จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 765

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 765

    บนโลกนี้มีภาษาถิ่นอยู่มากมาย
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาติแผ่นดินใหญ่อย่างประเทศจีน  ว่ากันว่ามีภาษาถิ่นมากมายหลายร้อยชนิด
    
    “เปิดระบบภาษากลาง”

    ทันทีที่ล็อกอินเข้าซาทิสฟาย  กริดตัดสินใจปิดระบบแยกแยะภาษาถิ่น  หันมาใช้ภาษาหลักสากลของซาทิสฟายแทน
    เหตุผลคือ  เขาได้ยินจางเฉินพูดสำเนียงเหยียนเปียนซึ่งถูกเครื่องแปลภาษาแปลงออกมาเป็นถ้อยคำเกาหลี

    “ฉันเกลียดพวกเหยียนเปียน”

    “อะไรนะ?”

    กำแพงปราสาทไลอ้อนที่เก่าโทรมกำลังถูกสายลมแห้งแล้งพัดผ่านเป็นระยะ
    จางเฉินปรากฏตัวขึ้นในเกมพร้อมกับตะโกนอย่างฉุนเฉียว

    “กริด…ฉันไม่ปล่อยให้แกตายดีแน่!”

    ผ่านมาแล้วสองปีกับอีกสามเดือนนับตั้งแต่จางเฉินเริ่มเล่นซาทิสฟาย
    มันภาคภูมิใจในเครือข่ายข้อมูลมหาศาลของตนอย่างมาก  สิ่งนี้ช่วยทำให้เลเวลของมันไล่ตามทันเหล่าแรงเกอร์รุ่นเก่าได้ไม่ยาก
    จางเฉินเป็นสิบรุคกี้รุ่นที่สาม  แต่มันสามารถอัพเลเวลแซงสิบรุคกี้รุ่นที่สองได้อย่างง่ายดาย  
    
    กริด?  ครอเกล?  
    มันไม่เคยเชื่อ  ว่าคนเหล่านี้จะแข็งแกร่งสมคำร่ำลือจริง

    “สิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนคือ  ผู้เล่นเก่าที่ฉันได้เผชิญหน้าในงานแข่งนานาชาติปีนี้  พวกมันทุกคนล้วนกระจอกและฝีมืออ่อนหัด  การที่แกเป็นราชาของพวกมันได้  ไม่ได้แปลว่าแกแข็งแกร่งเลยสักนิด”

    สภาพสังคมของซาทิสฟายในยุคปัจจุบันเปรียบเสมือนผืนป่าที่ไร้ราชสีห์  

    เหล่าราชสีห์หายหัวไปไหนกันหมด?  
    ไม่มีใครทราบคำตอบของคำถามนี้
    
    แต่ที่แน่ชัดก็คือ  เหล่าหมาป่าและจิ้งจอกกำลังเริงร่าสุดขีด  พวกมันออกมาผงาดพร้อมกับทำตัวอวดเบ่งไปทั่วป่า

    จางเฉินเชื่อมั่นว่า  ด้วยพรสวรรค์ตน  มันสามารถขึ้นเป็นราชสีห์แทนเจ้าป่าชุดเดิมได้ไม่ยาก
    
    “ฉันจะปกครองผืนป่านี้เอง”

    มันจะคว้าแชมป์ PVP
    จางเฉินไม่เคยเคลือบแคลงสงสัย
    ความมั่นใจอันล้นปรี่เกิดจากความเร็วในการเก็บเลเวล  ที่สามารถแซงสิบรุคกี้ทุกรุ่นขึ้นมาทัดเทียมกับแรงเกอร์ชุดแรกได้ในระยะเวลาอันสั้น
    มันมั่นใจว่าตัวเองเจ๋งกว่ากริด
    
    “จะเอาอันไหนเชือดแกดีนะ?”

    จางเฉินแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับอวดโอ่แปดศาสตราที่มันแสนภาคภูมิใจทีละชิ้น
    อาวุธเหล่านี้ล้วนเป็นสุดยอดศาสตราที่ใช้งานโดยแรงเกอร์แถวหน้าของโลกในแต่ละสาขา
    สีสันและออร่าที่งดงามย่อมหมายถึงระดับการเสริมแกร่งที่สูงส่ง

    “โอ้ว…!”

    ผู้ชมส่งเสียงฮือฮาทุกครั้งเมื่อได้เห็นจางเฉินสลับอาวุธแต่ละชนิดออกมากวัดแกว่ง

    “มีอาวุธเยอะแยะก็เท่านั้น  อีกเดี๋ยวแกจะไม่มีสิทธิ์ใช้งานพวกมัน”

    กริดประกาศกร้าวพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
    ถ้อยคำดังกล่าวยั่วยุจางเฉินได้อย่างดี

    “ก็แค่ราชาของพวกสุนัขโง่เขลา!  กล้าดียังไงถึงอวดเบ่งท้าทายราชสีห์อย่างฉัน?  เดี๋ยวจะแสดงให้แกเห็นเอง…ว่าโลกที่แกเคยปกครองมันกระจอกแค่ไหน!”

    จางเฉินตะเบ็งเสียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ
    มันคำรามกึกก้องราวกับอสูรคลั่ง  
    ขวานยักษ์ในมือกวัดแกว่งโจมตีใส่กริด

    ชายหนุ่มยิ้มจืดชีดอย่างผิดหวัง

    ‘นี่น่ะหรืออันดับหนึ่งของรุ่นใหม่…’

    กริดเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร  
    เขาย่อมครอบครองข้อมูลที่ผู้เล่นทั่วไปเข้าไม่ถึง  กริดทราบถึงตัวตนของจางเฉินเป็นอย่างดี
    
    เด็กอัจฉริยะที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง  ถึงขั้นแซงหน้าสิบรุคกี้รุ่นเก่าได้ในระยะเวลาอันสั้น  

    ‘เคยคิดว่าจะเก่งกว่านี้…’

    แต่ในความเป็นจริง  จางเฉินเป็นเพียงก้อนเนื้อแห่งความโอหัง    
    เมื่อได้ยินมันหมิ่นเกียรติของแรงเกอร์รุ่นแรก  กริดมีหน้าที่ต้องสำแดงพลังเพื่อให้เด็กโลกแคบคนนี้ได้ประจักษ์
    กริดไม่ต้องการให้พวกพ้องที่เริ่มเติบโตมาด้วยกันต้องถูกเด็กอมมือดูแคลน

    บุคคลที่พยายามอย่างหนัก  ไม่มีใครสมควรถูกเหยียดเย้ยหยัน

    ซู่ว—! 

    ฝ่ามือสีทองจำนวนสี่ข้างปรากฏขึ้นเบื้องหลังกริด
    พวกมันกำลังถือมโยลเนียร์  ไอเท็มที่สามารถสร้างอาการผิดปรกติต่อเนื่องจนเกินคำว่าสมดุลไปไกล

    จางเฉินพลันแววตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นหัตถ์เทวะอันโด่งดัง

    “คุคุคุ!!  คุฮ่าฮ่า!!  ต้องอย่างนั้น!!  แกกำลังกลัวฉันอยู่สินะ! ถึงได้เอาจริงตั้งแต่เริ่ม!”

    ในอดีต  กริดมักไม่ค่อยนำหัตถ์เทวะออกมาใช้ในการแข่ง PVP มากนัก
    นอกจากการดวลกับครอเกลในนัดชิงชนะเลิศของปีที่แล้ว  ไม่มีครั้งใดเลยที่กริดอัญเชิญหัตถ์เทวะออกตั้งแต่ต้น

    จางเฉินกำลังทระนงตนว่ากริดหวาดกลัวมัน  กริดต้องประเมินมันให้อยู่ระดับเดียวกับครอเกลแน่!

    ผู้ชมต่างพากันตื่นเต้นกับภาพที่เห็น

    “กริดรีบใช้หัตถ์เทวะขนาดนี้เชียว?”

    “จางเฉินคงเก่งมาก…”

    “สมกับเป็นอันดับหนึ่งของสิบรุคกี้รุ่นที่สาม!”

    ในรอบแรก  จางเฉินสามารถเอาชนะบูบัต  หนึ่งในตัวตนอันโด่งดังของผู้เล่นยุคแรก  ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
    เมื่อเห็นกริดเอาจริงตั้งแต่เริ่มในการเผชิญหน้ากับรุคกี้ปีศาจ  ผู้คนจึ่งยกย่องในตัวจากเฉินมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะบรรยากาศภายในประเทศจีน

    “ดาราดังของโลกปรากฏตัวขึ้นในประเทศเราแล้ว!”

    “เป็นอัจฉริยะที่แตกต่างจากเฮ่าโดยสิ้นเชิง  หมอนั่นเอาแต่คุกเข่ายอมแพ้กริด”

    “เพิ่งจะลงแข่งครั้งแรกก็ทำให้กริดหวาดกลัวได้เชียวหรือ?”

    “จางเฉินเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น  แรงเกอร์อายุน้อยของประเทศเรากำลังซุ่มพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง  พวกเขาเหล่านั้นจะยึดครองความยิ่งใหญ่ในอนาคตได้แน่!”

    ชาวจีนบางส่วมักยกย่องประเทศตัวเองจนออกนอกหน้า  ราวกับเป็นประเทศยิ่งใหญ่คับฟ้าอันดับหนึ่งของโลกก็มิปาน
    หลายคนมอมเมาไปกับความคลั่งชาติจนฝันเห็นอนาคตแสนหวาน
    ในสักวันหนึ่ง  กลุ่มแรงเกอร์ชาวจีนจะปกครองโลกซาทิสฟายโดยสมบูรณ์  ไม่มีใครที่เคลือบแคลงสงสัยในข้อนี้

    พลเมือง 1.5 พันล้านคนกำลังตื่นเต้นดีใจไปกับบรรยากาศอันดุเดือด

    “ฉันเนี่ยนะกลัว?”
    
    กริดเริ่มมอบความสิ้นหวังให้แก่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ทุกคน

    “แกมันก็แค่มดปลวก…ฉันไม่จำเป็นต้องลงมือให้แปดเปื้อน”

    ชายหนุ่มเริ่มชูดาบยาวสีแดงขึ้นเหนือศีรษะ

    “อัญเชิญยารุกต์”

    ซู่วว—! 

    ดาบยารุกต์ส่งเสียงคำรามพร้อมกับแผ่ประกายแสงสีแดงทับทิมออกไปทั่วสนามแข่ง

    ฟุ่บ—! 

    ดาบยารุกต์บินลอยหลุดมือกริดขึ้นไปบนอากาศ  แสงสีแดงสว่างสดใสเริ่มซีดและมืดลงอย่างรวดเร็ว
    จากนั้น  บนใบดาบยารุกต์ปรากฏอักขระโบราณสีทองอร่ามส่องสว่าง

    ‘อะไรกัน?’

    ทั้งจางเฉินและผู้ชมต่างทึ่งกับภาพอันงดงามตรงหน้า

    ซู่ววว—! 

    ดาบยารุกต์หยุดค้างกึ่งกลางอากาศ  
    ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเป็นเวลานาน
    แสงสว่างเจิดจ้าเริ่มซาลงจนดำมืด  บรรยากาศรอบข้างพลันเงียบสงัด

    “…”

    ทุกสิ่งหยุดนิ่งราวกับกาลเวลาถูกแช่แข็ง  แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น
    
    ชิ้ง—! 

    ความเงียบสงัดถูกทำลายลงเมื่อก้อนดวงวิญญาณสีแดงทับทิมลอยล่องออกจากใบดาบยารุกต์
    สิ่งนี้คือดวงวิญญาณของ ‘ยารุกต์’  
    อสูรดาบยารุกต์
    คู่ปรับตลอดกาลเพียงหนึ่งเดียวของจอมอสูรเซปาร์

    นักดาบอันดับหนึ่งแห่งขุมนรก

    นี่คือวินาทีที่ดวงวิญญาณของยารุกต์ซึ่งมีสมญานามเรียกขานติดตัวมากมาย  ได้ปรากฏสู่สายตาผู้คนทั่วโลกเป็นครั้งแรก

    “นั่นมันอะไรกัน…?”

    จางเฉินก้าวถอยหลังพร้อมกับตั้งท่าป้องกัน  สัญชาตญาณของมันร้องเตือนว่า  ห้ามให้ดวงวิญญาณสีแดงนั่นเสร็จสิ้นกระบวนการเด็ดขาด

    แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป
    ดวงวิญญาณยารุกต์ระเบิดออกกทุกทิศทางพร้อมกับให้กำเนิดร่างเนื้อ

    ชายชราผมขาวกำลังคุกเข่าคำนับกริด

    กึ่งกลางหน้าผากมีเขาแหลมยาวงอกเงย  รอบเขาลุกท่วมด้วยเพลิงสีแดงทับทิมอันงดงามและอ่อนโยน    
    ดวงตาเฉียบแหลมคมกริบราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่ง  นัยน์ตาดำลุ่มลึกประหนึ่งห้วงหุบเหวก้นมหาสมุทร

    “อสูร…!”

    ผู้เล่นอัญเชิญอสูรได้ยังไง?
    แม้แต่จอมเวทมืดระดับสามยังทำเช่นนี้ไม่ได้  แล้วเหตุใดช่างตีเหล็กอย่างกริดถึงสามารถ?

    จางเฉินพลันหน้าซีดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    ชายชราปริศนาที่ถูกอัญเชิญ  เขากำลังสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งฟอดใหญ่พร้อมกับแสดงสีหน้ามีความสุข
    
    “สดชื่น…”

    แม้ระดับพลังเวทอาจเทียบเท่าอสูรชั้นต่ำ  แต่วิชาดาบอันลือเลื่องนั้นอยู่ระดับเดียวกับจอมอสูร
    มาร์บาส  หนึ่งในตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของขุมนรก  เคยกล่าวยกย่องยารุกต์ไว้ว่า ‘เป็นผู้เดียวที่สามารถแปรเปลี่ยนขุมนรกได้’

    ฟุ่บ!

    ดาบยารุกต์ที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ  
    บัดนี้พุ่งลงมาสู่มือเจ้าของที่แท้จริง

    ยารุกต์เปิดฉากรุกหนักเข้าใส่จางเฉิน

    “ชิ!”

[ จุดอ่อนวิชาดาบของท่านถูกเผย ]
[ อัตราหลบหลีกถูกมองข้าม  
พลังป้องกันลดลง  
ท่านจะถูกโจมตีเป็นคริติคอลเสมอ ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 12,150 หน่วย ]

    “ค…แค่ก!”

    เพียงดาบเดียว
    จางเฉินสูญสิ้นพลังชีวิตหนึ่งส่วนห้าโดยมิอาจตั้งท่ารับทัน
    
    อสูรตนนี้เป็นตัวอะไรกันแน่?
    เมื่อมีสัตว์ประหลาดไม่คาดคิดถือกำเนิด  จางเฉินได้แต่ยืนมึนงงด้วยใบหน้าขาวซีด

    ผัวะ!

    ยากเหลือเกินที่จะให้เชื่อว่า  ชายชราผมขาวสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รวดเร็วว่องไวเช่นนี้  ยารุกต์ฉวยโอกาสกระแทกจางเฉินจนเสียหลัก

    ตุ้บ!

    จางเฉินมิอาจสกัดการโจมตีได้ทันแม้จะมองเห็นเต็มสองตา  มันจำต้องล้มลงอย่างไม่มีทางเลือก

    “…”

    ผู้ชมชาวจีนได้แต่ใบ้กินเมื่อเห็นจางเฉินถูกยำอยู่ฝ่ายเดียว

    ***

ชื่อ : ยารุกต์
อายุ : ??
เพศ : ชาย
เผ่าพันธุ์ : อสูรเขายาว
สมญานาม : นักดับอันดับหนึ่งแห่งขุมนรก
* เมื่อสวมใส่อาวุธประเภทดาบ  พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
* การโจมตีใส่จุดอ่อนจะทำให้เกิดความเสียหายคริติคอล 100%
* อัตราการหลบหลีกของศัตรูลดลง 50%
พละกำลัง : 3,503
ความอดทน : 1,090
ความว่องไว : 3,201
สติปัญญา : 330
รายการทักษะ :
- ดวงตานักดาบ (S)
- จุดประสงเดียวของชีวิต (SS-)
- ร่ายรำวิชาดาบ (SS)
- หมุนตัวฟันกัมปนาท (SS)
- ดาบจันทร์ขุมนรก (SS)
- ดาบพิสุทธิ์ (SS+)
    อสูรเขายาวถูกจัดให้เป็นเผ่าพันธุ์อสูรที่อ่อนแอ  แต่จากการฝึกฝนวิชาดาบโดยไม่ย่อท้อตลอดทั้งชีวิต  ในที่สุด  เขากลายเป็นนักดาบอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกได้สำเร็จ
    ทว่า  ยารุกต์กลับมิอาจเอาชนะขีดจำกัดทางสายเลือดได้  เขาต่อกรกับจอมอสูรเซปาร์และเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถ
    หลังจากนั้น  ดวงวิญญาณของยารุกต์ได้ถูกสาปและผนึกไว้กับดาบเล่มหนึ่ง
* หากเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่ง  ยารุกต์จะได้ลิ้มรสการมีชีวิตอีกครั้ง
กระทำซ้ำจนกว่ายารุกต์จะได้รับพลังเดิมกลับคืนมา (1/10)
* ต้องเอาชนะเป้าหมายที่เป็น ‘ศัตรู’ เท่านั้น 
* ยารุกต์ตระหนักถึงความสำคัญของมิตรภาพ  เขาจะเพิ่มพูนความชื่นชอบที่มีต่อท่าน

    คำอธิบายบ่งบอกชัดเจนว่า  ยารุกต์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดของตัวเอง
    ทุกครั้งที่ดวลกับกริด  เขาจะถูกอัดจนหมดสภาพราวกับลูกสุนัขอยู่ร่ำไป
    
    แต่ในสายตาผู้ชม  ยารุกต์คืออสูรที่เก่งฉกาจเหนือจินตนาการ

    ระดับพลังชีวิตอาจไม่ต่างจากผู้เล่นมากนัก  แต่พลังโจมตีและเอฟเฟคพิเศษกลับรุนแรงไม่แพ้กริด
    จากบรรดาขุนพลโอเวอร์เกียร์ทั้งหมด  มีผู้เล่นเพียงหยิบมือที่ครอบครองพลังโจมตีระดับใกล้เคียงกับยารุกต์
    
    ผู้เล่นคลาสระดับสามอย่างจางเฉินจึงไม่มีควรถูกยารุกต์โจมตีด้วยประการทั้งปวง
    
    เช่นนั้นแล้ว  ฝีมือควบคุมระดับสุดยอดที่จางเฉินแสนภาคภูมิใจนั่นล่ะ?
    เมื่ออยู่ต่อหน้ายารุกต์  สิ่งเหล่านั้นเป็นได้เพียงพรสวรรค์ไร้ประโยชน์    
    
    เช่นนั้นแล้ว  สุดยอดไอเท็มที่จางเฉินให้แรงงานทาสรวบรวมมาล่ะ?
    สำหรับยารุกต์  ไอเท็มกระจอกเหล่านี้ล้วนอยู่คนละชั้นเมื่อเทียบกับไอเท็มที่กริดเคยใช้กระทืบตนวันแล้ววันเล่า
    
    “ว๊ากกก!”

    จางเฉินส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย
    มันถูกทำให้อับอายจนเริ่มคลุ้มคลั่ง  

    จางเฉินโกรธจัดเลือดขึ้นหน้า  มันชักดาบเล่มหนึ่งที่มีคุณสมบัติ ‘สร้างความเสียหายพิเศษต่อเผ่าอสูร’ ออกมาถือ
    จากนั้นก็ลงมือฟานฟันสวนกลับด้วยสีหน้าสุดแสนมั่นใจ

    แต่น่าเสียดายที่การกระทำเหล่านี้ล้วนสูญเปล่า  ยารุกต์อ่านทางดาบได้ทะลุปรุโปร่ง  เขาใช้ดาบของตนปัดป้องไว้ง่ายดาย
    
    เคร้ง!

    จางเฉินหันไปจ้องมองกริดที่กำลังยืนกอดอกด้วยสายตาอาฆาตแค้น

    “ไอ้พังจือระยำ!  แกมันขี้ขลาด!  ไม่กล้าดวลกับฉันซึ่งหน้าใช่ไหม?  ถึงได้ส่งไอ้ปีศาจนี่ออกมารับหน้าแทน!”     

    โดยทั่วไป  สัตว์เลี้ยงมักมีจุดอ่อนอยู่หลายด้าน  ทั้งค่าสถานะที่ต่ำ  แถมยังไม่สามารถอัพเลเวลให้สูงกว่าผู้เป็นนายได้

    ทว่า  อสูรตนนี้กลับโจมตีใส่ตนได้รุนแรงเกินกว่า 10,000 หน่วย  รุนแรงยิ่งกว่าพลังโจมตีของกริดที่จางเฉินเคยจินตนาการไว้
    มันจึงมั่นใจ  กริดจะต้องทำพันธสัญญากับอสูรด้วยภารกิจพิเศษแน่นอน
    หรือก็คือ  นี่เป็นไพ่ตายที่กริดเก็บไว้ใช้ในยามจนตรอก
    
    จางเฉินไม่มีทางทราบเลยว่า  นี่เป็นเพียงทักษะอัญเชิญธรรมดา  มิใช่พันธสัญญาบ้าบอคอแตกใดทั้งสิ้น

    เมื่อกริดเห็นกล้องจำนวนมากกำลังรอคำตอบจากตน  เขาจึงเอ่ยปากตอบโต้จางเฉิน    

    “ปีศาจอะไรกัน?  หมอนี่ก็แค่สัตว์เลี้ยงของฉัน”

    “เหลวไหล!!”
    
    จางเฉินพุ่งโจมตีใส่กริดอย่างบ้าคลั่ง

[ เกราะราชาทมิฬ ]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 299/299
พลังป้องกัน : 669
* โอกาสปัดป้องการโจมตี 7%
* หากอยู่ในที่มืด  เพิ่มคุณสมบัติทักษะพรางตัว 30%
* หากอยู่ในที่มืด  เพิ่มพลังป้องกัน 20%
* หากอยู่ในที่มืด  เพิ่มค่าความว่องไว +50
* เมื่อได้รับความเสียหายสะสมครบ 30,000 หน่วย  จะทำการสะท้อนกลับผู้โจมตีด้วยความเสียหายจำนวน 3 เท่า
* ทุกครั้งที่สะท้อน  ค่าความคงทนของชุดเกราะจะลดลง 50 หน่วย
* จะไม่สะท้อนหากได้รับความเสียหายเกินกว่า 30,000 หน่วยในคราวเดียว

    จางเฉินมีแผนจะเอาชนะกริดและอสุรลึกลับด้วยสุดยอดชุดเกราะเกรดเลเจนดารีที่มันแสนภาคภูมิใจ

    ในทางทฤษฏี  สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้
    เกราะราชาทมิฬสามารถสะท้อนความเสียหาย 90,000 หน่วย  ไม่มีทางที่ผู้เล่นคนใดจะทนรับการโจมตีรุนแรงขนาดนี้ไหว
    แม้แต่ตัวแท้งอย่างบูบัตยังเข้าสู่สภาพปางตายในพริบตา

    ทว่า…

    ผัวะ!  ผัวะ!     

[ ท่านตกอยู่ในอาการชะงัก ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการชะงัก ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการ…  ]

    “อั่ก!  แอ่ก!  แค่ก!”

    มันไม่สามารถเข้าใกล้กริดได้เลย
    ในวินาทีที่ถูกมโยลเนียร์ทุบหัวครั้งแรก  จางเฉินก็เข้าสู่วังวนชะงักถาวรเรียบร้อย
    มันที่ถูกค้อนกระหน่ำทุบอย่างต่อเนื่องจึงทำได้เพียงส่งเสียงร้องโอดครวญ
    
    ค้อนจากสี่ทิศทางได้สร้างความเจ็บปวดจนมันหันหน้าซ้ายทีขวาที  นับเป็นการเต้นแร้งเต้นกาที่ไม่น่าชมสักเท่าไร

    กริดฉีกยิ้มเมื่อวังวนชะงักถาวรสุดโกงถูกนำมาใช้กับการต่อสู้จริงระหว่างผู้เล่น

    “ฉันบอกแกแล้ว…อาวุธแสนกระจอกเหล่านั้น  แกไม่มีทางได้ใช้มันต่อหน้าฉัน”

    เดิมที  กริดเคยเป็นนักกีฬาที่มีนิสัยมุทะลุและปากเสียมาก่อน
    ในอดีต  เขาพูดจาโผงผางและสบถอย่างไม่ยั้งคิดอยู่หลายหน
    หากกริดปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงเสียตรงนี้  เกรงว่าจางเฉินจะกลายเป็นผู้ดีไปในพริบตา

    “ไอ้บัดซบ!  แกใช้ลูกไม้อะไร?  อั่ก! แอ่ก! อ่อก!”

    จางเฉินจ้องกริดเขม็งปานจะกินเลือดเนื้อ  แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
    
    หลอดพลังชีวิตของจางเฉินลดลงทีละนิดอย่างเชื่องช้า
    
    ค้อนมโยลเนียร์แต่ละอันสร้างความเสียหายได้เพียงหลักร้อยเท่านั้น  เหตุเพราะอุปกรณ์สวมใส่แต่ละชิ้นของจางเฉินอยู่ในระดับไม่ธรรมดา

    กาลเวลาเลือนผ่านอย่างทุกข์ทรมาณ
    ผู้ชมชาวจีนกว่า 1.5 พันล้านทั่วโลกต้องใบ้กินกันถ้วนหน้า

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,200
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สมน้ำหน้า ทะนงตนหนัก ต้องเจอแบบนี้แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อ และให้มันได้อับอายสะบ้าง สมควรแล้ว

    ReplyDelete
  2. ตุบตั้บๆเจอสตั้นยั่งฮา

    ReplyDelete
  3. สะใจจริง​ 😁

    ReplyDelete
  4. Replies
    1. ไม่ต้องกังวนเพราะเอาจริงๆแล้วคนที่ตะมาเม้นตรงนี้ได้ก็คือต้องอ่านมานานแล้วถึงได้มาพิมพ์อะไรแบบนี้ได้เพราะงั้นนายก็เข้าข่ายอ่าเถื่อนเหมือนกัน

      Delete
    2. เดี๋ยวทุกคนจะได้เจอไอเหี้ยนี่บ่อยมากในช่องคอมเม้น

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00