จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,606
“ช่องว่างนานเกินไป…”
เนเฟลิน่าตระหนักรู้เป็นอย่างดี
ว่าตนคือมังกร
แน่นอน เธอยังเพิ่งเกิด หากเทียบกับมนุษย์ก็คงมีอายุน้อยกว่าเด็กที่วิ่งเล่นตามท้องถนน
แต่มังกรก็คือมังกร
แถมยังเป็นทายาทสายตรงของมังกรโบราณ
ปัจจุบันยังโตไม่มากพอ ต้องอายุไม่ต่ำกว่าพันปีจึงจะเลิกถูกเรียกว่าแฮชลิ่ง
แต่เนเฟลิน่าก็ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า ตนคือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่
กล่าวคือ เธอเข้าใจว่าเหตุใดกริดถึงต้องคอยปกป้องและห่วงใยเธอนัก
การดำรงอยู่ที่มีอนาคตไกล
กริดให้ความเคารพต่อเนเฟลิน่า ผู้มีชะตากรรมต้องกลายเป็น ‘ตัวตนสัมบูรณ์’
นั่นคืออนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งสองมีชะตากรรมที่ต้องพึ่งพากัน
แต่แล้วนี่มันอะไร?
เธอไม่ได้เจอหน้ากริดมาห้าเดือนเต็มแล้ว
“ฮึ!”
เนเฟลิน่าพ่นลมหายใจทางจมูกพร้อมกับวางส้อมมีดลง
เธอมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจก
ตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่สวมเสื้อผ้ามนุษย์ ใช้ภาชนะของมนุษย์ และกินอาหารแบบมนุษย์
นั่นคือเธอในตอนนี้
เป็นภาพลักษณ์ที่ต้องการทำให้กริดพึงพอใจ
เธอเฝ้ารออนาคตที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับกริด ปัจจุบันจึงพยายามทำความเคยชินกับวิถีชีวิตของมนุษย์
เนเฟลิน่าทำความเข้าใจวัฒนธรรม อารมณ์ และความคิดของมนุษย์ ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีในฐานะการดำรงอยู่อันยิ่งใหญ่ ทั้งหมดก็เพื่อปรับตัวเข้าหากริด
แต่กริดกลับไม่อยู่ที่นี่
เดิมที กริดเป็นพวกไม่ติดบ้านอยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ช่องว่างการหายตัวไปกินเวลายาวนาน
โต๊ะอาหารตัวใหญ่ยิ่งทวีความเดียวดายเมื่อเวลาผ่านไป
“อยากมีอนาคตกับข้า แต่ปัจจุบันไม่ยอมใช้ชีวิตร่วมกับข้า? ข้าเป็นปลาที่จับมาได้หรือไง? เป็นของตายหรือ? น่ารังเกียจ!!”
เนเฟลิน่ายังเด็กมาก ยิ่งไปกว่านั้น เธอขาดการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ จึงซึมซับอารมณ์กับนิสัยของมนุษย์เข้าไปแทน
ในท้ายที่สุด เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับโคจรพลังเวท เป็นการดูดกลืนอาหารทั้งหมดบนโต๊ะเข้าปากโดยไม่สัมผัส
ช่วยไม่ได้ เรากำลังอยู่ในวัยเติบโต นอกจากอารมณ์ที่ฉุนเฉียวขึ้น เราต้องกินอาหารวันละสามมื้อเป็นอย่างต่ำ…
“อัครสาวกต้องอยู่เคียงข้างเทพ”
วาจามังกรของแฮชลิ่งยังมีประสิทธิภาพไม่มากนัก
‘วาจามังกร’ ต้องสั่งสมอำนาจโดยการ ‘รักษาคำมั่นสัญญา’
อย่างไรก็ดี เนเฟลิน่าคือทายาทโดยตรงของมังกรโบราณ
ถึงจะเป็นมังกรคลั่ง แต่เธอก็มิได้สืบทอดความบ้าคลั่งมาจากเนอวาร์ธาน
สิ่งที่เธอสืบทอดมามีเพียงพลังและพรสวรรค์ จึงฉลาดพอที่จะเค้นศักยภาพสูงสุดด้วยพลังปัจจุบัน
เธอใช้ประโยชน์จาก ‘กฎระเบียบ’
กฎระเบียบที่มีมาแต่ช้านาน
กฎที่เทพสร้างขึ้น และดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคสมัยเริ่มต้น
กฎที่มีเนื้อหาระบุว่า เทพต้องมีอัครสาวก และสาวกจะต้องอยู่เคียงข้างเทพเสมอ
ทันทีที่เธอประกาศกฎเกณฑ์สัมบูรณ์ซึ่งใช้ปกครองโลกนี้มายาวนาน ร่างเนเฟลิน่าอันตรธานหายไปจากตำแหน่ง
วาจามังกรประสบความสำเร็จ แม้จะไม่สมบูรณ์นักก็ตาม
ตำแหน่งของเธอถูกย้ายไปยังกริดในพริบตา
หรือกล่าวได้ว่า นี่ไม่ต่างอะไรกับวัวที่เดินเข้าโรงเชือดด้วยตัวเอง
***
“โอ๊ะ…”
เมื่อสัมผัสได้ว่าเนเฟลิน่าหายตัวไป ซาลิเอลเผยรอยยิ้มอบอุ่น
เธอรู้สึกยินดีกับอีกฝ่าย เมื่อตระหนักว่าแฮชลิ่งตัวน้อยสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ตัวตนที่คอยปกป้องมนุษย์จากอสูรซึ่งไต่ขึ้นมาจากนรก
ตัวตนที่สูงส่งและน่ารักอย่างไร้สิ้นสุด
เธออิจฉาอัครสาวกคนอื่นที่สามารถใช้ชีวิตอิสระ
แน่นอน ซาลิเอลมิได้ถูกตีตรวนล่ามไว้
เทพโอเวอร์เกียร์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา มอบอิสระให้อัครสาวกทุกคนอย่างเท่าเทียม
เพียงแต่ซาลิเอลกังวลว่าตนจะอาละวาด
ต้องไม่ลืมว่า เธอถูกขังไว้ที่คุกนรกในฐานะอสูรเป็นเวลานาน
ปราณอสูรและความบ้าคลั่งที่สั่งสมตลอดระยะเวลา ยังคงวนเวียนภายในร่างกายโดยไม่ละทิ้งรากเหง้า
“เปลี่ยนเป็นชาร้อนดีไหม?”
คำถามจากราชินีไอรีน
เธอเป็นห่วงซาลิเอลที่ชะงักไปกะทันหัน
ซาลิเอลยกถ้วยชาใส่น้ำแข็งด้วยใบหน้าที่ยังคงยิ้มแย้ม
“ไม่ต้อง ของขวัญก็คือของขวัญ ข้าไม่เกี่ยง”
ปัจจุบัน ซาลิเอลอยู่ในร่างสตรี เป็นผลจากการใช้ชีวิตร่วมกับไอรีนได้สักระยะ จนตระหนักว่าสตรีมักได้รับความรักมากกว่า
คล้ายกับเนเฟลิน่า เธอเข้าใจสรีระร่างกายมนุษย์อย่างทะลุปรุโปร่ง
“ขอโทษที่มาสาย”
เมอร์เซเดสมาถึงช้ากว่าใคร แก้มของเธอกำลังแดงระเรื่อ
เหตุใดราชาอัศวินผู้ต่อให้วิ่งเต็มฝีเท้ารอบกรุงไรน์ฮาร์ทก็ยังไม่หอบสักคำคนนั้นถึงหน้าแดงได้?
ไอรีนเผยความฉงนเล็กน้อยโดยไม่แสดงออก
ไอรีน ผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อมในฐานะราชินี
เมอร์เซเดส ผู้รักษาปณิธานอัศวินอย่างเข้มงวด
ซาลิเอล ผู้บังคับใช้ความยุติธรรมอย่างเถรตรง ไม่เว้นแม้แต่กับเทพสวรรค์
สตรีสามคนซึ่งมีจิตใจแน่วแน่ พวกเธอมีหลายสิ่งคล้ายคลึงกัน จึงเกิดการเชื่อมโยงทางอารมณ์ได้ง่าย และมักนัดพบกันในฐานะเพื่อสนิทที่เคารพซึ่งกันและกัน
ช่วงเวลาดื่มชาสั้นๆ หลังอาหารเช้า คือตัวกระชับความสัมพันธ์ชั้นดี
ซาลิเอลจ้องหน้าเมอร์เซเดสที่คล้ายกับกำลังกระอักกระอ่วน ตามด้วยเปิดปาก
“จากบรรดากิเลสทั้งหมด ราคะไม่ใช่บาป แต่ค่อนไปทางศักดิ์สิทธิ์ เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการขยายเผ่าพันธุ์”
“พรูด…!?”
เมอร์เซเดสพ่นชาเย็นในปากออกมาจนหมด
ทว่า ละอองฝอยของน้ำชามิได้กระเซ็นโดนตัวซาลิเอลแม้แต่น้อย
ละอองแสงที่แผ่รอบตัวซาลิเอล - ผลึกแสงจำนวนมหาศาลซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเม็ดทราย เป็นทั้งพลังเวทและพลังเทพของซาลิเอล ไม่มีสิ่งใดรุกล้ำเข้ามาในห้วงมิติเวทมนตร์แห่งนี้ได้ง่ายนัก
ซาลิเอลเอียงคอ
“เหตุใดต้องตกตะลึงถึงเพียงนี้? ข้าเพียงแนะนำว่าเจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับราคะ เนื่องจากเห็นว่าเจ้าแสดงสีหน้าเยี่ยงคนบาป… หรือว่ารู้สึกผิดที่มาสาย? เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้ากับไอรีนมาก่อนเวลานัดต่างหาก”
“พ…พ…พูดเรื่องอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย!”
แก้มเมอร์เซเดสแดงก่ำยิ่งกว่าเก่า
ราคะ? กลายเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?
กระทั่งเนตรมองทะลุก็ยังมิอาจอ่านสีหน้าไร้เดียงสาของซาลิเอล
“ระ…ระ…ระ…ราคะ?”
“เจ้ากำลังจะบอกว่าไม่ใช่? น่าแปลก… ภาพวาดที่อยู่ในห้องน้ำของเจ้า คือสิ่งที่เจ้าใช้สนองความต้องการทางเพศไม่ใช่หรือ? เจ้าชอบที่จะแช่กายในอ่างอาบน้ำพลางจ้องมองภาพวาดนั่นแล้วก็…”
รายละเอียดหลังจากนี้ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ
โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ซาลิเอลพรั่งพรูถ้อยคำลามกจกกระเปรตที่คนทั่วไปยากจะยอมรับ
เมอร์เซเดสที่สติหลุดลอยไปสักพัก เมื่อความคิดกลับคืนมาอีกครั้ง เธอรีบแหกปาก
“หยุด! หยุด! เงียบ!!”
เธอแอบดูฉันอาบน้ำตั้งแต่เมื่อไร?
เมอร์เซเดสอยากถามออกไป แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เงียบ
อัครเทวทูตซาลิเอล ตัวตนที่คอยเฝ้ามองบาปทั้งโลก แม้กระทั่งบาปของเทพสวรรค์
ยิ่งไปกว่านั้น ภารกิจของเธอคือการคุ้มกันไอรีน
เป็นธรรมดาที่สายตาของซาลิเอลจะสอดส่องไปทั่วทุกมุมกรุงไรน์ฮาร์ท
อีกทั้ง สามัญสำนึกของเทวทูตก็แตกต่างจากมนุษย์ ซาลิเอลคงไม่รู้จัก ‘ความเป็นส่วนตัว’ กล่าวคือ ถึงจะเถียงไป เมอร์เซเดสก็มีแต่จะพ่ายแพ้
“อ้อ…”
ไอรีนที่นั่งฟังบทสนทนาอย่างเงียบงัน เผยสีหน้ากระจ่าง
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่า แผ่นใสประหลาดที่เหล่านักแปรธาตุเรย์ดันรักษาไว้ด้วยชีวิตมีประโยชน์อันใด
ไอรีนทั้งประหลาดใจและกระอักกระอ่วน
แน่นอน เมอร์เซเดสไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาอีก
ไอรีนหันไปปลอบประโลมอีกฝ่ายที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาด้วยความอับอายและรู้สึกผิด
“อย่าได้กล่าวโทษตัวเองนักเลย เจ้าทำเพราะรักฝ่าบาทไม่ใช่หรือ?”
“…ค่ะ นอกจากนั้น แม้แต่ดิฉันเองก็ไม่คิดว่านักแปรธาตุของเรย์ดันจะยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องมัน”
กล่าวคือ เมอร์เซเดสไม่คิดจะสละชีวิตนักแปรธาตุเพียงเพื่อสนองความต้องการของตน
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ… แบบนี้มันน่าอายเกินไปแล้ว…
ไอรีนตบบ่าเมอร์เซเดสที่เงียบไปสักพัก
“ในเมื่อนักแปรธาตุเรย์ดันพยายามปกป้องไว้ด้วยชีวิต เธอก็ต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด… จงทำไปเถิด ไม่มีใครกล่าวโทษเธอได้”
แต่กลับกัน ซาลิเอลมิได้ปลอบใจเมอร์เซเดส
“ขอเตือนไว้ก่อน ในฐานะอัครสาวก เจ้าห้ามโทษว่าเป็นความผิดของเทพโอเวอร์เกียร์เด็ดขาด อย่าตีความว่าราคะของเจ้าเกิดขึ้นเพราะถูกพระองค์ทอดทิ้ง การตำหนิและสงสัยเทพด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ถือเป็นบาป… ข้าคิดว่าเทพอาจกำลังทดสอบเจ้า ผู้มีราคะรุนแรงกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า ดังนั้นเจ้าต้องอาศัยความศรัทธาที่มีต่อพระองค์เพื่อเอาชนะใจตัวเอง”
“…”
ฉันมาทำอะไรที่นี่?
เมอร์เซเดสที่อับอายจนทำอะไรไม่ถูก อยากให้ช่วงเวลาดื่มชาอันน่ากระอักกระอ่วนจบลงเสียที
***
อัครสาวกลำดับหก ซิก
เนื่องจากใช้ชีวิตในฐานะแกรนมาสเตอร์เป็นเวลาหลายร้อยปี คอยแทรกแซงกิจการภายในจักรวรรดิซาฮารันเป็นระยะ จึงเป็นธรรมดาที่จะมีอำนาจทางการเมืองมาก ลอเอลชื่นชอบซิกมาก เพราะอีกฝ่ายเก่งกาจทุกด้านสมฉายาแกรนมาสเตอร์ จึงมักมอบหมายให้ทำงานยากๆ ทุกรูปแบบในทางลับ
‘ตรวจพบคนทรยศหรือ?’
ณ วังหลวง
ซิกซึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงาน เอียงคอเล็กน้อยขณะจ้องเอกสาร
มันสัมผัสได้ว่า คลื่นพลังงานจากเมอร์เซเดสในมหาวิหารกำลังปั่นป่วน
ราชาอัศวินมิใช่ตัวตนที่จะเผยความปั่นป่วนบ่อยนัก แต่นี่ถึงขั้นผุดจิตสังหารและความกระวนกระวายขึ้นมาครู่หนึ่ง คล้ายกับได้เผชิญเหตุการณ์ที่ชวนให้ตกตะลึงสุดขีด
‘เดี๋ยวก็คงทราบสาเหตุ…’
ไม่มีความลับในหมู่เหนือมนุษย์
เมื่อก้าวไปถึงจุดที่สามารถมองทะลุทุกสิ่ง พวกมันย่อมมองเห็นความลับของกันและกันได้ง่ายดาย
เป็นข้อเท็จจริงที่ชวนให้สิ้นหวังสำหรับเมอร์เซเดส แต่นั่นก็เลี่ยงไม่ได้
ในกรุงไรน์ฮาร์ทมีสัตว์ประหลาดกระจุกตัวอยู่มากเกินไป
เปรี้ยง!
เสียงคำรามดังมาจากระยะไกล
ซิกมองออกไปนอกหน้าต่าง
เป็นระยะการมองเห็นที่น่าทึ่ง สามารถมองข้ามนาข้าวอันกว้างใหญ่นอกเมืองไปจนถึงยอดเขา
กายาครึ่งเทพที่ถูกเสริมด้วยพลังอักขระโบราณ
ด้วยสายตาที่ยอดเยี่ยมกว่าเนตรบาร์บาทอส ซิกเห็นบราฮัม
จากบรรดาสัตว์ประหลาดในกรุงไรน์ฮาร์ท ชายคนนี้อยู่ในลำดับต้นๆ
สีหน้าของชายผู้ศึกษาเวทมนตร์ชนิดใหม่มานานกว่าหลายเดือน ปัจจุบันไม่ค่อยมีความสุขนัก
ดูเหมือนมันจะไม่พอใจแขกที่มาพบกะทันหัน
แขกไม่ได้รับเชิญคือปิอาโร่
อ่อนแอที่สุดในหกอัครสาวกอย่างไร้ข้อกังขา
เป็นธรรมดาที่ปิอาโร่จะอ่อนแอ
พื้นเพของมันเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา
เทียบไม่ได้กับครึ่งเทพซิก บราฮัมบุตรเบริอาเช่ อัครเทวทูตซาลิเอล เนเฟลิน่าบุตรมังกรคลั่ง และเมอร์เซเดสเจ้าของเนตรมองทะลุ
‘คงแตกต่างออกไปถ้าเขาเป็นอริยดาบ’
ปิอาโร่มาจากซาฮารัน
แน่นอน ซิกรู้จักปิอาโร่เป็นอย่างดี ตัวปิอาโร่อาจไม่ทราบ แต่ซิกคอยจับตามองตั้งแต่อีกฝ่ายยังไม่ได้เป็นอัศวิน เป็นสัจธรรมของทุกยุคสมัยที่มนุษย์มากพรสวรรค์จะได้รับความสนใจ
และเป็นไปตามคาด ปิอาโร่มีพัฒนาการยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้นำกองอัศวินสีชาด มหาจอมดาบ ชาวนาในตำนาน และอัครสาวกแห่งเทพโอเวอร์เกียร์ในท้ายที่สุด
แม้จะยอมแพ้ในเส้นทางอริยดาบ แต่ปิอาโร่ก็ได้เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่
ในหมู่อัครสาวก ปิอาโร่อาจอ่อนแอที่สุดตีคู่มากับเนเฟลิน่า แต่ในสายตามนุษย์ปรกติ ทั้งสองเปรียบดังตัวตนที่มิอาจเอื้อม
ซิกนับถือปิอาโร่
ดูเหมือนว่าการมาเยือนบราฮัมครั้งนี้ก็เพื่อขอคำแนะนำ ซิกจึงคอยเอาใจช่วย
‘การใช้ปราณในขอบเขตพลังธรรมชาติ แตกต่างจากการโคจรพลังเวทโดยสิ้นเชิง แต่ว่า… ไม่ว่าฟางเส้นสุดท้ายจะบางสักเพียงใด เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากคว้ามันไว้ กำแพงตรงหน้าคือสิ่งที่ต้องรีบข้ามผ่านให้ได้โดยเร็ว’
ซิกที่กำลังครุ่นคิด เกิดชะงักมือกะทันหัน หยุดเซ็นเอกสารโดยไม่รู้ตัว
นั่นเพราะนาข้าวสีทองอร่ามรอบกำแพงเมืองไรน์ฮาร์ทกำลังสั่นไหวโดยพร้อมเพรียงประหนึ่งคลื่น ดอกไม้ใบหญ้าในสวนหลวงโยกคลอนอย่างอ่อนโยนแต่มีระเบียบ
ราวกับทั้งหมดตรวจจับการดำรงอยู่ของปิอาโร่บนยอดเขาอันห่างไกลและส่งพลังไปให้
หรือกล่าวได้ว่า ภาวะ ‘เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ’ ของปิอาโร่แผ่ขยายมาไกลถึงที่นี่
“…โฮ่”
นึกว่ากลับมาขอคำแนะนำหลังจากห่างหายไปนานเสียอีก
รอยยิ้มอันหายากแผ่ไปทั่วใบหน้าซิก
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 ★ ★ จบบริบูรณ์ ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
ซิกนี่ก็ยังขี้สงสัยเหมือนเดิม😂 แล้วประเด็นคือเมอเซเดสเธอทำอะไรนะ อิอิ😉
ReplyDelete