จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,153
อาณาจักรสนธยา
ดินแดนแห่งออร์ค ปกครองโดยออร์คลอร์ดนามเทรูชาน แต่เดิมเคยเป็นอาณาจักรไวโอเล็ตมาก่อนจนกระทั่งเมื่อปีกลาย
“คุรุก! ซูวัก!”
“ซูวัก! ซูวัก ซูวัก!”
ละอองพลังเวทปริมาณมหาศาลกำลังห่อหุ้มบรมมหาราชวังแห่งออร์คไว้อย่างท่วมท้น
ออร์คชาแมนจำนวนหลายสิบกำลังช่วยกันร่ายเวทมนตร์นานับชนิด เกิดเป็นเกลียวคลื่นหมุนวนกระจัดกระจายเต็มท้องท้องฟ้า
ถัดมาไม่นาน ริ้วแสงเริ่มถักทอเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นสัญลักษณ์แห่ง ‘กฎ’
“ซูวัก!”
ออร์คชาแมนทุกตนพลังจ้องไปยังจุดหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง เทรูชานเดินเข้าใกล้แท่นบูชาพลางคำรามกึกก้อง
“ท่านมหาราชาของพวกเรา! มีคำสั่งเร่งด่วนถึงพวกเจ้าทุกคน! คุรุก!!”
เพียงพริบตา เสียงคำรามออร์คลอร์ด พลันกลายเป็นกฎของออร์คโดยมิอาจขัดขืน
ขณะเสียงเทรูชานแล่นเข้าไปในโสตประสาทผู้เล่นเผ่าออร์คทั้งหมดซึ่งกำลังออนไลน์ ข้อความระบบได้ปรากฏขึ้นตรงมุมหน้าจอพวกมันอย่างเท่าเทียม
[ออร์คลอร์ด ‘เทรูชาน’ ทำการสร้างภารกิจประจำเผ่าพันธุ์]
“ถึงนักรบสนธยาผู้น่าเกรงขามทั้งหลาย! พวกเจ้าจงไปรวมตัวยังเรย์ดัน! คุรุก! จงยกทัพรุกรานอาณาจักรเก๊าส์เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านมหาราชาของพวกเรา!”
“…?”
อะไรนะ?
ทำไมพวกเราต้อง…?
‘มหาราชาหมายถึงกริด?’
ใครบางคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวประหนึ่งอมขี้
“วันนี้มาถึงจนได้สินะ…”
นับตั้งแต่เทรูชานลั่นสัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อกริด ใครหลายคนเคยทำนายเหตุการณ์นี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกมันจึงยอมรับสภาพด้วยสีหน้าหดหู่
รายละเอียดภารกิจแสดงต่อทันที
<บุกโจมตีอาณาจักรเก๊าส์>
★ ภารกิจเผ่า ★
ออร์คลอร์ดเทรูชาน ผู้ปกครองสูงสุดแห่งอาณาจักรสนธยา ประกาศภารกิจยึดครองอาณาจักรเก๊าส์ในนามของราชาโอเวอร์เกียร์
จงไปรวมตัวยังเมืองเรย์ดันภายใน 48 ชั่วโมงและเข้าร่วมกองทัพอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
*ภารกิจทางเลือก (ไม่บังคับ)
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ยึดครองเก๊าส์
รางวัลเข้าร่วมภารกิจ : ได้รับความชื่นชอบจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
1. รางวัลส่วนตัว
- ได้รับ <หลักฐานนักรบ> ตามผลงานในสงคราม
2. รางวัลรวม
- ได้รับ <หลักฐานนักรบ> ตามขนาดของหมู่บ้าน เมือง หรือป้อมปราการอาณาจักรเก๊าส์ซึ่งถูกยึดครองโดยกองทัพออร์ค
เงื่อนไขภารกิจล้มเหลว :
- ยึดครองอาณาจักรเก๊าส์ไม่สำเร็จ
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ไม่มี
★เสนาธิการสูงสุดในสงครามนี้ ลอเอล ประกาศอย่างหนักแน่นว่าฝ่ายเรามีอาหารและช่องทางขนส่งเพียงพอ จึงไม่มีการกำหนดเส้นตายสงครามในกรณีเสบียงหมด
“…”
‘หลักฐานนักรบ’ จะได้รับจากภารกิจของออร์คลอร์ดโดยตรงเท่านั้น ผู้เล่นเผ่าออร์คล้วนทราบถึงคุณค่าของมันเป็นอย่างดี
แน่นอน ผู้เล่นเผ่าออร์คซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวจีน ไม่เคยคิดต่อสู้เพื่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์หรือกริดอยู่แล้ว แต่รางวัลอันล่อตาล่อใจอย่างหลักฐานนักรบก็มิอาจมองข้ามไปได้เช่นกัน
“บัดซบ… พวกเราควรทำยังไงดี?”
“อึก.”
ผู้เล่นชาวจีนจำนวนหนึ่งกำลังเผชิญหน้าสถานการณ์ยากลำบาก
หลักฐานนักรบก็อยากได้ แต่ถ้าพวกตนเข้าร่วมสงครามในฐานะทหารกองทัพโอเวอร์เกียร์ แบบนั้นจะไม่ต่างอะไรกับการเป็นเบ๊ของกริดโดยตรง
ทำไมพวกตนต้องสู้เพื่อกริด?
เกิดเป็นความรู้สึกระคายเคืองศักดิ์ศรีรุนแรง
หากอีกฝ่ายไม่ใช่กริด แต่เป็นกองทัพของแรงเกอร์ชื่อดังสักคน พวกมันจะยอมละทิ้งเกียรติยศและทำงานแลกหลักฐานนักรบโดยไม่อิดออด
“ห้ามก้มหัวให้กริดเด็ดขาด! หากเข้าร่วมภารกิจในคราวนี้ พวกนายทุกคนจะถูกตราหน้าว่าคนทรยศและถูกสังคมรุมประณาม!”
ปัญหาใหญ่สำหรับพวกมันคือ…
ความรู้สึกของประชาชนชาวจีน
ตลอดงานแข่งนานาชาติ 4 ปีหลัง กริดเป็นราวกับสิ่งปฏิกูลในสายชาวจีนเพราะดันไปทำลายความฝันพวกเขาหนแล้วหนเล่า
ในทุกปี อันดับเหรียญทองของประเทศจีนจะตกเป็นรองสหรัฐอเมริกาและเกาหลีด้วยฝีมือกริดเสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเหตุการณ์วีรบุรุษแห่งชาติ เฮ่า คุกเข่ายอมจำนนกริดต่อหน้าคนทั้งโลก ได้สร้างแผลใจอันยากจะลบเลือนให้แก่ชาวจีน
“ระยำเอ้ย…”
ผู้เล่นชาวจีนต่างพากันกุมขมับหน้าเครียด
อีกหนึ่งเรื่องให้ต้องหนักใจก็คือ ภารกิจเจ้าปัญหาในคราวนี้ดันเป็นประเภท ‘ไม่บังคับ’
หากเป็นภารกิจบังคับทำ พวกมันจะอ้างได้ว่าตนไม่เต็มใจ แต่ลึกๆ กลับยินดีปรีดาเมื่อได้รับหลักฐานนักรบเป็นจำนวนมาก
“พวกเราน่าจะฟังคำของพี่ใหญ่แต่แรก…”
“นั่นสิ ถึงแม้รัฐบาลจีนจะทรงอิทธิพลและมีระบบจัดการเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่กลับไม่เชี่ยวชาญข้อมูลเกมซาทิสฟายสักเท่าไร”
กลุ่มผู้เล่นชาวจีนเริ่มตำหนิตัวเอง ในอดีต พวกตนไม่ยอมฟังคำเตือนของเฮ่าเรื่องการเปลี่ยนเผ่าพันธุ์ไปเป็นออร์คสนธยา
ตอนนั้นทุกคนเอาแต่เหยียดหยันเฮ่าว่า ‘ขี้ข้ากริดอย่างนายมีสิทธิ์แสดงความเห็นด้วยหรือ?’
อย่างไรก็ตาม ถึงพวกมันจะรู้สึกโกรธเคืองรัฐบาลจีนผู้ชักชวนให้แรงเกอร์ชาวจีนจำนวนมากเปลี่ยนเป็นเผ่าออร์ค แต่ก็ไม่มีใครสามารถพูดความคิดออกมาได้ จึงทำเพียงตำหนิในความโง่เขลาของตน
และเหนือสิ่งอื่นใด บุคคลผู้ตัดสินใจสุดท้ายก็คือตัวมันเอง
ใช่แล้ว พวกมันเป็นคนเลือกเส้นทางนี้
‘เดี๋ยวนะ… แล้วถ้าเราปิดบังชื่อตัวละคร?’
‘ถ้าสวมหมวกและหน้ากากปกปิดชื่อไว้อย่างมิดชิด ก็จะไม่มีใครบอกได้ว่าออร์คตนนี้เป็นผู้เล่นหรือ NPC…’
‘ไม่เพียงเท่านั้น สังเวียนการต่อสู้คือสงครามขนาดใหญ่ จำนวนทหารต้องไม่ต่ำกว่าหมื่นนายแน่นอน อาจมากถึงหลักแสน หากแฝงตัวปะปนไปกับกองทัพออร์คล่ะก็ จะไม่มีใครแยกแยะได้ว่าเราคือผู้เล่นหรือ NPC!’
กลุ่มผู้เล่นชาวจีนเริ่มเกิดแนวคิดแบบเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่หารู้ไม่ว่า ุจำนวนผู้เล่นชาวจีนภายในเผ่าออร์คมีทั้งสิ้น 430,000 คน
***
“ฟู่ว! ข่าวลือเป็นความจริงจนได้”
ไม่ช้าก็เร็ว โอเวอร์เกียร์จะประกาศสงคราม
นั่นคือข่าวลือหนาหูในระยะหลัง
บรรดานักข่าวผู้เคยเคลือบแคลง ต่างพากันแสดงสีหน้าตกตะลึงโดยไม่ปิดบัง
ณ เมืองทะเลทราย เรย์ดัน
กองทหารอันเกรียงไกรกำลังเดินเรียงแถวเข้าไปในเมืองหลวงรองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างเป็นระเบียบ ฉากตรงหน้าคล้ายกับแม่น้ำหลายสายกำลังไหลมารวมกันจนเกิดเป็นทะเลสาบ สายน้ำแต่ละเส้นล้วนเต็มไปด้วยทหารกล้าจำนวนมาก
นี่คือวินาทีซึ่งข่าวลือได้กลายเป็นความจริง
“แต่ทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้…?”
เมื่อนานมากแล้ว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเคยคาดการณ์ว่าจะเกิด ‘สงครามยึดดินแดน’ ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไว้ล่วงหน้า
หากต้องการพัฒนาประเทศ อาณาจักรก็ต้องขยายจำนวนประชากรให้ได้ นี่คือหลักสามัญสำนึกพื้นฐาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าโอเวอร์เกียร์สามารถยึดครองเมืองใหญ่สามแห่งในแถบตะวันตกของอาณาจักรเก๊าส์สำเร็จ พวกเขาจะมีโอกาสขุดคลองและเปิดเส้นทางเดินเรือ
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงจึงคาดเดาว่า อาณาจักรเก๊าส์—อาณาจักรชายแดนติดกับโอเวอร์เกียร์ คงไม่แคล้วกลายเป็นเหยื่อรายแรกของแผนยึดครองทวีป
ทุกสิ่งเป็นไปตามความคาดหมาย
ทว่า จังหวะลงมือกลับผิดแผกพิสดาร
ไม่ใช่ว่าเหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะถึงงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหรอกหรือ?
โดยทั่วไป ระยะเวลาหนึ่งเดือนสุดท้ายคือโอกาสเร่งสปีดเก็บเลเวลอย่างสุดฝีมือ
และท็อปแรงเกอร์จากโอเวอร์เกียร์ทั้ง 17 คนต่างก็มีรายชื่อเป็นผู้เข้าแข่งขัน
หากขุมกำลังหลักไม่ได้เข้าร่วมสงคราม คงเป็นการยากถ้าจะหวังบดขยี้ศัตรูอย่างราบคาบและเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าเมืองเรย์ดันก็ยังมีการเปลี่ยนมือกะทันหัน
‘เนี๊ยวมง’ ขึ้นรับตำแหน่งเจ้าเมืองเรย์ดันแทนเซ็ดนอส ผู้ต้องเก็บตัวเตรียมลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“รอให้งานแข่งนานาชาติจบลงค่อยประกาศสงครามก็ยังไม่สาย… แล้วทำไมถึงตัดสินใจทำศึกในจังหวะขาดแคลนขุนพล?”
ตามหลักทฤษฎี ลำพังกองทัพโอเวอร์เกียร์อาจเอาชนะกองทัพเก๊าส์ได้ไม่ยากก็จริง
ทว่า กริดก็ไม่ควรประมาทศักยภาพและพลังแฝงของ NPC อีกฝ่าย
อาณาจักรเก๊าส์สามารถปกครองตัวเองและพัฒนากองทัพอย่างต่อเนื่องได้ตลอดหนึ่งร้อยปีหลัง ถึงแม้จะถูกล้อมกรอบด้วยศึกรอบด้านอย่างจักรวรรดิซาฮารันและอาณาจักรอีเทอนัลก็ตาม
สิ่งนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า อาณาจักรเก๊าส์มีศักยภาพทางการผลิตและอำนาจการทูตในระดับไม่ธรรมดา
ขนาดกองทัพคงใหญ่กว่าสมัยอดีตมาก
สถานการณ์จะง่ายกว่านี้ถ้ากองทัพออร์คของอาณาจักรสนธยาเข้าร่วมฝ่ายโอเวอร์เกียร์ แต่เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้ยากเหลือเกิน
สาเหตุเป็นเพราะ ทางรัฐบาลจีนคือตัวตั้งตัวตีในการประชาสัมพันธ์ให้แรงเกอร์ชาวจีนย้ายเปลี่ยนเป็นเผ่าออร์คสนธยา
ฉะนั้น พวกมันต้องกำชับผู้เล่นฝ่ายออร์คให้ไม่เข้าร่วมในสงครามขยายดินแดนของกริด
ผู้เล่นชาวออร์คเกือบทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน จึงต้องยอมตัดใจไม่เข้าร่วมสงครามแสนสำคัญในคราวนี้
ไม่มีใครไม่ทราบว่าประชาชนชาวจีนหวาดกลัวรัฐบาลมากแค่ไหน
“เหนือสิ่งอื่นใด คนจีนมีความทระนงตนสูง”
กลุ่มคนหยิ่งผยองเหล่านั้นจะยอมละทิ้งศักดิ์ศรีแสนสำคัญ เพื่อคว้าผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยแต่แลกมากับการเป็นขี้ข้ากริด?
อย่าพูดให้ขำนักเลย
“หรือว่า…!”
ขณะกลุ่มนักข่าวกำลังส่ายหัวอย่างขบขัน นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งพลันฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้
“ผมพอจะเดาได้แล้วครับ ว่าทำไมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถึงประกาศสงครามเวลานี้!”
“อา… ผมก็เริ่มมองเห็นแล้วเหมือนกัน เพื่อลดเสี้ยนหนามลงยังไงล่ะ”
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติไม่ถูกจำกัดเฉพาะแรงเกอร์กิลด์โอเวอร์เกียร์เท่านั้น
แรงเกอร์ชาวเก๊าส์จำนวนหนึ่งก็เป็นนักกีฬาในงานแข่งเช่นกัน สำหรับพวกเขา รางวัลจากซาทิสฟายนานาชาติย่อมมีค่ามากกว่าวิกฤติอาณาจักร
“กองทัพโดยรวมของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ซึ่งสวมเซตกริด ย่อมแข็งแกร่งกว่ากองทัพอาณาจักรเก๊าส์พอสมควร ฉะนั้น เงื่อนไขเดียวในการชนะของเก๊าส์ก็คือ ขุนพลโอเวอร์เกียร์ไม่เข้าร่วมสงครามเลย และแรงเกอร์ฝ่ายพวกเขาต้องร่วมสงครามอย่างเต็มจำนวน แต่แรงเกอร์ก็เป็นผู้เล่นคนหนึ่ง พวกเขาจะเลือกอาณาจักรมากกว่างานแข่งนานาชาติเชียวหรือ?”
ในทางกลับกัน กริดไม่ได้ลงแข่ง แปลว่าเขาอาจเป็นผู้นำกองทัพบุกถล่มด้วยตัวเอง และนั่นจะทำให้ขวัญกำลังใจของแรงเกอร์ระดับกลางของฝ่ายโอเวอร์เกียร์ฮึกเหิมถึงขีดสุด
“สุดยอด… นี่คือเหตุผลให้กริดไม่เข้าร่วมงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติแต่แรก?”
“หลังจากเคยถูกช่องโหว่ของงานแข่งนานาชาติเล่นงาน… เขาคงอยากฉวยโอกาสจากช่องโหว่นั้นบ้าง”
“ไม่อยากจะเชื่อ กริดกล้าทำเรื่องเลวร้ายซึ่งตนเคยออกปากประณามได้อย่างไร?”
“แต่นี่แหละ… ความเด็ดขาดของผู้นำ”
“ด…เดี๋ยวก่อน! …นั่นอะไร?”
ขณะกลุ่มนักข่าวกำลังชื่นชมกริด พวกมันต่างตกตะลึงกับฉากตรงหน้า
ทุกคนกวาดสายตามองครั้งแล้วครั้งเล่า
สาเหตุมาจาก รอบเมืองเรย์ดันเริ่มมีออร์คจำนวนมากปรากฏตัวในสภาพปิดหน้าปิดตาและสวมหมวกเหล็กบดบังมิดชิด
บางส่วนพยายามทำตัวแนบเนียนเพื่อไม่ให้กลายเป็นจุดสนใจ แต่ด้วยร่างกายใหญ่กำยำโต ไม่ว่าจะทำอะไรก็โดดเด่นไปเสียหมด
“นี่มัน… บ้าไปแล้ว…”
สีหน้าของเหล่านักข่าวผู้กำลังซุ่มเก็บภาพจากหอนาฬิกาสูงของเรย์ดัน พลันอึมครึมกะทันหัน
ออร์คผิวเข้มเริ่มหลั่งไหลมารวมตัวรอบเมืองจนมีลักษณะคล้ายคลื่นน้ำกระเพื่อม
จำนวนของออร์คสูงกว่ากองทัพของเรย์ดันภายในลานฝึกทหารถึงสองเท่า
“นี่คือทัพหลวงของโอเวอร์เกียร์หรือทัพหลวงของออร์คกันแน่…?”
บรรดานักข่าวจากทั่วโลกต่างหันไปจ้องนักข่าวของรัฐบาลจีนเป็นตาเดียว
***
“ลอเอลทำนายได้แม่นยำเช่นเคย”
ด้วยอำนาจของราชา กริดสร้างภารกิจระดับอาณาจักรชื่อ <สงครามรุกรานเก๊าส์> แจกจ่ายแก่ผู้เล่นทุกคน
แต่มันไม่มีอำนาจบังคับให้ทุกคนเข้าร่วม จึงต้องดึงดูดเหล่าแรงเกอร์ด้วยรางวัลก้อนโตแทน
ในทางกลับกัน สถานการณ์ฝั่งเทรูชานแตกต่างออกไปเล็กน้อย
เทรูชานมีสิทธิ์บังคับให้ออร์คทุกตนเข้าร่วมภารกิจภายใต้กฎ ‘เสียงคำรามออร์คลอร์ดคือคำประกาศิต’
แน่นอน ในตอนแรก กริดคิดจะสั่งให้เทรูชานบังคับออร์คทุกคนในเผ่าเข้าร่วมสงคราม
เพราะยิ่งทัพออร์คมีจำนวนมาก โอกาสชนะในสงครามอันไม่แน่ไม่นอนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เรียกว่าเป็นการไม่ประมาทศัตรูคู่แข่ง
ทว่า ลอเอลกลับคัดค้าน
มันเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี ไม่เว้นแม้แต่อำนาจบังคับเข้าร่วมภารกิจของเทรูชาน พลังนี้ต้องกัดกินบางอย่างในตัวเทรูชานเป็นแน่ ฉะนั้น ลอเอลซึ่งหวังให้เทรูชานดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปอีกพักใหญ่ รีบออกปากคัดค้านการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างสูญเปล่า
“เชื่อฉัน ต่อให้ไม่บังคับ แต่อัตราเข้าร่วมภารกิจก็จะยังสูงอยู่ดี นายคงทราบใช่ไหม ผู้เล่นออร์คส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจเทรูชาน และต้องการเปลี่ยนเผ่ากลับเป็นมนุษย์ในอีกสองปีข้างหน้า… ถูกต้อง กับภารกิจของเผ่าออร์คซึ่งจะเพิ่มค่าพละกำลังและความอดทนเป็นการถาวร ฉันเชื่อว่าต้องมีแรงเกอร์หลายคนไม่อยากปล่อยให้สิ่งนี้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา”
ลอเอลพูดถูกทั้งหมด
ขณะกวาดสายตามองไปยังกองทัพออร์คผิวเข้มรอบนอกปราสาทเรย์ดัน ลอเอลทราบทันทีว่าผู้เล่นเผ่าออร์คทยอยเดินทางมาเข้าร่วมสงครามเป็นจำนวนมาก… โดยเฉพาะชาวจีน
ค่อนข้างน่าเสียดาย ทุกคนปกปิดตัวเองได้แนบเนียนจนไม่มีชื่อตัวละครเล็ดลอดออกมา
‘ไม่ต้องการพลาดรางวัล แต่ก็ไม่ต้องการถูกสาปแช่งจากชาวจีนเหมือนกันสินะ’
“กองทัพพร้อมแล้วขอรับ”
ปิอาโร่ปืนกำแพงเมืองขึ้นมากล่าวรายงาน
ด้วยเครื่องแต่งกายเต็มยศเฉกเช่นเมื่อครั้งบุกรุกท้องพระโรงจักรวรรดิซาฮารัน ปิอาโร่จ้องมองกริดอย่างเทิดทูน
หลังจากจบพิธีเคลื่อนทัพ ชายคนนี้จะต้องดำรงตำแหน่งแม่ทัพสูงสุด คอยนำกองทหารบดขยี้ศัตรูให้ราบคาบแทนกริด ผู้มีภารกิจต้องแยกตัวไปทวีปตะวันออกชั่วคราว
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ตามด้วยการใช้ทักษะ <ประกายอัสนี>
เปรี้ยะ!
ท้องฟ้าเหนือเรย์ดันพลันสว่างวาบ ราชาโอเวอร์เกียร์ลอยตัวไปในอากาศด้วยท่าทีผ่อนคลาย
ในสภาพหันหลังให้ท้องฟ้า ชายหนุ่มจ้องมองไปยังทิศทางของอาณาจักรเก๊าส์ ณ อีกฟากฝั่งของทะเลทรายกว้างใหญ่ ก่อนจะร่อนกลับลงมาบนกำแพงเมืองด้วยมาดสง่างาม
“เฮ—!!”
“ชิ…”
กองทัพโอเวอร์เกียร์ราวสองแสนต่างโห่ร้องอึกทึกครึกโครม แต่ออร์คสี่แสนกลับส่งเสียงหงุดหงิดในช่องปาก
“เงียบ.”
“…!”
บรรดาออร์คผู้จ้องมองกริดด้วยสายตาหงุดหงิดและขัดใจ พลันเกิดความตกตะลึงจนรีบปิดปากของตัวเองจนสนิท
สาเหตุเพราะ เสียงของกริดไม่ใช่การแหกปากตะโกนให้ดังก้อง แต่มีลักษณะคล้ายเสียงกระซิบส่งเข้ามาในสมองโดยตรง
สำหรับผู้เล่น นี่คือปรากฏการณ์อันน่าเหลือเชื่อและไม่มีคำอธิบายใดรองรับ
ส่งเสียงเข้าสมองของทุกคนโดยไม่มีอุปกรณ์ขยายเสียงได้ยังไง…?
‘หรือว่า… จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีค่าความน่าเกรงขามสูงถึงระดับหนึ่งเสียก่อน?”
ผู้เล่นเผ่าออร์คต่างพากันยกย่องในความน่าเกรงขามเป็นล้นพ้นของราชาโอเวอร์เกียร์เบื้องหน้า ดวงตาแต่ละคนเริ่มแวววาว ร่างกายกระฉับกระเฉงโดยไม่ทราบสาเหตุ
หารู้ไม่ว่า สิ่งนี้เป็นเอฟเฟคของไอเท็มเพียงหนึ่งเดียวในโลกซาทิสฟาย จะมอบให้กับผู้ก่อตั้งหน่วยอัศวินคนแรกเท่านั้น
<ผ้าคลุมผู้ปกครองสูงสุด>
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : อนันต์
* ได้รับทักษะ <คำสั่งบุกตะลุย>
* ได้รับทักษะ <คำสั่งจัดกระบวนรบ>
* ได้รับทักษะ <เสียงของผู้ปกครองสูงสุด>
สัญลักษณ์ตัวแทนผู้ปกครองสูงสุดซึ่งสามารถบัญชาการกองทัพขนาดใหญ่
น้ำหนัก : 33
เนื่องจากไม่รู้จักสิ่งนี้ พวกมันจึงยอมศิโรราบต่อกริดประหนึ่งเทพเจ้า
ขณะเดียวกัน
ณ บรมมหาราชวังโอเวอร์เกียร์
“คิดว่าพวกเราโง่นักหรือไง”
กลุ่มนักลอบสังหารสังกัดราชวงศ์เก๊าส์กำลังลอบเร้นกายเคลื่อนไหวภายในเงามืด
พวกมันเล็ดลอดสายตาชาวนาโอเวอร์เกียร์แสนโด่งดังได้สำเร็จและย้ายร่างกายมาหยุดยืนหน้าตีนกำแพงนอกวังหลวง ขั้นตอนถัดไปคือการแทรกซึมเข้าวังและลักพาตัวเครือญาติ
ทันใดนั้น
พรืด. พรืด. พรืด.
ขณะกำลังปืนกำแพงพลางระวังไม่ให้ถูกข่ายตรวจจับเวทมนตร์พบตัว กลุ่มนักลอบสังหารพลันถูกเถาวัลย์ปริศนารัดข้อเท้าแน่นถนัด
แหงนมองไปด้านบน ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งห้อยขาลงจากกำแพงวัง ปากขยับพึมพำพลางเคี้ยวมันฝรั่งสีรุ้ง
“วันนี้ก็สงบสุขเหมือนเคย”
ขอบคุณครับ😊🙏
ReplyDelete