จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,281
เบอินมีความฝันที่จะคืนชีพอุปราคา
มันปรารถนาจะฟื้นฟูชื่อเสียงของกลุ่มนักลอบสังหารอันดับหนึ่งของโลก ที่ใครต่อใครเคยพากันหวาดกลัวเพียงได้ยินชื่อ
ขั้นแรก มันปักมีดลงบนแผ่นหลังของลันเทียร์คนก่อน ผู้คอยดึงดันจะมอบตำแหน่งลันเทียร์ให้ศิษย์อ่อนหัดของตน ขั้นที่สอง เบอินขวนขวายศึกษาวิชาลับลันเทียร์ด้วยตัวเองทั้งที่มีพรสวรรค์ไม่เพียงพอ
แผนการของเบอินเต็มไปด้วยอุปสรรค
ทุกวินาทีคืออันตราย คล้ายกับต้องเดินไปบนเส้นเชือกพร้อมกับแบกหินก้อนใหญ่ไว้บนหลัง แม้แต่มันก็จำไม่ได้แล้วว่าตนเกือบร่วงลงไปกี่หน
แต่เบอินก็กัดฟันทนมาตลอด บรรจงก้าวไปข้างหน้าทีละนิดอย่างมั่นคง
และโอกาสก็มาถึง
ในวินาทีที่กบฏอีธานขว้างดาบปฐมซาฮารันใส่ฮวนเดอร์และชานสเลอร์ได้เอาตัวมาบังไว้ พลังอำนาจของดาบพลันแผ่ปกคลุมร่างกายคนทั้งสองอย่างท่วมท้น
เบอิน ผู้ไม่เคยใช้วิชาลับลันเทียร์ภายในวังหลวงเลยสักครั้งตลอดหลายสิบปี ฉกฉวยโอกาสอันหาได้ยากยิ่ง แผ่เงาดำปกคลุมท้องพระโรงโดยสมบูรณ์
นรกของมันจบลงแล้ว
วิชาลับลันเทียร์จะสมบูรณ์แบบหลังจากที่ตนดูดซับปราณสีชาดจากฮวนเดอร์อย่างสมบูรณ์
มันจะกลายเป็น ‘ราชันแห่งความมืด’ และคอยปกครองโลกใบนี้จากเบื้องหลัง
เมื่อเชือกเส้นบางแปรสภาพกลายเป็นสะพานหินแข็งแรง อารมณ์เปรมปรีดิ์พลันท่วมท้นภายในจิตใจจนเหนือพรรณนา เบอินเชื่อว่า ชะตากรรมอันน่ารันทดประหนึ่งถูกคำสาปมังกรจากชาติปางก่อนของตน ถึงคราวสิ้นสุดลงเสียที
อาศัยความวุ่นวายที่อีธานสร้างขึ้น เบอินรีบนำตัวฮวนเดอร์กลับไปยังรังลับของอุปราคาในสภาพยังมีชีวิต จากนั้นก็จับอีกฝ่ายขังในอุปกรณ์ชิงปราณสีชาดที่สร้างเตรียมไว้นานกว่า 20 ปี
ทีละเล็กทีละน้อย มันบรรจงดูดซับปราณสีชาดเข้ามาในร่างกาย
แต่ระหว่างนั้น ผีลันเทียร์ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง
ตรงข้ามกับเบอินที่มีข้อบกพร่องมากมายเนื่องจากเรียนวิชาลับลันเทียร์แบบครูพักลักจำ เทคนิคของอีกฝ่ายกลับแพรวพราวและแทบปราศจากจุดบอด แม้นบุคคลปริศนาจะมิอาจสำแดงเทคนิคระดับสูง แต่ด้วยท่าพื้นฐานที่เฉียบคมประหนึ่งฝึกฝนมาอย่างหนัก การผสมผสานของศาสตร์เงาและท่าโจมตีกายภาพ ทำให้เบอินหวนนึกถึงลันเทียร์คนก่อนตน
“ตกลงแล้ว… แกเป็นใครกันแน่…?”
“ศิษย์คาซิม”
“…!”
โชคชะตากำลังเล่นตลกหรืออย่างไร
เวรกรรมตามทันในวินาทีสุดท้ายก่อนที่แผนการของตนจะเสร็จสมบูรณ์
ทำไมต้องเป็นตอนนี้…
หากศิษย์คาซิมปรากฏตัวในตอนที่ตนเริ่มถอดใจและคิดล้มเลิกแผนการทั้งหมด ความปวดร้าวและทุกข์ทรมานก็คงไม่ทำร้ายจิตใจจนสาหัส
โลกช่างไม่ยุติธรรม
“ชิ… ฉันควรจะฆ่าตัดตอนมันแต่แรก”
ความเคียดแค้นของ คาซิม ศิษย์ลันเทียร์รุ่นก่อน ย่อมมากมายเป็นล้นพ้น และถึงจะไม่มีพรสวรรค์ในการเรียนทั้งสองสาย แต่หากเป็นสายที่ถนัด คาซิมย่อมพัฒนาไปจนสุดทาง
ย้อนกลับไปในอดีต เบอินอดขำไม่ได้เมื่อได้ยินลันเทียร์คนก่อนกล่าวว่า หากศิษย์ทั้งสองของตนร่วมมือกันในฐานะลันเทียร์หนึ่งเดียว กลุ่มอุปราคาจะมีลันเทียร์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ารุ่น 25 เสียอีก คำพูดดังกล่าวยังคงกังวานภายในใจเบอินจวบจนปัจจุบัน
ใครมันจะไปเชื่อเรื่องพรรค์นั้นลง…
นับแต่นั้น เบอินเริ่มปฏิเสธลันเทียร์คนก่อน และวางแผนก่อกบฏภายในองค์กร
ชิ้ง!
เบอินที่หวนนึกถึงความทรงจำสมัยเก่า ดึงสมาธิกลับมายังสถานการณ์ตรงหน้าและหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเงามืด
มันวางแผนลอบเข้าข้างหลังเฟคเกอร์
แต่แน่นอน เฟคเกอร์ไม่ยอมให้ทำ
ชายหนุ่มควบคุมเงาที่เบอินเตรียมสิงและเปลี่ยนมันให้เป็นถนนหนาม เบอินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการปล่อยมือจากเงาดังกล่าว
มันเตรียมย้ายไปซ่อนในเงาจุดอื่น แต่ยังไม่ทันจะได้หลอมรวม เงาจุดใหม่พลันแปรเปลี่ยนเป็นมีดเงานับสิบเล่ม ทิ่มแทงร่างกายเบอินจนเกิดบาดแผล
‘บ้าน่า…!’
พลังบงการเงาของอีกฝ่ายเหนือกว่าตน
เมื่อเงาที่มันพยายามควบคุมถูกเฟคเกอร์ช่วงชิงตัดหน้า มันย่อมหมดโอกาสตอบโต้โดยสิ้นเชิง
แถมความเร็วในการช่วงชิงของเฟคเกอร์ยังเพิ่มขึ้นทุกขณะ
บงการเงาได้เร็วกว่าเราเกือบสองเท่า…
แต่อย่างน้อย สมรรถภาพร่างกายของเราก็ยังสูงกว่าราวสองเท่า…
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองวัดฝีมือกันด้วยเทคนิคการโจมตีเชิงกายภาพ
กร็อบ!!
“อั่ก!”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เบอินจะรับมือท่าเตะอันเกิดจากการหลบหลีกอย่างคล่องแคล่วและการชิงจังหวะสวนกลับที่เฉียบคม
กำแพง
กำแพงสูงตระหง่านที่มันเคยลิ้มรสเมื่อครั้งอดีต แม้แผนการจะลอบโจมตีลันเทียร์คนก่อนจะราบรื่น แต่เบอินกลับปลิดชีวิตอีกฝ่ายไม่สำเร็จ
นั่นคือสิ่งที่เบอินมองเห็นจากเฟคเกอร์
มันจะไม่นึกถึงกำแพงนี้เลย หากอีกฝ่ายมิได้แสดงพื้นฐานของวิชาลับลันเทียร์ออกมาอย่างไร้จุดบอดเช่นนี้
อีกหนึ่งปัจจัยก็คือ การที่เบอินดันทุรังใช้วิชาลับลันเทียร์ฉบับไม่สมบูรณ์เข้าแลก แทนที่จะใช้วิชานักลอบสังหารดั้งเดิมของตน เพราะหากกระทำในสิ่งตรงกันข้าม ฝ่ายที่กุมความได้เปรียบจะเป็นเบอินอย่างไม่ต้องสงสัย แม้พลังชีวิตของมันจะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์เนื่องจากผ่านกระบวนการดูดซับปราณสีชาดก็ตาม
เบอินคำนวณพลาดมหันต์
มันเชื่อโดยไม่เคลือบแคลงว่า วิชาลับลันเทียร์ฉบับไม่สมบูรณ์ ทรงพลังกว่าวิชาที่ตนใช้จนชำนาญในฐานะมือขวาขององค์กร
หากมองในมุมปรกติ ความคิดนี้เป็นสิ่งถูก
แต่ไม่ใช่ในกรณีที่คู่ต่อสู้คือผู้เชี่ยวชาญวิชาลับลันเทียร์ระดับสูงกว่าตน
“ลงทุนทำถึงขนาดนี้แล้ว… คิดว่าฉันจะยอมถอดใจง่าย ๆ รึไง!!”
ซู่ว—!
ออร่าสีแดงพลันพวยพุ่งจากร่างเบอินทุกทิศ
ปราณสีชาดของฮวนเดอร์ที่ยังผสานกับร่างกายใหม่ไม่สมบูรณ์ ถูกฝืนดึงออกมาใช้ด้วยความจำยอม
เงารอบตัวถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดงเลือด วิชาบงการเงาของเบอินรวดเร็วขึ้นสองเท่า รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของ ‘ค่าปกครอง’ จนทำให้เฟคเกอร์ไม่สามารถช่วงชิงเงาไปเป็นของตน
เคร้ง!
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ศึกดวลอันดุเดือดที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้เริ่มต้นขึ้น
ภาพอันเลือนรางของเฟคเกอร์และเบอินปรากฏวิบวับท่ามกลางเงาน้อยใหญ่นับพันแห่งที่เกิดจากจุดอับแสงในถ้ำลึก และทุกครั้งที่มีเสียงปะทะ ประกายไฟเล็ก ๆ จะวูบวาบตามมาเสมอ
“…”
“…”
กลุ่มนักลอบสังหารของอุปราคาที่ถูกเบอินลักพาตัวมาล้างสมองและทำหมันตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มเผยสีหน้าบิดเบี้ยวอันเนื่องจากความสับสน
เหล่าสัตว์เลือดเย็นทุกตนที่ไม่เคยกะพริบตาแม้ในยามเฉียดใกล้ความตาย กำลังประหลาดใจเป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปี
แต่ไหนแต่ไร พวกมันถูกล้างสมองให้รับใช้ลันเทียร์เพียงผู้เดียวมาตลอด แต่ตรงหน้ากลับมีลันเทียร์มากถึงสองคน
ถูกต้อง
หน่วยลอบสังหารของอุปราคามิอาจแยกแยะความแตกต่างระหว่างเบอินและเฟคเกอร์
พวกมันที่จดจำเบอินในฐานะเจ้านายโดยใช้วิชาลับลันเทียร์เป็นสัญลักษณ์ ต่างงงงวยสุดขีด
ด้วยเหตุนี้ เบอินจึงไม่ได้รับความช่วยเหลือใด
“…แค่ก!”
“อั่ก…”
กี่สิบหนกันนะ
ไม่สิ อาจจะเกินกว่าร้อยหน
โลหิตดำทะมึนถูกพ่นออกจากปากเบอินและเฟคเกอร์ที่ใช้วิชาเคลื่อนเงาอย่างต่อเนื่องนานหลายนาที
ต่างฝ่ายต่างถูก ‘พิษลันเทียร์’ เล่นงานจนร่างกายอ่อนเพลีย กล่าวกันว่า พิษชนิดนี้ยังไม่มียารักษาให้หายขาด
หลังจากปะทะกันเกินกว่าร้อยกระบวนท่า ร่างกายของทั้งคู่ถูกถมไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน ผิวหนังปรากฏรอยฟกช้ำและดำคล้ำในบางจุด
ถึงตรงนี้ ทั้งคู่เริ่มแข่งกับเวลา
ยิ่งเอาชนะศัตรูตรงหน้าได้เร็ว ก็ยิ่งมีเวลาสำหรับถอนพิษด้วยเคล็ดวิชาพิเศษ
“กองทัพเงา”
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เฟคเกอร์ชิงลงมือก่อน
เงานับพันถูกบงการพร้อมกัน ทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นทหารถือหอกยาวในท่าแทง
กองทัพเงาคอยเป็นโล่ให้เฟคเกอร์ ขณะเดียวกันก็เป็นอาวุธคอยปองร้ายเบอิน
นี่คือวิชาที่เบอินยังเอื้อมไม่ถึง
ไม่สิ มันไม่มีวันเอื้อมถึง
หลักการของเทคนิคนี้ก็คือ ผู้ใช้วิชาจะบงการเงาจำนวนมากในคราวเดียวและเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นทหารหอก ถูกคิดค้นขึ้นหลังจากราชาเงา คาซิม บรรลุศาสตร์เงาของลันเทียร์และตีความในแง่มุมใหม่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นทำกลับให้เบอินมองเห็นโอกาสเอาชนะ
ปราณสีชาดมีอำนาจในการควบคุมสสาร
เกินกว่าครึ่งของกองทัพเงาที่เฟคเกอร์สร้าง พลันถูกย้อมกลายเป็นสีแดงฉานในพริบตา
“กองทัพเงา! …แค่ก!”
เดิมที สิ่งนี้คือพลังของคนอื่น
เบอินที่ฝืนเค้นปราณสีชาดออกมาจนถึงขีดจำกัดร่างกาย มีอันต้องได้รับบาดเจ็บภายในรุนแรงจนกระอักเลือดดำคำรบสอง โลหิตข้นสีเข้มทะลักออกจากตา หู จมูก และปาก ร่างกายโซซัดโซเซราวกับใกล้ล้มลงเต็มที
แต่ตรงกันข้ามกับสภาพร่างกาย สถานการณ์ของศึกดวลกำลังเข้าทางเบอินอย่างมาก
กองทัพเงาสีแดงเริ่มล้อมกรอบโจมตีใส่กองทัพเงาสีดำของเฟคเกอร์
ฉึกฉึก!
ซวก!
ทหารเงาจำนวนมากเปิดฉากกระหน่ำแทงหอกใส่กันและกัน
ทหารเงาสีดำที่ถูกเปิดศึกทีเผลอโดยทหารเงาสีแดงจำนวนมากกว่า ทยอยสลายไปกับความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว
ซู่ว!
เบอินและเฟคเกอร์ต่างหายตัวไปจากสนามรบที่เต็มไปด้วยความชุลมุน
หลังจากใช้ทักษะ ‘เคลื่อนเงา’ ย้ายตัวเองไปยังทหารเงาอย่างต่อเนื่อง คนทั้งสองประจันหน้ากันอีกครั้งกลางอากาศ
“ย๊ากกก!!”
เบอินคำรามอย่างฮึกเหิม
เงาดำเข้มข้นจากทั่วสนามรบกำลังถูกรวบรวมไว้รอบกำปั้นของมัน นี่คือเทคนิคที่ต้องพึ่งพาพลังบงการเงาอย่างมาก เป็นระดับที่แม้แต่ลันเทียร์คนก่อนยังก้าวไปไม่ถึง
ด้วยความช่วยเหลือจากปราณสีชาด มันก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมของตัวเองไปไกลหลายเท่า
เมื่อแขนขวาเหวี่ยงออกไปเป็นเส้นตรงและส่งความรู้สึกกลับมายังร่างกาย เบอินมั่นใจในชัยชนะของตนทันที
‘เสร็จฉัน!’
ในวินาทีที่โค่นศิษย์คาซิม มันจะกลายเป็นลันเทียร์อย่างสมบูรณ์แบบ ลันเทียร์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าคนใดทั้งหมดในประวัติศาสตร์
ความสำเร็จครั้งใหญ่จะเปลี่ยนให้เรากลายเป็นตัวตนเหนือมนุษย์…!
แสยะ
ท่ามกลางความดีใจ รอยยิ้มของคนผู้หนึ่งปรากฏในภาพการมองเห็นเบอิน
“ละโมบ”
เงามืดที่ดูเหมือนกับความว่างเปล่าเริ่มควบแน่นจนกลายเป็นจุดสีดำขนาดเล็ก ก่อนจะดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปโดยไม่มีข้อยกเว้น
นี่คือท่าไม้ตายของคาซิมที่ดัดแปลงนำแต่ข้อดีของวิชาลับลันเทียร์และวิชาลับดาลูก้ามาผสมผสาน
ในทางทฤษฎี ละโมบคือทักษะเชิงกายภาพที่ทรงพลังที่สุดในโลก สามารถดูดกลืนสสารทุกชนิดได้เหมือนกับหลุมดำ
ปึด!
ซู่ว…!
“บ…บ้าน่า!”
หัวจรดเท้า
ร่างกายทุกส่วนของเบอินถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไปโดยสมบูรณ์
แรงดันปริมาณมหาศาลบีบอัดร่างเบอินจนมีสภาพไม่ต่างจากกระดาษถูกขยำ คล้ายกับหลุมดำกำลังกลืนกินเหยื่ออย่างตะกละตะกลาม
“คึ่ก! อ๊ากกกกกก!!”
ปึด! ปึด!
เสียงแหกปากสุดแสนสยดสยอง ดังก้องไปทั่วถ้ำลึกและคับแคบ
ทหารเงาสีแดงซึ่งใกล้จะกำชัยเหนือทหารเงาสีดำ พลันหยุดชะงักอย่างพร้อมเพรียงและเลือนหายไปราวกับเป็นภาพลวงตา
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
วิชา ‘ละโมบ’ ของเฟคเกอร์ยังมีระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับคาซิม
เงื่อนไขการใช้งานก็คือ เป้าหมายต้องมีพลังชีวิตต่ำกว่า 15% เท่านั้น
หาก ‘พิษลันเทียร์’ ไม่ใช่ทักษะแบบ DoT* เลือดเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการลดเลือดด้วยค่าคงที่แทน เฟคเกอร์คงไม่มีโอกาสได้ใช้ ‘ละโมบ’ ใส่เบอินแน่นอน
(*Damage over time – ความเสียหายที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการใช้งานทักษะจะจบลงไปแล้ว)
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เฟคเกอร์ก็คือผู้ชนะ
พิษของลันเทียร์อยู่ในการคำนวณตั้งแต่แรก และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟคเกอร์มั่นใจว่า ตนสามารถโค่นเบอินลงได้
หรือก็คือ นี่เป็นชัยชนะที่เกิดจากการวางแผน
[ท่านกลายเป็นนักลอบสังหารในตำนาน!]
[ท่านคือ ‘ลันเทียร์’ !]
[เลเวลของท่านกลายเป็น 1]
หน้าต่างแจ้งเตือนแสดงข้อความที่มันควรจะยินดีปรีดา
ในยามปรกติคงเป็นเช่นนั้น
เพียงแต่ตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนัก
“…”
“…”
นักลอบสังหารจำนวนหลายร้อยเริ่มรุมล้อมเฟคเกอร์ที่หมดทางสู้
พวกมันทั้งหมดคือกลุ่มนักฆ่าของอุปราคา
ตุ๊กตาที่เบอินคอยชุบเลี้ยงเป็นอย่างดีตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
ขณะจ้องหน้าเฟคเกอร์ด้วยดวงตาไร้อารมณ์ พวกมันก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับชักมีด
จากนั้น ทุกคนตวัดมือกลับและกรีดเลือดลงบนเงาของเฟคเกอร์
“พวกเราขอรับใช้ลันเทียร์คนใหม่ตราบเท่าที่ชีวีจะหาไม่!”
***
“…”
เฟคเกอร์ที่หวนนึกถึงเหตุการณ์ระหว่างตนกับเบอินเมื่อไม่กี่วันก่อน พลันตื่นจากภวังค์
ภาพตรงหน้าคือกริด ผู้กำลังใช้เวลาร่วมกับครอบครัวก่อนจะเดินทางไปยังทวีปตะวันออก เมื่อเห็นเช่นนั้น เฟคเกอร์หันไปออกคำสั่งกับเหล่านักลอบสังหารในเงามืด
“นับแต่นี้ไป อุปราคาจะอยู่ภายใต้การปกครองของหน่วยโอเวอร์เกียร์เงา”
“รับบัญชา!”
กลุ่มนักลอบสังหารที่ก่อตั้งมานานกว่าพันปี
หนึ่งในองค์กรลับที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ บัดนี้ถูกโอเวอร์เกียร์ฮุบกลืนอย่างสมบูรณ์
ชื่ออัปมงคลอย่างอุปราคาถูกยกเลิก และถือกำเนิดใหม่ภายใต้นามอันเจิดจรัสและน่าเกรงขามอย่าง ‘เงาแห่งโอเวอร์เกียร์’
“ท…ทำไมกัน…”
ลอเอลส่งเสียงสะอื้น แต่เฟคเกอร์หาได้แยแส
ในตอนนี้ ‘โอเวอร์เกียร์’ ได้กลายเป็นนามอันศักดิ์สิทธิ์และความภาคภูมิใจของเฟคเกอร์
______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,697
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
Comments
Post a Comment