จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 771



[ ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 1,430… ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ] 

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

    『 น…นักกีฬากริดเปิดฉากถล่มใส่มังกรหนักหน่วงมากครับ!!  』

    『 พลังโจมตีของนักกีฬากริดสูงกว่านักกีฬาครอเกลอย่างเห็นได้ชัด!! 』

    『 ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน…!  ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีชื่อทรงพลังเช่นนี้  เป็นความรุนแรงที่น่าทึ่งมากครับ!!  』

    『 สิ่งที่โดดเด่นคือเพลิงสีดำนั่นต่างหาก  มันแสดงผลทุกครั้งไม่ว่ากริดจะใช้ทักษะหรือโจมตีธรรมดา  ผมขอเดาว่าเป็นทักษะติดตัวของกริดครับ 』

    『 อ…อย่างนั้นหรือครับ? 』
    
    ภาพฉากบันเฮเลียร์ถูกถล่มด้วยพายุรัศมีดาบสามสิบเส้นช่างน่าทึ่ง
    พลังทำลายของดาบพินาศทัพหนึ่งแสนสูงส่งเหนือจินตนาการ
    เป็นวินาทีที่ทักษะตัดตัวลับ ‘ป้องกันสัมบูรณ์(SSS)’ ของบันเฮเลียร์ถูกยกเลิกด้วยอำนาจบารมีของกริด

    สะดุ้ง

    ร่ายกายที่ยาวถึงสามสิบเมตรพลันสะดุ้งเล็กน้อย  ผู้ชมและผู้บรรยายเริ่มเกิดความหวังว่ากริดอาจล่าบันเฮเลียร์สำเร็จ
    
    แต่ความจริงตรงข้ามกับที่ตาเห็น

    เปรียบดั่งมนุษย์ที่ใช้เล็บขูดสีรถยนต์
    ไม่ต่างอะไรกับรอยขูดบางเฉียบที่เกิดจากกิ่งไม้กระเด็นเฉี่ยว  เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขนาดรถทั้งคัน
        
    เฉกเช่นบันเฮเลียร์ที่มีร่างกายยาวกว่าสามสิบเมตร    
    ดาบพินาศทับหนึ่งแสนมิได้สร้างบาดแผลทะลวงเกล็ดได้มากมายขนาดเป็นปัญหาใหญ่
    
    บันเฮเลียร์มิได้แยแสกริดแม้แต่น้อย
    กายาของมันมีค่าฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมดาสูงลิบ  ชนิดที่ความเสียหายหลักหมื่นหลักแสนกลายเป็นสิ่งไร้ค่า

    ไม่กี่วินาทีหลังจากดาบพินาศทัพหนึ่งแสนสร้างบาดแผลบนเกล็ดสีเทา  
    พลังฟื้นฟูของบันเฮเลียร์ก็เยียวยาให้กลับมามีสภาพเหมือนใหม่อีกครั้ง

    การโจมตีของกริดสร้างความเสียหายได้น้อยกว่าปริมาณพลังชีวิตที่บันเฮเลียร์ฟื้นฟู

    “อะ…”

    ผู้คนต่างหลงระเริงไปกับแสงสีตระการตาจนลืมความเป็นจริงไปชั่วขณะ
    ไม่ว่ากริดจะโจมตีมากเพียงใด  แต่หลอดพลังชีวิตบันเฮเลียร์ก็ไม่ลดลงแม้แต่เศษเสี้ยว

    ‘มันมีพลังชีวิตหมื่นล้านหน่วยรึไง?’

    ว่ากันว่า  จอมอสูรบีเลียลมีพลังชีวิตราวสองพันล้านหน่วย
    จึงไม่แปลกที่เผ่าพันธุ์มังกร  สิ่งมีชีวิตระดับสูงกว่าจอมอสูรลำดับหนึ่งอย่างบาเอล  จะมีพลังชีวิตมากถึงหมื่นล้าน
    
    หากมันยังมีค่าฟื้นฟูและพลังป้องกันที่มากมายเช่นนี้  
    กริดไม่มีวันสังหารบันเฮเลียร์สำเร็จแน่  ต่อให้เขาใช้ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนได้ไม่รู้จบ
    
    สงสัยต้องพึ่งพาดาบพินาศทัพหนึ่งล้านกระมัง… 

    “ฉ…ฉันขอโทษ”

    เคร้ง!

    ขณะครอเกลพยายามใช้ดาบในมือแทงใส่ปลายจมูกบันเฮเลียร์  
    เขาหันมาขอโทษกริด
    ครอเกลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโค้งศีรษะสำนึกผิด

    มังกร
    ครอเกลรู้สึกทึ่งกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้
    เป็นความหวาดกลัวที่สลักลงในส่วนลึกจิตใจ

    ตึง—!!

    ผืนปฐพีพลันสะเทือน
    กริดมิอาจรักษาการทรงตัว   
    เขาเริ่มเซเสียหลัก
    
    นี่มิใช่แผ่นดินไหว  แต่เป็นแรงสะเทือนที่บันเฮเลียร์พยายามใช้ขา ‘กระทืบ’ ใส่ครอเกลบนพื้นดิน
    ในสายตามังกร  มนุษย์แสนอ่อนแอไม่ต่างจากมดปลวกให้บี้เล่น
    
    แม้กริดสามารถโจมตีทะลวงเกล็ดและสร้างบาดแผลให้มัน  แต่ในมุมมองบันเฮเลียร์  กริดไม่ได้ดีไปกว่าครอเกลสักเท่าไร
    ทั้งน่าเบื่อหน่ายและไม่สลักสำคัญ

    เฉกเช่นมนุษย์ที่ไม่แยแสเวลามดกัดเท้า
    
    ซู่มมมม—!!     

    บันเฮเลียร์สาดพ่นลมหายใจอีกครั้ง
    ไม่มีทางเลยที่กริดจะรอดพ้นจากพลังทำลายมหาศาลซึ่งกินพื้นที่เกือบทั้งหมดบนเกาะ

    ผู้คนต่างพากันผิดหวังเมื่อเห็นกริดและครอเกลกลายเป็นแสงสีเทาไปพร้อมกัน    

    “…แม้แต่กริดกับครอเกลยังไม่ได้เศษเสี้ยวของมังกร”

    “รัศมีการพ่นลมหายใจขี้โกงเกินไป  ใครจะไปหลบพ้น?  ต่อให้นักกีฬาทั้งพันห้าร้อยคนรุมมัน  แต่พวกเขาจะถูกล็อกเอาต์ภายในสิบนาที”

    “ว่าแต่…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?  ทำไมถึงมีมังกรโผล่ขึ้นในการแข่ง PVP?”

    “…”

    ผู้ชมเริ่มสัมผัสถึงบรรยากาศที่ไม่ปรกติ
    ความยิ่งใหญ่ของมังกรได้ทำให้พวกเขาหลงลืมไปชั่วขณะ

    ฝูงชนรอบโตเกียวโดมเริ่มไม่พอใจเมื่อการแข่งซึ่งรอคอยมานานหนี่งปีกับอีกสามเดือนต้องมีจุดจบน่าสมเพช
    
    “ล้อกันเล่นใช่ไหม?”    

    “เอาค่าตั๋วคืนมา!”

    “โห่—!  โห่—!!”

    กองเชียร์เริ่มระบายความโกรธใส่ผู้จัดการแข่ง  ถ้อยคำตำหนิมากมายพรั่งพรูไม่หยุด  ไม่มีใครตื่นเต้นกับบันเฮเลียร์อีกแล้ว

    มังกรคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันเอื้อมถึง  ไม่มีทางได้เผชิญหน้าในชีวิตประจำวันแน่
    พวกเขาต้องการในสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า

    หลังจากกริดและครอเกลเสียชีวิตลง
    บันเฮเลียร์ยังคงยืนอยู่ตามลำพังท่ามกลางเวทีประลองอันว่างเปล่า
    มันเหลียวซ้ายแลขวาอย่างสับสน  ไม่เข้าใจสถานการณ์รอบข้างแม้แต่น้อย
    เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุไม่คาดฝัน  แม้แต่สิ่งมีชีวิตทรงพลังเคียงคู่เนอวาร์ธานก็ยังรู้สึกหวาดระแวง

    ขณะเดียวกัน

    “อ๊ะ!  ดูนั่น!”

    “อะไรกัน?  เป็นการจัดฉากหรอกหรือ?”

    ภาพบนหน้าจอถูกตัดไปยังสถานที่อื่น
    เวทีประลอง PVP มีการเปลี่ยนแปลง

    สนามแข่งใหม่มีขนาดกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาชนิดที่มนุษย์กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น
    บันเฮเลียร์เพิ่งปรากฏกายไปเมื่อครู่
    แต่หลังจากนั้นไม่นาน  เวทีประลองได้แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับรังของบันเฮเลียร์

    “รังมังกรงั้นหรือ?”

    เมื่อได้เห็นฉากใหม่  ผู้คนต่างคาดเดาว่ามันคือเวทีประลอง

    เมื่อกริดและครอเกลถูกส่งมาคืนชีพ ณ สถานที่แห่งนี้  คนทั้งสองรีบอ่านข้อความระบบตรงหน้าทันที

[ ท่านถูกสังหารโดยบันเฮเลียร์  
พิษมังกรชั่วแทรกซึมอยู่ในปอดท่าน
การฟื้นฟูพลังชีวิตลดลง 60% จนกว่าท่านจะเสียชีวิตอีกรอบ ]

    “…” 

    คำสาปสุดจังไรที่ต้องแก้ด้วยความตายสถานเดียว
    ครอเกลทำเพียงเงียบงัน  บนใบหน้าเผยรอยยิ้มจืดชืด  นี่คือครั้งแรกที่เขารู้สึกสิ้นหวังมากขนาดนี้
    ไม่ว่าจะเป็นชีวิตจริงหรือซาทิสฟาย

    ทุกครั้งที่พานพบศัตรูแข็งแกร่ง  ในหัวครอเกลมักคิดหาทางเอาชนะให้ได้เสมอ
    แต่เหตุการณ์เมื่อครู่กลับสลักความหวาดกลัวลงในใจ  มังกรคือสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่มนุษย์มิอาจเอาชนะได้ชั่วกาลนาน

    ครอเกลไม่ต้องการเผชิญหน้ากับมังกรอีกแล้ว  เขาหวาดกลัวต่อมันมาก

    ทว่า  กริดกลับแตกต่าง

    “ชิ…!”

    เขากำลังสบถหัวเสีย
    ศัตรูที่มีอาจเอาชนะได้ชั่วชีวิตงั้นหรือ?
    สำหรับกริด  ชายหนุ่มเคยเผชิญหน้าความสิ้นหวังยิ่งกว่านี้หลายเท่า
    กริดจะใช้ความท้อแท้เหล่านั้นคอยค้ำจุนให้ตัวเองฝึกฝนอย่างหนักเสมอ
    
    ตรงกันข้ามกับครอเกลโดยสิ้นเชิง    

    “ไอ้จิ้งจกบัดซบ!  โผล่มาถึงก็สักแต่ฆ่าแกงลูกเดียว!  ไอ้ระยำเอ้ย!  คราวหน้าฉันจะจับแกทำจิ้งจกย่าง!!  ชิ!”

    “…”

    “คิดออกแล้ว…ฉันจะสร้างไอเท็มปราบมังกรมาเชือดแกโดยเฉพาะ!!”

    “…”

    ความมุมานะของกริดอยู่ในระดับน่าทึ่ง
    ครอเกลจ้องมองพร้อมกับเกิดความรู้สึกประหลาด

    “ไอ้จิ้งจกระยำนั่น…นายต้องเรียกมันออกมาอีกในอนาคต  เข้าใจไหม?”

    “อะไรนะ?”

    “ไม่ต้องห่วง  ถึงตอนนั้นพวกเราจะสวมใส่ไอเท็มปราบมังกรครบชุด  ฉันกับนายจะเฉือนเกล็ดของมันมาสร้างชุดเกราะ”
    
    “…”

    "แล้วก็…ฮุฮุฮุ!  พวกเราจะดื่มเลือดมันให้สาแก่ใจ!  แค่คิดก็เจ๋งแล้วใช่ไหม?"

    “…” 

    ครอเกลทราบดีว่ากริดเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่  แต่เขาไม่คิดว่าจะถึงระดับนี้

    ‘กริดมีในสิ่งที่เราไม่มี’

    ครอเกลคิดทบทวนเหตุการณ์อีกครั้งอย่างใจเย็น

    “แล้วจะเอายังไงกันต่อ?”
    
    เมื่อกริดเห็นกล้องฉายภาพกำลังจับจ้อง  เขาทราบดีว่าการแข่งยังต้องดำเนินต่อ
    ปัจจุบัน  ทั้งสองต้องคำสาปมังกรชั่ว
    อัตราการฟื้นฟูทั้งหมดลดลง 60%
    ไม่ว่าจะเป็นแหวนโดรัน  แหวนเอลฟิน·สโตน  และพลังเครย์ 
    
    สถานการณ์ฝั่งครอเกลก็ไม่ต่าง  ออกไปทางเลวร้ายยิ่งกว่า
    ครอเกลมีทั้งทักษะ ‘คำสาปโทรลล์จ่าฝูง’  ‘ทะลวงคร่ำครวญ’ และ ‘ดาบสีชาด’

    แน่นอน  ทาง SA กรุ๊ปมิได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว
    ผู้จัดการแข่งมีแผนปัดเป่าคำสาปโดยหยิบยืมนามแห่งเทพมาใช้งาน

[ เทพธิดารีเบคก้าปัดเป่าคำสาปมังกรชั่วออกจากตัวท่าน ]

    ขณะเดียวกัน

    『 ทุกท่านตื่นเต้นเร้าใจไปกับการปรากฏตัวของมังกรชั่วบันเฮเลียร์หรือไม่ครับ?  มันทำให้อรรถรสการแข่งนัดชิงชนะเลิศสนุกขึ้นบ้างไหม?  แต่หลังจากนี้  การแข่ง PVP นัดชิงชนะเลิศกำลังจะก้าวเข้าสู่เวทีถัดไป  และสนามประลองที่ผู้เข้าแข่งทั้งสองต้องดวลกันคือรังมังกร!!  เป็นรังของมังกรชั่วบันเฮเลียร์เมื่อครู่นั่นเองครับ!!  』

    『  ยกที่สอง…เริ่มได้!!  』

    เมื่อได้รับข้อความจากฝ่ายจัดงาน  ผู้บรรยายจึงประกาศกึกก้องด้วยเสียงดังกระหึ่ม
    กริดและครอเกลได้แต่อมยิ้มเมื่อเหตุการณ์กลายเป็นเช่นนี้

    “ฝ่ายจัดงานคงลำบากกันไม่น้อย”

    “นั่นสินะ”

    “มาทำให้มันจบกันเถอะ  สู้กันให้ตายไปข้าง  ฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว”

    “ไม่มีปัญหา”

    ไม่ต้องมีถ้อยคำเพิ่มเติมให้มากความ

    ทรัพยากทุกชนิดรวมถึงระยะหน่วงทักษะถูกย้อนกลับไปก่อนที่บันเฮเลียร์ปรากฏตัว
    
    ชายหนุ่มสองคนพุ่งประจัญหน้าใส่กันด้วยบรรยากาศฮึกเหิม

    เคร้งงง!

    พลังโจมตีอันสูงส่งของกริดกำลังถูกรีดเร้นด้วยปราณต่อสู้เกินกว่าห้าสิบหน่วย
    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ครอเกลจะรับมือไหว
    ยิ่งการแลกดาบดำเนินไป  ครอเกลก็ยิ่งตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

    ครอเกลตัดสินใจไม่ปะทะ  เขาโยกตัวหลบพร้อมกับบงการดาบที่เหลือโจมตีใส่ช่องว่าง
    ดาบบินพุ่งแทงใส่จุดที่กริดยากจะหลบพ้น  แต่กระนั้น  ราชาโอเวอร์เกียร์มิได้แสดงสีหน้าหวาดหวั่น    

    เมื่อเพ่งมองด้วยดวงตาช่างตีเหล็ก  ดาบบินเหล่านี้มีเกรดเพียงยูนีคถึงเลเจนดารี 
    เขาประเมินว่าพลังป้องกันมหาศาลของตนจะช่วยดูดซับไว้ได้มิให้บาดเจ็บหนัก
    หากไม่ใช้การกวัดแกว่งจากมือครอเกลโดยตรง  ดาบบินเหล่านี้ก็ไม่เป็นปัญหา

    ฉึก!  ฉึกฉึก!

    แนวทางการต่อสู้ของกริดเริ่มเปลี่ยนเป็นตาต่อตาฟันต่อฟัน  
    เลือดต้องแลกด้วยเลือด
    หลังจากตนถูกฝูงดาบบินทิ่มแทง  ราชาโอเวอร์เกียร์หมายฟันร่างอริยดาบให้ขาดเป็นสองท่อน

    ทว่า  สิ่งนั้นกลับไม่เกิดขึ้น
    ท่อนแขนกริดชะงักค้างกลางคัน

    หนึ่งในดาบบินได้เสียบเข้าที่ข้อศอกขวาแม่นยำ
    เขามิอาจขยับแขนขวาข้างถนัด
    เพราะใบดาบได้เสียบขัดข้อต่อมิให้เคลื่อนไหวสะดวก  สิ่งนี้คืออาการผิดปรกติทางกายภาพที่ทักษะติดตัวตำนานมิอาจต้านทาน

    ‘บ้าน่า…!’

    มนุษย์แบ่งจิตแม่นยำขนาดนี้ได้ยังไง?

    ‘เหลือเชื่อ…’

    ขณะกริดกำลังทึ่งและตื่นเต้น

    “ดาบลงทัณฑ์”

    เปรี้ยะ!  เปรี้ยะ!

    คมเขี้ยวขาวสีเงินฟันเสยขึ้นจากด้านล่าง
    สุดยอดทักษะที่ครอเกลเคยยกเลิกกลางคันเพราะบันเฮเลียร์โผล่มาขวาง  คราวนี้มันกลายเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงของกริด

    กึก!

    มือขวากริดมิอาจขยับปัดป้องได้ทัน
    ชายหนุ่มคิดไวทำไว  เขาชักยารุกต์จากช่องสัมภาระด้วยมือซ้าย
    ครอเกลมั่นใจหลายส่วนว่ากริดจะตอบโต้ด้วยวังวน

    ทว่า  
    ตัวเลือกราชาโอเวอร์เกียร์กลับผิดแผก

    “ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน!”

    ‘ในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ?’

    ฟุ่บฟุ่บ!

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—!
    
    ทักษะทรงพลังที่สามารถทะลวงผ่านเกล็ดมังกรกำลังพุ่งใส่หมายดับลมหายใจครอเกล
    พายุรัศมีดาบโอบล้อมท่วมร่างอริยดาบในจังหวะเดียวกับที่คมเขี้ยวขาวเริ่มส่องประกายสีเงินแวววาว

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,204
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เขี้ยวขาวส่องประกายนี่จะเอามังกรกลับเข้าเซิฟมั้ย

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าจะครับแต่คงต้องรอในอนาคตว่าจะมาหรือเปล่า

      Delete
  2. นี้ถ้ามันตามมาอีกนะพีคเลยนะ

    ReplyDelete
  3. สนุกมากครับขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00