จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 256
ณ ห้องวีไอพีของปราสาทเรย์ดัน
ดาเมี่ยนนั่งเผชิญหน้ากับสมาชิกโอเวอร์เกียร์และเปิดปากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบกับกริดเมื่อครั้งก่อนหน้า และสาเหตุที่ต้องเดินทางมาถึงเรย์ดัน ดาเมี่ยนพยายามลงลึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องเก็บซ่อนมันไว้จากคนของโอเวอร์เกียร์ที่ไว้ใจได้
แวนเนอร์ที่นั่งฟังเงียบๆ มานาน ในที่สุดเขาก็ปล่อยโฮออกมา
"ทำทุกวิธีทางเพื่อหญิงอันเป็นที่รัก...! ช่างเป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งเหลือเกิน!"
คงไม่ใช่ภาพที่น่ามองนักเมื่อชายร่างใหญ่กำลังร้องไห้ หากป็อนอยู่ที่นี่ เขาคงพูดจากลั่นแกล้งแวนเนอร์เหมือนกับทุกครั้ง แต่ป็อนกับเรกัสกำลังออกไปทำภารกิจสำคัญอยู่ พวกเขาหายไปโดยขาดการติดต่อนานถึงสองวันเต็มแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทั้งคู่ได้พบดันเจี้ยนลับซึ่งจะตัดขาดการเชื่อมต่อกับภายนอกโดยสิ้นเชิง
ลอเอลเมินเฉยต่อแวนเนอร์ที่น้ำหูน้ำตาไหลและหันไปถามดาเมี่ยน
"ฉันเข้าใจแล้วว่านายมาพบกริดเพื่อต้องการจะช่วยบุตรีแห่งรีเบคก้า แต่ทำไมถึงไปกลายเป็นชาวนาไปได้? คนสถานะอย่างนาย ถ้าหากมาหาเทศมนตรีโดยตรงก็คงติดต่อพวกเราได้เร็วกว่านี้"
แม้จะมีศาสนาอยู่มากมายในซาทิสฟาย แต่ไม่มีศาสนาใดเทียบเคียงโบสถ์รีเบคก้าได้ สาวกของโบสถ์รีเบคก้ามีมากถึงราว 80 ล้านคน และดาเมี่ยนคือผู้ท้าชิงตำแหน่งสันตะปาปาคนต่อไปของรีเบคก้า ดังนั้นไม่ว่าเขาจะย่างกรายไปที่ใด การต้อนรับระดับสูงสุดก็จะถูกมอบให้อย่างเต็มใจ แล้วเหตุใดถึงลงเอยด้วยการเป็นชาวนาได้?
"เรื่องนั้น..."
ดาเมี่ยนต้องการจะเล่าความจริงทั้งหมดไปต่อหน้าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กำลังงุนงง
'ทำไมเขาถึงไม่มาหาเทศมนตรีในเมืองน่ะหรือ?' ทั้งหมดเกิดจากปิอาโร่ แต่เขาอับอายเกินกว่าจะเล่าความจริงนี้ออกไป แถมความเกลียดชังในตัวปิอาโร่ก็สลายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้ทำภารกิจลับ ตรงกันข้าม พวกเขากลายเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันไปแล้ว
ดาเมี่ยนกลบเกลื่อนความจริง
"ฉันชอบทำฟาร์มมานานแล้ว"
"เข้าใจล่ะ"
ผู้คนมีงานอดิเรกและความชื่นชอบที่แตกต่างกันไป ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องยกเรื่องนี้มาโกหก สมาชิกโอเวอร์เกียร์จึงไม่มีใครเคลือบแคลงในคำพูดของดาเมี่ยน
ใช่แล้ว ไม่มีใครเลยที่ล่วงรู้ถึงการกระทำอันโหดร้ายของปิอาโร่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะต้องไม่มีใครคาดคิดแน่ ว่าปิอาโร่ได้ท้าดวลกับทุกคนที่ผ่านเข้าออกเรย์ดัน แล้วหลังจากนั้นก็ชวนมาทำฟาร์มด้วยกันอย่างลับๆ ดาเมี่ยนเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกความจริงออกไป เขาขอแสดงความเสียใจล่วงหน้าต่อผู้โชคร้ายคนที่สามและสี่ในอนาคต
"แล้วอีกคนเป็นใครกัน?"
"คนนอกน่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาปิดบังตัวตนด้วยหมวกฟางตั้งแต่ต้นจนจบ"
"เข้าใจล่ะ..."
'จับตามองสักหน่อยดีไหมนะ?'
อันที่จริงลอเอลก็ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก ปิอาโร่สามารถคัดกรองผู้ที่เป็นศัตรูของเรย์ดันได้สบายมาก ลอเอลเชื่อมั่นใจตัวนักดาบผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ยิ่งกว่าใคร ความกังวลใจทั้งหมดจึงกำลังจดจ่ออยู่ที่เรื่องของดาเมี่ยนแทน
'ถ้ากริดได้เป็นผู้มีพระคุณของสันตะปาปาล่ะก็...'
เรย์ดันและโบสถ์รีเบคก้าจะใกล้ชิดกันมากขึ้นและอาจถึงขั้นแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือในอนาคต หากโบสถ์รีเบคก้าถูกสร้างขึ้นภายในเรย์ดัน ชาวเมืองทุกคนจะได้รับการอวยพร แถมจะยังมีนักบวชประจำอยู่ที่โบสถ์คอยสนับสนุนสิ่งต่างๆ อีกด้วย ผู้ที่เดินทางมาเยือนเรย์ดันก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
ลอเอลยื่นมือออกไปจับสองมือที่เปรอะเปื้อนของดาเมี่ยนไว้
"ดาเมี่ยน กิลด์โอเวอร์เกียร์ของพวกเรายินดีจะช่วยนายในทุกเรื่อง อีกทั้งยังจะช่วยเหลือในการเลือกตั้งสันตะปาปาที่กำลังจะมีขึ้นด้วย ส่วนเรื่องบุตรีแห่งรีเบคก้า พวกเราจะช่วยโน้มน้าวกริดให้อีกแรง ถ้ามีเรื่องใดต้องการให้ช่วยอีกก็พูดมาได้เลย"
โอกาสทองมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ลอเอลไม่มีทางพลาดที่จะคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มพยายามยิ้มอย่างอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันดูราวกับเป็นรอยยิ้มอันแสนโอบอ้อมอารีของพนักงานเสริฟร้านอาหาร ดาเมี่ยนที่ไม่รู้จักลอเอลดีจึงตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง
"จ--ใจดีจัง...! ขอบคุณมาก! ขอบคุณมากจริงๆ! ฉันจะมอบของขวัญตอบแทนให้นายเป็นพิเศษ ปลอกหมอนที่ปริ้นลายอิสซาเบลจังเป็นไง!"
"หึหึหึ… ฉันเองก็ดีใจที่ได้ช่วยเหลือนาย ตัวฉันอีกคนหนึ่งที่เคยหลับไปเป็นเวลานาน ยามนี้กำลังลุกขึ้นมาเต้นรำอย่างเริงร่า"
'พวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน?'
'ฉันเองก็ไม่รู้'
ชาวโอเวอร์เกียร์ไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่ลอเอลกับดาเมี่ยนกำลังสนทนาอยู่เลย มันเป็นการยากที่จะเข้าถึงสิ่งพิเศษแบบนี้ได้
***
อันที่จริง แร็บบิทรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของปิอาโร่ได้ดียิ่งกว่าใคร ก่อนหน้าที่สมาชิกโอเวอร์เกียร์จะล่วงรู้ความจริงเสียอีก ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองผู้คนอย่างทะลุปรุโปร่งด้วยดวงตาอันเจนโลกคู่นั้น แต่แร็บบิทก็มีเหตุผลที่จ้างปิอาโร่ในฐานะชาวนาอันต่ำต้อย
เศษรฐกิจของเรย์ดัน ถ้าหากมอบตำแหน่งปิอาโร่ให้สมกับความสามารถ แร็บบิทจะต้องจ่ายเงินเดือนเขาในราคาที่สูงมาก สภาพคล่องทางการเงินของเรย์ดันจะเกิดปัญหาเอาได้ แร็บบิทจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัวจริงของปิอาโร่และจ่ายเงินเดือนในฐานะชาวนา
ลงเอ้ยด้วย แร็บบิทได้จ้างคนที่มีประโยชน์สูงสุดกับเรย์ดันด้วยค่าแรงต่ำสุด ปิอาโร่ทำงานอย่างคุ้มเงินเดือนโดยการปกป้องทุ่งข้าวสาลีอันเป็นสถานที่ทำงานหลักของชาวนา ด้วยเงินเดือนเพียง 73 เหรียญเงิน ปิอาโร่สามารถปกป้องเรย์ดันไว้ได้โดยที่ไม่ยอมให้ผู้ใดย่างกรายผ่านทุ่งข้าวสาลี
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นยอดเยี่ยมเกินกว่าที่แร็บบิทคาดไว้มาก มันเหนือคำบรรยาย ในเวลาเดียวกันก็เป็นความอึดอัดใจ
'เราควรตอบแทนเขาให้มากกว่านี้...'
หากจะให้แร็บบิทประเมินคุณงามความดีของปิอาโร่เป็นเม็ดเงิน มันจะมีมูลค่าที่สูงถึงหลายล้านเหรียญทอง ไม่ใช่ว่าแร็บบิทไม่ต้องการจ่าย แต่เป็นเพราะเรย์ดันไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น
'เราคงต้องมอบอะไรสักอย่างให้กับเขา'
การตกรางวัลเป็นหน้าที่ของลอร์ด ไม่ใช่เทศมนตรี ในตอนนี้กริดไม่อยู่ในเมือง จึงไม่มีใครที่มอบรางวัลพิเศษให้ปิอาโร่ได้
'ถ้างั้นก็...'
แร็บบิทแสดงความจริงใจขั้นสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้ด้วยตำแหน่งที่มี
[ ตัวข้า เทศมนตรีแร็บบิท ขอแต่งตั้งชาวนาปิอาโร่ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฟาร์มข้าวสาลีนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ]
นี่คือวินาทีที่เงินเดือนของปิอาโร่ถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเหรียญทองกับอีก 30 เหรียญเงิน ถือเป็นการขึ้นเงินเดือนที่มากถึงสามเท่าตัวในคราเดียว และนี่คือจำนวนเงินที่แร็บบิทผู้แสนงกได้ตัดสินใจแบ่งให้ด้วยศีลธรรมขั้นต่ำสุดของเขา
***
[ หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปได้ต่อสู้เพื่อดยุคกริด! ]
พาดหัวข่าวที่ชวนเตะตาได้ถูกแพร่กระจายออกไปทั่วโลก
คีย์เวิร์ดการค้นหาล่าสุดถูกเปลี่ยนเป็น <กริด> <เอิร์ลอัชเชอร์> <สิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีป> <เจ็ดกิลด์ใหญ่> <การรุกรานเรย์ดัน> และอื่นๆ อีกมากมาย ข่าวคราวการปรากฏตัวของชาวนาในตำนานไม่มีใครให้ความสนใจอีกต่อไป
บันนี่บันนี่ ต้นตอของผู้ที่แพร่กระจายข่าวทั้งหมด ยามนี้เขากำลังรุ่งเรืองสุดขีด
'หกในเจ็ดกิลด์ใหญ่นอกจากกิลด์ใจแอนท์ตัดสินใจรุกรานเรย์ดัน แต่ระหว่างทาง กิลด์ยัคและเซราฟได้ถูกเอิร์ลอัชเชอร์บดขยี้ไม่เหลือชิ้นดีภายในป้อมปราการแพเทรี่ยน'
ยอดการเข้าชมเนื้อหาข่าวของบันนี่บันนี่ได้พุ่งสูงถึงสามแสนคน และยอดวิวของคลิปวิดีโอได้พุงสูงถึงหกแสนวิวภายในวันเดียว ไม่เพียงแต่เขาจะร่ำรวย แต่บันนี่บันนี่ยังได้รับชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมากมาย
ตำแหน่งนักจัดรายการเกมอันดับหนึ่งกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง
>> กริดยอดไปเลยนะ การที่มีเอิร์ลอัชเชอร์เป็นลูกน้องได้แบบนี้ ㄷㄷ
>> เอิร์ลอัชเชอร์คือบุคคลที่ทรงพลังอันดับหนึ่งในอาณาจักรอีเทอนัลใช่ไหม...? จริงหรือเนี่ย? สมกับเป็นก็อดกริด
>> ฉันอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ชื่อของกริดได้ออกทีวีที่นี่ทุกวัน ㅋㅋㅋ คงไม่มีใครในประเทศนี้ที่ไม่รู้จักกริดอีกแล้วกระมัง ㅋㅋㅋ
>> ฉันมาเรียนที่ญี่ปุ่น หลังจากงานแข่งนานาชาติเป็นต้นมา เพื่อนชาวญี่ปุ่นก็เอาแต่ถามเรื่องกริด ฉันสามารถยืดอกอย่างภาคภูมิใจที่ได้เป็นชาวเกาหลีใต้ ทั้งหมดก็เพราะกริด ㅎ
>> แล้วเกิดอะไรขึ้นกับสี่กิลด์ที่เหลือนอกจากยัคและเซราฟ?
>> เพื่อนของลูกพี่ลูกน้องของภรรยาฉันอยู่ในกิลด์โกลเด้น เขาเล่าว่า ทุกกิลด์ล้วนถูกชาวนาของเรย์ดันขันไล่จนต้องหนีกลับอย่างไม่เป็นท่า
>> เฮ่อ… ㅉ ㅉ มีแต่พวกนักแต่งนิยายเต็มไปหมด ถ้านายไปเขียนนิยายสักเรื่องคงดังน่าดู
ชาวเกาหลีใต้ต่างพากันตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ ทุกคนล้วนภูมิใจที่ได้เป็นชาวเกาหลีใต้เมื่อกริดออกมาทำสิ่งที่โลกตกตะลึง
แต่ความเป็นจริง ตัวกริดในตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเรย์ดันถูกรุกราน สมาชิกโอเวอร์เกียร์ยังไม่ได้รายงานให้เขารับรู้ เพราะเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจใหญ่ที่กริดกำลังทำอยู่ ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำภารกิจให้ปิอาโร่อย่างเต็มที่
***
ณ เมืองหลวงของจักรวรรดิซาฮารัน ไททัน
กริดเดินทางมาถึงด้านหน้าที่พักของอัสโมเฟลหลังจากผ่านมาถึงสามสัปดาห์
ชายหนุ่มตัดสินใจเปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาดูอีกครั้ง
[ ชื่อ : กริด
เลเวล : 291
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
_______
พละกำลัง : 2,770(+140)
ความอดทน : 1,246(+120)
ความว่องไว : 1,626(+110)
สติปัญญา : 711(+310)
ความชำนาญ : 1,634(+660)
ความพากเพียร : 958(+110)
ความเยือกเย็น : 658(+110)
ความทรหด : 913(+220)
ความน่าเกรงขาม : 1,566(+110)
วิสัยทัศน์ : 1,406(+110)
ความกล้าหาญ : 602(+110)
พลังอสูร : 31 ]
ถือเป็นแต้มสถานะที่ไม่ว่าหากใครได้เห็นก็ต้องอิจฉา ด้วยความที่แต้มสถานะซึ่งได้รับจากการผลิตไอเท็มน้อยลงด้วย <เหตุการณ์พิเศษ> ทำให้แต้มสถานะของกริดเติบโตช้ากว่าสมัยก่อนหลายเท่าตัว แต่เขาก็ไม่ได้หัวเสียหรือผิดหวังในเรื่องนั้นอีกแล้ว
อย่างน้อยก็ยังได้แต้มสถานะเพิ่มขึ้นจากการผลิตไอเท็มและสมญานามต่างๆ อยู่ กริดยังมีพลังของไอเท็ม พลังของทักษะ และฝีมือการควบคุมที่ดีขึ้น เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า
'เราแข็งแกร่งที่สุด'
ตลอด 28 ปีที่ผ่านมาในชีวิต วินาทีนี้คือจุดสูงสุดอย่างไร้ข้อกังขา ความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมมาพร้อมกับไฟการต่อสู้ที่ลุกโชน
"อัสโมเฟล"
ชายที่บังอาจป้ายสีให้ปิอาโร่เป็นคนทรยศจนต้องตกอับ
"คราวนี้ถึงตาแกเป็นฝ่ายสูญเสียบ้างแล้ว"
ดวงตาสีแดงของกริดที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าคาดตาพลันส่องประกาย ชายหนุ่มหยิบผ้าคลุมหัวแบบมีซิปออกมาสวม
***
อัสโมเฟลคือชายผู้มีจิตใจสูงส่งและมอบความจริงใจกับผู้อื่นเสมอมา เขาคือบุตรชายคนโตของเอิร์ลเปรโด หนึ่งในสามนิ้วมือที่จงรักภักดีของจักรพรรดิ แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภายนอกขนาดไหนก็ตาม อัสโมเฟลก็ไม่เคยละเลยการฝึกดาบที่เป็นกฏเหล็กของตระกูล ลงเอยด้วยการที่เขามีฝีมือแข็งแกร่งจนได้เข้าร่วมกองอัศวินสีชาดตั้งแต่อายุยังน้อย
นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตอันแสนเปราะบาง อัสโมเฟลประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จนกลายเป็นตัวตนที่มีสถานะทางสังคมสูงส่ง เขาคือหนึ่งในเสาหลักของจักรวรรดิเคียงคู่มากับเพื่อนรักที่สนิทที่สุด ปิอาโร่
แต่ทุกสิ่งล้วนมลายหายไปด้วยแผนชั่วของจักรพรรดินีแมรี่
เขาเสียบมีดในมือแทงเข้าใส่หัวใจของพวกพ้องและสหายร่วมรบจำนวนมาก
ทุกคืนต้องผ่านไปประหนึ่งฝันร้าย
"นังแพศยา!"
โครม!
อัสโมเฟลทุบโต๊ะที่เปี่ยมไปด้วยขวดเหล้าอย่างรุนแรง
จักรพรรดินีแมรี่ อัสโมเฟลจำเป็นต้องใช้สุราเพื่อให้ลืมนังผู้หญิงบัดซบคนนั้น แต่เขาก็ไม่อาจลืมเธอได้ลง ความเลอโฉมของแมรี่ไม่อาจถูกลบจากใจได้โดยง่าย
"ปิอาโร่เพื่อนรัก...!"
เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก อัสโมเฟลตะโกนเช่นนี้เป็นร้อยหนในหนึ่งวัน แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่อาจส่งไปถึงปิอาโร่ได้ นั่นยิ่งทำให้เขาปวดร้าวมากกว่าเดิม
"เกิดอะไรขึ้น?"
เมื่อได้ยินเสียงดังโวยวาย บรรดาอัศวินจึงรีบกรูเข้ามาด้านใน ทุกคนสวมชุดเกราะสีแดง ทั้งหมดคืออัศวินที่จงรักภักดีกับแมรี่ เธอได้ส่งคนมาคอยดูแลอัสโมเฟลโดยอ้างว่าเป็นการคุ้มกัน แต่ความจริงแล้วคือการจับตามอง
อัสโมเฟลถูกขังอยู่ในที่พักแห่งนี้มานานแรมปีแล้ว
"ไอ้พวกสุนัข..."
อัสโมเฟลไม่อาจเก็บงำความโกรธเอาไว้ได้ เขาพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาอาวุธ แต่ก็หาไม่พบ อัศวินได้กระซิบกระซาบกันเล็กน้อยก่อนจะนำจอมเวทย์คนหนึ่งเข้ามา มันคือจอมเวทย์มืด อัสโมเฟลพลันยืนสั่นระริกทันทีที่ได้เห็นชายคนนี้
"ห--หยุด!"
เขาพยายามขัดขืน แต่นั่นก็สูญเปล่า บาดแผลทางจิตใจอันรุนแรงที่เกิดขึ้นจากความผิดบาปต่อปิอาโร่ ประกอบกับการถูกมอมยาและมนต์ดำเป็นเวลานาน พลังทางใจของอัสโมเฟลจึงกำลังอ่อนแอถึงขีดสุด
ซู่ววว
เวทย์ล้างสมองอันรุนแรงได้ทำให้ม้าพยศอย่างอัสโมเฟลเชื่องได้ในพริบตา สีหน้าของเขาไร้อารมณ์ราวกับซากศพ
"ปีอาโร่เป็นใคร?"
"คนทรยศของจักรวรรดิและศัตรูของฉัน"
ดวงตาของอัสโมเฟลมีน้ำใสๆ รินไหลออกมาเมื่อตนเองตอบคำถามออกไปโดยไม่ลังเล มันคือเศษเสี้ยวน้ำตาหยดสุดท้ายที่อัสโมเฟลร้องไห้ก่อนจะถูกล้างสมองอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
อ้าว ความจริงนี่หนังคนละม้วนเลย
ReplyDeleteทหารในตำนานของเรดันมาแล้ว!!!!
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteคนเล่นเกม2พันล้าน คนอ่านข่าว3แสนคน ก็กาลายเป็นนักจัดรายการอันดับ1แล้ว...0.015%ของคนเล่นเกม
ReplyDelete06.07%
Deleteตัวร้ายที่แท้จริงคือคนเขียนนี้เอง
ReplyDeleteจริง
Deleteดราม่าเอ๋ยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น
ReplyDelete