จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,586
ความฉลาดไม่ใช่ตัวชี้วัดความดี
สิ่งมีชีวิตที่เฉลียวฉลาดกว่าแมลงซึ่งเอาแต่ทำตามสัญชาตญาณ มักมีแนวโน้มที่จะเห็นแก่ตัวและโหดร้าย
มนุษย์เป็นต้น
> นั่นกูเซล?
> ไม่ใช่ นั่นลูกชาย
> คนมีคงกำลังน้ำลายไหลกระมัง
มังกร
สุดยอดสายพันธุ์ก้าวข้าม ไม่มีข้อกังขาในความแข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะด้านสติปัญญาหรือพลัง มันเหนือกว่าทุกสายพันธุ์อย่างท่วมท้น
แต่มังกรไม่เคยเป็นผู้ปกครองโลกแม้แต่ครั้งเดียว
เพราะพวกมันโหดร้ายป่าเถื่อน
มังกรแทบไม่มีทางร่วมมือกันได้ เพราะแม้แต่พ่อแม่ก็ยังกินลูกหรือญาติพี่น้องตัวเอง
มังกรดำรงอยู่เพียงเพื่อตัวเอง
พึ่งพาเพียงตัวเอง
ซ่า—!
ราวกับดวงอาทิตย์ร่วงหล่นมายังผืนดิน
หากจะพูดให้เกิดจริงสักเล็กน้อย ฉากตรงหน้าทำให้ทุกคนนึกถึงระบบสุริยะ
คลื่นโลหิตจากฝีมือแมรีโรส และคลื่นพลังงานที่เกิดจากลมหายใจเซนอน ปะทะกันจนเกิดคลื่นกระแทกขนาดมหึมาที่กลืนกินสสารทั้งหมดโดยรอบ กัดเซาะบางส่วนของมหานครเรย์ดัน
‘อันตราย’
เซนอนสยายปีก
ในเวลาเดียวกัน สายตาของมันซึ่งมองเห็นไปถึงชั้นบรรยากาศ หันไปทางฝั่งตะวันออกอันแสนไกล
นั่นคือทิศทางของรัง
นับตั้งแต่เกิดจนโตเต็มวัย
รังที่สร้างมานานนับพันปี
แม้กระทั่งหลังจากโตเต็มวัย ยกเว้นขณะกำลังหลับ เซนอนใช้เวลาเกือบทั้งหมดของชีวิตเพื่อสร้างรัง
เพื่อทำให้รังทนทานและซ่อนเร้น
ไม่ใช่เพราะเซนอนเป็นมังกรที่ระวังตัวเป็นพิเศษ แต่นั่นคือสัญชาตญาณปรกติของมังกร
ราวหนึ่งพันปีหลังจากโตเต็มวัย จนกว่าจะสั่งสมพลังได้มากพอ วิธีที่ดีที่สุดที่มังกรจะมีชีวิตรอดคือการซ่อนตัวอยู่ในรัง
“ช่างน่าสะอิดสะเอียน”
ตราประทับขนาดเล็กปรากฏขึ้นด้านหน้าศีรษะขนาดมหึมาของเซนอน
ละอองเลือดสีแดงซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทุกซอกมุมประหนึ่งถูกคลุมด้วยเต็นท์ กำลังฉาบท้องฟ้าให้เป็นสีของตัวเอง
เป็นแมรีโรสที่กำลังพุ่งตามติด
หากร่างกายเซนอนใหญ่โตเท่าภูเขา แมรีโรสจะตัวเท่าหนึ่งจุดสีดำ
เป็นร่างที่เล็กมากเมื่อเทียบกับเซนอน
ทว่า เซนอนกลับเป็นฝ่ายรู้สึกถูกข่มขวัญ
โลกที่ทุกหนแห่งกลายเป็นสีแดงฉาน
ทั้งหมดนี่คือเขตแดนของแมรีโรส
“บังอาจทำให้เมืองในความดูแลของข้ากลายเป็นฝุ่น เจ้าต้องได้รับโทษ”
> มันพังพินาศเพราะเจ้าใช้พลังต่างหาก
“แน่นอน ข้าเองก็ยินดีรับโทษ หากสามีสุดที่รักของข้าต้องการ”
[นังปีศาจ…]
แมรีโรสที่กำลังทำหน้าแดงระเรื่อด้วยสายตาเย้ายวน ทำเอาเซนอนถึงกับขนลุก
มันรู้สึกสงสารคนที่ถูกสิ่งมีชีวิตเสียสติรายนี้เรียกว่า ‘สามีสุดที่สุด’ ขึ้นมาจับใจ
“จงทิ้งปีกเอาไว้หนึ่งข้างเพื่อชดเชยความผิด”
แมรีโรสกล่าวอย่างสุภาพ
แม้เซนอนจะมีพฤติกรรมน่ารังเกียจ แต่เธอมิได้ลงมือส่งเดช ยังไตร่ตรองอย่างมีสติและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
นั่นเพราะเปลือกตาของเธอเริ่มหนัก
แมรีโรสตื่นขึ้นหลังจากสัมผัสถึงความวุ่นวาย และนี่ก็ใกล้ถึงขีดจำกัด
คำสาปเกียจคร้านที่สืบทอดจากเบริอาเช่ กำลังกัดกินร่างกายและความคิดของหญิงสาว
> หากมัวแต่ยื้อกันไปมาเช่นนี้ นั่นก็ไม่ดีต่อตัวเจ้าเช่นกัน ปะทะกับพอหอมปากหอมคอและต่างคนต่างแยกย้าย
เซนอนไม่เห็นด้วยในเรื่องที่ตนสมควรรับโทษ และมองว่าอีกฝ่ายโลภเกินตัว
ใช่แล้ว
เฉกเช่นที่ตนอาจถูกมังกรอื่นไล่ล่า แมรีโรสเองก็มีขีดกำจัดด้านเวลา
เซนอนทราบดี อีกฝ่ายกำลังจะหลับในอีกไม่ช้า จึงไม่มีความจำเป็นต้องฟังคำขู่ของเธอ
สายตาของแมรีโรสที่จ้องไปทางเซนอน ทวีความเย็นยะเยือก
ขนตางอนยาวที่ปัดลง ดูราวกับกับขนพู่กันกำลังขยับเขยื้อน ประหนึ่งเป็นการพักผ่อนหลังจากวาดลูกตาสีเข้มขนาดใหญ่
“สีเทา… ระดับต่ำเหมือนพวกลูกผสม”
หรือเธอจะเกิดมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความงาม?
แมรีโรสผู้เลอโฉมจนอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามดังกล่าว แม้แต่สายตาเย้ยหยันของเธอก็ยังดูสง่างาม จนเซนอนบังเกิดความรู้สึกคับแค้นใจอันแปลกประหลาดชนิดที่ไม่เคยพบพานมาก่อน
หากไม่ได้ประกาศวาจามังกรไว้ล่วงหน้า เกรงว่าปัจจุบันมันคงถูกแมรีโรสสะกดโดยสมบูรณ์
“ปีกที่ถูกตัดจะงอกใหม่ตามกาลเวลา แต่ความหยิ่งทะนงอันเปล่าประโยชน์อาจพรากได้แม้กระทั่งชีวิต”
ซ่าา—!
ม่านโลหิตแผ่ปกคลุมท้องห้า
เวทเขตแดนของแมรีโรสเกิดการเปลี่ยนแปลง วังวนเลือดเริ่มก่อตัว สร้างความสับสนแก่ทัศนวิสัยและจิตใจเซนอน
กล่าวคือ แนวป้องกันทางจิตใจของมังกรถูกเจาะทะลวง
เซนอนที่ตื่นตระหนก รีบใช้เวทมนตร์ชำระล้างความคิดตัวเอง
ม่านโลหิตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สอง
แผ่นเลือดสีแดงพองออกในทุกทิศ สว่านเลือดนับหมื่นดอกพุ่งออกจากรอยบวม ปะทะใส่ร่างเซนอนที่อยู่ใจกลางโดยไม่ให้ตั้งตัว
เคร้งเคร้งเคร้งเคร้งเคร้ง!!
ทุกครั้งที่ดอกสว่านสีแดงสัมผัสกับเกล็ดเซนอน ประกายไฟพลันสว่างวาบ
การป้องกันสัมบูรณ์อันน่าเกรงขามกำลังถูกกัดเซาะ
ไม่มีสว่านแม้แต่ดอกเดียวจากนับหมื่นดอกที่เจาะทะลุเกล็ดแข็งของเซนอน ตรงกันข้าม พวกมันหลอมละลายท่ามกลางประกายไฟและกลายเป็นเลือดที่ไหลริน
แต่เซนอนยังไม่วางใจ
บ่อเลือดขนาดมหึมาที่สร้างจากการละลายของสว่านโลหิต
มันยังเป็นกังวลกับบ่อเลือดลึกที่ท่วมขึ้นมาถึงต้นขา
> โลหิตมิอาจทำอันตรายกับข้า
น้ำตาเลือดสองสายหลั่งออกจากดวงตาทั้งสองข้างของเซนอนผู้ตะโกนวาจามังกร
เป็นผลมาจากการกำหนดให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อ ‘เลือด’
นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะการตีกรอบแคบๆ อย่าง ‘เลือดของแมรีโรส’ เคยทำให้มันตกอยู่ในวิกฤติมาแล้ว
และผลลัพธ์ในคราวนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก
ซ่า—!
บ่อเลือดที่เคยเกาะสูงถึงต้นขาเซนอนพลันกระจัดกระจายกระจายไปทุกทิศทาง
เซนอนสัมผัสถึงอิสรภาพ
มันสังหรณ์ใจว่า นี่คือโอกาสอันดีในการหลบหนี
จนกระทั่งเหลือบไปเห็นแมรีโรสแสยะยิ้มกว้าง
“ง่ายจัง”
ในหัวแมรีโรสมีเศษเสี้ยวของเบริอาเช่ล่องลอยอยู่
ความรู้และประสบการณ์ที่หนึ่งในสามอสูรต้นกำเนิดสั่งสมไว้
“ท่านแม่กล่าวได้ถูกต้อง”
ความสะดวกสบายทำให้สมองของสิ่งมีชีวิตทื่อลง
ดังนั้น วาจามังกรจึงกลายเป็นยาพิษ
มังกรที่เอาแต่พึ่งพาวาจา มีชะตากรรมต้องถดถอย
คำทำนายของเบริอาเช่ถูกต้องทุกประการ
เซนอน
เกิดมาพร้อมกับเกล็ดสีเทา มังกรหนุ่มระดับต่ำที่เอาแต่พึ่งพาวาจามังกร
มันถูกหลอกลวงด้วยพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย และต้องจ่ายด้วยราคาแสนโหดร้าย
อสูร
พลังที่แมรีโรสสืบทอดจากเบริอาเช่ แข็งแกร่งทัดเทียมเวทโลหิต ทำการจับยึดและฉีกปีกทั้งสองข้างของเซนอนออก
> โฮกกกก…!
ทันทีที่ถูกปราณอสูรจับยึด เซนอนพลันตระหนักได้เมื่อสายว่าการป้องกันสัมบูรณ์ของตนถูกทำลายลงชั่วคราว
สามอสูรแห่งต้นกำเนิด
พลังที่แท้จริงของพวกมันย่อมต้องเป็นปราณอสูร
ทว่า เซนอนมองข้ามพื้นฐานและเอาแต่จดจ่ออยู่กับเวทโลหิต
เป็นเพราะแมรีโรสเปิดฉากด้วยทะเลเลือดที่ตราตรึง และไม่เกินจริงไม่นักหากจะบอกว่าเซนอนตกเป็นรอง
“ถ้าอย่างนั้นก็… ลาก่อน”
ดูเหมือนว่าบทลงโทษจะเพียงพอแล้ว
แมรีโรสโบกมือแผ่วเบาพร้อมกับออกจากจุดดังกล่าวโดยไม่เหลียวหลัง อาศัยเลือดที่ท่วมพื้นเป็นสื่อกลางในการเดินทางลงไปยังใต้ดิน
เซนอนมิอาจพ่นลมหายใจไล่ตามไป
ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการแจ้งตำแหน่ง ให้กับมังกรตัวอื่นที่อาจกำลังออกไล่ล่าตน
สิ่งเดียวที่มันทำได้ในตอนนี้ก็คือ ตัดพ้อถึงการตัดสินใจอันโง่เขลาของตน ความหยิ่งทะนงที่จะรักษาปีกหนึ่งข้างกลับลงเอยด้วยการสูญเสียปีกทั้งสองข้าง
‘ต้องรีบหนี’
เปรี้ยะ!
ประตูมิติเปิดขึ้นตรงหน้าเซนอน
แน่นอน พิกัดปลายทางย่อมไม่ใช่รังของตน
หากมีใครสามารถแกะรอยพิกัดของรังได้ มันคงถึงคราวจบเห่
คงยื้อเวลาได้อีกสักพัก
การแกะรอยผ่านประตูมิติ อาจต้องใช้เวลาราวสิบหรือร้อยปีกว่าจะหามันพบ
และเมื่อถึงตอนนั้น โอกาสตายของเราจะมีมากกว่าโอกาสรอด… แต่สำหรับเซนอนที่สูญเสียปีก ไม่มีทางเลือกใดดีกว่านี้อีกแล้ว
‘ถ้ารอดจากการไล่ล่าและหนีไปยังทวีปตะวันออก เรายังพอมีโอกาสรอดอยู่ไหม…’
เซนอนที่กำลังพุ่งเข้าไปในประตูมิติ มีอันต้องชะงักกลางคัน
ฉึบ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน ประตูมิติถูกผ่าครึ่ง
เซนอนสามารถระบุตัวตนของดาบที่ใช้ฟันประตูมิติได้ทันที
ดาบที่สร้างจากซากของบิดา
> นี่เจ้า…!?
เซนอนพลันตกตะลึง
พิกัดของซากบิดาที่มันสัมผัสถึงหลังจากลืมตาตื่น ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่แปรเปลี่ยน
พิกัดดังกล่าวอยู่บนพื้นที่ที่มนุษย์เรียกว่ากรุงไรน์ฮาร์ท เมืองหลวงของจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์
ทว่า สัญญาณใหม่ของบิดาที่มันไม่เคยสัมผัสถึงมาก่อน ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหัน
ตัวตนของสิ่งนั้นคือ <ดาบกูเซล>
ดาบที่ถือโดยอริยดาบบีบัน
“นับแต่นี้เป็นต้นไป หอแห่งปัญญาจะคอยดูแลความปลอดภัยของเจ้าเอง”
ดาบที่สามารถตัดทุกสรรพสิ่ง
คำพูดของบีบันผู้ผ่าประตูมิติซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีของเซนอน ฟังดูใกล้เคียงกับคำสั่งมากกว่าประโยคบอกเล่า
มนุษย์… ริอ่านสั่งมังกร?
ชื่อของหอคอยมีน้ำหนักมากเสียจน เซนอนไม่กล้ามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
ดวงตาที่สั่นเทาของเซนอนถูกตรึงไว้บนแผ่นหลังบีบัน
มนุษย์ผู้ครอบครองความน่าเกรงขามเกินขีดจำกัดสายพันธุ์
นักล่ามังกรฮายาเตะทำเพียงเฝ้ามองเซนอนโดยไม่เปิดปาก
“เจ้าควรเอาตัวรอดโดยการไปอยู่ที่หอคอย มากกว่าจะถูกญาติพี่น้องตัวเองกินที่นี่”
ลำดับสอง ฟรอนซาลล์โน้มน้าวเซนอนที่แสดงท่าทีลังเล
เป้าหมายของหอแห่งปัญญาคือการยับยั้งภัยพิบัติจากฝีมือมังกร
พวกมันย่อมไม่อยากให้เซนอนปะทะกับมังกรตัวอื่นจนทวีปถูกทำลาย และไม่อยากให้มังกรที่กินเซนอนแข็งแกร่งไปกว่าเดิม
“เหลือเวลาไม่มากแล้ว”
หลังจากตรวจสอบเรดาร์มังกร ลาร์ดวูล์ฟเร่งเร้าเซนอนอีกครั้ง
> …ตกลง
เซนอนเลิกต่อต้าน
แทนที่จะตายเยี่ยงสุนัขที่นี่ มันเลือกหนีไปพร้อมกับสภาหอคอยและมองหาโอกาสอันริบหรี่
ทว่า สถานการณ์กลับไม่ดำเนินไปตามที่ต้องการ
เปรี้ยะ!
“…!?”
> …!!
ทันใดนั้น ประตูมิติบานใหม่กำลังเปิดออก
ใครบางคนสามารถระบุพิกัดของจุดเกิดเหตุและพยายามเคลื่อนย้ายตัวเองมา
“ฮึม!”
ดาบของบีบันฟันประตูมิติจนเกิดรอยผ่าเนียนกริบ
แต่ปัญหาก็คือ
เปรี้ยะ!
ประตูมิติบานใหม่เปิดอีกครั้งหลังจากถูกตัด
คราวนี้สี่บานพร้อมกัน
แถมยังเป็นตำแหน่งที่แตกต่าง
พวกมันรายล้อมประตูมิติที่ถูกฟันขาดเมื่อครู่
“ดื้อด้านซะจริง…!”
บีบันจิ๊ปากพลางวาดดาบเป็นวงพระจันทร์
ประตูมิติทั้งสี่ถูกตัดขาดและสลายไปแทบจะในเวลาเดียวกัน
ทันใดนั้นเอง
เปรี้ยะเปรี้ยะเปรี้ยะเปรี้ยะเปรี้ยะ!!
คราวนี้มีมากถึงสามสิบสองบาน
รอบประตูทั้งสี่บานที่เพิ่งถูกฟันไป มีประตูใหม่เกิดขึ้นแปดบานรอบทิศ ด้วยความเร็วและความแม่นยำอันน่าทึ่ง
“ใครมันขยันนักหนา…!”
ท้ายที่สุด บีบันปลดปล่อยวิชาดาบไร้เทียมทาน
หลังจากฟันประตูมิติใหม่ทิ้งจนหมด มันส่งสัญญาณให้พวกพ้องผ่านสายตา
เป็นสัญญาณบอกให้พาเซนอนกลับหอคอย
ทว่า มานาที่จำเป็นในการเทเลพอร์ตมังกร ไม่เท่ากับมานาที่ใช้ในการเทเลพอร์ตมนุษย์
ประตูมิติใหม่ก่อตัวขึ้นอีกหกสิบสี่บาน ก่อนที่เวทมนตร์ของฟรอนซาลล์กับเจสสิก้าจะเสร็จสมบูรณ์
ในคราวนี้ มีเสียงดังออกจากประตูมิติ
ถือเป็นเหตุการณ์อันน่าทึ่งเมื่ออีกฝ่ายสามารถเปิดประตูมิติหกสิบสี่บานได้พร้อมกัน แถมยังถ่ายทอดเสียงมาจากทุกบาน
“ข้าไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่”
“…!”
ใบหน้าของเหล่าสภาหอคอยพลันแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงที่ดังกังวานจากทุกสารทิศ
นั่นเพราะพวกมันรู้จักเจ้าของเสียงเป็นอย่างดี
บราฮัม·เฮชวาล
อัครสาวกของเทพโอเวอร์เกียร์ มหาจอมเวทในตำนาน
และทายาทเบริอาเช่
เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะไม่รู้จักเสียงของหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดของโลก
“บ้าน่า…”
นี่พวกตนถูกคนของกริดขัดจังหวะ?
เจสสิก้ากล่าวกับบีบันที่ยืนฉงน
“อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป… พิจารณาจากแนวโน้ม มีโอกาสสูงที่เขาจะมาถึงที่นี่ก่อนเวทมนตร์ของเราจะเสร็จ”
และนั่นจะทำให้ตัวตนของสภาหอคอยถูกเปิดเผย…
สายตาของเหล่าสภาที่สัมผัสถึงความวิกฤติ ต่างหันไปทางฮายาเตะโดยพร้อมเพรียง
“พวกเราต้องถอนตัวก่อน”
ฮายาเตะคิดไวทำไว
> แล้วข้าล่ะ…?
เซนอนตั้งคำถาม แต่ก็เปล่าประโยชน์
สภาหอคอยล้วนหายตัวไปจากจุดเกิดเหตุด้วยเวทเทเลพอร์ต
เซนอนที่ไม่มีทางเลือก ทำการเปิดประตูมิติอีกครั้ง
แต่แน่นอน บราฮัมได้ปรากฏตัวออกจากหนึ่งในหกสิบสี่ประตูมิติที่สร้างไว้ก่อน
อีกหนึ่งปัญหาก็คือ การไหลเวียนพลังเวทของเซนอนไม่ราบรื่นนัก แถมบราฮัมยังสามารถประตูมิติได้ด้วยความเร็วใกล้เคียงมังกร
“…?”
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ สีหน้าบราฮัมพลันแข็งทื่อ
มันรีบรุดหน้ามาที่นี่หลังจากจับสัญญาณของแมรีโรส แต่กลับได้พบมังกรแทน
มันสับสนจนมิอาจแสดงอารมณ์ได้ถูกต้องนัก
> …
สีหน้าของเซนอนที่กำลังหวาดกลัวเหล่าผู้ไล่ล่าซึ่งเข้ามาใกล้มากแล้ว ก็กำลังกระอักกระอ่วนไม่ต่างกัน
ท่ามกลางความเงียบอันแสนอึดอัด
โฮกกกกกกก!!
เสียงแหกปากจากผู้ไล่ล่า ดังมาจากท้องฟ้าในจุดห่างไกล
‘จบสิ้นแล้ว’
เหล่าสภาที่เพิ่งเทเลพอร์ตกลับถึงหอคอย ตรวจสอบเรดาร์มังกรด้วยหัวใจดำดิ่ง
นับรวมเซนอนไปด้วย จำนวนมังกรที่ปรากฏบนเรดาร์มีมากถึงสี่ตัว
Comments
Post a Comment