จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 256



       ณ ห้องวีไอพีของปราสาทเรย์ดัน

       ดาเมี่ยนนั่งเผชิญหน้ากับสมาชิกโอเวอร์เกียร์และเปิดปากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น  เขาเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบกับกริดเมื่อครั้งก่อนหน้า  และสาเหตุที่ต้องเดินทางมาถึงเรย์ดัน  ดาเมี่ยนพยายามลงลึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด  ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องเก็บซ่อนมันไว้จากคนของโอเวอร์เกียร์ที่ไว้ใจได้

       แวนเนอร์ที่นั่งฟังเงียบๆ มานาน  ในที่สุดเขาก็ปล่อยโฮออกมา

       "ทำทุกวิธีทางเพื่อหญิงอันเป็นที่รัก...!  ช่างเป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งเหลือเกิน!"

       คงไม่ใช่ภาพที่น่ามองนักเมื่อชายร่างใหญ่กำลังร้องไห้  หากป็อนอยู่ที่นี่  เขาคงพูดจากลั่นแกล้งแวนเนอร์เหมือนกับทุกครั้ง  แต่ป็อนกับเรกัสกำลังออกไปทำภารกิจสำคัญอยู่  พวกเขาหายไปโดยขาดการติดต่อนานถึงสองวันเต็มแล้ว  มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทั้งคู่ได้พบดันเจี้ยนลับซึ่งจะตัดขาดการเชื่อมต่อกับภายนอกโดยสิ้นเชิง

       ลอเอลเมินเฉยต่อแวนเนอร์ที่น้ำหูน้ำตาไหลและหันไปถามดาเมี่ยน

       "ฉันเข้าใจแล้วว่านายมาพบกริดเพื่อต้องการจะช่วยบุตรีแห่งรีเบคก้า  แต่ทำไมถึงไปกลายเป็นชาวนาไปได้?  คนสถานะอย่างนาย  ถ้าหากมาหาเทศมนตรีโดยตรงก็คงติดต่อพวกเราได้เร็วกว่านี้"

       แม้จะมีศาสนาอยู่มากมายในซาทิสฟาย  แต่ไม่มีศาสนาใดเทียบเคียงโบสถ์รีเบคก้าได้  สาวกของโบสถ์รีเบคก้ามีมากถึงราว 80 ล้านคน  และดาเมี่ยนคือผู้ท้าชิงตำแหน่งสันตะปาปาคนต่อไปของรีเบคก้า  ดังนั้นไม่ว่าเขาจะย่างกรายไปที่ใด  การต้อนรับระดับสูงสุดก็จะถูกมอบให้อย่างเต็มใจ  แล้วเหตุใดถึงลงเอยด้วยการเป็นชาวนาได้?

       "เรื่องนั้น..."

       ดาเมี่ยนต้องการจะเล่าความจริงทั้งหมดไปต่อหน้าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กำลังงุนงง

       'ทำไมเขาถึงไม่มาหาเทศมนตรีในเมืองน่ะหรือ?'  ทั้งหมดเกิดจากปิอาโร่  แต่เขาอับอายเกินกว่าจะเล่าความจริงนี้ออกไป  แถมความเกลียดชังในตัวปิอาโร่ก็สลายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้ทำภารกิจลับ  ตรงกันข้าม  พวกเขากลายเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันไปแล้ว

       ดาเมี่ยนกลบเกลื่อนความจริง

       "ฉันชอบทำฟาร์มมานานแล้ว"

       "เข้าใจล่ะ"

       ผู้คนมีงานอดิเรกและความชื่นชอบที่แตกต่างกันไป  ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องยกเรื่องนี้มาโกหก  สมาชิกโอเวอร์เกียร์จึงไม่มีใครเคลือบแคลงในคำพูดของดาเมี่ยน

       ใช่แล้ว  ไม่มีใครเลยที่ล่วงรู้ถึงการกระทำอันโหดร้ายของปิอาโร่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา  จะต้องไม่มีใครคาดคิดแน่  ว่าปิอาโร่ได้ท้าดวลกับทุกคนที่ผ่านเข้าออกเรย์ดัน  แล้วหลังจากนั้นก็ชวนมาทำฟาร์มด้วยกันอย่างลับๆ   ดาเมี่ยนเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกความจริงออกไป  เขาขอแสดงความเสียใจล่วงหน้าต่อผู้โชคร้ายคนที่สามและสี่ในอนาคต

       "แล้วอีกคนเป็นใครกัน?"

       "คนนอกน่ะ  ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  เขาปิดบังตัวตนด้วยหมวกฟางตั้งแต่ต้นจนจบ"

       "เข้าใจล่ะ..."

       'จับตามองสักหน่อยดีไหมนะ?'

       อันที่จริงลอเอลก็ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก  ปิอาโร่สามารถคัดกรองผู้ที่เป็นศัตรูของเรย์ดันได้สบายมาก  ลอเอลเชื่อมั่นใจตัวนักดาบผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ยิ่งกว่าใคร  ความกังวลใจทั้งหมดจึงกำลังจดจ่ออยู่ที่เรื่องของดาเมี่ยนแทน

       'ถ้ากริดได้เป็นผู้มีพระคุณของสันตะปาปาล่ะก็...'

       เรย์ดันและโบสถ์รีเบคก้าจะใกล้ชิดกันมากขึ้นและอาจถึงขั้นแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือในอนาคต  หากโบสถ์รีเบคก้าถูกสร้างขึ้นภายในเรย์ดัน  ชาวเมืองทุกคนจะได้รับการอวยพร  แถมจะยังมีนักบวชประจำอยู่ที่โบสถ์คอยสนับสนุนสิ่งต่างๆ อีกด้วย  ผู้ที่เดินทางมาเยือนเรย์ดันก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น

       ลอเอลยื่นมือออกไปจับสองมือที่เปรอะเปื้อนของดาเมี่ยนไว้

       "ดาเมี่ยน  กิลด์โอเวอร์เกียร์ของพวกเรายินดีจะช่วยนายในทุกเรื่อง  อีกทั้งยังจะช่วยเหลือในการเลือกตั้งสันตะปาปาที่กำลังจะมีขึ้นด้วย  ส่วนเรื่องบุตรีแห่งรีเบคก้า  พวกเราจะช่วยโน้มน้าวกริดให้อีกแรง  ถ้ามีเรื่องใดต้องการให้ช่วยอีกก็พูดมาได้เลย"

       โอกาสทองมาอยู่ตรงหน้าแล้ว  ลอเอลไม่มีทางพลาดที่จะคว้าเอาไว้  ชายหนุ่มพยายามยิ้มอย่างอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  มันดูราวกับเป็นรอยยิ้มอันแสนโอบอ้อมอารีของพนักงานเสริฟร้านอาหาร  ดาเมี่ยนที่ไม่รู้จักลอเอลดีจึงตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง

       "จ--ใจดีจัง...!  ขอบคุณมาก!  ขอบคุณมากจริงๆ!  ฉันจะมอบของขวัญตอบแทนให้นายเป็นพิเศษ  ปลอกหมอนที่ปริ้นลายอิสซาเบลจังเป็นไง!"

       "หึหึหึ… ฉันเองก็ดีใจที่ได้ช่วยเหลือนาย  ตัวฉันอีกคนหนึ่งที่เคยหลับไปเป็นเวลานาน  ยามนี้กำลังลุกขึ้นมาเต้นรำอย่างเริงร่า"

       'พวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน?'

       'ฉันเองก็ไม่รู้'

       ชาวโอเวอร์เกียร์ไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่ลอเอลกับดาเมี่ยนกำลังสนทนาอยู่เลย  มันเป็นการยากที่จะเข้าถึงสิ่งพิเศษแบบนี้ได้

       ***

       อันที่จริง  แร็บบิทรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของปิอาโร่ได้ดียิ่งกว่าใคร  ก่อนหน้าที่สมาชิกโอเวอร์เกียร์จะล่วงรู้ความจริงเสียอีก  ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองผู้คนอย่างทะลุปรุโปร่งด้วยดวงตาอันเจนโลกคู่นั้น  แต่แร็บบิทก็มีเหตุผลที่จ้างปิอาโร่ในฐานะชาวนาอันต่ำต้อย

       เศษรฐกิจของเรย์ดัน  ถ้าหากมอบตำแหน่งปิอาโร่ให้สมกับความสามารถ  แร็บบิทจะต้องจ่ายเงินเดือนเขาในราคาที่สูงมาก  สภาพคล่องทางการเงินของเรย์ดันจะเกิดปัญหาเอาได้  แร็บบิทจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัวจริงของปิอาโร่และจ่ายเงินเดือนในฐานะชาวนา
       
       ลงเอ้ยด้วย  แร็บบิทได้จ้างคนที่มีประโยชน์สูงสุดกับเรย์ดันด้วยค่าแรงต่ำสุด  ปิอาโร่ทำงานอย่างคุ้มเงินเดือนโดยการปกป้องทุ่งข้าวสาลีอันเป็นสถานที่ทำงานหลักของชาวนา  ด้วยเงินเดือนเพียง 73 เหรียญเงิน  ปิอาโร่สามารถปกป้องเรย์ดันไว้ได้โดยที่ไม่ยอมให้ผู้ใดย่างกรายผ่านทุ่งข้าวสาลี

       สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นยอดเยี่ยมเกินกว่าที่แร็บบิทคาดไว้มาก  มันเหนือคำบรรยาย  ในเวลาเดียวกันก็เป็นความอึดอัดใจ

       'เราควรตอบแทนเขาให้มากกว่านี้...'

       หากจะให้แร็บบิทประเมินคุณงามความดีของปิอาโร่เป็นเม็ดเงิน  มันจะมีมูลค่าที่สูงถึงหลายล้านเหรียญทอง  ไม่ใช่ว่าแร็บบิทไม่ต้องการจ่าย  แต่เป็นเพราะเรย์ดันไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น

       'เราคงต้องมอบอะไรสักอย่างให้กับเขา'

       การตกรางวัลเป็นหน้าที่ของลอร์ด  ไม่ใช่เทศมนตรี  ในตอนนี้กริดไม่อยู่ในเมือง  จึงไม่มีใครที่มอบรางวัลพิเศษให้ปิอาโร่ได้

       'ถ้างั้นก็...'

       แร็บบิทแสดงความจริงใจขั้นสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้ด้วยตำแหน่งที่มี

[ ตัวข้า  เทศมนตรีแร็บบิท  ขอแต่งตั้งชาวนาปิอาโร่ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฟาร์มข้าวสาลีนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ]

       นี่คือวินาทีที่เงินเดือนของปิอาโร่ถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเหรียญทองกับอีก 30 เหรียญเงิน  ถือเป็นการขึ้นเงินเดือนที่มากถึงสามเท่าตัวในคราเดียว  และนี่คือจำนวนเงินที่แร็บบิทผู้แสนงกได้ตัดสินใจแบ่งให้ด้วยศีลธรรมขั้นต่ำสุดของเขา       

       ***

[ หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปได้ต่อสู้เพื่อดยุคกริด! ]

       พาดหัวข่าวที่ชวนเตะตาได้ถูกแพร่กระจายออกไปทั่วโลก

       คีย์เวิร์ดการค้นหาล่าสุดถูกเปลี่ยนเป็น <กริด> <เอิร์ลอัชเชอร์>  <สิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีป> <เจ็ดกิลด์ใหญ่> <การรุกรานเรย์ดัน>  และอื่นๆ อีกมากมาย  ข่าวคราวการปรากฏตัวของชาวนาในตำนานไม่มีใครให้ความสนใจอีกต่อไป

       บันนี่บันนี่  ต้นตอของผู้ที่แพร่กระจายข่าวทั้งหมด  ยามนี้เขากำลังรุ่งเรืองสุดขีด

       'หกในเจ็ดกิลด์ใหญ่นอกจากกิลด์ใจแอนท์ตัดสินใจรุกรานเรย์ดัน  แต่ระหว่างทาง  กิลด์ยัคและเซราฟได้ถูกเอิร์ลอัชเชอร์บดขยี้ไม่เหลือชิ้นดีภายในป้อมปราการแพเทรี่ยน'

       ยอดการเข้าชมเนื้อหาข่าวของบันนี่บันนี่ได้พุ่งสูงถึงสามแสนคน  และยอดวิวของคลิปวิดีโอได้พุงสูงถึงหกแสนวิวภายในวันเดียว  ไม่เพียงแต่เขาจะร่ำรวย  แต่บันนี่บันนี่ยังได้รับชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมากมาย

       ตำแหน่งนักจัดรายการเกมอันดับหนึ่งกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง

       >>  กริดยอดไปเลยนะ  การที่มีเอิร์ลอัชเชอร์เป็นลูกน้องได้แบบนี้ ㄷㄷ

       >>  เอิร์ลอัชเชอร์คือบุคคลที่ทรงพลังอันดับหนึ่งในอาณาจักรอีเทอนัลใช่ไหม...?  จริงหรือเนี่ย?  สมกับเป็นก็อดกริด
       
       >>  ฉันอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา  แต่ชื่อของกริดได้ออกทีวีที่นี่ทุกวัน   ㅋㅋㅋ  คงไม่มีใครในประเทศนี้ที่ไม่รู้จักกริดอีกแล้วกระมัง  ㅋㅋㅋ

       >>  ฉันมาเรียนที่ญี่ปุ่น  หลังจากงานแข่งนานาชาติเป็นต้นมา  เพื่อนชาวญี่ปุ่นก็เอาแต่ถามเรื่องกริด  ฉันสามารถยืดอกอย่างภาคภูมิใจที่ได้เป็นชาวเกาหลีใต้  ทั้งหมดก็เพราะกริด ㅎ

       >>  แล้วเกิดอะไรขึ้นกับสี่กิลด์ที่เหลือนอกจากยัคและเซราฟ?

       >>  เพื่อนของลูกพี่ลูกน้องของภรรยาฉันอยู่ในกิลด์โกลเด้น  เขาเล่าว่า  ทุกกิลด์ล้วนถูกชาวนาของเรย์ดันขันไล่จนต้องหนีกลับอย่างไม่เป็นท่า

       >>  เฮ่อ…  ㅉ ㅉ มีแต่พวกนักแต่งนิยายเต็มไปหมด  ถ้านายไปเขียนนิยายสักเรื่องคงดังน่าดู

       ชาวเกาหลีใต้ต่างพากันตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ  ทุกคนล้วนภูมิใจที่ได้เป็นชาวเกาหลีใต้เมื่อกริดออกมาทำสิ่งที่โลกตกตะลึง

       แต่ความเป็นจริง  ตัวกริดในตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเรย์ดันถูกรุกราน  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ยังไม่ได้รายงานให้เขารับรู้  เพราะเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจใหญ่ที่กริดกำลังทำอยู่  ด้วยเหตุนี้  ชายหนุ่มจึงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำภารกิจให้ปิอาโร่อย่างเต็มที่       

       ***

       ณ เมืองหลวงของจักรวรรดิซาฮารัน  ไททัน

       กริดเดินทางมาถึงด้านหน้าที่พักของอัสโมเฟลหลังจากผ่านมาถึงสามสัปดาห์

       ชายหนุ่มตัดสินใจเปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาดูอีกครั้ง

[ ชื่อ : กริด
เลเวล : 291
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
_______
พละกำลัง : 2,770(+140)
ความอดทน : 1,246(+120)
ความว่องไว : 1,626(+110)
สติปัญญา : 711(+310)
ความชำนาญ : 1,634(+660)
ความพากเพียร : 958(+110)
ความเยือกเย็น : 658(+110)
ความทรหด : 913(+220)
ความน่าเกรงขาม : 1,566(+110)
วิสัยทัศน์ : 1,406(+110)
ความกล้าหาญ : 602(+110)
พลังอสูร : 31 ]

       ถือเป็นแต้มสถานะที่ไม่ว่าหากใครได้เห็นก็ต้องอิจฉา  ด้วยความที่แต้มสถานะซึ่งได้รับจากการผลิตไอเท็มน้อยลงด้วย <เหตุการณ์พิเศษ>   ทำให้แต้มสถานะของกริดเติบโตช้ากว่าสมัยก่อนหลายเท่าตัว  แต่เขาก็ไม่ได้หัวเสียหรือผิดหวังในเรื่องนั้นอีกแล้ว

       อย่างน้อยก็ยังได้แต้มสถานะเพิ่มขึ้นจากการผลิตไอเท็มและสมญานามต่างๆ อยู่   กริดยังมีพลังของไอเท็ม  พลังของทักษะ  และฝีมือการควบคุมที่ดีขึ้น  เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า

       'เราแข็งแกร่งที่สุด'

       ตลอด 28 ปีที่ผ่านมาในชีวิต  วินาทีนี้คือจุดสูงสุดอย่างไร้ข้อกังขา  ความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมมาพร้อมกับไฟการต่อสู้ที่ลุกโชน

       "อัสโมเฟล"  

       ชายที่บังอาจป้ายสีให้ปิอาโร่เป็นคนทรยศจนต้องตกอับ

       "คราวนี้ถึงตาแกเป็นฝ่ายสูญเสียบ้างแล้ว"

       ดวงตาสีแดงของกริดที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าคาดตาพลันส่องประกาย  ชายหนุ่มหยิบผ้าคลุมหัวแบบมีซิปออกมาสวม

       ***

       อัสโมเฟลคือชายผู้มีจิตใจสูงส่งและมอบความจริงใจกับผู้อื่นเสมอมา  เขาคือบุตรชายคนโตของเอิร์ลเปรโด  หนึ่งในสามนิ้วมือที่จงรักภักดีของจักรพรรดิ  แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภายนอกขนาดไหนก็ตาม  อัสโมเฟลก็ไม่เคยละเลยการฝึกดาบที่เป็นกฏเหล็กของตระกูล  ลงเอยด้วยการที่เขามีฝีมือแข็งแกร่งจนได้เข้าร่วมกองอัศวินสีชาดตั้งแต่อายุยังน้อย

       นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตอันแสนเปราะบาง  อัสโมเฟลประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จนกลายเป็นตัวตนที่มีสถานะทางสังคมสูงส่ง  เขาคือหนึ่งในเสาหลักของจักรวรรดิเคียงคู่มากับเพื่อนรักที่สนิทที่สุด  ปิอาโร่  

       แต่ทุกสิ่งล้วนมลายหายไปด้วยแผนชั่วของจักรพรรดินีแมรี่

       เขาเสียบมีดในมือแทงเข้าใส่หัวใจของพวกพ้องและสหายร่วมรบจำนวนมาก  

       ทุกคืนต้องผ่านไปประหนึ่งฝันร้าย

       "นังแพศยา!"

       โครม!

       อัสโมเฟลทุบโต๊ะที่เปี่ยมไปด้วยขวดเหล้าอย่างรุนแรง

       จักรพรรดินีแมรี่  อัสโมเฟลจำเป็นต้องใช้สุราเพื่อให้ลืมนังผู้หญิงบัดซบคนนั้น  แต่เขาก็ไม่อาจลืมเธอได้ลง  ความเลอโฉมของแมรี่ไม่อาจถูกลบจากใจได้โดยง่าย

       "ปิอาโร่เพื่อนรัก...!"

       เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก  อัสโมเฟลตะโกนเช่นนี้เป็นร้อยหนในหนึ่งวัน  แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่อาจส่งไปถึงปิอาโร่ได้  นั่นยิ่งทำให้เขาปวดร้าวมากกว่าเดิม

       "เกิดอะไรขึ้น?"

       เมื่อได้ยินเสียงดังโวยวาย  บรรดาอัศวินจึงรีบกรูเข้ามาด้านใน  ทุกคนสวมชุดเกราะสีแดง  ทั้งหมดคืออัศวินที่จงรักภักดีกับแมรี่  เธอได้ส่งคนมาคอยดูแลอัสโมเฟลโดยอ้างว่าเป็นการคุ้มกัน  แต่ความจริงแล้วคือการจับตามอง  

       อัสโมเฟลถูกขังอยู่ในที่พักแห่งนี้มานานแรมปีแล้ว

       "ไอ้พวกสุนัข..."

       อัสโมเฟลไม่อาจเก็บงำความโกรธเอาไว้ได้ เขาพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาอาวุธ  แต่ก็หาไม่พบ  อัศวินได้กระซิบกระซาบกันเล็กน้อยก่อนจะนำจอมเวทย์คนหนึ่งเข้ามา  มันคือจอมเวทย์มืด  อัสโมเฟลพลันยืนสั่นระริกทันทีที่ได้เห็นชายคนนี้

       "ห--หยุด!"

       เขาพยายามขัดขืน  แต่นั่นก็สูญเปล่า  บาดแผลทางจิตใจอันรุนแรงที่เกิดขึ้นจากความผิดบาปต่อปิอาโร่  ประกอบกับการถูกมอมยาและมนต์ดำเป็นเวลานาน  พลังทางใจของอัสโมเฟลจึงกำลังอ่อนแอถึงขีดสุด

       ซู่ววว

       เวทย์ล้างสมองอันรุนแรงได้ทำให้ม้าพยศอย่างอัสโมเฟลเชื่องได้ในพริบตา  สีหน้าของเขาไร้อารมณ์ราวกับซากศพ

       "ปีอาโร่เป็นใคร?"

       "คนทรยศของจักรวรรดิและศัตรูของฉัน"

       ดวงตาของอัสโมเฟลมีน้ำใสๆ รินไหลออกมาเมื่อตนเองตอบคำถามออกไปโดยไม่ลังเล  มันคือเศษเสี้ยวน้ำตาหยดสุดท้ายที่อัสโมเฟลร้องไห้ก่อนจะถูกล้างสมองอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

Comments

  1. อ้าว ความจริงนี่หนังคนละม้วนเลย

    ReplyDelete
  2. ทหารในตำนานของเรดันมาแล้ว!!!!

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  5. คนเล่นเกม2พันล้าน คนอ่านข่าว3แสนคน ก็กาลายเป็นนักจัดรายการอันดับ1แล้ว...0.015%ของคนเล่นเกม

    ReplyDelete
  6. ตัวร้ายที่แท้จริงคือคนเขียนนี้เอง

    ReplyDelete
  7. ดราม่าเอ๋ยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00