์ใดเลวร้ายไปกว่าสภาพอันน่าหดหู่ในปัจจุบันอีกแล้ว


> อีโก้ใหม่? หมายถึงของเล่นชิ้นใหม่ที่จะมาแทนดวงวิญญาณอดีตราชินี?


“ไม่ใช่… ฉันไม่เหมือนกับแพ็กม่า”


เราไม่มีวันกักขังดวงวิญญาณของใครบางคนเอาไว้ในไอเท็มแน่นอน…


ก่อนหน้านี้ กริดเคยครุ่นคิดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทักษะ <บรรจุอีโก้> แต่ปัจจุบันได้พับเก็บแผนการไปโดยสมบูรณ์


<ความอัปยศของทาลิม่า> จ้องกริดที่มองกลับมาด้วยสายตาแน่วแน่ จนกระทั่งผ่านไปสักพัก เสียง ‘ครืด’ ได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการคลายตัวของโซ่ที่พันธนาการรอบหมวกเหล็ก


> ฮะฮะ! น่าสนใจดีนี่! ผู้สืบทอดของแพ็กม่ากลับปฏิเสธแพ็กม่า! …นับว่าเลือกได้ไม่เลว อย่างน้อย ถ้าเทียบกับการสังเวยดวงวิญญาณใครสักคน การใช้อีโก้จากวัตถุถือว่ายังชั่วร้ายน้อยกว่า


บทสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น


กริดค่อนข้างโล่งใจเมื่อพบว่า ความอัปยศของทาลิม่าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


แต่เพียงไม่นาน ชายหนุ่มมีอันต้องหุบยิ้ม


> ว่าแต่… ทำไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วย?


แคร้ง!


โซ่ที่ใช้พันธนาการหมวกเหล็กมีความยาวเหนือความคาดหมายกริดไปมาก มันพุ่งผ่านม่านน้ำตกลาวาด้วยความเร็วสูง นำพาหมวกเหล็กแหวกอากาศเป็นระยะทางไกลกว่า 50 เมตรจนกระทั่งเข้าใกล้ใบหน้ากริด


คงยืดไกลสุดได้แค่นี้กระมัง


หมวกเหล็ก <ความอัปยศของทาลิม่า> หยุดค้างตรงหน้ากริด ตามด้วยการกระซิบด้วยสุ้มเสียงอันน่ารังเกียจ


> …ทีหลังอย่าลืมปิดประตูห้อง


พรืด!!


โซ่โลหะหดกลับด้วยความเร็วสูงสุด


ความอัปยศของทาลิม่ากลับไปแช่อยู่ภายในน้ำตกลาวาตามเดิม


> ข้าจะยึดครองร่างกายของเจ้าและหนีออกไปจากที่นี่!! คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!


ดูเหมือนกริดจะหลงลืมไปชั่วขณะ


ว่าสัตว์ร้ายทุกตนที่ถูกผนึกภายในหอหมื่นมารแห่งนี้ ล้วนเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้ายจนถูกคนแคระขนานนามว่า ‘มาร’


ไม่ควรไว้เนื้อเชื่อใจพวกมัน


ไม่มีทางสยบพวกมันได้ หากไม่ใช้วิธีพิเศษ


โครม!!


“…!”


กริด ผู้กำลังตกตะลึงในท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหมวกเหล็ก รีบเหลียวมองกลับหลังตามสัญชาตญาณ


มันได้ยินเสียงร้องคำรามดังแว่ว ตามด้วยภาพของยุทธภัณฑ์กว่าสองพันชิ้นที่กำลังเบียดเสียดจนเต็มแน่นทางเดินอันคับแคบ


ทั้งหมดคือไอเท็มอีโก้ภายในห้องที่สิบ


อุปกรณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ชุดเกราะ เครื่องประดับ ล้วนพุ่งใส่กริดอย่างพร้อมเพรียง


“พวกขยะ”


แต่การรับมือพร้อมกันทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย


กริดขมวดคิ้วพลางเหยียดแขนไปด้านข้างเพื่ออัญเชิญโนเอะ แรนดี้ และโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์


“เน้นทำลายอาวุธ”


“เมี๊ยว!”


“อื้อ!”


แกร่ก! แกร่ก!


ศัตรูทั้งหมดคือไอเท็มอีโก้


แม้จะไม่มีผู้สวมใส่ แต่พวกมันก็สามารถใช้ออปชันและทักษะที่ติดมากับไอเท็มได้อย่างอิสระ เฉกเช่นการยิงศรเวทของหัตถ์เทวะ


“ชิ!”


ยิ่งการรุมถล่มโจมตีดำเนินไป บาดแผลตามร่างกายกริดก็ยิ่งทวีจำนวน


แต่สถานการณ์ก็มิได้เลวร้ายอะไรนัก


ต้องขอบคุณประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของเครื่องป้องกันสุดโอเวอร์เกียร์ทุกชิ้น รวมไปถึงความสามารถพิเศษของดาบ <ซอร์ดเบรกเกอร์>


อาวุธส่วนใหญ่ไม่ถึงตัวกริด เกือบทั้งหมดถูกทำลายและร่วงกราวลงไปในบ่อลาวา


อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องชมคือแรนดี้


เลเวลของแรนดี้พัฒนาขึ้นมากจากการเก็บตัวฟาร์มบนเทือกเขาเคอัสเป็นเวลานาน ปัจจุบันจึงสามารถคัดลอกค่าสถานะของกริดได้ถึง 50% ด้วยค่าพลังโจมตีที่สูงกว่าแรงเกอร์ทั่วไป เธอสามารถทำลายอาวุธอีโก้ได้ดีไม่แพ้กริด


ผ่านไปสักพัก ความอัปยศของทาลิม่าที่จับตามองสถานการณ์อยู่นาน ตัดสินใจส่งเสียงตะโกน


> ข้าคือเจตจำนงของคนแคระ! จุดสูงสุดของยุทธภัณฑ์ทั้งปวง! ขอสั่งให้ตุ๊กตาไร้วิญญาณทุกตัวหนีไปเดี๋ยวนี้!


“…!?”


กริดและแรนดี้เผยสีหน้าตกตะลึง


อุปกรณ์สวมใส่ของพวกมันทุกชิ้นถูกถอดออกจากร่างกายโดยไม่ผ่านความยินยอมของตน


‘ทักษะปลดอุปกรณ์วงกว้าง?’


ขณะกริดกำลังตกตะลึงในความสามารถอันน่าทึ่งของ <ความอัปยศของทาลิม่า>


ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ!


ชุดเกราะปริศนา รวมถึงถุงมือเหล็ก เกราะกางเกง รองเท้า เครื่องประดับ ผ้าคลุม พลันสวมใส่ลงบนร่างกายกริดโดยที่เจ้าตัวหมดโอกาสขัดขืนโดยสิ้นเชิง


จุดประสงค์ของไอเท็มอีโก้เหล่านี้ไม่ซับซ้อน


เข้าควบคุมร่างกายกริด เพื่อเคลื่อนไหวร่างกายกริดไปตามความต้องการของพวกมัน


ใช้แล้ว วิธีนี้ไม่ต่างอะไรกับการยึดครองร่าง


แคร้ง!


โซ่ที่พันธนาการ <ความอัปยศของทาลิม่า> ถูกฟันจนขาดด้วยฝีมือของดาบอีโก้เล่มหนึ่ง


> คึฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดข้าก็ได้เป็นอิสระจากคุกอันน่ารังเกียจแห่งนี้สักที!


ฟ้าว!


หลังจากหลุดพ้นพันธนาการของโซ่ หมวกเหล็กพลันพุ่งตัวผ่านม่านน้ำตกลาวาด้วยความเร็วสูงสุด


จากนั้น มันลอยไปอยู่เหนือกริด ผู้กำลังพยายามขัดขืนอย่างสุดความสามารถ


ฉึบ.


ความอัปยศของทาลิม่าสวมตัวเองลงบนศีรษะชายหนุ่ม


เขาแพะยักษ์เริ่มส่องสว่างด้วยแสงสีแดง


> คึฮ่าฮ่าฮ่า! ร่างกายและจิตใจของเจ้ากำลังจะกลายเป็นของข้—


หลังจากเฝ้ารอมานานนับร้อยปี ในที่สุดมันก็ได้ยึดครองร่างกายมนุษย์สมใจ


เหตุการณ์ควรจะเป็นเช่นนั้น


“…”


> …?


อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงที่เคยเปี่ยมความสุขอันล้นปรี่ของ <ความอัปยศของทาลิม่า> กลับขาดห้วงกะทันหัน


เสียงหัวเราะเลือนหายไปจากหอหมื่นมาร


> นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!


<ความอัปยศของทาลิม่า> สัมผัสถึงร่างกายของตัวเองไม่ได้เลย


จริงอยู่ ในตอนแรก มันสัมผัสถึงการมีอยู่ของร่างกายได้ครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็หายไป


มันขยับร่างกายไม่ได้เลย


เป็นสถานการณ์เดียวไอเท็มอีโก้ชิ้นอื่นที่สวมลงบนตัวกริดก่อนหน้านี้


ขณะเดียวกัน หน้าต่างข้อความกำลังแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องตรงมุมสายตาชายหนุ่ม


[ท่านสวมใส่ <ชุดเกราะทำลายล้าง> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


[ท่านสวมใส่ <เกราะกางเกงผู้เย่อหยิ่ง> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


[ท่านสวมใส่ <ถุงมือควอโทร> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


[ท่านสวมใส่ <แหวนโพรงเนตร> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


[ท่านสวมใส่ <สร้อยคอจันทรา> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


[ท่านสวมใส่…]




[ท่านสวมใส่ <ความอัปยศของทาลิม่า> ได้ด้วยเอฟเฟกต์พิเศษของคลาส]


“…ทำอะไรของแก?”


> นี่มัน… บ้าบอสิ้นดี!!


คนแคระเกิดมาพร้อมความเย่อหยิ่ง


พวกมันเชื่อว่าผลงานของตนไม่เป็นสองรองใครในโลก และปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพิสูจน์เรื่องนั้นให้ทุกคนได้ประจักษ์


จงสร้างผลงานที่ดีที่สุด


ไม่เกินจริงเลยหากจะกล่าวว่า นั่นคือความปรารถนาร่วมกันของเผ่าพันธุ์คนแระทั้งหมด


และแน่นอน ราชวงศ์คนแคระยึดถือในคติพจน์ข้อนี้อย่างแรงกล้าเสมอมา


การสั่งสมประสบการณ์และความรู้ตลอดหลายร้อยปี ช่วยให้ราชวงศ์ของคนแคระเริ่มพบเทคนิคลับในการสร้างไอเท็มอีโก้คุณภาพสูง


ชิ้นแรกคือดาบ


เป็นผลงานที่เกิดจากการวิจัยและแก้ไขข้อบกพร่องมานานกว่าสองชั่วอายุคน


ชิ้นถัดมาคือชุดเกราะ


เป็นผลงานที่เกิดขึ้นในราชวงศ์รุ่นที่สาม


และถัดมาคือหมวกเหล็ก


หลังจากตกทอดมาถึงรุ่นที่ห้า ราชวงศ์คนแคระในช่วงเวลาดังกล่าวปรารถนาจะสร้างสุดยอดไอเท็มที่ไม่มีไอเท็มใดในอดีตเทียบเคียงได้


ข้อเสียและจุดผิดพลาดทั้งหมดจากบรรพบุรุษ ได้ถูกปรับแต่งแก้ไขให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด


แต่ความ ‘โลภ’ และการปรารถนาในความสมบูรณ์แบบมากเกินไป ส่งผลให้สัตว์ประหลาดชั่วร้ายถือกำเนิดขึ้น


ผลงานของราชวงศ์รุ่นที่ห้าได้กลายเป็นความล้มเหลวและอัปยศอย่างใหญ่หลวง หมวกเหล็กชิ้นดังกล่าวจึงถูกสลักตราประทับและผนึกไว้ในหอหมื่นมาร


แต่ในวินาทีนี้ ผนึกของตราประทับกลับถูกทำลายอย่างง่ายดาย


ด้วยผล ‘สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชนิดได้โดยไม่มีเงื่อนไข’ ของคลาสที่กริดครอบครอง


> ถอดออก! ถอดข้าออกเดี๋ยวนี้!!


ถูกปกครองโดยมนุษย์ที่มันหวังจะปกครอง


แม้จะอยู่ในสภาพน่าสมเพช แต่มันก็ยังดื้อรั้น


“ปลดปล่อยดวงวิญญาณอดีตราชินี”


> ไม่มีทาง! คิดว่าข้าจะยอม—


“ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์”


ปัจจุบัน ความอัปยศของทาลิม่าอยู่ในความควบคุมของกริดโดยสมบูรณ์


หรือก็คือ อีโก้ไม่มีทางขัดขืนผู้สวมใส่


กริดสามารถใช้ทักษะที่ติดมากับความอัปยศของทาลิม่าได้อย่างอิสระ


“บงการวิญญาณ”


เป็นพลังสำหรับ ‘ควบคุมวิญญาณในวัตถุ’


ผลผลิตจากเจตจำนงอันแรงกล้าของราชวงศ์คนแคระรุ่นที่ห้า ช่วยให้ดวงวิญญาณของอดีตราชินีภายในละโมบ ได้กลับออกมายังโลกความจริงอีกครั้ง


ซู่ว…


เศษละอองแสงหลั่งไหลมารวมตัวในจุดเดียว


เพียงไม่นาน พวกมันก่อตัวเป็นร่างคนแคระหญิงงามที่กำลังสวมรอยยิ้มขื่นขม


“ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี”


ถึงคราวต้องบอกลาเพียงเท่านี้


***


‘คงจบแล้วกระมัง’


หากไม่นับรังมังกรเพลิงทราวก้า


คนแคระเชื่อว่าหอหมื่นมารคือสถานที่ซึ่งอันตรายที่สุดในโลก


นอกจากความร้อนจากลาวาและการล่อลวงจากเหล่าอีโก้ชั่วร้าย ด้านในสุดยังมีสิ่งที่น่ากลัวอย่างความอัปยศแห่งทาลิม่าถูกผนึกอยู่


หากไม่ใช่สายเลือดราชวงศ์คนแคระซึ่งสามารถควบคุมอีโก้ผ่าน <ตราประทับ> ชะตากรรมเดียวของคนธรรมดาที่ย่างกรายเข้าไปด้านในคือความตายเยี่ยงสุนัขข้างถนน


กษัตริย์ชาร์ลส์เชื่อว่า กริดผู้เข้าไปในหอหมื่นมารนานกว่าสองชั่วโมงโดยไม่มีข่าวใดออกมา คงเสียชีวิตได้สักพักแล้ว และดวงวิญญาณกำลังถูกขังอยู่ด้านในหอหมื่นมารซึ่งมีกลไกพิเศษ


“ข้าจะไปย้ายเขตผนึกวิญญาณออกมา”


เขตผนึกวิญญาณ


ห้วงมิติเวทมนตร์ชนิดพิเศษ ใช้สำหรับกักเก็บดวงวิญญาณของคนที่เสียชีวิตภายในหอหมื่นมารเป็นการชั่วคราว


กษัตริย์ชาร์ลส์และเหล่าคนแคระต่างเดินไปรวมตัวกันยังจุดคืนชีพของผู้เล่น


พวกมันหวังว่าจะได้พบกริด


สีหน้าของเพลล็อตค่อนข้างหม่นหมอง ส่วนอันทริโน่ทำได้เพียงส่ายหน้า


ไม่มีใครเคลือบแคลงชะตากรรมของกริด


อย่างไรก็ตาม ยิ่งเวลาผ่านไป พวกมันกลับยิ่งพบความแปลกประหลาด


“…?”


“…?”


1 ชั่วโมง… 2 ชั่วโมง… 3 ชั่วโมง…


กระทั่งครึ่งวัน ร่างของกริดก็ยังไม่ปรากฏ


เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด กษัตริย์ชาร์ลส์เผยสีหน้าสับสนเจือความคลางแคลง


“เขตผนึกวิญญาณว่างเปล่า?”


หมายความว่า กริดยังมีชีวิตอยู่?


ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่


‘เขตผนึกวิญญาณเสียหาย?’


นั่นก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน


เขตผนึกวิญญาณคือสิ่งที่เกิดจากวิศวกรรมเวทมนตร์ระดับสูงสุดของคนแคระ


“เกิดอะไรขึ้นกันแน่…”


ขณะความสับสนของคนแคระกำลังทวีคูณ


เปรี้ยง—!!


เกิดเสียงโครมครามราวกับฟ้าถล่ม ต้นเสียงดังมาจากทางประตูหน้าของหอหมื่นมาร


ดังมากเสียจน คนแคระต่างคิดว่าภูเขาไฟรอบทาลิม่ากำลังถล่มลงมาทับเมือง


แต่เพียงไม่นาน พวกมันก็ได้ทราบข่าวว่า บานประตูหอหมื่นมารถูกเปิดออกจากด้านใน


“…!”


รอดกลับมาได้แบบยังมีชีวิต?


ปลดปล่อยดวงวิญญาณอดีตราชินีสำเร็จ?


‘เจ้านั่นใช้ลูกไม้อะไรกันแน่…’


ทำอย่างไรถึงโน้มน้าวให้สัตว์ประหลาดภายในหอหมื่นมารยอมช่วยเหลือ


เมื่อทราบข่าว กษัตริย์ชาร์ลส์เต็มไปด้วยคำถามมากมาย ก่อนจะรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุโดยไม่สนใจความสง่างามหรือพิธีรีตอง


จากนั้นไม่นาน มันและกลุ่มคนที่วิ่งตามมาต่างเห็นในสิ่งเดียวกัน


กริดปรากฏตัวพร้อมกับสวมสิ่งที่พวกมันทุกคนเรียกว่า ‘สัตว์ประหลาด’ ไว้บนศีรษะ


“แฮ่ก… แฮ่ก… หนักฉิบหาย…”


ตุ้บ.


เพลล็อตและอันทริโน่รีบวิ่งเข้าไปพยุงชายหนุ่มที่ทรุดตัวลงในสภาพอ่อนแรง


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,666
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. น่าเอาไปให้ Ai เจนออกมาอะน่าจะโคตร ภาพที่กริดเดินออกมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่มีอีโก้ ฉากหลังเป็นลาวาเปิดประตูออกมามีไฟแลบออกมาด้วย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00