จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,546



เมื่อความมืดเข้าครอบงำวิสัยทัศน์ จิตของบราฮัมทวีความจดจ่อ ประสาทสัมผัสแผ่ออกไปกว้างไกล


ทันใดนั้น เหนือห้วงนรก มวลอารมณ์ในใจบราฮัมพลันปะทุขึ้นกะทันหัน


‘เจ็บปวด’


‘ทำไมเราถึงต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้’


‘เราไม่เคยทำบาป!’


‘ทำไมมันถึงไม่จบลงทั้งที่ตายไปแล้ว? ได้โปรด ใครบางคนฆ่าข้าอีกสักครั้ง… ทำให้ข้าหายไป…’


‘ขอสาปแช่ง… ขอสาปแช่งโลกใบนี้!’


เสียงของวิญญาณอาฆาตทำให้บราฮัมสั่นสะท้านไปทั้งตัว


แม้แต่บราฮัมที่เกลียดชังโชคชะตาของตัวเองและเผ่าพันธุ์แวมไพร์ เกลียดชังแมรีโรสเข้ากระดูก แต่ความโกรธแค้นของมันก็เทียบไม่ได้เลยกับวิญญาณอาฆาตเหล่านี้ เป็นความรู้สึกที่เข้มข้นถึงเพียงนั้น


บราฮัมหวนนึกถึงมารดา


เหตุใดนางถึงถูกขับไล่ออกจากนรกทั้งๆ ที่เป็นถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ในลำดับสาม?


บราฮัมได้ยินว่าเป็นเพราะเบริอาเช่พยายามปฏิรูปนรก


รายละเอียดที่ชัดเจนค่อนข้างคลุมเครือ


เจตจำนงของมารดาบดบังความทรงจำบางส่วนของบราฮัมไว้ ประกอบกับการที่หลักฐานมีน้อย มันจึงทำได้เพียงคาดเดาส่งเดช


เกิดอะไรขึ้นกันแน่


เหตุใดนรกถึงต้องจับมือกับรีเบคก้าเพื่อเนรเทศมารดาตน อีกทั้งยังสาปแช่งด้วยคำสาปเกียจคร้าน?


สำหรับคำตอบ—


‘อย่าบอกนะว่า…’


ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในใจบราฮัม


เมื่อข้อสันนิษฐานถูกทำให้สมบูรณ์ด้วยเสียงโหยหวนของวิญญาณอาฆาต บราฮัมรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก


‘นรกในอดีตแตกต่างจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมากแค่ไหน?’


กล่าวกันว่าเมื่อสิ่งมีชีวิตตายไป ดวงวิญญาณจะไปสวรรค์หรือไม่ก็ลงนรก


ผู้ที่สั่งสมความดีจะได้ไปสวรรค์ และผู้ที่สั่งสมบาปจะได้ไปนรก


อย่างไรก็ตาม วิญญาณอาฆาตกำลังตะโกนอย่างชัดเจน:


พวกมันไม่เคยทำบาป


พวกมันสาปแช่งโลกและตั้งคำถามว่าเหตุใดตนถึงต้องพบเจออะไรเช่นนี้


‘บ้าน่า…’


ใบหน้าที่ขาวซีดของบราฮัมยับย่นราวกับกระดาษถูกขยำ


ความคิดที่น่าสะพรึงแล่นเข้ามาในหัวพร้อมกับทำให้ตัวสั่น


บุตรชายคนเก่งของเบริอาเช่ผู้ยิ่งใหญ่ อัครสาวกของเทพโอเวอร์เกียร์ และจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ มันกำลังตกตะลึง


นั่นเพราะมันกำลังวิเคราะห์หลักการเบื้องหลังการถือกำเนิดของเทวทูต


เทวทูตคือ ‘ผู้ที่ได้พิสูจน์ความสามารถเมื่อครั้งยังมีชีวิต’ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เทวทูตเกิดจากดวงวิญญาณมนุษย์ที่ถูกคัดเลือกเพียงจำนวนน้อย


พฤติกรรมของอัครเทวทูตลำดับหนึ่ง และคำพูดของมีร์แห่งตะวันออก ช่วยยืนยันในเรื่องนี้


มีเพียงเทวทูตเท่านั้นที่ได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์


เช่นนั้นแล้ว ดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ได้เป็นเทวทูตล่ะ?


สิ่งมีชีวิตที่ตายไป รวมถึงเหล่าทหารเมื่อครู่ จะถูกส่งไปยังที่ใดหลังความตาย?


ถ้าทุกคนต้องลงนรกล่ะ


‘นรกก็ไม่ควรมีสภาพแบบในปัจจุบัน’


นี่คือเหตุผลที่ทำให้มันคาดเดาได้ว่า นรกในอดีตน่าจะมีความแตกต่างจากปัจจุบันพอสมควร


มีโอกาสเป็นไปได้มากว่านรกจะเป็นเพียงสถานที่พักพิงดวงวิญญาณคนตาย ไม่ใช่ลงโทษ


แม่น้ำแห่งการคืนชีพที่ไหลผ่านนรกช่วยสนับสนุนแนวคิดนี้


มันคือระบบที่ช่วยให้คนตายไปสบาย


ทว่า บาเอลบิดเบือนนรก


แม่น้ำแห่งการคืนชีพถูกยึดครองโดยอสูร ไม่ใช่อภิสิทธิ์ของคนตายอีกต่อไป


และมารดาของมันก็ถูกขับออกจากนรก เพราะเธอพยายามทำให้นรกกลับไปเป็นเหมือนเก่า


บราฮัมเริ่มสูญเสียความเยือกเย็นเมื่อยิ่งขบคิดลงไปลึก


เมื่อคำนึงถึงความรู้สึกของวิญญาณอาฆาตและจุดยืนที่แน่วแน่ของมารดา ความโกรธและความกลัวได้ปะทุขึ้นไม่รู้จบ


“แค่ก!”


กระแสมานาไหลน้อยกลับเนื่องจากความปั่นป่วน


ความเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกขาดทำให้ร่างกายบราฮัมสั่นกระตุก


ฟ้าว!


มานาที่กระจัดกระจายออกไปทำให้เวทบินถูกยกเลิก


ร่างบราฮัมดิ่งลงไปยังเบื้องล่างด้วยความเร็วแสงประหนึ่งหุ่นกระบอกถูกตัดเชือก


ด้วยสีหน้าเหม่อลอย บราฮัมเริ่มจินตนาการฉากที่ร่างของตนตกกระแทกพื้นห้วงนรกจนสมองกระจัดกระจาย


ตัวมันปราศจากแรงจูงใจโดยสิ้นเชิง


ยาธาน ผู้สร้างนรก


บางที ด้วย ‘ตราบาป’ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเทพมาร มันจึงเพิกเฉยต่อความเป็นไปของโลก


เป็นไปได้ไหมว่า ยาธานจนปัญญาที่จะยับยั้งการป้ายสีจากรีเบคก้า?


หากแม้แต่เทพสัมบูรณ์อย่างยาธานก็ยังต้องยอมจำนน แล้วมนุษย์อย่างเราจะมีความหวังจริงหรือ?


‘นั่นสินะ แม้แต่ท่านแม่ก็ยังล้มเหลว’


อนาคตของโลกมีเพียงความสิ้นหวัง


สักวันทุกคนจะต้องตาย ตกนรก และเอาแต่สาปแช่งด้วยความเคียดแค้นอย่างไร้ความหมาย


“…”


ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ


บราฮัมซึ่งดำดิ่งลงไปในห้วงนรกไร้ก้นบึ้งอย่างเงียบงัน ทันใดนั้นก็สัมผัสถึงการจ้องมอง


ดวงตาคู่หนึ่งลอยอยู่กลางห้วงนรกใต้ฝ่าเท้า


ดูคล้ายกับกลุ่มดาวเคราะห์ที่ล่องลอยตามลำพังในอวกาศ


ดวงตาดังกล่าวใหญ่พอที่จะทำให้คิดเช่นนั้น


“ “เจ็บปวด…” ”


เสียงกังวานดังสะท้อนนับพันนับหมื่นหน


เหตุผลที่ดวงตาดังกล่าวมีสีแดง บราฮัมเพิ่งตระหนักได้


เทพอสูร สตริโอ้


กลุ่มก้อนความเคียดแค้นและความปรารถนาอย่างแรงกล้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกิดจากวิญญาณอาฆาต ก่อนตัวเป็นสตริโอ้ผู้กำลังคร่ำครวญและน้ำตาเป็นสายเลือด


“ “อา…” ”


ดาวเคราะห์สีแดงหายไป


เทพอสูรหลับตาลง และทันใดนั้น หลุมดำได้ปรากฏขึ้นท่ามกลาง ‘จักรวาล’


เป็นปากที่มีขนาดมหึมา


ปากของเทพอสูรที่จะกลืนกินบราฮัมในอีกไม่ช้า


“…”


บราฮัมมิได้ขัดขืน


มันสูญเสียแรงจูงใจไปหมดแล้ว และทำเพียงรอให้การดำดิ่งของตนหยุดลงเนื่องจากถูกกลืนกิน


อนาคตที่ต้องเกิดในสักวัน ก็แค่เร่งให้มันเกิดเร็วขึ้นกว่าปรกติ…


คิดแบบนี้แล้วสบายใจ


ทันใดนั้นเอง


‘นายจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย ฉันเชื่อแบบนั้น’


เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น


ไม่สิ นั่นคือความคิด ไม่ใช่เสียง


ศรัทธาและความปรารถนาของกริดถูกถ่ายทอดเข้ามาในความคิดบราฮัมอย่างแจ่มชัด


เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบบสายสัมพันธ์


“…คึคึก”


เสียงหัวเราะเล็ดลอดออกจากริมฝีปากที่ปิดสนิทของบราฮัม


ดวงตาสีแดงสว่างวาบ ร่างที่ดำดิ่งหยุดนิ่งกลางอากาศ


มานากระจัดกระจายแล้วอย่างไร มันใช้เวทมนตร์จากเลือดได้


เวทโลหิต


พลังโดยกำเนิดของบราฮัม


พลังที่ไม่คิดว่าจะได้คืนอีกแล้ว


แต่สุดท้ายก็ได้คืน และเป็นแมรีโรสที่มอบให้ด้วยตัวเอง


นี่คือหนึ่งในปาฏิหาริย์ที่กริดสร้าง


บราฮัมหวนนึกถึงการเดินทางทั้งหมดที่เกิดขึ้นร่วมกับกริด


คืนชีพ


หลังจากเร่ร่อนในสภาพวิญญาณเป็นเวลานาน ในที่สุดมันก็ได้ร่างเนื้อกลับคืน


เหนือมนุษย์


เวทมนตร์ที่เคยอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษย์ ถูกพัฒนาให้ยอดเยี่ยมขึ้นอีกขั้น


เกิดใหม่


มันได้รับเลือดและพลังที่สูญหายไปกลับคืน


แม้จะเป็นการเดินทางที่ไม่นาน แต่มันกลับได้เผชิญปาฏิหาริย์มากมาย


ความเป็นไปไม่ได้?


คำคำนั้นไม่มีในตำราของมันและกริด


บราฮัมใคร่ครวญชะตากรรมของตนอีกครั้ง


ชะตากรรมที่ต้องตาย ตกนรก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเทพอสูร


ชะตากรรมที่ต้องตาย และกลายเป็นเทวทูต หุ่นเชิดของรีเบคก้า


จนกระทั่งเมื่อครู่ ทางเลือกในชีวิตมันมีเพียงสอง แต่สำหรับวินาทีนี้ เส้นทางใหม่ถูกเปิดออก


ฉากที่บาเอลและรีเบคก้าเผชิญความพ่ายแพ้ปรากฎขึ้นในความคิดอย่างเลือนราง


เป็นฉากที่แตกต่างจากชะตากรรมสองทางแรกโดยสิ้นเชิง


“ข้ามั่นใจ”


ขณะเปิดปาก ละอองมานารอบกายบราฮัมแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง


ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากการแทนที่แก่นมานาซึ่งชำรุดด้วยเลือด เป็นเลือดสีสด


สดจนทำให้ความมืดมิดรอบตัวสว่างขึ้นมาชั่วขณะ


ร่างกายขนาดมหึมาที่น่าเกรงขามของเทพอสูรสตริโอ้ กำลังสะท้อนบนกระจกตาบราฮัมอย่างชัดเจน


“ความเจ็บปวดของเจ้าจะไม่คงอยู่ตลอดไป”


นี่คือคำประกาศกร้าว มิใช่การปลอบประโลม เสียงของบราฮัมเย็นชา คล้ายเป็นการบอกเล่าข้อเท็จจริงมากกว่ากำลังเห็นใจ


แต่ถึงอย่างนั้น


“ “อา… อา… อา…” ”


วิญญาณอาฆาตมากมายที่ประกอบกันเป็นร่างสตริโอ้ได้รับการปลอบประโลม


ปากขนาดใหญ่ที่อ้าขึ้นเพื่อระบายมวลความแค้นถูกปิดสนิท จากนั้น เทพอสูรค่อยๆ ถอยออกไปจากห้วงนรก


[อัครสาวกแห่งเทพโอเวอร์เกียร์ ‘บราฮัม’ สามารถป้องกันการรุกรานของเทพอสูร]


[สัตว์อสูรจากขุมนรกที่กำลังอาละวาดเนื่องจากได้รับอิทธิพลของเทพอสูร เริ่มสูญเสียความฮึกเหิมและอ่อนแอลง]


[การรุกรานจากกองทัพอสูรเข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง]


***


จำนวนค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการอัปเลเวล จะเพิ่มขึ้นตามระดับเลเวล


ยิ่งมีเลเวลมาก ความเร็วในการเติบโตก็ยิ่งช้าลง


แต่กับคริสแล้วตรงกันข้าม ยิ่งเลเวลมากขึ้น มันก็ยิ่งอัปเลเวลเร็วขึ้น


เป็นผลสืบเนื่องจากการที่มีเลเวลใกล้เคียงมอนสเตอร์มากขึ้น


‘ค่าประสบการณ์เคยที่หายไปจากส่วนต่างเลเวล ตอนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนขยับเข้าใกล้ค่ามาตรฐาน’


คริสที่ก้าวผ่านเลเวลเก้าสิบไตร่ตรองภายในใจ


‘ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป เลเวลของเราจะเพิ่มถึงสองร้อยในไม่ช้า’


เมื่อพิจารณาจากเลเวลของสัตว์อสูร ผู้เล่นต้องมีเลเวลอย่างน้อยสามร้อยจึงจะได้รับค่าประสบการณ์เต็มส่วน


ทว่า หลังจากเลเวลสองร้อยเป็นต้นไป ค่าประสบการณ์ที่ต้องการต่อเลเวลนั้นเพิ่มขึ้นมาก


น่าเสียดายที่เลเวลจะอัปช้าลงนับตั้งแต่ตอนนั้น


แน่นอน นั่นคือกรณีที่นำมาเทียบกับปัจจุบัน


คริสค่อนข้างประหลาดใจเมื่อพบว่า ตนน่าจะกลับเข้าสู่อันดับท็อปแรงเกอร์ได้ภายในเวลาอันสั้น


หนึ่งในเหตุผลก็คือ ความสามารถของคลาสใหม่ช่างน่าทึ่ง


คลาสเลเจนดารี


ในฐานะคลาสลับเกรดสูงสุด ย่อมต้องมีวิธีการพิเศษในการเพิ่มค่าสถานะเสริม


นอกจากนั้น ตัวทักษะก็ยังทรงพลังมาก


ทักษะยังเปิดใช้งานเพียงไม่กี่ชนิดเนื่องจากยังมีเลเวลต่ำ แต่ทั้งหมดเป็นทักษะที่มีประโยชน์ แถมยังมี ‘ตัวคูณความแรง’ ที่สูงมาก


คริสกำลังให้ความสนใจกับทักษะติดตัวเป็นพิเศษ


อันดับแรก <เทคนิคการใช้อาวุธของซีดาน>


ทักษะนี้เข้ากันได้ดีกับทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธทุกชนิด’


ไม่ว่าจะสวมใส่อาวุธประเภทใด แต่พลังโจมตี ความเร็วโจมตี และความแม่นยำจะเพิ่มขึ้นมหาศาล


ไม่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า ทักษะนี้เกิดมาเพื่อคริส เพราะประสิทธิภาพจะถูกดึงออกมาได้มากที่สุดเมื่อสวมดาบใหญ่


แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดทั้งหมดคือทักษะติดตัว <ห้าก้าว>


ทักษะที่จะทำให้การโจมตีถัดไปแรงขึ้นสองเท่าเมื่อก้าวครบห้าครั้ง


คุณสมบัตินี้จะส่งผลกับทั้งการโจมตีธรรมดาและทักษะ อีกทั้งยังไม่มีระยะหน่วง


และจะแสดงผลโดยไม่คำนึงถึงทิศทางที่ก้าวไป ไม่เว้นแม้แต่การก้าวถอยหลังหรืออยู่กับที่


เมื่อพิจารณาว่านี่คือผลลัพธ์จากทักษะเลเวลหนึ่ง หมายความว่าศักยภาพของมันย่อมสูงลิบ


เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้สืบทอดซีดาน


‘กุญแจสำคัญคือการใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด’


อย่างไรก็ดี ต้องก้าวให้ยาวถึงระดับหนึ่งจึงจะถูกนับ


นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่จะเกิดขึ้นระหว่างต่อสู้ ระบบจะสุ่มสร้างแสงรูปทรงรอยเท้าขึ้นมาบนพื้นในรัศมีสิบเมตรรอบตัว


หากเหยียบรอยเท้าเหล่านี้ครบห้าครั้งติดต่อกัน ความเสียหายที่เกิดจากผล <ห้าก้าว> จะกลายเป็นความเสียหายจริง


หมายความว่า การโจมตีดังกล่าวจะมองข้ามปัจจัยที่ช่วยลดความเสียหายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพลังป้องกัน ค่าต้านทาน การลดความเสียหายแบบเปอร์เซ็นต์ หรือปัจจัยอื่นๆ


อย่างไรก็ดี การบรรลุเงื่อนไขดังกล่าวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก


ตำแหน่งรอยเท้าที่ระบบสุ่มขึ้นมานั้นค่อนข้างแย่ มีหลายครั้งที่ต้องเหยียดขาจนสุด จนอดคิดไม่ได้ว่านี่อาจเป็นการกลั่นแกล้งกัน


‘แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องฝึกให้ชำนาญ’


ในท้ายที่สุด คริสต้องเล็งเหยียบรอยเท้าตามที่ระบบแนะนำ


นี่คือวิธีเดียวที่จะดึงศักยภาพของคลาสออกมาจนถึงขีดสุด


คลาสในตำนานที่กริดอุตส่าห์มอบให้กับมือ


พิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คริสเริ่มตระหนักว่ากริดคาดหวังในตัวมันมากเพียงใด และเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องตอบสนองให้ได้


ฉัวะ!


คริสเดินตามแสงรอยเท้า มันอาศัยพลังทรราชในการก้าวข้ามขีดจำกัดของอวัยวะเพื่อสร้างความเสียหายจริง ส่งผลให้ศีรษะของสัตว์อสูรปลิวกระเด็นในการฟันครั้งเดียว


ดวงวิญญาณของซีดานเฝ้ามองทุกสิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ


[ซีดานรู้สึกใจหาย เขางุนงงและไม่เข้าใจว่า เหตุใดผู้สืบทอดของตนถึงพยายามจำลองจุดจบของตน เขาต้องการหยุดพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายของอีกฝ่าย]


“…”


กริดที่ยังไม่ทราบความชัดเจน ตัดสินใจไม่เข้าร่วมบทสนทนา


แค่ได้เห็นคริสเติบโตอย่างรวดเร็วก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว


‘ถึงตรงนี้ คริสอาจเริ่มรู้สึกผิด’


กริดได้แต่นึกสงสัยว่า คริสจะผิดหวังหรือถ้าได้เห็นจำนวนเงินเพียงแสนล้านวอนบนใบเรียกเก็บเงิน?


ขึ้นราคาอีกสักนิดเพื่อให้พวกพ้องรู้สึกผิดน้อยลงดีไหม?


ขณะกริดกำลังเคร่งเครียด ข้อความโลกปรากฎ


[อัครสาวกแห่งเทพโอเวอร์เกียร์ ‘บราฮัม’ สามารถป้องกันการรุกรานของเทพอสูร]


[สัตว์อสูรจากขุมนรกที่กำลังอาละวาดเนื่องจากได้รับอิทธิพลของเทพอสูร เริ่มสูญเสียความฮึกเหิมและอ่อนแอลง]


[การรุกรานจากกองทัพอสูรเข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง]


“อะ…”


ขณะทุกคนกำลังโห่ร้องยินดี คริสถอนหายใจผิดหวัง


ในบางครั้งก็เป็นปัญหาเช่นกัน เมื่อมีพวกพ้องเก่งกาจจนเกินพอดี


______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00