จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,189
<ศิลาเวทมนตร์ปริศนา>
เกรด : มิธ
ประเภท : ใช้แล้วหมดไป
ท่านสามารถเพิ่มระดับไอเท็มเป้าหมายให้เท่ากับระดับศิลาก้อนนี้ได้
น้ำหนัก : 1
‘โล่งอกไปที’
คูลู นาอึน ฮันกยอล ฮารัง และการัม
หลังจากฆ่าครึ่งเทพไปทั้งสิ้นห้าตน ศิลาเวทมนตร์ปริศนาได้ยกระดับกลายเป็นเกรดมิธ
ชายหนุ่มกำลังโล่งใจว่า ตนไม่ต้องเสียไอเท็มแสนมีค่าชิ้นนี้ เนื่องจาก ‘เกราะกางเกงเสือขาว’ ออกมาเป็นเกรดมิธในคราวเดียว
‘โล่งชะมัด…’
หลังจากเพ่งสมาธิตีเหล็กนานจนเหงื่อไหลไคลย้อย กริดกำลังโล่งใจเหนือคำบรรยาย
ยิ่งไปกว่านั้น ความตึงเครียดทางด้านร่างกายตลอดหลายวันผ่านมา ความกังวลว่าจะต้องรับมือกับยังบันแข็งแกร่ง พลันสลายเป็นปลิดทิ้งเมื่อตระหนักว่าตนจัดการพวกมันไปแล้ว
ชายหนุ่มได้รับชีวิตประจำวันแสนปรกติกลับคืนมาเสียที
ย้อนกลับไปหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลำบาก ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและอันตรายเกิดความคาดหมายนับครั้งไม่ถ้วน
ขอดื่มด่ำกับความสงบสุขนี้ไปอีกสักพัก
กริดฉีกยิ้มกว้างขึ้นทีละนิด
“ฉันจะทำให้พวกนายทุกคนแข็งแกร่งขึ้น”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้กลุ่มสัตว์จักรราศี
สีหน้าแววตาเป็นไปอย่างผูกพัน
คยองจา โทซุน เสือคราม และเหล่าสัตว์
กริดไม่รังเกียจใครแม่แต่ตนเดียว
ไม่เพียงไม่เกลียด แต่ยังมองว่าบุคคลเหล่านี้คือพวกพ้องร่วมสงครามในอนาคต
ชายหนุ่มมั่นใจ การต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสิบสองสัตว์เทพจักรราศีเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
‘เสือครามขยับเข้าใกล้การเป็นทายาทของเสือขาวเต็มทีแล้ว’
ต้องไม่ลืมว่า สิบสองสัตว์เทพจักรราศีมิได้รับใช้เทพฟินิกซ์แดงเพียงตนเดียว แต่ยังรวมถึงอีกสามเทพผู้พิทักษ์ซึ่งยังไม่คืนชีพขึ้นมา
‘ในอดีต สัตว์จักรราศีเหล่านี้คงกระจายตัวอยู่ทั่วทวีปตะวันออก ไม่ว่าจะทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออก หรือตะวันตก’
แต่หลังจากเทพทั้งหมดถูกผนึก สิบสองจักรราศีก็มารวมตัวในละแวกทิศใต้แทน
‘บางที อาจเป็นฝีมือของอาณาจักรฮวาน’
เคร้ง! เคร้ง!
กริดเริ่มลงมือสร้างหอกสามง่าม
หลังจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เป็นพันธมิตรอันแน่นแฟ้นกับเผ่าวารี ชายหนุ่มได้รับสูตรผลิตหอกสามง่ามคุณภาพสูงเป็นจำนวนมาก
มันจงใจเลือกสร้างอาวุธชิ้นใหม่โดยคำนึงถึงรูปแบบการต่อสู้ของคยองจา
ในเมื่อเคยต่อสู้กันมาก่อน กริดย่อมทราบลักษณะและวิธีการสู้ของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
ข้อมูลดังกล่าวมิได้เกิดจากพลังของทักษะหรือแต้มสถานะใด แต่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของชายหนุ่ม ซึ่งถูกสั่งสมมานานตลอดหลายปี
‘สามง่ามเคลอฟคงเหมาะมาก’
สามง่ามเคลอฟมีรูปทรงค่อนข้างประหลาด บริเวณส่วนปลายโค้งงอเข้าหาลำตัวเล็กน้อย
จุดประสงค์หลักคือการดึงศัตรูให้เข้ามาใกล้ แต่ก็สามารถนำไปใช้เพิ่มความหลากหลายของรูปแบบการต่อสู้ได้ด้วย
เดิมที คยองจามักใช้หางยันพื้นขณะต่อสู้ เนื่องจากหางของเธอทั้งยาวและแข็งแรง จึงใช้ทดแทนขาสั้นป้อมทั้งสองข้างได้อย่างไร้รอยต่อ
‘ถ้ามีอาวุธช่วยสนับสนุน เธอก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหางเพียงอย่างเดียว นั่นจะทำให้รูปแบบการต่อสู้หลากหลายมากขึ้น’
ในส่วนของผ้าคลุม ไม่มีไอเท็มใดเหมาะสมไปกว่าผ้าคลุมลันเทียร์
คยองจาต่อสู้ในลักษณะประจัญบานซึ่งหน้า เธอจำเป็นต้องมีพลังป้องกันสูง แต่ช่องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันกลับมีแค่ส่วนหัวและผ้าคลุม ฉะนั้น กริดจึงต้องการเพิ่มพลังป้องกันให้สูงสุดจากสองส่วนนี้
‘ในเชิงความโอเวอร์เกียร์ ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดยอดเยี่ยมไปกว่ามนุษย์อีกแล้ว’
สรีระของมนุษย์ยืดหยุ่นเหมาะสมแก่การสวมใส่เครื่องป้องกันคุณภาพสูงอย่างมาก…
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ กริดตัดสินใจเพ่งสมาธิกับงานตรงหน้า
อาศัยความร้อนจากฟืนฟอสฟอรัสขาวซึ่งยังไม่ดับมอด กริดถลุงลมหายใจเสือคราม ละโมบ และเหล็กนิลเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นหอกสามง่ามเกรดยูนีคหนึ่งเล่ม จากนั้นก็เริ่มตัดเย็บหนังของมิโนทอร์และคาเมเลี่ยนอย่างชำนาญ จนเกิดเป็นผ้าคลุมลันเทียร์เกรดเลเจนดารี
‘เดี๋ยวนะ…’
แต่ขณะเตรียมสร้าง ‘หมวกเล็กทรงกรวย’ ชายหนุ่มพลันชะงักมือ
‘แบบนี้ดีแล้วจริงหรือ’
ถึงจะชื่อว่าหมวกทรงกรวย แต่มันไม่เหมือนกับหมวกปาร์ตี้ทั่วไป ไอเท็มชิ้นนี้มีพลังป้องกันเข้าขั้นยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องพึ่งพาวัสดุราคาแพงอย่างหนังบีเลียล เพียงแต่ต้องใช้ ‘เหล็กนิลขัดเงาหลายวัน’ ทดแทน
ทว่า ยังเหลืออีกหนึ่งปัญหาสำคัญ
รูปลักษณ์ของมันเข้าขั้นระยำ และทำให้ผู้สวมใส่ดูเหมือนไอ้งั่งน่าสมเพช สามารถตกเป็นเป้าหัวเราะเยาะจากคนรอบข้างได้ง่าย
เป็นเหตุผลว่าทำไม หมวกเหล็กทรงกรวยถึงถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ ‘ไอเท็มเสื่อมถอย’
ขณะไอเท็มทั่วไปจะมีเกรดขึ้นต่ำสุดและสูงสุดกำหนดไว้ แต่หมวกเหล็กทรงกรวยจะออกมามีระดับต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่หนึ่งขั้นเสมอ
…เพียงเพราะมันอัปลักษณ์
‘…ต้องทำอะไรสักอย่าง’
ขณะกริดกำลังม้วนแผ่นโลหะเป็นทรงกรวย มันเริ่มหยุดการกระทำพลางขมวดคิ้ว
สำหรับชายหนุ่ม การสวมหมวกเหล็กทรงกรวยนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถซ่อนไว้ได้ด้วยสมญานามกษัตริย์คนแรก
แต่คยองจาไม่ใช่
หากเธอต้องสวมสิ่งนี้ไว้บนหัว กริดกังวลว่าราชินีหนูจะถูกดูแคลนจากคนใกล้ตัว และอาจถึงขั้นทำให้บารมีเทพเสื่อมลง
‘ถึงจะด้อยประสิทธิภาพลง แต่เราก็ต้องสร้างหมวกเหมาะสมให้เธอ… ไม่สิ ถ้าจำไม่ผิด คยองจาอาจชอบสวมมงกุฎมากกว่า เราควรพิจารณาการสร้างมงกุฎให้เธอ…’
ถึงจะมีพลังป้องกันต่ำ แต่อย่างน้อยมงกุฎก็มาพร้อมโบนัสแต้มสถานะสูงจากอัญมณี
อาจไม่ใช่ตัวเลือกอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่แย่นัก
ขณะกริดกำลังถกเถียงกับตัวเอง
ราชินีหนู คยองจา ผู้กำลังยืนข้างกริด พลันทำดวงตากลมโตและส่องแสงเปล่งปลั่ง
“เท่มาก! มงกุฎแหลมใบนี้เท่มาก! มันแหลมคมเหมือนกับเขี้ยวของสามีผู้ล่วงลับของข้า! ท่านกริด ข้าอยากสวมมันแล้ว!”
“…!”
นั่นไม่ใช่มงกุฎสักหน่อย
แต่ช่างเถอะ แค่เธอชอบก็พอแล้ว แถมยังมีเรื่องราวและความหมายทางใจแอบแฝง
เมื่อตัดประเด็นปัญหาออกไป กริดเร่งมือจัดการไอเท็มชิ้นสุดท้ายของราชินีหนู
ภายในช่วงเวลา 9 ชั่วโมงระหว่างรอระยะหน่วงทักษะ ‘ดึงศักยภาพซ่อนเร้น’ ให้วนกลับมาถึง กริดสามารถสร้างไอเท็มให้คยองจาได้ครบทั้งสามชิ้น ประกอบด้วยหมวกเหล็ก ผ้าคลุม และหอกสามง่าม
นับว่าเป็นความเร็วสุดน่าทึ่ง เฉลี่ยสามชั่วโมงต่อหนึ่งชิ้นเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับสมัยก่อนซึ่งกว่าจะสร้างไอเท็มเกรดยูนีคแต่ละชิ้น ต้องก้มหน้าก้มตาตีไม่เหล็กไม่ต่ำกว่าสามวัน
สิ่งนี้คือพลังของสมญานาม ดยุคแห่งไฟ
ทักษะติดตัว <เจตจำนงแห่งไฟ> นั้นช่วยให้ความเร็วในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อสามารถประหยัดเวลาชีวิตลงได้
“ข้าสัมผัสได้ถึงพลัง!!”
นานแค่ไหนแล้วนะ…
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน มนุษย์กลุ่มหนึ่งได้มอบอุปกรณ์สามชิ้น นับแต่นั้นคยองจาก็ใช้มันมาตลอด
หลังจากสวมใส่อุปกรณ์ชุดใหม่เสร็จ คยองจา พลันคำรามอย่างฮึกเหิมด้วยแก้มอันอวบอ้วน
ดวงตาของเธอเปล่งประกายและเปี่ยมไปด้วยความสุข ประหนึ่งกำลังจะยิงลำแสงออกมา
“มู่ว! มู่ว! มู่ว! ราชินีจงเจริญ!!”
“มู่ว! มู่ว! เป็นสหายกับมนุษย์ตลอดไป”
บริวารของราชินีหนูพลันโห่ร้องพลางกระทืบเท้าเสียงดัง แต่แม้พวกมันส่งเสียงสรรเสริญกริดกับราชินีหนูอย่างกึกก้อง แต่บรรดานกรอบป่ากลับไม่บินหนีอย่างตื่นกลัว ตรงกันข้าม พวกมันช่วยประสานเสียงร้องเพลงเป็นฉากหลัง
ภาพตรงหน้าคือเครื่องยืนยันว่า เหล่าสัตว์วิเศษและสัตว์เทพเป็นมิตรกับธรรมชาติมากเพียงใด
[ค่าความสัมพันธ์กับสัตว์เทพจักรราศี คยองจา เพิ่มขึ้น 50 หน่วย]
[คยองจาและบริวารของเธอกลายเป็นพันธมิตรของท่าน]
[หนูทุกตัวบนโลกรู้จักนามของท่าน]
บึ้ม!
เพียงคยองจากระทุ้งหอกสามง่ามอย่างแผ่วเบาหนึ่งครั้ง เกิดเป็นเสียงดังกระหึ่มคล้ายม่านอากาศถูกฉีกทำลาย
ความเร็วและพลัง เธอมีสองสิ่งนี้ไม่ด้อยไปกว่ากริดเลยสักนิด หากจะเปรียบเทียบอย่างเอนเอียงสักหน่อย ท่าแทงเมื่อครู่นับว่าน่าเกรงขามระดับเดียวกับเพลงหอกของการัม
‘นี่คือสัตว์เทพจักรราศี…’
แม้จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ครึ่งเทพเหมือนกับยังบัน แต่สิ่งแตกต่างก็คือ เธอสั่งสมบารมีแท้ เป็นค่าความศรัทธาจากก้นบึ้งของเหล่าสัตว์
ทว่า เนื่องจากอยู่ในร่างสัตว์ สิบสองสัตว์เทพจักรราศีอาจมีปัญหาด้านการพึ่งพาสัญชาตญาณมากกว่าเหตุผล เป็นเหตุให้หลงกลศึกของศัตรูเข้าได้ง่าย แถมยังมีสรีระค่อนข้างจำกัด
แต่ถึงอย่างนั้น กริดกลับมองว่าเท่านี้ก็เพียงพอจะช่วยแบ่งเบาภาระตนได้มาก
มันต้องการอยู่ฝ่ายเดียวกับกองทัพสิบสองสัตว์จักรราศี ต้องการยืมพลังของพวกเขาในการขจัดความวุ่นวายและยากลำบากบนทวีปตะวันออก
ด้วยความคิดดังกล่าว กริดตัดสินใจเอ่ยปากออกไปอย่างซื่อตรง
“ของขวัญเหล่านี้ถือเป็นสิ่งตอบแทนล่วงหน้า ฉันยังต้องการคืนชีพให้กับเทพผู้พิทักษ์อีกสามตน อาจต้องยืมพลังของเธอเพื่อต่อกรกับความชั่วร้ายอีกหลายหนในอนาคต”
จริงอยู่ กริดสามารถพูดให้ทุกคนคล้อยตามได้ด้วยการใช้วลี ‘ต่อสู้เพื่อสันติภาพของโลก’
แต่มันก็ไม่ทำ
เหตุผลเพราะว่า การคืนชีพเหล่าเทพผู้พิทักษ์ ล้วนเกิดจากจุดประสงค์ส่วนตัวทั้งสิ้น
เมื่อได้ยินคำขอร้องอย่างสุภาพ คยองจาเดินเข้าไปกอดกริดอีกครั้ง
“หัวใจของท่านช่างหยิ่งใหญ่… ท่านไม่ต้องกังวลไป การคืนชีพเทพผู้พิทักษ์คือเป้าหมายของพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว”
[ค่าความสัมพันธ์กับสัตว์เทพจักรราศี คยองจา เพิ่มขึ้น 20 หน่วย]
[ท่านจับมือเป็นพันธมิตรอย่างเต็มรูปแบบกับกองทัพคยองจา]
[นับแต่นี้ไป แม้แต่หนูในท่อน้ำทิ้งก็ยังเต็มใจช่วยเหลืออาณาจักรโอเวอร์เกียร์]
…
…
!!
[★โรคระบาดซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในเมืองเล็กของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถูกยกเลิก★]
[★หนูในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เริ่มหันมารักษาความสะอาด★]
“…!”
เกินความคาดหมายไปมาก
นอกจากจะได้เป็นพันธมิตรเต็มรูปแบบกับกองทัพคยองจา แม้แต่หนูในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็ยังเป็นมิตร!
บางคนอาจหัวเราะเยาะ เมื่อได้ยินว่ากริดเป็นพันธมิตรกับสิ่งมีชีวิตอย่างหนู แต่ชายหนุ่มกลับไม่คิดเช่นนั้น มันผุดไอเดียน่าสนใจขึ้นมาทันที
โรคระบาดซึ่งมีต้นตนจากหนู สามารถหายไปได้เพราะหนูหันมาทำความสะอาดตัวเอง
ถ้าอย่างนั้น หากใช้งานในทางกลับกัน กริดก็สามารถแพร่โรคระบาดใส่อาณาจักรอื่นด้วยพลังกองทัพหนูได้เช่นกัน!
‘อาจสร้างความสูญเสียได้ไม่น้อย’
ถัดมา มันอัญเชิญโอเวอร์เกียร์คอร์นออกมาช่วยเร่งค่าเรี่ยวแรง ตามด้วยการควักขนมปังแข็งและน้ำอุ่นออกมากินเพื่อดับกระหาย
เมื่อทักษะ ‘ดึงศักยภาพซ่อนเร้น’ กำลังจะวนกลับมาให้ใช้งาน ชายหนุ่มจึงเตรียมลงมือสร้างเกราะไหล่ต่อทันที
และเช่นเคย วัสดุหลักคือละโมบและลมหายใจเสือขาว
ขณะกริดก้มหน้าจุดเตาหลอมขึ้นใหม่ โทซุนซักถามอย่างสงสัย
“ท่านเทพคุณธรรม เหตุใดถึงไม่ผสานลมหายใจหลายชนิดเข้าด้วยกัน?”
แนวคิดน่าสนใจ
หากผสานลมหายใจหลายธาตุเข้าด้วยกัน ไอเท็มจะออกมามีคุณสมบัติรอบด้าน
ทว่า กริดเคยทดลองแล้ว
และผลก็คือ
“ทำไม่ได้หรอก พลังงานจากลมหายใจสองธาตุจะสร้างความขัดแย้งต่อกัน”
ยากจะเกลี่ยให้เป็นเนื้อเดียวกันได้
และนั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาหลัก
เทคนิคนี้เป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากลมหายใจสองชนิดจะมีช่วงของจุดเดือดไม่เท่ากัน
แม้จะเป็นถึงช่างเหล็กในตำนานอย่างกริด แต่มันก็ไม่สามารถทำให้เตาหลอมมีอุณหภูมิสองช่วงในเวลาเดียวกันได้
‘…เดี๋ยวก่อน’
ถ้าเราใช้ดึงศักยภาพซ่อนเร้นจนทักษะตีเหล็กมีระดับทัดเทียมเทพ นั่นอาจเป็นไปได้…
กริดพลันฉุกคิดถึงหัวนมสองข้าง
มนุษย์มีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับเทพ
แม้แต่เฮ็กเซเทีย เทพแห่งการตีเหล็ก ก็ยังมีรูปร่างคล้ายมนุษย์
มีหัวนมสองข้างเหมือนกัน
และแต่ละข้างมีไฟคนละสี
ข้างซ้ายไฟสีฟ้า ข้างขวาไฟสีแดง เป็นไฟคนละประเภทอย่างชัดเจน
‘หัวนม… ไฟสองชนิด…’
ชิ้นส่วนข้อมูลค่อยๆ ประกอบขึ้นในหัวกริด
‘หรือว่า… เราควรเผาหัวนมตัวเองบ้าง…’
ไม่ใช่ เหลวไหลสิ้นดี
กริดส่ายหน้าพลางเรียบเรียงสติใหม่
‘ถ้าทักษะการตีเหล็กยกระดับจนทัดเทียมเทพ หมายความว่าเทคนิคและความชำนาญก็ต้องอยู่ในระดับดังกล่าวด้วยเช่นกัน เก่งกาจพอจะสร้างความร้อนสองอุณหภูมิพร้อมกันได้’
ไม่มีเหตุผลให้ต้องจุดไฟเผาหัวนมตัวเอง
นอกจากจะเป็นคนบ้า
แก่นสำคัญอยู่ตรงเตาหลอมต่างหาก
มันต้องจุดสองเตาพร้อมกัน และตั้งระดับอุณหภูมิให้แตกต่างกัน ตามความเหมาะสมของลมหายใจทั้งสองชนิด
‘…คุ้มค่ากับการลองเสี่ยง’
เมื่อได้ข้อสรุป กริดเตรียมสร้างอีกหนึ่งเตาหลอมแบบพกพาขึ้นมาใหม่
ขณะร่างกายกำลังชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ มุมปากกลับยกโค้งอย่างมีความสุข
แต่ในทางตรงกันข้าม สีหน้าของเหล่าสัตว์จักรราศีกลับยิ่งทวีความดำมืด
สืบเนื่องมาจาก กริดเอาแต่พึมพำถึงหัวนมมาสักพักใหญ่ แถมยังยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยใบหน้าแฝงความสุข
“ท่านคงติดสัดกระมัง”
เสือฝ่ายชายแสดงสีหน้าเห็นใจ
😆🤣
ReplyDeleteขอบคุณครับ😁
ไอ้เสือเอ้ย!!!
Delete😁
Delete555555 กริดเอ๊ยยย ภาพพจน์ของบารมีเทพไม่เหลือแล้ววว
ReplyDelete