จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 777



    ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของข่านกำลังขาวซีดประหนึ่งปราศจากโลหิตไหลเวียน
    ร่างกายโงนเงนไร้เรี่ยวแรง    

    ไม่มีใครจิตนาการออกว่าข่านต้องเจ็บปวดทรมาณเพียงใดในยามกระอักเลือดสีดำ

    “พ…พาฉันไปโรงเหล็ก”

    “…”

    เฟคเกอร์ต้องการให้ข่านพักผ่อน
    เขาจะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นหากได้นอนนิ่งไม่ขยับตัวจนกว่าสติกส์จะกลับมา

    แต่เฟคเกอร์กลับผุดความคิดใหม่
    เขาตระหนักได้ว่าข่านใช้ชีวิตอยู่กับเตาหลอมตลอด 80 ปีที่ผ่านมา

    ชายคนนี้คงสัมผัสชีวิตที่แท้จริงหากได้ทุบค้อนบนทั่งเหล็กหน้าเตาหลอม
    
    “เข้าใจแล้ว”

    ข่านคงสามารถสงบจิตใจหากได้อยู่ใกล้กับเตาหลอม  เฟคเกอร์รีบพยุงข่านขึ้นด้วยความคิดดังกล่าว

    ข่านใช้ท่อนแขนที่ไร้เรี่ยวแรงเกาะไหล่เฟคเกอร์พลางอมยิ้ม
    
    “ขอบคุณมาก…”

    เฟคเกอร์เริ่มเจ็บแปลบที่หน้าอก
    ข่านตัวเล็กแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
    ฝ่ามือที่เคยใหญ่และหยาบกร้าน  เหตุใดจึงกลายเป็นฝ่ามือเหี่ยวย่นไร้เรี่ยวแรงของชายชราได้?
    กาลเวลาช่างโหดร้านทารุณกับข่าน
    
    เฟคเกอร์รู้จักกับข่านตั้งแต่สมัยเซดากาห์  เขาหวนนึกถึงความทรงจำอันมีค่าที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน
    
    เฟคเกอร์จึงเป็นกังวลกับกริดมาก
    หัวใจกริดจะเจ็บปวดมากเพียงใดหากได้เห็นข่านในสภาพนี้

    *** 

    ช่างน่าประหลาด  อากาศกลับหนาวเย็นกว่าปรกติทั้งที่อยู่ในฤดูกาลเดียวกัน  

    “…”

    ข่านต้องหลั่งน้ำตาเมื่อกลับถึงโรงเหล็กใหญ่อันว่างเปล่า
    ช่างตีเหล็กหนุ่มสาวที่เคยสาบานอย่างตื่นเต้นว่าจะรับใช้กษัตริย์กริด  พวกเขากลับถูกสังหารอย่างทารุณ
    
    เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน  โรงเหล็กใหญ่แห่งนี้เคยเต็มไปด้วยช่างเหล็กรุ่นใหม่หลายคน
    ข่านรู้สึกเศร้าใจที่กริดต้องเสียบุคคลพรสวรรค์ไปมากมาย

    “จะกลับไหม?”

    เฟคเกอร์สัมผัสความเจ็บปวดได้จากหัวใจข่าน  เขากล่าวถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

    ข่านส่ายศีรษะ

    “ไม่เป็นไร…ฉันยังไหว”

    ยังเหลืองานสุดท้ายให้ต้องจัดการ
    จากนั้นค่อยติดตามดวงวิญญาณคนหนุ่มสาวขึ้นไปหลับพักผ่อนบนสวรรค์    
    ข่านคิดเช่นนี้พลางเดินไปหน้าเตาหลอม

    เฟคเกอร์วางโพชั่นพลังชีวิตหลายร้อยขวดไว้ไม่ห่าง

    “ผมจะรีบพานักบุญหญิงมาที่นี่  กรุณาโปรดดื่มโพชั่นอย่างสม่ำเสมอเมื่อถึงเวลา”

    หงึก

    เฟคเกอร์รีบล็อกเอาต์เมื่อเห็นข่านผงกศีรษะ  เขาพยายามติดต่อนักบุญหญิงรูบี้ด้วยเครือข่ายฉุกเฉินในโลกความจริง
    
    ทว่า  นัดชิงชนะเลิศของการแข่ง PVP นานาชาติจบลงแล้ว
    กริดกำลังอยู่ในพิธีมอบรางวัล  
    ส่งผลให้เฟคเกอร์ติดต่อใครไม่ได้เลย

    เขาพยายามติดต่อขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่เหลือทุกคน  แต่ผลก็เช่นเดิม        
    ทุกคนกำลังตื้นตันใจที่กริดคว้าชัยเหนือครอเกล  บรรยากาศเฉลิมฉลองเป็นไปอย่างชื่นมื่นเปี่ยมสุข

    ตึง!!

    เฟคเกอร์ชกใส่กำแพงเต็มแรง
    เขาทำเช่นนั้นอีกหลายหนจนกระทั่งโลหิตไหลซึมฝ่ามือ
    
    “…บ้าจริง!”

    เขากำลังโมโหตัวเอง
    ตนเคยโอหังขนาดกล้าประกาศว่าจะปกป้องอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในเงามืดตามลำพัง
    แต่ชีวิตของชายชราเพียงคนเดียวกลับยังปกป้องไว้ไม่ได้

    ‘ทำไมเราไม่ฝึกให้หนักกว่านี้…’

    เขาเริ่มตะหนักถึงขีดจำกัดของคลาสทั่วไป
    ยังมีศัตรูอีกมากที่ตนยังไม่รู้จัก  และคนเหล่านั้นคือภัยคุกคามใหญ่หลวงในอนาคต
    แต่เขากลับพึงพอใจในพลังระดับมดปลวกที่ตนครอบครอง

    ช่างเป็นความโอหังแสนน่าสมเพช
    เขาผ่อนคลายตัวเองเกินไปนับตั้งแต่ดวลชนะแบล็คมาได้
    
    ต้องมากกว่านี้อีก… 
    ต้องฝึกให้หนักยิ่งกว่านี้ 

    ขณะที่เฟคเกอร์กำลังใช้ศีรษะพิงผนังด้วยสีหน้าแสนเจ็บปวด

    กรี๊ง— 

    โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น  เฟคเกอร์รีบหันไปรับสายโดยไม่รอช้า
    เป็นสายจากนักบุญหญิงรูบี้

    *** 

    “คุณลุงข่าน!”

    เคร้ง!  เคร้ง!

    เสียงทุบค้อนจากโรงเหล็กใหญ่ช่างอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวในค่ำคืนปัจจุบัน
    รูบี้รีบวิ่งมาถึงด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ
    
    “คุณลุง…”

    “โฮ่?  องค์หญิงของฉันเองหรือ”

    ชายชราผู้นี้เป็นใครกัน?
    ใบหน้าของข่านขาวซีดหมดจด  ไม่เหลือร่อยรอยของชีวิตชีวาแม้แต่น้อย
    ผิวหนังเย็นชืดอย่างน่าประหลาดแม้ความร้อนจากเตาหลอมกำลังเดือดพล่าน    

    “คุณลุง…”

    รูบี้เริ่มหลั่งน้ำตา
    แสงสว่างในแววตาที่เคยเจิดจ้าดุจดั่งดวงตะวัน  บัดนี้ไม่หลงเหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
    ชายชราผู้นี้คือข่าน  คนที่รักและดูแลเธอเหมือนกับหลานสาวในไส้มาตลอด

    สำหรับรูบี้  ข่านไม่ต่างจากลุงบังเกิดเกล้า  เธอเคยวาดฝันว่าข่านจะอยู่มอบความสุขให้ตนไปตราบนานเท่านาน
    รูบี้มักหาโอกาสเยี่ยมเยียนข่านในเวลาว่างเสมอ

    แล้วเหตุใดข่านถึงมีสภาพเช่นนี้ได้?
    คุณลุงจะไม่อยู่ดูแลเธอแล้วงั้นหรือ

    รูบี้เจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อเห็นข่านพยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
    
    “แสงความหวัง!  แสงการุณ!  ชำระล้าง!”

    รูบี้ต้องการขจัดความเจ็บปวดออกจากร่างกายข่าน
    ไม่เพียงเวทฮีล  แต่ยังรวมถึงเวทมนตร์ขจัดอาการผิดปรกติทุกชนิด

[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิตแก่เป้าหมาย ]
[ เป้าหมายแก่ชรามาก  ร่างกายของเขาถึงขีดจำกัด ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ]
[ ท่านขจัดพิษเป้าหมายไม่สำเร็จ ]

    “…!”

    ระหว่างประกอบคุณงามความดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา  รูบี้เคยช่วยชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน
    เธอหวังจะช่วยเหลือมนุษย์ให้มากที่สุดในอนาคต  รูบี้ต้องการมอบความสุขจากก้นบึ้งหัวใจให้แก่ทุกคน
    
    แต่เธอกลับมิอาจรักษาชีวิตคนสำคัญของตัวเองได้

    รูบี้ตื่นตระหนักกับผลลัพธ์ไม่คาดฝัน
    เธอไม่เคยเคลือบแคลงในพลังนักบุญหญิงแม้แต่ครั้งเดียว

    “ช…ชำระล้าง! ชำระล้าง! ชำระล้าง!”

    รูบี้มีประสบการณ์ซาทิสฟายน้อยกว่าเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์
    เธอจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดทักษะที่ได้ผลกับผู้เล่นถึงไม่มีผลกับข่าน

    ไม่สิ…รูบี้ไม่ต้องการยอมรับความจริงมากกว่า

    ทักษะชำระล้างที่เคยปัดเป่าได้ทุกสิ่ง  บัดนี้ถูกกระหน่ำใช้งานอย่างต่อเนื่องจนมานาเหือดแห้ง 

    ข่านหันกลับมาลูบศีรษะของรูบี้พร้อมกับส่งรอยยิ้มแสนอบอุ่น

    “องค์หญิงของลุง  ได้โปรดใจเย็นลงก่อน”

    “ค…คุณลุง”

    “ลุงขอโทษที่ทำให้องค์หญิงเป็นห่วง  ลุงคงแก่เกินไปสินะ  ฮะฮะ!”

    “ฮึก…!”

    รูบี้เอนซบไหล่ข่านพร้อมกับหลั่งน้ำตา
    ร่างกายที่เคยอบอุ่นของข่าน  บัดนี้กลับเย็นยะเยียบจนน่าเศร้า
    ข่านใช้มือลูบแผ่นหลังที่สั่นระริกของเธออย่างทะนุถนอม
    
    “อย่าได้เศร้าโศกขนาดนั้น  ไม่มีสิ่งใดให้ต้องเสียใจเลยสักนิด  หลานของลุงกลายเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่แม้แต่องค์จักรพรรดิยังยำเกรง  องค์หญิงรูบี้ของลุงเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามและมีจิตใจเมตตา  ได้เวลาคนแก่อย่างลุงต้องพักผ่อนแล้ว”

    “คุณลุง…!  คุณลุง!!  ฮือ—”

    รูบี้สะอื้นอย่างหนัก
    เธอมักรักษามาดสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาในฐานะนักบุญหญิง  รวมถึงในฐานน้องสาวของราชาโอเวอร์เกียร์
    แต่เนื้อแท้แล้ว  เธอเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาที่จิตใจอ่อนโยนคนหนึ่ง

    ข่านสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งฟอดใหญ่

    “ฮุฮุ  ไม่ต้องเศร้าใจไป  ลุงจะจากไปก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น  องค์หญิงควรร่วมแสดงความยินดีถึงจะถูก…แค่ก! แค่ก!!”

    หลอดพลังชีวิตข่านลดลงจนน่าตกใจ
    อาการพิษกำเริบรุนแรงขึ้นทุกขณะ

    “คุณลุง!!”

    เฟคเกอร์กลับถึงโรงเหล็กในจังหวะที่รูบี้แผดเสียงเรียกข่าน  เขามาพร้อมนักบวชรีเบคก้าที่เพิ่งกลับจากกิจสงฆ์    

    “ขอสวดภาวนาแด่องค์เทพธิดาแห่งแสง”

    “ได้โปรดมอบความสุขและปัดเป่าโรคภัยให้แก่คนผู้นี้ด้วย”

    เหล่านักบวชประสานมือกันพร้อมกับเริ่มบทสวด
    นี่คือเงื่อนไขการใช้ทักษะพิเศษ ‘แสงภาวนา’ ที่เกิดจากการสวดประสานของนักบวช 17 คนขึ้นไป

    ทว่า  แม้กระทั่งสิ่งนี้ก็มิอาจช่วยให้ข่านดีขึ้น

    นักบวชผู้หนึ่งเดินมาหาเฟคเกอร์พลางกล่าวด้วยสีหน้าดำมืด
    
    “ได้เวลาที่พวกเราต้องไปแล้ว”

    “เดี๋ยวก่อนสิ!  เราต้องช่วยยื้อชีวิตเขาอีกสี่ชั่วโมง  ขออีกแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น!”

    สติกส์จะกลับมาภายในสี่ชั่วโมง  
    อาจเร็วกว่านั้นหากโชคดี
    ภูมิปัญญาของจอมปราชญ์ต้องช่วยชีวิตข่านได้แน่
    เหล่านักบวชต่างเบือนหน้าหนีเฟคเกอร์  เป็นนัยว่าพวกเขามั่นใจในบางสิ่ง
    ความหวังของเฟคเกอร์เลือนลางเกินไป 

    “เอาล่ะ…ได้เวลาที่ฉันต้องสานต่อมันให้เสร็จ”

    ข่านเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปล่อยมือจากรูบี้  เขาเดินกลับไปที่หน้าเตาหลอมอีกครั้งด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
    
    ชุดเกราะตัวหนึ่งถูกวางอยู่บนทั่ง    
    เป็นเกราะหนักปราณีตที่ไม่มีช่องว่างให้ปลายหอกดาบแทงลอดผ่าน
    วงแหวนโลหะสีทองถูกร้อยผ่านข้อต่อเชื่อมกับแผ่นเหล็กแต่ชิ้นอย่างบรรจง
    นับเป็นงานฝีมืออันวิจิตรงดงาม
    
    รูปทรงชุดเกราะถูกออกแบบให้ตรงตามสรีระกริดอย่างไร้ที่ติ  กริดจะได้รับความปลอดภัยระดับสูงสุดโดยไม่เกิดผลข้างเคียง
    
    “ขอเวลาอีกสักนิด…”

    ข่านอมยิ้มขื่นขม

    “แค่นิดเดียวเท่านั้น…”

    “…”

    เคร้ง!  เคร้ง!  เคร้ง!

    รูบี้และเฟคเกอร์ไม่คิดห้ามข่าน
    ชายขราวางโลหะแผ่นใหม่ลงบนชุดเกราะพร้อมกับเริ่มทุบค้อนอีกครั้ง
    
    สานข้อต่อ  
    เชื่อมด้วยวงแหวน  
    ทำเช่นนี้ซ้ำเช่นนี้ไปมา

    ข่านจ้องมองชุดเกราะในมือด้วยสายตาอบอุ่นและโล่งใจ
    สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
    ไม่เหมือนกับชายชราอ่อนแรงเมื่อครู่

    “…เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้”

    “พวกเราขอชื่นชมหัวใจที่แกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า”

    เหล่านักบวชต่างเอ่ยปากชมด้วยสีหน้าเคารพยกย่อง  พวกเขาต่างเพ่งสมาธิสวดภาวนาให้ข่านต่อหน้าเทวรูปรีเบคก้า    

    ***

    เวลาผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ?

    “ฮุ…ฮุฮุ”

    ข่านหัวเราะเสียงดังขณะจัดการงานส่วนสุดท้าย  
    เหตุเพราะเขานึกบางสิ่งขึ้นได้  
    ชุดเกราะที่มีลวดลายประดับสีแดงสดและทองอร่าม  ไม่ใช่ว่ากริดชื่นชอบสีสันเหล่านี้เป็นพิเศษหรอกหรือ?
    ข่านเชื่อมโลหะแผ่นใหม่เข้ากับชุดเกราะโดยภายในใจหวังจะได้เห็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ของตนสวมมันสักครั้ง

    “…แค่ก!”

    “คุณลุง!”

    ข่านรีบดื่มโพชั่นหลังจากกระอักเลือด
    บนพื้นโรงเหล็กเปียกแฉะไปด้วยคราบโลหิตสีดำจำนวนมาก
    เวทฮีลจากรูบี้และเหล่านักบวชต่างส่องแสงอาบร่างข่านอย่างต่อเนื่อง

    ทว่า  ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์

    ‘ได้เวลาที่เขาต้องไปแล้วหรือ…’

    เฟคเกอร์ที่พยายามยื้อชีวิตข่านยิ่งกว่าใครทั้งหมด  บัดนี้ทำใจยอมรับสภาพด้วยสีหน้าเจ็บปวด
    หลอดพลังชีวิตหนึ่งส่วนสิบที่กำลังลดลงในทุกลมหายใจ
    สิ่งนี้สร้างความทรมาณให้แก่ทุกคนที่เห็น  ประหนึ่งเอามีดกรีดเฉือนหัวใจทีละนิด

    ‘กริด…’

    เฟคเกอร์เริ่มกระวนกระวายใจ
    ตอนนี้กริดน่าจะได้ทราบข่าวแล้ว  
    เขาหวังให้กริดมาทันก่อนข่านลาจาก
    กริดคือคนเดียวที่ห้ามพลาดการวาระสุดท้ายของข่านด้วยประการทั้งหมด
    
    ‘ได้โปรดมาให้ทันด้วย’

    เร็วเข้า… 

    ขณะที่เฟคเกอร์กำลังมีสีหน้าตึงเครียด    
    
    เคร้งงงงง—

    “…!”

    เฟคเกอร์  รูบี้  รวมถึงเหล่านักบวชรีเบคก้าอีกหลายสิบ  ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นอย่างพร้อมเพรียง

    ดวงวิญญาณของพวกเขาเกิดการสั่นไหววูบวาบเมื่อข่านทุบค้อนครั้งสุดท้าย
    
    “โอ้…!”

    “ข่าน…”

    น้ำเสียงยกย่องชื่นชมดังจากทุกทิศ
    แม้กระทั่งบุคคลที่มิใช่ช่างตีเหล็กก็สามารถบอกได้

    ข่านก้าวสู่ระดับชั้นใหม่เรียบร้อยแล้ว

    เครง… 

    “…”

    เสียงทุบค้อนของข่านที่เคยกังวาลราวระฆังสวรรค์  บัดนี้กลับชะงักงันเงียบสนิท
    หากมองจากหลอดพลังชีวิต  ข่านไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ได้อีก
    
    ทันใดนั้น

[ ช่างตีเหล็กในตำนานคนใหม่ถือกำเนิดขึ้น ]
[ ช่างตีเหล็กทุกคนจะเคารพยกย่องเขา ]

    ห้าวินาที… 

    ผู้เล่นทุกคนที่เชื่อมต่อซาทิสฟายล้วนเห็นข้อความดังกล่าวบนหน้าจอ
    มันคือข้อความโลก

    จากนั้น

    “แฮ่ก…แฮ่ก!  ข่าน!!”

    กริดวิ่งมาถึงโรงเหล็กด้วยความเร็วที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถกระทำได้
    
    สามวินาที… 

    เขาไม่สนว่าตัวเองจะหายใจทันหรือไม่
    กริดรีบมองหาข่านด้วยสีหน้าหวาดผวา

    “มาแล้วหรือ…”

    หนึ่งวินาที

    “กษัตริย์คนเก่งของกระหม่อม”

    ข่านหันมามองพร้อมกับรอยยิ้มแสนอบอุ่น
    เขาผายมือกว้างเพื่อรอให้กริดโผกอด
    
    ชายหนุ่มรีบปรี่เข้าไปโอบกอดข่านที่กำลังกลายเป็นแสงสีเทาอย่างแนบแน่น

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,206
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. กลายเป็นตำนาน

    ReplyDelete
  2. ซึ้ง​ น้ำตาไหล​ 😢

    ReplyDelete
  3. นี้มันตอนที่777 ต้องจบแบบสวยๆ

    ReplyDelete
  4. อยากให้รอด

    ReplyDelete
  5. ใจสลาย สงสารทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นตำนานในวาระสุดท้ายของชีวิต

    ReplyDelete
  6. หัวใจของผมแหลกสลาย ตำนานคนใหม่ผู้มีชีวิตต่ออีก5วิ

    ReplyDelete
  7. น้ำตาเเทบไหลตรูนี่เปิดเพลงเศร้าจนอ่านจบเลย

    ReplyDelete
  8. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  9. เปิดเพลงเศร้ากับอ่านลากยาวมา น้ำตาไหลเลยตอน 776 777 778

    ReplyDelete
  10. ไม่มีคำบรรณยาย​

    ReplyDelete
  11. กลายเป็นตำนานได้รับบัพอมตะห้าวิก่อนตายเพื่อเจอกริด

    ReplyDelete
  12. คือมันแบบพิมพ์ไม่ถูกเลยอ่ะ มันคือชีวิตหนึ่งชีวิตของใครสักคนที่เขาสมหวังและไม่กลัวว่าจะเสียอะไรแล้วอ่ะ ;-; ข่ายมองดูกริดตั้งแต่ไม่มีอะไรเลยในชีวิต จนมาเป็นกษัตริย์และมีทุกอย่างก้าวข้ามทุกสิ่งที่ตัวเองมุ่งหมาย😭

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00