จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,194
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติจบลงไปแล้วสองวัน และกำลังย่างเข้าสู่วันใหม่
การขาดหายไปของลอเอลทำให้ทีมสหรัฐเริ่มประสบปัญหา
ในการแข่ง <ชิงปราสาท> มังกรผงาดแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ เฮ่า ทำการถล่มปราสาทของทีมสหรัฐด้วยความสมบูรณ์แบบในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝีมือ กำลังรบ หรือกลยุทธ์
ก่อกวน ใช้ไฟ ซุ่มโจมตี กองโจร และสารพัดกลศึกพิสดาร
กองกำลังภายใต้การนำของเฮ่ารบอย่างมีระเบียบแบบแผนประหนึ่งทหาร ส่งผลให้ทีมสหรัฐถูกต้อนจนมุมอยู่แต่ในปราสาทและแตกพ่ายอย่างหมดท่า
“…”
ครอเกล ผู้ถูกแผนลวงของเฮ่าทำให้แตกจากกองทัพหลัก เดินเท้ากลับมาถึงหน้าปราสาทของชาติตัวเองและหยุดแหงนมองขึ้นไปด้านบน
ปราสาทซึ่งควรจะปักธงผืนดาวห้าสิบดวงและแถบขาวสลับแดง กลับถูกแทนด้วยธงแดงสดผืนใหญ่และประดับด้วยดาวสีเหลืองห้าดวง
“การคำนวณผิดพลาดเพียงเรื่องเดียวในแผนของฉันก็คือ... นายสามารถเอาชีวิตรอดจากกับดักนั่นมาได้ ขอแสดงความนับถือจากใจจริง”
ณ บนกำแพง
เฮ่ากำลังยืนเด่นสง่าโดยมีพลธนูรายล้อม พร้อมกับตะโกนส่งเสียงคุยกับครอเกลด้านล่าง
“แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว! กรุณายอมจำนนอย่างสันติ การขัดขืนอย่างเปล่าประโยชน์มีแต่จะเสียเวลาพวกเราทั้งคู่!”
แต่ไหนแต่ไร เฮ่าเทิดทูนเพียงสองบุคคล
กริดและครอเกล
โดยเฉพาะครอเกล มันเคยตามรับใช้และคอยดูแลครอเกลด้วยความชื่นชมเป็นเวลาหลายปี
แต่นั่นมิได้หมายความว่าเฮ่าจะต้องเป็นบริวารตลอดไป เพราะครอเกลไม่มีแผนสร้างกองกำลัง และไม่ได้คิดว่าเฮ่าต่ำต้อยกว่าตน
“ครอเกล ตัดสินใจมา”
เมื่อเห็นครอเกลยังไม่วางดาบ เฮ่าขอคำตอบอีกครั้งแกมบังคับข่มขู่
สำหรับปัจจุบัน มันและผู้เล่นทีมจีนทุกคนกำลังสวมชุดเกราะหน้าตาประหลาดซึ่งมีผิวโลหะขรุขระ
ไอเท็มชิ้นนี้มีออปชันเดียวกับอาวุธประเภท ‘ซอร์ดเบรกเกอร์’ หรือก็คือ มันเกิดมาเพื่อหักทำลายใบดาบโดยเฉพาะ
จากการดวลอย่างสูสีในปีก่อน ไม่มีใครไม่ประทับใจดาบซอร์ดเบรกเกอร์ของกริด ขณะเดียวกันก็ทำให้ทุกคนพบจุดอ่อนของอริยดาบ
“ธงถูกปักไปแล้วสามนาที นายเหลือเวลาอีกแค่สองนาทีเท่านั้น” ผู้เล่นชาวจีนเริ่มตะโกนยั่วยุ
ทุกคนกำลังฮึกเหิม
ฝ่ายจีนยังเหลือมากกว่าสามสิบ แต่ฝั่งสหรัฐเหลือครอเกลแค่คนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น เงื่อนไขในการได้รับชัยชนะของพวกมันมีเพียง คอยป้องกันมิให้ครอเกลไปถึงธงภายในสองนาทีหลังจากนี้
ช่างง่ายดายเหลือเกิน
นักกีฬาชาวจีน แม้กระทั่งเฮ่า ต่างไม่มีใครเคลือบแคลงเลยว่า ครอเกลและทีมสหรัฐ หมดโอกาสลุ้นเหรียญทองในรายการนี้เรียบร้อยแล้ว
แน่นอน ผู้ชมทางบ้านก็เช่นกัน
ไม่ว่าจะพิธีกรหรือผู้เชี่ยวชาญจากชาติใดหรือช่องข่าวไหน ความเห็นล้วนออกมาในทิศทางเดียวกันทั้งหมด
ด้วยเงื่อนไขปัจจุบัน หากหวังพลิกกลับมาชนะให้ได้ นอกจากกริด เห็นทีคงไม่มีใครในโลกสามารถทำได้อีกแล้ว ต่อให้เป็นครอเกลก็ตาม
แต่มีอยู่หนึ่งคนมิได้คิดเช่นนั้น
ฟุ่บ!
นั่นคือตัวครอเกลเอง
“หือ…?”
เมื่อเห็นครอเกลขว้างดาบขึ้นมาบนกำแพงปราสาทอย่างปุบปับ นักกีฬาทีมจีนในบริเวณนั้นรีบหลบฉากซ้ายขวาคล่องแคล่ว
แต่ในวินาทีปลายดาบพุ่งปักกำแพงจุดใจกลางกลุ่มผู้เล่นทีมจีนหลายสิบชีวิต ครอเกลทำการสลับตำแหน่งของตนกับดาบ
“…?!”
ผู้เล่นชาวจีนย่อมไม่คาดฝันว่าครอเกลจะกล้าส่งตัวเองเข้ามายังใจกลางดงศัตรูด้วยความบ้าบิ่น หลายคนออกอาการแตกตื่นในช่วงต้น แต่เนื่องจากทุกคนคือแรงเกอร์ระดับแถวหน้า ประสบการณ์ย่อมช่วยให้ตอบสนองอย่างสุขุมเยือกเย็นกว่าปรกติ อาวุธนานับชนิดและเวทมนตร์เริ่มพรั่งพรูใส่ร่างกายอริยดาบโดยไม่เกรงกลัวภยันตราย
พวกมันสวมเกราะซอร์ดเบรกเกอร์ ของแสลงสำหรับคมดาบ สีหน้าท่าทางประหนึ่งกำลังเชื้อเชิญให้ฟาดฟัน
แต่ทันใดนั้น
หอกเล่มยาวพลันปรากฏในมือครอเกล
อริยดาบควงหอกกระหน่ำแทงนักกีฬาชาวจีนในบริเวณใกล้เคียงจนพินาศราบคาบ
ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก—!
เพลงหอกพลิ้วไหวประหนึ่งสายวารี ปลายหอกพุ่งเป็นเส้นตรงเสียบใส่ช่องว่างชุดเกราะอย่างแม่นยำ
“แค่ก…!”
“อ…อ๊ากกกก!”
ขณะผู้เล่นชาวจีนเริ่มแตกตื่นและรีบมารวมตัวในจุดเกิดเหตุ
ฟุ่บ!
ครอเกลหยิบดาบออกมาอีกหนึ่งเล่มเพื่อเตรียมขว้าง เป้าหมายคือยอดหอคอยห่างออกไปไกลประมาณ 500 เมตร
หอดังกล่าวคือจุดสำหรับปักธงชาติ
ปัจจุบันยังคงเป็นธงชาติจีน
“หยุดไว้ให้ได้!”
นักกีฬาชาวจีนผู้เป็นกำลังเสริมต่างรีบงัดท่าไม้ตายออกมาประเคนใส่อย่างไม่เกรงใจ หมายสกัดกั้นมิให้ครอเกลทำแบบเดิมได้อีก
ทว่า แผนของอริยดาบมิได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทุกสิ่งมีการคำนวณไว้ล่วงหน้าเสมอ การเคลื่อนไหวจึงรวดเร็วกว่าทุกคนครึ่งก้าว
ในวินาทีพวกมันกระโดดลงมาล้อมครอเกลไว้อย่างสมบูรณ์ทุกทิศทาง คมดาบได้พุ่งผ่านช่องว่างอาวุธนักกีฬาชาวจีน และปักลงบนกำแพงหอคอยใต้ธงสีแดงโบกสะบัด
ฟุ่บ—!
ครอเกลหายตัวไปปรากฏบนยอดหอคอย
ธงชาติจีนอยู่ห่างเพียงเอื้อมมือ
บึ้มมมมม!!
ทว่า พลังรุนแรงบางชนิดได้พุ่งปะทะแผ่นหลังของอริยดาบอย่างจัง โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายจับคว้าด้ามธงอย่างถนัดมือ
เป็น ‘ลมหายใจเพลิง’ จากเฮ่า ผู้รีบกางปีกมังกรและบินมาดักบนยอดหอคอยทันทีเมื่อเริ่มเห็นอริยดาบครอเกลควักดาบ
“ไม่ปล่อยให้ทำได้หรอกน่า!!”
ตัวคนเดียวย่อมมีขีดจำกัด
ฉันจะสอนให้นายได้ตระหนักในวันนี้…!
เฮ่าตะโกนใส่ครอเกล ผู้ถูกลอบโจมตีเข้าอย่างจังจนเสียหลักไปชั่วขณะ
เฮ่ารีบปรี่เข้าหาครอเกล ผู้กำลังชะงักในท่าโน้มตัวเตรียมคว้าด้านธงผืนสีแดง
ไม่ว่าจะมุมการโจมตี ความรุนแรง ความเร็ว การกะเวลา และการคำนวณพฤติกรรมเป้าหมาย
ทุกองค์ประกอบของการดักโจมตีจากเฮ่าล้วนสมบูรณ์แบบไร้จุดบกพร่อง
เฮาควงหอกยาวพลางกระพือปีกมังกรเข้าประจัญบานด้วยมาดองอาจดุดัน
แต่น่าเสียดาย
หากตัวละครของเฮ่าในปัจจุบันมีค่าสถานะ <พลังจิต> เปิดใช้งาน มันจะกลายเป็นบุคคลลำดับสองถัดจากกริด ผู้สามารถล้มครอเกลได้ในการแข่งขันทางการต่อหน้าคนทั่วโลก
“…!”
หอกในมือเฮ่าพลันชะงักก่อนถึงตัวครอเกล
ฟุ่บ!
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
ปราณดาบล่องหนจำนวนมหาศาลได้พุ่งสวนกลับเข้าหา ถล่มร่างเฮ่าจนเกิดความเสียหายยับเยินโดยไม่มีใครมองเห็น
สิ่งนี้ถูกเรียกว่า ‘ปราณเฉือน’ เป็นปราณไร้ตัวตนรูปแบบคมกริบกว่าปรกติ
เป็นพลังเฉพาะสำหรับอริยดาบเท่านั้น
ในแง่พลังด้านการ ‘ตัดขาด’ ประสิทธิภาพของมันจะสูงกว่าปราณไร้ตัวตนของกริดมาก
“อ…อ๊ากกกก!!”
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
หนึ่งในสองปีกมังกรของเฮ่า ซึ่งมีความทนทานสูงระดับเดียวกับเกล็ดมังกรคุณภาพต่ำ ถูกสะบั้นจนขาดในพริบตาโดยไม่มีใครทราบว่าสาเหตุมาจากสิ่งใด
ร่างกายอันถึกทนกว่ามนุษย์ปกติหลายเท่าของเผ่าดราโกเนี่ยน พลันถูกทำลายจนราบคาบในหนึ่งการโจมตี โลหิตแดงฉานกระเซ็นเปรอะเปื้อนเต็มพื้นปราสาททีมสหรัฐ
เฮ่าสูญเสียพลังในการบิน
มันเห็นภาพตัวเองกำลังร่วงหล่นจากความสูงระดับยอดหอคอย และค่อยๆ ออกห่างจากอริยดาบครอเกล ผู้กำลังโน้มตัวไปดึงด้ามธงชาติจีนเพื่อเปลี่ยนกลับเป็นธงชาติสหรัฐ
“ครอเกลลลล!!”
เฮ่ายังไม่ยอมแพ้
โดยไม่สนว่าร่างกายจะตกกระแทกพื้นแรงกว่าเดิมหรือไม่ เฮ่าทำการพ่นไฟซ้ำอีกครั้ง
มันมั่นใจว่า ประกันชีวิตอมตะของครอเกลต้องถูกใช้ไปแล้วก่อนจะย้อนกลับมายังปราสาท
เฮ่าพร้อมแลกชีวิต
หากตัดครอเกลออกจากการแข่งขันได้ด้วยการโจมตีนี้ ทีมจีนก็จะเป็นฝ่ายชนะจากพวกพ้องของตนซึ่งยังเหลืออีกมาก
ถูกต้อง
เฉกเช่นสมาชิกโอเวอร์เกียร์ เฮ่าสามารถแยกแยะระหว่างความรู้สึกส่วนตัวและการทำเพื่อประเทศชาติ
ซู่มมมมมมมมมม!!
ลำแสงสีเหลืองส้มพุ่งเป็นเส้นตรงยาวออกจากปากเฮ่า ช่วยย้อมบรรยากาศรอบปราสาททีมสหรัฐให้สว่างไสว
ท่าไม้ตายของเผ่าดราโกเนี่ยนคือลมหายใจ
แม้จะมีข้อเสียต้องแลกมาด้วยพลังชีวิตของผู้ใช้งานจำนวนหนึ่ง รวมถึงมีระยะหน่วงหลังใช้แบบสุ่ม เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ถ้ามองเฉพาะด้านพลังทำลายและความกว้างไกลของทักษะ ลมหายใจดราโกเนี่ยนสามารถเทียบชั้นบรรดาทักษะเกรดเลเจนดารีได้สบาย
จริงอยู่ สิ่งนี้อาจเทียบไม่ได้เลยกับลมหายใจของมังกรแท้ แต่อย่างน้อยก็สามารถ ‘ทำลาย’ ร่างกายแสนบอบบางของผู้เล่นได้ไม่ยาก
ทว่า คู่ต่อสู้ในคราวนี้ผิดรุ่นเกินไป
ดาบของผู้เป็นอริยะสามารถตัดทุกสรรพสิ่งในโลกให้ขาดเป็นสองท่อนได้ง่ายดาย
ฉึบ—!
“…!”
เสาเปลวเพลิงสีเหลืองทองถูกผ่าเป็นสอง
เส้นปราณดาบอันคมกริบของครอเกล ได้ตัดเปลวเพลิงจากแนวกึ่งกลาง จนประกายไฟพุ่งกระจายไปคนละทิศทางอย่างสูญเปล่า
ก่อนหน้างานแข่งจะเริ่มขึ้น ครอเกลสร้างวิชาดาบชนิดใหม่โดยเตรียมไว้ใช้รับมือศัตรูแข็งแกร่งกว่าตัวเองโดยเฉพาะ พลังนี้มีอำนาจ ‘ลบล้าง’ ทักษะของศัตรูได้หนึ่งครั้ง
“…ฮะ—”
โผละ!
เฮ่า ผู้ถูกเร่งให้ตกกระแทกพื้นเร็วขึ้นด้วยผลของแรงถีบจากการพ่นไฟ ทำได้เพียงเปล่งเสียงหัวเราะไม่เต็มคำ
ร่างกึ่งสมบูรณ์ของดราโกเนี่ยน
ปีกขาดหนึ่งข้าง เกล็ดตามร่างกายถูกทำลายไม่สมประกอบ เริ่มกลายเป็นละอองแสงสีเทาและถูกส่งออกจากการแข่งกัน
ครอเกลกำลังยืนเด่นตระหง่านบนยอดหอคอยสูง ประหนึ่งตนกลับมาครองบัลลังก์ท้องฟ้าได้อีกครั้ง
***
“สุดยอด…”
กริดพลันอ้าปากค้าง หลังจากเดินทางมาถึงเมืองหลวงแห่งอาณาจักรชิง กรุงหยางโจว
ชายหนุ่มกำลังตกตะลึงในความใหญ่ของตึกรามบ้านช่อง โดยเฉพาะถนนซึ่งกว้างชนิดสามารถนำรถม้ามาเรียงหน้ากระดานได้มากถึง 20 คันพร้อมกัน
มันไม่อยากเชื่อว่าจะมีเมืองใดในซาทิสฟายกว้างใหญ่ไปกว่ากรุงไททันแห่งซาฮารันได้อีก
“อาณาจักรนี้มีแต่ของใหญ่ๆ”
ไม่ว่าจะอาหารไปจนถึงอาคารบ้านเรือน ทั้งหมดมีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานค่อนข้างมาก
เฉกเช่นหน้าอกของสาวๆ
เมื่อเห็นกริดเอาแต่จ้องมองสาวสวยสวมกี่เพ้าพร้อมกับทำน้ำลายยืด โทซุนเดินเข้ามาสะกิดจากด้านข้าง
“ท่านเทพโอเวอร์เกียร์ กรุณาสำรวมด้วย ผู้คนกำลังมองมาทางเรา”
ผู้คนกำลังมองมา?
‘น่าแปลก… จากบรรดาฝูงชนมหาศาลเช่นนี้ นอกจากเราแล้ว ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมบ้านนอกเข้ากรุงบ้างเลยหรือ’
กริดมองไปรอบตัวอย่างไม่เข้าใจ
จนกระทั่งเริ่มพบสาเหตุ
คำกล่าวของโทซุนไม่ผิด ผู้คนนับร้อยนับพันรอบตัว ต่างแอบชำเลืองสายตามาทางคณะของกริดอย่างพร้อมเพรียง
‘กะแล้วเชียว…’
ชายหนุ่มพบสาเหตุ
“พวกมันคงไม่เคยเห็นชาวสวนเดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่”
ปัจจุบัน เหล่าสัตว์เทพจักรราศีล้วนจำแลงกลายเป็นหญิงงามเลอโฉมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโทซุน (ปากกระต่าย) คยองจา (ชวด) พังอูลี (กระดิ่ง) หรือแม้กระทั่งชองโฮ* (เสือคราม)
ทุกตนเดินล้อมหน้าล้อมหลังกริด ใบหน้าสวยสง่าอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป
‘ไม่แปลกหากจะดึงดูดความสนใจ…’
เป็นเพราะกริดทราบว่าพวกเธอคือสัตว์เทพจักรราศี และยังเคยเห็นรูปลักษณ์แท้จริงมาก่อนแล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรกับความงามมากนัก แถมกริดยังมี ‘ภูมิคุ้มกันความงาม’ สูงกว่าคนปรกติ
แต่จะเป็นคนละเรื่องทันทีสำหรับคนทั่วไป
บุรุษล้วนเหลียวมองจนคอเคล็ด สตรีต่างก็แอบชำเลืองด้วยสายตาชื่นชม
กริดถอนหายใจยาว
‘ความฉิบหายคงได้มาเยือนแน่’
ประเดี๋ยวคงมีองค์ชายเจ้าชู้สักคน เดินผ่านมาและเกิดความสนใจในตัวเหล่าสัตว์เทพเข้า
จากนั้น เมื่อพวกมันเข้ามาจีบแล้วบรรดาสาวๆ ไม่เล่นด้วย ความซวยก็จะไปตกอยู่กับเหล่า ‘คนรับใช้’ ภายในกลุ่มแทน
ซึ่งแน่นอน ในกรณีนี้ กริดถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของคนรับใช้
‘ถ้าผู้ชายหน้าตาธรรมดาร่วมทางมากับสาวงามหลายคน คงได้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนใช้แน่’
และในคราวนี้ บราฮัมก็เข้าข่ายคนใช้เช่นกัน
มันกำลังสวมหน้ากากหนังเฟย์ริสโดยปลอมตัวเป็นชายใบหน้าชาวบ้านสาม
หรือก็คือ บราฮัมจะถูกองค์ชายเจ้าชู้หาเรื่องทะเลาะวิวาทไปพร้อมกับกริด
“เอ่อ… ขอประทานโทษนะครับ”
นั่นปะไร
ชายหนุ่มชำเลืองไปทางเหล่าสัตว์เทพจักรราศี เพื่อประเมินว่าตนควรให้ใครออกไปรับศึกแทน
ทว่า อีกฝ่ายกลับเดินตรงมาหากริดทันที
แถมยังด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม
“ขอแนะนำตัวเองก่อน ผมมีนามว่าชิลชอน เป็นบุตรชายคนโตของวารยอง (มังกรหลับ) ผู้แทนเมืองหยางโจวแห่งนี้ ประเมินจากเครื่องแต่งกายของท่านนักปราชญ์ คงมาจากอาณาจักรโชใช่ไหมครับ ไม่ทราบว่าพอจะบอกชื่อเสียงเรียงนามสักนิดได้หรือไม่”
“ต้องการทราบชื่อของฉันไปทำไม”
“ได้เห็นท่านนักปราชญ์เดินทางมาจากแดนไกลพร้อมสาวงามมากมาย จึงอยากทำตัวตีสนิทไว้บ้างครับ ถ้าไม่รังเกียจ จะขอเชิญมาดื่มกันสักมื้อเพื่อเป็นการต้อนรับขับสู้ ไม่ทราบว่าท่านขัดข้องหรือไม่”
“…!”
กริดพลันตื่นเต้น
นอกจากจะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนรับใช้ อีกฝ่ายยังคิดว่าตนเป็นนักปราชญ์ผู้เดินทางมาพร้อมสาวสวย ความมั่นใจในตัวเองเริ่มเพิ่มพูน
มันอยากเดินเข้าไปจับมือกับชิลชอนแล้วให้อีกฝ่ายนำทางไปร้านอาหารเสียประเดี๋ยวนี้
ทว่า กริดปฏิเสธ
“ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจอยู่หรอก แต่ฉันมีบางสิ่งต้องรีบไปสะสาง…”
มันชะงักคำพูดกลางคัน เพราะบราฮัมกำลังหันมาจ้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันทำอะไรผิด?”
กริดกระซิบกระซาบ
“คิดจะพลาดโอกาสทองเช่นนี้จริงหรือ”
“อะ…!”
ชายหนุ่มพลันตระหนักถึงเป้าหมายการเดินทางของตน
ก่อนอื่น ต้องรวบรวมข้อมูลให้มากเข้าไว้
จากนั้น เมื่อมีข้อมูลว่าอัญมณีเต่าดำถูกเก็บรักษายังหนแห่งใด จึงค่อยเริ่มวางแผนและประเมินโอกาสสำเร็จ
เมื่อครู่ ชายตรงหน้าแนะนำตัวเองว่าเป็นบุตรชายคนโตของผู้แทนเมืองนี้
เพียงการสนทนาตามมารยาทกับอีกฝ่าย คงไม่ทำให้ตนสูญเสียผลประโยชน์หรือเป็นฝ่ายถูกเอารัดเอาเปรียบแต่อย่างใด
หรือก็คือ กริดไม่มีอะไรต้องเสีย
“…ตกลง! ไปกันเลย!”
“โฮ่! ท่านช่างรู้ธรรมเนียม!”
เมื่อกริดตกปากรับคำ คนของชิลชอนได้นำทางพวกมันไปยังโรงเตี๊ยมใหญ่แห่งหนึ่ง
ถือเป็นร้านอาหารราคาแพง การกินดื่มแต่ละครั้งต้องใช้เบี้ยจำนวนมาก
ขณะย่างกรายไปในโรงเตี๊ยม ชายหนุ่มแสดงสีหน้าตื่นเต้นโดยไม่ปิดบัง พลางถูกนำทางไปยังห้องใหญ่ด้านในสุด
มันย่อมเกิดความคาดหวัง เมื่อถูกเชิญให้ร่วมรับประทานอาหารรสเลิศของอาณาจักรแห่งใหม่หลังจากเดินทางเข้าเมืองหลวง
“เอาเป็น… นกดุเหว่าร้องดุเหว่าดุเหว่าสำรับใหญ่หนึ่งชุด แล้วก็เหล้าทางช้างเผือก”
ชิลชอนเชิญกริดนั่งลงพร้อมกับเริ่มสั่งอาการและเครื่องดื่ม
ชื่ออาหารไม่คุ้นหูเลยสักนิด แต่กริดก็มิได้แสดงสีหน้าผิดหวังหรือเคลือบแคลง
พนักงานรับเมนูพลันฉีกยิ้มกว้าง ประหนึ่งเมื่อครู่คือมื้ออาหารราคาสูงสุดภายในร้าน
‘อาหารแพงไม่มีทางรสชาติแย่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใดก็ตาม… ชักอยากรู้แล้วว่าอาหารของชิงจะอร่อยสักแค่ไหน’
เดิมที กริดมักชื่นชอบอาหารอร่อยแต่ราคาถูกจำพวก จัมปง รามยอน ซัมกยอบซอล หรือทูน่ากระป๋องไส้กรอกมากกว่า
ทว่า หลังจากถูกกษัตริย์โชเชิญไปร่วมรับประทานอาหารมื้อใหญ่ภายในวังหลวงเป็นเวลาหลายวันติดต่อ ชายหนุ่มเกิดติดใจอาหารคุณภาพสูงในซาทิสฟาย
อาหารประเภทข้าวในวังคาราสึมีรสชาติยอดเยี่ยมจนยากละลืมเลือน
ชิลชอนซักถามพลางอมยิ้ม
“ได้ยินมาว่า เทพฟีนิกซ์แดงแห่งแดนใต้คืนชีพกลับมาแล้วใช่ไหมครับ แถมยังช่วยอวยพรให้มนุษย์ทุกคนร่มเย็นเป็นสุข แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ชีวิตของท่านดีขึ้นบ้างไหม”
“ก็ไม่เลว…”
ขณะเตรียมมอบคำตอบตามปรกติ กริดพลันตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากล จึงหันไปจ้องชิลชอนและซักถามเสียงขรึม
“นายไปเอาข่าวการคืนเทพของเทพฟินิกซ์แดงมากจากไหน”
ถ้าจำไม่ผิด อาณาจักรฮวานน่าจะตัดขาดการเชื่อมต่อและปกปิดข่าวสารทั้งหมดไว้อย่างมิดชิด
ไม่มีทางเล็ดลอดมาถึงหู NPC ธรรมดาในดินแดนอื่นได้
กับชิลชอนเองก็ไม่น่าจะมีข้อยกเว้น
ถ้าหากมันเป็น NPC ธรรมดาล่ะนะ…
ทันใดนั้น รอยยิ้มชิลชอนพลันแปรเปลี่ยน
“อย่าได้ดูแคลนฝีมือด้านการหาข่าวของฮวัลบินดังเด็ดขาด”
ตึง!
ชายสวมหน้ากากจำนวนมากพลันกรูเข้ามาทางหน้าต่างของห้องอาหาร
ขณะเดียวกัน หนึ่งในคนของชิลชอนด้านหน้าลุกพรวดพร้อมกับชักดาบจอลำคอกริด
ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วประหนึ่งฟ้าแล่บ
ชิลชอนกล่าวอย่างเย็นชา
“ข่ายเวทมนตร์ของห้าอาวุโสได้กีดกันแดนใต้ออกจากดินแดนอื่น หากไม่ใช่บุคคลพิเศษ ย่อมไม่มีทางมาได้ไกลขนาดนี้แน่—…”
ชิลชอนพลันชะงักคำพูด
เป็นเพราะกริดใช้พลัง <เทพธรณี> เสกให้กลุ่มชายสวมหน้ากาก และคนของชิลชอลทั้งหมด เกิดอาการตัวแข็งเป็นหินในพริบตา
ชายหนุ่มลุกยืนอย่างไม่รีบร้อน ดาบถูกชักออกจากเอวพร้อมกับเลื่อนไปจ่อคอชิลชอนด้วยท่วงท่าเลือดเย็น
เมื่อเอฟเฟคของ ‘แข็งเป็นหิน’ หมดลง สถานการณ์ก็พลิกกลับฝั่งเรียบร้อยด้วยลำพังฝีมือกริดคนเดียว
“เลิกสวมหน้ากากคุยกันดีกว่า ขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันคือเทพโอเวอร์เกียร์ กริด”
“…!”
“เชือดยังบันไปแล้วสี่ตน เป็นผู้คืนชีพให้เทพฟินิกซ์แดง และยังได้รับพรสูงสุดจากเทพฟินิกซ์แดงโดยตรง”
“…!”
“อยากตายตรงนี้หรือเป็นพวกเดียวกับฉัน”
“พ…พวกเดียวกัน! พวกเดียวกันขอรับ!!”
ชิลชอนปราศจากความลังเล
กริดทำให้คนของมันกลายเป็นหินในพริบตาโดยไม่ต้องขยับตัวหรือเปล่งถ้อยคำใด แถมยังสามารถเชือดตนทิ้งได้ทุกเมื่อ แต่ยังใจดีไว้ชีวิต
เพียงเท่านี้ก็มากพอจะให้ชิลชอนยอมศิโรราบอย่างไร้เงื่อนไข
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,583
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เทพโอเวอร์เกียร์😮👍
ReplyDeleteขอบคุณครับ
คาราวะเทพโอเวอร์เกียร์!!!
ReplyDelete