จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,547



หลังจากเก็บกวาดสัตว์อสูรที่หลงเหลือ


กริดพยายามสงบสติอารมณ์คริสที่พยายามกระโดดลงไปในขุมนรก


“ทำไมถึงอยากลงไปเก็บเลเวลในขุมนรก? ลืมไปแล้วหรือว่านายยังไม่เลเวลร้อย? จุดเก็บเลเวลที่เหมาะสมกับนายมีอยู่เต็มไปหมด”


“…”


คริสฝืนข่มสติ


มันขจัดความรู้สึกในช่วงก่อนเลเวลถูกรีเซตออกไป จากนั้นก็พบว่าตนมีทางเลือกมากมาย


แต่มีหนึ่งสิ่งที่มันยังกังวล


“ฉันไม่รู้ว่าการโหมบุกอย่างกะทันหันของสัตว์อสูรจะเริ่มอีกตอนไหน… กลัวว่าถ้าไม่รีบ อาจเตรียมตัวรับมือกับระลอกหน้าไม่ทัน”


สมรภูมิห้วงนรกเป็นฐานทัพที่สำคัญที่สุดของฝ่ายมนุษย์ คงเป็นการดีกว่าถ้าจะเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา


‘แต่เลเวลแบบนายคงช่วยได้ไม่มากนัก’


นั่นคือสิ่งที่กริดคิด


ตอนแรกมันไม่ได้คิดอะไรมาก แต่จากนั้นก็เริ่มนึกขึ้นได้


ถึงความจริงที่ว่า ตนคือผู้รีเซตเลเวลคริส ต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของอีกฝ่ายเผื่อไว้ด้วย


ตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริง กริดกล่าวรักษาน้ำใจ


“การขาดหายไปของนายถือเป็นความเสียหายใหญ่หลวง แต่ไม่ต้องกังวลมากนัก เชื่อใจพวกพ้องที่เหลือเถอะ”


“…อา ฉันคงต้องถอนตัวสักพัก”


“พยายามเร่งเลเวลให้เร็วที่สุด ฉันจะกลับมาหานายอีกครั้งพร้อมกับของขวัญ”


กริดเฝ้าดูการต่อสู้ของคริสอย่างใกล้ชิด


หลังจากทำความเข้าเอกลักษณ์ของผู้สืบทอดซีดานอย่างถ่องแท้ ชายหนุ่มตัดสินใจได้ว่าต้องสร้างไอเท็มชิ้นใดให้คริส


และเตรียมทำเซอร์ไพรส์


กริดคิดจะมอบดาบใหญ่เล่มใหม่ที่บรรจุดวงวิญญาณซีดานให้คริส


ชายหนุ่มเก็บเกี่ยวทุกสิ่งมาจากซีดานเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะประเด็นหลักอย่างข้อมูลของเกรเนียร์


ในอนาคต กริดหวังให้ซีดานคอยอยู่เคียงข้างคริสและคอยเพื่อพัฒนาฝีมืออีกฝ่าย


เมื่อตัดสินใจได้ ชายหนุ่มแอบตัดพ้อ:


คงจะดีไม่น้อยถ้าดวงวิญญาณของแพ็กม่าคอยอยู่เคียงข้างเราและมอบคำแนะนำ…


‘…ไม่สิ ดีแล้วที่ไม่มีแพ็กม่าคอยช่วย’


หากแพ็กม่าคอยอยู่เคียงข้างเรา…


มีโอกาสเป็นไปได้มากที่จะเกิดปัญหาเชิงความสัมพันธ์กับใครหลายคน


ยกตัวอย่างเช่น กริดจะเป็นศัตรูกับบราฮัมไปตลอดกาล


“ของขวัญ…? นายมอบหนังสือเปลี่ยนคลาสเลเจนดารีให้ฉันแล้ว ยังจะมีอะไรให้เพิ่มอีกหรือ?”


“ไม่ต้องรู้สึกติดค้าง หนังสือเปลี่ยนคลาสไม่ใช่ของขวัญ ฉันจะคิดเงินนาย”


“…!”


“สักร้อยยี่สิบล้านดอลลาร์เป็นไง? ด้วยราคานี้ พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องติดค้างต่อกัน”


ราคาที่กริดเสนอมีมูลค่าเทียบเท่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านวอน


อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา คริสใช้เงินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะจ้างกริดสร้างไอเท็มหรือซื้อโอสถดื่ม


เงินก้อนที่กริดเสนอจึงฟังดูมหาศาลในสายตาคริส ผู้ลงทุนไปกับการเติบโตของตัวเองจนแทบไม่เหลือเงินเก็บ


“เดี๋ยวฉันจะส่งเลขบัญชีให้ทางเมลล์”


“…ขอคืนได้ไหม?”


“ฮะฮะ!”


คริสคงอารมณ์ดีสุดๆ ถึงเล่นมุกตลกที่ขำขนาดนี้…


กริดยิ้มด้วยความคิดดังกล่าว แต่จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าดำมืด


มันตระหนักว่าคริสไม่ได้เล่นมุก


‘เป็นพวกสายเปย์สินะ’


เป็นที่ทราบกันดี ไฮแรงเกอร์นั้นมีรายได้หลักหมื่นล้านต่อปี


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะไฮแรงเกอร์ซาทิสฟายได้รับความนิยมมากกว่านักกีฬาตัวท็อปและดาราฮอลลีวูด


และนักกีฬาตัวท็อปรับค่าเหนื่อยอยู่ที่หลักหมื่นล้านต่อปี


แต่ไฮแรงเกอร์สามารถทำเงินจำนวนเดียวกันได้จากการถ่ายรายการและโฆษณา แถมนี่ยังเป็นแค่รายได้เสริม


รายได้หลักที่แท้จริงของไฮแรงเกอร์มาจากซาทิสฟาย


ไม่เพียงเท่านั้น คริสยังเป็นเจ้าเมืองเรย์ดัน


มันคือผู้ปกครองสูงสุดของเมืองหลวงรองแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มานานหลายปี อีกทั้งยังมีดินแดนในครอบครองก่อนจะเข้าร่วมกับโอเวอร์เกียร์ด้วยซ้ำ


ลำพังภาษีอย่างเดียวก็รวยล้นฟ้า


แต่กลับไม่มีเก็บ


คริสไม่ได้โกหก


สายตาที่พัฒนาขึ้นของกริดแจ้งว่า สถานะทางการเงินของคริสเป็นเช่นนั้นจริง


‘นายเอาเงินไปเททิ้งหรือไง’


ชายหนุ่มลองจินตนาการภาพคริสกำลังควงสาวสวยกลุ่มหนึ่งจัดปาร์ตี้ยาริมสระน้ำ


ภาพดังกล่าวชัดเจนราวกับกริดกำลังเห็นมันตรงหน้า


กริดผู้ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำอย่างอื่นนอกจากเข้าร่วมงานแข่งนานาชาติ


มันมักมีจินตนาการประหลาดๆ เกี่ยวกับชาวต่างชาติที่ร่ำรวย


เป็นเรื่องง่ายที่จะใส่อคติ ‘สำส่อนและบ้ากาม’ ลงบนตัวชาวต่างชาติทุกคน


“อา… เอาเป็นว่า ทำเป็นไม่ได้ยินที่ฉันพูดก็แล้วกัน นายกำหนดราคามาเลย”


อันที่จริง กริดไม่ต้องการรับเงินแม้แต่วอนเดียว


แต่นั่นอาจทำให้คริสรู้สึกระคายเคืองศักดิ์ศรี


ใช่แล้ว


กริดกำลังทำเพื่อคริส


มันยินยอมให้คริสจ่ายในราคาที่จ่ายพอไหว เพื่อปกป้องความภาคภูมิใจของตัวเองและวงศ์ตระกูล


นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิด


แม้จะบอกให้กำหนดราคาเอง แต่กริดก็หลุดพูดตัวเลขหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านวอนออกมาก่อนแล้ว


คนอย่างคริสย่อมไม่มีทางเสนอราคาต่ำกว่านั้น นี่ต่างหากที่เสียศักดิ์ศรี


“จะรีบหามาจ่ายให้… ฉันจะ… เปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงิน”


คริสพยายามมองในแง่บวก


คลาสเกรดเลเจนดารี


เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในช่วงหลัง ราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นวอนนับว่าถูกมาก


ใช่แล้ว เราโชคดี…


มันรู้สึกขอบคุณไมตรีที่กริดหยิบยื่นให้ตน


ขณะคริสพยายามย้ำเตือนตัวเอง ถ้อยคำ ‘หนึ่งแสนห้าหมื่นล้านวอน’ ลอยวนเวียนจนเต็มห้วงความคิด


***


กริดเดินจากคริสมา เข้ามาในค่ายทหารเพื่อพบกับบราฮัม


“มาได้เวลาพอดี”


ขณะทักทายกริด บราฮัมกำลังนั่งพิงขอบโต๊ะตัวใหญ่


มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์ แสร้งทำเป็นผ่อนคลาย


แต่แผนที่และเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะ คือเครื่องบ่งชี้ว่าภาระหน้าที่ของบราฮัมในยามปรกตินั้นชุกชุมเพียงใด


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกเวทมนตร์ที่ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ


คำกล่าวที่ว่า จอมเวทนั้นใกล้เคียงกับนักวิชาการ ดูไม่เกินจริงเลยสักนิด


บราฮัมบันทึกทุกรายละเอียดของเวทมนตร์ที่ตนใช้ระหว่างสงคราม


เวทมนตร์ชนิดเดิมจะแสดงผลอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง?


มันบันทึก เรียบเรียง และศึกษาทีละรายการ


หมายความว่า สมญานามจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ มิได้เกิดขึ้นเพราะพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว


นอกจากนั้น ภายในห้องยังมีกลิ่นเลือด


เสื้อที่ถูกขยำไว้ตรงมุมห้อง ถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน


“ชิ”


บราฮัมขมวดคิ้ว ดีดนิ้ว และเผาเสื้อตัวดังกล่าว


“เป็นเพราะข้าใช้เวทโลหิต”


คำอธิบายจบลงแค่ตรงนี้


มันไม่ได้เล่าว่าแก่นมานาของตนได้รับความเสียหายและต้องเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่


เพราะในท้ายที่สุด ร่างกายของมันจะถูกฟื้นฟูด้วยพลังแวมไพร์ทายาท ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้กริดกังวล


ใบหน้ากริดสั่นระริกเล็กน้อย มันนั่งลงและจ้องหน้าบราฮัม


ชายหนุ่มสั่งให้หัตถ์เทวะบินมารองก้นประหนึ่งเก้าอี้ มันทั้งสบายและกระอักกระอ่วนในเวลาเดียวกัน เพราะต้องไม่ลืมว่า ต้นแบบของหัตถ์เทวะคือมือของกริดเอง


ทำไมในห้องถึงมีเก้าอี้แค่ตัวเดียว?


“ฆ่าเทพอสูรไปแล้วหรือ?”


เทพอสูร สตริโอ้


ในทางทฤษฎี มันอ่อนแอกว่าจอมอสูรหลักเดียว แต่ก็ไม่ควรประมาทร่างกายที่ใหญ่มหึมานั่น


เพียงนิ้วเดียวก็ยาวกว่าสิบเมตรแล้ว ไม่มีใครจินตนาการได้ว่าขนาดจริงของมันจะมโหฬารสักเพียงใด


ถึงขั้นที่ลำพังขนาดตัวก็สามารถเป็นอาวุธได้แล้ว


สตริโอ้สามารถปิดฟ้าได้ด้วยมือข้างเดียว และการพ่นลมหายใจหนึ่งครั้งสามารถสร้างพายุ


‘ตัวตนที่เกิดมาเพื่อสังหารหมู่ นอกจากนั้น มีโอกาสที่อาวุธทั่วๆ ไปจะสร้างความเสียหายต่อสตริโอ้ไม่ได้’


ค่าพลังชีวิตและพลังป้องกันของมันสอดคล้องกับขนาดตัว อีกทั้งยังมีบารมีเทพที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ


ยังไม่ต้องนับฝีมือเชิงต่อสู้ เพียงข้อมูลพื้นฐานก็มากพอจะทำให้กริดไม่อยากเป็นศัตรูกับมัน


“ไม่… ตัวตนดังกล่าวไม่มีทางถูกฆ่า”


“คงเจ๋งเหมือนขนาดตัวสินะ”


“พูดเรื่องขนาดตัวไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้านั่นเป็นมวลที่ก่อตัวจากวิญญาณอาฆาต… เพราะใกล้เคียงนามธรรม มันถึงได้เป็นเทพ”


บราฮัมเริ่มสาธยาย


ชื่อแรกที่ปรากฏคือเบริอาเช่


บราฮัมเสริมแนวคิดของตัวเองเกี่ยวกับนรกดั้งเดิม


กริดไม่แสดงความประหลาดใจมากนัก


เขตเป็นกลางของนรกนั้นมีความคล้ายคลึงโลกกึ่งกลาง


เทวรูปของเทพยาธานคอยป้องกันการใช้กำลัง


แม่น้ำแห่งการคืนชีพที่ปกครองโดยจอมอสูร


เหล่าทวยเทพที่ร่วมมือกับนรกได้อย่างไม่เคอะเขิน


โทสะและความเคียดแค้นที่เลอราเฆ่มีต่อบาเอล


ข้อความระบบที่บอกเป็นนัยว่าบาเอลเคยบิดเบือนนรก เป็นต้น


มีสาเหตุมากมายให้ชวนสงสัย


“ฉันเริ่มคาใจตั้งแต่รู้ว่าเทวรูปยาธานเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพในนรก ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมถึงต้องใช้เทพมารเป็นสัญลักษณ์”


ยาธานชั่วร้ายจริงหรือ?


เมื่อตั้งคำถามกับตัวเอง กริดพบว่าตนนึกความชั่วร้ายของยาธานไม่ออก


แต่แน่นอน มันไม่ได้โต้แย้งว่ายาธานไม่ใช่เทพมาร


ยาธานคือผู้สร้างนรกและอสูร


ยาธานคือแหล่งกำเนิดความชั่วทั้งหมดบนโลก การเรียกขานว่าเทพมารนั้นถูกต้องแล้ว


แต่ในวินาทีนี้ แนวคิดดังกล่าวเริ่มพลิกกลับด้าน


เพราะตามข้อสันนิษฐานของบราฮัม มีโอกาสสูงที่นรกจะเป็น ‘แหล่งพักพิงดวงวิญญาณคนตาย’


ไม่อย่างนั้นคงยากที่จะอธิบายว่า เหตุใดแม่น้ำแห่งการคืนชีพถึงไหลผ่านนรก


แม่น้ำแห่งการคืนชีพคือระบบที่จะมอบชีวิตใหม่ให้กับคนตาย เป็นการเอาใจใส่คนตาย


ถ้านรกคือดินแดนแห่งความชั่วช้าจริง พวกมันจะเอาใจใส่คนตายไปทำไม?


สามารถตีความได้ว่า นรกคือโลกที่ยาธานสร้างขึ้นด้วยเจตนาดี ไม่ใช่ความชั่วร้าย


พิจารณาจากจุดนี้ กริดเริ่มเรียกยาธานว่าเทพมารได้ไม่เต็มปาก


ในสายตามนุษย์ เทพสวรรค์เลวร้ายยิ่งกว่าเทพมารเสียอีก


“ตามความคิดของฉัน ยาธานเคยทำบาปเพียงหนึ่งเรื่อง”


เปรี้ยะ


แก้วไวน์ในมือบราฮัมปรากฏรอยปริแตกจำนวนมาก


“เจ้านั่นสร้างบาเอล”


บราฮัมยังไม่ลืมว่า เหตุใดมารดาของตนถึงให้กำเนิดแมรีโรส


เบริอาเช่อยากให้แมรีโรสสานต่อในสิ่งที่เธอทำไม่สำเร็จ


จึงสร้างสิ่งมีชีวิตที่ก้าวข้ามตัวเองขึ้นมา


บางทียาธานก็เช่นกัน


เหตุผลที่มันมอบพลังและอำนาจอันยิ่งใหญ่ให้บาเอล อาจเป็นเพราะมันปรารถนาให้บาเอลร่วมมือกับเหล่าพี่น้อง เพื่อช่วยปกป้องชะตากรรมของตัวยาธานเอง


ยกตัวอย่างเช่น ยาธานต้องการหลีกหนีจากชะตากรรมที่เป็นผู้ทำลายโลกเมื่อครบกำหนด


“มารดาของข้าทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว… ทายาทไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเสมอไป เฟนเรียร์และแมรีโรสเติมเต็มความหวังของมารดาไม่สำเร็จ รวมถึงฉันที่ทำร้ายจิตใจผู้เป็นมารดา… ยาธานกับบาเอลก็คงไม่ต่างกัน”


อดีตของบราฮัมสมัยยังเป็นแวมไพร์ทายาทนั้นค่อนข้างน่าละอาย


แต่มันก็เล่าออกมาโดยไม่เคอะเขิน


มันใช้ตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างยาธานและบาเอล


และนั่นทำให้ ‘ข้อความ’ ถูกสื่อไปถึงกริดอย่างชัดเจน


“ฉันอยากทำให้นรกกลับไปอยู่ในสภาพเดิม นั่นคือความปรารถนาสูงสุดของท่านแม่”


บราฮัมสัมผัสถึงความรู้สึกของมารดา


เหตุใดเธอถึงต้องปิดบังความจริงโดยการบิดเบือนความทรงจำของทายาท?


คงเพราะเบริอาเช่ไม่ต้องการให้ทายาทของตนเสี่ยงอันตราย


ความปรารถนาที่มารดาพยายามปิดบัง บราฮัมไม่มีทางเลือกนอกจากทำให้มันเกิดขึ้นจริง


โลกที่บิดเบี้ยว มันต้องแก้ไขด้วยมือตัวเอง นั่นคือสิ่งที่บราฮัมคิด


“กริด แล้วนายล่ะ?”


[<เวิร์ลเควสต์> ถูกสร้างขึ้น]


[เวิร์ลเควสต์มีอิทธิพลมากพอที่จะพลิกมุมมองเกี่ยวกับโลกใบนี้ จงพึงระวังให้ดี]


<เวิร์ลเควสต์>

★ บทนรก

จากข้อมูลที่ท่านรวบรวมมาได้ ผนวกกับการตีความของบราฮัม ท่านประสบความสำเร็จในการเปิดเผยความจริงของนรก

พยายามแก้ไขความบิดเบี้ยวภายในนรก

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ:

1. เผยแพร่ความจริง

เปิดเผยความจริงของนรกให้โลกรับรู้

เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างน้อย 30% ต้องเชื่อคำพูดของท่าน

ท่านต้องเกลี้ยกล่อม ‘นักล่าอสูร’ ให้ได้

เมื่อบรรลุเงื่อนไข ความคืบหน้าของเวิร์ลเควสต์จะเพิ่มเป็น 20%

2. ปลดแอกแม่น้ำแห่งการคืนชีพ

เดิมที แม่น้ำแห่งการคืนชีพคืออภิสิทธิ์ของคนตาย

จงปลดแอกแม่น้ำแห่งการคืนชีพโดยการโน้มน้าวหรือกำจัดจอมอสูรเอลิกอส ผู้คอยปกป้องแม่น้ำแห่งการคืนชีพ

เมื่อบรรลุเงื่อนไข ความคืบหน้าของเวิร์ลเควสต์จะเพิ่มเป็น 30%

3. ลงทัณฑ์บาเอล

บาเอลคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความบิดเบี้ยวของนรกในปัจจุบัน จงฟื้นฟูนรกโดยการลงทัณฑ์ต้นตอความชั่วร้ายทั้งปวง

เมื่อบรรลุเงื่อนไข ความคืบหน้าของเวิร์ลเควสต์จะเพิ่มเป็น 50%

4.???

5.???

รางวัลสำเร็จภารกิจ: ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าภารกิจ

เงื่อนไขภารกิจล้มเหลว: เผยแพร่ความจริงไม่สำเร็จ

บทลงโทษในกรณีภารกิจล้มเหลว:

- เลเวลลดลง 200 ระดับ

- ค่าสถานะสูงสุดสองชนิดลดลง 20% ถาวร

- ถูกลงโทษเนื่องจากเผยแพร่ข่าวลือที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น


[ท่านจะรับภารกิจหรือไม่?]


กริดจ้องหน้าบราฮัม


“ความฝันของเบริอาเช่ก็คือความฝันของนาย”


ดวงตาที่ไม่สั่นคลอนของชายหนุ่มปราศจากความลังเลและความกลัว


“ความฝันของนายก็คือความฝันของฉัน”


กริดมีชะตากรรมต้องต่อสู้กับนรกอยู่แล้ว


เพื่ออนาคตของคนสำคัญอย่างไอรีนและลอร์ด เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณของแพ็กม่าที่อยู่กับบาเอล


นอกจากนั้น


บางที ข่านอาจกำลังทุกข์ทรมานจากการเป็นส่วนหนึ่งของเทพมาร


“ฮิวรอย”


“เชิญรับคำสั่ง”


กริดออกจากค่ายทหารและลงมือทันที


มันตีแผ่ความจริงของนรกไปทั่วโลกผ่านปากฮิวรอย


และอธิบายว่า เหตุใดมนุษย์ถึงต้องลุกขึ้นสู้


หากกริดเป็นเพียงแรงเกอร์ทั่วไป


หากกริดเป็นเพียงหัวหน้ากิลด์หรือผู้นำอาณาจักร ชั่วชีวิตนี้คงโน้มน้าวมนุษย์ 30% ไม่สำเร็จ


ไม่ว่าจะตรากตรำเผยแผ่ความจริงของนรกสักเพียงใด แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมเชื่อ?


หรือต่อให้เชื่อ แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมนำชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงกับความคลุมเครือ?


[ความจริงของนรกกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก]


[5% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[10% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[20% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[นักล่าอสูร ‘ยูร่า’ ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้คำพูดของท่าน]


[35% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[ท่านบรรลุเป้าหมาย!]


[50% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมาก! มนุษย์กว่าครึ่งเชื่อใจท่าน!]


[68% ของมนุษย์เชื่อในคำพูดของท่าน]


[มีข่าวลือว่า มนุษย์จากตะวันออกและชนพื้นเมืองในเกรเนียร์เชื่อคำพูดของท่าน]


[…!]


[…!!]


[...!!!]


[เกือบทั้งหมดของมนุษย์เชื่อใจท่าน]


[เทวตำนานของเทพโอเวอร์เกียร์ถูกเขียนเพิ่ม]


[ค่าบารมีเทพเพิ่มขึ้น 20 หน่วย]


[วิเคราะห์ความสำเร็จของท่านเพื่อมอบพลังใหม่สองชนิด]


[...]


[...]


กริดสัมผัสได้


หากตนคือดวงประทีปของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนก็คือเรือที่คอยบรรทุกดวงประทีปนั้น


ดวงประทีปที่จะแล่นไปข้างหน้าด้วยความช่วยเหลือจากเรือ


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00