จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,254
แต่ไหนแต่ไร เป้าหมายของครอเกลมีเพียงเรื่องเดียวมาตลอด
นั่นคือการเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้พบขีดจำกัดที่แท้จริง
หรือก็คือ เป็นการเดินทางอันยาวนานเพื่อการตามหาขีดจำกัดสุดท้าย
‘ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของมัน’
สาเหตุที่เจ้าอ่อนแอเพราะไม่ยอมสืบทอดวิชาดาบของมุลเลอร์…
ครอเกลปล่อยผ่านถ้อยคำยั่วยุกึ่งดูแคลนที่จอมอสูรซาลอสพ่นออกมาหลังจากจัดการตนได้อย่างราบคาบ
เพราะชายหนุ่มทราบดี
หากเลือกฝึกวิชาดาบเดียวกับมุลเลอร์เมื่อใด ขีดจำกัดที่ตนปรารถนาก็จะถูกตีกรอบเอาไว้ทันที ไม่วันก้าวไปถึงขีดกำจัดที่แท้จริงในอุดมคติ
เป้าหมายครอเกลไม่ซับซ้อน มันปรารถนาขีดจำกัดที่เหนือกว่ามุลเลอร์อีกหลายขุม
หากครอเกลอยากมีวิชาดาบเหมือนมุลเลอร์ ก็คงเลือกเจริญรอยตามมุลเลอร์ตั้งแต่แรกด้วยเส้นทางที่สะดวกสบายกว่าหลายเท่า
[ชื่อเสียงของอริยดาบกำลังถูกสั่นคลอน]
[โลกจะไม่ยอมรับอริยดาบผู้พ่ายแพ้บ่อยครั้ง]
[เพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวตนอันดับหนึ่ง ท่านต้องสำเร็จวิชา <พลังจิตไร้เทียมทาน>]
พลังจิตไร้เทียมทาน
สิ่งนี้คือพลังที่มุลเลอร์ได้รับขณะพยายามไขว่คว้าตำแหน่งอริยดาบ
โดยหลังจากบรรลุ ‘พลังจิตไร้เทียมทาน’ อย่างถ่องแท้ มุลเลอร์ที่ฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่องก็เริ่มพบเบาะแสของ <ปราณดาบอนันต์>
ว่ากันตามตรง สำหรับครอเกลที่มีทรัพยากรหลักเป็นปราณดาบ ทุกทักษะของมันล้วนใช้ปราณดาบขับเคลื่อน ยิ่งเป็นทักษะทรงพลังมากเพียงไรก็ยิ่งสิ้นเปลืองปราณดาบเป็นเงาตามตัว หรือก็คือ ทางลัดสำหรับครอเกลในการข้ามขีดจำกัดคือการครอบครองพลังจิตไร้เทียมทาน
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของครอเกล หากตนเรียนพลังจิตไร้เทียมทานเมื่อใด เมื่อนั้นจะเท่ากับเป็นการเดินตามรอยอริยดาบมุลเลอร์ทันที ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อของตนในฐานะ ‘มุลเลอร์คนที่สอง’ หาใช่ ‘อริยดาบครอเกล’
[ท่านประสบความพ่ายแพ้มาแล้วหลายหน ความพ่ายแพ้ครั้งถัดไปจะทำให้คุณสมบัติของท่านถูกสั่นคลอน…]
ครอเกลเพ่งสมาธิสร้าง <หมอกเมฆคราม> โดยมิได้แยแสหน้าต่างข้อความเตือน
เมฆสีฟ้าเข้มจนเกือบน้ำเงินฟุ้งกระจายโดยมีลำตัวครอเกลเป็นศูนย์กลาง ปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของซาลอสจนอยู่หมัด หลังจากนั้น อริยดาบฉวยโอกาสทองกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ “ฮะฮะ! เอาแต่หนีหัวซุกหัวซุน!” ”
หลังจากสูญเสียประสาทสัมผัสไปได้ไม่กี่วินาที ซาลอสเริ่มจับตำแหน่งครอเกลได้อีกหน มันรีบกระโดดให้พ้นจากหมอกเมฆครามโดยหวังไล่ตามเชือดครอเกลบนฟ้าจนหนำใจ
“ “…!?” ”
ซาลอสซึ่งถีบตัวขึ้นไปในอากาศด้วยกำลังขา พลันชะงักสีหน้าด้วยความประหลาดใจ
ในจุดที่ครอเกลควรจะอยู่ ซาลอสกลับพบเพียงดาบหนึ่งเล่ม
สิ่งนี้สร้างความอับอายให้มันได้ไม่น้อย
‘ ‘เจ้านั่นตบตาประสาทสัมผัสของเรา…?’ ’
เมื่อซาลอสยืนยันประสาทสัมผัสของตัวเองอีกครั้งและพบว่าดาบบนฟ้ากำลังแผ่กลิ่นอายแบบเดียวกับครอเกลทุกประการ จอมอสูรกัดฟันกรอดอย่างเจ็บแค้น รีบก้มหน้ามองหาครอเกลที่เอาแต่ซุกซ่อนตัวราวกับหนูภายในหมอกเมฆ
โฮกกกกกกกกก!!
ทันใดนั้น เสียงคำรามอันน่าพรั่นพรึงดังกังวานมาจากทิศทางเบื้องล่าง เป็นเสียงซึ่งมีอำนาจสร้างอาการหวาดผวาประหนึ่งมาจากสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาเหนือล้ำจินตนาการ
วาบ!
เนื่องจากเกิดมาพร้อมตัวตนอันสูงส่ง ซาลอสจึงใช้ชีวิตโดยไม่เคยต้องหวาดกลัวกับเรื่องใดเลยสักครั้ง แต่กับวินาทีนี้ ถือเป็นครั้งแรกอย่างแท้จริงที่มันรู้สึกถูกคุกคามจนเสียขวัญ
เมื่อเห็นปราณดาบสีดำสนิทพุ่งตัดผ่านเส้นขอบฟ้าเข้ามาในระยะการมองเห็น ซาลอสรีบไขว้แขนเพื่อรับการโจมตีที่หมดสิทธิ์หลบหลีก
“บันเฮเลียร์คำราม”
มังกรมารบันเฮเลียร์
วิชาดาบซึ่งถูก ‘สร้าง’ ขึ้นโดยมีตัวตนที่คอยหลอกหลอนจิตใจครอเกลมานานเป็นต้นแบบ
ท่าไม้ตายใหม่ของอริยดาบซึ่งชนะทางเป้าหมายทุกธาตุ
หรือแม้แต่เป้าหมายที่ไร้ธาตุ ความเสียหายก็ยังนับว่าหนักหน่วง
เป็นการเลียนแบบความแข็งแกร่งอันหาเหตุผลมารองรับไม่ได้ของสิ่งมีชีวิตประเภทมังกร เกิดขึ้นจากการขัดเกลาเทคนิคและแก่นแท้ของอริยดาบจนถึงขีดสุด ผนวกกับประสบการณ์ตรงที่ยากจะลืมเลือนไปชั่วชีวิต
“ “อั่ก…! แค่ก!” ”
เจ็บปวดดุจดังถูกพลังของนังแพศยารีเบคก้ากระแทกใส่หน้า
ซาลอสซึ่งผิวหนังถูกทำลายลึกลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ กำลังส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดเหนือพรรณนา
『ม…ไม่น่าเชื่อครับคุณผู้ชม!』
พิธีกรและผู้บรรยายจากทุกช่องทั่วโลกซึ่งเอาแต่เงียบเป็นเป่าสากมาเนิ่นนาน เริ่มเปิดปากเป็นหนแรกเมื่อเห็นว่าครอเกลที่กำลังย่ำแย่ พลิกสถานการณ์กลับมาได้เปรียบในกระบวนท่าเดียว
ช่องแชตพลันหยุดนิ่งโดยไม่มีใครแสดงความเห็นเพ้อเจ้อหรือไร้สาระ ผู้ชมทางบ้านต่างทำเพียงกำหมัดแน่นด้วยอากัปกิริยาลุ้นตัวโก่ง
ประหนึ่งระบบแชตสดของทุกสถานีเกิดล่มขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
คนทั่วโลกต่างกำลังจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ ‘คัมแบ็ก’ ครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์มนุษย์
“ “…ยังอ่อนหัด!!” ”
ซาลอสซึ่งกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวด กัดฟันกรอดพร้อมกับคำรามต่ำอย่างเคียดแค้น
ภาพของบุรุษดวงตาแดงก่ำกำลังจ้องมาทางครอเกลอย่างอาฆาต ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่ามันผู้นี้คืออสูร แถมยังเป็นระดับจอมอสูร
“ “ยิ่งกว่านี้… ทำให้เข้าสนุกยิ่งกว่านี้!!” ”
ฟ้าว—
บรึ้มม!
บึ้มบึ้มบึ้ม!
มันเอาชนะความเจ็บปวดได้แล้วหรือ?
ชาลอสพุ่งลงจากท้องฟ้าด้วยบรรยากาศคุกคามอันแตกต่างไปจากเดิม ยิ่งเข้ามาใกล้ครอเกลมากเท่าไร เสียงกำแพงอากาศถูกทำลายก็ยิ่งดังแจ่มชัด
ประหนึ่งว่าหากตัวมันกระแทกลงพื้น ผืนทวีปทั้งแผ่นคงจะแหลกสลายในพริบตา
แต่ในทางกลับกัน
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
ครอเกลทำได้เพียงยืนนิ่งบนจอฉายภาพ
ขณะกำลังยืนหอบในจุดกึ่งกลางหมอกเมฆครามซึ่งเริ่มเจือจาง หน้าอกอริยดาบยุบพองตามแรงหายใจ ดวงตาที่เคยมองตรงอย่างเด็ดเดี่ยวกำลังเผยให้เห็นความวิตก มือเท้าอันสั่นเทิ้มกำลังทำให้จิตใจผู้ชมทางบ้านแตกสลาย
『เป็นผลข้างเคียงจากทักษะหรือครับ? 』
『น่าจะใช่ครับ ทักษะเมื่อครู่สามารถทำให้จอมอสูรลำดับ 19 ถึงกับหวาดผวา ผมเชื่อว่าผลข้างเคียงต้องไม่ธรรมดาแน่』
ผู้บรรยายมิได้กล่าวถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
แต่ถึงจะไม่อธิบาย คนทั่วโลกต่างก็พอจะเดาได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
อ้างอิงจากคำพูดของซาลอส ครอเกลยังไปไม่ถึงจุดที่มุลเลอร์เคยยืน
นี่จึงเป็นขีดจำกัดของ ‘อริยดาบไม่สมบูรณ์’
ขณะทุกคนกำลังคิดแบบเดียวกัน
พรึบ!
ปึกแสงคู่หนึ่งปรากฏกึ่งกลางแผ่นหลังครอเกล
ข้างหนึ่งสีขาวโพลนเจิดจ้าไร้มลทิน อีกข้างดำสนิทจนไม่มีแม้เศษเสี้ยวความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!
ซาลอสซึ่งพุ่งเข้าระยะโจมตีทำการเหวี่ยงกำปั้นด้วยความไวที่ตาเปล่ามองไม่ทัน หมัดของมันอยู่นอกเหนือทุกกฎเกณฑ์และสามัญสำนึก เป็นการชกรัวกระหน่ำดุจดังปืนกลภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที ส่งผลให้ร่างกายครอเกลพังพินาศยับเยินยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้วผืนเก่า
ผู้ชมทางบ้านกำลังรับชมฉากเศษเนื้อของอริยดาบถูกชกจนเหลวแหลกอย่างน่าขนหัวลุก
“ “…!?” ”
ทันใดนั้น ซาลอสชะงักการโหมบุกกลางคัน
เนื่องจากปลายมือของมันมิอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ควรจะมีอยู่
ถูกต้อง
ครอเกลที่กำลังกระจัดกระจายเป็นเพียงภาพตกค้างซึ่งมันจงใจเหลือทิ้งไว้
หลังจากขัดเกลาทักษะลับ ‘บัญชาว่องไว’ จนถึงขีดสุด มันสามารถหายตัวหลบหลีกทุกการโจมตีได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
ชิ้ง—
เมื่อครบกำหนดทักษะ ครอเกลถูกส่งกลับมายังจุดเดิมและทำการวาดดาบทรงจันทร์เสี้ยว
เป็นการเล็งฟันใส่จุดตายของซาลอสผู้ยังคงฟื้นตัวจากเสียงคำรามบันเฮเลียร์ไม่สมบูรณ์
“ “แค่ก… อั่ก…!” ”
ฉูดดดดด!
ร่างกายซาลอสถูกฟันขาดเป็นสองส่วนอีกหน
อวัยวะภายในหล่นกระจัดกระจายตามแนวรอยผ่าจากบนลงล่าง เส้นเลือดห้อยระโยงระยางโดยมีหยาดโลหิตสาดกระเซ็น
เช่นเดียวกับการใช้งาน ‘ดาบผ่ามิติ’ ครั้งอื่น กระบวนการฟื้นตัวเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากจบท่า
แน่นอน ครอเกลไม่มัวยืนดูอย่างใจเย็น
“พายุดาบโหมกระหน่ำ!”
ฟ้าว—!
ทักษะโจมตีต่อเนื่องซึ่งจะสร้างความเสียหายหลายฮิตภายในพื้นที่กำหนด
การฟื้นตัวของซาลอสต้องถูกยืดออกไปเมื่อพายุดาบอันบ้าคลั่งเฉือนทำลายเส้นเลือดผอยและกลุ่มหยดโลหิต
บึ้ม!
“ “…อย่าฝัน…” ”
ซาลอสซึ่งกำลังถูกผ่าออกเป็นสองส่วนทำการดึงเส้นเลือดระโยงระยางกลับเข้ามาในร่างกายด้วยมือตัวเอง
ครืนนนนน!
ทันใดนั้น <สวรรค์ปฐพีพินาศ> ทักษะโจมตีเป็นวงกว้างที่มีอำนาจสั่นไหวฟ้าดิน ถูกใช้งานออกมาเพื่อขัดขวางการคืนสภาพเดิมของศัตรู
ถูกต้อง ครอเกลยังกลเม็ดอีกมากมายให้งัดออกมาใช้งาน
พวกมันคือไพ่ตายก้นหีบซึ่งจะถูกนำออกมาใช้แก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสมเท่านั้น
ครอเกลเคยใช้พลังเหล่านี้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายในอดีต โดยแต่ละครั้งก็โหดร้ายไม่ต่างจากสิ่งที่กริดเคยเผชิญ
“ “…ไม่… ไม่!!” ”
ซาลอสผู้ถูกขัดขวางการคืนสภาพหนแล้วหนเล่าเริ่มระเบิดพลังเวทมนตร์อย่างบ้าคลั่ง
คงเพราะเกิดมาพร้อมพลังโจมตีกายภาพอันยากจะหาผู้ใดทัดเทียม ซาลอสจึงมิได้ขัดเกลาเวทมนตร์ของตัวเองมากนัก ลำพังหัตถ์พิสดารก็มากพอจะโค่นคู่ต่อสู้เกือบทุกคนในอดีต
มนต์ดำของซาลอสจึงไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าเวทมนตร์ในเชิงระเบิด
แต่พลังทำลายก็ยังนับว่าสมศักดิ์ศรีจอมอสูร
ย้อนกลับไปขณะครอเกลกำลังยื้อเวลาในช่วงแรกของศึก บรรดาแรงเกอร์ที่เริ่มเข้าใจธรรมชาติซาลอสและเตรียมกลับเข้ามาสมบท มีอันต้องถูกแรงระเบิดมนต์ดำปัดเป่าจนกระเด็นไปคนละทิศทาง
ในปัจจุบันก็เช่นกัน ซาลอสกำลังระเบิดมนต์ดำไปรอบตัวเพื่อมิให้ใครเข้ามาขัดขวางการฟื้นฟูร่างกาย
ครอเกลป้องกันไว้ด้วย <ม่านดาบ> ทันท่วงที จึงยังมีสิทธิ์เข้าประชิดตัวซาลอสซึ่งพยายามกลับคืนสภาพเก่า
ผัวะ!
จาจินโมริ
เส้นเลือดและหยาดโลหิตนับพันนับหมื่นถูกถีบกระเด็นด้วยสุดยอดเทคนิค ‘พุ่งเตะ’ ที่ไม่ถูกใช้งานออกมาบ่อยนัก ส่งผลให้ระยะเวลาฟื้นฟูร่างกายของซาลอสต้องยืดออกไปจากเดิม
ในที่สุด
“ “โฮกกกกก!!” ”
ซาลอสล้มเลิกความคิดที่จะคืนสภาพเดิม
โดยไม่แยแสเส้นเลือดและโลหิตซึ่งถูกครอเกลถีบกระเด็นไปไกล ซาลอสบังคับร่างกายที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ปรี่เข้าหาครอเกลจากทั้งฝั่งซ้ายและขวาพร้อมเพรียง
ทางฝั่งอริยดาบก็ได้ใช้ <ก้าวย่างแสงขาว> เตรียมรอรับมือแล้ว
หลังจากหลอกล่อให้ร่างกายครึ่งซีกทั้งสองส่วนอยู่ในแนวเดียวกัน ครอเกลเพ่งสมาธิสะบั้นพวกมันด้วย <ดาบจิต> ในคราวเดียว
ทันใดนั้น ซาลอสผู้สูญเสียพลังชีวิตไปกว่า 20% เริ่มตระหนัก
มันเรียกตัวเองว่าอริยดาบคนใหม่…
หากพบกับมันช้ากว่านี้อีกสักนิด…
‘ ‘…ความพ่ายแพ้คงตกเป็นของข้า’ ’
ปึด. ปึด. ปึด!
ในที่สุดร่างกายซาลอสก็กลับคือสภาพปรกติ
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
สืบเนื่องจาก ครอเกลซึ่งเป็นคนเดียวที่พอจะขัดขวางซาลอสได้ กำลังประสบปัญหาเหมือนกับกริดก่อนไปเยือนหอแห่งปัญญา
ค่าเรี่ยวแรงเกลี้ยงหลอดจนมิอาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่ปลายนิ้ว ร่างกายไม่ฟังคำสั่งและนั่งคุกเข่าลงตามแรงโน้มถ่วง
“ “…อริยดาบที่ไม่ใช่มุลเลอร์” ”
กึก.
ซาลอสซึ่งมั่นใจว่าชัยชนะตกเป็นของตนแล้ว เริ่มย่างกรายเข้าใกล้ครอเกลอย่างเลือดเย็น
“ “ครอเกลสินะ… ข้าจะจดจำนามนี้ไว้” ”
กึก.
ก้าวที่สอง เข้าสู่ระยะการเหวี่ยงหมัด
เปรี้ยง!!
ประกันชีวิตอมตะทำงาน
หลอดพลังชีวิตของครอเกลจมก้นโดยที่ไม่สามารถลดลงได้มากกว่านี้ชั่วคราว
แต่นั่นก็มิได้ทำให้ค่าเรี่ยวแรงคืนกลับมา ครอเกลนอนแผ่ไปกับพื้นโดยเหลืออายุขัยอีกเพียงห้าวินาทีก่อนจะสิ้นลม
“เผ่นกันเถอะ!”
แรงเกอร์สายเกเรส่วนใหญ่ที่รวมไปถึงสองพี่น้องไวท์แบล็ก จุดประสงค์พวกมันคือการยืมมือครอเกลสำเร็จภารกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นแกนหลักเสียท่าและใกล้ตาย ทุกคนจึงตัดสินใจเผ่นหนีอย่างไม่เหลียวหลัง
“ครอเกล!”
แต่แรงเกอร์บางคนซึ่งรวมถึงไนท์ เลือกจะยืนหยัดปกป้องครอเกลและป้อมปราการแห่งนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน
บ้างทำเพื่อศักดิ์ศรี บ้างทำเพื่อบ้านเกิด
แต่ทุกคนล้วนปรี่เข้าไปประจันหน้าซาลอสโดยหวังถ่วงเวลาให้ครอเกลถอยออกไปและมีโอกาสพักฟื้นร่างกาย
“ “คึฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าพวกมดปลวก!!” ”
ซาลอสระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่น
หลังจากประจักษ์ฝีมือของอริยดาบคนใหม่ การโจมตีจากมนุษย์ทั่วไปจึงมิอาจสร้างความตื่นเต้นให้มันได้อีก ทุกการคมหอกดาบที่กำลังถาโถมกลายเป็นความน่าเบื่อและเฉื่อยชา
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
โผละ!
การสังหารหมู่ฝ่ายเดียวเริ่มต้นขึ้น ซาลอสใช้กำปั้นอันไร้เทียมทานกระหน่ำชกใส่ศีรษะแรงเกอร์จนระเบิดประหนึ่งผลแตงโม
แรงเกอร์ที่ยังมีชีวิตรอดต่างเผยสีหน้าหวาดหวั่น แต่พวกมันก็ไม่ถอยหนีไปไหน ยังคงใช้ร่างกายตัวเองเป็นโล่มนุษย์โดยหวังยืดอายุขัยของครอเกลออกไปได้สัก 1 วินาที
ไม่สิ แค่ 0.5 วินาทีก็ยังดี
ผู้บรรยายต่างพากันสลดหดหู่กับบรรยากาศแสนสิ้นหวัง ผู้ชมทางบ้านเริ่มหลั่งน้ำตาอาลัย บางส่วนเดินตรงไปยังแคปซูลเพื่อเตรียมล็อกอินเชื่อมต่อกับซาทิสฟาย
พวกมันต้องการช่วยเหลือครอเกล ด้วยพลังอันน้อยนิดและอ่อนแอของตน
ทันใดนั้น ร่างกายทุกคนพลันชะงัก
เนื่องจากพวกมันได้ยินเสียงตะโกนประโยคหนึ่งของผู้บรรยายซึ่งดังมาทางทีวี
『…บทกวีครับ! บทกวีมหากาพย์!』
“…!”
ทุกคนรีบวิ่งกลับมายังหน้าโทรทัศน์
ฉากบนจอกำลังฉายภาพความยิ่งใหญ่อลังการของ <สายฝนศาสตรา> จากฟากฟ้าที่โหมกระหน่ำใส่ซาลอส
ท้องฟ้ากริดกำลังร่อนลงจากผืนนภาโดยมีพิรุณศาสตราสีทองโปรยปรายเป็นฉากหลัง
คงเพราะบทกวีมหากาพย์หนนี้มีผู้เห็นเหตุการณ์มากมายกระมัง…
ข้อความระบบจึงมิได้ปกปิดตัวเอกของบทกวีเหมือนครั้งใด
[ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด กำลังเขียนบทกวีมหากาพย์ลำดับ 7]
แหม๋..อิตัวดันเดินไปตกหลุม พี่เลยสบายเลยสิทีนี้ 555+
ReplyDelete