จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,603
จากคำบอกเล่าของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคนแรก น้ำลายของบาเอลคือสิ่งที่ให้กำเนิดอสูร และคนผู้นั้นยังเสริมความคิดส่วนตัวลงไปว่า หากผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคนใดจิตใจชั่วร้ายจากก้นบึ้ง อสุรกายที่น่าสะพรึงที่สุดจะบังเกิด
เผ่าดราโกเนี่ยนที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งให้โลกเห็นมายาวนาน แท้จริงแล้วถือกำเนิดจากเลือดเพียงหยดเดียว
กล่าวกันว่า เลือดของมังกรมารบันเฮเลียร์ บังเอิญตกลงไปในบ่อน้ำและทำให้มนุษย์ธรรมดากลายพันธุ์
เผ่าดราโกเนี่ยนที่สร้างชื่อเสียงและตำนานมากมาย อาจปฏิเสธเรื่องดังกล่าว แต่น่าเสียดายที่นั่นเป็นข้อเท็จจริง
อิทธิพลของตัวตนก้าวข้าม มากมายชนิดที่มิอาจใช้สามัญสำนึกทั่วไปกะเกณฑ์
เพียงวัตถุหรือพฤติกรรมเล็กน้อยในมุมมองคนทั่วไป สามารถสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ได้ง่ายดาย
‘แล้วนี่เป็นถึงเกล็ดมังกร’
เกล็ดมังกรไม่ใช่สิ่ง ‘เล็กน้อย’
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันคือส่วนที่แข็งที่สุดของมังกร
นี่เป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานพิสูจน์ และเป็นเหตุผลว่าทำไม เกล็ดถึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของมังกร
เกราะสัมบูรณ์
เกล็ดมังกรไม่เพียงเป็นวัสดุสร้างเกราะที่ดีที่สุด แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่
กล่าวได้ว่าเกล็ดมังกร สำคัญเป็นรองเพียงหัวใจและเขามังกร
‘เป็นธรรมดาที่เรดาร์จะทำงานผิดพลาด’
สิ่งประดิษฐ์ของคนยักษ์ทรงปัญญาที่ผ่านการวิจัยนานหลายปี
เรดาร์มังกรที่ตรวจจับพลังเวทและตัวตนของมังกรได้อย่างแม่นยำมาตลอด มิอาจจำแนกความแตกต่างระหว่างกริดกับมังกร
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
กริดกำลังหุ้มเกราะที่จำลองจากสิ่งมีชีวิตสัมบูรณ์
เป็นการลอกเลียนแบบที่ไร้จุดตำหนิ
ถุงมือและเกราะกางเกงสีเทา เปล่งแสงระยิบระยับราวกับพวกมันมีชีวิต
เกล็ดเล็กๆ จำนวนหลายร้อย หดและคลายอย่างต่อเนื่องประหนึ่งระลอกคลื่น
คล้ายกับพวกมันมีชีวิตและคอยขยับตัวตามการเคลื่อนไหวของกริด เพื่อไม่ให้กริดเกิดความอึดอัดในทุกอิริยาบถ
นี่ไม่ใช่กลไกเชิงเวทมนตร์ แต่เป็นผลลัพธ์จากเทคนิคในการผลิต
เทคนิคการผลิตของเทพ สามารถดึงประสิทธิภาพของเกล็ดออกมาได้ถึงขีดสุด
“ยินดีด้วย เจ้าประสบความสำเร็จในการเลียนแบบเกราะป้องกันโดยกำเนิดของตัวตนสัมบูรณ์ หลังจากนี้คงตายยากกว่าเดิมราวสองเท่า”
ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าสภา ฮายาเตะกล่าวชมเชย
รอยยิ้มแสนอ่อนโยนบนใบหน้าขุนนางสูงสง่า เข้ากันกับเครื่องแต่งกายเป็นอย่างดี
นักล่ามังกรฮายาเตะ
ตัวตนสัมบูรณ์เพียงหนึ่งเดียวในหมู่มนุษย์ ชีวิตของมันถูกมังกรครอบงำและกดดันมาตลอด
เจตจำนงของมังกรทำให้ฮายาเตะมิอาจตายด้วยความตั้งใจตัวเอง และมีชะตากรรมต้องถูกมังกรสังหารเข้าสักวัน
นั่นคือโชคชะตาที่มิอาจเลี่ยง เพราะมังกรไม่มีวันถูกกวาดล้าง
การตายของฮายาเตะ จะเลวร้ายที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยประสบ
นั่นคือข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครทราบนอกจากเจ้าตัว
“โล่งอกไปที… ข้าดีใจจริงๆ”
ฮายาเตะเป็นห่วงกริดอยู่เสมอ
เพราะชะตากรรมของมนุษย์รายนี้ ช่างคล้ายคลึงกับตนเหลือเกิน
มันเกิดความสงสารเมื่อตระหนักว่า กริดจะถูกเทพสวรรค์กำจัดเข้าสักวัน แม้จะทราบดีว่ากริดแข็งแกร่งเพียงใด
เมื่อตั้งตัวเป็นศัตรูกับสวรรค์ซึ่งเต็มไปด้วยเทวทูตและเทพที่เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง การต่อต้านย่อมไร้ความหมาย
ดังนั้น หากกริดกลายเป็นศัตรูกับมังกร ฮายาเตะเกรงว่าช่วงชีวิตที่เหลือของกริดอาจต้องดิ้นรนอย่างโดดเดี่ยว ต้องสูญเสียทุกสิ่งที่รักและสั่งสมมาอย่างยากลำบาก
นั่นคือเหตุผลที่ฮายาเตะทำงานหนักเพื่อกริดเสมอ
ทุกครั้งที่มังกรเฝ้ามองกริด ฮายาเตะจะแสดงตัวเพื่อดึงความสนใจมายังตน
ทั้งที่หวาดกลัวจนแทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่
มันทำไปเพราะเข้าใจหัวอก
เหตุผลที่ฮายาเตะโปรดปรานกริดเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเพราะชื่นชมในฝีมือและคาดหวังอนาคต
แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้มันยอมเสี่ยงชีวิต คือความเข้าอกเข้าใจ
อย่างไรก็ดี ในวินาทีนี้ ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไป
ไม่เพียงจะสื่อสารกับมังกร แต่กริดยังถือครองอำนาจมังกรไว้บางส่วน ไม่มีมังกรใดกล้าตั้งตนเป็นศัตรู เว้นเสียแต่มังกรโบราณ
แน่นอน นี่มิได้แปลว่ากริดสามารถประมาทมังกร แต่อย่างน้อยก็ช่วยตัดความกังวลออกไปได้หนึ่งเรื่อง
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ท่ามกลางชะตากรรมที่มีเพียงความสิ้นหวังรออยู่ แสงแห่งความหวังดวงเล็กๆ กำลังสว่างขึ้น
นั่นคือการตีความจากมุมมองของฮายาเตะ
มันเริ่มพบว่า กริดมีชะตากรรมที่แตกต่างจากตน
เทียบกันแล้ว ตนเป็นเพียงไอ้ขี้ขลาดที่เอาแต่หวาดกลัวและหลบหน้ามังกรมานานหลายปี
“ท่านฮายาเตะ”
ฮายาเตะที่ดำดิ่งในห้วงความคิด ถูกดึงสติกลับมาอีกครั้ง
สีหน้ายังคงไม่แปรเปลี่ยน
นับตั้งแต่วินาทีที่มันโล่งใจเมื่อเห็นชะตากรรมของกริดเปลี่ยนไป จนถึงวินาทีปัจจุบัน
ฮายาเตะอมยิ้มตลอดเวลา สายตาจ้องกริดด้วยความเอ็นดู
จนกระทั่งกริดเดินเข้ามาจับมือ
“ในอนาคตอันใกล้ ผมจะสร้างเกราะมังกรให้คุณ… คุณอาจไม่ต้องการมัน แต่ได้โปรดรับไว้ด้วย”
อริยดาบบีบันสามารถถืออาวุธประเภทดาบได้ทุกชนิดโดยไร้ข้อจำกัด ไม่สิ ไม่ใช่แค่นั้น ดาบที่บีบันถือจะทรงพลังขึ้นหลายเท่า เฉกเช่นดาบกูเซลที่สามารถฟันผ่านเกล็ดมังกรระดับสูงได้ง่ายดาย
ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงนักล่ามังกรฮายาเตะ
ชุดเกราะที่ผลิตจากชิ้นส่วนมังกร ย่อมถูกยกระดับเมื่อสวมใส่โดยชายคนนี้
เครื่องพิสูจน์ก็คือ เงื่อนไขการสวมใส่ที่หนึ่งในนั้นมี ‘นักล่ามังกร’ กำกับไว้
และในอนาคต กริดยังเก็บเกี่ยวเกล็ดเซนอนได้เพิ่มเติม
จึงเป็นธรรมดาที่ชายหนุ่มอยากเสริมความแข็งแกร่งให้ฮายาเตะ หนึ่งในพันธมิตรที่เก่งกาจที่สุด ด้วยชุดเกราะมังกร
‘เซนอนบอกว่าจะมอบเกล็ดให้เดือนละครั้ง…’
นานยี่สิบปีเต็ม นั่นคือคำสัญญาของเซนอน
ปริมาณเพียงพอสำหรับการผลิตเกราะแจกจ่ายให้ฮายาเตะ เมอร์เซเดส และพัฒนากลายเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากให้พวกพ้องคนสำคัญ
‘ไม่สิ… เซนอนอาจมอบเกล็ดให้แค่เดือนละหนึ่งชิ้น’
ชักเริ่มกังวลว่า ‘ระบบ’ จะจัดการความสมดุลอย่างไร
จริงอยู่ การได้เกล็ดเดือนละชิ้นอาจไม่ส่งผลกระทบต่อแผนของกริด แต่เวลาก็จะยืดออกไป
‘…ช่างเถอะ ถ้าเรารีบใช้จริงๆ แค่บอกให้เจ้าตัวดึงเกล็ดออกมาสิ้นก็เรื่อง’
พิจารณาจากนิสัยของเซนอน ทางนั้นคงไม่ปฏิเสธ
“…?”
กริดที่กำลังครุ่นคิด เผยสีหน้าประหลาดใจ
นั่นเพราะดวงตาของฮายาเตะที่กำลังจ้องมาทางตน เผยอาการสั่นระริกให้เห็น
ดวงตาสีฟ้าที่ใสเหมือนแก้วซึ่งไม่เคยสั่นไหวกับเรื่องใดมาก่อน
“ขอบใจมาก”
ขณะฮายาเตะเปิดปาก
[เทพโอเวอร์เกียร์กริดเขียนมหากาพย์บทที่สิบแปด]
[ณ หอคอยลึกลับ]
“เจ้ามอบความกล้าให้ข้า”
[นานมาแล้ว มนุษย์คนหนึ่งเคยบั่นเศียรมังกรป่วยที่ร่างกายโชกเลือด]
[นับแต่นั้น เขามีชะตากรรมต้องถูกโดดเดี่ยว]
[มนุษย์เพียงคนเดียวที่ก้าวไปถึงระดับตัวตนสัมบูรณ์ ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง]
[อายุขัยอันเป็นนิรันดร์ของเขาไม่ใช่พร หากแต่เป็นคำสาปอันโหดร้าย]
“ข้าจะใช้ชีวิตให้สมกับความใจดีของเจ้า”
[ตัวตนสัมบูรณ์มาพร้อมความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ เขาสร้างหอคอยลึกลับขึ้น และคอยปกป้องมวลมนุษย์ตามลำพัง เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขามีชีวิตอยู่เพื่อคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความกลัวเริ่มก่อตัวภายในใจ ทับถมกันจนกระทั่งสูงกว่ายอดหอคอย ความสิ้นหวังกัดกินจิตใจของเขาอย่างมิอาจเลี่ยง เขาลืมที่จะตำหนิผู้ใด เพราะต้องคอยรับมือกับเสียงคำราม โทสะ ความเกลียดชัง และจิตสังหารอันดำมืดของมังกร หัวใจของเขาค่อยๆ ดำดิ่งสู่ห้วงนรกอันไร้ก้นบึ้ง]
“ท่านฮายาเตะ…?”
ฮายาเตะคือขุนนางผู้สูงศักดิ์
แผ่นหลังของบุรุษที่คอยต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์ มักตั้งตรงอย่างสง่างามอยู่เสมอ
แม้แต่สภาหอคอยก็ไม่ทราบความเจ็บปวดที่ชายคนนี้ต้องเผชิญ อาจเพียงคาดเดาได้เลือนราง แต่ก็มิอาจจินตนาการว่าความเจ็บปวดที่ฮายาเตะต้องแบกรับบนบ่านั้นมากมายเพียงใด
กระทั่งพี่น้องฟรอนซาลล์ซึ่งอยู่ด้วยกันมานานนับพันปี ก็ยังไม่ทราบว่าฮายาเตะกำลังฝืนอดทนจนแทบเต็มกลืน
เดิมที นี่เป็นความลับที่จะถูกฝังไว้ตลอดกาล
แต่กริดกลับขุดคุ้ยมันขึ้นมา
สีหน้าชายหนุ่มเริ่มประหม่า ด้วยเกรงว่าฮายาเตะจะรู้สึกอับอาย
แต่ฮายาเตะยังคงยิ้ม
[เทพองค์ใหม่ที่เกิดจากความศรัทธาของมนุษย์ เทพโอเวอร์เกียร์กริด ช่วยดึงเขาออกจากห้วงนรกอันดำมืด]
[ฝ่ามือที่ผ่านการตีดาบมาหลายพันเล่ม ทั้งมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยพลัง เพียงพอที่จะเอาชนะน้ำหนักของความกลัวที่กดทับตัวตนสัมบูรณ์ไว้]
[เทพโอเวอร์เกียร์กริดออกแรงกระชากตัวตนสัมบูรณ์คนนั้น ดึงเขาขึ้นจากห้วงนรกในคราวเดียว]
“หากมีเจ้า ข้าก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป”
รอยยิ้มฮายาเตะสดใสขึ้นทันตาเห็น เป็นรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเผชิญความยากลำบากมากมาย
เขายิ้มแบบนี้ได้ด้วยหรือ?
หัวใจของเหล่าสภาที่มองดูฮายาเตะยิ้มจากก้นบึ้ง เกิดความตื้นตันเหนือพรรณนา
บีบันกำลังพรั่งพรูน้ำตาประหนึ่งไก่ท้องเสีย
[ตัวตนสัมบูรณ์ได้เข้าใจ]
[ข้าเองก็ เป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน]
[ข้าสามารถพึ่งพาดวงประทีป และข้าจะพึ่งพา]
[ขณะกล่าว เขากุมมือของเทพผู้เปรียบดังดวงประทีปของมวลมนุษย์]
“นับแต่นี้ไป ข้าจะสังหารมังกรโดยปราศจากความลังเล… แทนที่จะหวาดกลัวอนาคตซึ่งยังมาไม่ถึง ในเมื่อยังมีความหวัง ข้าขอทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าพลังที่ได้รับมามิใช่คำสาป หากแต่เป็นพร”
…
..
[เทพโอเวอร์เกียร์กริด เสร็จสิ้นการเขียนมหากาพย์บทที่สิบแปด]
[นามแห่งนักล่ามังกร ฮายาเตะ ถูกเปิดเผยสู่โลก]
[เรื่องราวของมังกรที่ถูกฝังอยู่ในทวีปจะทยอยปรากฏขึ้น]
นั่นคือข้อความโลก
[ระดับตัวตนของท่านเพิ่มขึ้นจากการเขียนมหากาพย์]
หน้าต่างข้อความระบบถัดจากนี้ คือสิ่งที่กริดเห็นแค่คนเดียว
[รางวัลตอบแทนการเขียนมหากาพย์เสร็จสมบูรณ์ ค่าความสัมพันธ์กับสภาหอคอยทุกคนกลายเป็นค่าสูงสุด]
[รางวัลตอบแทนการเขียนมหากาพย์เสร็จสมบูรณ์ ‘ฮายาเตะ’ ถูกเพิ่มเข้ามาในรายชื่อระบบ ‘สายสัมพันธ์’ ของท่าน]
[ปราณดาบของนักล่ามังกรฮายาเตะ อัดแน่นไปด้วยจิตสังหารที่เขาระงับไว้]
[ตัวตนสัมบูรณ์เพียงหนึ่งเดียวในหมู่มนุษย์ ได้รับความสามารถที่แท้จริงกลับคืนมา]
[นับแต่นี้เป็นต้นไป หอแห่งปัญญาจะแทรกแซงสันติภาพของโลกอย่างสุดความสามารถ จะไม่เพิกเฉยต่อความตายอย่างไม่เป็นธรรมของผู้คนอีก]
[ท่านค้นพบชิ้นส่วนลับ ‘บทบาทลับของหัวแถว’]
[ของรางวัลจากการค้นพบชิ้นส่วนลับ ท่านได้รับตำแหน่ง ‘สภาหอคอยลำดับสิบ’]
[ตำแหน่งสภาหอคอยทำให้ตำแหน่ง ‘หัวแถว’ ของท่านไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ตำแหน่งหัวแถวจะถูกส่งมอบให้บุคคลที่มีคุณสมบัติรองลงมา]
[ผู้เล่น ‘ครอเกล’ กลายเป็นหัวแถวคนใหม่]
“…”
เพียงแค่กริดบอกว่าจะสร้างเกราะมังกรให้
แค่คำไม่กี่คำ
แล้วนี่มันอะไร…
กริดที่เผยสีหน้างุนงงสักพัก เผยรอยยิ้มในท้ายที่สุด
ลำพังแค่ได้รับคำชมจากฮายาเตะและเหล่าสภา กริดก็ยินดีปรีดาเหนือคำบรรยายแล้ว
บางที คนเราอาจต่อสู้เพื่อให้มีช่วงเวลาแบบนี้
อย่างน้อย กริดก็คิดเช่นนั้น
***
<นักล่ามังกรมีตัวตนมาตั้งแต่ต้น? >
<นักล่ามังกรฮายาเตะกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในเวลานี้… อะไรคือตัวตนสัมบูรณ์? >
<หอคอยคืออะไร? >
<มรดกและเอกสารโบราณที่เกี่ยวข้องกับมังกรทยอยปรากฏขึ้นจากทั่วทุกมุมทวีป เนื้อหาเต็มไปด้วยข้อมูลเก่าแก่จากสมัยโบราณ… เป็นที่น่าสนใจว่า เนื้อเรื่องภาค ‘ประวัติศาสตร์โบราณ’ อาจมีจุดเริ่มต้นจากการที่กริดค้นพบเมืองคนยักษ์>
ข่าวด่วนพรั่งพรูอย่างไม่ขาดสาย
เพียงประเด็นเดียว เทียบเท่าพาดหัวข่าวของทั้งวันหรือหลายวัน
ผู้คนต่างพากับสับสน
ถึงแม้จะเคยชินแล้ว แต่เมื่อได้เห็นข้อความโลกสุดน่าทึ่งอีกครั้ง คงเป็นเรื่องยากที่จะนิ่งเฉยได้
และเฉกเช่นทุกครั้ง กริดคือตัวเอกของข้อความโลก
= หรือความจริงแล้ว กริดจะเป็นเทพแห่งเกม?
└ ก็อดกริดสมชื่อสินะ ฮะฮะ!
└ วิสัยทัศน์ของพีคซอร์ดช่างน่าทึ่ง!
└ เขาน่าจะเลิกเล่นเกมแล้วไปเป็นคนทรงแทนนะ
ราคาหุ้นของพีคซอร์ดพุ่งสูงขึ้นทันที
เพียงเพราะมันเป็นคนแรกที่ตั้งชื่อเล่น ‘ก็อดกริด’
เป็นปรากฏการณ์กึ่งติดตลกทางสังคม
แต่ก็มีบางส่วนที่คิดจริงจัง
ผู้คนจำนวนไม่น้อยโทรเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมเกาหลีใต้จงเจริญ เพื่อสอบถามว่าสลากกินแบ่งงวดต่อไปจะออกอะไร จนพีคซอร์ดไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปิดระบบลูกค้าสัมพันธ์ชั่วคราว
555พีกซอร์ดซวยจัด
ReplyDelete