จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 773

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 773

    “เฮ—!!”

    “กริดทำสำเร็จ!!”

    “สุดยอด!!”

    “ก็อดกริด…!  ฉันรักนาย!  ก็อดกริด!!”

    เป็นภาพที่น่าแปลกไม่น้อยเมื่อเห็นกริดยืนบนแท่นรับเหรียญในลำดับสูงกว่าครอเกล
    เขาเอาชนะฟ้าเหนือฟ้าผู้ครองบัลลังก์อันดับหนึ่งตลอดกาลได้สำเร็จ
    
    กริดเคยนำพาเกาหลีใต้เป็นรองแชมป์โลกได้สองปีติดต่อกัน  ทั้งที่เกาหลีถูกตราหน้าว่าเป็นชาติอ่อนแอ

    กริดมอบเกียรติยศมากมายให้แก่เพื่อนร่วมชาติ  จึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ที่แรงเกอร์รุ่นใหม่ชาวเกาหลีใต้จะยึดกริดเป็นแบบอย่าง

    แม้กระทั่งสวาปามจกบัลเผ็ดที่แสร้งทำเป็นไม่ชอบหน้า  ชายคนนี้ก็กำลังขนลุก
    เขาเริ่มตระหนักว่าตนรักชาติมากกว่าที่ตัวเองคิด  สวาปามจกบัลเผ็ดเผลอโอบกอดกับพีคซอร์ดอย่างดีใจ
    
    “นายควรโนมน้าวให้ ‘องค์หญิง’ ยอมเข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์”
    
    วีโอล่ากล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง

    ขณะเดียวกัน  กริดกำลังให้สัมภาษณ์บนหน้าจอขนาดใหญ่

    “เฉกเช่นทุกคนที่เล่นซาทิสฟาย  ครอเกลคือเป้าหมายของผมมาโดยตลอด  เรื่องราวของเขาทำให้ดวงตาผู้คนลุกวาวได้เสมอ”

    “…”

    “ผมต้องการเป็นเหมือนเขา  จึงฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก  และปัจจุบันคือผลลัพธ์”

    กริดชะงักถ้อยคำ  เขาหันมองครอเกลที่กำลังถูกนักข่าวรุมล้อมไม่ต่างกัน
    สายตากริดยังคงแน่วแน่ไม่สั่นคลอน

    “เป็นเพราะครอเกล  ผมถึงมีทุกวันนี้ได้  ครอเกลจะเป็นทั้งคู่แข่ง  และแบบอย่างที่ดีให้ผมตลอดไป”

    กริดหลับตาลงพลางสูดลมหายใจลึก  
    เขาหวนนึกถึงช่วงชีวิตในอดีต
    เริ่มตั้งแต่สมัยเล่นซาทิสฟายอย่างไร้ทิศทาง  ผ่านอุปสรรคนานาชนิด  จนกระทั่งได้ยืนบนจุดสูงสุดเหนือผู้ใด
    กริดลืมตาขึ้นพลางอมยิ้ม

    ขณะที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ

    “และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย…แค็ปซูลของโคเม็ตกรุ๊ปยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”

    ในปีก่อน  เขาเซ็นสัญญาควบสองปีกับโคเม็ตกรุ๊ป  ปีนี้จึงยังต้องทำหน้าที่ขายของ
    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า  ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา  ยอดขายของโคเม็ตกรุ๊ปถล่มทลายเพราะการโปรโมทจากกริด
    
    ปีนี้ก็เช่นกัน  เขากล่าวโฆษณาในช่วงเวลาสำคัญที่คนทั่วโลกรับชม
    พนักงานโคเม็ตกรุ๊ปต่างดีใจจนหลั่งน้ำตา  ทุกคนรู้สึกติดหนี้บุญคุณกริดไปชั่วชีวิต
    ประธานบริษัทถึงกับวางแผนยกบุตรสาวคนเล็กให้กริด

    แต่หล่อนรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
    
    มิใช่ว่าเธอไม่ชอบกริด  แต่เพราะรอบกายกริดมีทั้งยูร่าและจิสึกะอยู่แล้ว
    ไม่ว่าผู้หญิงคนใดก็คงรู้สึกด้อยค่า  หากถูกนำไปเปรียบกับเทพธิดาทั้งสอง

    ก็แค่ลูกคุณหนูร่ำรวย  
    เธอไม่มีสิ่งใดจะงัดไปสู้
    
    แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  
    มันคือบรรยากาศอันชื่นมื่นและอบอุ่น

    “เอ่อ…แล้วปีหน้า…”

    “นั่นสินะ…ขุมนรกของแท้”

    “พวกเราจะทำอะไรได้อีก?  มีแต่ต้องเลี่ยงไม่ลงแข่งเท่านั้น”

    คริส  ดาเมี่ยน  ป็อน  
    เรกัส  แค็ทซ์  และอีกมาก
    พวกเขาต่างรู้สึกสิ้นหวัง 
    ไม่มีใครรู้จักพลังปีศาจของกริดดีไปกว่าขุนพลโอเวอร์เกียร์อีกแล้ว

    ขอบคุณที่กริดคว้าแชมป์ PVP ในปีนี้  
    ในปีถัดไป  ไม่มีใครเสียสติพอจะลงแข่งรายการ ‘โค่นวีรบุรุษ’ แน่นอน
    
    “วังวนชะงักถาวรที่มาพร้อมหัตถ์เทวะ…บ้าบอสิ้นดี”

    “ร่างมืดและพลังบีเลียล…”

    “ไม่สิ…ดาบอัสนีฯ ต่างหาก”

    “ฉันเกลียดยารุกต์”

    “ถ้าเป็นอีกสองปีข้างหน้าอาจพอไหว…”

    “…”

    กริดร่างปัจจุบัน  พวกเขาจะเอาชนะได้ในสองปีจริงหรือ?
    ไม่มีใครกล้าตอบเต็มปาก  ทุกคนล้วนทราบอยู่แก่ใจดี
    ขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างกล่าวคำอำลาการแข่ง ‘โค่นวีรบุรุษ’ โดยมิได้นัดหมาย
    ไม่มีทางเลือกใดฉลาดกว่านี้อีกแล้ว

    ***
    
    “จะกลับเกาหลีใต้เลยไหม?”

    “อา…อยากกินกับข้าวฝีมือแม่แล้ว”

    “กับข้าวฝีมือแม่…อิจฉาจัง”

    “หือ? นายก็อยู่กับแม่ไม่ใช่รึไง? เดี๋ยวนะ…หรือว่าแม่นายป่วยอีกแล้ว?”

    “ป…เปล่า  ช่างมันเถอะ”

    โตเกียวโดมทำหน้าที่เป็นเวทีการแข่งนานาชาติปีที่สามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
    
    หลังจากจบพิธีปิด  กริดและครอเกลนั่งสนทนากันบนอัฒจันทร์ว่างเปล่า    
    เงาแดดพาดผ่านเกิดเป็นบรรยากาศสงบเงียบ

    “ในอนาคต  นายคงได้ผจญโลกกว้างมากมาย”

    “นายก็เหมือนกันไม่ใช่รึไง?”

    “ฉันเป็นคนพเนจร  ส่วนนายคือราชา  นายย่อมมีข้อมูลมากกว่า  และได้ท่องเที่ยวสถานที่แปลกใหม่กว่าเสมอ”

    “หืม?  นายกังวลงั้นหรือ?  เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”

    “…”

    “ฉันเป็นกษัตริย์  มีหน้าที่ต้องปกครองบ้านเมือง  คงเที่ยวไหนตามใจชอบไม่ได้”

    “…” 

    “แต่กับนายที่ไร้ภาระผูกพันธ์  ตัวเบาหวิวต่างจากฉันมาก”

    “เลิกพูดเรื่องดีกันนี้กว่า…จริงสิ”
    
      “…”    

    “กริด…นายต้องจำไว้หนึ่งเรื่อง”

    "ว่ามา"

    สายตาของครอเกลกำลังตึงเครียด
    เขาจะกล่าวสิ่งใดกันแน่?

    รอยยิ้มของกริดเริ่มจางหาย
    ชายหนุ่มตั้งใจฟังทันทีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

    “หากเดินทางไปยังทวีปตะวันออกในฐานะกษัตริย์  นายจะถูกอาณาจักรฮวานจ้องเล่นงาน”    

    ครอเกลมีเครือข่ายข่าวสารมากมาย
    เขาเดินทางไปยังทวีปตะวันออกก่อนกริด  และทราบดีว่ากริดเคยไปที่นั่นมาแล้ว
    แต่ครอเกลไม่มีข้อมูลว่ากริดพบเจอสถานการณ์ใดบ้าง
    รู้เพียงแค่  กริดมีชื่อเสียงโด่งดังในแพงเจีย  และนำพลเมืองแพงเจียกลับมายังอาณาจักร

    “นายคงได้ยินเรื่องราวอาณาจักรฮวานมาแล้ว  พวกมันคือศาสดาและผู้ปกครองเดียวของทวีปตะวันตก”

    “เหมือนกับจักรวรรดิซาฮารันสินะ?”

    สีหน้าครอเกลยังคงเคร่งเครียด
    เรื่องราวหลังจากนี้ค่อนข้างสำคัญ  มิอาจเล่าเรื่อยเปื่อยโดยขาดการไตร่ตรอง
    ครอเกลส่ายศีรษะ
    
    “พวกจักรวรรดิเทียบไม่ติด...”

    “…”

    “อย่างที่เคยกล่าวไป  พวกมันคือศาสดาและผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว
    อาณาจักรฮวานเหมือนกับพระเจ้าของชาวตะวันออก”

    “…”

    ใบหน้ายังบันการัมพลันแล่นเข้าหัวกริด
    เป็นเวลาเดียวกับที่ถ้อยคำ ‘ยังบัน’ หลุดจากปากครอเกล

    “ยังบัน…พวกมันมิใช่นักต้มตุ๋นที่อวดโอ่เรียกตนเองว่าสมมติเทพ
    พวกมันยกตนว่าเป็นเทพเพราะมีพลังมากพอให้โอหังเช่นนั้น”

    ครอเกลรีบกล่าวสรุป

    “อย่าได้เผชิญหน้ายังบันจนกว่าเลเวลของนายจะสูงกว่าห้าร้อย”

    “…” 

    “หากเดินทางไปยังทวีปตะวันออก  ให้ลอบทำอย่างเงียบเชียบ  ถ้านายถูกอาณาจักรฮวานหมายหัวเข้า  นั่นคงไม่ใช่เรื่อยดีแน่”

    “พวกมันน่ากลัวขนาดนั้นเชียว?”

    “ระบุให้ชัดคือ  นิสัยของพวกมันมิได้ชั่วร้าย  แต่หลักการใช้ชีวิตค่อนข้างแตกจากจ่างมนุษย์ปรกติ”

    “…” 

    “ให้มองเป็นมอนสเตอร์คงเหมาะกว่า”

    กริดหวนนึกถึงนิสัยสุดโฉดของการัม
    เขาไม่เห็นด้วยกับครอเกลเลยสักนิด
    ชายหนุ่มอมยิ้มพร้อมกล่าวถาม

    “แข็งแกร่งขนาดทำให้นายหวาดกลัวถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

    ครอเกลพยักหน้าโดยไม่ลังเล

    “พวกมันแข็งแกร่งมาก  หากให้เทียบกับนายตอนนี้  พวกมันคือยอดเขาสูงตระหง่านที่ตั้งบนขุนเขาลูกใหญ่ทอดหนึ่ง”

    “…”

    ครอเกลกำลังหมายถึงการสอบซือโหยวที่การัมกล่าวถึงรึเปล่านะ?
    เขาเคยพบพวกมันแล้วหรือ?

    ขณะกริดครุ่นคิดสงสัย  
    ครอเกลกล่าวต่อ
    
    "แต่ว่า…"

    “…?”

    “พวกมันแข็งแกร่งไม่เท่าบันเฮเลียร์” 

    “หึหึ…”

    กริดเข้าใจความหมายแฝง  เขาอมยิ้มพร้อมกับลุกบิดขี้เกียจ
    
    “เข้าใจแล้ว  ฉันจะพยายามเลี่ยงให้มากที่สุดก็แล้วกัน  แต่ไม่คิดหวาดกลัวต่อสิ่งมีชีวิตที่กระจอกกว่ามังกรหรอกนะ”

    “ได้ยินแบบนี้ค่อยเบาใจ”

    ใช่แล้ว  ยังไม่ถึงเวลาที่กริดต้องเสี่ยงชีวิตกับพวกมัน  เขาต้องอยู่ห่างกลุ่มคนวิปริตเหล่านั้นให้มาก  
    นอกเสียจากอีกฝ่ายจะหาเรื่องก่อน

    กริดแข็งแกร่งมากก็จริง  แต่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยังบัน

    ทว่า  ครอเกลมิได้ทราบเลยสักนิด  
    แท้จริงแล้ว  กริดได้ตกเป็นเป้าจ้องเล่นงานจากยังบันเรียบร้อย
    
    “ไปก่อนนะ  อยากกลับไปกินข้าวที่บ้านแล้ว”

    กริดกล่าวคำอำลาพร้อมยื่นแขนออกไปจับมือ  อันที่จริง  เขาอยากดื่มโซจูกับครอเกลสักแก้ว  แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

    ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับร่ำสุราพร้อมสหายคือ

    “ศึกสามรอบ…”

    “…?”

    “การดวลระหว่างลูกผู้ชายต้องตัดสินด้วยศึกสามรอบใช่ไหม?”

    “…”

    “ถ้าอย่างนั้น  พวกเรายังสู้กันไม่ครบ…ฉันไม่นับครั้งแรก”

    “ทำไมถึงไม่นับ?”

    “นายอยู่ในสภาพไม่พร้อม  เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากนายต่อสู้กับปิอาโร่เต็มฝีมือ”

    “…”

    “นายเองก็คงรู้อยู่แก่ใจ  หากมีสภาพสมบูรณ์พร้อม  ฉันคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะสร้างรอยขีดข่วน” 

    “คิดแบบนั้นก็ไม่ถูก  ฉันยอมรับคำท้าและฉันแพ้  นั่นคือความจริง”

    “ไม่ได้!  ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด”

    กริดดึงมือกลับพลางหันหลังให้ครอเกล

    “ศึกตัดสินคือการแข่ง PVP ในปีหน้า  เมื่อถึงตอนนั้น  พวกเราจะนั่งดื่มโซจูกัน”

    “เดี๋ยว…!” 

    กริดไม่สนใจฟัง  เขาแสร้งหูทวนลม
    ชายหนุ่มเดินตรงไปยังลานจอดรถที่ทูนกำลังรออยู่

    กริดเริ่มสัมผัสได้
    หลังจากเป็นอิสระจากคำว่าอันดับหนึ่ง  ครอเกลมีแผนเก็บตัวมิดชิดจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน
    จะกลับไปเป็นครอเกลคนเก่าที่ตัดขาดสิ่งรอบข้างอีกครั้ง

    “นายอย่าเพิ่งทิ้งฉันไป”

    กริดต้องการเห็นครอเกลในสายตาเสมอ  ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกกระวนกระวายใจ
    กริดต้องการทราบตลอดเวลา  ว่าครอเกลนำหน้าหรือตามหลังตนอยู่

    “ใจเย็นก่อน…อยู่สนุกเป็นเพื่อนฉันอีกสักปีสองปี”

    สำหรับกริด  เขามีวิธีเลื่อนศึกสามรอบด้วยข้ออ้างมากมาย
    ไม่เฉพาะการดวลครั้งแรกเท่านั้น  
    แต่เขาสามารถหาข้ออ้างไม่นับครั้งที่สองและสามได้เช่นกัน

    ไม่ยุติธรรมกับครอเกลเลยสักนิด

    กริดฉีกยิ้มกว้าง
    ทูนเองก็มีความสุขเมื่อได้เห็นกริดยิ้ม
    เขาดีใจที่เจ้านายของตนมีสีหน้าเหมือนกับมนุษย์ปรกติสักที
    
    กริดกลายเป็นคนละคนกับเมื่อเช้าโดยสิ้นเชิง    

    ‘อันดับหนึ่ง…’

    นักรบที่กลายมาเป็นช่างตีเหล็ก
    เข้าร่วมเซดากาห์
    ก่อตั้งโอเวอร์เกียร์
    ก่อตั้งอาณาจักร

    พัฒนาการของกริดยังไม่หยุดลงเท่านี้
    อีกหนึ่งปีให้หลัง  เขาจะเติบโตไปมากแค่ไหนกันนะ?
    
    ขณะทูนกำลังมีความสุข  เขากลับได้รับสายโทรศัพท์ที่ไม่คาดฝัน

    “…อะไรนะ!?”

    เป็นข่าวร้ายสุดขีด
    ทูนหน้าซีดเผือด  เขารีบหันไปมองเบาะด้านหลัง  กริดเหนื่อยล้าจนหลับไปแล้ว

    “รีบไปสนามบินเร็วเข้า!”
        
    ทูนกำชับคนขับ
    เขาได้แต่ภาวนาให้กริดมีฝันที่ดี    

    ***

    ย้อนเวลากลับไปสักเล็กน้อย
    เป็นช่วงที่การดวลระหว่างกริดและครอเกลเพิ่งเริ่มต้นขึ้น
    
    “ที่นี่แหละ”

    เวอราดินนำทัพขุนพลหมอผีเยือนโรงตีเหล็กใจกลางกรุงไรน์ฮาร์ท
    มันคือโรงตีเหล็กขนาดมโหฬาร
    ไม่สิ  เรียกว่าอุตสาหกรรมตีเหล็กคงเหมาะกว่า
    แบ่งออกเป็นห้าโรงย่อย  แต่ละโรงมีเตาหลอมมากกว่าสามสิบ  ป้ายเตือนมากมายแสดงให้เห็นว่ายังมีอีกหลายโรงอยู่ระหว่างก่อสร้าง

    “ไรน์ฮาร์ทได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล  สาเหตุมาจากโรงตีเหล็กสินะ”

    กลุ่มผู้เล่นคลาสหมอผีเริ่มส่ายศีรษะ
    ส่วนเวอราดินกำลังแสยะยิ้มชั่ว

    ‘กริดต้องโมโหมากแน่  หากโรงเหล็กเหล่านี้ถูกเผาทำลายจนเกลี้ยง’

    ชาวนาในตำนาน ‘ปิอาโร่’ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ที่ไซเรน  ปัจจุบันหายตัวไร้ร่อยนับตั้งแต่เหตุการณ์กริดยกทัพหลวงยังเรย์ดัน
    
    อัศวินคนแรกของกริด ‘จู๊ด’ ประจำการที่ไบรัน  ส่วนมหาจอมเวท ‘อัชเชอร์’ ประจำการที่ป้อมแพเทรี่ยน

    ‘สามขุนพลสวรรค์’ ของกริดไม่อยู่ที่ไรน์ฮาร์ทแม้แต่คนเดียว
    เวอราดินมั่นใจข้อมูลนี้มาก  เพราะเป็นข่าวกรองที่มาจากจักรพรรดินีแมรี่โดยตรง
    
    และสิ่งสำคัญที่สุด  งานแข่ง PVP นานาชาติกำลังดำเนินไป
    เดิมที  เมื่อ ‘สามขุนพลสวรรค์’ ของกริดไม่ประจำการ  หน้าที่อารักขาจะตกเป็นของขุนพลโอเวอร์เกียร์แทน

    แต่ปัจจุบัน  คนเหล่านั้นกำลังลุ้นผลการแข่งอย่างตื่นเต้น  ไรน์ฮาร์ทอยู่ในภาวะอ่อนแอไร้ข้อกังขา

    “แต่พวกเราไม่ควรประมาท…รีบลงมือสังหารข่านที่เป็นเป้าหมายได้แล้ว”

    ซู่ว—  

    ท่ามกลางความมืดมิด  มันเริ่มอัญเชิญอัศวินความตาย
    อัศวินความตายตนดังกล่าวถูกสร้างจากโครงกระดูกนักลอบสังหารฉายา ‘ยมทูตในเงามืด’
    
    หัวใจเวอราดินเริ่มเต้นโครมคราม
    เพื่อความก้าวหน้าของอิมมอทัล  มันจำเป็นต้องตัดกำลังโอเวอร์เกียร์ให้มากที่สุด
    ขุนพลอิมมอทัลเกือบทั้งหมดจึงถูกระดมพลเป็นการพิเศษ

    เหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้กริดคลุ้มคลั่ง
    จะเกิดอะไรขึ้นหากกริดคิดว่าเป็นฝีมือแอ็กนัส?    
    แน่นอน  กริดจะทำทุกวิถีทางเพื่อบดขยี้แอ็กนัสให้ราบคาบ

    แอ็กนัสจะมีท่าทีอย่างไรในสถานการณ์แสนสิ้นหวัง?
    วอราดินอยากเห็นปฏิกริยาตอบสนองของแอ็กนัสให้เต็มสองตา  มันต้องการสำรวจคนเสียสติให้ครบทุกซอกมุม

    ใช่แล้ว  ดังที่ลอเอลเคยกล่าวในอดีต 
    เวอราดินมิได้รับใช้แอ็กนัสเพราะจงรักภักดี  อีกฝ่ายก็แค่วัตถุดิบทดลองเท่านั้น
    
    ตัวอย่างชั้นเลิศที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว  และกริดก็ถูกเลือกให้เป็นเหยื่อในการทดลอง

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,206
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เอาแล้วไง รออ่านต่อพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่า พวกวอราดินมันจะทำสำเร็จไหม และกริดจะมีปฏิกิริยาอย่างไง ????? อ๊ากค้างจริงๆ ลุ้นๆ

    ReplyDelete
  2. กริดต้องโกรธจัดจนประกาศล่ายกแคลนแน่ๆ

    ReplyDelete
  3. สปอย..
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    เตรียมบ่อน้ำตาแตกได้เลย

    ReplyDelete
  4. ค้างงงง ลุ้นหนักมาก​ 👍

    ReplyDelete
  5. ยังมีอัสโมเฟลอยู่ ข่านอย่าตายนะ😢

    ReplyDelete
  6. ข่านตาย ตายเพราะหมดอายุขัยก่อนตายได้กลายเป็นตำนานรุ่นที่3 เพราะสร้างเกราะให้กริด

    ReplyDelete
    Replies
    1. *ติ๊ด**ติ๊ด**ติ๊ด*
      ...ค้นพบบุคคลที่ทำการสปอย ขอเรียกร้องสิทธิ์ในการแบนข้อความนี้

      Delete
  7. อ๊ากกกเวอราดิน ยังๆ ยังไม่รู้สินะว่ามี ราชันย์เงาและเทพสังหาร อยู่ เดียวเจอดีแน่ แต่มีข่าวร้ายซะแล้ว😭😭

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00