จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,563

 


‘ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราอยู่โดยไม่มีชุนโปได้ยังไง’


ชุนโปกำลังถูกจำกัดการใช้งาน


เป็นผลสืบเนื่องจากเวทมนตร์ของสามซา อำนาจในการผนึกวิชาเดินทางผ่านห้วงมิติทุกชนิด


กริดรู้สึกกระสับกระส่ายกว่าที่คิด


เป็นความหงุดหงิดยิ่งกว่ายามสูญเสียแขนขาขณะต่อสู้


ยิ่งขาดหายไป กริดก็ยิ่งได้สำนึกว่าชุนโปนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด


พลังซึ่งช่วยให้เคลื่อนที่ไปได้ทุกจุดขอเพียงตาเห็น


การมีกับไม่มี แตกต่างราวฟ้ากับเหว


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคู่ต่อสู้คือมีร์


ศัตรูทรงพลังซึ่งสามารถใช้งานพลังเทพสี่ทิศได้ดังใจนึก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความว่องไวของมังกรคราม


ในทางทฤษฎี กริดไม่มีทางตามความเร็วของมีร์ทันหากไม่ใช้ชุนโป


ต่อให้ประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์แจ้งเตือนล่วงหน้า แต่ด้วยสมรรถภาพร่างกายกริด ก็ยังเป็นการยากที่จะขยับตัวหลบทัน


ใช่แล้ว


มีร์เร็วกว่าเมื่อก่อนมาก


อาจเป็นเพราะมีร์กระตุ้นพลังมังกรครามออกมาจนถึงขีดจำกัด แต่ก็ยังยากจะให้เชื่อว่า มีร์แข็งแกร่งกว่าไลฟาเอลมากเพียงนี้เชียว


จากมุมมองของผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ศักยภาพการเติบโตของมีร์น่าทึ่งเกินไป


สมแล้วที่เป็นตัวตนซึ่งถูกมหาเทพฮานึลสร้างขึ้น เพื่อต่อกรกับบาเอลและไลฟาเอลโดยเฉพาะ


ก่อนจะได้พบกริด ซือโหยวคาดหวังกับมีร์ไว้มากที่สุด


และมีร์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตนมีศักยภาพสมคำร่ำลือตามภูมิหลัง


เป็นธรรมดาที่กริดจะไม่มีโอกาสชนะ


นับตั้งแต่วินาทีที่ชุนโปถูกผนึก ก็อาจกล่าวได้ว่า ชะตากรรมที่กริดจะคว้าชัยได้ถูกปิดตาย


อย่างไรก็ดี ยังมีบางสิ่งต้องนำมาคำนึง


นั่นคือเรื่องที่ ศักยภาพในการเติบโตของกริดก็มิได้ด้อยไปกว่ามีร์


ประสาทสัมผัสเทียม


พลังแห่งไอเท็ม ซึ่งถือกำเนิดภายใต้เทพแห่งไอเท็ม


แตกต่างจากประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์ซึ่งจะทำเพียงตักเตือนว่ามีการโจมตีเข้ามา ประสาทสัมผัสเทียมของกริดสามารถอ่านวิถีการโจมตีได้อย่างแม่นยำและไร้ขีดจำกัด


และจากการอ่านวิถี กริดสามารถทำความเข้าใจกับลักษณะการโจมตี


นอกจากนั้น กริดกำลังอยู่ในสถานะ ‘ผลิตไอเท็ม’ ส่งผลให้ทักษะความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนานแสดงผล พลังป้องกัน สมาธิ และค่าเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น 300%


เมื่อเทียบกับนักขุดแร่ในตำนานซึ่งจะเป็นอมตะระหว่างการขุด ช่างตีเหล็กในตำนานอาจดูด้อยกว่า แต่ด้วยพลังป้องกันอันมหาศาลของกริด ประสิทธิภาพของทักษะจึงแสดงผลค่อนข้างชัดเจน


ถึงจะโดนฟันเข้าอยู่บ้าง แต่ก็จะเกิดความเสียหายเพียงไม่เกินหมื่นหน่วย และเมื่อผนวกเข้ากับบัฟจิตวิญญาณเสือขาว ตัวเลขความเสียหายจึงแทบไม่สลักสำคัญในสายตากริด


คอยหลบหลีกอาการบาดเจ็บรุนแรงด้วยประสาทสัมผัสเทียม ลดทอนพลังเสียหายด้วยบัฟซ้อนทับ และเล็งตอบโต้ด้วยอาวุธมังกรจนทำให้มีร์ต้องสะดุ้งและยั้งคิด


เป็นเทคนิคการต่อสู้ซึ่งนำจุดแข็งหลายๆ ด้านของช่างตีเหล็กมาซ้อนทับกัน


ข้อจำกัดของภารกิจที่ระบุว่าต้องสร้างไอเท็มให้เสร็จทันเวลา ได้เปลี่ยนจากจุดอ่อนมาเป็นจุดแข็ง


“…”


มีร์ซึ่งคอยพะวงกับพลังทำลายของศาสตรามังกร เปลี่ยนท่าทีเป็นระแวดระวังมากขึ้น ไม่กล้าโจมตีใส่กริดบุ่มบ่าม


ด้วยเหตุนี้เอง กริดจึงมีโอกาสแบ่งสมาธิไปควบคุมตำแหน่งของหัตถ์เทวะ และคอยปรับปรุงให้ประสาทสัมผัสเทียมสามารถแจ้งข้อมูลได้ละเอียดมากขึ้น โดยการกำหนดปริมาณละอองมานาและด้ายเงิน ผ่านการตั้งค่าเครื่องยิงพลังเวท


‘เราไม่ได้คิดไปเอง… เขาอ่านการโจมตีออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เป็นเวทมนตร์ของโครงกระดูกนั่น? หรือเวทโลหิตของแวมไพร์?’


มีร์เปลี่ยนมาระแวงสัตว์เลี้ยงของกริดแทน ด้วยระดับที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะตั้งคำถาม


‘ฆ่าสัตว์อัญเชิญก่อนดีกว่า’


มีร์วางแผน หลังจากสูญเสียสัตว์อัญเชิญไปมากมาย มันต้องการบีบให้กริดยอมแพ้และถอยกลับไป


มีร์ไม่อยากทำร้ายกริด


แต่ทันใดนั้นเอง


“แมลงหวี่ที่เอาแต่บินวนเวียนไปมา สักวันก็ต้องถูกจับได้”


เป็นคำพูดจากกริด เห็นได้ชัดว่าเป็นการยั่วยุ กริดหวังทำลายความสุขุมของมีร์เพื่อพลิกสถานการณ์


แต่มีร์คิดต่าง


‘แม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ยังมอบคำแนะนำ…’


เข้าใจได้ว่าทำไมมีร์ถึงคิดในแง่นี้


มันคือหนึ่งในคนที่ชื่นชมกริดมากที่สุด และยกย่องว่ามีศักยภาพใกล้เคียงกับตน


มีร์ยกย่องกริดอย่างมาก ชนิดที่กริดไม่มีวันจินตนาการออก


นอกจากนั้น ทั้งสองยังเป็นผู้มีพระคุณของกันและกัน ต่างคนต่างเคยช่วยชีวิตอีกฝ่าย เป็นความสัมพันธ์อันชื่นมื่น แต่น่าเสียดายที่มิอาจป่าวประกาศให้ใครรับรู้ได้


ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่จะพ่นถ้อยคำยั่วยุชั้นต่ำใส่กัน


ไม่ว่ากริดจะกล่าวสิ่งใด โดยไม่สนใจเนื้อหาและน้ำเสียง มีร์จะมองว่าเป็นความปรารถนาดีเสมอ


‘จริงด้วย… เป็นเพราะกังวลกับศาสตรามังกร เราจึงหมกมุ่นกับความเร็วมากเกินไป เป็นการตัดสินใจที่ผิด’


ข้อผิดพลาดแรกก็คือ มีร์กลัวศาสตรามังกรเกินไป และข้อผิดพลาดที่สอง มีร์ไม่ต้องการทำร้ายกริด


อันดับแรก มันตัดสินใจวิเคราะห์สถานการณ์อย่างถี่ถ้วน


หากลงมืออย่างสูญเปล่าต่อไป ฝ่ายที่จะกำชัยคือเทพโอเวอร์เกียร์


การโจมตีส่งเดชโดยไม่ไตร่ตรอง รังแต่จะผลาญเวลาจนสถานการณ์แย่ลง


ต้องรีบปิดบัญชี


การฆ่าเขาจะทำให้เขาออกจากดินแดนนี้…


นั่นคืออีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเทพโอเวอร์เกียร์


“ฟู่ว”


มีร์สูดลมหายใจลึก ดวงตาเผยความเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็น


มันนึกทบทวนประสบการณ์เมื่อครั้งเคยเผชิญหน้ากับอริยดาบ ไล่จากมุลเลอร์มาจนถึงครอเกล จากนั้นก็ปลุกประสาทสัมผัสให้เฉียบคมประหนึ่งใบมีด


บรรยากาศที่เปลี่ยนไป ทำเอาใจกริดตื่นกลัว


‘ได้ผลตรงกันข้าม?’


ฟุ่บ!


มีร์ซึ่งพุ่งตัวเป็นเส้นตรงประหนึ่งลำแสง ปรากฏกายอีกครั้งเบื้องหน้ากริด


หลังจากตวัดดาบหนักมังกรคราม ประสาทสัมผัสเทียมที่ล่องลอยอยู่รอบตัวถูกสะบั้นขาดอย่างไร้ทางต่อต้าน โครงข่ายมานาและด้ายเงินยวบลงในพริบตาราวกับใยแมงมุม


เป็นฉากอันน่าตกตะลึงเมื่อได้เห็นอนุภาคละอองมานาและด้ายเงินถูกตัดขาด


ชวนให้นึกถึงดาบของอริยดาบ ซึ่งสามารถ ‘ตัด’ ได้ทุกแนวคิด


กริดถึงกับขนลุก แต่สมองยังคงประมวลผลอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้ความประหลาดใจรบกวน ข้อมูลเกี่ยวกับวิถีการโจมตีของมีร์ ถูกส่งมายังสมองชายหนุ่มในวินาทีที่ประสาทสัมผัสเทียมถูกทำลาย


เคร้ง!!


ดาบหนักมังกรครามซึ่งรับการปะทะจากดาบหนักกูเซลโดยตรง ยังคงคานอำนาจอย่างแข็งขันโดยไม่ถูกผลักไปด้านหลัง ปราณดาบอันเข้มข้นซึ่งกำลังห่อหุ้มใบดาบ ช่วยให้ตัวดาบสามารถทานทนอำนาจแห่งมังกร


‘ลงมือ’


กริดออกคำสั่งกับหัตถ์เทวะ


เคร้ง! เคร้ง!!


ทุกครั้งที่ปะทะกัน ดาบหนักมังกรครามจะเพิ่มความเร็วขึ้นเสมอ


รูปแบบของวิชาดาบก็ยังไม่คุ้นเคย โครงสร้างการทำงานและการส่งพลังงานเป็นแบบย้อนกลับ


กริดไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต้านรับด้วยท่ารำดาบผสาน เพราะหากไม่ยืมพลังจากตัวช่วยระบบ เกรงว่าคงไม่มีวิธีใดไล่ตามความเร็วของมีร์ได้ทันอีกแล้ว


โชคดี ยังมีเรื่องดีในเรื่องร้าย


ฉึบ!


ประสาทสัมผัสเทียมฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว


อนุภาคมานาและด้ายเงินซึ่งคอยเชื่อมระหว่างหัตถ์เทวะ จะคืนสภาพเดิมทันทีหลังจากปิดเครื่องยิงพลังเวทและเปิดใหม่


อย่างไรก็ดี มันจะถูกตัดอีกครั้งในตอนที่มีร์เหวี่ยงดาบ แต่มีร์ไม่ทราบข้อเท็จจริงนี้


เพราะประสาทสัมผัสเทียมนั้นไร้สี ไร้กลิ่น และไร้รูปร่าง


มีร์ไม่ทราบว่าต้องฟันตรงไหน ต้องเล็งไปที่ใด โดยเอาแต่พุ่งความสนใจมาที่กริด ส่งผลให้ชายหนุ่มยังสามารถพึ่งพาประสาทสัมผัสเทียมได้ แม้ขั้นตอนการใช้งานจะยุ่งยากขึ้นพอสมควร


กึก!


เสียงทุบค้อนเงียบลงเป็นครั้งแรก


โกร่งดาบซึ่งเป็นตัวเชื่อมระหว่างด้ามและใบมีด มีหน้าที่คอยป้องกันมือที่จับมีด


ขณะเห็นมีร์เลื่อนมือเข้าใกล้โกร่งดาบกูเซล ก่อนที่กริดจะได้ลงมือทำสิ่งใด คลื่นพลังที่มองไม่เห็นพุ่งกระแทกใส่อย่างรุนแรง


กริดเกือบทำดาบหลุดมือ แรงระเบิดที่ทรงพลังและคาดไม่ถึง ส่งร่างกายท่อนบนของมันเซถอยหลัง


ดาบหนักมังกรครามฟันสับในทันที คมดาบเล็งไปบนหน้าอกกริดผู้กำลังสูญเสียสมดุล


ราวกับจะผ่าหัวใจออกเป็นสองซีก


ในสถานการณ์ปัจจุบัน หากไม่พึ่งพาชุนโปก็คงยากที่จะหลบพ้น


บัฟ ‘จิตวิญญาณเสือขาว’ ทั้งสองชนิดต่างกำลังอยู่ในระยะหน่วง


ท่ามกลางวิกฤติ


ชิ้ง!


ละอองแสงอันเข้มข้นซึ่งเกิดจากเจตจำนงของกริด เริ่มควบแน่นในจุดหนึ่ง


เป้าหมายคือดาบหนักมังกรคราม


นี่คืออำนาจของพลัง ‘เทพโอเวอร์เกียร์ปกครอง’


“…!”


มีร์ทำดาบหนักมังกรครามหลุดมือ


ดาบหนักมังกรครามซึ่งปัจจุบันควรจะสับลงกลางหัวใจกริด หลุดลอยไปในอากาศอย่างไร้การควบคุม


มีร์ตอบสนองทันที เหยียดแขนออกมาคว้าลำคอกริด


กริดใช้ผสานไอเท็ม


ดาบหนักมังกรครามซึ่งมีกำหนดจะหลุดออกจากมือเจ้าของเพียงไม่กี่วินาที ถูกจับมาผสานเข้ากับดาบหนักกูเซลโดยไม่ขออนุญาต


เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!!


ศีรษะกริดซึ่งถูกจับกดติดกับพื้น ถูกกระหน่ำเต็มแรงหลายชุด


หมัดของมีร์ที่ปกคลุมไปด้วยพลังเสือขาว รุนแรงราวกับอุกกาบาตพุ่งใส่


ทันทีที่หยุดทุบค้อน กริดเผชิญวิกฤติทันทีเนื่องจากสูญเสียผลของบัฟ ‘ความอดทนของช่างตีเหล็ก’


แต่ชายหนุ่มยังคงเยือกเย็น


ในวินาทีนี้ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ เหนือกว่า <ดาบสั้นเฮ็กเซเทีย> หลายขุม ถูกตวัดใส่สีข้างของมีร์เต็มแรง


ติดตามด้วยเสียงคำรามราวกับฟ้าร้อง


‘ทำลายล้างสังหาร’ ซึ่งถูกยกระดับด้วย ‘ทิวทัศน์ขุนเขาและลำธาร’ สร้างความปั่นป่วนให้อวัยวะภายในมีร์อย่างหนัก


“…!”


ฮวางกิลดงและเฒ่าดาบมารซึ่งวิ่งมาทันเห็นฉากนี้เข้าพอดี ต่างพากันยืนอ้าปากค้าง


นับตั้งแต่เริ่มสู้ ดูเหมือนว่ามีร์จะถือครองความได้เปรียบมาตลอด


แต่มีร์ซึ่งน่าจะเป็นฝ่ายกำชัยได้ไม่ยาก กลับถูกตอบโต้จนเกิดแผลฉกรรจ์


[ท่านสูญเสียความเป็นเจ้าของ <ดาบหนักมังกรคราม>]


ข้อความแจ้งเตือนปรากฏตรงมุมสายตากริด


ชายหนุ่มคำนวณไว้แล้ว


ในจังหวะที่มีร์โดนฟัน กริดยกเลิกการผสานไอเท็มและขว้างดาบหนักมังกรครามซึ่งตนกำลังจะสูญเสียความเป็นเจ้าของ เสียบเข้าไปในหัวใจมีร์อย่างแม่นยำ


บึ้ม—!!


เลือดสีแดงสดซึ่งชุ่มโชกร่างกายคนทั้งสอง ถูกควบแน่นกลายเป็นใบดาบและระเบิดออกด้วยเสียงกึกก้อง ฟังดูคล้ายกับระฆังยุติสงคราม


นี่คำอำนาจของเวท ‘ดาบโลหิต’ ของกริด


“อึก…”


“…”


ฮวางกิลดงและเฒ่าดาบมารต่างอ้าปากค้างประหนึ่งปลาคาร์ป สายตาเอาแต่จดจ้องมีร์ซึ่งถูกแรงระเบิดสีแดงผลักกระเด็น


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


กริดพยุงตัวลุกขึ้น


หนึ่งก้าว สองก้าว


มันขยับร่างกายโชกเลือดอย่างยากลำบาก ส่งตัวเองมายืนหน้าทั่งและลงมือทุบค้อน


เจ็ดนาที สามสิบสี่วินาที


ระยะเวลาในการผลิตหยุดลงนับตั้งแต่กริดหยุดทุบ


เจ็ดนาที สามสิบสามวินาที


เจ็ดนาที สามสิบสองวินาที


เวลาถูกนับต่อจากเดิม


“นอนต่อไปดีกว่านะ”


กริดเตือนมีร์ซึ่งพยายามพยุงร่างขึ้นหลังจากถูกแรงระเบิดพัดกระเด็น


ในคราวนี้ มีร์มิได้พุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง


แตกต่างจากเมื่อครั้งที่เคยถูกกริดฟัน มีร์ในปัจจุบันเพ่งสมาธิอยู่กับการฟื้นฟูบาดแผล ด้วยการกระตุ้นลมหายใจฟีนิกซ์แดง


ความกลัวขณะเผชิญความตาย


หลังจากผ่านมาได้ มีร์ใช้มันเป็นบทเรียน


ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ถูกฟันจนเกิดแผลลึก ตอนที่ถูกระเบิดผลักกระเด็น ตอนที่ลุกขึ้นนั่งและฟื้นฟูร่างกาย


ดวงตาของมีร์สงบนิ่งตลอดเวลา


แต่ปัจจุบัน พวกมันกำลังสั่นระริก


“ยังมองไม่ออกอีกหรือ? ฉันไม่อยากฆ่านาย”


มีร์จ้องแผ่นหลังกริด


“ไม่อยากสู้กับนายเลยสักนิด”


ขณะกริดกล่าวย้ำ มีร์มองไม่เห็นใบหน้าอีกฝ่าย


เป็นเพราะกริดเอาแต่หันหลังให้ โดยไม่ยอมละสายตาจากทั่งเหล็ก


แต่มีร์ทราบดี กริดกำลังมีสีหน้าเป็นเช่นไร


บางที คงเหมือนกับเรา…


พลังชีวิตของมีร์ซึ่งกำลังเผยสีหน้าบิดเบี้ยว ยังเหลือมากถึงสามในห้า


“…”


แต่ในทางกลับกัน กริดซึ่งแอบดื่มโพชันโดยใช้ตัวบัง เหลือพลังชีวิตอีกเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น


เป็นผลลัพธ์ที่เข้าใจได้ เพราะฝ่ายที่ถูกโจมตีมาตลอดการต่อสู้คือกริด


แถมยังเป็นผลลัพธ์ที่พิสูจน์ความแตกต่างในแง่ระดับตัวตน


อย่างไรก็ดี หลอดพลังชีวิตคือระบบอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่น มีร์และฮวางกิลดงย่อมมองไม่เห็น


พวกมันสัมผัสได้เพียงห้วงอารมณ์แปลกประหลาด จากการเฝ้ามองแผ่นหลังอันเดียวดายของกริด


มีเพียงเฒ่าดาบมารเท่านั้นที่เผยสีหน้าแตกต่าง


‘บลัฟเก่งชะมัด’


เมื่อเห็นหลอดพลังชีวิตของกริดฟื้นฟูกลับไปเต็มอีกครั้งขณะมีร์กำลังชะงักในห้วงอารมณ์ เฒ่าดาบมารตระหนักได้ทันทีว่า การปีนขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของกริด อาจต้องใช้ความสามารถในหลายด้านมากกว่าที่ตนเข้าใจ


เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!


เสียงทุบค้อนดังกังวานท่ามกลางสมรภูมิอันเงียบเชียบ เป็นบรรยากาศอันแสนสุขสงบ ทำเอามีร์นึกถึงช่วงเวลาที่ตนทิ้งตัวนอนบนชายคาบ้านด้วยจิตใจสงบและปลอดโปร่ง


“ข้าแพ้แล้ว”


ฉึบ


มีร์ซึ่งเก็บดาบหนักมังกรครามใส่ฝัก ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว


ระยะห่างของมันและกริดเพิ่มขึ้น เป็นระยะห่างซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของพวกมัน


“ข้าจะเป็นฝ่ายไปเอง… ขอให้โชคดี”


หงึก


พลังชีวิตของมีร์ซึ่งโค้งศีรษะคำนับกริด ฟื้นฟูมาจนระดับใกล้เต็มหลอด


พลังการฟื้นตัวของฟีนิกซ์แดง ทำการสมานบาดแผลฉกรรจ์บนร่างกายจนหายเป็นปรกติ


พรสวรรค์ในการใช้พลังของเทพสี่ทิศได้ครบถ้วน ถือเป็นคุณสมบัติที่น่าทึ่งและได้เปรียบ หากขัดเกลาอย่างถูกต้อง ก็สามารถเอื้อมถึงสภาวะไร้เทียมทานได้ไม่ยาก ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมชาวเมืองถึงนับถือมีร์เยี่ยงเทพ


แตกต่างจากยังบันทั่วไป มีร์ดีพอที่จะเป็นเป้าความศรัทธาโดยธรรมชาติ


“…”


ร่างของมีร์หายไป เป็นการจากลาที่ปราศจากความเสียใจ


เหตุผลที่มันชิงเปิดศึกกับกริด เป็นเพราะกังวลว่ากริดจะถูกสามซาปลิดชีพและสูญเสียบารมีเทพ


ทว่า กริดปฏิเสธไมตรีดังกล่าวพร้อมกับพิสูจน์ฝีมือ มันเอาชนะมีร์ (?) และแสดงให้เห็นว่าความห่วงใยจากอีกฝ่ายนั้นไม่จำเป็น


จากมุมมองของมีร์ ฝืนดันทุรังต่อไปก็คงเปล่าประโยชน์


ในเมื่อเผชิญความพ่ายแพ้ มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้กริดกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง


“พวกนายควรรีบหนีไป”


ตึง ตึง ตึง ตึง!


กริดซึ่งสัมผัสถึงการสั่นไหวของบาเรียห้วงมิติ กล่าวกับฮวางกิลดงและเฒ่าดาบมาร


ฮวางกิลดงออกท่าทางลังเล แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่กริดแสดงให้เห็น มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามอย่างเชื่อฟัง


เฒ่าดาบมารเองก็เข้าใจสถานการณ์


สิ่งที่กำลังจะเกิดในอีกไม่ช้า มิใช่การเผชิญหน้าในขอบเขตที่มนุษย์จะดำรงอยู่ได้ รังแต่จะเป็นภาระเสียเปล่า


ในท้ายที่สุด พวกมันจากไป


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


หลังจากกริดอยู่คนเดียวได้สักพัก บาเรียห้วงมิติก็พังลง


อิฟริตซึ่งล้มลงไปนอนกับพื้น ร่างกายยับเยินประหนึ่งผ้าขี้ริ้ว ลมหายใจรวยรินเต็มที ร่างกายอันใหญ่โตอยู่ในสภาพน่าสมเพชสุดขีด


ในทางกลับกัน สามซายังคงสบายดี อาจมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย


“ผิดคาดอยู่เหมือนกันนะ”


หลังจากปรากฏกาย ความสนใจของสามซาหันมาทางกริดแทนอิฟริต


“คนที่รออยู่ด้านนอกดันเป็นเจ้า ไม่ใช่มีร์?”


“ข้าไม่เคยจินตนาการว่ามีร์จะพ่ายแพ้”


“เรื่องนั้นช่างมันก่อน… ตอนนี้ต้องรีบชำแหละ”


สามซาร่อนลงจากท้องฟ้าในสภาพโดโปสะบัดพลิ้ว


สิบห้าวินาที สิบสี่วินาที สิบสามวินาที


หัวใจกริดซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับเวลา เต้นระรัวราวกับกลองศึก


หากอิฟริตตายก่อนศาสตรามังกรจะเสร็จสมบูรณ์ ภารกิจจะล้มเหลว


น่าเสียดาย ระยะเวลาในการผลิตขาดหายไปเล็กน้อยขณะสู้กับมีร์


“ค่ำคืนนี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงและดื่มฉลองด้วยเลือดของเจ้า”


รอยยิ้มฉาบจนเต็มใบหน้าสามซา


ฉากการนำคมมีดทาบลงบนลำคออิฟริต ทำให้จิตใจกริดไม่เป็นสุข


แปดวินาที เจ็ดวินาที


อาจเป็นการนับถอยหลังที่ช้าที่สุดในชีวิตของกริด


ปึด!


พุงซาและอึนซากระชากเกล็ดออกจากหลังคออิฟริต


ห้าวินาที สี่วินาที


ขณะมีดในมืออูซาเตรียมปักลงบนผิวซึ่งปราศจากเกล็ด


ฟ้าว—!


หอกเล่มหนึ่งพุ่งลงมาจากฟ้า


ตามด้วยดาบ ขวาน ลูกธนู


อาวุธนานาชนิดพรั่งพรูลงมาราวกับสายฟ้า ดึงดูดความสนใจจากสามซา


“เจ้าหนู…”


สีหน้าของสามซาขณะจ้องกริดกำลังอัดแน่นด้วยจิตสังหาร พวกมันซึ่งแสดงท่าทีคลุมเครือมาตลอด ยามนี้กำลังเผยสันดานที่แท้จริงให้เห็น เป็นสันดานอันเลวทรามจนอดสงสัยไม่ได้ว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยก่อกรรมทำชั่วไว้มากแค่ไหน


“ถ้าจะฆ่ามังกร ต้องข้ามศพฉันไปก่อน”


แม้จะเป็นเหตุตกกระไดพลอยโจน แต่กริดก็ยังอยู่บนเรือลำเดียวกับอิฟริต ย่อมไม่นิ่งดูดายยืนมองเรือถูกจม


เหนือสิ่งอื่นใด ความตายของอิฟริตจะเท่ากับการเสริมความแข็งแกร่งให้อาณาจักรฮวาน และกริดไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น


“อารมณ์ขันใช้ได้ เจ้าหนู”


“ไม่ต้องห่วง พวกเราจะฆ่าเจ้าอยู่แล้ว เรื่องนั้นไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน”


ท้องฟ้าพลันพลิกกลับด้าน


ฟ้าดินตอบสนองเจตจำนงของสามซา


ทันใดนั้นเอง


แคร้งงง!!


เสียงทุบค้อนดังกังวานเป็นพิเศษ


เป็นเสียงของการสิ้นสุด ขณะเดียวกันก็เป็นเสียงของการเริ่มต้น


[<เขาอิฟริต> เสร็จสมบูรณ์!]


ชิ้ง!


ผลงานที่ไม่ได้เกิดจากการออกแบบและเจตจำนงของกริด


หอกเพลิงอันร้อนแรงซึ่งถูกผลิตจากความช่วยเหลือของระบบภารกิจ ทะยานขึ้นไปบนฟ้าและปักลงกึ่งกลางหน้าผากอิฟริต


“…?”


“…?”


“...!?”


ทั้งกริดและสามซาต่างพากันประหลาดใจ


หากมีผู้เล่นอยู่ในเหตุการณ์ ใครหลายคนคงตะโกนออกมาว่า ‘ลาสช็อต!’


ขณะกริดกำลังสับสน


> เจ้าทำได้


ดวงตาขนาดมหึมาของอิฟริตบรรจงเปิดออก


______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00