จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,608
หอแห่งปัญญาดำรงอยู่มานานนับพันปี
เปรียบดังบ้านเพียงหลังเดียวของเหล่าสภา ที่พึ่งสุดท้ายของมวลมนุษย์
เป็นธรรมดาที่จะมีระดับความปลอดภัยสูงสุด
ไม่เพียงจะไม่ถูกตรวจพบด้วยพลังทางกายภาพและเวทมนตร์ แต่ยังรวมไปถึงพลังประเภทอื่นเช่นพลังเทพ
เหล่าสภาหวาดระแวงมังกรเป็นพิเศษ รอบหอคอยจึงกางข่ายเวทมนตร์เอาไว้หลายชั้นเพื่อป้องกันการบุกรุกด้วยวาจามังกร
ต้องไม่ลืมว่า ศัตรูตัวฉกาจของหอคอยมังกร หากมิอาจต่อต้านวาจามังกรหรือเวทมนตร์ พวกมันคงไม่สามารถดำรงตนมาได้นานเพียงนี้
จึงเป็นธรรมดาที่จะตกตะลึง
มีแฮชลิ่งเตร็ดเตร่อยู่ใกล้หอคอย?
แฮชลิ่งตรวจพบหอคอยได้ยังไง?
เหล่าสภาเริ่มตระหนักว่าแฮชลิ่งตัวนี้ไม่ธรรมดา จึงตื่นตัวมากเป็นพิเศษ
ถึงขั้นกังวลว่าอาจเป็นมังกรโบราณจำแลงกายมา
แต่ในความเป็นจริง
“อ…อึ๋ย!”
“…?”
“คร่อกกก…”
“…”
ไม่เพียงจะคลานเหมือนจิ้งจก แต่ยังสลบกลางอากาศในสภาพน้ำลายฟูมปาก
ใบหน้าของเหล่าสภาที่เคยหวาดระแวง ต่างแปรเปลี่ยนเป็นสับสน
แน่นอน พวกมันทราบว่ากริดแอบซุกซ่อนแฮชลิ่ง แต่ก็ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน จึงมิอาจเชื่อมโยงแฮชลิ่งตัวนี้กับเนเฟลิน่า
บีบันสับสนยิ่งกว่าใคร
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าหล่อนไม่ปรกติ แต่นี่เหนือกว่าที่คิดไว้มาก… หล่อนเสียสติโดยสมบูรณ์”
แฮชลิ่งเป็นลมน้ำลายฟูมปาก?
เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากแฮชลิ่งที่เสียสติไปแล้ว
บีบันรู้สึกขนลุกตั้งแต่เห็นเกล็ดคล้ายอัญมณีสีดำนั่น
แฮชลิ่งตรงหน้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของมังกรคลั่ง
แม้จะในยามปรกติจะสมองเพี้ยน แต่การอนุมานของบีบันก็ฟังดูสมเหตุสมผล
“ต้องฆ่าหล่อนทิ้งเดี๋ยวนี้!”
เจสสิก้าใช้ศอกกระทุ้งบีบันที่ชักดาบด้วยสีหน้ามั่นใจ
“แฮชลิ่งตัวนี้มาจากไรน์ฮาร์ท”
“…”
จากบรรดาเหล่าสภา มีเพียงฮายาเตะและเจสสิก้าที่มองออกว่าเธอคือเนเฟลิน่า
เป็นธรรมดาที่ฮายาเตะจะทราบ ส่วนเจสสิก้าเคยสังเกตเห็นความผิดปรกติเมื่อครั้งไปเยือนไรน์ฮาร์ท
จึงนับว่าผิดปรกติอย่างมากที่บีบันซึ่งเคยไปเยือนไรน์ฮาร์ทหลายหน กลับไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
“ความลับที่ไม่เคยบอกข้า…?”
บีบันพึมพำด้วยสีหน้าขื่นขม สายตาที่มองไปทางกริดด้านหลังเจือความเศร้าเต็มเปี่ยม
‘บีบันไม่สังเกตเห็นเนเฟลิน่าเลยสักครั้ง?’
ถึงจะเคยเห็น แต่ก็คงลืมไปแล้ว อาจแถว่าสถานการณ์ในตอนนั้นกำลังอลหม่าน
กริดไม่สนใจว่าบีบันจะเศร้าหรือไม่
ชายหนุ่มคุ้นชินกับความ ‘สมองช้า’ หรือ ‘ขี้ลืม’ ของบีบันไปแล้ว เพียงปฏิบัติราวกับอีกฝ่ายเป็นคนแก่เลอะเลือน
“เนเฟลิน่า”
กริดเดินเข้าไปเขย่าไหล่เนเฟลิน่าด้วยความอ่อนโยน
เด็กที่ควรจะอยู่ในไรน์ฮาร์ท กลับมาโผล่ที่นี่โดยไม่บอกกล่าวและหมดสติไป เป็นธรรมดาที่กริดจะกังวล
ตัดความเป็นไปได้ที่ไรน์ฮาร์ทจะถูกโจมตีออกไป เพราะหากเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันคงมีข้อความจำนวนมากถาโถมเข้าใส่
‘หนีออกจากบ้าน? ถึงวัยต่อต้านแล้วหรือ?’
ยังเด็กอยู่แท้ๆ …
กริดที่กำลังฉงนหนัก เริ่มคาดเดาไปต่างๆ นานา
ถ้าจำไม่ผิด มังกรจะเข้าใจโลกทันทีที่ฟักออกจากไข่…
อาจเป็นไปได้ว่า ช่วงวัยรุ่นของเธอมาเร็วกว่าปรกติ
ในบางกรณี วัยต่อต้านคือปัญหาที่เกิดจากความผิดปรกติทางอารมณ์ ลอเอลคือตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องนี้
“ก…กริด…”
กลิ่นที่เธอโหยหา
ดวงตากลมโตของเนเฟลิน่า ผู้ค่อยๆ ได้สติกลับมาในอ้อมแขนกริด สั่นระริกแผ่วเบา
“เท่าที่ข้าทราบ… มังกรมักไม่แยแสพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์”
“เธอเข้าใจถูกแล้ว”
ย้อนกลับไปในอดีต
กริดรู้สึกหวั่นเกรงเนเฟลิน่าเพราะเคยมีแผลใจกับมังกรมาก่อน จึงคอยปรนนิบัติอีกฝ่ายราวกับเจ้านาย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนแปลง
เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง เกิดจากความชื่นชอบที่เนเฟลิน่ามอบให้กริด
ยิ่งได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เนเฟลิน่าก็ยิ่งประทับใจในตัวกริด
กริดเองก็ห่วงใยเธอมาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงค่อยๆ กลายเป็นพ่อกับลูกสาว และไอรีนคอยเอาใจช่วยในเรื่องนี้
ไอรีนก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน
เนเฟลิน่าชื่นชอบความเมตตาและอบอุ่นของไอรีน
ไอรีนคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เนเฟลิน่าเข้าอกเข้าใจมนุษย์มากขึ้น
ลงเอยด้วย กริดเลิกทำตัวห่างเหินกับเนเฟลิน่า ถึงขั้นสามารถลูบศีรษะอีกฝ่ายได้โดยไม่เคอะเขิน
เนเฟลิน่าที่กำลังใช้ใบหน้าซุกไซร้แผ่นอกกริด กล่าวด้วยความยากลำบาก
“ไม่เป็นไร… ถึงเจ้าจะเป็นพวกป่าเถื่อนที่เข่นฆ่าพี่น้องข้า ปกคลุมร่างกายด้วยเกล็ดและกระดูกพวกเขา แต่ข้าก็จะไม่เกลียดหรือกลัวเจ้า…”
“…”
กริดเริ่มเข้าใจสาเหตุที่เนเฟลิน่าหมดสติ มันปิดปากสนิทด้วยความกระอักกระอ่วน
***
“จะปล่อยเด็กนั่นไว้จริงๆ หรือ”
โต๊ะกลม
นอกจากกริด สภาทุกคนมารวมตัวประชุม
เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรกับแฮชลิ่ง ผู้กำลังเตร็ดเตร่ไปรอบหอคอยพร้อมกับเม็มฟิส
เหล่าสภาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าผู้ต่อกรกับมังกรมานานนับพันปี แฮชลิ่งกำลังเดินทอดน่อง
พวกมันรู้สึกราวกับรากฐานของหอคอยเริ่มสั่นคลอน
ความคิดต่อต้านและสับสน กำลังพรั่งพรูจนเหล่าสภาแทบจะรักษาความสุขุมไว้ไม่อยู่
เจสสิก้ากล่าวอย่างระมัดระวัง
“เนเฟลิน่าคือหนึ่งในอัครสาวกของลำดับสิบ เป็นพวกเดียวกับเราแน่นอน”
พี่น้องฟรอนซาลล์พยักหน้ารับ
“ยิ่งไปกว่านั้น ลำดับสิบได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถสื่อสารกับมังกร ตามความเห็นของเราสองพี่น้อง ไม่มีเหตุผลใดที่หอคอยต้องมองแฮชลิ่งตัวนั้นเป็นศัตรู หากมองไปถึงอนาคต เราควรเปลี่ยนหล่อนให้เป็นพวกพ้อง”
ลำดับแปด อเบลลิโอ้แสดงความกังวล
“มนุษย์ที่เป็นศัตรูกับสวรรค์มักอายุไม่ยืน … ยิ่งไปกว่านั้น ลำดับสิบกำลังวางแผนเผชิญหน้ากับบาเอล พวกท่านในที่นี้คงทราบดี บาเอลนั้นแข็งแกร่งทัดเทียมมังกรโบราณ หากลำดับสิบพ่ายแพ้บาเอลและสูญเสียบารมีเทพ… เกรงว่าเนเฟลิน่าอาจพ้นสภาพอัครสาวก และพวกเราก็จะไม่เหลือวิธีจัดการกับเธออีก”
ลำดับห้า เจอร์นี่เห็นด้วย
“ถูกต้อง สักวันหล่อนจะหักหลังเรา… แค่เพราะไม่มีเหตุผลให้ฆ่าเนเฟลิน่าในตอนนี้ ใช่ว่าเราควรปล่อยเธอไป… หากเนเฟลิน่าจดจำโครงสร้างของหอคอยได้ทั้งหมดและหาวิธีถอดรหัสบาเรีย พวกเราซวยกันหมดแน่… ถึงจะเปลี่ยนหอคอยไปเรื่อยๆ ก็เปล่าประโยชน์ ทุกหอคอยมีโครงสร้างแบบเดียวกัน และเธอสามารถผ่านเข้าออกได้ตามใจชอบ”
ความคิดเห็นถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่
เจสสิก้า เบ็ตตี้ ลาร์ดวูล์ฟ และฟรอนซาลล์เห็นตรงกันว่าควรปล่อยเนเฟลิน่าไป ส่วนอเบลลิโอ้ เค็น และเจอร์นี่มองว่าปล่อยไปไม่ได้
เป็นการถกเถียงที่มีชะตากรรมหอคอยเป็นเดิมพัน
“…”
ทุกสายตาจ้องไปทางบีบันโดยพร้อมเพรียง
คล้ายกับอยากฟังความเห็นของคนที่เงียบมาตลอดการประชุม
บีบันเปิดปากด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“มีวิธีลบความทรงจำเนเฟลิน่าโดยไม่ต้องฆ่าไหม?”
“เป็นไปได้ถ้าใช้แก่นยาธาน… เบ็ตตี้ชำนาญการใช้ประโยชน์จากแก่นยาธานกว่าใคร แถมเรายังมีเจสสิก้ากับลาร์ดวูล์ฟคอยสนับสนุน”
“…กริดเป็นสภาหอคอยเหมือนกับเราไม่ใช่หรือ? เขามีสิทธิ์เข้าออกหอคอยได้ตามใจชอบ ตามความคิดข้า อัครสาวกของกริดก็มีสิทธิ์ผ่านเข้าออกหอคอยอย่างอิสระเช่นกัน เพียงแต่ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
“ดีแล้วหรือที่จะมอบสิทธิ์เช่นนั้นให้อัครสาวก? หอคอยเปรียบดังบ้านของเรามานานนับพันปี และมันจะเป็นเช่นนั้นต่อไป”
“ถ้ามันน่าอึดอัดเกินไป เกรงว่ากริดคงไม่อยากมาที่หอคอยบ่อยนัก”
“นั่นคงช่วยไม่ได้… เดิมที ลำดับสิบก็เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์อยู่แล้ว ไม่ต้องทำหน้าที่สภา ไม่จำเป็นต้องเข้าหอคอยก็ได้”
“แต่ว่า… เนเฟลิน่าเป็นลูกมังกรคลั่งใช่ไหม? ถ้าจำไม่ผิด ต้นเหตุที่ทำให้เนอวาร์ธานคลุ้มคลั่งคือบาเอลและแก่นของยาธาน… การนำสิ่งนั้นมาใช้กับลูกสาวเนอวาร์ธาน อาจฟังดูโหดร้ายเกินไปสักหน่อย”
“…”
เหล่าสภาต่างพากันนิ่งเงียบ
เจสสิก้ากำหมัดแน่นพลางจ้องไปทางบีบัน หวังกระตุ้นให้อีกฝ่ายกล่าวในสิ่งที่ถูกต้อง
บีบันแสดงความเห็นตรงไปตรงมา
“เหนือสิ่งอื่นใด… หากเราทำร้ายเนเฟลิน่า คนที่เจ็บที่สุดคือกริดไม่ใช่หรือ? ข้าไม่อยากทำแบบนั้น”
“…”
จบแล้ว
ห้าต่อสาม
การประชุมได้ข้อยุติเมื่อบีบันประกาศสนับสนุนความคิดที่จะปล่อยให้เนเฟลิน่าเป็นอิสระ
ต้องไม่ลืมว่า สภาหอคอยทุกคนมีสายสัมพันธ์อันดีกับกริด
อเบลลิโอ้ เค็น และเจอร์นี่เลิกคัดค้านเมื่อตระหนักว่า การทำร้ายเนเฟลิน่าเท่ากับการทำร้ายกริด
ฮายาเตะที่ปิดปากเงียบมาตลอด เผยรอยยิ้ม
“ต้องขอบคุณลำดับสิบที่ทำให้พวกเราสามัคคีกันมากขึ้น”
“แฮ่ม…”
เหล่าสภากระแอมด้วยท่าทีเขินอาย
จากไม่กี่ร้อยจนถึงพันปี
สภาหอคอยใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลานาน แม้จะมีจุดประสงค์เดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทะเลาะกันเลย
ตรงกันข้าม ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเพียงใด ก็ยิ่งมีเรื่องโต้เถียงมากเท่านั้น
แต่ในวันนี้
พวกมันเห็นพ้องต้องกันในประเด็นสำคัญ แถมยังเป็นการใช้อารมณ์เหนือเหตุผล
นี่คือสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ?
ฮายาเตะเสริม เพื่อให้ทำให้ทุกคนสบายใจ
“สำหรับประเด็นนี้ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าคิดวิธีแก้ไขแล้ว”
***
‘ร่าเริงกันจังนะ… ไปสนิทกับโนเอะตั้งแต่เมื่อไร?’
ด้านหลังประตูห้องพัก เสียงหัวเราะของโนเอะและเนเฟลิน่าดังมาจากโถงทางเดินอย่างไม่ขาดสาย
ในบางครั้งก็มีเสียงครวญครางของโนเอะผสมมาด้วย แต่กริดก็ทำเป็นหูทวนลม
โนเอะเอาชนะโรคกลัวมังกรได้แล้ว?
ได้ยินว่าพักหลังมีโอกาสได้ศึกษาหลายสิ่งจากเบ็ตตี้
ฉึบ ฉึบ ฉึบ
แม้ด้านนอกจะวุ่นวาย แต่มือกริดยังคงขยับอย่างกระฉับกระเฉง
ลวดลายถูกแกะสลักลงบนดาบสีขาวด้วยความประณีต
ดาบที่สร้างจากแขนทั้งข้างของครานเบล
คมดาบแผ่แสงเจือจาง ถือเป็นดาบใหม่ที่ดูน่าค้นหา
เพียงมองผิวเผินก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นสุดยอดดาบ แต่นอกจากนั้นกลับไม่มีสิ่งใดพิเศษ แถมยังยากที่จะจำแนกด้ามกับส่วนคม
กริดไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษในการผลิต
เพียงมุ่งมั่นที่จะสร้าง ‘ดาบในอุดมคติ’ อย่างแท้จริง
เนื้อวัสดุมีความยอดเยี่ยมในตัวเองอยู่แล้ว การใส่เทคนิคมากเกินไปอาจกลายเป็นผลเสีย
อย่างไรก็ดี การที่ดาบเล่มนี้กินเวลาการผลิตนานหนึ่งเดือนเต็ม เหตุผลหลักมาจากความพิเศษของวัสดุ
แขนครานเบล
ในฐานะวัสดุที่ดีที่สุดตามตำรา ย่อมเป็นธรรมดาที่จะหลอมได้ยาก กริดต้องทำตามลำพังโดยมิอาจพึ่งพาแรนดี้และหัตถ์เทวะ
นอกจากนั้น กริดเลือกใช้ทุกส่วนในของแขนครานเบลเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดสูญเปล่า
เลือดเนื้อสลายไปในขั้นตอนการหลอม กระดูกและกรงเล็บถูกหลอมจนโปร่งใส่ราวกับผลึกแก้ว นอกจากนั้น กริดยังใส่ใจกับอากาศที่เย็นเกินไปในช่วงรุ่งสาง และอากาศที่ร้อนเกินไปในช่วงเที่ยงวัน จึงต้องคอยปรับเปลี่ยนอุณหภูมิเตาหลอมเป็นระยะ
เกล็ดเล็กๆ ถูกถอดออกทีละชิ้นเพื่อนำมาหลอมและขัดเงา กล่าวคือ ถึงแม้พวกมันจะเป็นแค่วัสดุสำหรับทำด้ามจับและโกร่ง แต่ชายหนุ่มก็ทุ่มเททุกส่วนอย่างสุดฝีมือ เช่นเดียวกับหนังมังกรที่นำมาหุ้มด้ามจับ
เป็นธรรมดาที่จะใช้เวลานาน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตู
กริดสามารถระบุตัวตนของผู้มาเยือนได้ทันที ต้องขอบคุณประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมดุจดังคมดาบ เป็นผลจากการเขียนมหากาพย์มากถึงสิบแปดบท
“ขอโทษที่รบกวนตอนกำลังยุ่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นท่านฮายาเตะ ไม่ว่าจะเรียกพบตอนไหนผมก็จะไปหาทันที… ไม่เห็นต้องลงมาด้วยตัวเอง”
ฮายาเตะเข้าประเด็น
“ข้าคิดว่า เรามีความจำเป็นต้องควบคุมเนเฟลิน่า”
“อะ…”
กริดเข้าใจเหตุผลได้ทันที
ดูเหมือนว่าการที่มีเนเฟลิน่าเพ่นพ่านอยู่ในหอคอย จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก
คงไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร กับการที่มีแฮชลิ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ในฐานทัพของเหล่าสภาผู้ต่อต้านมังกร
“ควบคุมที่ว่า…”
“ผนึกความทรงจำทั้งหมดของเธอในวันนี้… จริงอยู่ การแทรกแซงความคิดมังกรอาจเป็นเรื่องยาก แต่ในเมื่อเนเฟลิน่าเป็นอัครสาวกของเจ้า โอกาสสำเร็จจึงค่อนข้างสูง ข้าจะคอยช่วยสนับสนุนอีกแรง”
ฮายาเตะกล่าวอย่างใจเย็น เสียงของมันดังกังวานไปถึงทางเดินด้านนอก
เนเฟลิน่าที่เงี่ยหูฟัง รีบพรวดเข้ามาในห้องด้วยความลนลาน
หลังจากเปิดประตู เธอพยายามข่มความกลัวอย่างเต็มกลืน
“ขะ….ข้าไม่ยอม! ข้าแทบไม่เคยได้ใช้เวลาร่วมกับกริดเลย… ข้าไม่อยากลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้!”
น้ำเสียงเนเฟลิน่าแฝงความสั่นเครือคล้ายกับใกล้หลั่งน้ำตา สาเหตุหลักมาจากความกลัว
เข้าใจได้
เธอกำลังเผชิญหน้ากับนักล่ามังกร
สำหรับแฮชลิ่ง นี่คือความกลัวที่ยากจะต้านทาน
ฮายาเตะจ้องหน้าเนเฟลิน่าพร้อมกับยิ้ม
เนเฟลิน่าตีความรอยยิ้มดังกล่าวผิดไป
“จะ…จะ…เจ้าคิดจะฆ่าข้าหรือ?”
“เนเฟลิน่า…”
กริดรีบลุกขึ้นและเดินมาจับไหล่หญิงสาว พยายามอธิบายสถานการณ์ให้อีกฝ่ายเข้าใจ จนกระทั่งได้ยินเนเฟลิน่าโพล่งขึ้น
“เรื่องแค่นี้เอง… ง่ายมาก! เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ข้าจะสาบานด้วยวาจามังกร ถึงกริดจะตายไป ข้าก็จะไม่เปิดเผยตำแหน่งของหอคอยให้ใครทราบ”
“วาจามังกร…”
ฮายาเตะเผยสีหน้าขื่นขม
มันทราบดี แฮชลิ่งใช้วาจามังกรไม่ได้
เมื่อตระหนักว่าเนเฟลิน่ายังเด็ก หัวใจฮายาเตะเริ่มหนักอึ้งอีกครั้ง
‘ยังเป็นช่วงแรกเกิดด้วยซ้ำ กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้…’
แต่ฮายาเตะก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องควบคุมเธอ
ขณะฮายาเตะรำพัน
ขณะกริดกลัดกลุ้มหลังจากอ่านสีหน้าฮายาเตะออก
“ข้าจะไม่ทำอันตรายใดกับหอแห่งปัญญาและเหล่าสภา คำมั่นสัญญานี้จะมีผลไปจนวันตาย”
คำพูดของเนเฟลิน่า แปรเปลี่ยนเป็นวาจามังกรในทันที
เปรียบดังพันธนาการที่ถูกสลักลงบนร่างกายหญิงสาวและวิญญาณ
เธอเคยใช้วาจามังกรสำเร็จมาแล้วหนหนึ่ง – วาจามังกรที่อาศัยอำนาจของอัครสาวก ผนวกกับความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องการอยู่ใกล้กริด
ความสำเร็จครั้งแรกทำให้เกิดปาฏิหาริย์ครั้งที่สอง
อีกหนึ่งส่วนสำคัญก็คือ เธอไม่ได้มองว่าหอคอยและสภาเป็นศัตรู นั่นคือความรู้สึกจากก้นบึ้ง
“บ้าน่า…”
ดวงตาทั้งสองของฮายาเตะพลันขยายออก
เหล่าสภาด้านนอกประตูที่คอยจับตามองสถานการณ์ ล้วนประหลาดใจไม่ต่างกัน
“มังกรอัจฉริยะ…!”
ได้ยินคำชมจากบีบัน เนเฟลิน่ายักไหล่พลางยิ้มมุมปาก
ท่ามกลางความยินดีของทุกฝ่าย มีเพียงโนเอะที่ไม่สบอารมณ์
มันเกลียดเนเฟลิน่ามาก จึงหัวเสียเมื่อเห็นเธอได้ดิบได้ดี
ในเวลาเดียวกัน
“อะ…โอ้…!!”
แกนนำผู้ต่อต้านเทพโอเวอร์เกียร์จากสามโบสถ์หลักที่กระจายตัวอยู่ทั่วทวีป หลั่งน้ำตาออกมาโดยพร้อมเพรียง
นั่นเพราะเทวทูตผู้งดงามเสด็จเยือนท่ามกลางแสงสวรรค์ เพื่อประทานดาบศักดิ์สิทธิ์ให้พวกมัน
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 ★ ★ จบบริบูรณ์ ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
เนเฟริน่าจะน่ารักไปไหนเนี้ย⁄(⁄ ⁄•⁄-⁄•⁄ ⁄)⁄
ReplyDelete