จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,605
ผู้ที่พึงพอใจกับทรัพย์สินเพียงหลักพันล้านหรือหมื่นล้านวอน ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้เป็นสมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์
กิลด์โอเวอร์เกียร์ผูกขาดเนื้อหาในหลายส่วนมาเป็นเวลานาน และกริดก็ก้าวไปถึงระดับที่สามารถผลิตไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้ง่ายดายแล้ว
ดังที่คริสเพิ่งซื้อหนังสือเปลี่ยนคลาสเกรดเลเจนดารีไป ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ชาวโอเวอร์เกียร์มีโอกาสเข้าถึงสิ่งของมูลค่ามหาศาลอยู่เสมอ
นี่ยังไม่รวมการค้นพบเมืองโบราณ และการปรากฏตัวของนักล่ามังกร
อิทธิพลข้างต้นทำให้เอกสารและสมบัติโบราณทยอยถูกขุดค้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเงินเก็บมากแค่ไหน แต่ใช่ว่านั่นจะเพียงพอ
หากไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลังตามลำพัง ทางรอดเดียวคือการทำงานเป็นบ้าเป็นหลังและสร้างนิสัยประหยัดอดออม
กริดจงใจมอบบทเรียนให้พวกเรา…
เมื่อไม่นานมานี้ คริสซึ่งเคยคนร่ำรวย เต็มไปด้วยหนี้สินในพริบตา
การเชือดคริสเป็นเยี่ยงอย่างเพื่อให้พวกพ้องที่เหลือได้รับบทเรียน กริดคงเจ็บปวดกว่าใครที่ต้องทำแบบนี้…
‘เขาอ่านขาดมาตั้งแต่ต้น ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินจำนวนมาก’
ในวันที่ได้พบชินยองวูครั้งแรก เรารู้อยู่แล้วว่าเขายอดเยี่ยม…
ในภายหลัง กริดพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจที่สุดในสายงานของตน ถูกยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก
แต่ติดไม่ถึงเลยว่า วิสัยทัศน์ของเขาจะกว้างไกลถึงเพียงนี้…
นี่มันระดับอัจฉริยะแล้ว
ลำพังคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ มิอาจนิยามชายคนนี้ไม่หมด
เป็นบุคคลที่ควรถูก ‘ศรัทธา’ มากกว่าแค่ ‘ชื่นชม’
“…”
ยูร่า ผู้เดินทางกลับจากการถ่ายแบบเพื่อโกยเงิน
ในฐานะหัวหน้าทีมสำรวจนรกที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอดสี่เดือนเต็ม ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานบนโลกภายนอกเพื่อเก็บเงินไปพร้อมกัน อาการเหนื่อยล้าของเธออยู่ในระดับเหนือจินตนาการ โชคยังดีที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่เด็ก ความอ่อนเพลียทางกายจึงน้อยกว่าทางใจค่อนข้างมาก
เหนื่อยขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน…
ยูร่ารู้สึกสมเพชความอ่อนแอของตัวเอง
แต่ในสายตาคนรอบข้าง นี่คือสิ่งที่เธอต้องแบกรับ
การที่เธอยังไม่ล้มทรุดลงไป ถือเป็นเรื่องดีเรื่องเดียวในพักหลัง
ไฮแรงเกอร์ - เหล่าตัวตนที่ผู้เล่นกว่าสองพันล้านอิจฉา
แต่ละคนไต่เต้าขึ้นมายืนบนจุดสูงสุดในแนวทางของตัวเอง การต้องนำพากลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย พวกมันล้วนมีอีโก้สูงพอๆ กับฝีมือ
นอกจากนั้นยังมีเหล่าสามลอร์ด
พวกมันเพิกเฉยคำสั่งของยูร่าอย่างออกนอกหน้า เอาแต่พล่ามว่าความจงรักภักดีของตนมอบให้เพียงมหาจักรพรรดิกริดเท่านั้น มักทำตามอำเภอใจมากกว่าฟังคำแนะนำจากหัวหน้าทีม มีหนึ่งหรือสองครั้งที่ปฏิบัติการล้มเหลวเพราะสมาชิกกลุ่มนี้
แต่ยูร่าไม่เคยกล่าวโทษสามลอร์ด
เธอควบคุมอารมณ์ด้วยความเยือกเย็นขั้นสูงสุด คอยนำพาทีมสำรวจไปในทิศทางเดียวกันและลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด
ที่น่าแปลกก็คือ จิสึกะช่วยยูร่าแบ่งเบาในเรื่องนี้ได้มาก
ระหว่างภารกิจสำรวจ ยูร่ากับจิสึกะไม่เคยแตกคอกันแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีแม้แต่การปะทะคารม
ถึงจะมีการโต้เถียงเล็กน้อย แต่จิสึกะก็จะเป็นฝ่ายยอมแพ้เสมอ ทั้งที่สาวสวยแห่งยุคทั้งสอง เคยโด่งดังด้านการทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ
ในระยะหลัง คนทั้งสองมิตรต่อกันจนน่าทึ่ง ราวกับพี่น้องคลานที่ตามกันมา
ยิ่งเปิดใจยอมรับกันและใช้ชีวิตร่วมกัน พวกเธอก็ยิ่งเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น
ในนรก สองสาวไม่ใช่คู่แข่ง หากแต่เป็นมิตรแท้ที่เชื่อใจกันได้มากที่สุด
เมี๊ยว
“…?”
ยูร่าที่จอดรถเสร็จและกำลังเปิดแอปอ่างอาบน้ำ มีอันต้องชะงัก
หญิงสาวสลัดความตั้งใจที่จะรีบอาบน้ำและทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ไม่เดินเข้าไปในบ้าน แต่มองหาที่มาของเสียงแมวร้อง
เมี๊ยว
เมื่อสายตาประสานกับยูร่า แมวร้องออกมาอีกครั้ง
หน้าตาอัปลักษณ์ ลวดลายก็ไม่สวย คล้ายกับแมวอัปมงคล
หลายจุดบนร่างกายมีร่องรอยขนหลุด ยูร่าเดาว่าแมวตัวนี้น่าจะคอยขโมยอาหารแมวตัวอื่นในละแวกกิน
“…”
ยูร่าไม่ผลีผลามเดินเข้าหาสิ่งมีชีวิตตัวเล็กตรงหน้า ไม่ใช่เพราะมันไม่น่ารัก แต่เพราะอีกฝ่ายตัวเล็กมาก เกรงว่าหากเผลอจับแรงเกินไป แมวตัวนี้อาจบาดเจ็บเพิ่มเติม
แต่แน่นอน เธอห่วงใยอีกฝ่ายมาก อยากเข้าไปสวมกอดและลูบไล้ใบหน้า
ยูร่าพอจะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแมวอยู่บ้าง
‘ฤดูหนาว’
อากาศข้างนอกหนาวมาก
หลังจากงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติที่มีคนดูน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์จบลง เกาหลีใต้ย่างเข้าฤดูหนาวทันที
และในหน้าหนาว แมวจะพองขนมากกว่าปรกติ จากที่เคยอ่านในหนังสือ เธอจำได้ว่านี่เป็นกลไกการทำให้รูขุมขนเล็กลง เพื่อสร้างความอดทนต่ออากาศอันหนาวเย็น
“มาหาที่อุ่นๆ ซุกหรือ?”
เมี๊ยว
ราวกับฟังรู้เรื่องและตอบกลับ แมวที่ยิ่งมองก็ยิ่งอัปลักษณ์ รีบหลบตายูร่าด้วยเกรงว่าจะตนถูกทำร้ายแทนที่จะให้อาหาร
เมี๊ยว
เมื่อหญิงสาวยื่นมือออกไป แมวตัวดังกล่าวใช้แก้มของมันถูกับปลายนิ้ว
หลังจากลูบคลำหลังแมวอย่างทะนุถนอม ยูร่าต้องตกใจเมื่อพบว่า ภายใต้ขนพองโต ร่างจริงของแมวผอมกว่าที่ตาเห็นมาก
“หืม… รอที่นี่ก่อนนะ”
ยูร่าเดินกลับไปที่ลานจอดรถ
บ้านหลังใหญ่ของเธอมีลานจอดรถกว้างขวาง แม้จะนำรถใหญ่กว่ายี่สิบคันมาจอดเรียง แต่ก็ยังมีที่ว่างเหลือเฟือ เป็นลานอเนกประสงค์ที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย
แน่นอน ที่นี่มีโกดังเก็บของหลายแห่ง
หนึ่งในโกดังเหล่านั้นมีอาหารแมว
อย่างไรก็ดี ยูร่าไม่เคยนำอาหารออกมาให้แมวกินมาก่อน
เธอไม่ได้หลงใหลแมวข้างถนนมากนัก และจวบจนปัจจุบัน ยังไม่เคยมีแมวจรจัดตัวใดกล้าเข้าใกล้ยูร่ามากถึงเพียงนี้
เธอซื้ออาหารแมวเก็บไว้ เพราะคิดว่าอาจเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นสักวัน
“ค่อยๆ กินนะ”
อาหารกระป๋องยังไม่หมดอายุ เพราะยูร่าคอยซื้อมาเปลี่ยนบ่อยครั้ง
เมี๊ยว
แมวอุตส่าห์ตอบกลับ ทั้งที่กำลังก้มหน้ากินอย่างหิวโหย
แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่คล้ายกับลางร้าย เด็กคนนี้มารยาทดีมาก
‘น่ารัก…’
ยูร่านั่งอมยิ้มด้วยหัวใจพองโต ความเหนื่อยล้าทางใจที่สั่งสมถูกสลัดเป็นปลิดทิ้ง
ความคิดมากมายแทรกเข้ามาในสมองที่ผ่อนคลาย หากไม่นับความคิดเกี่ยวกับชินยองวู เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน
‘อาโมแรค…’
จอมอสูรลำดับสอง
ทุกครั้งที่ส่งร่างจำลองมาก่อกวนคณะสำรวจ เธอจะส่งข้อความเสียงหายูร่าเสมอ
ได้โปรดกลับมาอยู่กับข้า ข้าอยากได้เจ้า
เสียงถูกส่งเข้ามาในหัวโดยตรง ไม่มีใครนอกจากยูร่าที่ได้ยิน
แน่นอน ยูร่าไม่ถูกล่อลวง เพราะไม่คิดจะเป็นอสูรตั้งแต่แรกแล้ว ความตั้งใจดังกล่าวยังคงหนักแน่นตั้งแต่วันแรกจวบจนปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งจอมอสูรหลักสามสิบ สามารถสั่นคลอนอาณาจักรมนุษย์ได้ตามลำพัง
ยูร่าซึ่งมีตัวเลือกให้กลายเป็นอสูรที่คอยปกครองอสูร กลับเลือกเส้นทางยากลำบากด้วยความแน่วแน่ แถมยังเป็นเส้นทางที่ตรงข้ามกับอสูรอย่างสุดขั้ว
หากกลายเป็นอสูร เธอต้องเป็นศัตรูกับกริดไปตลอดกาล และยูร่าไม่ต้องการเช่นนั้น
นั่นคือความตั้งใจอันแน่วแน่ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน
เหนือสิ่งอื่นใด ในสายตายูร่า อาโมแรคอันตรายพอๆ กับบาเอล
จริงอยู่ อาโมแรคอาจคอยโน้มน้าวมนุษย์ว่า เธอจะทำให้นรกกลับคืนสภาพเดิมเพื่อองค์ยาธาน
แม้จะฟังดูดี แต่ยูร่ายังไม่ไว้ใจอาโมแรค
เพราะอาโมแรคคือจอมอสูรแห่งความขัดแย้ง
หากอาโมแรคไม่มีความละอายใจ ก็แปลว่าหล่อนทำไปโดยไม่รู้ตัว
พฤติกรรมของอาโมแรคมีความขัดแย้งในตัวเองบ่อยครั้ง ยูร่าสัมผัสได้ชัดเจน
ถึงตอนนี้อาโมแรคจะเป็นศัตรูกับบาเอล แต่ยูร่าก็ยังไม่อยากจับมือ
‘ฟื้นฟูนรก ฟื้นฟูชื่อเสียงให้ยาธาน… นั่นอาจเป็นแค่ข้ออ้าง’
ความขัดแย้ง
อาโมแรคมีเจตนารมณ์แน่วแน่
แต่นั่นอาจทำให้จิตใจของหล่อนเกิดการแบ่งฝักฝ่ายและต่อสู้กันเอง
การที่เธอพยายามเก็บงำเอาไว้โดยไม่บอกใคร มีโอกาสเป็นไปได้ว่า เนื้อแท้ของอาโมแรคอาจวิปริตยิ่งกว่าบาเอล
เมี๊ยว
ยูร่าได้สติกลับมา
แมวที่ทำความสะอาดกระป๋องอาหารจนเกลี้ยง กำลังเอาแก้มถูไถไปกับน่อง
ใบหน้าขาวเนียนที่กำลังยิ้มแย้มของเธอ แปรเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว
เกิดจากความอับอายเมื่อตระหนักว่า ตนกำลังยิ้มราวกับคนบ้า
แต่อย่างน้อย ยูร่าเชื่อว่าคืนนี้ตนจะหลับฝันดีแน่นอน
***
นักล่ามังกร
เมื่อตัวตนที่ทุกคนคาดไม่ถึงถูกเปิดเผย โลกย่อมตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างมิอาจเลี่ยง
แต่ในทางกลับกัน โลกแห่งธาตุกำลังเงียบสงบ
ครอเกลเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่นี่ และมันก็แทบไม่เปล่งเสียง
‘ยากมาก…’
เมื่อนานมาแล้ว ครอเกลไม่ชอบเล่มเกมเป็นปาร์ตี้ เพราะไม่สบายใจที่จะร่วมมือกับคนอื่น
การเล่นเป็นปาร์ตี้มีแต่จะทำให้หงุดหงิด
ชายผู้เปรียบดังลูกรักของเทพแห่งพรสวรรค์ ไม่ว่าจะร่วมมือกับใครก็กลายเป็นทำทีมด้อยลงไปเสียหมด
การเคลื่อนไหวที่เหนือจินตนาการ เหนือความเข้าใจ เหนือเหตุและผลของครอเกล มักสร้างความสับสนให้พวกเดียวกันบ่อยครั้ง
กุญแจสำคัญของปาร์ตี้ คือความเข้าใจในพฤติกรรมของพวกพ้อง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจครอเกล
เมื่อความร่วมมือไม่สร้างประโยชน์ ครอเกลจึงเลือกเดินบนเส้นทางผู้เล่นโซโล่และค่อยๆ ปลีกตัวออกจากผู้คน
นั่นคือเรื่องราวก่อนได้พบกริด
ปัจจุบันครอเกลเปลี่ยนไปแล้ว มันเริ่มคุ้นเคยกับการรวมกลุ่ม
เพียงแต่ในตอนนี้
มันกำลังใช้ชีวิตตามลำพังโดยไม่มีเฮ่าและอเล็กซานเดอร์คอยตามติด
> อริยดาบ?
กิลด์โอเวอร์เกียร์ที่ส่วนใหญ่กำลังร่วมมือกันอยู่ในนรก ปัจจุบันยังมีตำแหน่งว่าง
> หืม ก็ไม่เท่าไรนี่?
เหนือสิ่งอื่นใด ข้อเท็จจริงที่ว่าตนยังห่างไกลจากกริดหลายขุม ทำให้ครอเกลทวีความกระวนกระวายใจ
ราชาภูตลมช่างแข็งแกร่ง
ผ่านไปกว่าสี่เดือนแล้ว
ครอเกลที่ฟันภูตมืดไปแล้วหลายร้อยหลายพันตน หรือมากกว่านั้น เชื่อว่าไม่เพียงฝีมือของตนจะเพิ่มขึ้นมาก แต่การปรับตัวเข้าดับ ‘ดีเลย์’ ยังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ร่างวิญญาณ
ครอเกลสามารถขยับร่างกายอันเชื่องช้าจนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ทุกสิ่งย่อมมีขีดจำกัด
ปัญหาสำคัญก็คือ ไม่ว่าจะอ่านความเคลื่อนไหวล่วงหน้าหลายก้าวและกะเวลาอย่างแม่นยำเพียงใด แต่ก็มักตอบสนองได้ช้าเกินไปเสมอ
ส่งผลให้ครอเกลถูกราชาภูตลมที่เชี่ยวชาญด้านความเร็วเป็นพิเศษ บดขยี้อย่างราบคาบ
หากไม่ใช่เพราะ ‘อ่านใจขั้นสูง’ และ ‘พลังจิต’ ต่างแข็งแกร่งขึ้นในกระบวนการชดเชยร่างกายที่ขาดหายไป มันคงถูกราชาภูตลมสังหารจนถูกขับออกจากโลกแห่งธาตุ
> ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี แต่มนุษย์ก็ยังเหมือนเดิม ดาษดื่นจืดชืด… ดูอย่างกริดที่พวกเจ้ากราบไหว้บูชานักหนา เจ้านั่นก็ไม่เคยสงสัยในตัวข้าเลยสักครั้งเดียว… หากมองไม่เห็นถึงความต่างชั้น สมองของเจ้าคงมีปัญหาแล้วล่ะ
ร่างวิญญาณที่ฉีกขาด
สีหน้าครอเกลผู้เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดขณะรับมือการกระหน่ำจากพายุ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
มันเปิดปากพูดเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบงันมาโดยตลอด
“…ที่เขาไม่สงสัย เพราะแกไม่มีค่าพอให้สงสัย”
> หือ?
“แกไม่เคยอยู่ในสายตากริด เขาจึงไม่คิดเหลียวมอง”
สำหรับครอเกล กริดคือตัวตนพิเศษ
กริดคือคนแรกที่ครอเกลต้องไล่ตาม จะเรียกว่าไอดอลก็คงไม่ผิดนัก
ลำพังการได้ไล่ตามแผ่นหลังอีกฝ่าย ก็มากพอจะทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย
เปรียบได้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ห้ามมิให้ผู้ใดมาล่วงเกิน
> …หืม? ฮะฮะฮะ! เถียงได้ไร้เหตุผลไม่สมกับเป็นเจ้าเลยนะ? เป็นถึงอริยดาบ ใช้อารมณ์นำทางจะดีหรือ? เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าถึงอ่อนแอนัก… หือ?
ราชาภูตลมที่ระเบิดเสียงหัวเราะ เผยความงุนงงกะทันหัน
เพราะมันสัมผัสได้ว่า พลังจิตของมนุษย์ตรงหน้า แกร่งกล้าขึ้นภายในพริบตา
[ระบบทำการวิเคราะห์อารมณ์ตามเนื้อหาในคำพูดของท่าน]
อารมณ์
ปัจจัยสำคัญสำหรับอริยดาบผู้ใช้ ‘ดาบจิต’ เป็นอาวุธ
สิ่งที่ครอเกลบกพร่องมาตลอด ยามนี้กำลังถูกเติมเต็ม
ระบบเริ่มทำการวิเคราะห์และประเมินน้ำเสียง ลักษณะการหายใจ และชีพจร
ฉึบ—!
คมดาบที่มองไม่เห็น สะบั้นพายุออกเป็นสองซีก
ราวกับต้องการแสดงให้เห็นว่า ในที่สุดพลังจิตของอริยดาบก็เข้าสู่ภาวะเด็ดเดี่ยว
ร่างกายสีฟ้าโปร่งใสของครอเกล เข้มขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
Comments
Post a Comment