จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 774



    ตระกูลข่านผลิตช่างตีเหล็กชั้นนำมากมายนับไม่ถ้วน
    พวกเขาสร้างชื่อเสียงโด่งดังตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา  ระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนกษัตริย์อีเทอนัลไปถึง 11 รุ่น
    
    ตระกูลช่างตีเหล็กใหญ่เจ้าของโรงเหล็กชื่อดัง  ไม่แปลกที่ข่านในวัยหนุ่มจะทระนงตนในศักดิ์ศรี
    
    ข่านถูกยกย่องให้เป็นอัจฉริยะแห่งภาคตะวันออกของอีเทอนัลตั้งแต่เด็ก
    เขาเฝ้าฝันอยากเป็นช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของทวีปเสมอ  ข่านไม่เคยเคลือบแคลงว่าฝันของตนจะไม่สำเร็จ

    ทว่า  ความเป็นจริงกลับเย็นชาและโหดร้าย  โลกใบนี้มักใจดำกับอัจฉริยะเสมอ
    ฝันของข่านถูกบดขยี้เหลือเพียงเศษฝุ่น
            
    เขาสูญเสียภรรยาสุดที่รักและบุตรชาย

    ข่านหัวใจแตกสลายและกลายเป็นขี้เมาติดสุราไปหลายปี
    มือกำขวดเหล้าแทนค้อน      
    สายตาจ้องมองแม้น้ำเหือดแห้งแทนเปลวเพลิงอันร้อนแรง
    
    ข่านรักภรรยาเหนือสิ่งอื่นใด  เธอมีค่ายิ่งกว่ามหาสมบัติทุกชนิดบนโลก  

    แต่เขากลับเสียเธอไปในชั่วข้ามคืน
    เฉกเช่นบุตรชายที่ตนและเธอรัก

    ข่านถูกทิ้งไว้ลำพัง  เขาไม่มีเหตุผลให้ดำรงชีวิตต่อไป
    หากไม่เพราะบริษัทเมโร่หวังฮุบกิจการโรงตีเหล็กตระกูล  ข่านคงจบชีวิตตัวเองไปนานแล้ว  
    แต่เมื่อมีคนคิดชั่วต่อมรดกแสนสำคัญ  เขาจึงต้องกัดฟันทนมีชีวิตต่อ    
    ภาระหน้าที่ของตระกูลสำคัญกว่าความเจ็บปวดส่วนตน
    
    ทว่า  การขัดขืนกลับไม่เป็นผล
    ภาวะเศร้าโศกของข่านรุนแรงยิ่งขึ้น
    พิษสุรากัดกินร่างกายสถานหนัก
    
    ลงเอยด้วย  เขาละทิ้งทุกสิ่งในชีวิต
    มรดกตระกูลงั้นหรือ?  ช่างมันปะไร
    เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว  ใครคิดแช่งชิงสิ่งใดก็เอาไป  ข่านตัดสินใจจบชีวิตอันน่าเวทนาของตน    

    แต่แล้ว  ผู้มีพระคุณได้ปรากฏตัว
    
    เด็กหนุ่มนามว่ากริด    

    ข่านยังคงจดจำภาพแรกของกริดได้แม่นยำ  เด็กหนุ่มใบหน้าชังโลกและมีแววตาดุจดั่งปลาตาย
    
    เหมือนกับตนไม่มีผิด

    แต่ฝีมือต่างกันราวฟ้ากับเหว
    หลังจากกริดช่วยเหลือข่านให้พ้นวิกฤติ  เขายังเป็นทั้งลูกศิษย์  เพื่อน  และบุตรชาย
    
    ปัจจุบัน  เด็กหนุ่มคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นกษัตริย์  ชายที่เขาต้องเรียกขานว่าฝ่าบาท

    “ฮะฮะ…”

    ยามรัตติกาลเคลื่อนคล้อย
    ข่านขัดมันโลหะพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลซึมข้างแก้ม

    ด้วยวัยแปดสิบปี  เขามีชีวิตค่อนข้างยืนยาวหากเทียบกับอีกหลายคน
    คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง  ข่านจึงสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง  เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ   ร่างกายกระสับกระส่ายมาแล้วหลายวัน

    ความทรงจำในอดีตเริ่มหวนกลับมา  
    หลั่งน้ำตาโดยไม่รู้ตัวบ่อยครั้ง
    
    “คงใกล้เวลาที่เราต้องไปแล้ว”

    ทุกชีวิตเกิดมาพร้อมอายุขัย
    ว่ากันว่า  เมื่อถึงเวลาต้องไป  มนุษย์มักมีสัมผัสพิเศษรับทราบด้วยตัวเอง
    ใครบางคนอาจมองข่านเป็นเพียง NPC 
    แต่เขาก็มีความรู้สึกนึกคิด  มีอารมณ์  และมีหัวใจ    
    
    ข่านสัมผัสได้ว่าตนเหลือเวลาไม่มาก
    นั่นคือสาเหตุที่เขากระหน่ำทุบค้อนด้วยจังหวะถี่กว่าปรกติ  ข่านบรรจงลงค้อนโดยหวังตอบแทนบุญคุณกริดในวาระสุดท้าย
    
    บุญคุณของเด็กหนุ่มปริศนาที่ทำให้ตนกลับมามีชีวิตใหม่

    ชีวิตที่ถูกเติมเต็มสมบูรณ์

    เคร้ง!  เคร้ง!

    หรือข่านกำลังพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงสายเลือดอัลบาติโน่?
    สายเลือดช่างตีเหล็กที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้แพ็กม่า
    
    ข่านเพ่งสมาธิจดจ่อเพื่อหวังสร้าง ‘วัลฮัลล่า’ ให้ยอดเยี่ยมกว่าของเดิม
    เขาใส่จิตวิญญาณและความห่วงใยทั้งหมดลงไป  ชุดเกราะตัวใหม่ที่คอยรักษาชีวิตกริดให้รอดพ้นภัยอันตราย

    ‘นี่อาจเป็นงานสุดท้ายของเรา’

    โอกาสเดียวที่เหลืออยู่
    ชุดเกราะตัวนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า  ช่วงชีวิตช่างตีเหล็กที่ผ่านมามิได้สูญเปล่า
    ผู้เป็นอาจารย์ของราชาโอเวอร์เกียร์จะสร้างไอเท็มด้อยค่าไม่ได้เด็ดขาด

    เคร้ง!  เคร้ง!

    ข่านปรารถนาแรงกล้าให้ ‘วัลฮัลล่า’ กลายเป็นชุดเกราะอันดับหนึ่งของโลก
    ชุดเกราะที่กริดสวมใส่โดยไม่อายใคร
    ชุดเกราะที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้พบเห็น  ข่านพร่ำบอกกับตัวเองทุกครั้งเมื่อมองไปยังเกราะที่กริดสวม
    
    เคร้งงง!

    ค้อนของข่านกระทบโลหะด้วยเทคนิคซับซ้อนที่สั่งสมมาชั่วชีวิต  โลหะถูกทุบด้วยความละเอียดอ่อนปราณีต  
    เป็นงานชั้นเลิศมิต่างจากฝีมือช่างตีเหล็กในตำนาน
    เป็นค้อนที่อัดแน่นด้วยแรงปรารถนาของช่างตีเหล็กแก่ชรา

    ข่านกำลังผลิตผลงานชิ้นเอกโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
    
    ท่วงท่าอันงดงามมิได้เกิดจากปาฏิหาริย์  
    หากแต่มาจากประสบการณ์และความมุ่งมั่นที่บีบเค้น
    
    เคร้ง!  เคร้ง!

    ช่างตีเหล็กกะกลางคืนคนอื่นกำลังก้มหน้าสร้างเซ็ตกริด  เสียงทุบค้อนของมวลหมู่ช่างกำลังดังกังวาลทั่วโรงเหล็ก
    แต่เสียงจากค้อนข่านกลับใสนวลและกระจ่างชัดกว่าใครทั้งหมด
    
    “วันนี้หัวหน้าตั้งใจเป็นพิเศษแฮะ”

    “เห็นด้วย  คงออกมาเป็นผลงานชิ้นเอกระดับทวีปแน่”

    “แต่ฉันเป็นห่วงสุขภาพเขามากกว่า…หัวหน้าไม่ได้นอนมาหลายวันแล้วไม่ใช่หรือ?”

    ทันใดนั้น  เสียงบุคคลประหลาดได้ดังจากทางเข้า
    
    “เหมือนกับแสงเพลิงสุดท้ายที่สว่างวูบวาบก่อนดับมอดยังไงล่ะ”

    เป็นเสียงอันแหบพร่า

    แกร่ก!  แกร่กแกร่ก!

    จากนั้นก็มีเสียงประหลาดดังแว่ว
    คล้ายกลับเสียงฝีเท้ามนุษย์  แต่บางเบากว่ามาก

    “…?” 

    ข่านรีบหันมองยังทางเข้า   
    จากนั้นก็ต้องตะลึง

    “ฮ…เฮ้ย!”

    “ค…โครงกระดูก?”

    ไม่ผิดแน่
    โครงกระดูกจำนวนมากได้ปิดทางเข้าออกทั้งหมดของโรงเหล็กไว้
    ร่างไร้วิญญาณของพวกมันย่างกรายเข้ามาพลางแผ่รังสีคุกคาม

    อัศวินโครงกระดูก
    ท่ามกลางกลุ่มก้อนสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยง  เวอราดินจ้องมองข่านไม่กระพริบ
    
    “ถึงกับยอมแลกอายุขัยเพื่อสร้างผลงานชิ้นสุดท้าย  ถือเป็นทัศนคติที่น่าชื่นชมของช่างฝีมือ  ไม่แปลกใจว่าทำไมราชาโอเวอร์เกียร์ถึงชื่นชอบแกนัก”

    “แกเป็นใคร?”

    อุตสาหกรรมตีเหล็กคือหัวใจสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    สถานที่แห่งนี้มักมีทหารประจำการจำนวนมาก  แถมยังมีหน่วยอัศวินเดินลาดตระเวนทุกชั่วโมง

    แต่ปัจจุบัน  ผู้บุกรุกปริศนากลับปรากฏตัวใจกลางเมืองหลวง  
    ข่านจินตนาการได้ไม่ยาก  ว่าภาพด้านนอกสยดสยองนองเลือดมากเพียงใด
    
    เวอราดินตอบกลับด้วยรอยยิ้มสุดชั่ว

    “ต้องขอโทษด้วย  แต่ฉันเป็นผู้ร้าย”

    แปะ!

    เมื่อเวอราดินส่งสัญญาณ  ชายสวมผ้าคลุมด้านหลังมันปรบมือหนึ่งครั้ง
    เป็นสัญญาณให้อัศวินโครงกระดูกเริ่มเคลื่อนไหว

    “อ…อึ๋ย!”

    “ห…หัวหน้า!  หนีเร็ว!”

    แม้เหล่าช่างตีเหล็กจะหวาดกลัว  แต่ทุกคนก็รวมตัวขัดขวางอัศวินโครงกระดูก
    พวกเขาล้วนทราบดี  ชีวิตของข่านมีค่ามากกว่าตนหลายเท่า
    ข่านคืออาจารย์ที่ช่างตีเหล็กทุกคนในไรน์ฮาร์ทให้ความเคารพนับถือ  แถมยังเป็นคนสนิทของกษัตริย์กริด

    “อ๊ากกก!”

    "อั่ก…!  ข่าน!  รีบหนีเร็วเข้า!"

    อัศวินโครงกระดูกถือเป็นอันเดดระดับสูง  พวกมันถูกสร้างจากซากศพอัศวิน

    เมื่อตายไปแล้วหนหนึ่ง  ร่างโครงกระดูกจึงปราศจากความกลัว
    เวทมนตร์สนับสนุนจากหมอผียิ่งช่วยให้พวกมันมีพลังมากขึ้น
    
    ขนาดอัศวินอาณาจักรยังดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับอัศวินโครงกระดูกไม่ง่ายนัก
    ไม่ต้องกล่าวถึงช่างตีเหล็กที่ไร้ฝีมือต่อสู้
    แม้พวกเขาอาจมีค่าพละกำลังและความอดทนสูง  แต่ทุกคนก็เป็นเพียงพลเมือง

    โครงกระดูกนักรบห้าตนสามารถกวาดล้างช่างเหล็กได้หลายสิบ

    “เจน…!  อับรา!”
    
    ข่านตะโกนด้วยใบหน้าขาวซีด
    ช่างตีเหล็กรุ่นใหม่ซึ่งเป็นอนาคตของอาณาจักร  พวกเขากลับยอมสละชีวิตเพื่อให้ไม้ใกล้ฝั่งอย่างตนอยู่รอด
    ข่านตกอยู่ในห้วงความสิ้นหวังรุนแรง

    “จะไม่มีใครต้องหลั่งเลือดเพิ่ม  หากแกมอบชีวิตให้ฉันแต่โดยดี”

    ความตายของช่างตีเหล็กหนุ่มสาวทำให้เวอราดินไม่พอใจ  เหยื่อนอกเหนือแผนการควรมีจำนวนให้น้อยที่สุด

    เวอราดินมองเห็นความสำคัญของชีวิต NPC งั้นหรือ?

    ผิดแล้ว  ไม่ใช่ว่าลังเลที่จะฆ่าคน
    แต่มันไม่ชอบใจเมื่อแผนการไม่ตรงตามที่วางไว้
    
    เวอราดินปิดกั้นทุกทางเข้าออกโรงตีเหล็กเพื่อเร่งมือสังหารข่านโดยเร็ว
    เหตุการณ์โฉ่งฉ่างเช่นนี้ย่อมส่งผลให้เกิดเสียงเล็ดลอดไปด้านนอก
    
    ทันใดนั้น

    มีบางสิ่งพุ่งลงจากเพดานอย่างรวดเร็ว
    ร่างอัศวินโครงกระดูกทั้งห้าตนถูกผ่าทำลายเป็นสองซีกในพริบตา

    “…!”

    นัยน์ตาดำเวอราดินพลันสั่นระริก
    ชายปริศนาที่ทำลายโครงกระดูกระดับสูงทั้งห้า  มันรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
    
    “เฟคเกอร์…ทำไมแกถึงอยู่ที่นี่?”

    ในฐานะเพื่อนสนิทของกริด  มิใช่ว่าเฟคเกอร์กำลังรับชมการแข่ง PVP อยู่หรือ?
    เป็นสุนัขรับใช้ก็ควรเชียร์เจ้านายอย่างซื่อสัตย์ถึงจะถูก
    
    เวอราดินขมวดคิ้วพลางมองเข้าไปในแววตาเฟคเกอร์

    มันเริ่มเข้าใจ
    
    “เทพสังหารสินะ…แกคงอยากเป็นเทพมากกว่าสุนัขรับใช้ใช่ไหม?”

    ฟุ่บ!

    ยังไม่ทันที่เวอราดินจะกล่าวจบ
    เฟคเกอร์ใช้ความเร็วอันน่าทึ่งเข้าประชิดตัวมันจากด้านข้าง

    อาวุธในมือเฟคเกอร์สร้างจากวัสดุบีเลียลเฉกเช่นขุนพลโอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่
    มีดสั้นบีเลียลแทงใส่สีข้างเวอราดินอย่างแม่นยำ
    
    ฉึก!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 12,900 หน่วย ]
[ ท่านติดคำสาปแห่งไฟและความมืด ]
[ ทุก 5 วินาที  พลังชีวิตจะลดลง 4.8% ของพลังชีวิตสูงสุด  ผลของคำสาปคงอยู่ 30 วินาที ]

[ ท่านต้านทานคำสาปความมืดด้วยพลังของคลาสหมอผี ]

    “โฮ่…เปิดก่อนได้เปรียบสินะ?”
    
    เวอราดินรีบถอยหลังตั้งหลักพลางดื่มโพชั่น  ขณะที่เฟคเกอร์กำลังพุ่งเข้าประชิดตัวอีกครั้ง

    ฟุ่บ!

    เวอราดินยกนิ้ว
    ทันใดนั้น

    “อั่ก!”

    “…?”

    ข่านส่งเสียงโอดครวญ  
    เฟคเกอร์รีบหันกลับไปมองด้วยสีหน้าตื่นตระหนก  

    อัศวินความตายตนหนึ่งปรากฏตัวจากความมืด  ดาบในมือของมันกำลังจ่อที่ลำคอข่าน
    
    เมื่อเห็นเฟคเกอร์ชะงัก  
    เวอราดินหรี่ตาลงเป็นทรงจันทร์โค้ง
    รอยยิ้มมุมปากของมันชั่วร้ายสุดขีด

    “ฉันสืบทราบมาว่าช่างตีเหล็กคนนี้สนิทกับกริดมาก  แต่ไม่คิดว่าจะมีแกคอยปกป้องอารักขาด้วยตัวเอง  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีช่างฝีมือถมเถไม่ใช่รึไง?”

    “…”

    “หืม…ดูนายไม่ค่อยตกใจกับการลอบโจมตีสักเท่าไร  คงรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วสินะ?  ใครเป็นคนเตือนล่ะ?  หรือเจ้าลอเอลคนนั้นมองออกแต่แรก?”

    เหรียญรางวัลงานแข่งนานาชาตินั้นมีมูลค่าสูงลิบ  โดยเฉพาะเหรียญทอง  สิ่งนี้มีค่ามากกว่าการปราบบอสพิเศษนับสิบเท่า
    
    แต่กำไรมหาศาลย่อมมาพร้อมความเสี่ยง

    เหตุใดแรงเกอร์หลายคนถึงปฏิเสธลงแข่งนานาชาติ?  คำตอบง่ายมาก  
    ขณะที่คู่แข่งของตัวเองกำลังเสียเวลาออก TV  คนเหล่านี้จะฉวยโอกาสเก็บเลเวลหรือล่าบอสเพื่อพัฒนาตัวละครให้ทิ้งห่าง

    การลงแข่งนานาชาติไม่รับประกันเหรียญรางวัลเสมอไป  
    คนที่พลาดเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์จะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
    
    ถึงกระนั้น  แรงเกอร์ที่เข้าร่วมการแข่งก็ยังมีจำนวนมากอยู่ดี  ทุกคนต่างตัดสินใจในสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง
    
    ลอเอลย่อมตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว
    เขาจึงเตรียมมาตรการรับมือเหตุไม่คาดฝันระหว่างแข่ง
    
    “วางคนสำคัญอย่างแกไว้ข้างกายเป้าหมายของฉันได้แม่นยำเช่นนี้…เจ้าลอเอลเป็นนักพยากรณ์รึไง?”

    ลอเอลมิใช่นักพยากรณ์  เขาเพียงปกป้องคนสำคัญของกริดเท่านั้น
    ลอร์ดและไอรีนมีคาซิม 
    ส่วนข่านมีเฟคเกอร์

    นี่คือสาเหตุที่แผนการเวอราดินต้องติดขัด  ทว่า  มันกลับมิได้แสดงท่าทีตื่นตระหนก    

    “ฉันรู้ว่าแกเก่งมาก  แต่พลังของแกอาจไม่ได้ผลกับฉันก็ได้…ใครจะรู้?”

    เวอราดินเป็นถึงมือขวาแอ็กนัส  บุคคลอันดับหนึ่งจากบรรดาสองพันล้าน
    ถึงจะเป็นความสัมพันธ์ฉาบฉวย
    แต่การที่แอ็กนัสยอมให้มันอยู่ข้างกาย  หมายความว่าเวอราดินมีดีมากพอ

    กลับกัน  เฟคเกอร์มิใช่มือขวากริด
    ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด
    เป็นเพียงหนึ่งในขุนพลมากมายที่กริดมี
    
    ความสำคัญแตกต่างกัน
    ระดับต่างชั้นกัน    

    ฉึบ

    เวอราดินสะบัดปลายนิ้วบงการด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    ฟุ่บ!

    เฟคเกอร์เร่งความเร็วระดับสูงสุดเข้าขัดขวางอัศวินความตาย
    
    เคร้งงง!

    “…!”

    หากมันมีความรู้สึก  เมื่อครู่คงตกตะลึงไม่น้อย  แต่อัศวินความตายไม่มีของแบบนั้น

    มีดสั้นเฟคเกอร์หยุดดาบได้ก่อนที่จะเสียบใส่ร่างข่าน
    จากนั้น  เขาเริ่มเปิดฉากโจมตี

    ฉัวะ!

    ฉัวะ ฉัวะ!

    คมมีดเฉือนใส่ร่างอัศวินความตายหนแล้วหนเล่า
    อัศวินความตายที่ร่างกายห้อมล้อมด้วยพลังเวทสีม่วง  มันกำลังตกอยู่ในอาการตาบอด
    เป็นผลมาจากทักษะประกายแสงจ้าของเฟคเกอร์

    ผัวะ!

    เฟคเกอร์ถีบอัศวินความตายจนกระเด็นถอยหลัง  จากนั้นก็คว้าข้อมือข่าน
    เขาต้องรีบพาข่านไปยังจุดปลอดภัย

    ทว่า

    “เสาบงการ”

    “เสาบงการ”

    “เสาบงการ”

    ตึง! ตึง! ตึง!

    เสาสีดำสูงหนึ่งเมตรปรากฏขึ้นรอบตัวข่านและเฟคเกอร์หลายต้น
    จำนวนของมันเพิ่มขึ้นทุกขณะ
    นี่คือทักษะเฉพาะของคลาสหมอผีระดับสาม

    คนเป็นอ่อนแอ  คนตายแข็งแกร่ง

    โฮกกกก!

    อัศวินความตายบุกใส่เฟคเกอร์อย่างฮึกเหิม  มันกวัดแกว่งดาบมั่วซั่ว  ไม่สนว่าผู้เคราะห์ร้ายจะเป็นข่านหรือเฟคเกอร์
    
    อาการตาบอดที่ยังไม่สลายงั้นหรือ?
    ผิดแล้ว  เมื่อเข้าระยะเสาบงการ  อาการผิดปรกติทั้งหมดได้ถูกขจัด

    การแกว่งดาบพิสดารมีรากฐานมาจากวิชาดาบสมัยยังมีชีวิต
    แม้จะไม่ละเอียดอ่อน  แต่ก็ดุดันราวกับสัตว์ป่าอาละวาด  เฟคเกอร์มองออกว่านี่คือวิชาดาบระดับสูง    

    ฟุ่บ!

    เคร้ง! เคร้ง!

    สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
    อัศวินโครงกระดูกทั้งห้าตนที่ถูกทำลายไปตอนแรก  บัดนี้เริ่มลุกขึ้นทีละตัวสองตัว
    พวกมันล้อมเฟคเกอร์และข่านจากทุกทิศทาง  อาวุธในมือเตรียมกวัดแกว่งสังหาร
    
    เมื่อเห็นท่าไม่ดี  
    ข่านรีบหันไปบอกเฟคเกอร์
    
    “ทิ้งฉันไว้ที่นี่  ส่วนนายรีบหนีไป”
    
    “…”

    “คนชราอย่างฉันมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน  ไม่คุ้มกับการที่นายต้องตายฟรี”

    “ชีวิตคุณมีค่ามากกว่าผมนับร้อยเท่า”

    เฟคเกอร์เปิดปากพูดเป็นหนแรก
    ข่านตะลึงไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงเฟคเกอร์ผู้เงียบขรึม  
    เขาใช้ชีวิตร่วมกับนักลอบสังหารในเงามืดผู้นี้มาหลายปี  แต่กลับไม่เคยได้ยินเฟคเกอร์กล่าวถ้อยคำใดมาก่อน

    เฟคเกอร์ส่งเสียงกระซิบ

    “จับผมให้แน่น  พวกเราต้องใช้ความเร็วที่สูงกว่าปรกติ”

    วาบ!
    
    มัดสั้นเฟคเกอร์พลันส่องแสงสีแดง
    เพียงพริบตา  พลังอสูรปริมาณมหาศาลระเบิดกระจายไปรอบตัว
    เสาบงการโดยรอบถูกทำลาย  อัศวินโครงกระดูกถูกสะกดให้ชะงัก

    มีเพียงอัศวินความตายที่หลบพ้น
    เฟคเกอร์พาข่านปีนป่ายขึ้นเพดานโรงเหล็กอย่างชำนาญ

    “โอเวอร์เกียร์…!”

    ขุนพลหมอผีต่างทึ่งกับพลังแห่งไอเท็มไปชั่วขณะ
    การคาดเดาพฤติกรรมขุนพลโอเวอร์เกียร์ไม่ใช่เรื่องง่าย  คนเหล่านั้นมักสวมใส่ไอเท็มเหนือจินตนาการเสมอ

    ขณะที่ทุกคนคิดว่าแผนการกำลังล้มเหลว

    โฮกกกก!

    อัศวินความตายพุ่งดักหน้าเฟคเกอร์ราวกับอ่านออก
    เวอราดินคาดเดาจากนิสัยเฟคเกอร์ที่พยายามปกป้องข่านเหนือชีวิต

    เคร้ง!

    เคร้ง!  เคร้ง!    

    ซู่ว— 
    
    เฟคเกอร์พลันขมวดคิ้วขณะแลกดาบกับอัศวินความตาย

    สถานการณ์กำลังเลวร้ายสุดขีด
    อัศวินปริศนาเริ่มแผ่พิษร้ายเป็นวงกว้างจนยากจะหลบพ้น

    “แค่ก…!”
    
    ข่านที่ถูกพิษเริ่มกระอักโลหิตสีดำคำโต

    
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,207
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณครับ​ 😊
    ค้างงงงง​ อีกแล้ว

    ReplyDelete
  2. เอาอีกแล้ว ค้างได้ตลอด ทำให้อยากอ่านไม่หยุดเลยจริงๆ ลุ้นต่อไป สายฟรีทั้งหลาย

    ReplyDelete
  3. ข่านตาย ตายเพราะหมดอายุขัยก่อนตายได้กลายเป็นตำนานรุ่นที่3 เพราะสร้างเกราะให้กริด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00