จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,261
อีโก้ในหัตถ์เทวะมิได้เกิดจากเวทมนตร์ แต่เป็นผลจากการทารุณกรรมดวงวิญญาณผู้อื่น
เมื่อได้เผชิญกับความจริงอันน่ารังเกียจ กริดพลันเกิดความขยะแขยงจากก้นบึ้ง
เฉกเช่นดวงวิญญาณของสองสันตะปาปา คนหนึ่งถูกฝังในดาบซึ่งต้องคอยเฝ้าสุสานดาบ และอีกคนถูกฝังในโลงศพไม้สำหรับผนึกแวมไพร์สาวสายทรงพลัง
‘แพ็กม่า… คุณสังเวยไปแล้วกี่คน…’
คุณธรรมของคุณคือสิ่งที่ถูกต้องแน่หรือ?
เงื่อนไขสำคัญสำหรับใช้งาน <บรรจุอีโก้> คือต้อง ‘ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย’ เสียก่อน
ด้วยหลักการดังกล่าว กริดสันนิษฐานว่า ความสัมพันธ์ระหว่างแพ็กม่าและองค์ราชินีเองก็คงไม่ธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มยังไม่เชื่อสนิทใจ
‘นอกจากบราฮัม คุณยังทรยศคนอื่นอีกหรือ’
เมื่อหวนนึกถึงบางความทรงจำ ใบหน้ากริดเริ่มเผยความขื่นขม
ภาพของแพ็กม่ากำลังยืนปักหลักปกป้องหมู่เกาะเบเฮ็นตามลำพังด้วยอารมณ์เศร้าหมอง กำลังฉายในหัวชายหนุ่มอย่างแจ่มชัด
ถูกต้อง ใบหน้าของแพ็กม่าในยามนั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิด จนเดาได้ไม่ยากว่า อีกฝ่ายเผชิญความทุกข์ทรมานมากเพียงใด จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องเกลียดชังไปมากกว่าเดิม
กริดสลัดความคิดส่วนเกิน
ชายหนุ่มเพ่งสมาธิเพื่อลืมเรื่องของแพ็กม่า และหันมาใส่ใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน
‘รับภารกิจ’
กริดเห็นอกเห็นใจและเคารพการตัดสินใจของแพ็กม่า แต่มิได้นึกเชิดชูวีรกรรมดังกล่าว
เพื่อประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจน กริดเลือกทางเดินที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
[ภารกิจใหม่ถูกสร้างขึ้น]
<เส้นทางที่ต่างจากแพ็กม่า>
ภารกิจประจำคลาส
หลังจากเดินทางมาถึงทาลิม่า ท่านได้ทราบข้อมูลใหม่อันน่าตกตะลึง
จงรวบรวมเบาะแสของอดีตราชินี และค้นหาต้นกำเนิดของพาเฟรเนี่ยมให้พบ
* ภารกิจต่อเนื่อง
นี่คือภารกิจที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตกริด
เมื่ออ่านจบ ชายหนุ่มเริ่มกลับมาสู่บรรยากาศแห่งความเป็นจริงรอบตัว
สายตาจำนวนมากของเหล่าคนแคระกำลังจ้องมองชายหนุ่ม—ผู้กำลังคุกเข่าขอโทษ—ด้วยความรู้สึกสับสนปนประหลาดใจ
กริดกล่าวออกไปตามความรู้สึก
“ผมเป็นเพียงผู้ที่ได้อ่านหนังสือของแพ็กม่าและสืบทอดเทคนิคต่อจากเขา ยังไม่เคยพบกับแพ็กม่าตัวจริง ไม่ทราบต้นกำเนิดของแร่พาเฟรเนี่ยม และไม่เคยรู้จักอดีตราชินีของพวกคุณมาก่อน… ได้โปรดเล่าให้ผมฟัง อดีตราชินีของพวกคุณเป็นใคร และดวงวิญญาณของเธอถูกบรรจุลงไปในพาเฟรเนี่ยมได้อย่างไร”
“อา…”
เหล่าคนแคระที่เคยพบกับแพ็กม่าตัวจริง รวมถึงเพลล็อต ย่อมทราบว่าแพ็กม่ามีนิสัยเป็นเช่นไร
บุคคลผู้ทำตัวประหนึ่งคุณธรรมของตนถูกต้องเสียเต็มประดา ไม่เคยยอมรับฟังคำคัดค้านจากผู้อื่น ไม่เคยคุกเข่าให้ใครหน้าไหน ดื้อรั้นกับคุณธรรมอันบิดเบี้ยวของตนเป็นอย่างมาก และคอยดูแคลนทุกคนที่เห็นต่าง
“เจ้าชื่อกริดใช่ไหม…”
ชายหนุ่มผู้ประกาศว่าตนสืบทอดเพียงเทคนิคและวิชาของแพ็กม่า หาใช่คุณธรรมและเจตจำนง
เมื่อประจักษ์เต็มสองตา เหล่าคนแคระเริ่มพบความแตกต่าง
สมแล้วที่แม้แต่เทพแห่งการตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย ก็ยังให้การยอมรับ…
มันคงดีกว่า หากพวกตนจะใจเย็นลงและพูดคุยกันอย่างสันติ
ทั้งหมดก็เพื่อการพักผ่อนอันเป็นนิรันดร์ขององค์ราชินี
เมื่อตระหนักว่าพาเฟรเนี่ยมอยู่ในมือกริด เพลล็อตมองตาพวกพ้องและหันกลับมากล่าวกับชายหนุ่ม
“มาริเบล·บี·ทาลิม่า อดีตราชินีของพวกเรา เธอคือคนแคระคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถสร้างอาวุธเกรดมิธ ‘สมบูรณ์แบบ’ ได้สำเร็จ คนแคระทั้งหมดจึงพร้อมใจกันสถาปนาเธอให้เป็นผู้ปกครองสูงสุดของเผ่าพันธุ์”
เพลล็อตเคยเป็นช่างตีเหล็กหลวงผู้ถวายการรับใช้มาริเบลมานาน อีกทั้งยังเคยผ่านประสบการณ์ก้าวข้ามความตายด้วยความหลงใหลและจดจ่อ จึงรู้จักการวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์
แตกต่างจากคนแคระทั่วไป เมื่อกริดตอบสนองในเชิงบวก เพลล็อตจึงแสดงการให้เกียรติต่อช่างตีเหล็กในตำนาน
“ทั้งสายตาและเทคนิคของเธอไร้จุดตำหนิ…”
กระจกตาของเพลล็อตเริ่มฉายภาพของอดีตและความทรงจำสมัยเก่า
กริดเริ่มถูกดูดให้ดำดิ่งเข้าไปในเหตุการณ์
***
คนแคระเก่งกาจในการสร้างทุกสิ่ง
ต้องขอบคุณพรสวรรค์ด้านความชำนาญมือและหัวศิลป์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
พวกมันจำแนกได้ว่าสิ่งใดงดงาม และเลือกที่จะไม่สร้างวัตถุซึ่งขาดความวิจิตร
กล่าวกันว่า จุดสูงสุดของอารยธรรมคนแคระคือวังหลวงอันแสนสง่างาม
สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างด้วยเทคนิคเหนือชั้นและองค์ประกอบเชิงศิลป์ในระดับสูงสุด
“ฮุฮุฮุ!”
ก่อนจะถูกขนานนามให้เป็นองค์ราชินี
มาริเบล ผู้พิสูจน์ว่าตนคู่ควรกับตำแหน่งด้วยการสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีมากมาย รู้สึกหลงใหลในความงามของวังหลวงของคนแคระเหนือสิ่งอื่นใด
ด้วยพรสวรรค์ทางด้านศิลปะในสายเลือดเผ่าพันธุ์คนแคระ มาริเบลชื่อว่า วังของเธอคือวัตถุซึ่งมีความงดงามเป็นอันดับหนึ่งในโลก
แต่แล้ววันหนึ่ง ความเชื่อดังกล่าวได้พังครืน
“ผมต้องการคำชี้แนะ”
“…!”
มนุษย์ผู้มีเส้นผมและดวงตาสีดำเงางาม
ในวันที่แพ็กม่ามาเยือนทาลิม่า สีหน้าและแววตาของมันเผยความอ้างว้างโดดเดี่ยว ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าบาดเจ็บ
บรรทัดฐานความงดงามในใจมาริเบลเริ่มถูกสั่นคลอน
“ง…งดงาม… งดงามมาก!”
แพ็กม่ามีผิวพรรณขาวเนียนและเจิดจ้าราวกับหิมะสะท้อนแสงแดด วังหลวงที่สร้างจากทองคำล้วนดูหม่นหมองไปถนัดตา
“กรี๊ดดด!”
“…?”
การปรากฏตัวของแพ็กม่า ซึ่งเปลี่ยนให้วังหลวงกลายเป็นเพียงหมึกกล้วย ได้สร้างความยินดีปรีดาแก่มาริเบลเป็นอันมาก
หญิงสาวตกหลุมรักแพ็กม่าตั้งแต่แรกพบ จากนั้นก็เริ่มใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จนเทคโนโลยีการตีเหล็กของโลกกึ่งกลาง ซึ่งเคยหยุดพัฒนามานานหลายปี ถูกยกระดับอย่างก้าวกระโดด
แพ็กม่าสร้างไอเท็มประเภทเติบโตถึงเกรดเลเจนดารีสำเร็จ ส่วนมาริเบลได้รับสมญานาม <ราชินี> อันหมายถึง ‘มารดาแห่งยุทธภัณฑ์’ เนื่องจากเป็นผู้สร้างไอเท็มที่สามารถเติบโตถึงเกรดมิธสำเร็จเป็นคนแรก
***
“…เป็นพี่ชายที่ไม่เลว”
หลังจากภาพตรงหน้ากลับสู่ภาวะปรกติ กริดส่งเสียงรำพันแผ่วเบา
“อะไรนะ?”
“เปล่า ผมพูดกับตัวเอง… แต่ว่ากันตามตรง ท่านมาริเบลคือช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยม เธออัจฉริยะยิ่งกว่าแพ็กม่าเสียอีก”
“ต้องแน่นอนอยู่แล้ว! ท่านราชินีได้รับการขนานนามให้เป็นมารดาแห่งยุทธภัณฑ์ เดิมที ตำแหน่งช่างตีเหล็กในตำนานควรเป็นของเธอ มิใช่แพ็กม่า”
‘นึกแล้วเชียว…’
หากมาริเบลมุ่งเน้นการผลิตผลงานเกรดเลเจนดารีออกมาเป็นจำนวนมาก เธอคงเป็นคนแรกที่ได้ครอบครองตำแหน่งช่างตีเหล็กในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เรื่องนั้นไม่เกิดขึ้น เพราะมาริเบลโลภเกินไป
‘หลังจากได้พบกับแพ็กม่า เธอปรารถนาให้ผลงานของตนมีประสิทธิภาพก้าวข้ามขีดจำกัดของธรรมชาติ’
เป็นพวกยึดมั่นในอุดมคติ
แถมยังหลงใหลความสมบูรณ์แบบ
การจะสร้างดาบขึ้นมาสักเล่ม มาริเบลคาดหวังให้ดาบของตน ‘ปราศจากข้อเสียและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกแง่มุม’
สิ่งนี้เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
ไอเท็มที่เธอสร้างขึ้นในวัยเยาว์ล้วนมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มิอาจฝืนกฎของธรรมชาติ จึงเกิดผลข้างเคียงมหาศาลตามมา ส่งผลให้มีเกรดออกมาต่ำกว่าความเป็นจริง
‘ไม่อยากจะคิดว่า หากเธอพัฒนาตัวเองจนฝีมือเบ่งบานสุดขีด มาริเบลจะสร้างไอเท็มมหัศจรรย์ได้ขนาดไหน…’
ชักอยากรู้แล้วสิ หลังจากเหตุการณ์ในความทรงจำเพลล็อตราวหนึ่งร้อยปี ฝีมือของเธอจะพัฒนาไปไกลเพียงใด…
มาริเบลประสบความสำเร็จกับอุดมคติของตัวเองหรือไม่?
‘อา…’
เมื่อครุ่นคิดกับตัวเองสักพัก กริดเริ่มตระหนักถึงความจริงข้อหนึ่ง
ชายหนุ่มกำลังตื่นเต้นกับเรื่องที่ว่า ตนบังเอิญได้ทราบข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์เข้าอีกแล้ว
เรื่องราวของราชินีมาริเบลช่วยให้กริดระลึกได้ว่า โลกของซาทิสฟายกว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด อีกทั้งยังเป็นแรงกระตุ้นให้ชายหนุ่มพยายามผลักดันตัวเองอย่างหนัก เพราะบางที ตนอาจได้พบกับมาริเบลหรือแพ็กม่าคนที่สองและสามในอนาคต
ถ้าเป็นคนปรกติ คงนึกกังวลว่าตนอาจได้พบศัตรูอันตรายเข้าสักวัน หากมุ่งมั่นสำรวจโลกอันกว้างใหญ่มากเกินไป
แต่กับกริดแล้วไม่ใช่
มันเชื่อว่ารากฐานในปัจจุบันของตนทั้งมั่นคงและแข็งแรง จนไม่จำเป็นต้องหวาดหวั่นต่อสิ่งใด
“การเติบโตขององค์ราชินีเป็นแบบอย่างอันดีแก่คนแคระทั่วทั้งทาลิม่า ทุกคนมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยในเวลานั้น ทราวก้าได้ออกจากรังเพื่อตามหาหัวขโมย ส่งผลให้บุคคลคนภายนอกเดินทางเข้ามาในทาลิม่าได้อย่างอิสระ ผลงานอันยอดเยี่ยมของพวกเราจึงเริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วโลก ทุกคนอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
“…แต่เป็นความสุขที่แสนสั้น”
“ถูกต้อง สั้นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ โดยหลังจากความสุขผ่านพ้นไป คนแคระต้องเผชิญกับฤดูหนาวอันยากลำบากมาตลอด”
ดวงตาเพลล็อตเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนเส้นผมของมัน ริมฝีปากสั่นระริกคล้ายฝืนระงับมิให้ส่งเสียงร้อง
ผ่านไปสักพัก เพลล็อตเปิดปากเล่า
“พวกเราไม่มีวันลืม… ไม่มีวันลืมฝันร้ายในวันที่องค์ราชินีผู้ยังเยาว์วัย ต้องจากโลกนี้ไปก่อนกำหนดอย่างกะทันหัน”
“…อย่างกะทันหัน?”
กริดเริ่มผุดความไม่สบายใจ
จากฉากในอดีต ราชินีมาริเบลยังเด็กมาก
มิได้ใกล้เคียงกับการเสียชีวิตตามอายุขัยเลยสักนิด แต่เพลล็อตกลับบอกว่าเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหัน?
‘อย่าบอกนะว่า…’
กริดพลันเย็นไปทั้งตัว เมื่อหวนนึกถึงภาพที่แพ็กม่าใช้ดาบแทงบราฮัมจากด้านหลัง
‘เป็นไปไม่ได้… แพ็กม่าไม่มีเหตุผลให้ต้องฆ่าราชินีมาริเบลสักหน่อย’
แพ็กม่าอาจเคยทรยศบราฮัมจนถึงขั้นเอาชีวิต แต่พฤติกรรมดังกล่าวมีเหตุผลรองรับอยู่หนึ่งข้อ นั่นคือเรื่องที่บราฮัมเป็นเผ่าอสูร
ถูกต้อง ในกรณีของบราฮัม อย่างน้อยแพ็กม่าก็ยังมีเศษเสี้ยวความชอบธรรมหลงเหลืออยู่
แต่ราชินีมาริเบลเป็นคนแคระ ห่างไกลจากเผ่าอสูรที่เป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติอย่างมาก ออกจะตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เธอคือหนึ่งในบุคคลที่สามารถยกระดับคุณภาพโลกกึ่งกลาง
แพ็กม่าไม่น่าจะฆ่าเธอเพียงเพราะต้องการบรรจุดวงวิญญาณลงในแร่…
“แพ็กม่า…! นับตั้งแต่แพ็กม่าหักหลังและช่วงชิงวิญญาณขององค์ราชินีไป ทาลิม่าของพวกเราก็ประสบความสั่นคลอนอย่างหนักหน่วง!!”
“…!!”
สมองกริดพลันขาวโพลน
รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของมาริเบลในความทรงจำเพลล็อต รวมถึงรอยยิ้มแฝงความเอ็นดูที่แพ็กม่ามองไปทางหล่อน กำลังฉายซ้ำในหัวกริดอย่างชัดเจน
ตุ้บ!
เพลล็อตทรุดคุกเข่าอย่างไร้เรี่ยวแรง สองมือของมันเหยียดจับขากริด
“ได้โปรด… ได้โปรดปลดปล่อยดวงวิญญาณขององค์ราชินีให้เป็นอิสระด้วยเถิด!”
“พวกเราขอร้อง!”
“ได้โปรด!!”
ถ้อยคำวิงวอนของเพลล็อตถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังคนแคระทุกคน
พวกมันคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง พลางก้มศีรษะให้กริดอย่างนอบน้อม
“พวกเรายินดีมอบทุกสิ่งให้เจ้า! แม้อายุขัยจะมีขีดจำกัด แต่ข้าขออุทิศเวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่ เพื่อใช้ถ่ายทอดทุกเทคนิคของคนแคระที่เจ้าปรารถนา… ขอเพียง… ได้โปรด”
ชิ้ง—!
เนื้อหาของภารกิจมีการเปลี่ยนแปลง
<เส้นทางที่ต่างจากแพ็กม่า>
ภารกิจประจำคลาส
เพลล็อตและช่างตีเหล็กคนแคระทุกคนที่บอกเล่าความจริงกับท่าน ต่างกำลังคุกเข่าอ้อนวอน
จงปล่อยดวงวิญญาณของราชินีมาริเบลที่ถูกจองจำภายใน <ละโมบ>
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :
- เดินทางไปยังวังหลวงของคนแคระและปลดปล่อยดวงวิญญาณราชินีให้เป็นอิสระ
ผลลัพธ์หากภารกิจสำเร็จ :
- พาเฟรเนี่ยมจะสูญเสียคุณสมบัติ ‘อีโก้’
รางวัลภารกิจ :
- ทักษะ <เทคนิคการสร้างไอเท็มอีโก้ขั้นสูง>
<เทคนิคการสร้างไอเท็มอีโก้ขั้นสูง>
ประเภท : ติดตัว
เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสปานกลางที่จะสื่อสารกับไอเท็มและปลุกดวงวิญญาณให้ตื่นขึ้น
“…!”
กริดเพิ่งตระหนักอย่างถ่องแท้ถึงความแตกต่างระหว่างทักษะ <บรรจุอีโก้> และการสร้างไอเท็มแฝงอีโก้แบบทั่วไป
อันที่จริง มันพอจะเดาออกมาสักพักแล้ว
ทักษะ ‘บรรจุอีโก้’ คือการนำดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตใดก็ตามในซาทิสฟาย บรรจุลงในไอเท็ม แต่การสร้างไอเท็มอีโก้ทั่วไป คือการสื่อสารและปลุกจิตวิญญาณของไอเท็มให้ตื่นขึ้นระหว่างขั้นตอนการผลิต
กริดเองก็เคยบังเอิญสร้างไอเท็มแฝงอีโก้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาละโมบ และนั่นคือประเภทหลัง
แตกต่างจากทักษะบรรจุอีโก้ซึ่งทำให้วิญญาณดวงหนึ่งถูกกักขังในไอเท็มตลอดกาล การปลุกอีโก้จากไอเท็ม จะช่วยให้ไม่ต้องเผชิญภาระทางจิตใจอันหนักหน่วง
แต่ในเชิงประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าประเภทหลังยังห่างชั้นกับไอเท็มที่ใช้ทักษะบรรจุอีโก้ค่อนข้างมาก เพราะไอเท็มแฝงอีโก้ตามธรรมชาติเกือบทั้งหมดจะมีเกรดไม่สูง
ถือเป็นอีกหนึ่งความหนักใจสำหรับกริด
“ถ้าเป็นเจ้า… จะต้องสื่อสารกับวัตถุได้แน่ เพราะเจ้าแตกต่างจากแพ็กม่า!”
“…”
กริดคิดหนัก ยังคงนิ่งเงียบ มิได้มอบคำตอบกลับไปในทันที
เป็นเรื่องปรกติที่จะใคร่ครวญอย่างละเอียด เพราะตนอาจต้องสูญเสีย <ละโมบ> แสนสำคัญไปตลอดกาล
อย่างไรก็ตาม ความกังวลคงอยู่ไม่นานนัก
“ตกลง”
ในเมื่อคนแคระนับหมื่นปรารถนาให้ดวงวิญญาณของราชินีถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ
แล้วตนจะแบกรับความรู้สึกนั้นได้จริงหรือ
ไม่มีทาง
ถึงจะทำใจได้ยาก แต่กริดก็ไม่ต้องการให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป
มันวางแผนสร้างพาเฟรเนี่ยมที่สองขึ้นมาใหม่ ด้วยดวงวิญญาณที่ตนต้องการ
หากพยายามอย่างหนักจนอีโก้ภายในไอเท็มถูกปลุกขึ้นมา บางที เราอาจสร้างแร่คุณภาพสูงยิ่งกว่าละโมบในปัจจุบันเสียอีก…
‘ต้องเป็นแร่ของเรา… ไม่ใช่ของแพ็กม่า…’
กริดกล่าวเพื่อสงบสติเพลล็อตผู้กำลังเผยสีหน้าตกตะลึง
“ปลดปล่อยดวงวิญญาณของราชินีกันเถอะ”
“จ… เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม…”
“ผมไม่ได้มาเยือนทาลิม่าเพื่อทำร้ายใคร ไม่มีเหตุผลให้ต้องโกหกหรือล้อเล่น”
“ขอบคุณ… ขอบคุณมาก!!”
“ขอบคุณ!!”
เสียงตะโกนเฮแฝงความยินดีซึ่งห่างหายไปจากทาลิม่านานนับร้อยปี ยามนี้กำลังกังวานกึกก้องไปทั่วร้านตีเหล็กอย่างมีชีวิตชีวา สีหน้าของเหล่าคนแคระกำลังเผยความสุขเปี่ยมล้น
[ความสัมพันธ์กับช่างฝีมือคนแคระ ‘เพลล็อต’ เพิ่มขึ้นถึงค่าสูงสุด]
[ค่าความสัมพันธ์กับคนแคระทั้งหมดในทาลิม่าเพิ่มขึ้น 80 หน่วย]
[หากท่านซื้อสินค้าในทาลิม่า จะได้รับส่วนลดจำนวน 80%]
[พ่อค้าในทาลิม่าจะรับซื้อไอเท็มของท่านในราคาสูงกว่าท้องตลาดเล็กน้อย]
‘ไม่เลว’
กริด ผู้เผยสีหน้าพึงพอใจ ออกเดินทางไปยังพระราชวังอันสง่างามของเผ่าคนแคระ
ด้วยการนำของเพลล็อต ชายหนุ่มเข้ามายังห้องพิเศษของวังหลวง และพบกับราชาคนแคระผู้กำลังปรี่เข้าหาด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น
“พระมารดา! พระมารดา!!”
“…”
ภาพของคนแคระหนวดเคราดกหนา กำลังวิ่งพร้อมกับกางแขนออกกว้างจนเผยให้เห็นพุงอันอ้วนกลม ไม่ใช่สิ่งที่น่ามองสักเท่าไร
กริดโยนหัตถ์เทวะไปหาอีกฝ่าย ภายในใจหวนนึกถึงภาพของเด็กหนุ่มภายในฉากความทรงจำของเพลล็อต สมัยแพ็กม่ายเคยใช้ชีวิตร่วมกับราชินีมาริเบลในทาลิม่า
กริดมั่นใจ
‘แพ็กม่าไม่ใช่คนฆ่ามาริเบล’
อย่างน้อย เขาก็ตระหนักถึงความเจ็บปวดของผู้อื่นได้ดีกว่าใคร…
หรือก็คือ แพ็กม่าไม่ใช่พวกวิกลจริต
ยังหลงเหลือขีดจำกัดขั้นต่ำของศีลธรรม
‘บางที…’
คงมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลัง
กริดต้องการเชื่อเช่นนั้น
“เอาล่ะ มาปลดปล่อยดวงวิญญาณกันเถอะ”
เมื่อเห็นราชาคนแคระกำลังโอบกอดหัตถ์เทวะไว้แนบแน่น ชายหนุ่มตัดสินใจกล่าวคำอำลากับของวิเศษคู่กายเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะกริดชำเลืองไปทางเพลล็อต
เปรี้ยง!
หัตถ์เทวะทั้งสี่ข้างต่างชกใส่ราชาคนแคระจนกระเด็นหงายหลัง จากนั้นการชูนิ้วกลางให้กับคนแคระร่างท้วมอย่างพร้อมเพรียง
“…”
“…”
“…”
ความเงียบงันเข้าปกคลุมวังหลวง
‘เป็นอย่างที่คิด… มาริเบลมิได้ถูกแพ็กม่าทรยศและฆ่าทิ้ง’
มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ที่องค์ราชินีจะเป็นเหมือนกับอดีตสันตะปาปาเครย์เชอร์ ผู้ยอมกลายเป็นโลงศพเพียงเพื่อให้ได้โอบกอดแมรีโรสไปตลอดกาล
"เเพ็กม่า"
ReplyDelete