จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,564



พลัง อำนาจ สุขภาพ อายุขัย


ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของ ‘เขา’ นั้นยิ่งใหญ่ เป็นตัวแทนของความสูงส่งมาช้านานไม่ว่าจะในยุคสมัยหรือวัฒนธรรมใด


การที่ทราวก้าตัดเขาของอิฟริตเป็นอันดับแรก เปรียบได้กับการช่วงชิงและทำลาย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อิฟริตอ่อนแอลงมาก


อิฟริตสูญเสียพลัง อำนาจ สุขภาพ และชีวิตอันเป็นนิรันดร์


มันต้องทุกข์ทรมานจากบาดแผลและคำสาปที่ทราวก้าฝากไว้ และมีชะตากรรมที่ต้องค่อยๆ หมดลมหายใจ


เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยไม่สนว่าอิฟริตจะมีพลังเหลือมากแค่ไหน


อิฟริตไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโหยหาพลังของบาเอลอย่างบ้าคลั่ง


ชิ้นส่วนพลังบาเอล


ผลลัพธ์จากสันดานชอบเล่นสนุกของบาเอล


ยิ่งเป็นวัตถุจากตัวตนยิ่งใหญ่เพียงใด อำนาจก็ยิ่งมากมายเพียงนั้น


เป็นแรงเย้ายวนที่อิฟริต ผู้มองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง มิอาจต้านด้านไหว


เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เหลือ ตัวเลือกที่มันมิอาจปฏิเสธ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าปลายทางคือการกลายเป็นของเล่นให้บาเอล


อิฟริตเลือกเดินทางนี้


แต่ทันใดนั้น กริดปรากฏตัวขึ้น


ความหวังที่สว่างไสวยิ่งกว่า ได้แทรกเข้ามาที่ชะตากรรมอันน่าสมเพชซึ่งบาเอลมอบให้


เทพโอเวอร์เกียร์กริด


หนึ่งในการดำรงอยู่อันยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้


แม้อายุจะยังน้อย แต่ก็ได้ถือครองพลังที่ใครหลายคนปรารถนา


ชายผู้เคยพิสูจน์ให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เทวตำนานของตน ไม่มีเรื่องใดเลยที่เกินจริง


> เจ้าทำได้


เสียงกังวานของอิฟริตสั่นเทาแผ่วเบา


ร่างของมันซึ่งถูกหอกที่กริดสร้างเติมเต็มอวัยวะกึ่งกลางหน้าผาก มิได้ดูน่าสมเพชหรือตลกขบขัน


เงาของมันซึ่งสั่นไหวอยู่บนพื้นเล็กน้อย เริ่มขยายใหญ่และปกคลุมท้องฟ้า


ครืนนนนน…!


ผืนดินกำลังร้องคำราม


ร่างของอิฟริตซึ่งแต่เดิมก็ใหญ่โตอยู่แล้ว ยิ่งขยายใหญ่จากเดิมสองเท่า สามเท่า และสี่เท่า จนมิอาจกะเกณฑ์น้ำหนักได้แม่นยำ


ซู่ว!


กลางวันกลางคืนถูกแบ่งโดยมีอิฟริตเป็นเส้นคั่น


ศีรษะของอิฟริตซึ่งสูงยิ่งกว่าขุนเขา กำลังบดบังดวงอาทิตย์


ซู่ว!


พายุเกรี้ยวกราดโหมกระหน่ำ ฝังเศษซากเมืองให้จมลงท่ามกลางเม็ดทราย


เพียงการกระพือปีกหนเดียวของอิฟริต เมืองซึ่งเคยมีผู้คนอาศัยอยู่หลายพัน อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน


ปึด! ปึด!


ผิวหนังกริดพัดกระพืออย่างหนัก ราวกับเนื้อจะหลุดออกจากผิวหนังด้วยแรงลม


มังกร


สุดยอดสายพันธุ์แห่งสิ่งมีชีวิตก้าวข้าม แม้กระทั่งเทพก็ยังหวาดหวั่น


เป็นราวกับภัยพิบัติเดินดินซึ่งไม่ควรเผชิญหน้าด้วยประการทั้งปวง ไม่สมควรดำรงอยู่บนโลก


‘บ้าบอสิ้นดี…’


กริดหวนนึกถึงวันที่มันคอยเป็นไกด์พาไรเดอร์สตระเวนชิมอาหาร


มันยังไม่ลืมความน่าสะพรึงของอีกฝ่าย เป็นความกลัวที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ


ยามนี้ได้หวนกลับมาลิ้มรสอีกครั้ง


ว่ามังกรนั้นทรงพลังเพียงใด


ลำพังการดำรงอยู่ก็เป็นภัยคุกคามก็โลกแล้ว


“ไม่มีมังกรตัวใดปรกติ”


คำแนะนำที่เคยได้ยิน ย้อนกลับมากระตุ้นความตื่นตัวในใจกริด


บางที เราอาจหลีกหนีอันตรายเล็กน้อย เพื่อนำพาหายนะที่ใหญ่กว่ามาแทน…


คำนึงถึงอุปนิสัยอันบิดเบี้ยวของมังกร เกรงว่าพลังทำลายอันแข็งแกร่งจะถูกนำมาใช้สร้างหายนะเป็นหลัก


ขณะกริดกำลังตั้งคำถามกับทางเลือกของตัวเอง


ซ่า—!


อิฟริตพ่นไฟออกจากปาก


ไม่ใช่แค่ลมหายใจร้อน แต่คราวนี้มันคือกลุ่มก้อนมานาที่เข้มข้น


พลังงานอันหนาแน่นพุ่งเป็นเส้นตรงขึ้นฟ้าประหนึ่งลำแสง เป้าหมายคืออูซา


อูซาซึ่งพยายามต้านทานเปลวไฟของอิฟริตด้วยสายฝน มีชะตากรรมต้องเสียหลักถอยหลังพร้อมกับเสียงครวญคราง


ซ่า—!!


ลมหายใจที่เฉียดผ่านอูซาไปเล็กน้อย แหวกผ่านเมฆดำด้านบนก่อนจะสลายไปในที่สุด


นั่นคือเมฆที่อึนซาสร้าง


เป็นการสนับสนุนให้อูซาเสกฝนได้ง่ายขึ้น แต่ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์


ครืนนนน—!


ฝนดาวตกสีแดงเพลิงร่วงหล่นจากฟากฟ้า


เป็นทัศนียภาพอันเกิดจากลมหายใจร้อนซึ่งพุ่งขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศ


ตรงข้ามกับความน่าสะพรึง ฉากดังกล่าวดูงดงามจนสะกดกริดให้ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ


เฉกเช่นฮวางกิลดงและเฒ่าดาบมารซึ่งหนีออกนอกเมืองไปแล้วและกำลังยืนกลางทะเลทราย


“นายรู้หรือว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้?”


เฒ่าดาบมารตั้งคำถามถึงทัศนคติที่รีบเผ่นหนีของฮวางกิลดง


นั่นค่อนข้างน่าแปลก เพราะในตอนแรกอีกฝ่ายอาสาเข้าไปช่วยกริดเอง แต่ตอนหนีกลับเผ่นป่าราบโดยไม่มองหลัง


เฒ่าดาบมารอาจยังขาดฝีมือ แต่ฮวางกิลดงนั้นไม่ใช่


ฮวางกิลดงต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง มานานนับร้อยปีแล้ว


จากประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสม ยิ่งสถานการณ์วิกฤติเพียงใด มันก็ยิ่งแสดงฝีมือเป็นที่ประจักษ์


กล่าวคือ มันเก่งพอที่จะเป็นประโยชน์ให้กริดได้อยู่บ้าง


“ใช่”


ฮวางกิลดงพยักหน้า พลางเปิดหนังสือเล่มเก่าที่หยิบออกมา


ตำราเวทมนตร์สุขาวดี


เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งฮวางกิลดงนำกลับมาจากการเยือนสวนสวรรค์


หนังสือดังกล่าวรวบรวมคำทำนายของ ‘เซียน’ เรียกได้ว่าใกล้เคียงหนังสือพยากรณ์


ทุกเหตุการณ์พิเศษ อนาคตจะถูกเขียนลงที่ว่างในรูปแบบบทกวี ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์กับฮวางกิลดงอย่างมาก


เป็นเหตุผลว่าทำไมฮวางกิลดงซึ่งเป็นเพียง ‘ตำนานมนุษย์’ ถึงสามารถต่อกรกับอาณาจักรฮวานตามลำพัง


“มันเขียนไว้ว่าจะเกิด”


“มังกรกำลังจะอาละวาด… เรื่องจริงหรือ?”


“อย่าสงสัยมัน เป็นเพราะหนังสือเล่มนี้ ฉันจึงส่งยังบันจำนวนมากลงนรก และกลายเป็นส่วนสำคัญในการช่วยปลดผนึกเทพเต่าดำ”


เป็นคำพูดที่เกินจริงไปเล็กน้อย


อาจจะถูกที่หนังสือเวทมนตร์สุขาวดีมีประโยชน์อย่างมาก แต่ข่าวกรองและข้อมูลจากเครือข่ายฮวัลบินดัง รวมถึงฝีมือของฮวางกิลดง คือส่วนสำคัญซึ่งช่วยให้ภารกิจลุล่วง


แต่ฮวางกิลดงกลับยกความดีความชอบทั้งหมดให้หนังสือเวทมนตร์


นั่นเพราะตัวตนที่แท้จริงของ ‘เซียน’ ผู้มอบหนังสือเล่มดังกล่าวให้ก็คือ ‘เบนทาโอ’


ตัวการสำคัญที่รับวิวรณ์มาจากทวยเทพและป้ายสี ‘เจ็ดมาร’


ในภายหลัง เบนทาโอได้ทราบความจริงและสำนึกเสียใจอย่างมาก และกลายเป็นเซียนตนเดียวที่ฮวางกิลดงเชื่อใจ


“เร่งมือกันเถอะ ตอนนี้เรามีงานด่วนต้องทำ”


สายตาของฮวางกิลดงซึ่งเรียกเมฆออกมาขี่ มองไปทางอาณาจักรปา


“นี่คือโอกาสสำคัญที่จะทำลายการเชื่อมต่อระหว่างคายากับปา และช่วงชิงหอกเสือขาวออกมา”


***


โดโปของอูซาซึ่งเคยยับเยินจากผลของลมหายใจ ปัจจุบันฟื้นฟูกลับเป็นปรกติโดยปราศจากรอยฉีกขาด


“ดูเหมือนว่าฮานึลจะคาดหวังในตัวเจ้าพอสมควร”


สายตาเย็นชาของอูซาจับต้องไปทางกริด มิใช่อิฟริต


“ว่ากันตามตรง ข้าเองก็เช่นกัน ใครจะไม่คาดหวังกับมนุษย์ที่ผ่านบททดสอบของซือโหยว และหลังจากนั้นได้กลายเป็นเทพ?”


ซ่า!


สายฝนยังคงโปรยปราย


“นอกจากนั้น ไม่ใช่ว่าเจ้าอยู่ในจุดยืนที่ต้องเป็นศัตรูกับแอสการ์ดหรอกหรือ?”


อูซากำลังถือบางสิ่งในมือ


เนื่องจากมันล่องหน จึงทำได้เพียงคาดเดาว่าเป็นดาบและหอก สายฝนที่ตกลงในบริเวณดังกล่าวหายไปจนช่วยให้พอจะมองเห็นรูปร่างอย่างคลุมเครือ


“จงคิดอย่างมีสติ เจ้าไม่มีเหตุผลให้ต้องร่วมมือกับมังกร… บนโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ พวกเราคือฝ่ายเดียวที่ยืนเคียงข้างเจ้าได้”


คำพูดของอูซาฟังดูสมเหตุสมผลอย่างมาก


โลกกึ่งกลาง นรก แอสการ์ด อาณาจักรฮวาน และมังกร


ขั้วอำนาจใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นห้าฝ่าย โดยนรกและแอสการ์ดกำลังร่วมมือกันเพื่อสยบโลกกึ่งกลางและอาณาจักรฮวาน


โลกกึ่งกลางและอาณาจักรฮวานถูกตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิง และการหวังพึ่งพามังกรก็ไม่ใช่เรื่องฉลาด


มังกรคือสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาไม่ได้ ไม่แม้กระทั่งเป็นหนึ่งเดียวกันในเผ่าพันธุ์


ทุกตัวมีนิสัยสุดโต่ง จึงไม่ยอมรับความคิดของกันและกัน


แต่ละตัวล้วนเจ้าเล่ห์ ตรงข้ามกับความพวกมือ พวกมันยิ่งหวาดระแวงภายในมากกว่าภายนอก


ดังนั้น ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของโลกกึ่งกลาง คือการจับมือกับอาณาจักรฮวาน


โลกกึ่งกลางจึงควรจะสนใจข้อเสนอที่สมเหตุสมผลจากอาณาจักรฮวาน


อย่างไรก็ดี ตัวแทนของโลกกึ่งกลางในเวลานี้คือกริด


กริดมิได้มองแค่ผลประโยชน์เพียงผิวเผิน


จากประสบการณ์มากมายที่สั่งสมมายาวนาน มันมองเห็นภาพรวมของโลกใบนี้


อูซาเร่งเร้ากริด


“กำลังกังวลในสิ่งใด? หากเกรงว่ามังกรชั่วร้ายตัวนี้จะทำลายทวีป เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยสภาพปัจจุบัน มันไม่ต่างอะไรกับเถ้าถ่านที่กำลังจะดับมอด”


เป็นไปตามนั้น


ร่างกายอิฟริตหดลงทันทีหลังจากพ่นลมหายใจออกไปเพียงครั้งเดียว


เกล็ดสีแดงซึ่งคืนความสดใสแวววาวจนกระทั่งเมื่อครู่ เริ่มถูกย้อมกลายเป็นสีดำ


แม้จะฟื้นตัวได้มากภายในเวลาอันสั้น แต่ก็ไม่มีทางกลับไปอยู่ในสภาพปรกติ


อย่างไรก็ดี กริดลอยไปทางอิฟริตและยืนเคียงข้างกัน


กริดเลือกข้างอิฟริต แต่มิใช่เพราะกลัวว่าจะถูกอิฟริตทำร้าย หรือคิดจะเจรจากับมังกรผ่านอิฟริต


และไม่ใช่เพราะเชื่อใจอีกฝ่าย


เพียงแต่ว่า ชายหนุ่มไม่ไว้ใจ และเกลียดชังอาณาจักรฮวานมากเหลือเกิน


“หากจะถามว่าใครชั่วร้ายที่สุด คนคนนั้นคงเป็นพวกนาย”


“…?”


“พวกเจ้ามันบิดเบี้ยว ไม่เคยรู้สึกผิดกับการรุกรานและแย่งชิงดินแดนของเทพตนอื่นมาเป็นของตัวเอง อีกทั้งล้างสมองและหลอกลวงมนุษย์ที่กราบไหว้บูชาเทพเหล่านั้น”


กริดนึกทบทวน


เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนทวีปตะวันออก


เหล่าคนที่ถูกทารุณกรรมโดยไม่มีความผิด ชองโฮและโทซุนที่ต้องคอยซ่อนตัวจากยังบันซึ่งเย้ยหยันและหัวเราะเยาะพวกเธอแทนที่จะรู้สึกผิด


ดินแดนแห่งนี้ไม่ต่างจากนรก


นรกที่สร้างโดยเทพ


ดวงตากริดเผยความเกลียดชังขณะนึกทบทวนตั้งแต่ต้นจนจบ


เป็นห้วงอารมณ์ของเทพ ชายผู้ครึ่งหนึ่งเคยถูกคนที่นี่เรียกขานว่า ‘เทพคุณธรรม’


“อย่างน้อย มังกรก็อ้างได้ว่าพวกตนเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่รู้ผิดชอบ แต่พวกนายที่เข้าใจศีลธรรมและสามัญสำนึกของมนุษย์อย่างถ่องแท้ กลับยังคงทำตัวชั่วช้าโดยไม่มีขีดจำกัดล่าง… เป็นไอ้สวะที่ต้องถูกกำจัดทิ้งสถานเดียว”


“…”


ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศทันที


ถ้อยคำตำหนิอย่างรุนแรงของกริด ทำให้สามซาหมดคำจะโต้แย้ง


บุคคลที่ทำลายความเงียบไม่ใช่ใคร แต่เป็นอิฟริตร่างยักษ์


> คึฮะฮะฮะ!! สัตว์ร้ายที่ไม่รู้ผิดชอบสินะ… ไม่เลว… ในสายตาพวกเจ้าก็อาจเป็นเช่นนั้น


อิฟริต อีกหนึ่งตัวตนที่ได้รับผลกระทบแง่ลบจากคำพูดกริด มีสิทธิ์ที่จะโกรธ


แต่ตรงกันข้าม โดยปราศจากความไม่พอใจ มันเข้าใจหัวอกกริดเป็นอย่างดี


ครืน!


คอยาวของอิฟริตลดระดับลงมาเท่ากับฝ่าเท้ากริด


> ขึ้นมา


“…หา?”


ให้ขี่?


กริดซึ่งเสียขวัญไปเล็กน้อยเนื่องจากพบข้อผิดพลาดในคำพูดตัวเอง กำลังสับสนงุนงงสุดขีด


แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น


อิฟริตเอาหางของมันพันรอบตัวกริดโดยไม่ขออนุญาต จากนั้นก็นำมาวางแช่ไฟบนท้ายทอย


> ข้าได้ยินมาว่า ในหมู่มนุษย์มีคนที่เรียกตัวเองว่าอัศวินมังกร ทำการสู้รบโดยขี่สิ่งมีชีวิตซึ่งพวกเราสร้างขึ้น


ดูเหมือนว่าจะหมายถึงอัศวินไวเวิร์น


> ช่างน่าขัน ทั่วทั้งโลกใบนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นอัศวินมังกรที่แท้จริงเพียงคนเดียว


เมื่อสิ้นคำประกาศของอิฟริต ปีกของมันสยายออกพร้อมกับสร้างลมกระโชก


เบื้องล่างเผยให้เห็นพื้นดินที่เป็นหินและก้อนกรวด เบื้องบนถูกปกคลุมไปด้วยทรายสีเหลือง


“เทพเสียสติกับมังกรเสียสติ”


ลมของพุงซาพุ่งเข้าปะทะพายุจนเกิดความอลหม่าน


เทพผู้กำลังขี่คอมังกรยักษ์


ท่ามกลางทรายสีเหลือง พวกมันเพิ่งเคยฉากสุดพิสดารเช่นนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากไม่เคยมีบันทึกไว้ในตำนานใดมาก่อน


ต่อให้เห็นกับตาก็ยากที่จะเชื่อ ฉากตรงหน้าได้ก้าวข้ามสามัญสำนึก จนแม้แต่จินตนาการและความเข้าใจของเทพก็ยังตามไม่ทัน


อึนซาผู้เตรียมเสกเมฆขึ้นมาใหม่ กล่าวกับอูซา


“อย่าประมาท”


ภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก คือสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับเทพ


ไหนว่าเทพแข็งแกร่งครอบจักรวาล?


สิ่งที่พวกมันกำลังจะทำ ถือเป็นการลดเกียรติของเทพลงอย่างมาก


อูซาเองก็ทราบดี


“ให้ตายสิ… เหลวไหลสิ้นดี…”


แต่สามซาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องถอย


พวกมันถอนตัวจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงปะทะกับกริดและอิฟริตซึ่งกำลังพุ่งเข้าใส่


[…!]


[…!!]


[…!!!]


[ระบบกำลังวิเคราะห์สถานการณ์…]


หน้าต่างแจ้งเตือนของกริดเกิดเออเรอร์ในทันที


______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00