จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,229
[ท่านได้รับไอเท็ม <สูตรผลิตจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วน>]
<สูตรผลิตจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วน>
เกรด : บรรพกาล
เป็นสูตรผลิตที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการขับขี่ของมนุษย์
เงื่อนไขการเรียน :
- ทักษะระดับช่างฝีมือ จำนวน 5 ประเภท
หรือ
- ทักษะระดับตำนาน จำนวน 1 ประเภท
น้ำหนัก : 1
ค่อนข้างน่าตกใจทีเดียว
กริดเคยคิดว่า หากต้องการสร้างจักรกลเวทมนตร์ขึ้นมาสักลำ ผู้เล่นจำเป็นอยู่ในคลาสนักวิทยาศาสตร์หรือไม่ก็นักแปรธาตุ
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
‘จะเป็นคลาสการผลิตสายใดก็ได้ ขอเพียงมุ่งหน้าไปจนสุดทาง…’
เกรดเหมือนกับไรเดอร์ส…
เกรดบรรพกาลนั้นหมายความว่า ไอเท็มชนิดนี้ถูกจัดอยู่นอกหมวดหมู่ปรกติ
จะไม่นับรวมกับไอเท็มเกรดทั่วไป~มิธ การผลิตแต่ละครั้งจึงไม่ได้รับโบนัสแต้มสถานะ
อย่างไรก็ตาม ความหงุดหงิดใจของกริด ไม่เกี่ยวกับการไม่ได้รับแต้มสถานะหลังผลิตเสร็จ
‘ปัญหาคือ… เราต้องใช้ละโมบมากถึง 2 ตัน’
ละโมบจะขยายขนาดเป็นสองเท่าในสิบวัน
ในทางทฤษฎี หากต้องการสะสมละโมบให้ถึงสองตัน จะต้องใช้เวลาสองเดือนพอดิบพอดี
แต่นั่นคือในกรณีปล่อยละโมบทิ้งไว้เฉย ๆ
ซึ่งในความเป็นจริง กริดทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะชายหนุ่มมิอาจปล่อยให้ละโมบหนึ่งก้อนมีขนาดเกินกว่าขีดจำกัด
เมื่อเติบโตถึงจุดกำหนด ละโมบจะถูกระงับพลังงอกเงย เพื่อไม่ให้พลังเวทมนตร์ของเนอวาร์ธานรั่วไหลออกไปจนถูกตรวจจับ ดังนั้น หากคำนวณในทางปฏิบัติจริง การจะรวบรวมแร่ให้ครบสองตันจำเป็นต้องใช้เวลาราวครึ่งปี
…ครึ่งปีต่อจักรกลเวทมนตร์หนึ่งเครื่อง
ในสายตากริด ถึงจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วนรุ่นนี้จะมีพลังเพียงหนึ่งในห้าของไรเดอร์สที่ซีบาลขับ ไม่สิ ถึงจะเป็นหนึ่งในสิบ แต่ก็ยังคุ้มค่าแก่การรอคอย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือ กริดมีแผนระยะยาวในใจอยู่ก่อนแล้ว
คล้ายกับเด็กเล็กที่เฝ้ารอให้ถึงวันเกิดตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ กริดไม่ต้องการเลื่อนแผนดังกล่าวออกไป
ป้อมปราการลอยฟ้า
แผนเดิมที่ว่าคือ สร้างยานรบทางอากาศขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องขับเคลื่อนด้วยพลังงาน
‘เราต้องสะสมละโมบนานถึงห้าปี จึงจะสร้างป้อมปราการลอยฟ้ารุ่นพื้นฐานได้…’
นั่นคือการประเมินจากจอมปราชญ์สติกส์
ลำพังโครงหลักของป้อมปราการลอยฟ้าก็ต้องใช้ละโมบนับร้อยตันแล้ว ระยะเวลาในการรวบรวมจึงไม่ต่ำกว่าห้าปี
และนั่นเป็นแค่ส่วนโครงหลัก
ขนาดห้าปียังได้แค่พื้นฐาน มิใช่รุ่นสมบูรณ์
‘…และถ้าเราสร้างจักรกลเวทมนตร์คั่นกลางระหว่างนั้น’
เวลาก็จะเลื่อนไปอีก
เลื่อนไปครึ่งปีต่อจักรกลเวทมนตร์หนึ่งลำ
กริดเริ่มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ยานพาหนะสำหรับขนส่งกองทัพและยุทธภัณฑ์โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง แถมยังไม่มีวันถูกทำลาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ป้อมปราการลอยฟ้าจะกลายเป็นสุดยอดเครื่องมือสำหรับปฏิวัติยุคสมัยของโลกมนุษย์
การรวมทวีปเป็นหนึ่งเดียวจะไม่ใช่เรื่องยาก และไม่หวาดหวั่นแม้กระทั่งจอมอสูร
เพื่อความปลอดภัยโดยสมบูรณ์ของครอบครัวและพวกพ้อง หากต้องเลื่อนเวลาผลิตป้อมปราการลอยฟ้าออกไป ชายหนุ่มพลันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไม่น้อย
‘…แต่ว่า’
พรืด.
กริดแกะผนึกและทำการคลี่ม้วนกระดาษสูตรผลิตแสนสำคัญ
“เจ้าคิดจะทำอะไร!”
ลาร์ดวูล์ฟเริ่มออกอาการ
สูตรผลิตดังกล่าวไม่มีค่าอันใดนอกจากเก็บไว้เป็นสมบัติประจำตระกูล
เมื่อได้เห็นกริดทำในสิ่งสวนทางกับคำแนะนำ ลาร์ดวูล์ฟแสดงท่าทีโมโห
“นี่เจ้า…! ข้าบอกแล้วว่าถึงจะเรียนไป เจ้าก็ไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้!”
ในสายตาลาร์ดวูล์ฟ สูตรการผลิตจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วน ไม่มีคุณค่ากับมันสักเท่าไรนัก
นั่นก็เพราะ ‘ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง’
แต่ในทางทฤษฎี สูตรการผลิตของลาร์ดวูล์ฟนั้นสมบูรณ์แบบจนไม่มีจุดบกพร่อง
สิ่งนี้ล้วนเกิดจากความพยายามและสติปัญญา โดยลาร์ดวูล์ฟเสียเวลาในการค้นคว้าวิจัยไปมากเท่ากับสูตรผลิตอื่นที่นำมาใช้ได้จริง
ถึงจะใช้การไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ของปลอม
ลาร์ดวูล์ฟต้องการให้สูตรผลิตของตนกลายเป็นมรดกตกทอดในราชวงศ์โอเวอร์เกียร์ นี่คือความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ที่ได้เฝ้ามองชื่อเสียงของตนแพร่กระจายออกไปทั่วโลก
ทันใดนั้น
“ผมจะพิสูจน์เองว่าเป็นไปได้หรือไม่”
ฉึบ.
กริดกวาดสายตาอ่านสูตรการผลิต ข้อมูลปริมาณมหาศาลเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในสมอง
“อวดดีเกินไปแล้ว!”
ใบหน้าลาร์ดวูล์ฟเริ่มแดงก่ำ
มันโมโหกริดผู้ไม่สนใจคำเตือน แถมยังยอกย้อนโต้เถียง
…กล้าเถียงนักวิทยาศาสตร์ในตำนาน
แน่นอน ลาร์ดวูล์ฟไม่พอใจกริดอย่างมาก
แต่ชายหนุ่มหาได้แยแส
“หัตถ์เทวะ”
ฟุ่บ.
ฝ่ามือสีทองสองคู่ปรากฏตัวด้านหน้ากริด
จากนั้น พวกมันเริ่มลอยไปทางลาร์ดวูล์ฟและใช้ปลายนิ้วสัมผัสใบหน้าที่กำลังเดือดดาลของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
“นี่มัน…!”
แน่นอน ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ลาร์ดวูล์ฟย่อมคุ้นเคยกับพาเฟรเนี่ยม
ไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า สูตรการผลิตจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุดยอดโลหะที่แพ็กม่าและบราฮัมรังสรรค์ขึ้น
มันจึงจดจำได้ตั้งแต่แวบแรก
พาเฟรเนี่ยมของกริด มีจุดแตกต่างจากพาเฟรเนี่ยมที่ตนรู้จักเล็กน้อย
‘รุ่นพัฒนา…?’
ลาร์ดวูล์ฟใช้ดวงตาเพ่งสำรวจการเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของหัตถ์เทวะที่กำลังลอยตรงหน้า
ด้วยองค์ความรู้อันกว้างขวางของนักวิทยาศาสตร์ในตำนาน มันสามารถจำแนกส่วนประกอบของโลหะด้วยตาเปล่า รวมถึงสัมผัสอันประณีตที่หัตถ์เทวะมอบให้
“นี่เจ้า…”
ใบหน้าลาร์ดวูล์ฟเริ่มบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเก่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดวงตาซึ่งกำลังถลึงจ้อง ได้สร้างความสั่นกลัวไปทั่วทุกรูขุมขนชายหนุ่ม
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าผสานพาเฟรเนี่ยมเข้ากับเหล็กมังกรคลั่ง…!!”
“…!”
สำหรับสภาหอคอย เหล็กมังกรคลั่งคือโลหะต้องห้ามที่สมควรทำลายทิ้งให้หมด เพื่อความปลอดภัยของโลกมนุษย์
‘แย่ล่ะสิ…’
เมื่อเห็นลาร์ดวูล์ฟโมโห กริดสำนึกได้ทันที
จริงอยู่ ที่นั่งลำดับ 1 อย่างฮายาเตะอาจมีมุมมองต่อละโมบไม่ค่อยดีนัก โดยชายคนนั้นต้องการทำลายทิ้งทั้งหมด แต่กริดประเมินว่า สภาหอคอยคนอื่นอาจเห็นต่าง และอาจช่วยตนโน้มน้าวฮายาเตะได้
‘คิดผิดแฮะ…’
แผนการหาคนช่วยเกลี้ยกล่อมล้มเหลว
แต่ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า ละโมบคือแร่ที่สามารถควบคุมได้…
ถ้าลาร์ดวูล์ฟเห็นด้วย ฮายาเตะก็อาจเปลี่ยนใจในภายหลัง
ขณะกริดเตรียมคำอธิบาย
“ยอดเยี่ยมมาก! กล้าหาญไม่เบา!”
“…?”
ใบหน้าอาจยังเผยความโกรธเคือง ทว่า มุมปากของลาร์ดวูล์ฟกลับยกโค้งอย่างมีเลศนัย
“แก้ไขจุดอ่อนด้านปริมาณของพาเฟรเนี่ยมด้วยเหล็กมังกรคลั่ง… หมายความว่าในอนาคต มันสามารถขยายจำนวนอย่างไร้ขีดจำกัด! นับเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก! แม้แต่ข้าก็ยังคิดไม่ถึงมาก่อน…”
“…”
“เจ้าใช้วิธีอะไรในการผนึกคุณสมบัติงอกเงยของเหล็กมังกรคลั่ง?”
“…”
“…หรือว่าจะใช้ศิลามังกรคลั่ง โดยรอให้เหล็กมังกรคลั่งเพิ่มจำนวนถึงจุดหนึ่ง ค่อยใช้ศิลามังกรคลั่งเพื่อสยบมัน… แต่จะทำได้ตลอดเชียวหรือ ศิลามังกรคลั่งมีจำนวนจำกัด หากเทียบกับเหล็กมังกรคลั่งที่งอกเผยได้เรื่อย ๆ … ในอนาคตคงควบคุมไม่อยู่แน่…”
“…”
กริดยังไม่ตอบสนองในทันที
เมื่อเห็นใบหน้าขึงขังแต่กลับแฝงรอยยิ้มของอีกฝ่าย สมองชายหนุ่มเต็มไปด้วยคำถามและความไม่เข้าใจ
‘สีหน้าและแววตาบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังโกรธ… แต่ทำไมถึงดูมีความสุขนัก’
“นึกออกแล้ว! เจ้าคงสร้างค้อนและทั่งขึ้นจากศิลามังกรคลั่งสินะ! จึงสามารถควบคุมการงอกเงยของเหล็กมังกรคลั่งได้ทุกเมื่อ!”
“ช…ใช่ครับ”
“สุดยอด! เจ้าคงคำนวณปริมาณการใช้งานอย่างละเอียด… ยอดเยี่ยม! ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!”
“…”
ลาร์ดวูล์ฟระเบิดเสียงหัวเราะพลางดึงหัตถ์เทวะเข้าไปสวมกอดราวกับเป็นหลายชาย ก่อนจะกล่าวต่อไปพลางลูบคลำประหนึ่งลูกสุนัข
“เพราะเห็นว่าเป็นราชาวีรบุรุษ ข้าจึงคิดว่าเจ้าเป็นพวกน่าเบื่อ แต่นั่นไม่จริงเลยสักนิด เล่ห์เหลี่ยมจัดจ้านถึงขนาดกล้าปกปิดแร่ชนิดใหม่จากสายตาหอแห่งปัญญา… กล้าเก็บแร่ที่อาจเป็นภัยต่อโลกไว้ในมือตัวเองคนเดียว…”
“…!”
กริดที่พยายามอ่านเจตนาลาร์ดวูล์ฟ พลันชะงักเมื่อเห็นแววตาอันเปล่งประกายของอีกฝ่าย
นานมาแล้ว
ย้อนกลับไปในสมัยที่กริดค้นพบหนังสือหายากของแพ็กม่า
ฉากที่เอิร์ลอัชเชอร์พยายามแย่งชิงสมบัติล้ำค่าไปจากมือ ยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำกริดจวบจนปัจจุบัน
แววตาแบบเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยน
หมอนี่เป็นคนดีแน่หรือ…
“…”
กริดกลืนน้ำลายเหนียวขณะจ้องมองลาร์ดวูล์ฟด้วยสายตาหน้าระแวง มันกำลังเห็นภาพบุคคลตรงหน้าซ้อนทับกับเอิร์ลอัชเชอร์ในสมัยอดีต
ขณะเดียวกัน หากต้องเป็นศัตรูกับสภาคอหอย คงไม่แคล้วนำพาความฉิบหายใหญ่หลวงมาถึงตัว
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกลางหน้าผากกริด
มันต้องเลือกใช้คำพูดให้ดี
ตึก. ตึก. ตึก.
ลาร์ดวูล์ฟย่ำเท้าเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น มันปล่อยมือจากหัตถ์เทวะที่ถูกรั้งไว้ด้วยพละกำลัง พร้อมกันโถมเข้าหากริด
หมอนี่คิดจะทำอะไร…
กริดเตรียมตอบสนองหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
หมับ!
ลาร์ดวูล์ฟสวมกอดกริดแน่นกระชับ พร้อมกับระเบิดเสียงหัวใจอย่างชอบใจ
“ข้าชอบเจ้ามาก!! ฮะฮ่าฮ่า! อัจฉริยะ! แตกต่างหากหัวแถวคนอื่นโดยสิ้นเชิง! ฮะฮะฮ่า!”
“…”
กริดเพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อสาย
ที่นี่คือหอแห่งปัญญา
หอคอยซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าสภาที่มีอุปนิสัยสุดโต่งและไม่ปรกติเลยสักนิด
***
“ขอผมตัวกลับก่อน”
หลังจากพูดคุยกับลาร์ดวูล์ฟเสร็จ
กริดมิได้ขึ้นไปหาที่นั่งลำดับ 2 ฟรอนซาลล์
เนื่องจากมันกำลังเหนื่อยล้าทางใจสุดขีด หลังจากต้องเผชิญหน้ากับลาร์ดวูล์ฟที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อยในแต่ละบทสนทนา
ใจจริง กริดต้องการล็อกเอาต์ออกทันที เพื่อปรับสภาพจิตใจให้กลับมาเป็นปรกติ
“พวกเราสนุกมาก”
ฮายาเตะเป็นตัวแทนสภาหอคอย กล่าวส่งท้ายกริดก่อนกลับ
ชายหนุ่มก้มศีรษะคำนับนอบน้อม ตามด้วยการเหยียดแขนทั้งสองข้างออกไปจับมือ
“ทางนี้ก็สนุกมากเช่นนั้นครับ แถมยังติดหนี้บุญคุณมหาศาล จนเริ่มไม่แน่ใจว่าจะตอบแทนหมดหรือไม่”
“เจ้ายังมีโอกาสอีกมาก”
บีบันที่ยืนแคะหู กล่าวย้ำเตือนกริด
“ห้ามเถลไถลเด็ดขาด! รีบกลับอาณาจักรและถ่ายทอดพลังจิตไร้เทียมทานให้ศิษย์ข้า!”
ลาร์ดวูล์ฟเสริม
“ข้าจะคอยเฝ้ามองเจ้าสร้างจักรกลเวทมนตร์ของมนุษย์อยู่ห่าง ๆ … อดใจรอที่จะเห็นกองทัพจักรกลเวทมนตร์ขนาดย่อส่วนไม่ไหวแล้ว หึหึ”
“…ขอบคุณครับ”
กริดพูดคำเดิมซ้ำ ๆ
มันไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร จึงจะแสดงความจริงใจได้มากกว่าคำขอบคุณ
ฉึบ.
เมื่ออำลาทุกคนเสร็จ ถึงเวลาออกจากหอคอยอย่างเป็นทางการ
สำหรับตอนนี้ ภารกิจเร่งด่วนจากสภาหอคอยมีเพียงสองเรื่อง หนึ่ง ถ่ายทอดพลังจิตไร้เทียมทานให้ปิอาโร่ และสอง คอยควบคุมมิให้ละโมบขยายตัวเกินขนาด
‘แต่ก่อนอื่น…’
กริดต้องไปริบเหล็กมังกรคลั่งที่เคยแจกจ่ายให้ช่างตีเหล็กทั่วกรุงไรน์ฮาร์ทคืนเสียก่อน
นั่นคือการตอบแทนความไว้ใจที่ฮายาเตะอนุญาตให้เราเก็บละโมบไว้…
‘อา… แล้วจะใช้อะไรแทนเหล็กมังกรคลั่งดี’
ระหว่างทางกลับไรน์ฮาร์ท กริดครุ่นคิดโดยไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
จนกระทั่งนึกออก
‘จะสร้างด้วยอะไรก็ไม่เห็นเกี่ยวนี่นา…’
สาเหตุให้ <เซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก> ที่สร้างโดยช่างตีเหล็กของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วทั้งทวีป มิใช่วัสดุที่ใช้สร้าง แต่เกิดจากประสิทธิภาพของสูตรการผลิตต่างหาก
ต้องอย่าลืมว่า เซตกริดโด่งดังตั้งแต่ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้เหล็กมังกรคลั่งเสียอีก
‘ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับวัสดุ…’
การยึดเหล็กมังกรคลั่งคืน มิได้ทำให้คุณค่าและประสิทธิภาพของเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากลดลง
เมื่อคิดได้ ชายหนุ่มตรงไปยังเขตอุตสาหกรรมตีเหล็กใจกลางกรุงไรนฮาร์ททันที พร้อมกับประกาศให้ทุกคนหยุดใช้เหล็กมังกรคลั่งทั้งหมดที่อยู่ระหว่างกระบวนการ
“เกิดอะไรขึ้น…?”
“ไม่รู้เหมือนกัน…”
บรรดาช่างตีเหล็กที่กำลังสนุกสนานไปกับการถลุงเหล็กมังกรคลั่งซึ่งเพิ่มจำนวนในทุกสิบวัน ต่างพากันมองกริดเป็นตาเดียว
ไม่มีใครทราบถึงเหตุผลที่หัวหน้าของพวกตน ประกาศให้ทุกคนหยุดทำงานกลางคัน
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามใช้เหล็กมังกรคลั่งในการผลิตไอเท็มทุกชนิด และในอนาคต ให้สร้างเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากด้วยเหล็กกล้าแทน”
“…!”
บรรดาช่างตีเหล็กต่างส่งสายตาไม่เห็นด้วย
พวกมันไม่เข้าใจเจตนาของคำสั่งที่ถูกประกาศออกมาอย่างปุบปับ เพราะการลดคุณภาพวัตถุดิบลง ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก
แต่ทุกคนพลันสงบปากสงบคำทันที เมื่อเห็นกริดลงมือสร้าง <เซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก> ขึ้นจากเหล็กกล้า จนได้ผลลัพธ์สุดน่าทึ่งออกมา
Comments
Post a Comment