จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,259
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า ความหลงใหลของคนแคระสามารถเอาชนะความตายได้
นั่นมิใช่การเปรียบเปรย หากแต่เป็นเรื่องจริง
โดยทั่วไป คนแคระจะมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ประมาณสามเท่า แต่คนแคระบางคนกลับอายุยืนยาวยิ่งกว่าเอลฟ์เสียอีก
พวกมันไม่ยอมตายเด็ดขาด จนกว่าเป้าหมายการของตนจะลุล่วง
‘…จดจ่ออยู่กับการสร้างไอเท็มจนสามารถเอาชนะความตาย’
เป็นคุณลักษณะที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
แต่กริดสามารถยืนยันได้จากพฤติกรรมและอุปนิสัยของคนแคระเคย์
‘เราต้องเตรียมใจ’
คงมีเรื่องประหลาดมากมายเกิดขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องอดทน
สายสัมพันธ์อันดีกับคนแคระ จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลในระยะยาว
ปุดปุด! ปุดปุดปุด!
บรรยากาศร้อนระอุรอบเขตภูเขาไฟ ส่งผลให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เริ่มเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งพวกมันหายไป กริดมองรอบตัวพลางครุ่นคิดว่าตนควรอัญเชิญโนเอะและแรนดี้ออกมาดีหรือไม่
ลาวาข้นกำลังล้นทะลักดุจดังสึนามิ
ยิ่งปีนป่ายก็ยิ่งพบว่าภูเขาไฟทวีความลาดชันมากขึ้นทุกขณะ
หากปล่อยโนเอะและแรนดี้ออกมา เกรงว่าผ่านไปไม่นานก็คงต้องรีบเก็บกลับเข้าไปตามเดิม
‘ที่นี่คงไม่เหมาะแก่การอัปเลเวลให้เด็ก ๆ’
ค่าเฉลี่ยเลเวลของมอนสเตอร์บนภูเขาไฟในถิ่นมังกรเพลิงจะอยู่ราว 360 และมอนสเตอร์พิเศษซึ่งปรากฏตัวไม่บ่อยนัก จะมีเลเวลประมาณ 400
ถือเป็นค่าเฉลี่ยที่ต่ำกว่าสันเขาสุดท้ายของเทือกเขาเคอัสพอสมควร
กริด ผู้มีเลเวล 415 และสามารถรับมือราชาคลั่ง·บีเลธกับหัตถ์พิสดาร·ซาลอสได้ไม่ยากเย็น ย่อมไม่แยแสค่าเฉลี่ยมอนสเตอร์อ่อนแอเหล่านี้
แต่สำหรับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ โนเอะ และแรนดี้นั้นต่างออกไป
จากมุมมองของสัตว์เลี้ยง เหล่ามอนสเตอร์รอบภูเขาคือเหยื่อชั้นดีในการเก็บเลเวล
อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิโดยรอบสูงเกินกว่าจะให้พวกมันอยู่แช่เก็บเลเวลได้นาน
‘ช่างเถอะ… แบบนี้ก็ไม่เลว’
คิดซะว่ารีบทำเป้าหมายหลักให้เสร็จ
เหตุผลของการเดินทางในวันนี้มิใช่เพื่ออัปเลเวลให้เหล่าเด็ก ๆ แต่เป็นการสานสัมพันธ์กับเผ่าคนแคระ
ฉึบ!
กริดเพิกเฉยต่อมอนสเตอร์และเริ่มออกวิ่ง
ความร้อนรอบภูเขามิอาจระคายเคืองผิวกายของช่างตีเหล็กในตำนาน และต้องขอบคุณทักษะชุนโป กริดสามารถปืนขึ้นยอดปล่องภูเขาไฟซึ่งแต่เดิมต้องใช้เวลาครึ่งวัน ได้ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“งดงามมาก…”
เมื่อได้เห็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางปล่องภูเขาไฟเต็มสองตา กริดอดชื่นชมออกมาไม่ได้
ภายในปากปล่องจะมีเมืองซึ่งถูกแบ่งเป็นหลายเขต ขนาดแตกต่างกันไป โดยจำนวนครัวเรือนไม่น่าจะต่ำไปกว่า 10,000 หลัง
เหนือสิ่งอื่นใด ภายในเมืองไม่มีลาวาเลย
หมายความว่า ลาวาซึ่งปะทุตลอดเวลาบนปากปล่องมิได้ไหลลงไปยังใจกลางด้านล่าง
บางที สิ่งนี้อาจเป็นเวทมนตร์ห้วงมิติ
‘และนั่นคงเป็นเหตุผลที่แม้แต่มนุษย์ก็เข้าไปเยือนทาลิม่าไม่ง่ายนัก’
การปลีกตัวออกจากโลกของคนแคระมิได้มีสาเหตุมาจากมังกรเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเจตนาของคนแคระเองด้วย
เมื่อเริ่มกระจ่าง กริดทำการกระโดดลงไปจากปากปล่องภูเขาไฟ
ทัศนียภาพรอบตัวพลันขยายใหญ่ ภาพของตึกรามบ้านช่องภายในเมืองทาลิม่าถูกซูมเข้าอย่างรวดเร็ว
พรึบ.
ก่อนปลายเท้าสัมผัสกับพื้น ชายหนุ่มกางปีกมังกรพลางร่อนลง
ทาลิม่า
เมืองในฝันของช่างตีเหล็กหลายคน
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
หลังจากเดินผ่านทางเข้าได้ไม่นาน กริดพลันต้องชะงักฝีเท้าหลังจากได้ยินเสียงตีเหล็กของใครบางคน
“…!”
เสียงทุบค้อนดังมาจากร้านตีเหล็กสภาพทรุดโทรมแห่งหนึ่ง
‘ช่างฝีมือ…’
ตัวตนที่จะถูกต้อนรับอย่างทรงเกียรติเสมอไม่ว่าอาณาจักรใด เหตุใดถึงอาศัยอยู่ภายในโรงตีเหล็กสภาพทรุดโทรม?
กริดพลันตื่นเต้น เตรียมเปิดประตูร้านเข้าไปพิสูจน์ให้เห็นเต็มสองตา
แต่มันมีอันต้องชะงักฝีเท้าอีกครั้ง
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!!
เนื่องจากได้ยินเสียงตีเหล็กดังขึ้นจากร้านตีเหล็กข้างเคียง โดยสภาพของตัวอาคารไม่ต่างจากหลังแรกสักเท่าไร
‘คู่แข่ง?’
เหตุผลที่เขายังอาศัยอยู่ในร้านตีเหล็กสภาพทรุดโทรม ก็เพราะต้องแข่งขันกับช่างตีเหล็กเพื่อนบ้านซึ่งยังตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้?
‘นี่คือความหลงใหลของคนแคระ?’
กริดยืนฟังเสียบทุบค้อนพลางจินตนาการเรื่องราวจากบทละครน้ำเน่าที่เคยดู
มันมั่นใจว่าความจริงคงผิดไปจากนี้ไม่มากนัก เพราะเสียงทุบค้อนจากร้านตีเหล็กด้านข้างก็เป็นระดับช่างฝีมือเช่นเดียวกัน
“…บ้าบอสิ้นดี”
สำหรับช่างตีเหล็กชาวมนุษย์ ไม่มีใครไม่เคยได้ยินเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของทาลิม่า โดยทุกคนต่างวาดฝันจะได้มาเยือนที่นี่สักหนเพื่อพบกับเหล่าคนแคระ
แน่นอน กริดก็เช่นกัน
มันคาดหวังจะได้พบกับช่างฝีมือจำนวนมากในทาลิม่า
แต่เป็นการพบปะพูดคุยภายในปราสาทหลังใหญ่ มิใช่ในร้านตีเหล็กทรุดโทรมเช่นนี้
‘อย่าบอกนะว่า… ประชากรทั้งหมดของเมืองเป็นระดับช่างฝีมือ?’
กริดรีบเพ่งสมาธิฟังเสียงรอบตัว ประหนึ่งต้องการจับความเคลื่อนไหวทั้งหมดอย่างละเอียด
สำหรับเขตรอบประตูเมือง ชายหนุ่มได้ยินเสียงของช่างตีเหล็กจำนวน 20 คนกำลังทุบค้อนอย่างต่อเนื่อง โดย 13 จาก 20 อยู่ในระดับช่างฝีมือ ส่วนที่เหลือมีทั้งขั้นสูง ขั้นกลาง และขั้นต้นคละเคล้ากันไป
‘ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นช่างฝีมือ…’
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น
ตำแหน่งช่างตีเหล็กขั้นสูง สามารถเอื้อมถึงได้ไม่ยากหากมีประสบการณ์และความชำนาญมือมากเพียงพอ คนแคระซึ่งเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ด้านความชำนาญมือและมีอายุขัยยืนยาว ย่อมก้าวไปถึงช่างตีเหล็กขั้นสูงได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม การจะเป็นช่างฝีมือได้ต้องเคยผ่านการสร้าง ‘ผลงานชิ้นเอก’ มาแล้วบางส่วน
ผลงานชิ้นเอกที่ว่าคือไอเท็มเกรดเลเจนดารี
ตรงข้ามกับกริด ผู้เกิดมาเป็นช่างตีเหล็กในตำนานซึ่งมีโอกาสผลิตไอเท็มเลเจนดารีมากกว่าคนปรกติ การที่ช่างตีเหล็กทั่วไปจะสร้างงานระดับเลเจนดารีออกมาได้ จำเป็นต้องพึ่งพาวาสนาและความคิดสร้างสรรค์อย่างหนักหน่วง
‘นั่นสินะ ถ้าลองมองย้อนกลับไป…’
คลาสของเราเอาเปรียบพวกเขามาก
กริดเผยรอยยิ้มขื่นขม พลางหวนนึกถึงช่างตีเหล็กของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่ก้มหน้าทำงานหนักโดยมีความฝันจะกลายเป็นช่างฝีมือ
ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างของร้านตีเหล็กแห่งแรกที่ตนได้ยินเสียง
ภาพบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านตีเหล็กขนาดเล็กเริ่มปรากฏให้เห็น
ใบหน้าของคนแคระ ผู้กำลังตีเหล็กบนทั่งหน้าเตาหลอม มีริ้วรอยแห่งกาลเวลาแฝงอยู่เต็มเปี่ยม
แต่สำหรับความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นอันเร่าร้อนภายในดวงตา สิ่งนี้มิใช่เรื่องใหม่สำหรับกริด
เพราะนั่นคือสายตาแบบเดียวกับข่าน
‘คุณปรารถนาจะเป็นตำนานใช่ไหม…’
ช่างตีเหล็กแปลกหน้าที่ตนไม่ทราบกระทั่งชื่อ
แต่กริดก็ให้กำลังใจจากก้นบึ้ง
‘ได้โปรดกลายเป็นตำนานให้ได้’
ตำนานคนใหม่สามารถถือกำเนิดขึ้นได้เสมอ
ข่านพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ช่างตีเหล็กในตำนานไม่จำเป็นต้องมีเพียงหนึ่ง
กริดปรารถนาให้โลกมีช่างเหล็กในตำนานเป็นจำนวนมาก ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี
มันปล่อยวางการยึดติด ตัดขาดจากผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับหากผูกขาดตำแหน่งไว้ตามลำพัง
เพราะนั่นจะทำให้มันต้องแบกรับภาระหลายสิ่งไว้มากเกินไป
เพื่อปกต้องผู้คนรอบตัวอันเป็นที่รัก ชายหนุ่มต้องเดินไปบนเส้นทางปกป้องสันติภาพของโลก มันจึงปรารถนาให้ใครสักคนช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่การตีเหล็กไปบางส่วน
คนที่ตนสามารถวางใจให้ช่วยผลิตและซ่อมแซมไอเท็มของพวกพ้องในระหว่างที่ไม่อยู่
‘ไม่มีช่วงเวลาใดสุขใจยิ่งกว่าการได้ลงมือตีเหล็กอีกแล้ว… แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เราอยู่กับมันตลอดเวลาไม่ได้’
แต่สักวันหนึ่ง กริดจะวางมือจากความวุ่นวายของโลก
เมื่อถึงตอนนั้น มันวางแผนเปิดร้านตีเหล็กเล็ก ๆ สักแห่งและคลุกคลีอยู่กับเหล็กให้หนำใจ
ท่ามกลางสายลมเย็นพัดผ่าน ชายหนุ่มย้ายตัวเองไปยังเขตใจกลางเมือง
บนถนนไม่มีใครแม้แต่คนเดียว
คนแคระเกือบทั้งหมดกำลังหมกตัวอยู่แต่ในร้านตีเหล็กของตัวเอง
มีหลายครั้งที่มันเห็นคนแคระเดินนำไอเท็มที่เพิ่งผลิตเสร็จ ออกมาวางบนแผงขายริมถนน จากนั้นก็กลับเข้าไปผลิตไอเท็มใหม่ต่อทันที
เนื่องจากแทบไม่มีผู้มาเยือน ทุกร้านจึงมิได้หวังให้ใครมาซื้อสินค้า และไม่สนใจด้วยว่าไอเท็มจะล้นเต็มแผงสักเพียงใด
เครื่องจักรมากมายภายในเมืองกำลังทำหน้าที่ผลิตอาหารแจกจ่ายคนแคระทุกคน ดังนั้น พวกมันจึงไม่หวังความร่ำรวยจากการขาย
“เจ็ดล้านเหรียญทอง…”
ขอถอนคำพูด คนแคระหิวเงินฉิบหาย
เมื่อประเมินว่าไอเท็มเหล่านี้มีเกรดเพียงอีปิก กริดยิ่งตระหนักถึงความขาดจิตสำนึกในการตั้งราคาสินค้า
“จะหน้าเงินก็ควรมีขอบเขตกันบ้าง”
กริดส่ายหน้าขณะจ้องไปยังแผงไอเท็มของร้านที่คนแคระเพิ่งเดินกลับเข้าไป มันแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่า ไอเท็มเกรดอีปิกซึ่งตนใช้เวลาสร้างไม่เกินหนึ่งชั่วโมง จะมีราคาสูงถึงเจ็ดล้านเหรียญทอง
ชายหนุ่มมองไปทางแผงของร้านอื่น
ไม่มีไอเท็มเกรดแรร์แม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนใหญ่เป็นเกรดอีปิก แต่ราคาขั้นต่ำกลับสูงถึง 5 ล้านเหรียญทอง มีหลายชิ้นแพงกว่า 10 ล้านเหรียญทอง หรือเทียบเท่าเงินจำนวน 1,200 ล้านวอน
‘แม้แต่คนโง่ก็ไม่หลงกลซื้อ’
ยิ่งกวาดตามองไปรอบแผงไอเท็ม สีหน้ากริดก็ยิ่งเผยความผิดหวังชัดเจน
สาเหตุเพราะ ราคาของสินค้าไม่สอดคล้องกับคุณภาพโดยสิ้นเชิง เป็นการค้าขายที่ขาดจิตสำนึกอย่างรุนแรง
‘หากคุณไปเยือนทาลิม่า ไอเท็มเกรดยูนีคจะถูกวางขายเรียงรายเต็มถนน’
ข่าวลือที่ฟังดูคล้ายเรื่องเพ้อเจ้อ ล้วนเป็นความจริงทั้งหมด เพียงแต่ผิดไปจากความคาดหวังของกริดพอสมควร
มโนภาพของเมืองทาลิม่าที่เคยวาดฝันไว้ในจินตนาการเริ่มพังทลาย
“อา…”
เมื่อประเมินว่าตนไม่ควรเสียเวลาไปกับการเดินเตร็ดเตร่ กริดตัดสินใจตรงดิ่งไปยังปราสาทใจกลางเมือง เพื่อให้ราชาคนแคระสอนวิธีบรรจุอีโก้ลงบนไอเท็ม
ขณะกำลังวางแผน ชายหนุ่มหยิบถุงมือเก่าคู่หนึ่งซึ่งถูกแขวนใกล้กับชุดเกราะหยาบขึ้นมาตรวจสอบ
[ท่านพบคุณสมบัติลับ!]
นับตั้งแต่เยี่ยมชมแผงไอเท็มริมถนนรอบเมืองทาลิม่า ชายหนุ่มใช้พลังตรวจสอบของช่างตีเหล็กในตำนานไปแล้วกว่าสามร้อยครั้ง
แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้พบความพิเศษ
ด้วยสีหน้าคาดหวัง กริดลงมือตรวจสอบข้อมูลใหม่ของถุงมือ
<ถุงมือกระหายการล่า>
เกรด : ยูนีค
ความคงทน : 5/203 พลังป้องกัน : 8
* เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี 5%
* เพิ่มความเร็วโจมตี 10%
ถุงมือบรรจุอีโก้ของนักล่า
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการล่าของผู้สวมใส่
★ ด้วยคุณสมบัติของอีโก้ ความแม่นยำในการโจมตีแบบ PVE เพิ่มขึ้น 20% อัตราการโจมตีจุดอ่อนแบบ PVE เพิ่มขึ้น 10%
เงื่อนไข : เลเวล 200 หรือมากกว่า
“เชี่ย…”
เป็นไอเท็มที่น่าสนใจมาก
เพิ่มความแม่นยำ 20% ขณะสู้กับมอนสเตอร์
แถมยังเพิ่มโอกาสโจมตีจุดอ่อน หมายความว่าการล่ามอนสเตอร์สูงกว่าเลเวลตัวเองจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
อีกทั้ง ด้วยเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ซับซ้อน สามารถใช้ได้ตั้งแต่เลเวลต่ำ สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้เล่นใหม่เก็บเลเวลได้อย่างก้าวกระโดด
‘แบบนี้สิ ถึงจะคุ้มค่า 10 ล้านเหรียญทอง’
บนโลกนี้มีคนร่ำรวยมากมาย
หลายคนยอมทุ่มเงินจำนวนหลายพันล้านวอนไปกับซาทิสฟาย ตลาดเศรษฐกิจที่ทรงพลังอันดับหนึ่งของโลก ณ ตอนนี้
สำหรับบางคนที่เพิ่งเริ่มเล่นและยังมีเลเวลต่ำ หากร่ำรวยมากพอ พวกมันก็พร้อมเทเม็ดเงินเพื่อเร่งเลเวลตัวละครให้ก้าวกระโดด
“…”
แล้วทำไมของดีเช่นนี้ถึงถูกซ่อนอยู่ในหลืบ?
มีฝุ่นเกาะหนาจนเกือบมองข้าม
หลังจากกริดตรวจสอบป้ายราคา ดวงตาของมันพลันเบิกโพลง
แค่ 100,000 เหรียญทองเท่านั้น…
‘เราจะซื้อเจ้านี่!’
แค่เอาไปขายต่อก็กำไรไม่รู้เรื่องแล้ว
หวังไว้สัก 100 เท่าก็ยังได้
กริดรีบพรวดเข้าไปในร้านประหนึ่งได้ยินเสียงโฆษณาจากทีวี : หากซื้อภายใน 5 นาทีนี้ กางเกงราคาสามแสนวอนจะเป็นของท่านในราคาเพียง 29,990 วอนเท่านั้น!
[ท่านเข้าสู่ร้านตีเหล็ก]
[เอฟเฟคของ ‘ผู้สืบทอดแพ็กม่า’ แสดงผล ช่างตีเหล็กที่มีระดับสูงกว่าขั้นสูง จะสามารถจดจำและเทิดทูนท่าน]
“เจ้าของร้าน!”
“หือ?”
“ผมขอซื้อเจ้านี่!”
เนื่องจากถูกทิ้งให้สัมผัสลมฝนเป็นเวลานาน ค่าความทนทานจึงเหลือเพียง 5 หน่วย หากไม่รีบซื้อและซ่อมแซม เกรงว่าไอเท็มอาจถูกทำลาย
กริดรีบควักเงินจำนวน 100,000 เหรียญทองออกมาจ่าย ในทางกลับกัน คนแคระผู้เดินมายังเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง พลันเปลี่ยนท่าทีเมื่อได้เห็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการซื้อ
“โฮ่… เจ้ามองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งนี้ด้วยหรือ? หลังจากผ่านมากว่าร้อยปี ในที่สุดร้านของข้าก็มีลูกค้าเข้าท่าแวะมาเสียที…”
ตุ้บ!
ยังไม่ทันกล่าวจบ ค้อนของช่างตีเหล็กคนแคระหลุดมือและกระแทกพื้นจนเกินเสียง
สำหรับช่างตีเหล็ก ค้อนตีเหล็กเปรียบดังอาวุธและสิ่งยืนยันตัวตน จึงพบได้ไม่บ่อยนักที่จะมีใครเผลอทำหลุดมือ
ขณะกริดกำลังส่ายหน้า
“ผ…ผู้สืบทอดแพ็กม่า!!”
สีหน้าคนแคระพลันบิดเบี้ยว อีกฝ่ายใช้ท่อนแขนและนิ้วซึ่งยาวไม่สมส่วนชี้มาทางกริด พลางตะโกนด้วยเสียงกังวานดุจดังหวูดรถจักรไอน้ำ
การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดระลอกคลื่นลูกใหญ่ตามมา
“อะไรนะ? แพ็กม่า?”
“ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่นกลับมาแล้ว?”
“อยู่ไหน!? ไอ้เด็กตัวเท่าหลังหมามันอยู่ที่ไหน!?”
คนแคระจากทั่วเมืองต่างกรูเข้ามารายล้อมกริดจากทุกสารทิศ
ใบหน้าของชายหนุ่มเริ่มยับยู่ยี่ประหนึ่งกระดาษถูกขยำ
‘นี่เราโดนตีท้ายทอยอีกแล้วหรือ…’
Comments
Post a Comment