จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,587



“กลับไปอีกครั้งเถอะ”


ขณะถือเรดาร์มังกรซึ่งกำลังส่งสัญญาณกะพริบ บีบันที่จดจ้องหน้าปัดด้วยสีหน้าเหม่อลอย ลุกพรวดจากที่นั่งพร้อมกับกล่าว


ทุกครั้งที่มันหายใจเข้าออก มวลอากาศที่กระจัดกระจายจะก่อตัวเป็นคมดาบ เกิดเป็นปราณไร้รูปจำนวนมหาศาลโดยไม่รู้ตัว


ในวินาทีนี้ หากมีความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย มันสามารถฉีกทำลายทุกสิ่งโดยรอบ


“ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอวดหรอกนะ แต่อันที่จริง ข้ารู้จักบราฮัม เจ้านั่นต้องจำหน้าข้าได้แน่”


“ไม่ต้องสารภาพก็รู้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ได้ผูกขาดการทำความสะอาดหอคอยไว้แต่เพียงผู้เดียว”


“…บางที บราฮัมคงตระหนักถึงการดำรงอยู่ของหอคอยได้เลือนราง แต่เขาฉลาดและปากหนักเหมือนพวกสุภาพบุรุษ จึงไม่ได้พูดออกมา”


“บราฮัมไม่ใช่สุภาพบุรุษแน่นอน”


“นั่นสินะ มหาจอมเวทระดับนั้นน่าจะเป็นคนบ้ามากกว่า”


“เชื้อสายของเขาไม่ดีเท่าไร… แม้ว่าแวมไพร์จะเปลี่ยนนิสัยไปมากภายใต้อิทธิพลของกริด แต่คิดว่าสันดานเก่าจะเปลี่ยนกันง่ายๆ หรือ?”


“…”


มังกรสี่ตัว


อาจเป็นเพราะสถานการณ์ปัจจุบันกำลังฉุกเฉินถึงขีดสุด บรรยากาศการสนทนาของเหล่าสภาจึงสับสนวุ่นวาย หัวใจเต้นเบากว่าหนุ่มโสดในฤดูใบไม้ผลิเพียงเล็กน้อย เกือบจะอยู่ในระดับที่แตกตื่น


บีบันที่ถูกขัดคอ ขมวดคิ้วเนื่องจากเริ่มสัมผัสถึงขีดจำกัดความอดทน


“เชื่อฉันสักครั้ง… ไม่สิ เชื่อในตัวกริด แม้บราฮัมจะเห็นพวกเราและรับรู้การมีอยู่ของหอคอย แต่กริดจะทำให้อีกฝ่ายปิดปากเงียบได้”


“ไม่มีเหตุผลรองรับเลยสักนิด”


ลาร์ดวูล์ฟปัดตกแนวคิดของบีบันทันที


“เรื่องนี้ไม่คุ้มเสี่ยง”


เจสสิก้าช่วยเสริม


“ปัญหาในตอนนี้ก็คือ ต่อให้พวกเราออกไปกันทุกคน ก็ใช่ว่าจะช่วยเซนอนกลับมาได้”


มังกรสามตัวรุดหน้ามายังจุดเกิดเหตุ ปัจจุบันคงล้อมเซนอนไว้หมดแล้ว


อาจไม่มีมังกรระดับสูง แต่ก็แข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับเซนอน ซึ่งสูญเสียปีกทั้งสองข้างไปกับการต่อสู้อันเปล่าประโยชน์กับราชินีโลหิต


ก่อนที่สภาหอคอยจะได้ลงมือ เซนอนคงถูกกินเรียบร้อยแล้ว


“ที่นั่นอาจให้กำเนิดมังกรระดับสูงตัวใหม่ ไม่มีทางที่มังกรอื่นจะนิ่งเฉย”


“คงมีมังกรหลายตัวกำลังจับตามองจุดเกิดเหตุ หากพวกมันเห็นว่าเรามีเทคโนโลยีสำหรับตรวจจับ หลังจากนี้มังกรจะซ่อนร่องรอยและตรวจจับได้ยากขึ้น”


คำอธิบายเพิ่มเติมถาโถมอย่างต่อเนื่อง


เหล่าสภาหอคอยพยายามอย่างหนักในการโน้มน้าวให้บีบันยอมเข้าใจ


อาจเป็นการเสียเวลาเปล่า แต่ก็เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อเตือนสติบีบัน


“แล้วทำไมถึงมีมังกรโผล่ออกมาสามตัว? เป็นไปได้ด้วยหรือ? ไหนว่ามังกรระแวงกันเอง ทำไมพวกมันถึงร่วมมือกัน?”


“ปัญหาอยู่ที่ สถานที่และสิ่งเร้า”


การอธิบายกินเวลานานกว่าที่สภาหอคอยคาดคิด


“เรย์ดันเป็นดินแดนที่เบริอาเช่เคยเป็นถิ่นของเบริอาเช่ในอดีต ใต้ดินรอบๆ เต็มไปด้วยเมืองแวมไพร์ หลายฝ่ายจึงมองว่าอาจเป็นดินแดนที่มีคุณค่าทางภูมิศาสตร์สูง อย่างเช่น อาจเป็นดินแดนที่ติดต่อกับมิติต่างๆ โดยตรง”


มิติ


คำศัพท์ที่สภาหอคอยมักใช้เอ่ยถึง ‘สถานที่ที่มิอาจระบุตัวตน’ หรือรังมังกร


“ยิ่งไปกว่านั้น ราชินีโลหิตยังสร้างผลงานที่ตราตรึง แม้อีกฝ่ายจะเป็นมังกรระดับต่ำ แต่ชัยชนะก็เกิดขึ้นในพริบตา จึงเป็นเหตุการณ์ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ”


แมรีโรสใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีในการเด็ดปีกทั้งสองข้างของเซนอน


กล่าวคือ พลังของเธอเหนือกว่าสิ่งที่ประวัติศาสตร์กล่าวขานไว้มาก จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า คำสาปที่เธอได้รับ คือสิ่งจำเป็นเพื่อให้โลกนี้ยังรักษาความสมดุลไว้ได้


“ปัจจุบัน เรย์ดันกำลังได้รับความสนใจในระดับที่พวกเราคาดไม่ถึง”


“ที่นั่นกำลังจะกลายเป็นงานเลี้ยงของมังกร หากพวกเราย้อนกลับไป ก็ไม่ต่างอะไรกับการนำตัวเองไปเสิร์ฟถึงที่ หอคอยซึ่งมีประวัติศาสตร์กว่าหนึ่งพันปีจะดำเนินมาถึงจุดจบ”


“บัดซบ! ทำไมถึงเพิ่งมาบอกเอาป่านนี้!? ถ้าข้ารู้ตั้งแต่แรก คงใช้กำลังพาเซนอนกลับมาแล้ว”


เซนอนเป็นมังกรระดับต่ำ


ไม่เพียงจะได้รับผลกระทบจากการใช้วาจามังกรอย่างต่อเนื่อง มันยังสูญเสียปีกทั้งสองข้าง อยู่ในระดับที่สภาหอคอยสามารถทำให้สลบและใช้กำลังพากลับ


หากนำกลับมาได้แบบยังมีชีวิต นั่นจะเป็นประโยชน์กับสภาหอคอยมาก แต่ท้ายที่สุด ภารกิจกลับล้มเหลว และนั่นทำให้บีบันเจ็บปวดหัวใจ


“แล้วพวกเราจะยืนดูอยู่เฉยๆ หรือ?”


เค็นที่ยืนกอดอกและปิดปากเงียบมาตลอด พูดแทรกขึ้นมา


มันคือหนึ่งในสามสุดยอดอัจฉริยะแห่งสภาหอคอย


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะ ‘เจ้าแห่งการทะลวง’ เค็นสามารถโจมตีทะลุการป้องกันสัมบูรณ์และเกล็ดหนาของมังกรได้ง่ายดาย สร้างแรงปะทะภายในที่หนักหน่วง หากเล็งโจมตีใส่หัวใจมังกรในมุมและองศาที่ถูกต้อง ต่อให้เป็นมังกรระดับสูงก็ยังต้องชะงักไปชั่วครู่


มันไม่ชอบสถานการณ์ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองโดยไม่สามารถลงมือ


ฮายาเตะทำให้บรรยากาศสงบลง


“เรายังมีโอกาส”


บีบันและเค็นกระดิกหูพร้อมกัน


ในทางกลับกัน สีหน้าของสภาหอคอยคนอื่นไม่สู้ดีนัก


เพราะพวกมันทราบดี โอกาสที่ว่าของฮายาเตะหมายถึงสิ่งใด


***


“ติดกับจนได้”


บราฮัมเผยสีหน้าแข็งทื่อสักอยู่สักพักก่อนจะเปิดปากพูด ความหงุดหงิดทำให้ใบหน้าอันสง่างามดูคมชัดและลงตัว


“ก่อความวุ่นวายเพื่อล่อให้ข้าคนนี้ตกอยู่ในดงมังกร… สมกับที่เป็นแมรีโรส สมแล้วที่สืบทอดพลังมาจากท่านแม่”


โฮกกกก!!


เสียงคำรามดังกังวาน


เมื่อตรวจจับด้วยสัมผัสเวทมนตร์ บราฮัมพบว่านั่นเป็นเสียงที่ดังมาจากชั้นบรรยากาศ


กล่าวคือ เจ้าของเสียงมีพลังในระดับที่ใกล้เคียงปาฏิหาริย์


เป็นอีกครั้งที่มันได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตนามว่ามังกร


แต่กลอุบายอันชั่วร้ายของแมรีโรส ที่วางกับดักล่อให้ตนมาอยู่ในดงมังกรนั้นยอดเยี่ยมยิ่งกว่า


> นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็บุตรแห่งเบริอาเช่


เซนอนกล่าวเสียงเรียบด้วยความสิ้นหวัง


นั่นเพราะบริเวณโดยรอบ ถูกเหล่าพี่น้องของมันล้อมไว้ด้วยกระแสพลังเวทจำนวนมาก จนเกิดเป็นห้วงมิติเวทมนตร์หนาสองสามชั้น


หมดสิทธิ์หลบหนีโดยสิ้นเชิง


ทำได้เพียงรอคอยความตาย


จากในสามตัวนั้น ใครจะได้กินเรา?


นั่นคือความสงสัยสุดท้ายของเซนอน


“อย่าเอ่ยชื่อท่านแม่ด้วยปากสวะของเจ้า”


> พยายามยั่วยุข้าเพื่อให้ตายคาที่โดยไม่ต้องทรมาน? ไม่ได้ผลหรอก ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า ความสุขครั้งสุดท้ายในชีวิตข้าคือการได้เฝ้ามองจุดจบอันน่าสมเพชของเจ้า จากนั้น ตัวข้าจะเกิดความกลัวจากก้นบึ้งเมื่อสัมผัสถึงความตายที่มิอาจเลี่ยง


บราฮัมโด่งดังกว่าที่ตัวเองคิด


มังกรเกือบทุกตัวรู้จักมัน


ผู้ที่หารังของทราวก้าพบ ลอบเข้าไป และขโมยสมบัติออกมา


การตรวจพบรังทราวก้า การซ่อนตัวอยู่ในรัง และการขโมยสมบัติออกมา


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ล้วนบ้าบิ่นสิ้นดี


เนื่องจากยังมีชีวิตรอดหลังจากปล้นรังทราวก้าสำเร็จ เซนอนจึงมองว่าบราฮัมคงแข็งแกร่งเป็นรองเพียงแมรีโรส แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนไม่ว่าจะมีพลังแบบใด


“อย่าคิดอะไรเพ้อฝันจะดีกว่า”


ท่าทีของบราฮัมแปลกประหลาดเกินกว่าที่เซนอนจะเข้าใจ


อีกฝ่ายดูเป็นคนหวงแหนชีวิต แต่กลับด่าทอตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าอย่างเทียบไม่ติดด้วยถ้อยคำหยาบคาย


มันมิอาจทำความเข้าใจสามัญสำนึกของอีกฝ่ายได้เลย


‘ช่างเถอะ เลิกโต้เถียงดีกว่า’


เซนอนตัดสินใจปล่อยให้คำสบถของบราฮัมเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา


ใช่แล้ว คำสบถ


ทุกคำที่บราฮัมพ่นออกมาคือคำสบถ


แน่นอน


คนที่กระโดดเข้าหาความตายด้วยตัวเอง


ราวกับถูกบางสิ่งสิงสู่ บราฮัมทำเรื่องโง่ๆ อย่างการส่งตัวเองมาตกอยู่ในวงล้อมมังกรสามตัว


เป็นความซวยในระดับที่ใกล้เคียงกับการถูกฟ้าผ่านับร้อยครั้งในยามแดดออก


คนที่ซวยขนาดนั้น จะทำอะไรได้นอกจากสบถ?


‘เขียว ฟ้า เทา…’


เซนอนที่เพิกเฉยคำสบถของบราฮัม กะเกณฑ์ตัวตนของผู้ไล่ล่าที่ใกล้เข้ามา


ทุกตัวอยู่ในระดับเดียวกับมัน


ทายาทของมังกรระดับสูง


สองตัวเพิ่งโตเต็มวัย หนึ่งตัวมีชีวิตมานานกว่าสามพันปี


และข้อเท็จจริงที่ว่า ตัวที่แก่ที่สุดมีสีเทา ทำให้ความหวังอันริบหรี่ของเซนอนพังทลาย


สีเทา


เป็นลูกครึ่งที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์


เฉกเช่นเซนอน หากเทียบกับสายพันธุ์บริสุทธิ์ มังกรพันธุ์ผสมจะมีลมหายใจเบากว่า เนื่องจากขาดความเด่นชัดของธาตุ


การตระหนักถึงจุดอ่อนของตัวเอง คือพื้นฐานสำคัญในการเอาชีวิตรอด


มังกรสีเทาที่มีอายุกว่าสามพันปี?


หมายความว่า ท่ามกลางศึกกลางเวหาที่ยากลำบากนับไม่ถ้วน อีกฝ่ายสามารถสั่งสมภูมิปัญญาได้มากมาย หรือไม่ก็โชคดีได้กินพ่อแม่ตัวเอง


หลังจากกินเซนอนเข้าไป มีโอกาสสูงมากที่คุณสมบัติธาตุของมันจะถูกปรับปรุงจนกลายเป็นมังกรระดับสูง บางทีอาจกลายเป็นมังกรศิลาตัวที่สองในอนาคตอันใกล้


‘มังกรแบบนั้นไม่มีทางประมาท’


ราวกับต้องการจะพิสูจน์ว่าคำพูดเซนอนถูกต้อง


วาบ!


ดวงดาวขนาดมหึมาสว่างขึ้นที่ปลายขอบฟ้า


ประหนึ่งอุกกาบาตก็มิปาน


โฮกกกกกก!!


ตัวตนของสิ่งที่พุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับร้องคำราม คือลำแสงสีเทา


ลมหายใจมังกรเทา


มันคิดจะจบทุกสิ่งโดยเร็ว เพราะทราบว่าที่นี่กำลังดึงดูดความสนใจจากทุกฝ่าย


คล้ายกับอีกสองตัวก็คิดแบบเดียวกัน พวกมันลงมือในอีกหนึ่งจังหวะถัดมา


ลมหายใจสองเส้นพุ่งลงมาจากด้านหลัง


‘การขัดขืนรังแต่จะสร้างความเจ็บปวด’


เซนอนไม่มีความหวังมาตั้งแต่ต้น มันไม่คิดต่อต้าน ทำเพียงหลับตาลงและรอรับความตายแต่โดยดี


จนกระทั่งมันได้ยินเสียง


“จะมัวแต่สวดวิงวอนไปถึงไหน?”


เสียงที่ปราศจากความกลัวของบราฮัม


ตรงกันข้าม เสียงดังกล่าวเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ


> …!!


ดวงตาของเซนอนที่ลืมขึ้นอีกครั้ง พลันเบิกกว้างทันที


นั่นเพราะมันพบว่า ส่วนหนึ่งของห้วงมิติเวทมนตร์สามชั้นเริ่มพังถล่ม


พูดว่า ‘ทำลาย’ คงไม่ถูกต้องนัก


ใกล้เคียงกับการลงมือรื้อถอน หลังจากทำความเข้าใจโครงสร้างเชิงเวทมนตร์อย่างทะลุปรุโปร่ง


นี่มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้


หากเซนอนไม่ยอมถอดใจ และหากมีเวลามากพอ มันเองก็สามารถผ่าห้วงมิติเวทมนตร์สามชั้นได้เช่นกัน


เพราะมังกรคือเจ้าแห่งเวทมนตร์


สิ่งที่น่าตกตะลึงคือความเร็ว


ความเร็วที่บราฮัมซึ่งเป็นแค่แวมไพร์ ไม่ใช่มังกร ใช้ในการสลายห้วงมิติเวทมนตร์ สูงกว่าที่เซนอนคำนวณไว้ถึงสามเท่า


> องค์ความรู้ที่แมรีโรสสืบทอดมา… เป็นเพียงบางส่วน?


สามอสูรต้นกำเนิด


ความรู้ของพวกมัน ซึ่งถือกำเนิดช้ากว่าเทพต้นกำเนิดและมังกรโบราณเพียงเล็กน้อย กว้างขวางยิ่งกว่ามหาสมุทรทั้งโลกรวมกัน


การนำมาใช้ประโยชน์นั้นเป็นอีกเรื่อง แต่ในแง่ศักยภาพทางปัญญา สามอสูรต้นกำเนิดย่อมมีมากกว่ามังกรส่วนใหญ่


และทายาทของตัวตนดังกล่าวกำลังอยู่เบื้องหน้าตน


แววตาของเซนอนที่จ้องมองบราฮัมเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความไม่เชื่อใจมลายหาย เกิดเป็นความหวังอย่างเลือนราง


บึ้มมมมมมม!!


ลมหายใจสามเส้นปะทะเข้ากับห้วงมิติเวทมนตร์เข้าอย่างจังจนแหลกเป็นเถ้าถ่าน


บราฮัมและเซนอนปรากฏตัวอีกครั้งในตำแหน่งที่ไกลจากจุดเกิดเหตุมาก


แม้จะไม่มีเวลาเปิดประตูมิติ แต่ก็ยังพอจะเทเลพอร์ตระยะสั้นได้


อย่างไรก็ดี พวกมันมิอาจรอดพ้นจากการโจมตีโดยสมบูรณ์ ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงจุดตาย


“ส่งมาให้ข้า”


บราฮัมที่ซ่อมแซมบาเรียคุ้มกายที่แตกกระจายของตน เหยียดแขนมาหาเซนอน


สายเลือดของเจ้านี่ไม่ขี้โกงไปหน่อยหรือ? ทั้งที่เปื้อนเลือดและพังยับเยิน แต่มือของมันกลับช่างงดงาม


“หัวใจของเจ้า”


บราฮัมตระหนักได้ชัดเจนว่าเซนอนโคจรพลังเวทได้ช้ากว่าตน จึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บหนักมากกว่าแค่ถูกเด็ดปีก


“ข้าอยู่ในสภาพดีกว่าเจ้า”


แต่ไหนแต่ไร บราฮัมไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับเซนอน


“แทนที่จะตายอย่างเปล่าประโยชน์ สู้ลากศัตรูที่บีบคั้นให้เจ้าต้องจนตรอก ลงนรกไปพร้อมกันไม่ดีกว่าหรือ?”


บราฮัมไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกและชีวิตของเซนอน สนใจเพียงประสิทธิภาพสูงสุด


> ความโอหังช่างสูงเสียดฟ้า เจ้าคิดว่าตัวเองจะเอาชนะมังกร เพียงเพราะได้หัวใจของข้าไปอย่างนั้นหรือ?


ในเวลาเดียวกัน มังกรสามตัวที่บินมาถึงจุดเกิดเหตุต่างพากันพ่นลมหายใจ


พวกมันอาจเป็นคู่แข่งที่คอยระแวดระวังกันเองตลอดเวลา แต่อย่างน้อยในวินาทีนี้ ทั้งสามล้วนสามัคคีกันเย้ยหยันบราฮัม


บราฮัมเอียงคอสงสัย


“ข้าไม่เคยบอกว่าจะสู้กับเจ้าพวกนี้”


> …?


เซนอนหมดคำจะกล่าวทันที


เมื่อครู่ อีกฝ่ายเพิ่งโน้มน้าวให้ตนมอบหัวใจเพื่อจะลากมังกรที่เหลือลงนรกไปพร้อมกัน แต่ยามนี้กลับพลิกลิ้นอย่างหน้าไม่อาย


บราฮัมอธิบายเสริม


“ข้าจะเชือดแมรีโรสต่างหาก นังนั่งไม่ใช่หรือที่ทำให้เจ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้?”


> …


นั่นก็ใช่


แต่เซนอนยังคงกระอักกระอ่วนและขื่นขมด้วยเหตุผลบางประการ


เป็นความหงุดหงิดยิ่งกว่าเมื่อครั้งสภาหอคอยหลอกว่าจะช่วย แต่สุดท้ายก็เผ่นหนีไปก่อน


บรรยากาศอันน่าอึดอัดเกิดขึ้นเพียงไม่นาน


เป็นไปตามที่เซนอนคาด เหล่ามังกรไม่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์


พวกมันรุมโจมตีเซนอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว ไม่มีใครสนใจบราฮัมแม้แต่น้อย เปรียบดังแมลงข้างทางที่ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ


‘นึกแล้วเชียว’


ไม่มีช่องว่างให้เข้าไปแทรก


บราฮัมที่ส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง ตัดสินใจเปิดประตูมิติเพื่อออกจากจุดเกิดเหตุ


ทันใดนั้นเอง


> จะไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้


คำประกาศิต


กฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุน


ประตูมิติของบราฮัมปิดลงโดยมิอาจต่อต้าน


“…”


บราฮัมปิดปากสนิท


ความเย็นเยียบกัดกินไปถึงแผ่นหลัง มันหวนนึกถึงฝันร้ายที่เคยต้องเผชิญ


มังกรเพลิงทราวก้า


บราฮัมนึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย พลังที่สามารถก้าวข้ามสามัญสำนึกทั้งหมดของมนุษย์


มีบางตัวตนกำลังซ่อนอยู่ที่ใดสักแห่งไม่ห่างออกไป


ตัวตนที่มิอาจสัมผัสถึง แต่สามารถปลุกความทรงจำอันเลวร้ายจากก้นบึ้งให้ตื่นขึ้น


‘ไม่รอดแน่’


ทุกคนที่นี่ รวมถึงตัวมันเอง กำลังจะหายไปในอีกไม่ช้า


______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

  1. กริดมาซักทีเถอะขอร้องงงงง~

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00